Jewel อัญมณีที่สูญหาย - นิยาย Jewel อัญมณีที่สูญหาย : Dek-D.com - Writer
×

    Jewel อัญมณีที่สูญหาย

    พวกเขาพบเจอและผูกพันกันด้วยสายใยแห่งชีวิต ณ ที่แห่งมิตรภาพ เมื่อความวิบัติปรากฏรุนแรงขึ้นพวกเขาจึงต้องผนึกกำลังและช่วงชิงอัญมณีกลับมาก่อนที่ทุกอาณาจักรจะล่มสลาย หากต้องสละ1ชีวิต จะเป็นชีวิตของใครเล่า

    ผู้เข้าชมรวม

    218

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    218

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    2
    หมวด :  แฟนตาซี
    จำนวนตอน :  3 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  8 มิ.ย. 58 / 15:09 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ทางเข้าโรงเรียนเวทเฮลอาเรียคลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่ต่างต้องการเข้ามาจับจองใบสมัครเรียน เพราะไม่ได้รับการคัดเลือกแต่อยากเข้ามาศึกษา ซึ่งทางโรงเรียนจะเปิดรับเป็นรอบพิเศษแต่ต้องได้รับการทดสอบที่แสนโหด ทำให้แทบไม่มีผู้ที่ผ่านเข้ามาได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นก็มีผู้คนอีกเป็นจำนวนมากที่ต้องการสมัคร

    นักเรียนที่ได้รับการคัดเลือกต่างทยอยกันข้ามาทางประตูฝั่งตะวันออก เพราะถ้าเข้าทางประตูใหญ่คงจะเข้ามาไม่ทันการรายงานตัว หนึ่งในนั้นก็มีเด็กหนุ่มผมสีดำสนิท ร่างสูงกำลังนำข้าวของไปไว้ในที่ที่ทางโรงเรียนจัดเตรียม เพื่อนำไปส่งให้ที่ป้อมทันทีที่ได้รับการคัดเลือก เขาเข้ามาลงชื่อแล้วเตรียมหาที่นั่งรอ แต่เมื่อหันไปเห็นเด็กสาวหน้าตาน่ารักผมสีม่วงเป็นประกายสวยที่กำลังนั่งถือเอกสารขึ้นมาดูแล้วดูอีกจนน่าปวดหัว จึงเดินเข้าไปหา

    “มีอะไรให้ช่วยไหม”

    “คือ ฉันเรียงเอกสารไม่ค่อยถูกน่ะค่ะช่วยหน่อยได้ไหม” เด็กสาวเงยหน้าขึ้นมาตอบพลางส่งสายตาอ้อนวอนขอความช่วยเหลือ ดวงตาสีดำกลมโตเปล่งประกายขึ้นอย่างมีความหวัง

    “ได้สิ ส่งมาเดี๋ยวผมจะช่วย” เข้ายิ้มน้อยๆแล้วนั่งลงช่วย สักพักก็จัดทุกอย่างให้เรียบร้อยแล้วส่งคืนให้เจ้าของ ที่นั่งดูด้วยความเขินอาย

    “ขอบคุณมากเลยนะค่ะ ถ้าให้ฉันทำเองไม่รู้จะเสร็จเมื่อไหร่” เธอยิ้มกว้างแล้วกล่าวติดตลก พลางรับเอกสารมาถือไว้ในมือ

    “ไม่เป็นไรครับ” เขาพูดจบแล้วหันหลังเดินออกมา

    “เดี๋ยวค่ะฉันยังไม่รู้จักชื่อคุณเลย” เธอตะโกนออกไปอย่างลืมตัว เด็กหนุ่มหันมาเลิกคิ้วแล้วส่งรอยยิ้มทะเล้นเป็นเชิงล้อมาให้

    “เผื่อคุณจะมีอะไรให้ฉันช่วยบ้างไงค่ะ” คำแก้ตัวต่อมาทำให้ลูฟหลุดหัวเราะออกมาเล็กน้อย ใบหน้าเขินอายของเด็กสาวทำให้เขาขันกับท่าทางเก้ๆกังๆที่เธอแสดง จริงอยู่ที่เขาหน้าตาดีเหตุการณ์ทำนองเดียวกันนี้เคยเกิดขึ้นหลายครั้งจนเขาเริ่มชินเสียแล้ว แต่เด็กสาวคนนี้กลับทำให้เขาขบขันและเอ็นดูไม่ใช่รำคาญเหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ

    “ผมชื่อลูเซียส เรียกลูฟก็ได้ แล้วคุณล่ะ”

    “เมลิน่าค่ะ เมลินเรียกฉันว่าเมลินนะค่ะ” น้ำเสียงตื่นๆและท่าทางเขินอายอดทำให้เขายิ้มกว้างขึ้นไม่ได้

