Diary Friendship - นิยาย Diary Friendship : Dek-D.com - Writer
×

    Diary Friendship

    เรื่องราวชีวิตมัธยมปลายของนายจุ๊บและผองเพื่อน การก้าวพ้นความเป็นเด็กการเรียนรู้โลกกว้างและความรัก

    ผู้เข้าชมรวม

    180

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    180

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน :  2 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  21 มิ.ย. 50 / 12:52 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    Diary  friendship

    บทที่ 1

    1:

                    ผมคิดว่า...  เราทุกคนล้วนมีความทรงจำอย่างน้อยๆ  ก็คงจะมีสักเสี้ยวหนึ่งของความทรงจำ 

    ที่อาจจะเป็นได้ทั้งความทรงจำที่เราอยากจะเก็บมันเอาไว้  และอยากจะลืมมัน  หรืออยากจะลบมันออกไป

    จากความทรงจำในเวลาเดียวกัน  ฟังดูงงๆ  เหมือนกันนะ  อยากจะจำหรืออยากจะลืมกันแน่  เป็นไปได้หรือ

    ที่ความรู้สึก  2  ความรู้สึกที่ตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิง  จะมารวมอยู่ด้วยกันในเวลาเดียวกัน...ในความทรงจำของเรา....................................

    และนี่.....คือความทรงจำในส่วนนั้นของผม  ที่ผม....ทั้งอยากจะจำและอยากจะลืมในเวลาเดียวกัน 

    มันเคยเกิดขึ้นที่นี่  โรงเรียนประจำแห่งนี้  ที่ทำให้ผมมีความทรงจำต่างๆ  มากมาย  ตลอดเวลาในโรงเรียนหลังเขาแห่งนี้  ตลอด  3  ปี  ของชีวิตมัธยมปลาย....ที่จะคงอยู่ในความทรงจำของผมตลอดไปไม่ว่าผมจะต้องการหรือไม่..ก็ตาม

    ข้ากลัว...อย่าทำแบบนี้เลยนะ  ขอร้อง

    ไม่ต้องกลัวหรอกน่า...ใครๆ  เขาก็ทำกัน!

    แต่ถึงไม่ทำแบบนี้  เราก็เป็นผู้ใหญ่ได้นี่นา...ขอร้องล่ะ.....อย่าทำแบบนี้  เราเป็นเพื่อนกันนะ!

    ถ้าเป็นเพื่อนกัน....ก็ต้องไว้ใจกันสิ!

    อย่าให้มันเกินเลยไปกว่านี้เลยนะ  แค่นี้ก็คงเพียงพอแล้วสำหรับเราสองคน!

    มาถึงขั้นนี้แล้วนะ...  ทำไมถึงเพิ่งคิดจะเปลี่ยนใจเอาตอนนี้  ก็แกเองไม่ใช่เหรอที่บอกว่าเต็มใจน่ะ!

    ก็ข้าไม่คิดว่ามันจะลงเอยแบบนี้นี่นา...ขอร้องล่ะ!...เราไม่ควรจะทำแบบนี้  เราไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้  แกก็รู้...ว่าถ้าเราทำลงไปแล้ว...เราสองคนอาจจะไม่เหมือนเดิมอีกเลย  แล้วแกจะให้..ความเป็นเพื่อน

    ที่เราสร้างกันมาตั้งหลายปี  ต้องมาพังลงเพียงเพราะไอ้ความรู้สึกชั่ววูบ  แค่คืนเดียวเนี่ยนะ!

    หยุดพูดเถอะ!

    จะทำอะไรน่ะ!  อย่านะ!

    ก็จะทำให้มันจบๆ ไปไงล่ะ  จะได้แยกย้ายกันกลับไปหอใครหอมัน และจะได้ไม่มีใครมาเห็น

    ว่าเราอยู่ที่นี่!

    งั้น....ขอเวลา......ทำใจสักเดี๋ยวนะ

    เร็วๆ  เข้านะ  มันดึกมากแล้ว  ข้าไม่อยากรอนาน!

    อึ๊.... !

    อาจจะเจ็บนิดนึงนะ!

    อึ๊...อึ๊......!  เจ็บ!  เบาๆ หน่อยได้มั้ย  อึ๊...... !

