ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic]All of Couple B.A.P EXO SJ

    ลำดับตอนที่ #5 : [BangDae] BAP ร้านหนังสือสื่อรัก นิยายรักสื่อหัวใจ 4

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 730
      1
      16 ต.ค. 55

    :) Shalunla




    B.A.P ร้านหนังสือสื่อรัก นิยายรักสื่อหัวใจ






    “เรื่องมันมีอยู่ว่า…….

     

     

    ย้อนไปสมัยยงกุกและแดฮยอนเด็กๆ 1

     

     

    ในเย็นของวันหนึ่งขณะยงกุกกำลังเดินกลับบ้านของตนอยู่นั้น ก็ได้พบพ่อแม่ลูกครอบครัวหนึ่งกำลังขนของลงจากรถ ซึ่งเขาน่าจะเพิ่งย้ายบ้านมาใหม่ และบ้านที่พวกเขาได้ย้ายมานั้นก็คือบ้านหลังข้างๆยงกุกนั่นเอง แต่สิ่งที่ทำให้ยงกุกสะดุดตาแล้วต้องหยุดมอง นั่นก็คือเด็ก ที่อายุน่าจะราวๆ  6 ขวบ เด็กคนนั้นก็มีทุกอย่างเหมือนเด็กทั่วไป แต่เขาก็ไม่รู้ทำไมสายตาของเขาถูกสะกดให้มองเด็กคนนั้นตาไม่กระพริบเช่นกัน

     

     

    ยงกุกมองเด็กคนนั้นอยู่นานจนอีกฝ่ายเริ่มที่จะรู้ตัว และหันมามองยงกุกเช่นกัน เด็กน้อยพยายามส่งยิ้มหวานให้ อย่างเป็นมิตร เพียงเท่านั้นยงกุกก็หน้าแดงและรู้สึกหัวใจเต้นเร็วผิดจังหวะ ยงกุกจึงวิ่งหนีเข้าบ้านไปทันที ทิ้งไว้แต่เด็กน้อยที่ยืนงงอยู่หน้าบ้าน ว่าตนทำอะไรผิด

     

     

    “แม่ครับ มีคนย้ายบ้านมาใหม่หรอครับ?”

     

     

    เมื่อเดินเข้ามาในบ้าน ยงกุกก็รีบเดินไปหาแม่ของตน เพื่อที่จะถามให้แน่ใจอีกครั้ง

     

     

    “ใช่แล้วจ่ะ อ่ะ นี่ ฝากเอาขนมนี่ไปให้พวกเขาหน่อยนะ”

     

     

    พูดจบคุณแม่ของยงกุกก็หยิบจานขนมมาให้ ยงกุกรับไว้อย่างงงๆ อีกใจก็อยากไปดูหน้าเด็กนั่นอีกครั้งชัดๆ แต่อีกใจก็กลัวกับสิ่งผิดปกติแบบเมื่อกี้นี้เกิดขึ้นอีก และสุดท้ายยงกุกก็ได้ตัดสินใจเดินไปหาอีกฝ่ายที่บ้าน

     

     

    และในขณะที่เขากำลังจะกดออดหน้าบ้านของอีกฝ่าย ก็ได้ยินเหมือนเสียงคนร้องไห้อยู่ข้างใน เขาจึงตัดสินใจผลักประตูเข้าไปโดยที่ไม่กดออดใดๆทั้งสิ้น และเมื่อผลักประตูเข้าไปแล้ว ยงกุกก็ได้รู้ว่าเสียงร้องไห้ที่ตนได้ยินนั้น ความจริงคือเสียงร้องไห้ของเด็กที่ทำให้หัวใจยงกุกเต้นแรงนั้นเอง เขากำลังนั่งร้องไห้อยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่หน้าบ้าน ยงกุกตัดสินใจเดินเข้าไป หวังที่จะปลอบอีกฝ่าย

     

     

    “น่ะ นี่ เธอ เธอร้องไห้ทำไม?”

     

     

    “ฮะ ฮึก กะ ก็ ก็พี่วิ่งหนีผม ฮะ ฮึก ผมแค่ต้องการมีเพื่อน ฮึก ในขณะที่มาอยู่บ้านใหม่ที่นี่ ฮึก และหวังว่าจะสร้างมิตร ฮึก ด้วยการยิ้มให้ ฮึก แต่พี่กลับวิ่งหนีผม ฮึก ฮือๆๆๆๆๆ ”

     

     

    ยงกุกตกใจเล็กน้อย ที่รู้ว่าต้นเหตุที่ทำให้ร่างบางคนนี้ร้องไห้มาจากเขาที่วิ่งหนีร่างบางเข้าบ้านไปเมื่อกี้นี้ และที่ทำให้เขาตกใจยิ่งกว่านั้นก็คือ การแทนตัวเองด้วยคำว่า ผมของร่างบาง ตอนแรกเขาคิดว่าร่างบางคนนี้เป็นผู้หญิงเสียอีก แต่เขาก็พยายามไม่แสดงความตกใจออกมามากนัก ก่อนจะหาข้อแก้ตัว เพื่ออธิบายให้อีกฝ่ายหยุดร้องไห้

