คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : |; chapter 1
HEARTLESSII
หากจะเกิดมาไร้หัวใจ *
Leading Couple.. Kibum x Donghae
Written By.. PRETTY.KKZ
14/01/2553 09.31 PM.
Part 1
.
.
.
.
ไหนใครพูดว่า... ทุกสิ่งที่พระเจ้าประทานมาให้
คือสิ่งที่ท่านไตร่ตรองมาได้อย่างดิบดีแล้ว
มันไม่จริงเลยสักนิด..
เพราะเวลานี้... ท่านประทานให้ผมเกิดมาพบเขา
_________________________________________________________________________
ดวงตะวันเริ่มคล้อยต่ำ..
บนถนนหนทางที่ก็ต่างมากไปด้วยผู้คนเช่นเดิม
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปแล้วกี่ปีก็ตาม..
กรุงโซลก็ยังไม่เคยมีสักวินาทีที่เงียบสงัด
ร่างของใครบางคนเดินกอดตัวเองไปตามฟุตบาท
แม้จะแต่งกายด้วยเสื้อผ้ากันหนาว แต่ความเย็นยะเยือกก็ยังคงซ่านไปถึงขั้วหัวใจ
ร่างบางเดินวนไปวนมาโดยไร้จุดมุ่งหมาย
แต่สุดท้ายก็กลับมาตายรังอยู่ดี
และเวลานี้ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เขากลับมาหยุดยืนอยู่ ณ ที่ตรงนี้
รั้วเหล็กเปิดออกโดยอัตโนมัติ
ทงเฮเดินไปตามเส้นทางเข้าสู่คฤหาสต์หลังใหญ่กว่าร้อยเมตร
ผืนทะเลสาปสีครามที่โอบล้อมรอบบริเวณสะท้อนกับแสงแดดในยามเย็นเป็นประกาย
จังหวะน้ำวูบไหวเช่นเดียวกับที่หัวใจเขาก็วูบไหวตามไปด้วย..
เสียงจั๊กจั่นดังเซ็งแซ่จากตามพุ่มไม้ใหญ่
บรรยากาศรอบเรือนบ้านเงียบราวกับป่าช้า
แม้จะมีบริวารรับใช้อยู่หลายสิบคน
แต่มันก็นานมาแล้วที่บ้านหลังนี้ไร้ซึ่งการสังสรรใดๆ
นับจากวันที่คุณผู้ชายและคุณผู้หญิงของตระกูลนี้สิ้นใจ
“เจ้านายบอกว่า คุณหนูซองมินเรียกหาทงเฮ มีอะไรให้รับใช้หรือเปล่าฮะ?”
ใครบางคนที่นั่งหันหลังไปทางทิศตะวันตก
หันมามองทงเฮเพียงหางตา ใบหน้าสวยหลุบหน้าลงต่ำอย่างยำเกรง
ร่างเล็กวางแก้วไวน์ลงบนโต๊ะกระจกใสอย่างเบามือจนแทบไม่ได้ยินเสียง
ทงเฮคลานเข้าไปใกล้อย่างเชื่องช้า และหยุดอยู่ตรงหน้าอีกฝ่าย
“ระหว่างตอนพระอาทิตย์ขึ้นกับตอนที่พระอาทิตย์ตกดิน เธอคิดว่าเวลาไหนมันน่ามองกว่ากัน?”
คนที่นั่งอยู่ในที่สูงกว่าเอ่ยถามด้วยเสียงเย็น
ร่างบางหันออกไปนอกระเบียง แสงสีส้มรอบๆวงกลมสีแดงใหญ่ที่เหลือเพียงครึ่ง
เพราะอีกครึ่งมันกลืนหายไปกับผืนน้ำทะเลสาป แต่ถึงอย่างนั้น มันก็สวยงาม..
“ทงเฮคิดว่า... มันก็น่ามองพอกันทั้งคู่แหละฮะ ขึ้นอยู่ที่ว่าคุณหนูมีเวลาพอเพื่อจะดูมันค่อยๆ
กลืนไปกับพื้นน้ำ หรือ ลอยขึ้นเหนือพื้นน้ำมากกว่า”
“แล้วงานแต่งงานของฉัน...สมควรจะจัดในเวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นหรือตกดีล่ะ?”
