ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Knb | fanfic || OC] Inori no Sora ท้องฟ้าแห่งคำอธิษฐาน(Rewrite)

    ลำดับตอนที่ #4 : นิจูจัง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.18K
      69
      20 ก.ย. 63

    จะว่าฮัตสึกะเป็นน้องสาวของอาคาชิ เซย์จูโร่หรือก็ไม่เชิง 

     

    บ้านเราอยู่คนละเขต แถมยังไม่ค่อยได้พบเจอหน้ากันเลยถึงแม้ว่าจะมีต้นตระกูลเดียวกันก็ตาม

    ตอนประถมก็เรียนอยู่คนละโรงเรียน ม.ต้นค่อยได้มาเจอกันเพราะว่าคุณปู่กับคุณย่าบอกให้มาอยู่กับบ้านอาคาชิไปก่อน

     

    เธอน่ะเรียนอยู่ชั้นเดียวกันกับเขาแล้วยังอายุเกือบเท่า ๆ กัน  แถมเกิดหลังอาคาชิแค่ 6 เดือนเอง แต่ถึงกระนั้นอาคาชิก็มองว่าเธอเป็นน้องสาวของตัวเอง

     

    ฮัตสึกะความจริงแล้วเป็นชื่อของเธอที่พ่อแม่ตั้งมาจากวันเกิด

     

    เธอเกิดวันที่ 20 เดือนมิถุนายน พ่อกับแม่เลยตั้งชื่อตามวันเลยได้ชื่อว่า ฮัตสึกะ

    ด้วยความที่ว่าเกิดวันที่ 20 และมันพ้องเสียงกับฮัตสึกะที่แปลว่า ฤดูร้อนแรกด้วย เนื่องจากเธอเกิดในเดือนมิถุนายนซึ่งเป็นฤดูร้อนพอดี

     

    ที่แท้พ่อกับแม่ก็แค่อยากเล่นมุกพ้องเสียงชัด ๆ !

     

     

     

     

     

     

     

    [ 20(วัน) อ่านว่า ฮัตสึกะ ; (はつか) และคำนี้ก็เช่นกัน 初夏 อ่านว่า ฮัตสึกะ แต่แปลว่าฤดูร้อนแรก และชื่อคันจิของฮัตสึจังก็เขียนแบบ ‘ฤดูร้อนแรก’ ค่ะ]

     

     

     

     

     

     

     

     

    ตอนที่เพื่อน ๆ รู้ว่าชื่อมีความหมายว่ายังไงก็ตั้งชื่อเล่นให้ว่า ‘นิจูจัง’ แล้วต่อมาก็ย่อเหลือ นี่จังเฉย ๆ เลย

     

    แต่ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่ชอบนะ เธอออกจะชอบชื่อนั้นด้วยซ้ำไป 

    เพื่อนสมัยประถมของเธอที่เรียนมาด้วยกันก็ยังคงเรียกเธอว่านี่จังเหมือนเดิม ยกตัวอย่างง่าย ๆ ก็เพื่อนคนผมดำคนนั้นนั่นแหละ (ใช่แล้ว คนที่ไปช่วยโมโมอิจังด้วยกันวันนั้นน่ะ)

     

    เธอคนนั้นชื่อว่า มิซากิ ริตะ เธอมีผมดำตัดสั้นและดวงตากลมโตสีดำสนิทส่วนผิวขาวจนเหมือนเกล็ดหิมะทำให้รู้สึกว่าเธอเหมือนแมวเลย พวกแมวที่หัวดำแล้วก็ตรงคางกับจมูกขาวน่ะ

     

    ริตะเป็นเพื่อนกับฮัตสึกะมาตั้งแต่จำความได้ พ่อแม่ของพวกเราต่างแข่งกันอวดเรื่องความน่ารักของลูกตัวเองจนในที่สุดก็สนิทกันไปโดยปริยาย แล้วเราก็สนิทกันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

     

