คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : starting point.
INTRO
“เสร็จซักทีนะ”
"ร้านของพวกเรา”
“เหมือนฝันเลยเนอะ”
“อื้ม... เหมือนฝันเลย”
เสียงทอดหายใจยาวกับร่างอ่อนปวกเปียกของคนทั้งสี่คน กำลังนั่งบนโซฟาสองฝั่งของมุมพักผ่อนในร้าน นั่งมองหน้ากันไปมากันสักพักก็หัวเราะออกมาเหมือนว่าเงียบกันทำไมเพราะเหนื่อยหรืออะไร ก็เล่นจัดร้านกันตั้งแต่เช้ายันตะวันเกือบจะลับแล้วนี่นา
พวกเขาเป็นกลุ่มนักศึกษาสาขาวิชาธุรกิจอาหารหรือโฮมอีโคโนมิคที่พึ่งเรียนจบมาไม่นาน แน่นอนว่าพวกเขาตั้งใจคิดทำร้านของพวกเขาขึ้นเอง ตั้งใจว่าจะมีทั้งอาหารคาว อาหารหวาน เครื่องดื่มทุกชนิดยกเว้นพวกมึนเมา
พวกเราจัดการทุกอย่างเกี่ยวกับการออกแบบและทำเล รวมถึงสถานที่ตั้งของร้านด้วยตัวเอง ร้านของเราเป็นตึกแถวในแถบในตัวเมืองขนาดกลางสองชั้น ด้านล่างที่แบ่งเป็นสองห้องเล็ก เราจัดการทุบที่กั้นให้กลายเป็นหนึ่งห้องใหญ่ ชั้นบนของร้านซื้อไว้สำรองสำหรับใครที่ต้องพักผ่อนไม่ต้องเดินทางกลับบ้านไกลๆ
ภายในร้านเลือกทาทับด้วยสีน้ำตาลขนมปัง ตกแต่งแบบผ่อนคลายสบายตาสไตล์พาสเทลหลากสี โต๊ะและเก้าอี้มีพอสำหรับลูกค้าที่มาเป็นกลุ่มเพื่อนรวมไปถึงนั่งคนเดียว มีมุมพักผ่อนอยู่หลายจุดทั้งหนังสือให้อ่าน ส่วนภายนอกร้านเป็นผนังอิฐต่อกันไม่โดดเด่นมากเกินไป มุมสวนด้านนอกสำหรับปล่อยสัตว์เลี้ยงให้วิ่งเล่นได้ไม่มาวิ่งวุ่นระหว่างเจ้าของพักผ่อน อีกฝั่งของถนนเป็นสองแห่งของโรงเรียนมัธยมและหมู่บ้านจัดสรรขนาดกลาง นั่นเป็นปัจจัยในการทำร้านของเราล่ะ
นึกๆไปแล้ว….
คิดย้อนไปเหตุการณ์ก่อนหน้า
ทำไมเวลาผ่านไปเร็ว ความสัมพันธ์ของพวกเขาเริ่มแรกจากการเข้ามาในมหาวิทยาลัยเดียวกัน
คณะวิชาด้านอาหารและโภชนาการที่ชอบเหมือนกัน พวกเขาเรียนทุกด้านที่เกี่ยวกับการบริโภคของมนุษย์
ทั้งการทำของที่บริโภครวมไปถึงการประกอบอาชีพในอนาคต
แต่ความจริงเราไม่ใช่ว่าชอบหรือถนัดอะไรเหมือนกันไปซะหมด
จองฮัน อาหารคาวคือสิ่งที่รักและถนัดที่สุดของเขา ชอบกินด้วย
วอนอู ชอบที่จะคิดค้นเครื่องดื่มแปลกใหม่กาแฟ
นม ค็อกเทลเขาก็ทำได้นะ
จีฮุน ถนัดทำขนมหวานทั้งไอศกรีมรวมไปถึงเค้ก
ซึงกวาน ทำได้ทุกอย่าง
แต่เขากลับชอบเรื่องการออกแบบและคำนวณซะอย่างนั้น แต่เขาก็ยังชอบอาหาร
ช่วงพักกลางวันของวันในช่วงวัยเรียน พวกเขามักนั่งคุยกันที่โต๊ะม้าหินอ่อนประจำในสวนของสถานศึกษา
พูดคุยเรื่องอนาคตเมื่อเรียนจบ...
“ทุกคน”
เสียงเรียกของซึงกวานหยุดการสนทนาและกิจกรรมส่วนตัวของแต่ละคน สามคนหันมองคนเรียกแล้วทำหน้าฉงนว่ามีอะไรงั้นหรอ
“อีกครึ่งเทอมเราจะเรียนจบกันแล้วนะ จบไป จะทำงานอะไรกัน? ”
นั่นสิจะไปทำอะไร...
