ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ KIHAE-KYUMIN ] Heartless II.. หากจะเกิดมาไร้หัวใจ *

    ลำดับตอนที่ #7 : |; chapter 4

    • อัปเดตล่าสุด 14 ม.ค. 53


    HEARTLESSII… หากจะเกิดมาไร้หัวใจ    *

    Leading Couple.. Kibum x Donghae

    Written By.. PRETTY.KKZ

    14/01/2553   08.41 PM.

     

     

     

    Part 4

     

    .

    .

    .

    .

     

     

     

     

    แสงสีส้มประกายรอบวงกลมดวงใหญ่สีแดงจัด

    ดวงอาทิตย์ลอยขึ้นเหนือผืนน้ำอีกครั้งทางทิศตะวันออก

    ทงเฮที่กำลังวุ่นอยู่ในครัวถูกวานให้ขึ้นไปรับใช้คุณชายตัวดีเช่นเคย

    ร่างบางหยิบผ้าขนหนูและเสื้อผ้าชุดใหม่ใส่ตะกร้าเล็กๆเอาไว้

    เมื่อจะเดินขึ้นไปชั้นบนก็ฉุกนึกขึ้นได้ว่าคงต้องเปลี่ยนผ้าปูที่นอนและผ้าห่มอีกครั้งเป็นแน่

     

    เสียงฝีเท้าเบาก้าวขึ้นชั้นสองตามมารยาท

    หยุดยืนอยู่บริเวณหน้าห้องสักพัก ก่อนที่จะเอื้อมไปเคาะประตูห้อง

    รออยู่นานสองนานก็ไม่มีวี่แววว่าจะออกมาเปิดให้เลยสักที

    ถ้าหากจะเปิดเข้าไปด้วยตัวเองเหมือนครั้งที่แล้วก็เกรงว่าคุณชายจะโกรธเอาได้

     

     

     

    Knock! Knock!

     

     

                คนที่อยู่ข้างในเปิดประตูให้หน่อยฮะ

                เสียงหวานตะโกนเข้าไปภายในห้องที่เกือบจะเงียบสนิท

                หากแต่ยังคงมีเสียงครางของหญิงสาวดังออกมาเป็นระยะ ๆ

                ทงเฮถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเอื้อมมือไปเคาะประตูอีกครั้ง

     

     

    Knock! Kn...

     

     

                ฉันรู้แล้ว

                ผู้หญิงคนเดิมเปิดประตูห้องออกมาแทบจะในทันที

                หนุ่มร่างบอบบางหรี่ตาสำรวจร่างกายหญิงสาวตรงหน้าอีกครั้ง

                ชุดเมดที่ถูกสวมใส่อย่างลวกๆไม่เป็นระเบียบกับผมเผ้ายุ่งเหยิง

    ทำให้ทงเฮพอจะเดาออกได้ว่า เหตุผลอะไรที่ทำให้ประตูห้องถูกเปิดออกมาช้าขนาดนี้

     

     

     

    ทีหลังถ้ารู้ว่าตอนเช้าจะทำอะไรก็ตื่นให้มันเร็วๆหน่อยแล้วกันนะ ในครัวเขาขาดแม่บ้าน เธอเองก็รู้

     

     

     

    อ่อใช่...ฉันลืมไป เธอมันมีหน้าที่แค่อารักขาทายาทของตระกูลเท่านั้นสินะ ...พวกไร้ความสามารถ

    ซันนี่เหยียดยิ้มอย่างสมเพช

    จิกสายตามองอีกฝ่ายตั้งแต่หัวจรดเท้า

    ร่างบางแค่นหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนที่จะแสยะยิ้มมุมปากเย้ยบ้าง

     

     

     

    ใช่...ฉันมันมีความสามารถแค่นี้แหละ ใครเขาจะไปเก่งเหมือนเธอล่ะซันนี่?

    นอกจากจะมีหน้าที่ดูแลบ้านช่องห้องหับแล้ว เธอยังเก่งในเรื่องยั่วยวนเสียด้วยนะ 

    ไงล่ะ...ลีลาของคุณชายเขาสนองได้ถึงใจเธอหรือเปล่า?

