ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [NoRit] First Love รักแรกแพ้กาลเวลา

    ลำดับตอนที่ #7 : [First]...ความสุข

    • อัปเดตล่าสุด 5 มี.ค. 58







    Tono Part

              หลังจากที่ร่ำลากับริทไปเรียบร้อยแล้วผมก็มาทำธุระให้แม่ที่ธนาคารซึ่งวันนี้เป็นวันธรรมดาเลยไม่มีคนทำให้เสร็จเร็ว ผมจึงเลือกที่จะไปนั่งจิบกาแฟยามบ่ายที่ร้านประจำของผมเพื่อฆ่าเวลาในการรอริทเพราะถ้าไปตอนนี้เขาคงจัดของไม่เสร็จแน่

          อันที่จริงผมกลับมาอยู่เมืองไทยได้ปีนึงแล้วหล่ะ สาเหตุที่ผมเลือกที่จะกลับมาเรียนที่ไทยหน่ะหรอ

    ไม่รู้สิแค่คิดถึงบรรยากาศเก่าๆ ความทรงจำดีๆที่นี่แค่นั้นเอง...

          ผมนั่งในร้านอยู่นานพอสมควรจนตอนนี้เป็นเวลา17.00แล้วผมเลยขับรถไปรับมัน ทันทีที่ถึงบ้านก็เห็นมันนั่งรออยู่พร้อมกับกระเป๋าสัมภาระอยู่แล้ว

    "รอนานรึป่าว"

    "ไม่นานๆ ริทพึ่งจัดเสร็จเมื่อกี้เอง"

    "แล้วนี่ขอแม่ยัง"

    "โทรไปบอกแล้ว แม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรบอกว่าดีด้วยซ้ำจะได้มีที่ปรึกษา"

    "แล้วจะไปเลยมั้ย"

    "ได้ๆ" หลังจากที่พูดจบก็เห็นท่าแบกกระเป๋าที่ดูเก้ๆกังๆของมันจนผมหลุดขำออกมา

    "ขำไรอ่ะพี่"

    "นี่มึงกะจะแบกไปครั้งเดียวให้หมดเลยรึไง มานี่เดี๋ยวกูช่วย"

    "ไม่เป็นไร ริทถือเองได้"

    "อย่าดื้อหน่า"ไม่ทันให้ร่างบางตอบผมก็รีบคว้ากระเป๋าใบใหญ่ของมันมาแล้วเดินไปที่รถ

    "มีของอะไรอีกป่าว"

    "ไม่มีแล้ว ถ้าลืมเดี๋ยวค่อยแวะมาใหม่ก็ได้"

    "งั้นเข้ารถได้เลย"

         ทันทีที่เขามาในรถมันก็เปิดประเด็นถามผมหลายเรื่องมาก ผ่านมาหลายปีแล้วมันก็ยังคงเป็นเด็กช่างพูด ช่างสงสัยอยู่เหมือนเดิม

    "นี่ พูดมาเยอะแล้วไม่เหนื่อยบ้างรึไง"

    "นี่พี่หาว่าริทพูดมากหรอ"

    "เปล๊า..นี่ก็เย็นแล้วเดี๋ยวแวะซื้ออาหารไปกินที่ห้องดีกว่า"

    "ริทอยากกินผัดไทอ่ะ แถวคอนโดพี่พอจะมีขายมั้ย"

    "มีสิ หน้าคอนโดพี่เป็นตลาด มีขายแทบทุกอย่าง"

    "หูย..ดีจังเลย อย่างงี้ริทก็ไม่อดตายแล้วเย้ๆๆ"

    "อยู่กับพี่ไม่มีคำว่าอดตาย"

    "ดีจังเลย พี่โน่เลี้ยงนะ"

    "ได้อยู่แล้ว"

    "เย้ๆๆ"

          นิสัยของมันยังไม่ต่างจากเดิมซักเท่าไหร่ ทำให้ผมอดที่จะคิดวันที่เราเคยมีกันขึ้นมา

    "เดี๋ยวพี่ออกไปซื้อมาให้ ตอนพี่ออกไปล็อครถให้ด้วย เดี๋ยวมีขโมยเข้าใจมั้ย"

    "ริทไม่ใช่เด็กแล้วหน่า คงไม่มีใครขึ้นรถแล้วขับออกไปต่อหน้าต่อตาริทหรอก"

    "เราหน่ะตัวเล็กบอบบางไม่มีแรงสู้แค่เขามัดมือก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว หวังว่าจะเข้าใจนะรู้ไว้ด้วยว่า..พี่เป็นห่วง"

