คงเป็นอะไรที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ปี 2010 คืออีกหนึ่งปีแห่งจุดสูงสุดของเกิร์ลกรุ๊ป โซนยอชิแด วง 9 สาววงนี้ได้ยกระดับพวกเธอขึ้นกลายเป็นเทรนด์ใหม่แห่งยุค มันคงเป็นไปไม่ได้เลยหากไม่เอ่ยชื่อของพวกเธอ เมื่อพูดถึงแฟชั่นหรือวัฒนธรรมแห่งประเทศเกาหลีใต้

โดยเฉพาะความจริงที่ว่า โซนยอชิแด ได้เดบิ๊วท์เข้าสู่ตลาดเพลงญี่ปุ่นในปีนี้ และเพียงเดือนเดียวให้หลัง ชื่อของ โซนยอชิแด ก็โผล่ ณ จุดสูงสุดแห่งชาร์ตเพลง Oricon มันคือสายฝนแห่งรางวัลที่ตอบแทนพวกเธอในช่วงท้ายปี โซนยอชิแด คว้ารางวัล 'ดิสก์แดซัง' ในงานมอบรางวัล '2010 Golden Disk Awards' และ '2010 Melon Music Awards' รวมถึงรางวัลเพลงแห่งปีในงาน '2010 KBS Gayo Daejun' อีกด้วย

ในที่สุด สาว ๆ โซนยอชิแด ก็มานั่งจับเข่าคุยนึกย้อนกลับไปถึงความสำเร็จในปีที่ผ่านมา:

หลังจากได้รับรางวัล 'ดิสก์แดซัง' พวกคุณฉลองกันยังไง? มีปาร์ตี้บ้างรึเปล่า?

แทยอน: "น่าเสียดายที่พวกเราไม่สามารถฉลองแบบใหญ่ ๆ ได้เนื่องจากตารางงาน ดังนั้นเราจึงเดินทางไปยังร้านอาหารพร้อมกับสต๊าฟเพื่อทาน เนื้อย่าง(ซัมกยอบซัล) และพูดคุยกันถึงเรื่องราวต่าง ๆ ค่ะ ทุก ๆ คนแฮปปี้กับรางวัลที่ได้รับ แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกผิดด้วย พวกเราคิด 'ทำไมเราถึงได้รางวัลนี้นะ' ในช่วงหลังนี้พวกเราเข้าใจแล้วว่ามันยากที่จะพยุงความสำเร็จที่เราได้สร้างขึ้น โซนยอชิแด ไม่สามารถชนะทุกอย่างได้ สิ่งเดียวที่พวกเราทำได้คือโชว์ความเป็นตัวตนของ โซนยอชิแด บนเวทีค่ะ"

ได้ยินมาว่า ทิฟฟานี่ พลาดฉากสำคัญไปเพราะอาการบาดเจ็บที่เข่าของคุณ แต่คุณก็ได้ดูโทรทัศน์ที่บ้านใช่มั้ย?

ทิฟฟานี่: "ฉันกรีดร้องภายหลังคำว่า 'ดิสก์แดซัง... โซนยอชิแด' ถูกประกาศและร้องไห้เลยค่ะ ก่อนที่สมาชิกจะเดินทางไปยังงานมอบรางวัล ฉันหยอกเล่นว่า 'ถ้าพวกเธอไปเก็บรางวัลใหญ่ ๆ มาไม่ได้ ก็ช่างมันเถอะนะ' แถมฉันยังคิดไปเองคนเดียวว่าจะทำอย่างไรหากสมาชิกแต่ละคนเกิดเศร้าขึ้นมาหากไม่สามารถชนะรางวัลอะไรได้ ฉันเลยคิดว่าน่าจะไปซื้อข้าวอร่อย ๆ เข้ามาเตรียมไว้ให้ แต่ช่วงเวลาที่ โซนยอชิแด ชนะ ฉันส่งข้อความหาสมาชิกด้วยคำว่า 'แดบัก!(สุดยอด)' และโวยวายตัวคนเดียวสักพักหนึ่ง มันเหลือเชื่อมากค่ะ"

หลายคนพูดว่า เมื่อใดก็ตามที่ก้าวขึ้นสู่เวที "เราจะไม่ลืมความคิดครั้นตอนยังเป็นหน้าใหม่อยู่" หรือ ไม่ลืมตัวตนที่แท้จริงนั่นเอง โซนยอชิแด คิดยังไง?