    ครั้งแรกก็เจ็บแบบนี้ล่ะ  เดี๋ยวสักพักก็ชินไปเอง.....อึ๊บ!

    อ๊า!  หยุด!  หยุด!!  หยุดก่อน!!!  ขอร้องล่ะ...ไม่ไหวแล้ว....หยุด!....หยุดสิ!!  อึ๊.....อึ๊.....!

    โธ่!  อะไรนักหนาเนี่ย  เดี๋ยวกลัว......เดี๋ยวเจ็บ

    ก็มันไม่เคยนี่นา.... แล้วก็กลัวจริงๆด้วย  ลองมาเป็นข้าดูบ้างมั้ย?  จะได้รู้ว่ามันเจ็บ!

    ใครๆ  เค้าก็กลัวกันทั้งนั้นล่ะ!  ก็มาแอบมุดดูผีใต้ถุนอาคารเรียนดึกๆ  แบบเนี้ย!  แล้วแกก็บอกเอง

    ว่าเต็มใจจะมุดเข้าไปก่อน  รูมันเล็กแกก็ให้ข้าช่วยดันเข้าไป  แล้วขอบตึกมันบาดแกมันก็ต้องเจ็บหน่อยดิ 

    ถึงจะเป็นครั้งแรกที่โดนขอบตึกบาด  แต่แกโดนมีดบาดยังเจ็บกว่านี้อีก  แล้วแกจะโวยวายให้ได้อะไรขึ้นมา 

    ข้ารู้...แกกลัวว่าถ้าเห็นผีขึ้นมาจริงๆ  แล้วแกกับข้าจะเสียสติไปทั้งคู่ ไม่มีทางกลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม

    ได้อีก.....  แกกลัวเกินไปหรือเปล่า  มันไม่ร้ายแรงขนาดนั้นหรอก  ก็แค่มาทดสอบความกล้า...ว่าเราโตพอ

    จะเป็นผู้ใหญ่หรือเปล่า  ถึงจะมีใครมาเห็นเราอย่างมากมันก็ไปฟ้องครู  แล้วเราก็แค่โดนตักเตือน....ก็แค่นั้น!  เร็วๆ ....รีบๆ  เข้าไปเลย!

    แกไม่มานำหน้า  แกไม่รู้หรอกว่าข้าน่ะรู้สึกยังไง

    โธ่!  แกเป็นผู้ชายรึเปล่าวะ  เดี๋ยวอาสาจะนำ...เดี๋ยวก็มาปัดให้ผู้หญิงนำ  ฮะ...ไอ้จุ๊บ!

    ก็ได้วะ!  ผมตอบไอ้นิไปอย่างกลัวๆ  กล้าๆ  แล้วก็ก้มหน้าก้มตาคลานเข้าไปใต้ถุนอาคารที่เป็นช่องแคบๆ  ไอ้นิค่อยๆ  คลานตามเข้ามาและทำหน้าที่ส่องไฟฉาย  ไอ้นิเป็นเพื่อนซี้ของผมมาตั้งแต่ไหนแต่ไร  

    มันไม่เหมือนผู้หญิงเลยสักนิด  มันทั้งห้าวหาญ  ชอบอะไรๆ  แบบผู้ชาย....ไม่มีความอ่อนหวานในแบบที่ผู้หญิงควรจะมี  ตั้งแต่รู้จักกับมันมา  ผมไม่เคยเห็นมันร้องไห้  หรืออกอาการว่า กลัว  เลยสักครั้ง  ตรงข้ามกับผม

    ที่เป็นผู้ชายที่ทั้งขี้ขลาด  ปอดแหก  ตื่นตูม  ขี้กลัว  และวิตกจริตจนเกินเหตุกับทุกๆเรื่อง  ผมจำไม่ได้ว่ารู้จักกับมันได้ยังไง  แต่เท่าที่รู้...คือผมมีเพื่อนซี้  เพื่อนสนิทอยู่คนเดียว......ก็ไอ้นิคนนี้ล่ะ!

