คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : การกลับมา 100%
การกลับมา
5 ปีต่อมา
เสียงเพลงดั่งกระหึ่ม ณ ผับใหญ่ชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงลอนดอน สร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้คนที่เข้ามาเที่ยวเพื่อสังสรรค์สร้างความสุข กับเพื่อนฝูง คนรัก หรือแม้กระทั่งหาคู่ชั่วคราว ที่กำลังโชว์สเต็ปแดนซ์กันอย่างเมามันส์ บางกลุ่มก็นั่งดื่มตามประสาคนอย่างเมา แต่สำหรับพวกผม ที่กำลังนั่งดื่มน้ำสีสวยกันนั้นแท้จริงแล้วมันคืองานของพวกผม นั่นก็คือการเป็น ‘โฮสต์’
“เฮ้ย! ไลแคนท์สงสัยนายจะได้อึ๊บหนุ่มน้อยอีกแล้วล่ะ ดูแม่นั่นสิ มองนายอย่างกับจะเขมือบเชียว ฮ่าๆๆ”คำพูดหยอกล้อของเพื่อนชายตัวสูงล่ำที่ยืนอยู่ทางขวามือของผม ทำให้เพื่อนคนอื่นๆถึงกับหัวเราะออกมาด้วยความสนุกสนาน แล้วค่อยหันไปมองบุคคลที่สาม ที่เพื่อนของผมเพิ่งเอ่ยถึงไปเมื่อสักครู่ แล้วก็ต้องตาค้างด้วยความงดงาม เด่นเป็นสง่า ของหนุ่มน้อยคนนั้น ที่นั่งอยู่ที่โซฟาฝั่งตรงข้ามของพวกผม
หนุ่มน้อยหน้าหวานผมสีแดงสว่างสวมชุดคลุมขนสัตว์เข้ารูปหวังอวดรูปร่างอันแสนจะเซ็กซี่ของตน พร้อมกับรองเท้าบูทหนังสีดำเข้าชุดที่สวมยาวมาจนเกือบถึงเข่า ที่กำลังนั่งไขว่ห้างจ้องมองเขาอย่างเซ็กซี่ ไม่เพียงความเซ็กซี่และความหรูหราเท่านั้นที่ดูเป็นจุดเด่น แต่ใบหน้าก็สวยยามจากการผิวขาวดุจน้ำนม ดวงตากลมโต ปากเรียวเล็ก จมูกเป็นสันสวยงามรวมๆแล้ว เป็นผู้ชายที่สวยกว่าผู้หญิงหลายๆคนเลยก็ว่าได้ สุดแสนเพอร์เฟ็คและเป็นที่ต้องการของชายหลายคน ช่างเป็นผู้ชายที่น่าขย่ำจริงๆ หึหึ
เมื่อเห็นดังนั้นผมก็ไม่รอช้ารีบหันไปบอกเพื่อนๆว่าให้คอยดูลีลาการเข้าหาเหยื่อของตนไว้ให้ดี เพราะไม่เคยมีเหยื่อคนไหนที่ไลแคนท์เล็งเป้าหมายไว้แล้วพลาดสักคน แต่ทุกคนที่ผมเข้าหานั้นก็เป็นเพียงคู่นอนเพียงชั่วข้ามคืนเท่านั้น อย่าได้หวังจะเป็นคนรัก เพราะผมผู้นี้ คือ ‘ไบเซ็กชวล’
“สวัสดีครับหนุ่มงามในค่ำคืนนี้ ผมขอนั่งด้วยคนได้ไหมครับ”ไม่ทันขาดคำผมก็ตรงเข้าไปทักทายหนุ่มน้อยคนนั้นทันที หลังจากที่สังเกตมานานก่อนที่เพื่อนชายจะทักขึ้นมาเสียอีก ก็ในเมื่อเจ้าตัวเล่นจ้องอย่างบ่งบอกความต้องการเสียขนาดนั้น ก็คงต้องสนองความต้องการเสียหน่อย
