ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Lunatear Online - The Birth Of Flamone Kingdom

    ลำดับตอนที่ #3 : The Light Guardian (ผู้พิทักษ์แห่งแสง)[Re-Write]

    • อัปเดตล่าสุด 23 พ.ค. 57


    เต่าอินเทอร์ตัวหนึ่งตอบกลับมา เต่าอินเทอร์นั้นรูปร่างเหมือนเต่าธรรมดาที่มีขนาดใหญ่กว่าปกติ(มาก)แต่ก็ดูมีภูมิปัญญามากกว่ามอนสเตอร์อื่นๆกระดองของมันเต็มไปด้วยลวดลายอักระโบราณที่โฟลริชเองก็อ่านไม่ออกให้ความรู้สึกลึกลับน่าเกรงขาม

              “อืมก็สะดวกดีเหมือนกันแฮะเกมนี้ ว่าแต่พวกท่านพอจะรู้ไหมว่าหมู่บ้านหรือเมืองที่ใกล้ที่สุดอยู่ทางไหน”โฟลริชใช้โอกาสนี้ในการถามทาง เค้าดูจะให้การนับถือผู้เฒ่าเต่ามาก

                “แน่นอนข้าต้องรู้แน่ แต่เจ้าจะช่วยตามมาที่หมู่บ้านของพวกเราก่อนได้หรือไม่ ข้ามีบางสิ่งอยากให้เจ้าได้เห็น” เต่าอินเทอร์พูดเหมือนมีอะไรบางอย่างอยู่ในใจ

                “มอนสเตอร์มีหมู่บ้านด้วยหรอเนี่ย ดีเหมือนกันฉันก็อยากจะเห็นว่าหมู่บ้านที่มอนสเตอร์สร้างมันจะหน้าตาเป็นยังไง” โฟลริชนึกสนุกก็ตอบตกลงไป ยังไงเค้าก็ไม่มีจุดหมายที่แน่นอนอยู่แล้ว

     

    หลังจากออกจากแหล่งน้ำได้ไม่นานเค้าก็พบกับต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งที่บริเวณรากของมันนั้นมีช่องที่คล้ายจะเป็นโพรงที่สัตว์สร้างไว้เป็นที่หลบภัย เต่าอินเทอร์เดินนำเข้าไปในโพรงปริศนาที่ว่า

                “จะยืนมองอีกนานไหมตามเข้ามาสิ”เต่าอินเทอร์เรียกโฟลริชให้หลุดจากภวังค์ของความสวยงามของป่าไม้ที่แสนอุดมสมบูรณ์นี้

                “ครับๆ” หนุ่มเจ้าปัญหาก็มุดตามเข้าไปในโพรง ภายในนั้นมืดสนิทจะเห็นก็แต่กระดองของผู้เฒ่าเต่าตรงหน้าที่อักขระบนกระดองนั้นเรืองแสงออกมาในที่มืด

                “ถึงแล้วล่ะ นี่คือหมู่บ้านของพวกเรา”

                /ผู้เล่นโฟลริชพบหนึ่ง12หมู่บ้านลับ “เรเทลการ์เดนต์”/

    เสียงของระบบเตือนขึ้นมาในหัวของโฟลริชอีกครั้ง  ภาพที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าของหนุ่มน้อยต่างถิ่นตอนนี้คือเรเทลการ์เดนต์ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่สวยงามและร่มรื่นมาก บ้านทุกหลังอยู่ภายในโพรงของต้นไม้ใหญ่จุดเด่นของหมู่บ้านคือจะมีคริสตอลสีฟ้าคอยให้แสงสว่างอยู่กลางหมู่บ้าน         

    “หมู่บ้านลับงั้นหรอ?”โฟลริชทำหน้าฉงน

                “ใช่แล้วพ่อหนุ่มน้อย”เต่าอิทเทอร์ขานรับอย่างเอ็นดู

                “เรียกผมว่าโฟลริชก็ได้ครับ”โฟลริชแจ้งชื่อกับเต่าอินเทอร์

                “โอเคโฟลริช เรเทลการ์เดนต์เป็นหนึ่งในหมู่บ้านลับที่ผู้พิทักษ์ได้สร้างไว้ให้เหล่ามอนสเตอร์ได้หลบภัยหลังจากเกิดการล่าขึ้น”

