ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Lunatear Online - The Birth Of Flamone Kingdom

    ลำดับตอนที่ #5 : The Earth Guardian (ผู้พิทักษ์แห่งดิน)[Re-Write]

    • อัปเดตล่าสุด 24 พ.ค. 57


                “แก!!! ไอ้พวกขโมยสมบัติ จงตายซะเถอะ!!

                “เดี๋ยวครับใจเย็นก่อน ผมแค่บังเอิญหลงเข้ามาไม่ได้ตั้งใจจะขโมย”โฟลริชพยายามใช้ความสามารถในการคุยกับมอนสเตอร์ไกล่เกลี่ยปัญหา ทั้งๆที่ตัวเองพึ่งจะสูบสมบัติเค้าไปหยกๆ

                “เดี๋ยวนะ นี่เวิสอย่างเจ้าฟังที่ข้าพูดรู้เรื่องงั้นรึ”บอสหนอนยักถามด้วยเสียงที่แหบแห้งชวนขนลุก

                “ใช่ครับ”โฟลริชเริ่มยิ้มออกมาในใจก็คิดว่ารอดแล้วคุยกันรู้เรื่อง

                “มีเพียงบุรุษในคำทำนายเท่านั้นที่สามารถฟังภาษาลูนาเทียเข้าใจ เจ้าเป็นใครบอกมา!?”เดม่อนเวิร์มถามอย่างประหลาดใจ และมันดูเหมือนจะรู้เรื่องผู้พิชิตดีซะด้วย

                “มีคนเคยบอกเหมือนกันว่าผมคือคนในคำทำนาย และผู้หญิงคนนี้คือผู้พิทักษ์ของผม”โฟลริชตอบเรียบๆ พร้อมแนะนำเนวี่ไปด้วย

                “ฮ่าๆๆๆๆๆ โชคดีของข้าจริงๆท่านลูซิเฟอจะต้องตบรางวัลข้าอย่างงามแน่ๆถ้ารู้ว่าข้าสามารถสังหารผู้พิชิตได้ เจ้าจงตายซะเถอะเวิสผู้โง่เขลา”

     

    โฟลริชไม่ทันคิดว่าแท้จริงแล้วบอสคิงเดม่อนเวิร์มจะเป็นพวกโซลฮันเตอร์

                “ตูม!!!!!!

    เดม่อนเวิร์มพุ่งเข้าใส่ด้วยความรวดเร็วที่ขัดกับขนาดตัวของมันที่ใหญ่มหึมาสมแล้วที่เป็นบอสขั้นนักรบ ถ้าจะเปรียบเทียบความแข็งแกร่งในเกมนี้จะแตกต่างจากเกมอื่นอย่างสิ้นเชิง ไม่ใช่เลเวล1-100แต่จะมียศและเลเวลในแต่ละชั้นยศนั้นเป็นตัววัดระดับความแข็งแกร่ง สำหรับผู้เล่นจะต้องเก็บเลเวลให้ถึงเกณฑ์ของแต่ละชั้นยศจึงจะสามารถเลื่อนยศเป็นขั้นต่อไปได้ เช่น

    นักเดินทาง1-20 /  นักผจญภัย 1-30 / นักรบ 1-40 /  อัศวิน1-50 / แม่ทัพ1- 60 / ผู้กล้า 1-70 /ราชา 1-80 / จักรพรรดิ 1-100

    และถ้ามอนสเตอร์มียศแสดงว่าจะต้องแข็งแกร่งมากๆเพราะมอนสเตอร์จะมียศได้ต้องฝึกฝนให้แข็งแกร่งหรือทรงปัญญามากพอตัว แต่ก็มีทางลัดที่จะทำให้แข็งแกร่งมากขึ้นนั่นคือล่าโซลของตัวอื่นเพื่อมาเสริมพลังให้โซลของตนเอง เป็นหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เกิดพวกโซลฮันเตอร์ขึ้นมา การที่เจ้าบอสหนอนตัวนี้เป็นถึงขั้นนักรบแสดงว่าต้องล่าโซลมาเยอะมากทีเดียว

