Hero ความยุติธรรมในโลกนี้มีอีกไหม - Hero ความยุติธรรมในโลกนี้มีอีกไหม นิยาย Hero ความยุติธรรมในโลกนี้มีอีกไหม : Dek-D.com - Writer

    Hero ความยุติธรรมในโลกนี้มีอีกไหม

    มาดะระอัยการหนุ่มไฟแรง เคลือบแคลงใจในคดีบริษัทรับเหมาอากิยามะของคิม ทำให้เขาขุดคดีนี้มาสืบสวนใหม่อีกครั้ง โดยมีผู้ช่วยสาว มิเนะ พวกเขาจะล้วงความลับของบริษัทได้ไหม พวกเขาจะทำอย่างไร คำตอบได้อยู่ที่นี้

    ผู้เข้าชมรวม

    378

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    378

    ความคิดเห็น


    5

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  สืบสวน
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  22 ก.ย. 51 / 20:41 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    ส่งงาน พระพุทธศาสนา อาจารย์ให้เอามา Post ในเน็ต ต่อสาธารณชน 

    จึงอยากขอความความร่วมมือ เพื่อนๆ comment ทีนะ 

    เรื่องนี้ป็นเรื่องแรกของเราด้วย 

    บอกด้วยนะ สนุกไหม

    แล้วได้ข้อคิดดีๆ อะไร

    ขอบใจมากที่เข้ามาอ่านนะค่ะ
     

    ใคร comment รักตายเลย จุ๊ฟๆ ^3^

    เรื่องนี้ยังไม่ซับซ้อนมาก

    เพราะมันเป็นเรื่องสั้น

    ถ้าให้ซับซ้อนคงจะยาวกว่านี้

    แรงบันดาลใจเกิดจากการดูข่าวค่ะ


    Thanks for watching and reading

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

       

      ความชั่วคืออะไร...
      ความดีคืออะไร...
      ในโลกนี้ยังมีความยุติธรรมด้วยหรือ
       
      ในความคิดของผมล่องลอยออกไป....ถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมา เตะกรวดหินทราย ที่อยู่ระเกะระกะตามชายหาด วันนี้คุณคิม อยู่ๆ เกิดการเลี้ยง

      ฉลองอัยการทั้งหมด มันจะมีอะไรแอบแฝงไหม ผมบ้าคิดไปเองรึเปล่า แต่ผมก็ยังเคลือบแคลงใจเกินกว่าจะรับไว้ได้ 


      คดีที่คุณคิมทำเกี่ยวกับบุคคลที่มีชื่อทางบริษัทผู้รับเหมา เกี่ยวกับการฉ้อราษฏบังหลวง และคดีนี้ ก็ถูก.......


      “!!ยกฟ้อง!!”
      เนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอ

       
      คำนี้ที่ผมได้ยินจากเลขาของผม  ใจของผมตกไปอยู่ที่ตาตุ้ม สมองของผมเหมือนมีคำถามเต็มไปหมด หลังจากคดีนั้นสองเดือน.... เขาก็ได้คดีใหม่ทันที


      นั้นก็คือ...

       
                “แค่ใบหน้าอันดุดัน หล่อเหลาของฉัน ขโมยก็พูดคำสารภาพแล้ว ห๊ะห๊ะห๊ะ”คิมว่าพลางหัวเราะ มือของเขาถือแก้วไวน์แดงสุดหรู และจิบสองสามอึก 

      “ร้านเพชรเขาใจดีมากขนาด ให้เงินขอบคุณมา ผมก็เลยมาเลี้ยงพวกคุณ”
                

      “มาดะระ ยังไม่มาอีกเหรอค่ะ”เลขานุการสาวมาดเข้มถามนาซึมาดะที่นั่งข้างๆ กำลังหั่นปลาแซลมอน


       
      “หมอนี่ชอบทำอะไรแปลกๆ คดีเล็ก ๆ คดีเดียวกว่าจะผ่านไปได้ก็นานโข จริงไหมครับคุณคิม”นาซึดะหัวเราะในลำคอเบาๆ คิมไม่ตอบอะไรทั้งสิ้น แล้วฉลองกับอัยการคนอื่นๆ ต่อ
       

      “มาดะระคิดอะไรอยู่เหรอค่ะ”หล่อนกระชับแว่นเหลี่ยมกรอบมน แล้วเดินไปข้างๆ ชายหนุ่มที่อายุใกล้เคียงกัน