                “เหล่าผู้พิทัก?”โฟลริชเอียงคอสงสัย ตอนนี้เค้าเริ่มมีคำถามมากมายในหัวเต็มไปหมด

                “เจ้าคงจะมีคำถามมากมายเกี่ยวกับโลกนี้สินะ เจ้าคงรู้สึกใช่ไหมล่ะว่าโลกนี้นั้นต่างจากทุกที่ที่เจ้าเคยไป”ผู้เฒ่าเต่าพูดเหมือนกับรู้อะไรบางอย่างที่เค้าไม่รู้

                “ท่านรู้ได้อย่างไร?” โฟลริชทำหน้าตกใจกับสิ่งที่เค้าพึ่งจะได้ยิน

                “ตามข้ามาสิแล้วข้าจะอธิบายทุกอย่างให้ฟัง”เต่าอินเทอร์เดินนำทางโฟลริชไปยังที่ๆสิ่งมีชีวิตในหมู่บ้านเรียกว่าวิหารศักดิ์สิทธิ์

                “โอ้โห...”เมื่อมาถึงชายหนุ่มถึงกับอึ้งในความสวยงามของวิหารนี้ ความประณีตบรรจงในการแกะสลักบริเวณภายในนั้นวิจิตรงดงามเป็นอย่างมาก

                “เจ้าเห็นตัวอักษรตรงนั้นไหม”เต่าอินเทอร์ชี้ไปที่ตัวอักษรโบราณที่สลักอยู่บนแท่นบูชาขนาดใหญ่

                “มันหมายความว่ายังไงครับ”โฟลริชถาม

                “มันคือคำทำนายที่มีมานานหลายร้อยปีใจความว่า”

    “จะมีจักรพรรดิผู้สุญสิ้นกายา สถิตลงมากำเนิด อนึ่งวาจาสิตแห่งลูนาเทียและดวงจิตแห่งเวิส บังเกิดการเปลี่ยนแปลงยิ่งใหญ่ ลูน่าอาจสูญสิ้นวอดวายหรือรุ่งเรืองเนื่องอยู่บนทางเดินนั้น”

    (ลูนาเทียคือโลกที่อยู่ในเกมเวิสคือโลกมนุษย์)

     

    “นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้เจ้าสามารถเข้าใจภาษาของพวกเราได้แม้จะยังมีร่างกายและจิตใจเสมือนพวกเวิส เจ้าคือบุคคลที่คำทำนายได้กล่าวไว้”

    “..........”

     

    หลังจากที่ได้ฟังเรื่องราวต่างๆโฟลริชก็นิ่งไปพักใหญ่คิดทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น จากที่ฟังมามันก็สมเหตุสมผลเพราะมีหลายสิ่งที่ทำให้เค้ารู้สึกว่ามันไม่เหมือนเกมอื่นๆที่ผ่านมา เค้านั้นไม่ได้สร้างตัวละคร ไม่ได้แม้แต่จะตั้งชื่อตัวละครด้วยซ้ำ จุดเกิดก็แสนจะอันตราย อันตรายเกินกว่าจะเป็นที่เกิดของผู้เล่นใหม่ จริงๆควรจะเกิดในเมืองเริ่มต้นเลยด้วยซ้ำ ระบบสั่งการของเกมก็ใช้ได้ไม่เต็มที่ และที่แปลกที่สุดคือฟังภาษาของสิ่งที่เค้าเรียกว่ามอนสเตอร์ออกอีกต่างหาก

     

    เค้าคิดทบทวนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ใจก็สับสนเชื่อครึ่งไม่เชื่อเพียบ หรือมันจะเป็นบทบาทที่ผู้เล่นทุกคนได้รับอยู่แล้ว ก็อย่างว่า ใครๆก็อย่าเป็นฮีโร่ผู้พิทักษ์ผดุงความยุติธรรมกันทั้งนั้นใช่ไหมล่ะครับ เค้าคิดไปต่างๆนาๆ สุดท้ายเค้าจึงตัดสินใจคุยต่อจะดีกว่า คิดแบบนี้ไปก็ไม่ได้อะไร