              “แฮมมอส”   

    โฟลริชเรียกอาวุธออกมาเตรียมพร้อมและต้องคอยหลบเมือกเหนียวที่อาจจะทำให้เค้าต้องตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย เค้าหลบการโจมตีที่ถาโถมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง สมองก็พยายามหาทางออกที่จะจบเรื่องนี้โดยเร็ว เพราะปากพาซวยแท้ๆดันลืมนึกไปว่ายังมีพวกที่ไม่ยินดีที่เค้ามีตัวตนอยู่กลุ่มใหญ่ๆ

              “ฝึบๆๆ ตูมๆๆ”

    โฟลริชกระโดดหลบไปหลบมาทำอะไรมากไม่ได้เพราะระดับห่างกันมากพอสมควร จริงๆต้องพูดว่ามากโขเลยด้วยซ้ำ

                “เนวี่!”โฟลริชหันไปส่งสัญญาณ

                “ค่ะ สปีดบูต!เนวี่ร่ายเวทที่พอจะเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนไหวให้โฟลริช

    “ทำไงดีคะนายท่าน มันตัวใหญ่มากเลย” เนวี่ที่ต้องเข้าๆออกๆต่างหูเพื่อจะได้ไม่เกะกะโฟลริช

                “ฉันก็ยังไม่รู้เหมือนกัน ลำพังสิ่งที่มีอยู่ตอนนี้ก็คงทำอะไรมันมากไม่ได้ เธอพอจะมีเวทที่หยุดการเคลื่อนไหวไหมล่ะ”

                “ไม่มีเลยค่ะ”เนวี่ทำเสียงสลด

                “อา ไม่เป็นไรไม่ต้องคิดมาก”โฟลริชพูดปลอดใจแม้ตัวเองจะร้อนใจไม่น้อย

                “ตุมๆ ฝึบ ตูมๆๆ”

                “ยอมเถอะน่ายังไงแกก็หนีจากท่านเดม่อนเวิร์มคนนี้ไม่รอดหรอก”เดม่อนเวิร์มพูดจาข่มอย่างผยอง มันตั้งใจกับการต่อสู้ครั้งนี้มาก

                “มันต้องมีจุดอ่อนซักที่สิน่า”โฟลริชสบถออกมาด้วยความเหนื่อยล้าจากการหลบการโจมตี

    “ฉึกๆๆ” ขณะหลบโฟลริชพยายามใช้แฮมมอสแทงไปที่ปริเวณร่างกายของเจ้าบอสหนอนยักนี่ตลอด แต่ก็ไม่ค่อยมีผลอะไรมากมายนักเนื่องจากร่างกายมหึมาของมันทำให้มีความทนทานต่อการโจมตีทางกายภาพสูง อาวุธที่แทบจะไร้พลังโจมตีกับผู้เล่นที่ยังไม่ทันได้เปลี่ยนอาชีพคงจะแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสร้างรอยขีดข่วนให้กับมอนสเตอร์ระดับนี้

    “ฉันเบื่อจะเล่นกับพวกแกแล้ว จงเป็นเหยื่อสังเวยแก่พวกเราเดม่อนสเปซซะเถอะ ฮุวะฮ่ะๆๆๆ”

    “พอยซั่นนีดเดิลเข็มพิษมรณะ”

    “ฟึบๆๆๆๆ”

    บอสคิงเดม่อนเวิร์มใช้ท่าโจมตีหมู่สลัดขนพิษที่เป็นเหมือนหนามที่สามารถละลายเยื่อหินได้สบายๆของมันออกมาทุกทิศทาง เยอะซะจนแทบจะไม่เห็นช่องว่างอีกเลย