“เชิญครับ”อีกฝ่ายก็ไม่ปฏิเสธแต่อย่างใด กลับแสดงสีหน้าพึงพอใจอย่างปิดไม่อยู่ แววตาก็ยังคงจ้องผมไม่วางตา
“มาคนเดียวเหรอครับ”ผมวางแก้วน้ำสีสวยลงที่โต๊ะด้านหน้าก่อนเอ่ยถามอีกฝ่าย
“ครับ แล้วคุณก็คงมากับเพื่อนๆของคุณ”ชายหนุ่มร่างเล็กว่าพรางส่งสายตาไปที่เพื่อนๆของผมที่กำลังมองมาด้วยสายตาหยอกล้ออีกฝ่าย
“อย่าถือสาเลยครับ ผมไลแคนท์ครับ เป็นโฮสต์สุดหล่อของที่นี่”ไม่รอช้าไลแคช้าผมก็แนะนำตัวให้อีกฝ่ายได้รู้จักทันที ซึ่งนั่นก็เรียกร้อยยิ้มและเสียงหัวเราะจากอีกฝ่ายได้เป็นอย่างดี
“ฮ่าๆๆ คุณนี่หลงตัวเองจังนะ ผม โซอาร์ ครับ ยินดีที่ได้รู้จัก เอ่อคือ…”
“ผมว่าเราไปข้างนอกกันเถอะครับ”
ยังไม่ทันที่หนุ่มน้อยหน้าสวยจะได้เอ่ยปากพูดให้จบ ผมก็สวนขึ้นมาทันควัน และจับมืออีกฝ่ายให้ลุกขึ้นเดินตามตนออกไปทันที โดยที่ไม่ให้อีกฝ่ายได้ทักท้วง และเหตุการณ์นั้นก็สร้างเสียงฮือฮาให้แก่เพื่อนๆที่เฝ้าดูอยู่ก่อนแล้วได้เป็นอย่างดี ก็ใครจะทนได้ล่ะ เพียงแค่เห็นอีกฝ่าย ก็กระตุ้นอารมณ์ข้างในก็พลุ่งพล่านเพียงแค่แรกเห็นแล้ว ก็แต่งตัวซะขนาดนี้ อ่อยขนาดนี้ใครจะทนไหวล่ะจริงไหม?
ปึ้ก!
เมื่อมาถึงห้องน้ำชายประจำผับ ผมก็ผลักอีกฝ่ายเข้าไปที่ห้องน้ำห้องสุดท้ายทันที โดยที่ไม่ลืมที่จะล็อกกลอนประตูกันไม่ให้ใครเข้ามาขัดจังหวะ ไม่รอช้าผมรีบประกบริมฝีปากของอีกฝ่ายทันทีโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันได้ตั้งตัว จึงเผลอทำให้เผยอปากออกมาอย่างลืมตัวและจงใจอยู่ลึกๆ
เมื่อได้สติโซอาร์ก็รีบตอบสนองอีกฝ่ายทันทีโดยการสอดลิ้นเข้าไปเกี่ยวหยอกล้อเล่นกับลิ้นของผมที่พยายามสอดเข้ามาในโพรงปากของอีกฝ่ายเช่นกัน พวกเราแลกลิ้นกันอยู่นานสองนาน พรางสบสายตากันและกันเป็นระยะ
เมื่อเวลาผ่านไปได้สักพักมือของผมก็เริ่มไม่อยู่นิ่งเมื่อมือซ้ายค่อยๆลากผ่านลำคอขึ้นไปและหยุดลงที่ท้ายทอยของอีกฝ่ายและกดแรงๆเพื่อให้ริมฝีปากแนบชิดกันมากยิ่งขึ้น ส่วนมือขวาก็เริ่มลูบไล้ที่สะโพกมนพื่อต้องการปลุกเร้าอารมณ์ของอีกฝ่าย แต่ก็ถูกอีกฝ่ายจับห้ามเอาไว้เสียก่อน ทำให้ผมรู้สึกงงเล็กน้อยกับสิ่งที่อีกฝ่ายทำ เพราะเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้วยังตอบรับสัมผัสของผมได้เป็นอย่างดี แต่ทำไมตอนนี้ถึงได้ห้าม พรางมองอีกฝ่ายด้วยแววตาสงสัย
“ผมไม่ค่อยชินกับสถานที่แบบนี้สักเท่าไหร่ ขอไปต่อที่บ้านคุณแทนได้ไหม?”