แทยอน: "พวกเราคิดถึงสมัยเด็กฝึกอยู่เสมอค่ะ เหมือนตอนเวทีเดบิ๊วท์ 'Into The New World' พวกเราคิดเสมอว่ามันเสียเวลาเหลือเกินที่ต้องเดินทางจาก ห้องฝึกซ้อม กลับไปนอนที่หอพัก ดังนั้นเราจึงเตรียมถุงนอนเอาไว้ในห้องซ้อมเสมอค่ะ แน่นอนว่าพวกเราไม่ควรลิมวินาทีที่หัวใจเต้นแรงครั้งแรกบนเวทีนั้น"

เมื่อพวกคุณชนะรางวัล 'ดิสก์แดซัง' มีภาพของ ซูเปอร์จูเนียร์-ซีวอน สวมกอด ซูยอง ผู้เปี่ยมไปด้วยน้ำตาแพร่กระจายไปทั่วและกลายเป็นเรื่องพูดคุยในเวลาต่อมา สมาชิกคนอื่น ๆ คิดอย่างไรกัน?

ฮโยยอน: "ทุกคนคิดว่ามันตลกมากค่ะ ซูยองพูดเองเลยว่า 'ถ้ามีข่าวลือว่าฉันเดทกับพี่ซีวอนล่ะก็ ฉันถือว่าเป็นเกียรตินะ' ซึ่งภาพแคปเจอร์ภายใต้กระทู้ 'ความสัมพันธ์ของซีวอนและซูยอง' กลายเป็นคำค้นหาเบอร์ #1 ในช่วงเวลาอันสั้น พวกเราเสียดายที่มันไม่จริง แต่สมาชิกคนอื่น ๆ ก็แซวแสดงความยินดีต่อซูยองกันถ้วนหน้าเลนค่ะ"

ซูยอง: "หลังจากงานในคืนนั้น ฉันพบพี่ซีวอนอีกครั้งในห้องแต่งตัวรายการ KBS 2TV 'Music Bank' และกล่าวขอบคุณต่อเขา ฉันไม่รู้ว่าเป็นเพราะนิสัยเข้ากับคนง่ายของฉันรึเปล่า แต่ฉันไม่เคยตกเป็นข่าวถึงแม้ฉันจะใกล้ชิดกับดาราชายคนไหนเลยนะคะ น่าเศร้าใช่มั้ยล่ะคะ? ดังนั้นฉันจึงรู้สึกซาบซึ้งที่ได้ตกเป็นข่าวลือกับผู้ชายเท่ ๆ กับเขาบ้าง ฮ่าฮ่า"



โซนยอชิแด ประสบความสำเร็จมากมายนับไม่ถ้วนในปี 2010 มันเป็นอีกปีที่ โซนยอชิแด ต้องแอคทีฟตลอดปี แต่สำหรับสมาชิกแต่ละคนล่ะ อะไรคือความสนุกของรางวัลรวมถึงสิ่งตอบแทนในปีนี้?