                “แย่ล่ะสิหลบไม่พ้นแน่ ชิ ผิดสัญญากับพ่อจนได้” โฟลริชรู้ตัวแล้วว่าหลบไม่พ้นแน่ๆเค้าหลับตาปี๋นึกถึงหน้าพ่อแม่และลุงเต่าอินเทอร์ เวลาเหมือนจะหยุดนิ่งไปชั่วขณะเค้านึกทบทวนเรื่องต่างๆ มันยังมีสิ่งที่เค้าคาใจอยู่ไม่น้อย ที่จริงเค้าจะปล่อยให้เหล่ามอนสเตอร์สู้กันไปเองก็ได้ ยังไงเค้าก็ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรอยู่แล้ว และเค้าคงไม่ต้องมาเสี่ยงด้วย คำทำนายแบบนั้นปฏิเสธไปก็ซะก็สิ้นเรื่อง แล้วอะไรนะที่เป็นตัวผลักดันให้เค้าตัดสินใจที่จะยอมแบกภาระนี้ไว้ คำทำนายที่ผูกมัดหรือแค่นึกสนุก? ความทะเยอทะยานหรือแค่อยากเป็นฮีโร่? ความทระนงตัวหรือเพราะเลินเล่อเกินไปกันแน่นะ? คำถามมากมายผุดขึ้นมาในหัว ทำไมกันนะ? แค่เล่นเกมทำไมต้องห้ามตายด้วยนะ

     

    “วี้วววว บรึ้ม!!!!!เสียงระเบิดปริศนาดังขึ้น

              “นายท่าน!!!!!เนวี่ตะโกนสุดเสียงด้วยความตกใจ

    ฝุ่นควันจากการปะทะลอยตลบอบอวนไปทั่วพื้นที่เสียงการต่อสู้ที่ดุเดือดเงียบลงชั่วขณะ ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นต่างฝ่ายต่างมองอะไรไม่เห็น เนวี่ได้แต่กังวลและภาวนาขอให้นายท่านของเธอปลอดภัย คิงเวิร์มก็ดูลาดเลาอยู่อีกฝั่งนึง และสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น

              “วึ้งๆๆๆๆ”

    มีไข่ใบใหญ่ยักลอยขึ้นมามันส่องแสงสีน้ำตาลออกมาเปลือกไข่นั้นเป็นสีน้ำตาลมีลวดลายอ่อนดูอ่อนโยนแต่แข็งแกร่ง เพราะมีไข่ใบนี้มาขวางอยู่ทำให้โฟลริชรอดตายอย่างหวุดหวิด

                “เกือบไปแล้ว ฟู่วว”โฟลริชนั่งเหงื่อแตกอยู่ที่พื้น ได้แต่ถอนหายใจอย่าโล่งใจ

                “นายท่านฮืออ”เนวี่รีบเข้ามากอดโฟลริชไว้ทั้งน้ำตา เธอตกใจมากตอนที่เห็นเข็มพิษกำลังพุ่งมาที่เค้า

                “แก! หนังเหนียวนักนะ”คิงเวิร์มกล่าวอย่างฉุนเฉียวเนื่องจากไม่สามารถปลิดชีพศัตรูตรงหน้าในครั้งนี้ได้ ทั้งๆที่มันมั่นใจมากว่าจะจบเรื่องนี้ได้

                “เปรี๊ยๆๆ”

    เปลือกไข่เริ่มแตกออกทีละนิดแสงที่ส่องเล็ดรอดออกมาระหว่างรอยร้าวของเปลือกไข่เริ่มสว่างมากขึ้น

                “ข้าไม่ยอมให้แกได้เกิดหรอก ย๊ากกก” เวิร์มคิงพุ่งเข้าหาไข่ปริศนาที่พึ่งจะโผล่มาจากไหนไม่รู้ หวังจะทำลายมันให้สิ้นซากข้อหาที่มาขวางการล่าของมัน

                “วี้ดด ตูม!!”   