     

     

     

     

    เธอกำลังพูดถึงเรื่องของฉันอยู่นะ อี ทงเฮ

    เสียงขรึมเข้มทำเอาร่างบางใจกระตุกวูบ

    สาวร่างระหงเดินก้มหน้าก้มตากลับไปทำหน้าที่ของตนเองต่อตามประสา

    ไม่ลืมที่จะเหยียดยิ้มเยาะหนุ่มร่างเล็กที่กำลังถูกคุณชายตำหนิในขณะนี้

    ทงเฮกำมือไว้แน่น   ฝากไว้ก่อนเถอะซันนี่!

     

     

     

    สวัสดีตอนเช้าฮะคุณชาย

    ร่างบางก้าวเข้าไปในห้องนอนกว้าง

    จัดแจงเปิดม่านให้แสงลอดผ่านบานหน้าต่างเข้ามายังห้องสีทึบ

    คราบน้ำสีขาวขุ่นแห้งเกรอะกรังไปบนผ้าคลุมเตียงกว้าง

    หนำซ้ำยังจะมีที่พื้นและผ้าห่มอีกต่างหาก

    ถึงแม้ทงเฮจะรู้แก่ใจว่าคุณชายร้ายกาจในเรื่องเซ็กส์สักเพียงไหน

    แต่ตัวเขาก็นึกไม่ถึงเลยว่า.. จะร้ายกาจได้ถึงขนาดนี้

     

    ร่างบางลอบถอนหายใจอยู่นาน

    ก่อนที่จะก้มลงเช็ดคราบที่น่ารังเกียจนั่น

    คิบอมนั่งลงบนโซฟาริมหน้าต่างตัวเดิม

    รินน้ำสีอำพันใส่ในแก้วทรงสูงตามเคย

     

     

     

    ดื่มแต่เช้ามันไม่ดีนะฮะคุณชาย

     

     

     

    เธอมีสิทธิ์สั่งฉันได้ด้วยหรอ?

    ร่างสูงตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเรียบ

    ถ้าหากเป็นบุคคลอื่นที่ได้ยินคงจะคิดว่าเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว

    ใครๆก็รู้ว่า คุณชายคิบอม นั้นเย็นชาแค่ไหน..

    เว้นเสียแต่ทงเฮที่ไม่เคยเห็นในด้านนี้ของคุณชายเลยสักนิด

     

    เพราะหากเมื่อไรที่คุณชายยอมพูดดีด้วย..

    นั้นก็หมายความว่า คุณชายกำลังหวังผลเพื่อกอบโกยความหอมหวานบนเรือนร่างของคนนั้น

     

     

     

    ทงเฮเตือนเอาไว้ก็แค่นั้นแหละฮะ ทงเฮแค่ไม่อยากดูแลคนป่วยเพิ่มอีกคน

     

     

     

    แต่ถ้าฉันป่วยเธอก็ต้องดูแล โดยไม่มีข้อโต้แย้ง

    ใบหน้าสวยเงยหน้าขึ้นเหยียดมองคนตัวใหญ่กว่าอย่างไม่สบอารมณ์

    คุณชายคิบอมกลายเป็นแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไรกัน..

    แววตาที่ทำให้คนอย่างทงเฮเก็บเอาไปเพ้อฝัน มันหายไปไหนแล้วล่ะ?

    ณ เวลานี้ ทงเฮพบเจอแต่คุณชายคิบอม...ที่มีแววตาเรียบเฉย น่ายำเกรงคนนี้เท่านั้น

     

     

     

     

    แล้วทงเฮเคยโต้แย้งความต้องการของคุณชายด้วยหรอฮะ?

    คนตัวเล็กสะบัดผ้าห่มที่ยับยู่ยี่ แล้วนำใส่ตระกร้า

    จัดแจงเปลี่ยนผ้าปูที่นอนผืนใหม่ให้เช่นเดิมกับทุกๆวัน

    เรียวปากเล็กขบกันแน่นเมื่ออีกฝ่ายกลับไม่โต้เถียงหรือตำหนิเขาอย่างเคย

    หรือเพราะคุณชายคิบอมไม่สนใจ อี ทงเฮอีกแล้ว ?