    (แต่เวลาที่เธอจะหยอกล้อฮัตสึเธอก็จะเรียกชื่อจริงของอีกฝ่ายแทนชื่อเล่น)

     

     

    โชคดีจริง ๆ ที่ริตะจังได้เข้ามาเรียนที่เทโควด้วยกัน

    ทว่าน่าเสียดายที่เข้าชมรมวอลเล่บอลแทนแต่ก็น่ายินดีที่กำลังสร้างชื่อเสียงมากมายในฐานะเซ็ตเตอร์สุดเก่งของทีมม.ต้นหญิงโรงเรียนเทโคว

     

    ริตะชวนให้ฮัตสึกะเข้าชมรมวอลเล่บอลแข่งกับโมโมอิที่ชวนเธอเข้าชมรมบาสอยู่พักหนึ่ง ถึงแม้ว่าผลที่ออกมาจะไม่ทำให้เด็กสาวผมดำประทับใจมากเท่าไหร่แต่ริตะบอกกับตัวของเธอว่า

     

    ถ้าเธอชอบและตั้งใจจะทำมันอย่างเต็มที่ ฉันก็ไม่ขัดอะไรหรอกนะ’ พลางยิ้มให้แล้วแลบลิ้น 

    แต่ฉันขอนำไปก่อนล่ะ คราวนี้ ฉันจะไปหาวิงสไปเกอร์คนใหม่มาแทนเธอ’

     

    ฮัตสึกะหัวเราะ 

    ไม่มีทางซะหรอก ไม่มีใครเป็นวิงสไปเกอร์ให้เธอดีได้เท่ากับฉันหรอกนะ’

     

    และหลังจากนั้นมา ริตะก็จะเดินมาที่โรงยิมเพื่อส่งให้เธอไปเข้าชมรมและดูว่าเธอจะเป็นพวกบ้างานหรือเปล่าแล้วก็จะเดินไปทางโรงยิมของตัวเอง เป็นแบบนี้ประจำ

     

     

     

     

     

     

    -------------------------------------

     

     

     

     

     

     

     

    ฮัตสึกะไม่ได้ชอบวอลเล่บอลน้อยลง แต่เพียงแค่ชอบบาสเกตบอลมากขึ้นเท่านั้นเองและเธอสัญญากับตัวเองไว้ว่าจะไล่ตามริตะให้ทันและไปเจอกันในม.ปลายให้ได้ แต่ตอนนี้เธอแค่คิดอะไรบางอย่างอยู่

     

    เหตุผลที่เข้าชมรมบาสมาในฐานะของเมเนเจอร์นั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่แปลกประหลาดอะไร มันก็เพราะว่าเธอสนใจแค่นั้นเอง และดูเหมือนว่าจะมีคนที่นิสัยคล้าย ๆ เธอ(แต่ร่าเริง, หยิ่งยโสกว่าและมีพรสวรรค์)โผล่มาที่หน้าประตูโรงยิม

     

    เธอไม่ได้ว่าอะไรหรอกนะถ้าเขาแค่จะมาแอบดูชายหนุ่ม(อาโอมิเนะ)ในชุดออกกำลังกายชุ่มเหงื่อวิ่งเดาะลูกบาสไปมาพร้อมกับเสียงรองเท้าเอี๊ยดอ๊าดบาดแก้วหู

     

    แต่ขอล่ะ อย่าบังทางเข้าออกได้ไหมล่ะเนี่ย

     

    ขอโทษด้วยนะคะ”

     

    เขาทำหน้าตกใจเหมือนเห็นผีสักพักแล้วก็ยอมขยับให้เธอแต่โดยดี เพราะตอนนี้ในมือของเธอนั้นคือลังกระดาษขนาดใหญ่ที่ภายในมีพวกขนมและของว่างซ้อนกันถึงสองกล่อง เด็กหนุ่มผมสีเหลืองที่กำลังจะถามว่าให้เขาช่วยไหมก็นิ่งชะงักไปเพราะว่าเด็กสาวที่เดินผ่านเขาไปตัดบทพูดขึ้นมาก่อน