    เปลือกไข่ระเปิดออกมาทำให้คิงเวิร์มที่พยายามพุ่งเข้าไปหวังจะทำลายไข่ใบนั้นต้องโดนแรงระเบิดซัดปลิวกลับไปที่เดิม

              “เป็นไรไหมท่านพ่อ”

                /ผู้เล่นโฟลริชสำเร็จภารกิจฟักไข่ปริศนา/

                /ผู้เล่นโฟลริชได้รับอีสเตอร์บันนี่1ตัว/

    เมื่อการฟักตัวเสร็จสิ้นก็มีเสียงของระบบดังขึ้นมา และไข่ใบแรกที่เค้าได้ก็ฟักออกมาเป็นกระต่ายที่หน้าตาหล่อเหลายืนสองขาเหมือนมนุษย์ดวงตาสีน้ำตาลคมเข้มมั่นคงดุจผืนปฐพีที่พร้อมจะแบกรับทุกสิ่ง

                “ไม่เป็นไร ขอบใจมาก มาถูกเวลาเลยล่ะ”โฟลริชพูดเสียงตื้นตันเล็กๆ

                “ไม่เป็นไรท่านพ่อเรารีบจัดการเจ้าตัวนี้กันดีกว่า ท่านพี่สกัดการเคลื่อนไหวของมันให้ทีทำยังไงก็ได้ ส่วนข้ากับท่านพ่อจะพยายามจู่โจมมันอีกที”กระต่ายบันนี่อีสเตอร์นั้นดูคล่องแคล่วเรื่องการต่อสู้มาก

                “ได้เลยจ้า”

                “ได้”

     โฟลริชกับเนวี่ตอบรับทันที

              “ไฮเปอแฟลชบอล”

              “วูมม..วิ้ง!

    ลูกบอลแสงลูกเล็กๆถูกยิงใส่ตรงระดับสายตาของคิงเวิร์มและเมื่อเข้าใกล้แล้วมันก็ระเบิดกระจายแสงสว่างจ้าออกทันที

    “อ๊ากก!!! ตาข้า!!!!!

    คิงเวิร์มที่ไม่ได้สนใจโดนเข้าไปเต็มๆทำให้ตาของมันถึงกับบอดสนิทไปเลย สังเกตุได้ว่ามีของเหลวแปลกๆสีดำไหลซึมออกมาทางดวงตาคาดว่าน่าจะเป็นเลือดของมัน มันดิ้นทุรนทุรายอย่างทรมานมากทีเดียว เป็นปกติที่จุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดของสัตว์ที่อาศัยอยู่ใต้ดินคือแสงสว่างนั่นเอง      

     

    “ใช้วิธีสกปรกนักนะพวกแก แน่จริงก็ออกมาสู้กันอย่างขาวสะอาดเซ่!!!”คิงเวิร์มพยายามพูดท้าทายเพื่อให้มันสามารถลอบกัดทีหลังได้ แต่มาถึงขั้นนี้ไม่มีใครสนใจคำพูดของเจ้าหนอนยักตัวป่วนอีกแล้ว มีอย่างที่ไหนตอนแรกยังประกาศไล่ฆ่าเค้าอยู่เลย ตอนนี้ทำมาเป็นเรียกร้องความยุติธรรม

    “ตุบๆๆๆ ฉึกๆๆ”ทั้งสามคนระดมกำลังรุมสะกรัมเจ้าเดม่อนเวิร์มอย่างต่อเนื่อง แต่พวกเค้าก็ไม่สามารถทำความเสียหายให้ได้มากมายนัก

    “หึ ต่อให้โกงพวกแกก็ทำอะไรข้าไม่ได้หรอก ฮ่าๆๆ”

    “พอยซั่นนีดเดิล!เดม่อนเวิร์มเลือกใช้ท่าโจมตีบริเวณกว้าง แม้ตาจะมองไม่เห็นแต่ท่านี้ก็มีสิทสูงที่จะโจมตีโดนคู่ต่อสู้ได้ นับว่าเป็นความคิดที่ฉลาด

     “ฉึบๆๆๆ”

    “กำแพงปฐพี!อีสเตอร์บันนี่เรียกพื้นดินรอบๆขึ้นมาตั้งเป็นกำแพงป้องกัน

    “ฟู่ว เกือบไปแล้วสิ”โฟลริชพ่นลมออกมาด้วยความหวาดเสียวเพราะถึงแม้ว่าจะกันเข็มพิษเอาไว้ได้ทันแต่ มันก็ยังทะลุเข้ามาจนเกือบจะถึงตัวของพวกเค้าทั้งสาม สมแล้วที่เป็นหนอนดำดินตัวพ่อ ทุกส่วนของร่างกายคงช่วยในการที่จะเคลื่อนไหวใต้ดินได้สะดวกเป็นแน่