ร่างเล็กยกมือขึ้นอยู่ในระดับอก
ก้มหน้าลงมองแหวนทองคำขาวที่นิ้วนางข้างซ้ายแล้วยิ้มเนือยๆให้มัน
เพราะมันเป็นแหวนที่ได้มาด้วยความไม่เต็มใจของอีกฝ่าย
ก็เหมือนไม่มีค่า..ไม่มีความหมายใดเลยสักนิด
“พี่จองซูบอกว่า ถ้าฉันหายดีเมื่อไรจะอนุญาตให้แต่งงาน”
“มันก็ถูกอย่างที่เจ้านายพูดแหละฮะ คุณหนูต้องดูแลตัวเองมากๆนะฮะ”
เมื่อสิ้นคำ..
ทงเฮก็วางมือของตนอยู่บนหลังมือของคุณหนูเพื่อปลอบโยน
ส่งยิ้มให้อย่างจริงใจเช่นเดิมกับที่เคยทำ
เห็นอย่างนั้นคุณหนูจึงยิ้มตอบกลับมา แม้จะเป็นเพียงรอยยิ้มเจื่อนๆ
ทงเฮก็ดีใจที่อย่างน้อยคุณหนูยังคงยิ้มได้
“ถ้าอย่างนั้น โจ คยูฮยอน คงไม่ต้องการให้ฉันหายดีล่ะสินะ”
“..........”
“กลับไปทำหน้าที่ของเธอต่อเถอะ ทงเฮ”
“ถ้ามีอะไรก็เรียกทงเฮได้เสมอนะฮะ”
พยักหน้ารับคำพลางหยิบแก้วไวน์บนโต๊ะใส่ถาด
เพื่อจะยกออกไปทำความสะอาดให้เรียบร้อย
ร่างเล็กเอนตัวพิงพนักเก้าอี้แล้วหลับตาลงอย่างอ่อนล้า
เพื่อรอดวงตะวันค่อยๆลาลับขอบฟ้า
“คุณหนูซองมินอย่าลืมทานยาหลังอาหารนะฮะ”
เสียงใสเอ่ยเตือนก่อนจะปิดประตูห้องลงตามมารยาท
--------------------------------------------------------------------------
เข็มนาฬิกาชี้ที่เลขสิบสองแล้ว..
นั่นก็หมายความว่าในวินาทีต่อๆไปคือวันใหม่
ใครบางคนยืนอยู่ท่ามกลางความมืดมิดริมทะเลสาป
มีเพียงแสงไฟสลัวๆส่องถนนที่ริมข้างทางเท่านั้น
ลมหนาวพัดเข้ามาเป็นระยะ ร่างเพรียวบางกระชับเสื้อกันหนาวให้แน่นขึ้นกว่าเดิม
คฤหาสต์ซึ่งเปนที่พักอาศัย เริ่มทยอยปิดไฟทีละดวงสองดวง
จองซูพ่นลมออกมาเป็นไอ อยู่ท่ามกลางอากาศเย็นจัด
เร็วๆนี้หิมะคงจะตกแล้ว..
“คุณจองซู... มายืนทำอะไรอยู่คนเดียวครับ?”
ชายหนุ่มร่างใหญ่เดินออกมาจากความมืดสนิท
ใบหน้าเนียนละเอียดหันไปมองตามเสียงช้าๆ
ก็ไม่ได้นึกแปลกใจอะไร เพราะรู้ดีอยู่แล้วว่า
เวลาดึกดื่น กลางค่ำกลางคืนแบบนี้
มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน
“นายก็รู้ดีว่าฉันเป็นคนนอนไม่ค่อยหลับ”
ยองอุนเกาหัวแกรกๆ
หยุดยืนข้างเจ้านายคนสนิทอย่างถือวิสาสะ
จองซูเหลือบมองตามช้าๆแต่ก็ไม่ได้พูดตำหนิอะไรออกไป
ยังดีเสียด้วยซ้ำที่ตอนกลางคืนแบบนี้มีเพื่อนไว้คุยแก้เหงา
“คุณจองซูคงกำลังไม่สบายใจ”
คนตัวใหญ่กว่าเอ่ยขึ้นด้วยเสียงเรียบ
ดวงตาคู่สวยมองหยั่งเข้าไปในนัยน์ตาอีกคู่
ยกยิ้มให้กับลูกน้องคนฉลาดที่รู้ทันความคิดของเขาแทบทุกอย่าง
“นายนี่เหลือเกินจริงๆนะยองอุน รู้ทันกันแบบนี้ต่อไปคงตั้งตัวเป็นศัตรูฉันได้ไม่ยาก”
“โธ่... คุณจองซู ใครเขาจะกล้าทำแบบนั้น”
ใบหน้าคมคายรีบปฏิเสธคำกล่าวหานั้นทันที