“ฉัน..จองฮัน จะมีร้านอาหารล่ะ”
“ฉันอยากทำอะไรก็ได้ที่เกี่ยวกับเครื่องดื่ม” วอนอูพูดเนิบๆกับความคิดของเขา
“จีฮุน นายล่ะ”
“อืม...ใช่ของหวาน ขนมหวานล่ะ”
“ซึงกวานล่ะ คิดไว้ยังไง” จองฮันหันไปถามกับคนเปิดประเด็น
“คือเราคิดว่า ถ้าเกิดเราจะเอาความคิดแต่ละคนมารวมกันดีไหม?"
“…….”
ทุกคนนิ่งเงียบกำลังทำความเข้าใจกับความคิดของซึงกวาน รวมกันหรือ จะรวมยังไงล่ะซึงกวาน
“คือว่าเราชอบอาหารเหมือนกัน
แต่ดันทำคำนวณกับออกแบบได้ดีกว่า เราอยากจะเปิดร้านอาหารที่มีทุกอย่างในร้าน ถ้าเป็นไปได้เราจะออกแบบร้านเอง”
“เราอยากให้ทุกคนมาทำร้านด้วยกันล่ะ"
ซึงกวานหันไปพร้อมกับมองหน้า พูดกับทุกคนพร้อม อธิบายเพิ่มเติมคพำพูดของตัวเอง ถ้าพูดไป จะเข้าทางเขาไหมนะ
“เราชอบความคิดของซึงกวานล่ะ
คนอื่นคิดว่าไง? ” จองฮันพูดตบมือชอบอกชอบใจกับความคิดเห็น
“เห็นด้วยเหมือนกัน แล้วจะวางแผนยังไงอะ? ”
จีฮุนกับวอนอูพยักหน้าหงึกหงัก เห็นด้วยกับข้อเสนออนาคตของพวกเขา น่าสนใจดีออก ไหนๆเราก็ชอบอะไรที่เหมือนกันพอสมควรนี่นา
“ที่จริงเราเคยวาดไว้เหมือนกัน
แต่ไม่เคยบอกพวกนายเลย”
“งั้นดีเลย
ไหนลองพูดมาหน่อยสิ”
“เราอาจจะต้องหาซื้อตึกแถวชั้นล่างซักสองห้องดีไหม
หาที่สักแห่งที่มีคนพอประมาณไม่ต้องเยอะมาก แต่สามารถขายได้ทั้งวัน ฉันเคยเห็น ห่างจากที่มหาลัยเราไม่มากหรอก
แถวๆบ้านวอนอูอ่ะ”
“....”
“ร้านของเราก็จะแบ่งเป็นโซนนะ
โซนอาหารหวาน และเครื่องดื่มจะอยู่ฝั่งเดียวติดกันฝั่งหนึ่ง
โซนอีกฝั่งก็จะเป็นอาหารคาว แล้วก็ที่คิดเงินนะ นึกภาพออกไหม”
ทุกคนพยักหน้าเข้าใจ ตั้งใจฟังที่ซึงกวานพูดอย่างละเอียด นี่แพลนไว้ตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย คิดการณ์ไกลมาก แต่มันก็ไม่แปลก เด็กมหาวิทยาลัยปีสุดท้าย ก็ควรจะหาแพลนอนาคตอย่างจริงจังเป็นธรรมดา
“อื้ม ถ้างั้น ชื่อร้านล่ะ...ชื่อร้าน” จองฮันที่ดูตื่นเต้นกว่าคนอื่น ถามถึงจุดสำคัญของแพลน ชื่อร้านเนี่ย...จุดไคลแม็กซ์เชียวนะ
“Love’s everythings!!! แปลว่ารักคือทุกสิ่งทุกอย่างไง คำนี้เหมาะกับพวกเรานะ
ทุกคนคิดว่าไงอ่า ”
“อา ซึงกวาน... มันเชยจะแย่”
“วอนอูอ่ะ! คนเขาชอบใช้กันตั้งเยอะแยะ”
ก็เพราะคนใช้เยอะยังไงเล่า....ทุกคนหัวเราะบอกว่าไม่เป็นไร เอาใหม่นะ
“Café Latte ไหม?
”
ชื่อนี้ คนใช้ไม่เยอะ……เลย
“ที่นี่ไม่ได้มีแต่เครื่องดื่มนะวอนอูอา” จีฮุนว่าเอาใหม่นะ วอนอูหน้ายู่ลง เขาชอบนี่
“Lovin’ Food ไหมล่ะ?