                “ถึงแม้ว่าในคำทำนายมันจะตรงกับเรื่องราวของผมอยู่บ้างแต่ท่านจะแน่ใจได้อย่างไรว่าเป็นตัวผมจริงๆ เพราะตัวผมเองก็ไม่ได้มีคุณสมบัติอะไรเลย”โฟลริชยังคงสงสัยอยู่

                “เจ้าได้ผ่านการต่อสู้มาบ้างรึยังล่ะ”เต่าอินเทอร์ถาม

                “แค่ครั้งเดียวครับ”โฟลริชนึกไปถึงเดม่อนแรท

                “แล้วในสิ่งของที่เจ้าได้นั้นมีสิ่งที่เรียกว่าโซลอยู่รึเปล่าล่ะ”

              “มีครับ ปกติผู้เล่...ชาวเวิสทุกคนก็น่าจะได้นี่ครับก็ไม่เห็นแปลก”โฟลริชพยายามปรับการใช้ภาษาให้เข้ากับสถานที่มากขึ้น

                “เฮ่อะ! ไม่เลยๆการที่จะได้โซลมานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องเกิดจากการแย่งชิงโซลระหว่างชาวลูนาเทียด้วยกันเท่านั้น ในกรณีที่ชาวลูนาเทียต้องต่อสู้กับคนของเวิส ผู้ชนะจะได้ค่าประสบการณ์เพื่อเพิ่มศักยภาพของตน ผู้แพ้จะกลับไปเกิดที่จุดเกิดเดิมได้ เป็นวัฏจักรการต่อสู้ที่ยุติธรรมและน่าชื่นชมจริงไหม”

    “ใช่ครับ ผมก็พึ่งรู้ว่านอกจากเวิสแล้วชาวลูนาเทียก็ได้ค่าประสบการณ์ด้วย”โฟลริชจับคางอย่างสนใจ

     “แต่ในกรณีถ้าเกิดตายโดยฝีมือลูนาเทียด้วยกันขึ้นมาก็จะต้องสูญเสียดวงวิญญาณให้อีกฝ่ายไปและไม่อาจจะกลับมามีชีวิตได้อีกสิ่งนั้นเราเรียกมันว่า โซล

              “.....”

    โฟลริชนิ่งไปอีกครั้ง เค้าพยายามจินตนาการตามเรื่องราวต่างๆที่เค้าได้ฟังและได้พบเจอมา ข้อมูลใหม่หลั่งไหลเข้ามาให้คิดเต็มไปหมด

                “ซึ่งวัฏจักรนี้ไม่ต่างอะไรจากการล่าอานานิคมหรือเข่นฆ่ากันธรรมดาเลย”     

    “งั้นก็แสดงว่าถ้าผมถูกฆ่าโดยพวกมอน...ชาวลูนาเทีย ผมก็จะต้องเสียโซลไปและไม่อาจกลับมาเกิดเหมือนชาวเวิสทั่วไปได้ใช่ไหมครับ” โฟลริชพยายามเข้าใจสิ่งที่เต่าอินเทอร์พยายามจะสื่อ

                “จริงๆแล้วไม่ใช่แค่นั้นหรอก” เต่าอินเทอร์เกริ่นขึ้นมา

              “ยังมีอะไรที่ผมต้องรู้อีกหรอครับ!”โฟลริชถามอย่างร้อนรน

                “เจ้าห้ามตายเลยต่างหาก”เต่าอินเทอร์พูดอย่างหนักใจ

                “ห้ามตายเลย!” โฟลริชนึกถึงคำที่วิคเตอร์ได้บังคับให้เค้าสัญญาอย่างจริงจังขึ้นมา สงสัยงานนี้คงไม่ใช่เรื่องที่พ่อกุขึ้นมาเล่นๆซะแล้วสิ ตอนนี้ชีวิตเค้าเต็มไปด้วยปริศนา เค้ารู้แค่ว่าห้ามตายเป็นเรื่องเด็ดขาดที่เค้าต้องทำให้ได้เท่านั้น ส่วนเป้าหมายในการเล่นเกมคงต้องขึ้นอยู่กับเรื่องที่เค้าจะได้รับฟังต่อไปซะแล้ว