“ฮ่ะๆๆ มีหรือที่คนอย่างผมจะกล้าปฏิเสธคนน่ารักเช่นคุณได้”หลังจากตกลงเรื่องสถานที่ปลดปล่อยอารมณ์รักกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้พวกเราก็รีบจัดแจงเสื้อผ้าและออกมาลาเพื่อนๆทันที
ทำเอาเพื่อนๆถึงกับอึ้ง กับความมีเสน่ห์ของเพื่อนชายหน้าตาดีคนนี้ ที่มีดีไปเสียทุกอย่าง มีแต่คนเข้าหาให้ปลดปล่อยความใคร่ได้ทุกวัน ถึงแม้พวกเขาเองนั้นก็ใช่ว่าจะย่อยความมีเสน่ห์ดึงดูด แต่เมื่อเทียบกับไลแคนท์แล้ว ก็ชิดซ้ายไปทันที
“อ๊ะ..อืม”
ทันทีที่มาถึงห้องนอนของผม ผมก็ไม่รอช้า รีบประกบปากจูบอีกฝ่ายทันที แล้วค่อยๆประคองร่างเล็กให้ถอยหลังไปที่เตียงนอนกว้างของผมที่ประกบคู่เข้ากับเตียงของแวร์วูฟจนเป็นเตียงเดียวกัน ทำให้มีขนาดกว้าง เหมาะสมกับการร่วมรักของคนทั้งสองได้เป็นอย่างดี
"คุณไลแคนท์นี่เร่าร้อนจังเลยนะครับ”โซอาร์เอ่ยชมอีกฝ่ายด้วยแววตาหวานเยิ้ม นิ้วมือก็ลูบไล้ผ่านใบหน้าของผมลงมาที่ลำคอและหยุดที่หน้าอก พรางปลดกระดุมเสื้อของผมทีละเม็ดๆ จนถึงเม็ดสุดท้าย เผยผิวขาวที่ปกปิดอยู่ด้านในเสื้อเชิ้ตพอดีตัวของผม ยิ่งกระตุกหัวใจของอีกฝ่ายให้วูบไหว และเคลิ้มไปกับรสสัมผัสของผมที่คลอเคลียร์อยู่ที่ลำคอของตน
“คุณก็ร้อนแรงไม่แพ้กันนะครับ”เสียงกระซิบแหบพร่าของไลแคนท์สร้างความเสียวซ่านให้กับโซอาร์ได้เป็นอย่างดี
ผมพรมจูบอีกฝ่ายผ่านเสื้อยืดสีขาวตัวบางอย่างสนุกสนาน ส่วนมือทั้งสองข้างของผมนั้นก็ค่อยๆถอดเสื้อขนสัตว์ของโซอาร์ออกอย่างระมัดระวัง จนร่างบางเหลือเพียงเสื้อยืดสีขาวเนื้อบางกับกางเกงขาสั้นเหนือเข่าเท่านั้น แต่นั้นก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อผมแม้แต่น้อย เพราะเมื่อสัมผัสริมฝีปากของผมจรดผิวกายของอีกฝ่าย โซอาร์ก็แอ่นตอบรับสัมผัสนั้นได้เป็นอย่างดี สร้างความพึงพอใจให้แก่ผมเป็นอย่างมาก แล้วพวกเราก็รีบแสดงบทบาทระบายความใคร่ของกันและกันทันทีอย่างไม่รอช้า
ตัดฉับ 50%
และในขณะที่พวกเรากำลังบรรเลงบทเพลงแห่งรักกันอยู่นั้น ทันใดนั้นเอง สายตาของผมก็เหลือบไปเห็นความผิดปกติบางอย่างที่กระจกที่ตั้งอยู่ทางด้านขวามือของผม !!
.
.
.
.
.
“ไง ไม่ได้เจอกันนาน ห้องของฉันกลายเป็นม่านรูดไปแล้วสินะ”
เฮือก!!
ผมถึงกับชาไปทั้งตัวกับภาพที่เห็น เมื่อพบน้องชายฝาแฝดของผมที่น่าจะตายไปแล้วตั้งแต่ 5 ปีก่อน แต่ทำไม! ทำไมถึงมาอยู่ในกระจกเงาภายในห้องของผม(ที่เคยเป็นของน้องชายของผมด้วย)แบบนี้กันล่ะ!