    คืนนี้เราสองคนมาพิสูจน์ความเฮี้ยนของผีเด็กใต้อาคารเรียนหลังหนึ่ง  ซึ่งครั้งหนึ่งเคยมีเด็กเล็กๆ 

    คนหนึ่งหายตัวไปอย่างลึกลับ 

    ในคืนหนึ่งขณะที่ฝนตกหนัก  เสียงเด็กน้อยร้องแว่วดังท่ามกลางสายฝน  ไม่มีใครได้ยิน!

    เพราะทุกคนกำลังหลับสนิท  เสียงเด็กน้อยเงียบหายไป!

    เช้าวันถัดมาเมื่อรู้ว่ามีเด็กหายไป   ทั้งครูและนักเรียนจึงออกตามหา  เด็กคนหนึ่งสังเกตเห็น

    ว่าใต้ถุนอาคารหลังหนึ่งมีร่องรอยขุดคุ้ยดินเป็นโพรงลึกลงไปใต้ถุนอาคารนั้น  แต่...โพรงนั้นเป็นโพรง

    ที่เล็กมากๆ  อาจจะเป็นโพรงที่หมาขุดเอาไว้หลบฝน  หรือเอาไว้คลอดลูกก็ได้  นอกจากนี้ดินปากโพรง

    ยังเฉอะแฉะ  เพราะน้ำฝนที่ตกลงมาเมื่อคืนก่อน  จึงสันนิษฐานได้ว่า  จะต้องมีน้ำขังอยู่ในโพรงไม่น้อยแน่ๆ.....  ไม่มีใครลงไปในโพรงนั้น  เพราะคิดว่ามันเป็นเพียงแค่  โพรงหมาขุด!

    การค้นหาดำเนินไปถึง  3  วันเต็ม  แต่ก็ไม่มีใครพบเด็กที่หายไปนั้น!  ในคืนที่  3  ของการหายตัวไป

    อย่างลึกลับ  บางอย่างที่ชวนขนลุกก็เกิดขึ้น  ขณะที่ทุกชีวิตอยู่ในห้วงคะนึงในความฝันอันแสนหวาน

    กรี๊ด!  เสียงเด็กน้อยคนหนึ่งร้องลั่น  ร้องไม่หยุดราวกับคนเสียสติ

    จาก1  กลายเป็น 2, 3, ...4  จนเด็กทุกคนพากันกรีดร้องไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ....ครูทุกคนพยายาม

    หยุดเสียงกรีดร้องน้อยๆ  เหล่านั้น  ก่อนที่พวกตนจะพลอยร้องไปด้วย  เสียงกรีดร้องของเหล่าเด็กน้อย

    ค่อยๆ  เงียบลง  ทุกคนยังคงตกอยู่ในความกลัว!

    โพรงนั่น!  เขาอยู่ในโพรงนั่น!  เด็กน้อยคนหนึ่งร้องอุทานออกมาก่อนจะหมดสติไป

    มีคนมากมายเชื่อว่าในคืนที่  3  นี้เอง  วิญญาณของผีตายโหงที่ยังมีห่วง  จะกลับมา  เพื่อจัดการในเรื่อง

    ที่ตนห่วงให้เสร็จ  ถ้าเป็นอย่างนั้น  ก็คงอธิบายได้ว่าทำไม  เด็กๆ  จึงพากันกรีดร้อง  และทำไม!  เด็กน้อยคนหนึ่งจึงอุทานออกมาเป็นถ้อยคำแปลกๆ  ก่อนที่จะหมดสติไป  นั่นเพราะวิญญาณเด็กน้อยคงกลับมาเพื่อบอก

    อะไรบางอย่างกับเพื่อนๆ  ของเขานั่นเอง

    เช้าวันที่  4  ทุกคนรีบไปยังโพรงเจ้าปัญหานั้น  พลั่วอันหนึ่งปักทิ่มลงไปในดินบริเวณโพรงนั้น

     แล้วขุดคุ้ยดินขึ้นมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า  จนโพรงนั้นใหญ่พอที่คนๆหนึ่งจะเข้าไปได้

    ในตอนนั้นเองที่กลิ่นสาบสาง  และกลิ่นเหม็นเน่าชวนอาเจียนได้ลอยออกมาจากโพรงนั้น!  มันไม่ใช่แค่  โพรงหมาขุด! อีกต่อไป  มีบางอย่างลงไปตาย  และเน่าอยู่ในนั้น!