    “เฮอะ! ตื้นไปงั้นหรอ”คิงเวิร์มเมื่อยังคงได้ยินเสียงศัตรูอยู่ก็รู้ทันทีว่ามันไม่สามารถสังหารพวกโฟลริชได้

    “งั้นเจอนี่หน่อยเป็นไง”

    “ครืนนนนน” มันมุดตัวลงไปใต้ดินเพื่อนซ่อนตัวและกะจังหวะโจมตีจากใต้พื้นดิน

    “แย่ล่ะสินายท่าน แบบนี้เราจะโจมตีมันได้ยังไง”เนวี่พูดอย่างตื่นตระหนก

    “ชู่ว! อย่าเสียงดังไปมันจับสัมผัสจากเสียง”โฟลริชรีบบอกให้เนวี่หยุดพูดก่อน

    “ครืดดดดด”เสียงเคลื่อนไหวใต้ดินดังเข้ามาใกล้ตัวพวกเค้ามากขึ้น

    “ท่านพ่อ ท่านพี่ ถอยออกมาก่อน”บันนี่บอกให้โฟลริชกับเนวี่ถอยออกมาจากพื้นที่เดิมเพื่อทำอะไรสักอย่าง

    “ตูม!!!คิงเวิร์มโผล่ขึนมาเฉียดจุดที่พวกโฟลริชยืนไปนิดเดียวเท่านั้น

    “ฮึ! พลาดงั้นเรอะ!”คิงเวิร์มสบถอย่างหัวเสีย

                “เอิทแลนเซอร้อยหอกปฐพีทะลวงชีพ”

              “ฟ้าวๆๆๆๆๆๆๆ สึบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”

                “อ๊ากกกกกกกกกก”

    ไม่ทันได้พูดต่ออีสเตอร์บันนี่เห็นจังหวะที่ร่างของเดม่อนเวิร์มตั้งตรงพอดี ตัวเปิดทุกด้านไร้การป้องกัน เค้าจึงร่ายมหาเวทธาตุดินขึ้นมา และภาพที่เกิดขึ้นนั้นสุดแสนอลังการพื้นดินที่อยู่บริเวณรอบๆมารวมตัวกันจนเป็นหอกนับร้อยทั้งหมดทำหน้าที่พุ่งไปเสียบทั่วตัวของบอสคิงเดม่อนเวิร์มจากทั่วทิศทางจนระดับเลือดของมันค่อยๆลดลงไปเรื่อยๆ

                “อ๊ะจริงสิ!”โฟลริชนึกอะไรบางอย่างออก “กริ๊ก!”เค้าปลดส่วนที่เป็นค้อนของแฮมมอสทิ้งไป เหลือแต่จนกลายเป็นหอกธรรมดา เค้าวิ่งไต่หอกดินของอีสเตอร์บันนี่ขึ้นไปจนถึงส่วนหัวของเดม่อนเวิร์ม

                “หึ๊ แกคิดจะทำอะไร”เดม่อนเวิร์มรับรู้ถึงการมาของโฟลริช มันจึงพูดขึ้นมา

                “มาปลิดชีพแกน่ะสิ ลาก่อน ฉึก!!!โฟลริชทิ้งท้ายด้วยคำพูดเท่ๆ ก่อนจะแทงหอกลงไปทางลูกตาของมันจนเกือบมิดด้ามเข้าจุดตายพอดี เค้านึกขึ้นได้ว่าตาน่าจะเป็นส่วนที่บอบบางที่สุดของคิงเดม่อนเวิร์มด้วย ไม่ใช่แค่อ่อนไหวต่อแสงอย่างเดียว

    “อ๊ากกกกกกก เรื่องมันจะไม่จบแค่นี้หรอกพวกแกจะต้องเดือดร้อนไม่มีวันมีความสุข ท่านลูซิเฟอจงเจริ......”