คนตัวเล็กกว่าลอบยิ้มให้เจื่อนๆ
เพราะความทุกข์ยังคงอัดแน่นอยู่คับสมอง
คงลำบากที่จะยิ้มออกมาได้อย่างเต็มปากเหมือนใครคนอื่น
“ถ้าหากไม่สบายใจก็ระบายออกมาเถอะครับ ผมยินดีรับฟัง”
มือหนายกขึ้นแตะเข้าไปที่หัวไหล่มนเล็ก
หนุ่มตาสวยหลุบหน้าลง
ไม่แม้แต่จะขยับริมฝีปากให้คำใดเล็ดลอดออกมา
แม้รูปลักษณ์ภายนอกจะดูอ่อนแอสักเพียงใด
แต่ความเป็นจริง ข้างในนั้นแข็งแกร่งกว่าอะไรทั้งสิ้น
“...ฉันหวังว่าเมื่อคิบอมกลับมาอะไรๆมันจะดีขึ้น”
“ทุกอย่างมันจะดีขึ้น...ผมเชื่ออย่างนั้น”
ดวงหน้าเรียวเล็กอมยิ้มรับคำของอีกฝ่าย
สองแขนยกขึ้นกอดอกบรรเทาความหนาวของร่างกาย
สายตาทอดมองไปยังคฤหาสต์ด้านล่างซึ่งเป็นที่พักอาศัยตั้งแต่ยังเด็กนัก
กว้างใหญ่...บริวารมากมาย...แต่เหตุใดเล่า ?
เขาและน้องๆยังค้นหาคำว่าความสุขไม่พบ
--------------------------------------------------------------------------
ผู้โดยสารเริ่มทยอยกันออกมาทางประตูในสนามบิน
ชายหนุ่มใบหน้าคมเข้ม สวมแว่นกันแดดสีดำ เดินลากกระเป๋าใบโต
แม้จะไม่ใช่คนมีชื่อเสียงอะไรมากมาย แต่บุคลิกและท่าทางก็ดูโดดเด่น
เรียกสายตาคนแทบทั้งสนามบินให้หยุดอยู่ตรงเขาได้ไม่ยาก
หิมะแรกโปรยปรายลงมาไม่ขาดสาย..
ท้องถนนกำลังจะถูกปกคลุมไปด้วยทะเลสีขาวบริสุทธิ์
จะเป็นลิขิตของเบื้องบนหรืออย่างไร...ที่ทำให้คิมคิบอมกลับมาในวันนี้
วันที่หิมะแรกตกเป็นครั้งที่ ๑๒๙
รถลีมูซีนคันยาวเคลื่อนตัวมาจอดหน้าคฤหาสต์หลังใหญ่
ลูกน้องและคนรับใช้ต่างออกมาให้การต้อนรับแด่ทายาทคนกลางของตระกูล
คิบอมเดินลงจากรถด้วยท่าทีสุขุม ส่งยิ้มให้กับคนหน้าเดิมๆที่ยังจงรักภักดีอยู่ถึงทุกวันนี้
“ยองอุน... พี่จองซูกับพี่ซองมินอยู่ที่ไหน?”
เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามหนุ่มร่างหนาตรงหน้าเบาๆ
ยองอุนผายมือไปยังห้องรับแขกเพื่อเชื้อเชิญให้เข้าไปนั่งพัก
ใบหน้าคมคายขมวดคิ้วเข้มเข้าหากัน
แต่ก็ไม่ได้พลั้งปากตำหนิแต่อย่างใด เดินเข้าไปในห้องนั้นตามมารยาท
“อีกสักพักเจ้านายและคุณหนูคงจะลงมา แต่ถ้าท่านเร่งรีบ เดี๋ยวผมขึ้นไปตามให้ก็ได้ฮะ”
ร่างบางวางแก้วทรงสูงลงบนพื้นโต๊ะ
พร้อมทั้งเสิร์ฟคุ้กกี้ควบคู่กันไปด้วย
เมื่อเสร็จหน้าที่แล้วก็ก้มหน้าก้มตาเดินออกไป
คิบอมมองคนตัวเล็กอย่างไม่คุ้นตาเท่าไร
“เดี๋ยว...”
ใบหน้าหวานหันกลับมาด้วยท่าทางหวาดหวั่น
กลัวว่าจะทำอะไรไม่ถูกใจแล้วโดนตำหนิเอาได้
ไม่ได้กลัวว่าตนจะถูกตำหนิ แต่กลัวว่าแขกของเจ้านายจะเอาไปพูดว่า
เจ้านายสั่งสอนคนรับใช้ได้ไม่ดีเท่าที่ควร
“ท่านมีอะไรให้ทงเฮรับใช้งั้นหรอฮะ?”