    ครูคนหนึ่งพยายามกันเด็กและผู้คนที่มามุงดูให้ออกไปจากบริเวณนั้น พวกเขาเริ่มจะแน่ใจแล้วว่า  ภายใต้โพรงเล็กๆ  นั้นมีบางสิ่งซุกซ่อนอยู่  บางอย่างที่คนทั่วไปและเด็กนักเรียนไม่ควรจะรับรู้!  ไม่มีใครกล้าลงไปในโพรงนั้น  จึงเป็นหน้าที่ของตำรวจที่ถูกตามมาเพื่อตามหาร่างอันไร้วิญญาณของเด็กน้อยที่หายไปนานถึง

     4  วัน

    เหวอ!  ช่วยด้วย!...  นายตำรวจคนหนึ่งร้องเสียงหลงและพยายามตะเกียกตะกายออกมาจากโพรงอย่างไม่คิดชีวิตหลังจากเพิ่งจะถูกส่งเข้าไปไม่ถึงนาที

    จากนั้นตำรวจหลายนายที่เข้าไปต่างก็ต้องกลับออกมาด้วยอาการที่ไม่ต่างกัน  และทุกคนต่างก็พูด

    เป็นเสียงเดียวกันว่า  มีบางอย่างอยู่ในนั้นจริงๆ  บางอย่างที่ไม่ได้หยุดนิ่งอยู่กับที่  มีทั้งเสียงวิ่ง  เสียงกระโดดย่ำพื้นดินแฉะๆ  และที่ร้ายที่สุด  มีเด็กคนหนึ่งอยู่ในนั้น!

    คุณครูที่ได้ฟังต่างก็ไม่เข้าใจ  ในเมื่อตำรวจเหล่านั้นถูกส่งเข้าไปเพื่อค้นหาร่างของเด็ก  แต่ทำไมเมื่อพบแล้วจึงหนีออกมา  แทนที่จะอุ้มร่างของเด็กออกมา

    ก็ไอ้ที่เจอ...มันไม่ใช่ศพนี่นา!  ตำรวจคนนึงกล่าว  ทุกคนขนลุกชันเมื่อได้ยินเช่นนั้น

    มีเด็กคนนึงร่างกายเลอะเปรอะไปด้วยเลือด  นั่งร้องไห้อยู่ในนั้น!  ตำรวจอีกคนพูดออกมาในขณะที่เนื้อตัวยังสั่นรัว  แสดงอาการตื่นกลัวอย่างเห็นได้ชัด

    เมื่อเป็นเช่นนั้นทั้งครูและตำรวจจึงร่วมกันจุดธูปบอกกล่าววิญญาณของเด็กน้อยเบื้องหน้าโพรงอาถรรพ์แห่งนั้น  และเมื่อเสร็จพิธี  ตำรวจอีกนายถูกส่งเข้าไปด้วยอาการกล้าๆ  กลัวๆ  1นาที  2,  3,  5,  10 นาที 

    ไม่มีอะไรเกิดขึ้น  การทำงานภายในโพรงนั้นคงเป็นไปอย่างราบรื่น

    เหวอ!  เสียงร้องดังออกมาจากในโพรงอีกครั้ง  แต่กลับไม่มีการพยายามตะเกียกตะกายหนีออกมาอย่างเช่นเคย  มันเกิดอะไรขึ้น

    เกิดอะไรขึ้น?  นายตำรวจข้างนอกตะโกนถามด้วยความตื่นตระหนกและความกลัว

    ขอโทษครับพี่  หมามันวิ่งตัดหน้าไม่มีอะไร ทุกคนรู้สึกโล่งอกเมื่อได้ยินเช่นนั้น

    ราว  20  นาที  นายตำรวจก็โผล่ออกมาจากโพรงพร้อมกับร่างๆ  หนึ่ง ที่เน่าเฟะ  เละขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว  ร่างๆ  นั้นทำให้ทุกคนตกตะลึง  สยดสยอง  และงุนงง?????

    นี่มันอะไรกัน  มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!

    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น