เก๋ดีนะ” จองฮันเสนอบ้าง
“มันเพราะนะ
แต่เราว่าไม่ดีกว่า มันฟังแล้วไม่เหมือนชื่อร้านเลย” ซึงกวานว่าตบบ่าเพื่อนเบาๆ
เอาใหม่อีกทีนะ
“Chummy ล่ะ ที่แปลว่า เพื่อนเกลอ” เป็นตาของจีฮุน คำนี้มีความหมายนะจะบอกให้ เขาจำจากศัพท์ของวิชาภาษาอังกฤษที่เพิ่งสอบมาล่ะ
“โอ้ะ คำนี้ๆ ฉันจำได้ ความหมายดีนะ”
“ชื่อจำง่ายดีด้วยอะไรนะ
ชัมมี”
“เอาชัมมีนะ...ชัมมี” กลายเป็นว่า จุดเริ่มต้นของชื่อร้านของพวกเรา มาจากศัพท์จำเป็นที่จีฮุนคิดได้สะอย่างนั้น อา แต่พวกเขาชอบมันนะ
“ตกลงตามนี้ ทุกคน รับปากแล้วนะว่าเราจะทำด้วยกัน”
“อื้ม ”
“สัญญานะ”
“สัญญา!!! ”
หลังจากนั้นมาทุกคนก็หันมาตั้งใจศึกษาความรู้รอบตัวมากขึ้น
เก็บเกี่ยวการที่จะหาประสบการณ์มาประยุกต์ยังไงให้เกิดประโยชน์เมื่อถึงเวลานั้น
เวลาที่จะมีร้านของเราจริงๆ...
ทุกคนทำงานระหว่างเรียนหารายได้เพื่อมาลงทุนกับความฝันเล็กๆของพวกเขา
และได้มีเวลาปรึกษาผู้ปกครองเกี่ยวกับอนาคตท่านทุกคนเห็นด้วยกับความคิดนี้มากๆ
ดีกว่าไปเหลวไหลคว้าน้ำเหลวเรียนจบไปไม่มีงานทำ
และช่วยออกเงินสนับสนุนมาส่วนหนึ่งด้วยเช่นกัน
ถ้าพวกเขาไม่สนับสนุนลูกหลานของเขาในเรื่องนี้
เขาจะส่งลูกเรียนด้านนี้ไปเพื่ออะไรกันล่ะ... ว่าไหม?
ความฝันเล็กๆของพวกเขา
ได้เริ่มต้นขึ้นมาจนถึงตอนนี้แล้ว ความฝันเล็กของเด็กวัยมหา'ลัย
ที่กลายเป็นจริงได้เสียที่…
.
---------------------------------
“ทุกคน เลิกนอนเรื้อยได้แล้วน่า มาคุยกันก่อน”
ซึงกวานปลุกทุกคนที่เริ่มจะปรือตากันเต็มทีไปตามๆกันบ้างแล้ว นี่เราจะนอนนิ่งๆแบบนี้ไม่ได้นะ ถึงจะแต่งร้านเสร็จแล้วก็เถอะ ครึกครื้นสิทุกคน ฮึบ!
“ฮื้อออออออ ซึงกวานอ่ะ เราเหนื่อยขออีกนิดนะ” จองฮันบ่นอื้ออึงฟังไม่ออก เขาเหนื่อย เขาลุกไม่ขึ้นแล้ว คนผมยาวนอนแผ่ไปทั่วโซฟาตัวยาวที่มีจีฮุนนั่งอยู่ตรงปลายโซฟา นี่เขาจะตรงแล้วนะจองฮัน
“นี่จองฮัน...ลุกมาเลย” วอนอูบ่นอุบ ตีป้าบเขาที่แขนคนขี้นอนอย่างจองฮัน
“ฮื้อออ...ก็ได้...จำไว้เลยนะ” ทุกคนส่ายหน้าหัวเราะเล็กน้อยแล้วหันมาฟังคนดูแลบัญชีของร้านอย่างซึงกวาน
“เอาล่ะๆทุกคน พรุ่งนี้เราจะเปิดร้านอย่างเป็นทางการแล้วนะ”
“อื้ม”
“ร้านจะเปิดตอน 8 โมงเช้า เพื่อที่จะได้ให้เด็กนักเรียนโรงเรียนตรงนั้นได้ทานอาหารเช้าได้ แถมคนในหมู่บ้านที่ติดโรงเรียนก็มาทานอาหารเช้าก่อนไปทำงานได้ด้วย และทุกคนต้องตื่นให้เช้าทันเวลาไปซื้อของวัตถุดิบนะ เราให้เวลาถึง 7 โมงครึ่งนะทุกคนต้องซื้อครบแล้ว”
“โอเค”
“แถวนี้มีร้านขายของสดกับวัตถุดิบเยอะเลย ร้านสะดวกซื้อก็มีนะ เดินไปก็ถึงแล้ว” ทุกคนพยักหน้าหงึกตอบเป็นอันว่าเข้าใจ...ใช่ไหม? หลังจากจบการคุยข้อตกลงสักพัก ทุกคนก็อดตั้งคำถามไม่ได้เกี่ยวกับว่า
.......ถ้าลูกค้าวันแรกไม่มีจะทำยังไงนะ?
......แถวนี้จะมีร้านคู่แข่งไหม?
......เราไม่อยากบาปแย่งลูกค้าของเขานะ
ฮื่ออออออออ. พรุ่งนี้เดี๋ยวคงจะรู้เอง..
....................................................
ความคิดเห็น