         ในประโยคหลังผมพูดเน้นเพื่อให้มันรู้ว่าผมจริงจังและเป็นห่วงมันจริงๆ ไม่ได้โกรธหรืองอนอะไรมันหรอกแค่ให้รู้ว่าห่วง ทันทีที่ผมก้าวออกมาจากรถแล้วปิดประตูก็ได้ยินเสียงล็อคประตูรถทันที สงสัยคงกลัวแล้วแหละ

          ผมใช้เวลาเกือบๆ10นาทีในการหาซื้อของเพราะตอนนี้เริ่มเย็นพอสมควรทำให้แต่ละร้านคนเริ่มต่อคิวซื้อกันเยอะแล้ว

        ก็อก ก็อก

       ผมเคาะเรียกให้มันเปิดประตูให้

          ทันทีที่ก้าวขึ้นรถผมก็ไม่ได้พูดไรกับมันเรียกง่ายๆคืออยากลองแกล้งมันดู

          แต่ดูเหมือนมันจะสังเกตเห็นถึงสิ่งผิดปกติจากผมนะแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรจนกระทั่งผมขับรถมาถึงคอนโด ผมจอดรถพร้อมวานให้แม่บ้านประจำคอนโดช่วยมันถือของขึ้นห้องไปก่อนส่วนผมจะเอารถไปจอดที่ลานจอดรถ เห็นสีหน้ามันตอนนี้ดูเริ่มเครียดแล้ว ผมไม่ได้โกรธมันจริงๆนะ แค่อยากแกล้ง ถือเป็นการรับน้องแล้วกัน

    แอ๊ด~ปัง!

    "พี่โน่ ให้ริทนอนห้องไหน"

    "แล้วแต่จะคิด" ผมแกล้งกดเสียงต่ำลงให้ดูจริงจังออกแนวขรึมๆเพื่อแกล้งเขา

    "เอ่อ.. งั้นริทขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะ"

    "อืม"

           เขาก็เดินไปหยิบอุปกรณ์อาบน้ำและเสื้อผ้าก่อนเดินเขาห้องน้ำไป

          ด้วยความที่ว่าห้องผมมีห้องน้ำ 2ห้องผมเลยเดินเข้าไปอาบอีกห้องนึงเลย ผมใช้เวลาอาบน้ำราว10นาทีก็ออกมาปรากฏว่าริทยังไม่ออกมาเลยแต่กลิ่นแชมพูนี่กระจายไปทั่วห้องเลย นี่ทันเทหมดขวดเลยรึป่าวเนี่ย

           ผมแต่งตัวเสร็จก็ออกไปจัดการเทอาหารใส่จาน พอจัดเสร็จก็เห็นไอตัวเล็กมันเดินออกมาพอดี
    ตอนนี้ผมก็ยังแกล้งไม่คุยกับมันอยู่ผมนั่งเก้าอี้แล้วกินข้าวโดยไม่สนใจมัน มันก็นั่งเก้าอี้ตรงข้ามผม การกินข้าวมื้อนี้แทบจะไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยนอกจากเสียงช้อนส้อมกระทบกับจาน จนผมกินเสร็จก่อนมันก็เอาจานไปวางที่อ่างล่างแล้วดูเหมือนมันจะรู้หน้าที่เพราะหลังจากที่ผมวางสักพักมันก็กินเสร็จแล้วล้างจานให้ผม ผมเลยเดินไปเปิดตู้เก็บของเพื่อหยิบหมอนผ้าห่มมาให้มัน หลังจากนั้นก็ไปดูทีวีอยู่บริเวณโซนห้องนั่งเล่น หลังจากที่มันล้างจานเสร็จก็ได้ยินเสียงมันเข้าไปจัดของในห้องนอนจนสักพักเสียงก็เงียบ ผมเลยมองเข้าไปเห็นมันยืนอยู่ริมหน้าต่าง เมื่อเดินเข้าไปใกล้ๆก็เห็นว่ามันไม่ได้ยืนเฉยๆแต่มันกำลัง...ร้องไห้

    "ริท เป็นอะไร" พูดพร้อมหันตัวมันมาหาผม ขี้แยจริงเลย

    "ก็พี่โน่ไม่ยอมพูดกับริทอ่ะ..ฮึก.." แกล้งจนเป็นเรื่องเลยกู

    "พี่ขอโทษเมื่อกี้เแค่แกล้ง"

    "ทำไมพี่ต้องแกล้งริทอย่างนี้ด้วย..ฮึก..ฮือ ริทกลัวรู้มั้ย"

    "ขอโทษครับ ที่หลังพี่จะไม่แกล้งอีกแล้ว อย่าโกรธพี่เลยนะ" พูดเสร็จผมก็ดึงคนร่างบางมากอด ยังขี้แยไม่เปลี่ยนเลยนะ