      “ผมสังสัยเกี่ยวกับคดีคุณคิม”มาดะระพูด


      “คดีคนขโมยเพชรเหรอค่ะ”มิเนะถาม มาดะระพยักหน้า หล่อนขมวดคิ้ว


      “และคดีของบริษัทผู้รับเหมา”มาดะระกล่าวเสริม เขาหรี่ตาลง สีหน้าดูเคร่งขึ้น


      “ทำไมค่ะ”


      “การยกฟ้องเรื่องแบบนี้ง่ายๆ มันไม่ใช่เรื่องที่ควรจะเป็น”


      “นาดะระนี้เคร่งจริงๆ เลย วันนี้ได้มาเที่ยวแท้ๆ ต้องมานั่งคิดอีก ผักผ่อนดีกว่านะค่ะ ก่อนที่จะไม่ได้พัก”มิเนะนั่งลง มือยันพื้นทราย นัยน์ตาดำเข้มของหล่อนจับจ้องยังดวงดาวประกายระยับ


      “ห๊ะ ห๊ะ จริงสินะ”มาดะระนั่งลงตาม หน้าแหงนมองบนท้องฟ้าสีน้ำเงินเข้มสูดหายใจลึกเพื่อผ่อนคลาย “ความยุติธรรมในโลกนี้มีรึเปล่านะ”มาดะระกล่าวลอยๆ มิเนะยิ้มกริ่มหันมามองชายข้างๆ แล้วกลับไปมองท้องฟ้าตามเดิม


      “มีสิค่ะ ธรรมมะย่อมชนะอธรรม”

      มิเนะ นี้มันชีวิตจริงนะไม่ใช่การ์ตูน
      =___=;;


      “แม้มันจะเหมือนในการ์ตูนก็ตามทีเถอะ แต่ฉันก็ยังคงที่จะเชื่ออย่างนั้น ถึงได้เข้ามาในอัยการ และได้พบฮีโร่การ์ตูนอย่างคุณ น่าเศร้าที่ท่านพระ

      พุทธเจ้าได้ตรัสไว้ว่า ห้าพันปี พระพุทธศาสนาจะล้มสลาย ทุกอย่างจะเสื่อมถอยลงเรื่อยๆ ตอนนี้ก็เกินครึ่งแล้ว ถ้าทุกอย่างเป็นอย่างนั้นจริงตาม

      ที่ท่านได้ตรัสไว้ ฉันก็ขออยากให้มีความยุติธรรม ความดีงาม ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ค่ะ แม้จะมีความชั่วเพิ่มขึ้น แต่ก็อยากให้เราปลูกฝังคน

      อื่นๆ ให้เป็นคนดี เหมือนเทียนที่กำลังริบหรี่ แต่มีคนที่คอยรักษาความยุติธรรมอย่างเราพยุงเปลวเทียนนั้นเอาไว้ และจุดส่งเปลวไฟยังเทียน

      อื่นๆ ให้ส่องสว่างขจัดความมืดมนชั่วร้ายออกไป”มิเนะสูดหายใจลึกก่อนพูดประโยคสุดท้าย


      "ถ้าไม่มีคนทำ แล้วใครจะทำล่ะค่ะ" 

      มาดะระได้แต่ยิ้มน้อยๆ
       
       

      วันถัดมา ณ ร้านจิววารี่

      “อยู่ค่ะ แต่อยู่ด้านในร้านค่ะ จะให้เรียกไหมค่ะ”
                

      “ไม่ต้องครับ ผมมาแปปเดียว”เขาหันไปมองกล้องวงจรปิดที่กำลังติดผนังกำแพงด้านหนึ่ง

      “ก็ประมาณว่า....”
               