    มันร้องด้วยความเจ็บปวดและสาปแช่งเค้าก่อนจะสิ้นใจ และก่อนที่ร่างกายของมันจะหายไปโฟลริชรีบตัดส่วนหัวของมันแล้วเก็บใส่กระเป๋าอย่างรวดเร็ว

    /ผู้เล่นโฟลริชสังหารบอสคิงเดม่อนเวิร์ม/

    /ผู้เล่นโฟลริชเลื่อนเป็นนักเดินทางระดับ20ค่าประสบการณ์ที่เหลือจะถูกเก็บไว้จนกว่าจะทำภารกิจเลือกอาชีพสำเร็จ/

    /หอกแฮมมอสถูกทำลาย/

    /ผู้เล่นโฟลริชค่าสถานะร่างกายเพิ่มขึ้นสามารถตรวจสอบได้ที่หน้าต่างสถานะ/

    /ผู้เล่นโฟลริชได้รับเขี้ยวคิงเดม่อนเวิร์มจำนวน10ซี่/ผู้เล่นโฟลริชได้รับ……/

    เสียงของระบบดังระงมอยู่ในหัวของเค้าเกี่ยวกับสิ่งที่เค้าได้รับจากการต่อสู้ครั้งนี้

    “เฮ่อรอดแล้ว”โฟลริชกับเนวี่ถอนหายใจออกมาพร้อมกัน

    “ขอบใจอีกครั้งนะว่าแต่เจ้าชื่ออะไร มีชื่อรึเปล่า”

    “ข้าไม่มีชื่อหรอกท่านพ่อ”อีสเตอร์บันนี่ก้มหน้าตอบ

    “นายท่านตั้งให้สิคะ”เนวี่วิ่งมาเกาะแขนโฟลริชด้วยความตื่นเต้นที่จะได้เพื่อนเพิ่ม

    “งั้นเจ้าชื่อบันนี่แล้วกันจะได้คล้องจองกับเนวี่ด้วย”

    “ขอบคุณท่านพ่อมาก” บันนี่ยิ้มคำนับอย่างสุภาพ

    “อีกเรื่องหนึ่งเนวี่ เธอจะเรียกฉันว่าท่านพ่อด้วยก็ได้นะถ้าเธอต้องการยังไงก็ดีกว่านายท่านๆ มันฟังแล้วขนลุกชอบกล”

    “ได้หรอคะ!!!”เนวี่ดวงตาเปล่งประกายวาววับรอบๆตัวเหมือนมีประกายระยิบระยับบินวนอยู่

    “ได้แน่นอนจ้า”โฟลริชนั่งย่อลงมาบิดจมูกเจ้าตัวเล็กไปหนึ่งที

    “รักท่านพ่อที่สุดเลย ฮือ”เนวี่ดีใจจนปล่อยโฮออกมาแบบเด็กๆ

    “วิ้งๆๆๆ”

    และแล้วรอบตัวเนวี่ก็เริ่มมีแสงปกคลุมไปทั้งตัวละค่อยๆสว่างขึ้นเรื่อยๆจนลืมตามองไม่ได้ จากนั้นก็มีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้นที่ทำให้ทุกคนต้องตกใจ

    “นเนวี่หรอ”โฟลริชอึ้งตาค้างกับภาที่ปรากฏตรงหน้า

    “.....”บันนี่มองด้วยความสงสัยแต่ไม่ได้ออกอาการอะไร

    “ติ๊ง!