คิบอมส่ายหน้าเชิงปฏิเสธ
คนตัวเล็กค่อยๆคลานเข้ามาใกล้ ก้มหน้าก้มตาด้วยความยำเกรง
ร่างสูงจึงนั่งไขว่ห้างอย่างเย่อหยิ่ง
“ชื่อทงเฮใช่ไหม?”
เอ่ยปากถามออกใบเสียงเรียบ
ใบหน้าสวยพยักหน้ารับแล้วนั่งนิ่งอย่างเจียมตัว
“มาอยู่บ้านนี้เขาไม่เคยบอกเลยหรือไงว่า ทายาทของเจ้าของบ้านนี้มีใครบ้าง?”
“ทงเฮก็พอทราบฮะ...”
ร่างสูงแสยะยิ้มมุมปาก
ก้มหน้าลงต่ำก่อนที่จะยื่นหน้าเข้าไปหาคนที่ตัวเล็กกว่า
สูดกลิ่นหอมบริสุทธิ์จนแทบจะเคลิบเคลิ้มไปในทันที
หากแต่เพียงใบหน้าสวยหวานนั้นขยับหนี
อีกฝ่ายจึงชักหน้ากลับเข้ามาที่เดิม
“ถึงคุณจะเป็นแขกของเจ้านายและคุณหนู ก็ไม่ควรฉวยโอกาสกับทงเฮนะฮะ”
“เธอรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?”
“...ไม่ทราบฮะ ทงเฮต้องรีบไปเตรียมการต้อนรับคุณชายที่กลับมาจากเมืองนอก
ขอตัวก่อนนะฮะ ถ้ามีโอกาส ทงเฮอาจจะได้มารับใช้ท่านอีก”
ร่างบางคลานออกไปจนสุดประตูห้อง
คิบอมหัวเราะในลำคอเบาๆกับความน่าขันของคนแปลกหน้า
กลับไปเตรียมการต้อนรับคุณชายอย่างนั้นหรือ?
แล้วที่นั่งคุยอยู่ตั้งนานนี่ใครที่ไหนกันล่ะ?
หากไม่ใช่... คุณชายคิมคิบอม ลูกชายคนที่สองของตระกูลคิม
Knock! Knock!
ประตูบานใหญ่เปิดออกกว้าง
แต่ร่างของเจ้าของห้องนั้นหายกลับไปในห้องดังเดิม
คนตัวเล็กค่อยๆเดินเข้าไปในนั้นอย่างอ่อนน้อม
หยุดลงนั่งกับพื้นที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง
สายตาจ้องมองไปยังหนุ่มตาสวยที่กำลังทาครีมลงบนใบหน้าของตนอยู่
“เจอคุณชายแล้วใช่ไหม?”
จองซูเอ่ยถามคนตัวเล็กค่อยๆ
ใบหน้าหวานเลิกคิ้วสูงอย่างสงสัย
คุณชายงั้นหรือ?
เขาจะพบได้อย่างไรกัน?
“เห็นคุณหนูบอกว่าคุณชายจะกลับมาตอนเย็นไม่ใช่หรือฮะ?”
“เขาเปลี่ยนไฟล์ทบินกะทันหัน...เลยจะมาถึงเช้านี้ เห็นยองอุนบอกว่ามาถึงแล้วไม่ใช่หรือ?”
ร่างเพรียวบางลุกขึ้นยืน
ฉีดน้ำหอมราคาแพงลิ่วเข้าที่ปกเสื้อ
ก่อนที่จะสบสายตาคู่สวยของอีกฝ่าย
“อะไรกันทงเฮ? ฉันยังได้ยินเธอคุยกับเขาอยู่เลย”
“แต่นั่นมัน.... แขกของเจ้านายกับคุณหนูนี่ฮะ”
ใบหน้าเรียบเนียนยิ้มมุมปาก
นึกขันในท่าทางไร้เดียงสาของเด็กไม่รู้จักโตคนนี้
มือนุ่มเข้าแตะที่หัวไหล่บางเบาๆ
พร้อมทั้งกระซิบอะไรบางอย่างที่ข้างหู
“ก็นั่นแหละ... คุณชาย คิม คิบอม”
--------------------------------------------------------------------------
ตะวันใกล้จะลับขอบฟ้า..