      “จะดูเทปไหมละค่ะ”เสียงผู้หญิงคนหนึ่งแทรกขึ้นมา ใบหน้าที่ดูเต็งตึงด้วยการฉีดยาของหล่อน ทำให้เธอดูน่ากลัวเวลายิ้ม ผมฟูฟ่องตามแบบ

      ฉบับคุณนาย และชุดสีสดของหล่อนบาดตาพวกเขาทั้งสาม และที่แน่แน่เครื่องประดับเพชร ต่างหู กำไลข้อมือ สร้อยคอ ล้วนเป็นเพชรประกายบาดตาบาดใจเกินชุดของหล่อนอย่างมาก มิเนะตาลุกวาว

                “ดีเลยครับ” 

                “ตามมาสิคะ”ท่วงท่าของหล่อนเวลาเดินต้องดูสง่าตลอดเวลา แต่ทั้งสองเดินตามมาด้วยความรู้สึกขันมากกว่าชื่นชมในความสง่าผ่าเผย

                หล่อนเปิดประตู ห้องหนึ่งภายในห้องมีเทปจัดอยู่บนชั้นอย่างเป็นหมวดหมู่มากมาย

                “นี้คะ ส่วนของเทปโจรขโมยเพชร”มาดะระ เดินไปหยิบแล้วใส่กระเป๋าเป้

                “แต่ผมว่าม้วนเดียวคงไม่พอหรอกครับ”เขายิ้มมุมปาก คุณนายชะงักเล็กน้อยแต่ก็ทำสีหน้าราบเรียบอย่างแนบเนียน 

      “แล้วจะเอาม้วนไหนเหรอค่ะ”
                

      “ม้วนทั้งหมดหลังจากวันนี้สองเดือนครับ”
                

      “เชิญสิค่ะ”


       
      “และคุณจะเอาม้วนเทปก่อนหน้านี้ไปทำไมค่ะ”เจ้าของร้านกล่าว เชิดหน้า
                

      “เรื่อง ของบริษัทรับเหมาที่ถูกยกฟ้องไปครับ”เขาตอบทันที สีหน้าของหล่อนดูซีดลง และก็ยังคงรวบรวมสติเอาไว้
                

      สักพักก็มีผู้ชายสองสามคนเดินเข้ามาถือกระเปาสีดำใบใหญ่ มาดะระจึงบอกให้ขนม้วนเทป จากนั้นพวกเขาก็กลับไปยังสำนักงานอัยการรวมถึงมิเนะ
                

      “เอาทั้งหมดไปวางที่ห้องผมเลยนะครับ”
                

      “มาดะระ ทำอะไรน่ะ”นาซึมาดะถาม ละจากการอ่านหนังสือพิมพ์บนโซฟา มองไปยังพนักงานที่กำลังขนกระเป๋าสีดำหลายใบอย่างทุลักทุเล
                

      “เรื่อง สอบสวนคนขโมยเพชรครับ”มาดะระตอบ แล้วว่าต่อ
                 

      “ผมข้องใจว่าคดีนี้จะเกี่ยวกับคดีบริษัทผู้รับเหมาด้วยครับ และผมก็ได้ยื่นฟ้องต่อท่านประธานอัยการสูงสุดแล้วครับ”


       
      “ทำอย่างนี้ไม่เท่ากับหักหน้า คุณคิมรึไง”
                “ต้องขอโทษด้วยนะครับ ผมขอเข้าไปทำงานก่อนนะครับ”
               

      ขอโทษด้วยนะครับคุณคิม แต่ว่าผมต้องลงโทษคนที่ผิดจริงๆ
               

      “คุณคิม ไม่ต้องสนใจหมอนั้นหรอกครับ มันก็ดื้อรั้นอย่างนี้แหละ”นาซึมาดะปลอบชายวัยกลางคนที่กำลังเปิดเอกสารอ่านคำฟ้องคดีความใหม่ เขาไม่พูดเรื่องใดๆ ทั้งสิ้น และเข้าไปสืบสวนคดีถัดไป

               
                “โอ๊ย ไม่เห็นจะเจออะไรเลยนี่ค่ะ ผ่านไปตั้งสามสิบสองม้วนแล้ว”มิเนะบ่นปาวๆ พลางชงกาแฟสองที่ ให้กับคน

      ที่กำลังนั่งจ้องดูม้วนวิดีโอ เทปถัดไป แล้วมองไปยังนาฬิกาเรือนใหญ่บนฝาผนังห้อง


                ตีสอง
                มิเนะถอนหายใจ


                “นั้นสินะ ไม่เห็นจะเจออะไรเลย”มาดะระพูดหลังจากหยิบกาแฟที่มิเนะชงมาให้ ดื่ม


                “โห พูดให้กำลังใจกันมั้งสิค่ะ ตั้งแต่ทำงานกับคุณ ฉันต้องนอนที่ทำงานทุกวันเลย จนคนในสำนักงานพากันสงสัย”