    “เกิดอะไรขึ้นคะท่านพ่อ”เนวี่งงกับอาการของทั้งสองคน

     

    ณ ร้านขายเสื้อผ้าแบรนเนมในเมืองแพดเดิ้ลทาวน์

                “ท่านพ่อ บันนี่ เป็นไงชุดนี้สวยไหม”

                “จ้าสวยจ้า แต่หนูซื้อหลายชุดแล้วนะลูก”โฟลริชก้มหน้ากุมหน้าผาก

    พวกโฟลริชกลับจากเหมืองแพดเดิ้ลไมน์ด้วยความสามารถในการควบคุมธาตุดินของบันนี่ โดยการต่อชั้นดินขึ้นไปตามทางที่พวกเค้าหล่นลงมาโดยคราวนี้พวกเคาขุดโพรงเลี่ยงมอนสเตอร์ทั้งหมดและออกมาโผล่ข้างหลังทางเข้าเหมืองแพดเดิ้ลไมน์เพื่อไม่ให้เป็นจุดสนใจ หลังจากเสร็จการต่อสู้กับบอสคิงเดม่อนเวิร์ม โฟลริชก็ได้ค่าประสบการณ์จำนวนมากส่งผลให้ผู้พิทักษ์ของเค้าได้อานิสงค์ไปด้วย เนวี่นั้นจากเป็นเด็กหญิงอายุ4ขวบตอนนี้กลายเป็นสาวน้อยอายุ17ไปซะแล้ว เพราะเหตุนี้เองเธอที่เห็นตัวเองโตเป็นสาวสวยจึงอยากที่จะลองใส่เสื้อผ้าสวยๆเหมือนผู้เล่นหญิงคนอื่นๆบ้าง เดือดร้อนโฟลริชกับบันนี่ต้องตามมาคอยช่วยเลือก ระบบของเกมนี้ทำมาค่อนข้างสมจริงเลยทีเดียว เพราะมอนสเตอร์ยิ่งระดับสูงขึ้นก็จะยิ่งมีพัฒนาการสูงขึ้นตาม ตัวอย่างเช่นเนวี่จากตอนแรกเป็นเด็ก ตอนนี้ก็เหมือนกับโตเป็นสาวแล้ว นิสัยใจคอเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด

                   “ท่านพี่ครับ ถ้ามัวแต่ซื้อของอยู่แบบนี้ท่านพ่อจะไม่ได้ทำภารกิจอะไรเลยนะครับ”บันนี่พยายามช่วยห้าม

                “โอเคๆ ตัวสุดท้ายแล้ว เอาชุดนี้ด้วยค่ะ”เนวี่ยื่นชุดให้พนักงานร้านเป็นชุดที่10

                “ทั้งหมด10ชุดก็ 1.7 ล้านเฟเซอร์ค่ะ”พนักงานยิ้มพร้อมยื่นใบเสร็จให้โฟลริช

                “1.7ล้าน!! เฮ่อ..โอเคครับ” โฟลริชตาแทบถลนออกมานอกเบ้าเพราะราคาแต่ละชุดนั้นไม่ใช่เล่นๆตกตัวละแสนกว่าเฟเซอร์ คิดเป็นเงินบาทก็ตกตัวละเป็นหมื่นเลยทีเดียว เค้าหยิบใบเสร็จแล้วจำใจยื่นข้อมือข้างซ้ายไปบนใบเสร็จ ใจก็คิดว่าสมแล้วที่เป็นแบรนเนม

                “ตี๊ด”

    “ชำระเงินเรียบร้ายค่ะ” มีเสียงเตือนยืนยันการชำระเงินดังขึ้น

    “ขอบคุณที่มาอุดหนุนโอกาสหน้าเชิญใหม่นะคะ”พนักงานโค้งขอบคุณอย่างสุภาพ

    “เย่รักท่านพ่อที่ซู้ดดดดด” เนวี่เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าสะพายข้างขนาดจุ50ช่องที่โฟลริชซื้อให้เธอกับบันนี่คนละใบ ใบละ20,000เฟเซอร์  เพื่อทั้งคู่จะได้ใส่ของส่วนตัวได้โดยไม่ต้องคอยมาขอที่เค้า

     