     

    ไม่เป็นไรหรอกนะคะ มันเบาพอสมควรเลยแถมยกแปปเดียว ถ้าคุณเข้าไปอาจจะโดนลูกบาสเด้งใส่ก็บาดเจ็บได้นะ แถมอีกอย่างโค้ชไม่ค่อยอยากให้คนแปลกหน้าเข้าไปยุ่งย่ามในการซ้อมน่ะค่ะ”

     

    เด็กชายเจ้าของผมสีเหลืองเหงื่อตก 

     

    แต่ว่าถ้าจะยืนอยู่ตรงนี้ต่อไปก็ได้นะคะ ไม่มีใครว่าหรอกค่ะ”

     

    ฮัตสึกะยิ้มให้เขาแล้วเดินเข้าไปในโรงยิมก่อนที่เหล่าเด็กชายที่ถูกปล่อยให้พักจะวิ่งกรูกันเข้ามาล้อมตัวของเด็กสาวผมสีน้ำตาลด้วยความตื่นเต้นที่จะได้กินขนมและน้ำในเวลาพัก

     

    หลังจากที่ผู้จัดการคนรองแจกจ่ายขนมเสร็จแล้วก็เหลือแต่เพียงแค่อีกลังหนึ่งซึ่งเธอยกไปให้เด็กหนุ่มผมสีม่วงที่ยืนคอยน้ำลายหยดและยิ้มเมื่อได้รับกล่องลังนั้นจากมือของฮัตสึกะ

     

    คิเสะ เรียวตะคิดว่าบาสเกตบอลนั้นน่ามหัศจรรย์มากและไม่น่าเบื่อในเมื่อมีคนระดับเขาอยู่ตั้งหลากหลายคน

     

     

     

     

     

     

     

     

    -----------------------------------

     

     

     

     

     

     

     

     

    ฮัตสึกะเก็บผ้าและขวดน้ำไปทำความสะอาดช่วยโมโมอิอีกแรง เธอล้างขวดน้ำและเอาไปผึ่งไว้ ส่วนโมโมอิกำลังเก็บขวดน้ำที่แห้งแล้วไปไว้ที่ห้องเก็บของตามเดิม ส่วนนักกีฬาชายคนอื่น ๆ ในชมรมก็วิ่งช่วยกันเก็บลูกบาสที่กลิ้งเกลื่อนไปมาในโรงยิมให้อยู่ในตะกร้า

     

    ฮัตสึกะ ซัตสึกิ หลังจากเก็บของเสร็จแล้วก็เจอกันที่หน้าโรงยิมนะ” อาคาชิกล่าวก่อนจะหันไปพูดคุยกับรุ่นพี่นิจิมุระต่อ

     

    คงจะเป็นเรื่องของแผนการเล่นที่อยากจะดูข้อมูลและสถิติจากเล่มบันทึกของโมโมอิสินะ

     

    ฮัตสึกะคิดว่าหลังจากนี้คงจะไปซื้อนมมาดื่มหลังจากที่เก็บของเสร็จแล้วก่อนจะกลับบ้าน แต่ว่านมคงต้องรอไปก่อน วันนี้เธอคิดว่าจะต้องได้กินข้าวอีกทีสามทุ่มแน่ ๆ 

     

    งั้นก็... ซื้อข้าวไปกินด้วยเลยดีกว่า วันนี้อาหารลดตอนสามทุ่มพอดีเลย

     

    ในระหว่างที่กำลังคิดเรื่องอาหารที่อยากจะกินเป็นข้าวเย็น ระหว่างข้าวหน้าปลาทูน่าหรือว่าข้าวหน้าไข่หวานดีอยู่นั้น ฮัตสึกะก็นึกขึ้นได้อีกเรื่องหนึ่ง

     

    ประหยัดค่ารถติดไปกับพี่เซย์ดีกว่า!