               

    “เฮ่อ ถึงคำทำนายจะเป็นความจริงก็เถอะครับ แต่เป็นผมจะดีจริงๆหรอครับ” โฟลริชไม่อยากจะรับผิดชอบอะไรที่มันดูยิ่งใหญ่แบบนี้สักเท่าไหร่ เค้าพอจะเดาตอนจบออกลางๆ

                “ต้องพูดว่าไม่ใช่เจ้าคงไม่ได้ถึงจะถูก เจ้าคิดว่าเรื่องใหญ่แบบนี้ใครก็เป็นได้งั้นเรอะ!”ผู้เฒ่าเขม่นขึ้นมานิดหน่อย

                “อุก! ผมเข้าใจแล้วครับ”โฟลริชก้มหน้าเกาหัวเป็นสัญญาณว่ายอมเข้าใจแล้วครับ

    “ตั้งใจฟังให้ดี ต่อไปนี้จะเป็นส่วนสำคัญมาก มันคือสิ่งที่เจ้าต้องทำ ตอนนี้ลูนาเทียประสบปัญหาจากผู้รุกราน จากอีกโลกหนึ่ง

    “อีกโลกหนึ่ง!”โฟลริชเกิดคำถามอีกครั้ง

                “ใช่แล้ว จริงๆต้องพูดว่าพึ่งจะมาถูกรุกรานอีกครั้งถึงจะถูก เราเรียกพวกมันว่า โซลฮันเตอร์ พวกมันถือกำเนิดมาจากเดม่อนเสปซหรือโลกที่สามของลูนาเทีย มันต่อสู้เพื่อแย่งชิงโซลจากพวกเราเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้ตัวเอง โดยมีเป้าหมายที่แท้จริงเป็นอะไรก็ไม่แน่ชัด” ผู้เฒ่าเต่าอธิบายด้วยสีหน้าตึงเครียด

                “แล้วท่านจะให้ผมช่วยอะไรหรอครับ”โฟลริชถามเข้าประเด็น

                “ที่เจ้าต้องทำก็คือยับยั้งการรุกรานของโซลฮันเตอร์และจงตามหาผู้พิทักษ์ทั้งสิบสองของตัวเจ้าเองให้เจอ ผู้พิทักษ์แต่ละตนนั้นจะมีธาตุที่แตกต่างกัน เมื่อเจ้ามีผู้พิทักษ์ครบทั้ง12เจ้าจะสามารถปิดผนึกความวินาศได้ ที่ข้ารู้ก็มีแค่นี้แหละ......จบ”

                “อ...อ้าว แล้วผมจะไปหาที่ไหนล่ะครับเนี่ยตั้ง12คน” โฟลริชเอามือกุมหน้าผากดังเผี๊ย

                “เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถของเจ้าแล้วล่ะ โฮ่ๆๆๆ” จริงๆแล้วเต่าอินเทอร์ซ่อนความจริงอีกด้านไว้ในใจด้วยเหมือนกัน ซึ่งเรื่องคำทำนายที่มีสองด้านก็คงไม่ใช่ความบังเอิญอีกเช่นกัน

     