ฮโยยอน: "ฉันซื้อบ้านให้พ่อแม่ของฉันค่ะ มันดีกว่าบ้านหลังเก่าอยู่โข เป็นอพาร์ตเมนต์แถบอินชอนน่ะค่ะ ฉันรู้สึกดีมากเลยทีเดียว"

ซูยอง: "ในที่สุดฉันก็ได้ซื้อกระเป๋าใบที่เล็งมานานค่ะ มันไม่ได้แพงอะไรมากมาย แต่เป็นใบที่ไม่ได้ถูกนำเข้าในประเทศ ฉันกระวนกระวายเอามาก ๆ ที่ยังไม่ได้รับมันสักทีหลังจากที่ฉันสั่งซื้อออนไลน์ แต่ในที่สุดมันก็มา และมันเป็นของขวัญสำหรับตัวฉันเองในปีนี้ค่ะ"

แทยอน: "ระหว่างการถ่ายทำโฟโต้ชู๊ตใน ภูเก็ต มันเป็นทั้งงานและการพักผ่อนไปในตัวค่ะ ดังนั้นสมาชิกและสต๊าฟต่างมีช่วงเวลาที่สนุกสนาน พวกเราได้ว่ายน้ำและเอ็นจอยกันสุดเหวี่ยง ณ ตอนนั้นฉันไม่ได้คิดคาดหวังอะไรมากมาย รวมทั้งสมาชิกด้วย แต่ความสุขนั้นช่างเหมือนฝันเลยค่ะ หลาย ๆ คนคงคิดว่า 'แล้วมันยังไง?' อันที่จริงสำหรับดาราอย่างพวกเราแล้ว การได้มีวันปกติธรรมดาสักวันหนึ่งมันคือพรดี ๆ นั่นเองค่ะ"

ซันนี่: "ความสุขแบบนี้คือสิ่งที่จะฝังอยู่ในความทรงจำของพวกเราเสมอ ในช่วงฟุตบอลโลกก็เหมือนกัน สมาชิกทุกคนซื้อเสื้อสีแดงมา และเชียร์นักเตะทีมชาติของเรา มันตื่นเต้นมากค่ะ"

ยูริ: "การได้ใช้ชีวิตแบบ 'เด็กนักเรียน' ทุก ๆ ครั้งที่ฉันไปเรียนเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของฉัน แม้ฉันจะไม่สามารถมีความสัมพันธ์หรือไปเที่ยวที่ไหนได้ แต่การกินข้าวในโรงอาหารกับเพื่อน รวมถึงการเดินไปทั่วแคมปัสนั้นช่างสนุกจริง ๆ ค่ะ ฉันยังหยอกล้อกับเพื่อน ๆ ด้วยการทำท่าทางทะเล้นในวิชาการแสดงอีกด้วย"

เจสสิก้า: "ส่วนฉันซื้อรถให้พ่อแม่ของฉันค่ะ ฉันจ่าย 80% ส่วนอีก 20% ได้คริสตัลช่วยค่ะ"

มีความผิดหวังในปี 2010 บ้างมั้ย? สิ่งที่อยากทำในปีหน้าล่ะ?

แทยอน: "ตอนที่พี่ชายของฉันถูกเกณฑ์ทหาร ฉันเองก็ไม่สามารถไปเยี่ยมเขาได้ ตั้งแต่การระเบิด ณ เกาะยอนปยอง ฉันได้ยินมาว่าเหล่าทหารแทบไม่มีเวลาพักเลย ความคิดที่ว่าฉันอาจไม่ได้คุยกับพี่ชายอีกวนเวียนอยู่ในหัวฉัน สิ่งที่ฉันพอทำได้มีแค่การส่งลายเซ็น 15 ชุดไปให้เท่านั้น ฉันหวังว่าสถานการณ์จะดีขึ้นในอีกไม่ช้า เพื่อที่ฉันจะได้พบพี่ชายอีกครั้งน่ะค่ะ"

ฮโยยอน: "ฉันแทบไม่มีเวลากับครอบครัวเลยค่ะ ฉันอยากใช้เวลากับพวกเขาในอพาร์ตเมนต์ใหม่ สนุกสนานด้วยกันบ้าง"