     

     

     

     

     

     

     

     

    ---------------------------------------

     

     

     

     

     

     

     

     

    ขอบคุณมากเลยนะคะ” ฮัตสึกะโค้งให้กับเซย์จูโร่และคนขับรถของเขา(พยายามซ่อนยิ้มของตัวเองให้มากที่สุด)

     

    วันพรุ่งนี้ต้องมารับไหม?” อาคาชิถามพลางเดินไปส่งเธอถึงหน้ารั้วบ้านขนาดใหญ่(แต่ก็ไม่ใหญ่เท่าบ้านตัวเอง)

     

    ไม่หรอกค่ะ วันพรุ่งนี้ฉันจะไปเช้ากว่าเดิมนิดหน่อย จะได้ไปเตรียมโรงยิมให้ซ้อมตอนเช้าได้ทัน” ชายผมสีแดงยิ้มเล็กน้อยก่อนจะขอบคุณลูกพี่ลูกน้องของตัวเอง 

     

    ขอบคุณมากเลยนะ เธอช่วยแบ่งเบาได้เยอะเลย แต่ว่าไม่ต้องหักโหมมากเกินไปก็ได้ ใครไปถึงก่อนก็เปิดยิมเป็นปกติไม่ต้องรีบขนาดนั้น”  

     

    ฮัตสึกะยิ้มตอบอาคาชิ เธอไม่อยากจะบอกว่าเหตุผลจริง ๆ แล้วคือเธอน่ะหนีการพบหน้าของสุมิชิดะซังอยู่ต่างหากเลยต้องไปเช้า ๆ น่ะ 

     

    เรื่องของวันที่ผ่านมา เกี่ยวกับสุมิชิดะซังกัปตันชมรมเทนนิสใช่ไหม?”

     

    แต่จู่ ๆ การเปลี่ยนเรื่องของอาคาชิก็ทำให้เธอเหงื่อตก รอยยิ้มเดิมของเด็กสาวเหือดแห้งลงอย่างเห็นได้ชัดจากก่อนหน้านี้

     

    ก็... ใช่ค่ะ” เธอถอนหายใจ “แต่ไม่เป็นไรหรอกนะคะ”

     

    ไม่เป็นอะไรได้ยังไงล่ะ” 

     

    สีหน้านิ่งเรียบของอาคาชิ เซย์จูโร่ทำให้ฮัตสึกะสะดุ้ง ปกติเธอไม่เคยโดนพี่เซย์ทำเสียงแข็งใส่เลยยังไม่ค่อยชินกับเสียงแบบนี้แต่เธอมักจะได้ยินบ่อย ๆ ตอนเขาเรียกคนในทีมไปคุยด้วย ถึงจะไม่ได้โดนเรียกกับตัวตอนนั้นยังขนลุกเลย...

     

    ฉันเข้าใจนะว่าเธอสามารถปกป้องตัวเองได้ และถึงขั้นที่จะทำให้บุคคลนั้นลงไปกองกับพื้นได้ ถ้าเป็นตามปกติ(พวกนักเลงข้างถนน)ฉันคงไม่เป็นห่วงเท่าไหร่ แต่ว่าเขาเป็นนักกีฬาโรงเรียน”

     

    ใช่ ฮัตสึกะคิดในใจ 

    นักกีฬาโรงเรียนมีเรื่องด้วยไม่ได้เด็ดขาด และถ้าทางโรงเรียนรู้เรื่อง จะมีแต่ฝ่ายคนที่เริ่มก่อนเท่านั้นเสียหาย

     

    ไม่ยุติธรรมกับคนที่ถูกคุกคามก่อนจริง ๆ 

    .

    .

    .

     

     

    ดังนั้นให้ลงมือนอกสถานศึกษาซะ”

     

     

    เอ๊ะ?

     

     

    เดี๋ยวนะคะ” 

     

     

     

     

     

     

     

    ---------------------------------------------

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×