    หากจะเป็นอย่างนั้น...แล้วเหตุผลไหนเล่าทำให้ทงเฮต้องใส่ใจ ?

    ไม่มีเหตุผลเอาซะเลย..

     

     

     

    คุณหมอซีวอนจะมาที่นี่ตามนัดของคุณหนูเช้านี้ พร้อมกับคุณฮันคยองด้วย

    ยังไงก็ตาม คุณชายก็อย่าลงจากห้องสายแล้วกันนะฮะ

     

     

     

    ใครกันที่ชื่อ ฮันคยอง?

     

     

     

    จิตแพทย์ฮะ ...เขาเป็นเพื่อนของเจ้านาย

    ใบหน้าหล่อจัดพยักหน้าให้เบาๆ

    นัยน์ตาสีดำสนิททอดมองออกไปนอกหน้าต่าง

    ผืนทะเลสาปที่เคลื่อนไหวสะท้อนให้เห็นผ่านแววตาเรียบเฉยนั้น

    คุณชายคิบอมไม่ไถ่ถามหรือขอความช่วยเหลืออะไรกับทงเฮเลยสักคำ..

    ร่างบางก้มหน้านิ่งรอให้อีกฝ่ายเรียกใช้งานเหมือนอย่างที่ผ่านมา

    หากจะสบหน้าสบตามองคุณชายให้ลึกซึ้งถึงความคิดมันคงจะยากเย็น

    เพราะแท้จริงแล้ว ตั้งแต่แรกพบ...ทงเฮไม่สามารถจะเดาใจของคุณชายออกได้เลยสักที

     

     

     

    ไปได้แล้ว ฉันไม่ชอบให้คนอื่นมานั่งอยู่ในสถานที่ส่วนตัว

    ใบหน้าสวยพยักหน้าแล้วเดินออกไปอย่างเชื่องช้า

    คนอื่นงั้นหรือ?

    ก็ใช่ไง...ทงเฮเป็นแค่คนอื่นของคุณชายคิบอมเท่านั้น

    แล้วทงเฮจะใส่ใจคุณชายไปทำไมกัน ? ทงเฮเป็นแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไร ?

     

     

     

     

     

    --------------------------------------------------------------------------

     

     

     

     

    ร่างของคนสองคนนั่งคอยอยู่ที่ห้องรับแขก

    ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่จ้องมองอีกฝ่ายไม่ให้คาดสายตา

    ผู้ชายคนนี้ช่างแปลกนัก... หากจะมองให้หล่อเหลาก็คงจะดูดีราวกับเทพบุตร

    แต่หากจะมองให้สวยหมดจดก็ดูงดงามอย่างไร้ที่ติใดๆ

    แล้วเป็นเช่นนี้... ซีวอนควรปฏิบัติตัวอย่างไรกับผู้ชายคนนี้ดี ?

    จะให้สุภาพอ่อนโยนเช่นเดียวกับที่ปฏิบัติกับคุณหนูซองมิน

    หรือจะให้ความไว้วางใจ น่าเชื่อถือได้อย่างที่ให้กับคุณชายคิบอม ?

     

     

     

                มีอะไรหรือเปล่าครับ?

                ร่างโปร่งพูดด้วยน้ำเสียงและสำเนียงที่ฟังดูลื่นหู

                ใบหน้าคมคายยกยิ้มโชว์รอยบุ๋มทั้งสองข้างแก้มให้พลางส่ายหัวไปมา

                ฮันคยองเลิกคิ้วขึ้นสูง มองอีกฝ่ายอย่างสงสัย

                แต่ดูเหมือนข้อสงสัยนั้น จะไม่ได้รับคำตอบให้กระจ่างเลยสักนิด

     

     

     