                “กลับไปนอนที่บ้านสิ”มาดาระพูดด้วยสีหน้านิ่ง ทำเอามิเนะหน้าบูด

                “ยังพูดหักหาญน้ำใจอีก เป็นผู้ช่วยก็ต้องอยู่ด้วยสิคะ”มิเนะว่า จิบกาแฟร้อนๆ แล้วนั่งดูม้วนที่สี่สิบสาม “


      ม้วนนี้ก็คงเหมือนเดิมแหละ ไม่เห็นจะขายดีเลยเพชรเนี่ย ทำไมถึงรวยจัง 


      มิเนะนั่งกอเทปเพลินๆ มีเงาสีดำขนาดใหญ่ ปรากฏขึ้นมา!! เธอสะดุ้งมือหลุดจากตัวกอเทป จากนั้นภาพก็หายไป 


      มาดะระรีบหันมาดูทีวีทางมิเนะทันทีจากนั้นเขาก็กอมันเทป และให้ดำเนินไปอย่างช้าๆ เขาเห็นผู้ชายคนหนึ่งใส่



      ชุดสูทดูดี เดินถือกระเป๋าใบใหญ่ สองใบ คุณนายร้ายเพชรเดินออกมา ชายที่อยู่ด้านหน้าวางกระเป๋า ไม่นานก็มีมือปิด


      เลนส์กล้อง และภาพก็พลันหายไป เหลือเพียงแต่เสียงซา
      ~ ทำให้มิเนะนึกถึงเรื่องเดอะริง


               
      แคร๊ก แคร๊ก แคร๊ก!!!

                เสียงเหมือนกรประตูกำลังจะเปิดออก มีบางอย่างกำลังจะเข้ามา…!!

      หญิงสาวรีบกระเถิบเข้าใกล้ชายหนุ่มที่กำลังจับจ้องประตูบานนั้นอยู่เช่นเดียวกัน ประตูค่อยๆ แงมออกอย่างเบาๆ เพียงเล็กน้อย จากนั้นความ

      เงียบงันครอบคลุมพวกเขาทั้งสอง นัยน์ตาสีดำใสไม่มีแม้แต่กระพริบ ทุกสรรพสิ่งหยุดนิ่งไม่มีสิ่งใดๆ เกิดขึ้นนอกเสียจากเสียงพัดลมดังเอี๊ยดอ๊าด บนเพดานเหนือหัวของพวกเขา
       

                “สงสัยลมพัดมั้ง”มาดะระขมวดคิ้วพูด หญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ ตีหลังไปทีหนึ่ง


                “ลมพัดบ้าอะไรล่ะ!! กรประตูเปิดออกซะขนาดนั้น”

       
      พรึบ

      เศษกระดาษใบหนึ่งปลิวลอดช่องประตูที่แงมอยู่ 



      “มิเนะ เก็บกระดาษเอาไว้”นาดะระบอก และรีบวิ่งออกจากประตูอย่างรวดเร็ว เขาเห็นเงาสีดำทมึนลักษณะคล้ายผู้ชาย และเสียงฝีเท้าดังคล้ายกำลังวิ่ง นาดะระวิ่งตามไป เงานั้นวิ่งเข้าไปในห้องมืด เสียงฝีเท้าของคนร้ายค่อยๆผ่อนลง   


      นาดะระวิ่งเข้าไปในห้องนั้น เขาเปิดสวิตซ์ไฟที่อยู่ข้างประตู ภายในเป็นห้องเก็บของขนาดใหญ่ มีของหลากหลายชิ้นวางระเกะระกะมากมาย หัวใจของเขาเต้นระทึก ดังตุบๆ ค่อยๆ ก้าวทีละก้าว เสียงฝีเท้าดังกัง


      วาลทั่วห้อง สายตาของเขาเหลือบไปเห็น สิ่งหนึ่งที่วาวใสผิดปกติ จึงเดินเข้าไป เป็นรองเท้าวางอยู่ใต้ผ้าคลุมยาวสูงประมาณเท่าคน นาดะระ

      ถอดรองเท้าของตัวเองออก ค่อยๆ เดินอย่างแผ่วเบา ใกล้ขึ้นเรื่อยๆ และดึงผ้านั้นออกมาทันที 



      ใต้ผ้าคลุมนั้น....
       คือ รูปปั้นผู้ชายสูงเท่าคน ที่ปลายเท้าเป็นรองเท้าผู้ชายมียี่ห้อราคาแพง 