ซูยอง: "ฉันอยากไปเรียนค่ะ... แต่ยังไม่มีการตัดสินใจในปีนี้"

ทิฟฟานี่: "ฉันรู้ซึ้งแล้วว่าการมีสุขภาพที่ดีคือสิ่งสำคัญที่สุด ฉันต้องใส่เฝือก 3 ครั้งในปีนี้ ฉันประสบอุบัติเหตุระหว่างการร่วมรายการ 'Dream Team' ทำให้ข้อมือบาดเจ็บ ก่อนจะเป็นข้อเท้าในช่วงเตรียมการคอนเสิร์ต คราวนี้เอ็นไขว้หน้าตรงหัวเข่าของฉันฉีกขาด ฉันทุ่มเทให้แก่มินิ-อัลบัม 'Hoot' นี้มาก แต่ทุก ๆ อย่างกลับพังไม่เป็นท่า นั่นทำฉันเจ็บปวดมากค่ะ

ถึงอย่างนั้น ฉันก็ได้เข้าใจถึงความสำคัญของงาน รวมถึงเพิ่มความมุ่งมั่นที่จะกลับไปยืนบนเวทีอีกครั้ง เมื่อใดก็ตามที่ฉันหงุดหงิดที่ไม่สามารถทำอะไรได้ สมาชิกในวงจะปลอบฉันว่า 'วันหนึ่งเธอจะกลับขึ้นเวทีด้วยแรงบันดาลใจในดวงตาอีกครั้ง' การที่ได้รู้ว่าแฟน ๆ รู้สึกว่า โซนยอชิแด จะสมบูรณ์ได้ก็ต่อเมื่อมีสมาชิก 9 คนนั้น ทำให้ฉันกลั้นน้ำตาไม่อยู่เลยค่ะ ดังนั้นในช่วงที่ฉันต้องพัก ฉันฝึกภาษาญี่ปุ่น ก่อนหน้านี้ ซูยอง คอยติว่าฉันไม่เก่งในด้านภาษาอยู่เรื่อง แต่ตอนนี้ฉันเริ่มได้รับคำชมบ้างแล้วค่ะ"

คุณบอกว่าชื่อของ โซนยอชิแด มีภาระอันหนักอึ้งอยู่ มันรู้สึกยังไงกับการที่ได้เป็นสมาชิกของ โซนยอชิแด ที่ต้องใช้ชีวิตแบบนี้?

เจสสิก้า: "พวกเราแฮปปี้ค่ะ แต่ก็มีบ้างที่เรื่องเล็ก ๆ พาเราเศร้าได้ ลองมาคิดดูแ้ล้ว นิ้วเท้า, เล็บมือ, ผม และเท้าของพวกเราต้องทำงานหนักไม่มีหยุดเลย เพราะพวกเราต้องคอยทำให้สิ่งที่ว่านี้ดูดีและสะอาดอยู่เสมอ อย่างเช่น ผมของพวกเราถูกย้อมแล้วย้อมอีก เปลี่ยนสีไปเรื่อย รวมถึงถูกดัดเปลี่ยนทรงตลอดเวลา จนถึงจุดที่ว่ามันเสียหายเหลือเกิน นอกจากนี้การที่พวกเราต้องเต้นในส้นสูงไม่มีหยุดหย่อน ทำให้เท้าของพวกเราน่าเกลียดไปแล้วค่ะ"

นี่เข้าสู่ปีที่ 4 แล้วหากนับตั้งแต่ปี 2007 แทนคำว่า 'ยุคแห่งเด็กสาว' คุณไม่คิดว่าชื่อ 'ยุคแห่งผู้หญิง' จะเข้าท่ากว่าหรอ? จนกว่าเมื่อไหร่ที่คุณสามารถพูดคำว่า 'เด็กสาว' โดยไม่รู้สึกอายได้?