                คุณหนูก็แบบนี้แหละครับ เธอชอบให้รอนาน...เพราะกว่าจะเสร็จทีละอย่าง

                ก็นานอยู่พอตัว แต่ดูเหมือนว่าเขาก็เป็นแบบนี้กันทั้งบ้านแหละครับ

     

     

     

                อันนี้ผมทราบดีอยู่แล้วครับ

                แววตาและท่าทางเย่อหยิ่งกลับติดเป็นนิสัยของฮันคยองไปเสียแล้ว

                จิตแพทย์ที่มีดีกรีจบจากเมืองนอกเมืองนาก็ตั้งท่าให้ดูน่าเกรงขามเป็นธรรมดา

                นิสัยเสียแบบนี้แก้เท่าไรก็ไม่หายสักที..

                แต่หากฮันคยองได้สนิทสนมกับใครเข้าจริงๆ ก็เป็นคนที่มีอารมณ์ขันอยู่ไม่น้อย

     

     

     

                ขอโทษนะครับ คุณซีวอน...ผมขอดูสมุดบันทึกอาการของซองมินหน่อยครับ

                มือใหญ่ควานเข้าไปในกระเป๋าสีดำ

                หาหยิบมันได้อย่างง่ายดายเนื่องจากการจัดเก็บมันไว้อย่างมีระเบียบของเจ้าของ

                ซีวอนส่งสมุดบันทึกปกสีชมพูสดใสให้อีกฝ่ายอย่างใจเย็น

                ร่างโปร่งมองมันอย่างงงๆ หนังสือผู้ป่วยรายไหนกันที่เป็นสีชมพูลายกระต่ายเช่นนี้ ?

     

     

     

                คุณหนูเธอชอบสีชมพูน่ะครับ...ผมเลยเลือกเล่มนี้มาบันทึกอาการของคุณหนู

     

     

     

                แต่นี่มันสำหรับเด็ก?

     

     

     

                คุณหนูซองมินก็ยังไม่แก่นี่ครับ

                คำตอบของผู้เชี่ยวชาญทางโรคประสาททำเอาจิตแพทย์คนเก่งถึงกับหัวเราะออกมาเบาๆ

                คุณหนูซองมินที่ว่านั้น.. ยังเป็นเด็กไร้เดียงสากันหรืออย่างไร?

                ฮันคยองวาดภาพเด็กผู้ชายตัวเล็กๆกอดตุ๊กตากระต่ายสีชมพูไว้ในสมอง

                ก็แค่เด็กธรรมดาๆ น่ารักๆ คนหนึ่ง การสอนให้เข้าใจตัวเอง...มันจะไปยากอะไรกันเล่า?

     

     

     

                คุณซีวอน...

     

     

     

                ครับ?

                เส้นคิ้วสีดำเข้มเลิกขึ้นสูงพลางมองไปยังนิ้วมือเรียวที่ชี้เข้าไปในกระดาษแผ่นหนึ่งในสมุด

                ลายมือหวัดๆแต่ก็ดูเป็นระเบียบของเขาเอง บันทึกไว้ว่าอย่างไรนั้น เขาเองก็จำไม่ได้

                แต่ดูเหมือนมันจะทำให้บุคคลตรงหน้าตระหนกไม่น้อย

     

     

     

    คุณหนูเธอมีความเชื่อเรื่องพวกนี้ด้วยหรือครับ?

     

     

     

     

     

    --------------------------------------------------------------------------

     

     

     

     

    ร่างโปร่งก้าวเข้ามาภายในห้องนอนที่ล้วนเป็นสีชมพู

    การตกแต่งประดับประดาต่างๆยิ่งทำให้ดูเหมือนว่าเจ้าของห้องนั้นเป็นเด็กกระเตาะมากเท่านั้น