      มาดาระรีบหยิบโทรศัพท์มือถือ กดหมายเลขโทรเข้ายังยาม


      “ฮิดะ มีคนแปลกหน้าผ่านไปไหมครับแถวนั้น”


      “ไม่ครับ ไม่มีเลย ทำไมเหรอครับ”


      “มีคนร้ายเข้ามาในสำนักงาน ผมอยากให้คุณฮิดะ ตรวจสอบ ว่ามีทางเข้าออกได้ที่ไหนอีกบ้าง”


      “ได้ครับ ผมจะจัดการให้”


      เขาถอนหายใจ เดินกลับไปห้องอัยการ และพบมิเนะ สีหน้าของหล่อนดูเครียด และยื่นกระดาษใบนั้นให้แก่เขา


      นาดะระเดินเข้าไปหยิบกระดาษใบนั้น ตัวอักษรถูกพิมพ์ขึ้นจากคอมพิวเตอร์ มันเขียนเป็นข้อความสีแดงสด

               
                อย่ายุ่งกับคดีนี้อีก!! ไม่งั้นแกตาย
       
       
      ริมฝีปากของมาดะระยกขึ้นเมื่ออ่านจบ ใส่รองเท้าลงในถุงพลาสติกใสเก็บหลักฐาน มิเนะรีบเดินไปล๊อคประตู เสริมด้วยตัวล็อคอีกหนึ่งชั้น
      “ขอบใจนะที่แกส่งข้อความนี้มา”มาดะระกล่าวด้วยความพึงพอใจ



      “ทำไมถึงยิ้มล่ะ เขาส่งมาขู่แท้ๆ”



      “มิเนะเรากำลังดูเทปของโจรขโมยเพชร และยังไม่มีหลักฐานใดๆ มาผูกมัดว่า คดีนี้เกี่ยวข้องกับคดีบริษัทผู้รับเหมา ซึ่งผมได้บอกกับทุกคนเอา

      ไว้ว่าผมจะสืบคดีของบริษัทรับเหมาอากิยามะ และผมยังไม่ได้ทำคดีอื่นด้วย ผู้ที่น่าคับแค้นใจน่าจะเป็นคนทางบริษัทของผู้รับเหมา เพราะคุณ

      คิมก็ได้จับกุมคนร้ายเรียบร้อยแล้ว ข้อความนี้จึงเป็นการโยงเรื่องของร้านเพชรและคดีผู้รับเหมาเอาไว้ด้วยกัน” 



      “อีกทั้งมีคนรู้เกี่ยวกับคดีความนี้เพียงอัยการ และคนของทางร้านเพชรเท่านั้น”



      “ใช่แล้ว เราได้ตีวงของผู้ต้องสงสัยแคบลงมาอีกนิดนึงแล้ว”

      “มิเนะ อย่าลืมสืบข้อมูลที่อยู่ของคนร้ายขโมยเพชร พรุ่งนี้เราจะไปที่

      นั้น”มาดะระสั่ง 

      “OK”มิเนะตอบยกนิ้วให้แก่มาดะระ ทั้งคู่ยิ้มอย่างพึงพอใจ


               
      สถานีถัดไป เกียวโต

      ทั้งสองลงจากรถไฟฟ้า มิเนะใส่หมวกสีขาว ชุดสีขาวกระโปร่งยาวสบายๆ ส่วนมาดะระใส่เสื้อเชิ้ตคอกลม กางเกงยีนธรรมดา แต่อย่าเข้าใจ

      ผิดทั้งสองกำลังปฏิบัติงาน จากนั้นก็ต่อแท็กซี่ไปยัง บ้านหลังหนึ่ง
      มิเนะกดอ๊อด สักพัก เด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง เดินมาเปิดประตู 

      ผมของเธอเหยียดตรงสีดำ ผมตัดหน้าม้า มาดะระยื่นบัตรอัยการให้ดู แม่ของเธอตามมาจึงเชิญทั้งสองเข้าไปคุยด้านในของบ้าน 


                มิเนะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง อย่างค่อยเป็นค่อยไป แม่ของเด็กหญิงปล่อยโฮออกมาราวกับไม่เชื่อว่าเหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้นได้



                มาดะระเดินไปตามทางเดิน บ้านหลังนี้ดูเหมือนจะเป็นบ้านธรรมดา ของคนธรรมดา และฐานะธรรมดา อะไรทำให้เขาเกิดปัญหาเช่นนี้ได้ 