ทิฟฟานี่: "ไม่เห็นมีเรื่องต้องอับอายเลยนี่คะ อันที่จริงจุดที่พวกเราเคยอับอายนั้นผ่านมาแล้ว ช่วงเดบิ๊วท์นั่นแหละค่ะ พวกเราหวังว่าจะได้ชื่อวงเท่ ๆ ภาษาอังกฤษ เพราะชื่อ 'โซนยอชิแด' นั้นฟังดูเป็นเด็กจริง ๆ แต่ทุกวันนี้เมื่อใดก็ตามที่พวกเราได้ยินเสียงแฟน ๆ ตะโกน 'โซนยอชิแด' ความรู้สึกภูมิใจมันหลั่งไหลเข้ามาค่ะ

แม้วันที่พวกเราอายุ 50 กัน ฉันไม่เห็นว่ายังจะต้องอับอายกับการเป็น โซนยอชิแด ตรงไหน มันไม่เป็นเกียรติหรอคะ? พวกเราล้อเล่นกันบางครั้งว่าพวกเราจะพาลูก ๆ ไปยังคอนเสิร์ตในอนาคต คอยดูแลซึ่งกันและกัน แน่นอนว่าพวกเราคงไม่สามารถถือลูกกวาดเหมือนช่วง 'Kissing You' ได้อีก แต่หากพวกเราแสดงเพลงที่เหมาะกับอายุของพวกเรา มันก็แสดงว่าพวกเรากำลังเติบโตขึ้นไม่ใช่หรอคะ จนถึงจุดจบนั่นแหละค่ะ"



คริสมาสต์ทำอะไรกันบ้าง?

ยุนอา: "พวกเรานั่งดูละคร 'Secret Garden' กันค่ะ แล้วก็กรี๊ด จูวอน และ ออสก้า กัน พวกเรานั่งล้อมวงดูละครกันตั้งแต่สามทุ่มครึ่ง ฉันโทรไปหาพี่ซางฮยอนและเล่าให้เขาฟังว่า พี่ฮยอนบิน เจ๋งขนาดไหน ฉันคิดว่าเขาเศร้าไปเลยค่ะ ในวันคริสมาสต์ฉันโทรไปหาเขาแล้วบอกว่า 'พี่คะ ออสก้า วันนี้เท่สุด ๆ ไปเลยค่ะ' และเขาตอบว่า 'เธอต้องคอยเชียร์ออสก้าเพื่อให้กำลังใจฉันนะ' ล่ะค่ะ"

อยากให้สมาชิกคนไหนประสบความสำเร็จอะไรบ้าง

เจสสิก้า: "ฉันอยากให้ ซูยอง มีความรักค่ะ เพราะคุณต้องมีความรักถึงจะสามารถบรรยายความรู้สึกออกมาได้ ในขณะเดียวกันฉันก็หวังว่าเธอจะสามารถสื่อ 'ฟีล' แบบเดียวกันนั้นออกมาเวลาเต้นและร้องเพลงด้วยเหมือนกันค่ะ"

ซูยอง: "ซันนี่ ควรดูแลตัวเองให้ดีกว่านี้ เนื่องจากเธอมีนิสัยง่าย ๆ น่าเหลือเชื่อ เธอไม่เคยแคร์เกี่ยวกับผมของเธอหรืออะไรเลย ดังนั้นเธอควรจะใส่ใจกับการแต่งตัวอะไรบ้าง ทาลิปสติกซะบ้างนะ"

ซันนี่: "ทิฟฟานี่ ควรเลิกประสบอุบัติเหตุได้แล้วค่ะ ไม่ว่าอะไรก็ตาม เธอจะบาดเจ็บอยู่เสมอเมื่ออยู่กับฉัน ทำเอาฉันแทบช็อกทุกครั้งเลยค่ะ"