    "สัญญานะ" เงยหน้าขึ้นมาพูดกับผมพร้อมทั้งส่งนิ้วก้อยมาให้

    "สัญญา" ผมพูดพร้อมส่งนิ้วก้อยไปให้มันส่วนมืออีกข้างก็ทำหน้าที่เช็ดน้ำตาบนหน้าให้
    ตอนนี้หน้าผมกับมันอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ รู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆอยู่บริเวณปลายคางของผม จะว่าไปแล้วผู้ชายอะไรยิ่งโตยิ่งเหมือนผู้หญิง หน้าก็หวาน ผิวขาวอมชมพู ขนตาเป็นแพ จมูกโด่ง จนทำให้ผมอดคิดไม่ได้ที่จะลิ้มลองปากสีชมพูนั่น

    "อะ..อื้อ" กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ได้ยินเสียงของคนใต้ร่างครางประท้วงออกมาซะแล้ว ผมรู้ว่าสิ่งที่ทำมันผิดแต่..มันก็อดไม่ได้จริงๆ เป็นคุณคุณจะอดใจไหวมั้ยหล่ะ??? ผมจูบอยู่นานพอสมควรจนเริ่มรู้สึกถึงคนใต้ร่างที่หายใจไม่ทันจึงถอนจูบออกมา

    "เอ่อ..พี่ขอโทษนะ"

    "มะ..ไม่เป็นไรครับ งั้นริทขอตัวไปนอนก่อนนะ" ร่างบางที่แก้มแดงไปถึงหูพูดออกมาอย่างเขินๆ

    "กู๊ดไนท์นะ หลับฝันดีหล่ะ"




    Rit Part

    "กู๊ดไนท์นะ หลับฝันดีหล่ะ"

    "เช่นกันครับ"

             ให้ตายเถอะเมื่อกี้ อยากจะแทรกแผ่นดินหนี นี่เราเคลิ้มขนาดนั้นเชียวหรอ ถ้าไม่ออกมาจากที่ตรงนั้นคงจะเผลอตัวเผลอใจไปมากกว่านั้นมั้ยหล่ะ ไม่ได้ๆ ท่องไว้ แค่คนเคยรักๆ ตอนนี้เราต้องรักเบส ว่าแล้วโทรหาเบสดีกว่า

    "ฮัลโหล"

    ["ฮัลโหลริทมีอะไรรึป่าว"]

    "ไม่มีอะไรแค่โทรมาคุยเล่น วันนี้เป็นไงบ้าง"

    ["ก็สนุกดีนะจะอวดให้ฟังว่าเบสได้เป็นตัวแทนประกวดดาวของคณะด้วย"]

    "จริงอ่ะริทก็ได้เหมือนกัน"

    ["ริท เราติดสายซ้อนอ่ะ งั้นแค่นี้ก่อนนะ ฝันดี"]

    "จ้า ฝันดี"

    "อ่ะ แฮ่ม ไหนบอกจะนอนแล้วไง"

    "โทรหาเพื่อนแปปนึงก่อนนอน"

    "เพื่อนหรือแฟน มีบอกว่าฝันดีด้วย"

    "เพื่อน แล้วพี่เข้ามาทำไมเนี่ย"

    "ก็กูจะมานอน นี่ห้องกู"

    "อ่าว ไม่ใช่ห้องริทหรอ"

    "คอนโดนี้มีหลายห้องก็จริงแต่ห้องนอนมีห้องเดียว นอนๆไปเหอะเตียงออกจะใหญ่คิงไซส์นะเว่ย"

    "ครับๆ" แล้วผมก็เอาหมอนข้างคั่นกลางเกิดกลางคืนพี่เขาคึกปล้ำผมขึ้นมาตายกันพอดี

    "นี่มึงกลัวกูปล้ำขนาดนั้นเลยเรอะ" เขามีเซนส์อ่านความคิดผมออกหรอเนี่ย ต้องรักษาฟอร์มหน่อย

    "เปล่า ก็จะได้แบ่งเป็นอาณาเขตกันเฉยๆ"

    "เออๆตามใจมึงแล้วกัน กูจะนอนแล้ว ถ้ามึงจะนอนเอื้อมไปปิดไฟตรงหัวเตียงมึงด้วย"

    "ครับๆ" หลังจากนั้นๆสักพักผมก็เอื้อมไปปิดไฟตามที่เขาสั่ง


    นี่ขนาดวันแรกนะผมต้องทนอยู่อีก365วัน จะเป็นยังไงเนี่ย....





    :) Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×