      เขามองดูกรอบรูปครอบครัวที่แสนจะน่ารัก และอบอุ่น ยิ่งทำให้เขารู้สึกเศร้าใจ เด็กหญิงจับปลายเสื้อของมาดะระเบาๆ พอให้เขารู้สึกตัว มาดะระจึงหันมาทางหนูน้อย วัยสิบขวบ 



      “หนูชื่ออะไร”



      “ฮิโยโกะ”เธอตอบคำถาม จากนั้นก็ลากชายหนุ่ม ไปยังห้องนอนของเธอที่อยู่ชั้นสอง บรรยากาศภายในห้องหวานสมกับเป็นห้องของเด็ก

      ผู้หญิง เธอวิ่งไปหยิบ กุญแจในกล่องที่ซ่อนอยู่ใต้ตู้เสื้อผ้า เปิด
      ลิ้นชัก หยิบกระดาษหลายชิ้นยื่นแก่ชายผู้สูงกว่า


      มันเป็นเอกสารหนึ่งที่มีข้อความเขียนเป็นนัย
       
       ระเบิด เอโดะ 1707 
       
      “พ่อของหนู เก่งประวัติศาสตร์ใช่ไหม”

      หล่อนพยักหน้าไม่พูดอะไร


      “แม่รู้เรื่องนี้หรือยัง”

      หล่อนส่ายหน้า


      “ทำไมไม่บอก”


      “พ่อบอกว่าให้เอากระดาษไปทิ้ง ทิ้งในที่ที่หนูต้องการทิ้งมากที่สุด และหนูต้องการทิ้งให้คุณ”


      “ลักษณะท่าทาง การแต่งกาย วันที่ออกจากบ้าน”เขาเริ่มตั้งใจถามเด็กสาว หนูน้อยเดินไปเปิดสมุด Diary เล่มสีชมพู พร้อมกับอ่านข้อความข้างใน


      “วันที่ 22 กรกฏาคม ตอนนั้นตอนกลางคืนประมาณตีสอง หนูได้ยินเสียงกุกกักเดินผ่านห้องหนูไป แถมหนูปวดฉี่ด้วย หนูก็เลยเดินออกจาก

      ห้อง หนูเห็นพ่อใส่เสื้อสีน้ำตาลเข้ม ถือกระเป๋าใบใหญ่ แถมมีปุ่มเล็กๆ ติดปกเสื้อใกล้ปาก หนูถามว่าคืออะไร พ่อบอกว่า คือ small talk ที่ใช้

      คุยกับเพื่อนพ่อ มีกล้องเล็กๆ ติดที่ มือทั้งสอง รวมถึงบนหัว และเท้าทั้งสองข้างด้วย พ่อบอกว่าจะไปทำงาน ตอนนี้มีงานด่วนต้องรีบไป และให้

      เอากระดาษไปทิ้งในที่ที่หนูต้องทิ้งมาที่สุด หนูรู้สึกสงสัยจึงเก็บกระดาษเอาไว้ให้ค่ะ”



      หืม กันไม่ให้พูด โดยติดเครื่องดักฟัง มันไม่ใช่ small talk แล้วล่ะ ติดกล้องที่มือกันใช้มือเขียนข้อความ 

      ติดกล้องบนหัวกันใช้ปากเขียนข้อความ และติดกล้องที่เท้ากันใช้เท้าเขียนข้อความขอความช่วยเหลือ  แสดงว่า 

      เขาไม่ตั้งใจที่จะเป็นคนร้ายแต่ถูกบีบบังคับจากใครบางคน 


      มาดะระรีบนำกระดาษนี้ไปให้มิเนะ เธอคิดเพียงหนึ่งนาทีก็รู้จุด
      ประสงค์


      “โรงแรมฟูจินาบะ ห้อง 1707 กรุงโตเกียว”หล่อนยิ้ม 


       
      ณ สำนักงานอัยการ

      “คุณครับ ผมอยากให้คุณพูดเกี่ยวกับคดีนี้ มีจุดประสงค์อะไรในการขโมยเพชรครับ”สายตาดำคมของมาดะระ เสียดแทงไปยังชายตรงหน้าที่ได้แต่เหม่อมองพื้นไม่พูดเรื่องใดๆ ทั้งสิ้น 