ทิฟฟานี่: "ฉันอยากให้ ฮโยยอน แสดงทักษะของเธอในรายการวาไรตี้มากขึ้น เธอเป็นคนตลกแต่เธอไม่กล้าเปิดเผยตัวตนของเธอผ่านจอโทรทัศน์มากนัก ฉันกำลังตั้งหน้าตั้งตารอวันที่ ฮโยยอน ครอบครองวงการวาไรตี้อยู่ค่ะ"

ฮโยยอน: "ส่วนฉันหวังให้ เจสสิก้า ทำอะไรต่อมิอะไรกับพวกเรามากขึ้น เธอมีเพื่อนฝูงเยอะมากค่ะ จนขนาดบางวันพอเราเจอหน้า เจสสิก้า เราจะทักทายว่า 'ไม่ได้เจอกันตั้งนานนะ' ฮ่าฮ่า ฉันหวังว่าพวกเราคงจะเห็นหน้าเธอบ่อยขึ้นในปีหน้าค่ะ"

แทยอน: "ถ้ามักเน่ ซอฮยอน ได้เดทสามี ยงฮวา ของเธอในชีวิตจริงก็คงจะดีค่ะ มากเกินไปรึเปล่านะ? แต่ฉันคิดว่าพวกเขาเป็นคู่ที่น่ารักมาก เข้ากันได้ดีด้วย ซอฮยอน เป็นเด็กที่รอบคอบเสมอ ดังนั้นถึงแม้เธอจะเดทกับใครจริง ๆ ยังไงซะก็คงไม่กระทบต่อกิจกรรมของ โซนยอชิแด แน่นอนค่ะ"

ยูริ: "ฉันอยากให้ ยุนอา เป็นสาวสมวัยกว่านี้ค่ะ มีเพียงเธอเท่านั้นที่ดูเหมือนจะเด็กลงทุกวัน ฉันอยากเห็น ยุนอา ในแบบที่เติบโตแล้ว"

ยุนอา: "มักเน่ ซอฮยอน ของพวกเราดูจะดื้อขึ้นนะ ฮ่าฮ่า หากเธอฟังพี่สาวของเธอให้มากกว่านี้ก็คงจะดีไม่น้อยค่ะ"

ซอฮยอน: "ฉันหวังให้พี่สาวคนโตของพวกเรา แทยอน มีสุขภาพแข็งแรงตลอดปีค่ะ เธอมีช่วงเวลาที่ยากลำบากในการดูแลพวกเราให้อยู่ในกรอบ ไม่ว่าอะไรก็ตาม สุขภาพ สำคัญที่สุดค่ะ"

สุดท้ายนี้ ความหวัง สำหรับ โซนยอชิแด ในปีหน้าคือ?

ยูริ: "พวกเราหวังว่าสักวันเราจะมี เวิร์ลด์ทัวร์ ค่ะ เท่าที่ได้ยินมา พวกเรามีแฟนเพลงในแถบยุโรปด้วยนะคะ เนื่องจากพวกเราเคยจัดคอนเสิร์ตในเอเชียและอเมริกามาแล้ว การตระเวนเวิร์ลด์ทัวร์จริง ๆ ค่ะน่าตื่นเต้นใช่ย่อย น่าแปลกนะคะ ทุก ๆ ครั้งที่พวกเราหวังอะไรผ่านการสัมภาษณ์ มันมักเป็นจริงเสมอ ในช่วงเดบิ๊วท์พวกเรากล่าวแค่ 'พวกเราคือ โซนยอชิแด' แต่ปีที่แล้วพวกเราอยากมีคอนเสิร์ตของตัวเอง และมันก็เป็นจริง แม้ความฝันนั้นจะใหญ่เกินไปที่จะขอในตอนนี้ แต่การมีความฝันใหญ่ ๆ มันไม่ทำให้พวกเราดูเจ๋งหรอคะ?"

มาอัพเดทให้แล้วแต่ว่าช่วยคอมเม้นให้หน่อยนะคะ ไม่งั้นเสียใจน๊า