    “แล้วเจอกันนะครับ เมลิน” เขาตอบ

    “ค่ะ” พูดจบเมลิน่าก็หันหลังเดินไปยังโต๊ะติดต่อเอกสารด้วยท่าทาแปลกๆ จนเขาอดหัวเราะและส่ายหัวน้อยๆให้กับความเขินอายจนเกินเหตุของสาวเจ้าออกมาไม่ได้

     

    วันนี้นักเรียนที่มานั่งรอการคัดเลือกมีเพียงชั้นปีที่หนึ่ง เพียงปีเดียวเท่านั้น ส่วนรุ่นพี่ทั้งหลายต่างก็ได้รับมอบหมายหน้าที่ ทั้งตรวจเอกสาร ดูแลรุ่นน้อง และประสานงานต่างๆ พื้นที่ทั้งหมดจึงเต็มไปด้วยผู้คนที่เดินกันขวักไขว่ เสียงตะโกนโหวกเหวกดังไปทั่วบริเวณ ทุกคนต่างวุ่นวายอยู่กับหน้าที่ แต่ยังมีเด็กสาวอีกคนหนึ่งที่นั่งรอการคัดเลือกอยู่บนเก้าอี้ด้วยอาการสงบ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มคู่งามมองกวาดไปรอบๆอย่างคนช่างสังเกตแต่ไม่มีแววของความตื่นเต้นอยู่ในนั้นเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามกลับมีแววไม่ชอบใจเล็กๆกับสถานที่ที่ไม่ค่อยมีร่มไม้ในรัศมีรอบปราสาทมีเพียงสนามหญ้ากว้างใหญ่แต่ต้นไม้นั้นต้องเดินออกไปอีกจนเกือบถึงเขตป่าจะมีประปรายบ้างตามหน้าป้อมต่างๆ

    “เหมือนมาอยู่คนละโลกกับเวียโรน่าเลยเนอะ ฮาฟ” ภูตประจำตัวของฮาร์โมนี่เอ่ยขึ้นผ่านจิตที่สื่อถึงกันโดยไม่ต้องคำพูด ร่างเล็กนั่งอยู่บนไหล่มนที่ถูกปิดด้วยชุดประโปรงสีฟ้าอ่อนสะอาดตายาวแค่เข่า แขนเสื้อตั้งแต่ไหล่ลงไปถึงข้อมือเป็นผ้าลูกไม้บางๆสีขาวสวย ขับให้ผู้สวมใส่ดูสวยหวานราวเจ้าหญิงมากยิ่งขึ้น

    “นั่นสิ หญิงอยากกลับบ้านจังเลย ฟอตตี้” ฮาร์โมนี่ตอบกลับทางเดียวกันเพราะไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าเธอมีภูตประจำตัวมาด้วย

    “ฮาฟ อย่าดื้อนะเธอต้องออกมารู้จักโลกภายนอกบ้าง วันๆคุยอยู่แต่คนในวัง สัตว์แล้วก็ภูตในป่า เธอต้องมีเพื่อนเป็นมนุษย์บ้างนะ”

    “หญิงรู้แล้ว ไม่ต้องย้ำหรอก ฟอตตี้พูดเหมือนเสด็จแม่เลยนะ รู้ตัวไหม”

    “จะบอกว่าฉันขี้บ่นเหมือนแม่เธอใช่ไหมล่ะ ไม่ต้องมาพูดอ้อมเลย”

    “หญิงไม่ได้หมายความแบบนั้นซะหน่อย หญิงหมายถึงฟอตตี้ ดูแลเป็นห่วงหญิงเหมือนเสด็จแม่ต่างหาก” เด็กสาวรีบอ้อน

    ตั้งแต่เล็กจนโตเธออยู่กับฟอตตี้มาตลอดจนเหมือนเป็นคนๆเดียวกัน เธอรักและแคร์ฟอตตี้มากเช่นเดียวกับภูตตนน้อยที่ผูกพันกับเธอมาก หากครั้งใดที่เธอทะเลาะกับฟอตตี้ แล้วทำให้ภูตน้อยโกรธ นางก็มักจะหายตัวไปไม่ยอมออกมาคุยด้วย จนเธอร้องไห้เสียหลายครั้งกว่านางจะยอมใจอ่อนออกมาพบ ดังนั้นเมื่อนางทำท่าไม่พอใจ เธอก็มักจะอ้อนให้หายโกรธ ภูตฟอตตี้เป็นเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่เธอมักจะทำตัวกลับมาเป็นเด็กๆด้วยเสมอ เพราะในสายตาของนางเธอก็เป็นเพียงเด็กตัวน้อยอยู่วันยังค่ำ

    “ให้มันจริงเถอะ” ฟอตตี้เอ่ยแล้วหันมาส่งค้อนให้เด็กสาวที่ยิ้มน่ารักกลับมาเป็นตอบแทนจนนางเองก็โกรธไม่ลง

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น