      “นี้ หลักฐาน ผมสืบแล้วนะครับ ว่าคุณไปกับคุณนายเมงุร้านขายเพชรที่คุณขโมย กับคนทางบริษัทผู้รับเหมาอากิยามะ คุณคงไม่ไปวาง

      แผนขโมยเพชรกับเจ้าของร้านหรอกนะครับ”เขามองหลักฐานด้วยความตกใจแต่ก็ยังไม่ตอบเรื่องราวใดๆ ทั้งสิ้น นาดะระถอนหายใจ เขาให้คุณนายร้านเพชรมาสอบสวนแทน


      “นี้ ฉันไม่ใช่ผู้ต้องหานะยะ มาทำแบบนี้ทำไม”คุณนายเดินเข้ามาในห้องสอบสวน


      “ขอโทษนะครับ แต่ผมขอรบกวนนิดหนึ่ง”


      “มีอะไร”หล่อนว่า เมื่อนั่งลงบนเก้าอี้


      “คนร้ายที่ขโมยร้านเพชร ให้การสารภาพแล้วว่าตนถูกขู่เข็นให้สมรู้ร่วมคิดกับคุณ”


      “อะไรยะ ปลักปลำ คงจะมีใครที่ไหนวางแผนให้โจรมาขโมยร้านเพชรตัวเองหรอกนะ”


      “ใช่ครับ แต่ว่าผมมีหลักฐาน กล้องวงจรปิดที่โรงแรมฟูจินาบะ”นาดะระโยนเอกสารลง ลุกขึ้นยืน ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ มีรูปของเธออยู่กับคน
      ร้ายอย่างชัดเจน ตัวของหล่อนเริ่มสั่น เมื่อความจริงกำลังจะถูกเปิดเผย


      “ยังไงคุณก็ต้องถูกจับอยู่แล้ว ผมยังมีหลักฐานเพียงพอต่อการจับคุณอีกนะครับ ผมขอเพียงข้อเท็จจริง ถ้าคุณให้ความร่วมมือ ศาลจะลดโทษให้นะครับ”


      “สารภาพเถอะครับ”เขาลดเสียงต่ำลง


      “ชะ.....ใช่ค่ะ ตามที่เขาบอกทุกอย่าง ฉันมีหน้าที่ส่งมอบเงินเท่านั้น โดยทำเป็นให้โจรมาขโมย และถูกจับ จากนั้นก็ส่งเงินเป็นเงินขอบ

      คุณแก่อัยการที่ยกฟ้องคดีนี้ ฉันขอพูดแค่นี้เถอะนะค่ะ ขอร้อง”เธอสะอึกสะอื้น ปากของเธอสั่น เริ่มรู้สึกกลัวความผิดที่ตนกำลังจะได้รับ


      มิเนะฉีกยิ้ม มือยังคงจดสมุดโน้ต 


      มาดะระให้เธอไปพักก่อน จากนั้นก็นำโจรขโมยเพชรมาคุยอีกครั้ง


      “คุณนายเจ้าของเพชรสารภาพแล้วนะ เธอบอกว่านายเป็นเครื่องมือในการส่งมอบเงินแก่อัยการคนหนึ่ง สารภาพมาเถอะเรารู้หมดแล้ว”เขาเงียบ


      “ครอบครัวผมปลอดภัยไหม”เขากล่าวอย่างแผ่วเบา


      ”ครอบครัวของผมปลอดภัยรึเปล่า!!!”เขาตะคอกใส่มาดะระเสียงดัง มินะถึงกับสะดุ้งโหยง 


      มาดะระไม่ตอบใดๆ ทั้งสิ้น เขากดโทรศัพท์ ต่อสายไปยังลูกสาวของเขาและยื่นโทรศัพท์นั้นให้


      “ฮัลโฮล สวัสดีค่ะ ฮิโยโกะพูดค่ะ ใครค่ะ”ชายตรงหน้าของมาดะระยิ้มเหมือนจะร้องไห้


      “พ่อเองลูก”เขาพูดสามคำ


      “พ่อเหรอ อยู่ไหนค่ะ หนูคิดถึงพ่อ พ่อกลับมาหาหนูได้ไหม เอาตอนนี้เลย ทำไมพ่อกลับมาช้าจัง”เขากดวางโทรศัพท์ น้ำตาใสของลูกผู้ชายหลั่งไหลออกมา 