    สุดท้ายก็จบเรื่องราวที่โฟลริชจะต้องออกตามหาผู้พิทักษ์ทั้งสิบสองของเค้าและทำหน้าที่ผู้พิทักษ์ให้สมบูรณ์ หลังจากสนทนากันเป็นเวลานานทั้งสองก็เริ่มสนิทสนมกันมากขึ้น โฟลริชเองก็ได้รู้เรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับโลกนี้เพิ่มขึ้นอีกมากมายทั้ง12ผู้พิทักษ์คนก่อนที่เป็นคนสร้างหมู่บ้านลับทั้ง12 เรื่องเดม่อนเสปซที่เค้าต้องจัดการ ประวัติศาสตร์ของลูนาเทียที่พอได้ฟังแล้วเค้าก็รู้สึกตื่นเต้นกับเกมนี้ขึ้นมากทีเดียว  เมื่อมีเป้าหมายที่ชัดเจนแบบเบลอนิดหน่อยแล้วเค้าจึงตัดสินใจเดินทางต่อ แต่ต้องหลังจากนอนพักที่เรเทลการ์เดนต์หนึ่งคืนเพื่อพักผ่อนเอาแรงเก็บบรรยากาศเสียก่อน แหมก็ที่พักสุดหรูบรรยากาศดีแต่ฟรีแบบนี้หาได้ไม่ง่ายนักหรอกครับ

                           

    เช้าวันต่อมา

    “จะออกเดินทางแล้วเรอะ” อินเทอร์เดินมาทักทาย

                “ครับ”โฟลริชพยักหน้าตอบ

                “แล้วเจ้าคิดว่าจะทำอะไรต่อไปล่ะ ถึงเจ้าจะเป็นคนในคำทำนายเจ้าก็มีสิทธิ์เลือกทางเดินของตัวเองอยู่ดีล่ะนะ ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนมากนักหรอก เรายังพอมีเวลาให้เจ้าได้เติบโต”เต่าอินเทอร์พูดขึ้นมาเพราะจริงๆแล้วเค้าก็รู้สึกผิดที่เหมือนจะผูกมัดโฟลริชด้วยหน้าที่ที่หนักอึ้งนี้

                “ก่อนอื่นก็คงผจญภัยไปเรื่อยๆก่อน ถ้าเจอผู้พิทักษ์ก็ถือว่าโชคดีไป ผมคิดว่าก่อนจะปกป้องใครต้องปกป้องตัวเองให้ได้ก่อน ยิ่งผมห้ามตายเด็ดขาดด้วยแล้ว ความแข็งแกร่งคงขาดไม่ได้ ลุงไม่ต้องห่วงยังไงผมมีแผนไว้แล้วล่ะ”

                “ลุงเลยเรอะ โฮ่ๆๆๆ ก็ดียังไงก็เดินทางปลอดภัยแล้วอย่าเผลอตายซะก่อนล่ะ ฮ่าๆๆๆ”เต่าอินเทอร์ขำแบบสโลโมชั่น

                “ครับงั้นผมไปแล้วนะครับ”โฟลริชกล่าวลา

                “เอ้อ!เกือบลืมเอานี่ไปไอ้หนู”เต่าอินเทอร์ส่งของบางอย่างให้โฟลริช

                “อะไรน่ะครับลุง” ทันทีที่ได้มาเค้าก็ตรวจสอบมันทันที

              -ไข่(ผู้นำทาง)[SSS] -สามารถให้กำเนิดภูตินำทางได้

                -กระเป๋า(อวกาศ)[S] – กระเป๋าที่ภายในเป็นห้วงอวกาศไรจุดจบ      

                “ลองเรียกใช้ดูสิ”ผู้เฒ่าเต่าทำหน้ายิ้มมีเลศนัย

                “ครับๆ”

                “ไข่(ผู้นำทาง).. Hatch!

              มีแสงระยิบระยับเกิดขึ้นรอบไข่ผู้นำทาง “แกร๊ป!ๆๆ”เปลือกของมันค่อยๆร้าวออกทีละนิดจนเริ่มมีแสงเล็ดลอดออกมาตามรอยแตก“ฟึบๆๆๆๆ” แสงค่อยๆสว่างขึ้นจนมองอะไรไม่เห็น และแล้วก็มีบางสิ่งปรากฏออกมาภายใต้แสงนั้น

                “บริ้ง!