เสียงไวโอลินดังออกมาจากคฤหาสต์ที่เงียบสนิท
ทงเฮยืนอยู่บริเวณระเบียงชั้นสาม บรรเลงบทเพลงที่น่าหลงใหล
คนมากมายที่กำลังทำหน้าที่ของตัวเองอยู่นั้น ต่างมองขึ้นมาด้านบนด้วยความชื่นชม
ใบหน้าสวยยิ้มออกมาอ่อนๆ ปล่อยให้หัวใจที่บริสุทธิ์ได้โบยบินไปกับธรรมชาติ
บทเพลงคลาสสิคจบลงอย่างเรียบง่ายแต่ก็สวยงาม..
ใครบางคนเรียกใช้ให้ทงเฮไปดูแลคุณชายในห้องนอน
คนตัวเล็กจึงจำเป็นต้องก้มหน้ารับคำนั้นอย่างเลี่ยงไมได้
Knock! Knock!
ยืนรออยู่สักระยะแต่กลับไม่มีใครมาเปิดประตูให้เลยสักนิด
ต่อให้เคาะอีกกี่ครั้งก็กลับไม่มีอะไรตอบรับ
ใจก็ห่วงว่าคุณชายจะเป็นอะไรไปหรือเปล่า..
ร่างบางจึงถือวิสาสะเปิดประตูห้องเข้าไปในทันที
เพล้ง!
แก้วน้ำใสทรงสูงหล่นลงกับพื้น
เมื่อภาพตรงหน้ากลับเป็นภาพที่ทงเฮไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน
หญิงสาวที่ทงเฮค่อนข้างจะคุ้นเคยดีได้รับจุมพิตลึงซึ้งจากคุณชายคิบอมที่เพิ่งจะกลับมาไม่ทันข้ามคืน
กระดุมของเครื่องแบบคนใช้ถูกปลดลงไปจนถึงสะดือ
บริเวณหน้าอกถูกแหวกอกจนเห็นเสื้อชั้นในรัดติ้ว
ร่างทั้งสองชะงักสักพักก่อนที่ฝ่ายหญิงจะเป็นฝ่ายผละออกมาเสียเอง
ซันนี่รวบเสื้อที่หลุดรุ่ยขึ้นปิดจนถึงลำคอ
“ทงเฮเคาะประตูนานแล้ว ก็ไม่มีใครมาเปิดสักที งั้นทงเฮ...ขอตัวนะฮะ”
ร่างบางก้มหน้าก้มตาเก็บเศษแก้วที่พื้นอย่างรวดเร็ว
ใบหน้าหล่อจัดขมวดคิ้วเข้มเข้าหากันอย่างขัดใจ
ร่างสูงดันตัวหญิงสาวออกให้พ้นจากบริเวณเตียงนอน
ใบหน้าหวานเงยหน้าขึ้นมองภาพเหตุการณ์นั้นอีกครั้ง
“ทงเฮอยู่ก่อน ซันนี่...เธอกลับไปได้แล้ว”
หญิงสาวร่างระหงจิกสายตาไปยังหนุ่มหน้าหวาน
ก้มลงเก็บเศษแก้วต่อจากที่ทงเฮเก็บไว้
ยกออกไปข้างนอกก่อนที่ประตูห้องจะปิดลง
“คุณชายให้ทงเฮรับใช้อะไรหรือฮะ?”
คนตัวเล็กยืนอยู่ที่ซอกเล็กๆ
ในห้องสี่เหลี่ยมสีดำกว้างนั้นกลับถูกทาสีให้เป็นสีทึบ
ทำให้บรรยากาศดูมืดมนไปหมด
ร่างสูงชันร่างขึ้นนั่งพิงพนักเตียง
ผ้าห่มผืนหนาร่วงลงไปกองอยู่กับบั้นเอว
เผยให้เห็นแผงอกแกร่งที่มีรอยจ้ำอยู่เป็นจุดๆจากการกระทำเมื่อครู่
“ล็อคประตูห้องเดี๋ยวนี้... เธอต้องรับใช้ฉันไปอีกนานแน่ๆ”
ทงเฮเบิกตาโพลงอย่างตกใจ
แต่เมื่อมันคือคำสั่งของคุณชาย ทงเฮก็ต้องทำมันอยู่ดี
สายตาดุดันที่คิบอมมีให้ ทำให้ทงเฮหวาดหวั่นใจอย่างมาก
แต่เจ้าของดวงตาอำมหิตคู่นั้นคงไม่รับรู้...
ในเมื่อในเวลาเดียวกันนี้
เขาก็มองเห็นทงเฮเป็นเพียงของเล่นชิ้นหนึ่งเหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆเท่านั้น
------------------------------------------------------------------
TO BE CONTINUE ON PART 2
THANKS FOR COMMENT
THANKS FOR ATTENTION
>>>
ความคิดเห็น