      “ผมพาลูก และแฟนคุณมาจากเกียวโตอารักขาอย่างดีครับ ลูกสาวของคุณเป็นเด็กที่เก่งมากครับ ตอนนี้บอกผมมาเถอะครับว่าเกิดอะไรขึ้น”


      เขายิ้มแล้วเริ่มเล่าเรื่องทั้งหมด

       
      ผมชื่อ มาซึดะ สมัครเป็นพนักงานบริษัทรับเหมาอากิยามะ วันหนึ่งผมรู้เรื่องราวเน่าแฟะของบริษัทของการโกงสัมปทาน แต่ระหว่างที่ผมค้น


      หาเอกสารเพื่อเป็นหลักฐานประกอบการยื่นฟ้อง พวกเขาเจอผมเสียก่อน แต่ยังไม่ฆ่าผม ตอนนี้เขากำลังถูกฟ้องด้วย จึงให้ผมเป็นแพะรับบาป 


      โดยการไปนัดคุยที่โรงแรมฟูจินาบะ ติดเครื่องสื่อสารบนตัวผมป้องกันไม่ให้ไปบอกใคร และขู่ว่าถ้าบอกใครก็จะทำร้ายครอบครัวของผม ผมจึง


      ต้องยอมทำตาม คุณเมงุ เจ้าของร้านเพชร เป็นชู้ของคุณอากิยาม่า จึงช่วยตบตาให้ผมไปโขมยร้านเพชร และหลังจากที่อัยการผู้นั้นยกฟ้องให้


      ตามเงื่อนไขที่มันขอ เขาก็จะได้เงินที่ช่วยยกฟ้อง โดยอ้างว่าเป็นเงิน
      รางวัลจากการจับผมครับ


      คำให้การ ณ วันศุกร์ ที่ 25 กันยายาน

       
      มาดะระส่งคำฟ้องต่อศาล ศาลสั่งให้มีหมายค้นบริษัทอากิยามะ มาดะระได้หลักฐานเพิ่มเติมที่บริษัทได้โกงมาก


      มายหลายโครงการ เป็นเวลา ห้า ปี ที่บริษัทอากิยามะต่อสู้ในชั้นศาล และพ่ายแพ้ลง เขาและชู้ถูกจำคุก โดยไม่ให้มี


      การประกัน ภรรยาของเขาขอหย่า บริษัทอากิยามะล่มสลาย ทรัพย์สิน ถูกยึดเข้าหลวง อากิยามะ สบถด่ามาซึดะ


      คุณคิมอัยการคนเก่งถูกจับเช่นกัน และถูกไล่ออกจากงาน 


      แม้จะรู้สึกเสียดายที่เขาเป็นคนเก่งมีความสามารถมาก แต่อัยการจะไม่มีวันรับคนที่ไม่เห็นในความยุติธรรม มาซึดะ 


      กลับไปอยู่กับครอบครัวอีกครั้งและอยู่ด้วยกันอย่างคนปกติทั่วไปโดยปราศจากความเกรงกลัวใดๆ อีก 
       
      “เฮ้อ จบลงไปอีกคดีหนึ่ง”มิเนะยืดเส้นสาย


      “นั้นสินะ”มาดะระตอบ


      “ก็บอกแล้วไงค่ะ ว่าธรรมมะย่อมชนะอธรรม โลกนี้ยังคงมีความ
      ยุติธรรมเหลืออยู่”มิเนะกล่าว


      เขายิ้มกว้างให้กับฉัน….
       
      ก่อนนอนฉันนั่งเขียน Diary เล่าเรื่องราวลงบนสมุดสีชมพูหวานแหววของฉัน รู้สึกภาคภูมิใจ ที่คดีจบลงไปด้วยดี
       
                มาดะระคุณ คือ ผู้ผดุงความยุติธรรมอย่างแท้จริง คุณคือ ฮีโร่ของพวกเรา...
       มิเนะ





       
      นิทานเรื่องนี้มีข้อคิดดีๆ มากมายเช่น การปลุกจิตสำนึกให้คนเราเกิดความรักในยุติธรรม การโกงเป็นสิ่งไม่ดี แม้คุณจะใช่เงินมากแค่ไหน หรือ รวยแค่ไหน สักวันหนึ่งผลกรรมต้องตามมาทันตัวของคุณอย่างแน่นอน  

       
      แล้วคุณละจะไม่ลองเป็นฮีโร่บ้างหรือ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×