     

     

    “นะ นี่ ฉันไม่ได้วิ่งหนีนายนะ ที่ฉันวิ่งเข้าไปในบ้าน เพื่อที่จะเอากระเป๋าไปเก็บแล้วมาเล่นกับนายต่างหากล่ะ”

     

     

    ยงกุกพยายามที่จะเรียกอีกฝ่ายว่า นายแทนคำว่า เธอ แต่มันก็ขัดปากเล็กน้อย ที่ต้องมาเรียกเด็กน้อยน่ารักคนนี้ว่านาย และคำพูดนั้น ก็ทำให้ร่างบางเริ่มหยุดร้องไห้ แล้วเงยหน้าขึ้นมามองยงกุก ก่อนที่จะเผยรอยยิ้มหวานส่งให้อีกฝ่ายอย่างดีใจ พร้อมทั้งโผเข้ากอดยงกุกทันที

     

     

    หลังจากที่ร่างบางส่งยิ้มและกอดยงกุกนั้น เขาก็รู้สึกได้ว่าใบหน้าของเขาเริ่มแดง และหัวใจเต้นแรงอีกแล้ว เขาแอบกลัวว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของเขา แต่ตอนนี้เขาไม่สนอะไรอีกแล้ว นอกจากกอดปลอบอีกฝ่ายคืน

     

     

    “อย่าร้องไห้นะเด็กน้อยของพี่ ต่อจากนี้พี่จะมาเล่นกับนายทุกวัน พี่สัญญา”

     

     

    “พี่สัญญาแล้วนะ”

     

     

    “อื้ม”

     

     

    หลังจากที่ให้สัญญากันเรียบร้อยแล้ว ยงกุกก็ก้มใบหน้าลงให้ใบหน้าของเขาเข้าใกล้ใบหน้าหวานของอีกฝ่ายมากขึ้น จนริมฝีปากของทั้งคู่ประกบกัน ถือเป็นคำสัญญาที่ทั้งสองได้มีให้กันในครั้งนี้ ทั้งคู่จูบกันอยู่อย่างนั้นสักพัก แดฮยอนก็เป็นฝ่ายผละออกหลังจากที่เริ่มรู้สึกตัว ว่ากำลังทำอะไรอยู่ด้วยความอาย ยงกุกได้แต่มองท่าทางของอีกฝ่ายอย่างเอ็นดู

     

     

    “ว่าแต่นายชื่ออะไรหรอ? พี่ชื่อยงกุกนะ บัง ยงกุก”

     

     

    “ผมจอง แดฮยอนครับ”

     

     

    “อ่ะนี่ พี่เอาขนมมาให้ด้วย”

     

     

    “อร่อยจังครับ แม่พี่เป็นคนทำหรอ?”

     

     

    “อื้ม”

     

     

    ทั้งคู่นั่งกินขนมกันอยู่อย่างนั้น จนพระอาทิตย์เริ่มตกดิน ขนมก็หมดเป็นที่เรียบร้อย โดยที่ยงกุกลืมอะไรไปบางอย่างเสียสนิท

     

     

    “ไอ้ลูกบ้ายงกุก! แม่บอกให้เอาไปให้พวกเขา แต่กลับมานั่งกินกับลูกชายเขาเฉยเลย ไอ้ลูกบ้า แม่บอกอะไรล่ะไม่ฟังให้ดีๆ กลับมาบ้านเดี๋ยวนี้ ที่บ้านก็มีให้กิน ไปแย่งเขากินทำไมห๊ะ!! แม่ขอโทษนะจ๊ะ เดี๋ยวแม่เอามาให้ใหม่นะ”

     

     

    หลังจากที่ทั้งคู่นั่งเล่นกันอยู่อย่างนั้นจนเย็น เสียงแม่ของยงกุกก็ดังลั่นบ้านอย่างโมโหและบ่นลูกของตัวเองไม่หยุด ที่ไปแย่งขนมที่เขาอุตส่าห์ทำแล้วให้ยงกุกเอาไปให้เพื่อนบ้านที่เพิ่งย้ายมาใหม่ แต่ยงกุกกลับมานั่งกินกับลูกชายของเขาซะหมด หลังจากที่บ่นยงกุกเสร็จ ก็ไม่ลืมที่จะหันมาบอกขอโทษแดฮยอนที่นั่งขำยงกุกอยู่ให้ต้นไม้ ก่อนที่จะลากหูยงกุกให้กลับเข้าไปในบ้าน

     

     

    “เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่มาเล่นด้วยใหม่นะแดฮยอน”

     

     

    “นี่อย่ามาทำเป็นสนิทลูกเขาเลยน่า แกน่ะเข้าบ้านมาเลย!