    โฟลริชตัดสินใจทำบัตรเสริมกับสำนักงานกลางของระบบในเมืองแพดเดิ้ลทาวน์เพิ่ม โดยเงินที่ใช้ผ่านบัตรจะตัดยอดจากเงินของเค้าโดยตรง และทุกครั้งที่จะใช้จ่ายต้องได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแหล่งเงินก่อนจึงจะสามารถใช้จ่ายได้ เค้ายื่นบัตรให้เนวี่และบันนี่คนละใบเผื่อจะต้องซื้อของจำเป็น เค้าลองเดินมาเช็คที่คลังสมบัติของผู้เล่นพบว่าไม่สามารถใช้งานได้ตามที่เต่าอินเทอร์พูดไว้จริงๆ

                “นี่อะไรครับ/คะท่านพ่อ” ทั้งสองถามขึ้นมาพร้อมกัน

                “เป็นบัตรที่ใช้แทนเงินได้ ทั้งสองคนเก็บไว้ถ้าต้องการซื้ออะไรก็ใช้บัตรนี้จ่ายได้เลย”โฟลริชอธิบายการใช้งานของบัตรสองใบนี้

                “ขอบคุณค่ะท่านพ่อใจดีจัง รักท่านพ่อที่ซู้ดดดด”เนวี่เข้ามากอดโฟลริชแน่น

                “แต่! ใช้ระวังๆหน่อยล่ะ” โฟลริชพูดขณะจับหน้าเนวี่ออกมาจากอกเค้าเพื่อให้ฟังชัดๆ

                “หนูจะระวังที่ซู้ดดดดเลยค่ะ”เนวี่ยิ้มหน้าบาน

                “ท่านพ่อจริงๆแล้วไม่ต้องให้ข้าก็ได้ข้าไม่อยากให้ท่านต้องสิ้นเปลืองมากนัก”บันนี่ทำท่าจะยื่นบัตรคืน

                “เก็บไว้เถอะ เป็นผู้พิทักษ์น่ะควรจะมีติดตัวไว้เผื่อเราต้องแยกไปทำภารกิจอะไรเจ้าจะได้ซื้อของจำเป็นได้ อย่าใช้ให้มากอย่างพี่เจ้าก็แล้วกัน”โฟลริชอธิบายจุดประสงค์ที่แท้จริง

                “ผู้พิทักษ์!? นี่ท่านพ่อเลือกข้าเป็นผู้พิทักษ์ของท่านงั้นหรอครับ” บันนี่ทำหน้าตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน

                “ใช่แล้วพ่อจะให้เจ้าเป็นผู้พิทักษ์แห่งดิน ไม่ได้หรอ”โฟลริชทำหน้างง

                “ด..ได้ครับท่านพ่อ” บันนี่ยิ้มออกมาครั้งแรกตั้งแต่เจอกันมา

                “ฟี้วววววววว”

    /ผู้เล่นโฟลริชได้รับกำไลผนึกผู้พิทักษ์แห่งดิน/

    มีแสงสีน้ำตาลเข้มเกิดขึ้นใต้ฝ่าเท้าของโฟลริช พื้นดินที่อยู่รอบๆลอยมาเป็นกระแสลมหมุนวนรอบข้อเท้าข้างขวาของเค้า ทันที่ที่ทุกอย่างเริ่มสงบลงก็ปรากฏกำไลข้อเท้าที่ร้อยด้วยผลึกสีน้ำตาลเข้มและมีสัญลักษณ์ของธาตุดินสลักอยู่

                “โอ้ว คราวนี้เป็นกำไลข้อเท้าหรอ” โฟลริชทำหน้าพึงพอใจ

                “เอาล่ะ เดี๋ยวพ่อจะไปทำภารกิจซักพักเจ้าทั้งคู่แยกย้ายไปทำสิ่งที่อยากทำเถอะอย่าลืมซื้อพวกอาหารและก็ยาเพิ่มเลือดด้วยถ้าเสร็จแล้วพ่อจะติดต่อไปผ่านเครื่องรางผู้พิทักษ์เอง ยังไงก็ดูแลพี่สาวเจ้าด้วยละกันนะบันนี่อย่าให้เกิดปัญหา ตั้งแต่อยู่ในร่างโตรู้สึกจะคึกเหลือเกิน”

                “ฮิฮิ”

    “ครับท่านพ่อ”บันนี่ขานรับอย่างแน่วแน่




     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×