    ใครบางคนที่ยังคงนั่งอยู่ตรงที่เดิม...นั่งหันหน้าออกไปด้านนอกระเบียง

    แท้จริงแล้วคุณหนูซองมินไม่ใช่เด็กไร้เดียงสาอย่างที่เขาคิดเอาไว้

    แสงแดดกระทบให้เห็นเพียงเสี้ยวหนึ่งของใบหน้า

    ชายหนุ่มตัวเล็กที่มีใบหน้าหวานจัดราวกับผู้หญิงอย่างไรอย่างนั้น

    ดวงตากลมโตรับกับจมูกเรียวเล็กและริมฝีบางปากสีชมพูอ่อนได้ดี

    หากแต่แววตานั้นเต็มไปด้วยความโศกเศร้า...ดูเหมือนมีบางเรื่องที่ยังคงค้างคาอยู่ลึกๆในใจ

    ด้วยความเป็นจิตแพทย์ที่นับได้เลยว่าน้อยคนนักจะเก่งเทียบเท่าอย่างฮันคยองนั้น..

    แค่มองดูเพียงเท่านี้ก็ดูออกถึงปมลึกๆในใจได้ดี

     

     

     

                สวัสดีตอนเช้าครับ

                ร่างเล็กหันมาทางหนุ่มร่างโปร่งช้าๆ

                ในแววตาหวานปรากฏให้เห็นรูปชายหนุ่มสวมเชิร์ทสีฟ้าอ่อนท่าทางมีภูมิและดูเป็นผู้ใหญ่ไม่น้อย

                ความคิดของซองมินขณะนี้ ก็คิดไม่ได้แตกต่างอะไรกับซีวอนสักนิด..

                หากจะมองให้ฮันคยองนั้นเป็นหนุ่มรูปงามก็คงจะดูดีราวกับเทพบุตร

                แต่หากจะมองให้สวยงามก็คงดูดีและโดดเด่นกว่าใครๆได้ไม่ยาก

                ผู้ชายคนนี้ช่างแปลกนัก..

     

     

     

                สวัสดีฮะคุณฮันคยอง

                แม้ริมฝีปากเล็กนั้นจะกระตุกยิ้มขึ้นมาพอให้ใบหน้าดูสดใส

                แต่ถึงอย่างไรในดวงตาคู่สวยก็ยังมองเห็นภาพของความเจ็บปวดไม่ลดละไปอยู่ดี

                ฮันคยองวางกระเป๋าลงบนเตียงหนา

                ก่อนที่จะเดินตรงรี่ไปยังที่ที่คุณหนูซองมินนั่งอยู่ในขณะนี้

     

     

     

                เรามาคุยกันสักหน่อยดีกว่ามั้ย

     

     

     

                ฮะ...

                พยักหน้ารับพร้อมกับคำตอบเพียงสั้นๆ

                ซองมินหันหน้าเข้าหาคุณหมอคนใหม่อย่างไม่ได้นึกเกรงกลัวคนแปลกหน้าแต่อย่างใด

     

     

     

                ลองหลับตาลง แล้วผ่อนใจให้สบายซิ

                เปลือกตาสวยปิดลงอย่างแผ่วเบา

                โซฟาที่ซองมินนั่งนั้นถูกปรับให้เอนลงเพื่อที่จะนั่งกึ่งนอนได้สบาย

                มือนุ่มบรรจงวางแผ่นผ้าอุ่นจนเกือบร้อนเช็ดไปทั่วใบหน้าของคนตัวเล็กเพื่อให้ผ่อนคลาย

     

     

     

                ตอนนี้คุณหนูมองเห็นภาพใครบ้าง ลองบอกออกมาได้ไหม?

     

     

     

                .....

                จะให้เขาตอบจริงๆน่ะหรือ?

                คนที่เขามองเห็นในขณะนี้ไม่ใช่เพียงหลับตาเท่านั้น

                แม้จะลืมตาแล้วทอดมองไปในที่แห่งไหนก็พบใบหน้าของใครคนเดิม..

                ต่อให้หลับตาเพื่อลบลืมทุกสิ่งภาพของเขาก็ยังคงผ่านเข้ามาในสมอง

                ล้มตัวลงนอนเพื่อหยุดความคิดบ้าๆ ก็ยังมีเขาอยู่ในความฝันตลอดมา..