     

     

    “โอ๊ยๆๆๆ แม่ผมเจ็บนะ”

     

     

    ในคืนของวันนั้น

     

     

    “นี่ๆ แดฮยอน นายหลับหรือยังน่ะ”

     

     

    ยงกุกตะโกนข้ามไปหาแดฮยอนอีกฝั่ง เพราะเนื่องจากความบังเอิญที่ทั้งสอง ได้นอนห้องฝั่งเดียวกัน และตรงระเบียงก็ห่างกันไม่ถึง 1 เมตรด้วยซ้ำ

     

     

    “ครับ ยังไม่ได้นอนครับ มีอะไรหรอ”

     

     

    “พี่ไปหานายได้ไหม?”

     

     

    “อ่าครับ”

     

     

    เพียงแค่แดฮยอนตอบมาเพียงเท่านั้น ยงกุกก็ไม่รอช้าที่จะปีนข้ามไปหาแดฮยอนที่ฝั่งตรงข้ามทันที

     

    “มีอะไรหรือเปล่าครับ?”

     

    “พี่กลัวนายเหงาน่ะ เลยจะมาอยู่เป็นเพื่อน”

     

    “งั้นดีเล้ยยยยยย”

     

     

    แดฮยอนพูดออกมาอย่างดีอกดีใจ เพราะตลอด 6 ปี ที่เขาเกิดมา เขาแทบจะไม่มีเพื่อนเลยก็ว่าได้ เขาเองก็ไม่รู้ทำไมถึงไม่มีใครที่คิดจะมาเล่นกับเขา เขาเองก็เหงามาตลอด อาจจะเป็นเพราะ เขาเป็นคนที่พูดไม่ค่อยเก่งเหมือนคนอื่น ไม่ใช่คนเฮฮาที่สามารถจะสร้างความสนุกให้คนอื่นได้ เลยไม่มีใครเข้ามาเล่นด้วยแบบนี้

     

     

    “ว้าว นายนี่ดูท่าจะชอบหนังสือนะ ดูสิหนังสือเต็มห้อมไปหมดเลย”

     

     

    หลังจากที่เดินเข้ามาในห้องของแดฮยอนแล้ว ยงกุกก็ตาลุกวาวกับภาพตรงหน้า หนังสือมากมายที่ถูกเรียงอย่างเป็นระเบียบอยู่บนชั้นหนังสือสุดหรู หนังสือแต่ละเล่มยังคงสภาพดี เหมือนเจ้าของแทบไม่เคยแตะมันมาก่อนเลย แต่ก็คงเพราะความรักที่มีให้หนังสือที่มีมากมายของแดฮยอน ทำให้เขาเก็บรักษาหนังสือพวกนี้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะหันไปทางไหน ก็มีแต่หนังสือเรียงรายอยู่เต็มไปหมด หรือจะพูดให้ถูก ในห้องนอนของแดฮยอนนั้นไม่มีอะไรเลย นอกจากเตียงนอน ตู้เสื้อผ้า และชั้นวางหนังสือที่มีมากมายพร้อมกับหนังสือ ที่มีเยอะราวกับเป็นร้านหนังสือขนาดย่อม

     

     

    “คือ พี่ก็ชอบนะ แต่ไม่ถึงขั้นนี้น่ะ” ยงกุกพูดขึ้นด้วยความตกตลึง

     

     

    “คือผมมีความฝันว่าอยากจะเป็นนักเขียน อยากจะจะเปิดร้านหนังสือ และต้องไม่ใช่ร้านหนังสือธรรมดานะครับ ต้องเป็นร้านหนังสือ ที่มีร้านกาแฟอยู่ข้างในด้วย เผื่อลูกค้าเหนื่อย หิว หรืออยากจะพักผ่อน อยากจะทำงานที่ร้านด้วย พร้อมทั้งโทนในร้ายที่เป็นสีหวานเย็นสดใส มีเพลงคลอเบาๆเพื่อความเพลิดเพลิน พร้อมกับกลิ่นของเม็ดกาแฟที่หอมกรุ่นไปทั่วร้าน…..อ่ะ เอ่อ ขอโทษนะครับ พอได้พูดเรื่องความฝันทีไร ผมก็จะเป็นแบบนี้ทุกที แหะแหะ”

     

     

    แดฮยอนเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองพูดมากเกินไปก็รีบเอ่ยขอโทษพัลวัน แต่เขาเองก็รู้สึกมีความสุขทุกครั้ง ที่ได้พูดถึงอาชีพที่เขาใฝ่ฝันในยามที่เขาโตเป็นผู้ใหญ่ และเขาคิดว่า ฝันนี้จะไม่ได้เป็นแค่ฝันแน่นอน เพราะเขาจะต้องทำมันให้ได้ ยามที่เขาโตพอที่จะทำงานได้

     

     

    “พี่จะทำมันให้เอง”

     

     

    “พี่ว่าไงนะ”

     

     

    “ความฝันของแดฮยอน พี่จะสานมันให้เป็นจริงให้ได้คอยดู!!




     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×