แถมร่างกายก็ยังมีรอยแผลและเลือดอันน่าสยดสยองอยู่ เหมือนดั่งภาพที่ผมได้เห็นเมื่อ 5 ปีที่แล้ว รอยแผลที่ข้อมือที่ถูกกรีดลึกเป็นทางยาว กับแผลที่หน้าอกที่เคยมีมีดปักอยู่ แต่บัดนี้ต่างกันเพียงแค่ไม่มีมีดปักแล้วเท่านั้น แต่ก็ยังคงมีรอยบาดแผลที่หน้าออกที่กรีดยาวลงมาจนเกิดแผลเหวอะหว่ะ เลือดไหลอาบไปทั่วทั้งตัว และสิ่งที่เปลี่ยนไปอีกอย่างนั่นก็คือ รูปร่างส่วนสูง และหน้าตาที่ดูเหมือนจะเติบโตไปตามกาลเวลาเหมือนมนุษย์ปกตินั่นอีกต่างหาก!
‘ไม่คิดจะทักทายน้องชายหน้าโง่ของตัวเองหน่อยหรือไงกัน โหดร้ายไม่เคยเปลี่ยนเลยนะ’
ผมเอาแต่มองภาพบุคคลที่เหมือนตัวเองในกระจกเงาอย่างตะลึงงั้น จนโซอาร์เริ่มสังเกตลักษณะท่าทางที่เปลี่ยนไปของผม จึงหันไปตามสิ่งที่ทำให้ผมตาค้างบ้าง
“มองอะไรอยู่หรองั้นหรอ ไลแคนท์”ท่าทางของผมที่เปลี่ยนไปทำให้โซอาร์รู้สึกแปลกใจและหันไปมองตามแววตาของผม และก็ต้องหันกลับมามองหน้าผมอีกครั้งด้วยสีหน้างุนงง
“ไม่เห็นจะมีอะไรเลย”
‘ไม่ต้องแปลกใจ ฉันมาหานาย ไม่ใช่มาหาคู่นอนเพียงชั่วข้ามคืนของนายหรอกนะ เพราะฉะนั้นจึงมีนายคนเดียวเท่านั้นที่จะเห็นฉันได้’
“นะ..นายมาได้ยังไงกัน?”ผมถามฝาแฝดในกระจกอย่างลืมตัวว่าในห้องแห่งนี้ ไม่ได้มีเพียงตนเองและสิ่งที่อยู่ในกระจกเท่านั้น
“ไลแคนท์ นายกำลังคุยอยู่กับใครน่ะ”โซอาร์สีหน้าเริ่มไม่สู้ดี พรางมองใบหน้าอันหล่อเหลาของไลแคนท์และกระจกเงาบานใหญ่ทางขวามือไปมาอย่างสับสน
‘คิดถึงนายไงล่ะ คิดถึงอย่างสุดซึ้งเลยล่ะ’
“แต่ฉันไม่เคยคิดถึงนาย ออกไป!!”
เสียงตะโกนของไลแคนท์สร้างความตกใจให้แก่โซอาร์ไม่น้อย ทำให้โซอาร์รีบลุกพรวดออกจากร่างกายของไลแคนท์และสวมเสื้อผ้าและวิ่งออกนอกห้องไปทันที ด้วยความตกใจและกลัว
‘เฮ้ๆ ทำอะไรไม่ห่วงคู่นอนเลยนะ วิ่งหนีไปนู้นแล้ว เสียดายจังนะ หึหึ’
บ้าไปแล้ว นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน !!
จะว่านั่นเป็นเพียงภาพที่ผมมโนขึ้นมาเองก็ไม่ใช่ เพราะผมพยายามกระพริบตาหลายต่อหลายสิบครั้งแล้ว แต่ภาพนั้นก็ยังไม่หายไป อีกอย่าง ผมคงไม่มีทางนึกถึงน้องชายที่ไม่เอาไหนอย่างแวร์วูฟแน่ แล้วนี่มันคืออะไรกัน? ผมกำลังโดนผีน้องชายของผมหลอกอย่างนั้นหรอ?!
…………………………………………………………………..
ไปแอบเพิ่ม NC มานิดหน่อย จาก 30% เป็น 50% เนื่องจากตอนแรกแอบเขินๆกับการแต่งฉากแบบนี้นิดหน่อย แต่พอมาอ่านอีกรอบและแต่งเพิ่มไปกลับเพลิน 555 ส่วนใครที่อยากอ่าน NC รอสักครู่ มายด์กำลังเอาลงเว็บอื่นๆอยู่ค่ะ รอหน่อยน้า ><!
ความคิดเห็น