                แต่มันก็แค่ฝัน...มีเพียงความจริงในชีวิตเท่านั้นที่เขาไม่เคยพบเห็นใครคนนี้เลยสักครั้ง

     

     

     

                ตอบมาเถอะ มันไม่เป็นไรหรอก

     

     

     

                ...โจ คยูฮยอน…”

                เพียงแค่พูดออกมาน้ำตามันก็พานจะไหลเอาเสียง่ายๆ   

                ทำไมนะ..ทำไมเขาจึงคิดถึงคนที่ไม่เคยมีเขาในความคิดเลยแม้แต่นิด

                แต่หากในเวลานี้ยังคงอยู่ต่อหน้าคนอื่น ก็คงต้องกักเก็บน้ำตาเอาไว้

                ไม่ต้องการให้ใครมาเห็นทั้งนั้น..

     

     

     

                ยาที่คุณหมอชเวให้ไปทั้งหมด คุณทานมันทั้งหมดหรือเปล่า?

     

     

     

                .....

                มีเพียงความเงียบงันเป็นผลลัพธ์ของคำถาม

                ไม่ว่าจะรับหรือไม่รับยามันจะมีประโยชน์อะไรกันเล่า?

                ถ้าหากหายขาดจากอาการเหล่านี้ก็จะเกิดพิธีที่เจ้าบ่าวไม่เคยเต็มใจ

                ซองมินยอม..

                ยอมทนทุกข์ทรมานไปตลอดกาลถ้าหากคยูฮยอนสบายใจ

     

     

     

    ร่างเล็กลืมตาขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่าตนเองในอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนหนา

    ท้องฟ้าเบื้องบนเปลี่ยนเป็นสีส้มเมื่อดวงตะวันดวงใหญ่คล้อยใกล้จะตกดิน

    ร่างของใครบางคนที่เดินวนเวียนไปมารอบๆเตียงแค่เพียงได้กลิ่นตัว...ซองมินก็รู้ดี

    ใบหน้าคมคายหันมาช้าๆ ยกยิ้มให้เล็กน้อยหากแต่แววตานั้นกลับเรียบเฉย

    คุณชายคยูฮยอนไม่เคยคิดอะไรกับซองมินมากกว่าเพื่อนที่แสนดี..

    ไม่เคยเลยสักนิด..

    ความจริงในหัวใจของซองมินไม่ควรพูดบอกออกไปเสียจริงๆ

    เกลียดตัวเองเหลือเกิน เกลียดที่ยังฝังใจว่ารักคยูฮยอนได้มากมายขนาดนี้

     

     

     

     

     

    --------------------------------------------------------------------------

     

     

     

     

    ทงเฮก้าวเข้ามาภายในห้องสี่เหลี่ยมกว้างชั้นบนพร้อมกับถาดน้ำเย็นและอาหารว่าง

    ร่างสูงที่กำลังตั้งใจทำอะไรบางอย่างกลับต้องหยุดชะงักเมื่อมีคนอื่นเข้ามาขัดจังหวะ

    ใบหน้าสวยหลุบลงต่ำเพราะไม่อาจหาญสู้กับนัยน์ตาสีดำสนิทนั้นได้เลยแม้แต่น้อย

    คิม คิบอมเพียงมองตรง ตีสีหน้าได้นิ่งสนิทราวกับรูปปั้นหินแกะสลัก

    แต่ถึงจะอย่างนั้น ทงเฮก็ยังไม่ออกไปในห้องนั้นเสียง่ายๆ

    เพราะทงเฮอยากอยู่ใกล้ๆคุณชายโดยไม่มีเหตุผล..

     

     

     

                คุณชายปวดเมื่อยหรือเปล่าฮะ?

                เสียงหวานพูดออกมาเบาๆเพื่อกลบบรรยากาศที่เงียบสงัด

                หนุ่มหน้าตายยังคงตีสีหน้านิ่งเฉยและส่ายหัวไปมาช้าๆ

                ร่างสูงถอนหายใจยาวก่อนที่จะปิดสมุดสีดำเล่มหน้าลงอย่างเนือยๆ

     

     

     

                ถ้าฉันปวดเมื่อยล่ะก็... ฉันก็จะตามซันนี่มานวดให้เอง

                เป็นเพียงคำพูดธรรมดาๆที่ผู้พูดไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายจิตใจใคร

                แต่แค่เพียงประโยคเดียวเท่านั้นกลับเสมือนมีดสักพันเล่มกรีดลงในหัวใจคนต้อยต่ำอย่างทงเฮ

                ตั้งแต่เล็กจนโตที่รู้จักซันนี่มา ไม่มีอะไรที่ทงเฮจะแพ้ซันนี่เลยสักเรื่อง

                แต่เพราะคุณชายคิบอมเท่านั้น.. ทงเฮกลับนึกริษยาซันนี่ขึ้นมาถนัดใจ

     

     

     

                ทำไมต้องเป็นซันนี่ด้วยล่ะฮะ?

                น้ำเสียงหวานกลับสั่นเครือเมื่อพูดออกมาด้วยควาน้อยเนื้อต่ำใจ

                อี ทงเฮไม่มีเหตุผลเลยจริงๆที่ต้องเป็นเช่นนี้

                ทำไมทงเฮจึงอยากอยู่ใกล้ๆ อยากไขว่คว้าคุณชายได้เหมือนกับซันนี่

                เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว..

                อี ทงเฮ กำลังตกหลุมรัก คุณชาย คิม คิบอมอยู่หรือเปล่า ?

     

     

     

                มันเป็นเรื่องของฉัน

                คิบอมตอบออกไปเสียงเรียบ

                ความเฉยชากลับมาเกาะกินหัวใจของทายาทคนสุดท้องไปเช่นในอดีต

                ใครๆก็รู้ดีว่าคุณชายคิบอมไม่มีหัวใจ..

                เว้นเสียแต่ทงเฮ...ทงเฮยังรู้จักคุณชายได้ไม่ดีพอ

                แต่กลับมอบความรู้สึกดีๆให้กับคุณชายเสียจนถอนตัวไม่ขึ้น

                ทงเฮผิดเอง...ผิดที่หูเบา ใจง่าย

                ทงเฮผิดเองที่หลงใหลในแววตาหวานซึ้งซึ่งจอมปลอมต่อความรู้สึกนั่น!

     

     

     

                จะนั่งตรงนี้อีกนานไหม?

     

     

     

                ทงเฮจะดูแลคุณชายนี่ฮะ

     

     

     

                แต่ฉันไม่ได้ต้องการตอนนี้...เธอเองก็ไม่มีสิทธิ์โต้แย้ง

                ร่างสูงเน้นเสียงหนักขึ้นด้วยอารมณ์โทสะ

                ดวงตาคู่สวยกลับมาน้ำตารื้นขึ้นมาอย่างมีสาเหตุ

                คนต่ำต้อยอย่าง อี ทงเฮ จะมีสิทธิ์โต้แย้งอะไรกับคุณชายได้

                อารมณ์ของคุณชายแปรปรวนเสียจนทงเฮตั้งตัวรับไม่ทัน..

                เมื่อวันก่อนคุณชายกลับเล่นท่าทางหลงใหลในตัวของเขา

                แต่วันนี้กลับมาเย็นชาพร้อมทั้งผลักไส

                แท้จริงในใจของคุณชายคิดอะไร? คุณชายคิบอมต้องการอะไรกันแน่?

                ได้โปรดเถอะ...

                จะทำอะไรก็ได้ตามแต่ใจของคุณชาย

                แต่อย่าทำให้ทงเฮรักเลยได้ไหม? ขอแค่นั้นก็เพียงพอแล้ว

     

     

     

                คุณชายพูดเหมือนว่าทงเฮเคยโต้แย้งคุณชายอย่างนั้นแหละฮะ คุณชายรู้ไหมว่าทงเฮ....

     

     

     

                ออกไปซะ ฉันรำคาญ

               

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ------------------------------------------------------------------

     

     

    TO BE CONTINUE ON PART 5

    THANKS FOR COMMENT

    THANKS FOR ATTENTION

     

     

    >>> 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×