    “สวัสดีค่ะนายท่าน”

    “น...นายท่านงั้นหรอ!” โฟลริชตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทันทีที่เค้าใช้คำสั่งของการฟักไข่ปริศนานี้แล้ว ก็บังเกิดนางฟ้าตัวน้อยออกมาหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มรูปร่างน่าจะประมาณเด็กอายุ3-4ขวบ ที่สำคัญเรียกเค้าว่านายท่านอีกต่างหาก

    “ใช่แล้วล่ะเธอน่ะเป็น Angle of the Navigator นางฟ้าผู้นำทางเห็นเจ้าบ่นว่าไม่มีแผนที่ของนักเดินทางไม่ใช่หรอข้าเลยมอบสิ่งนี้ให้แทน มันเป็นสิ่งที่ข้าได้มาตอนสร้างหมู่บ้านใหม่ๆจากผู้พิชิตคนก่อน เอ้าตั้งชื่อให้เธอซะสิ”

    “ก็ดีเหมือนกันแฮะจะได้ไม่เหงา นางฟ้าผู้นำทางงั้นเอาเป็นชื่อ....เนวี่ละกัน ต่อไปนี้เธอมีชื่อว่าเนวี่นะ”

    “ค่ะนายท่าน” เนวี่ดีใจมากจนหุบยิ้มไม่อยู่ ให้บรรยากาศที่สดใสมาก

    “เอาล่ะแล้วอีกอันมันคืออะไรล่ะครับลุง”โฟลริชถามถึงกระเป๋า(อวกาศ)[S]

    “มันเป็นกระเป๋าที่ข้าทำขึ้นโดยบรรจุธาตุประจำตัวลงไปคือธาตุอวกาศ(Space)คุณสมบัติของธาตุนี้คือความว่างเปล่าและพื้นที่มิติต่างๆ เผื่อเจ้าไม่สามารถใช้ระบบของพวกเวิสทั่วไปที่มีคลังสมบัติได้ ข้าจึงทำนี่ให้เจ้าเพื่อไว้ใช้เก็บสิ่งของได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องพื้นที่อีก สร้างเจ้านี่เล่นเอาข้าใช้เวทอวกาศไม่ได้ไปอีกเป็นเดือนเลย ใช้ดีๆล่ะเจ้าหนู” เต่าอินเทอร์อธิบายสรรพคุณเสร็จสรรพ

    “ทำไมลุงถึงรู้เรื่องเกี่ยวกับระบบของพวกเวิสเยอะจัง?”โฟลริชเริ่มสงสัยในความรอบรู้ของเต่าอินเทอร์

    “เอาเถอะน่า จะเอาหรือไม่เอา!” เต่าอินเทอร์เบี่ยงประเด็น แถมกลบเกลื่อนด้วยการเหวี่ยงใส่อีกตะหาก

    “เอาสิลุงโถ่ ใจเย็นๆ” โฟลริชยิ้มหวานให้เต่าอินเทอร์ไปหนึ่งที

    “ขอบคุณมากครับลุง ถ้าไม่ได้ลุงนี่ผมแย่เลย” โฟลริชทำตาซาบซึ้ง

    “ข้าไม่ได้ทำให้ฟรีหรอกนะ ถือซะว่าเป็นค่าจ้างล่วงหน้าในภารกิจใหญ่ที่เจ้าต้องทำ”

    “ไว้ใจได้เลยลุง งั้นผมไปละนะครับไว้เจอกันใหม่ ”โฟลริชกล่าวลาครั้งสุดท้ายจริงๆ

    “ไปดีมาดีล่ะ”เต่าอินเทอร์โบกมือลา

    และแล้วโฟลริชก็ได้ออกเดินทางอีกครั้งหลังจากที่ใช้เวลาในการล่ำลาเป็นเวลานาน

    “เอาล่ะเนวี่จ๊ะหาหมู่บ้านหรือเมืองที่ใกล้ที่สุดให้ฉันที” โฟลริชเริ่มทดลองนางฟ้านำทางของเค้าทันที

    “ค่ะนายท่าน.....”

    “จิ้ว!ๆๆๆ”เนวี่ยิงแสงออกไปไกลสุดลูกหูลูกตาทุกทิศทาง ใช้เวลาไม่นานแสงนั้นก็ย้อนกลับมา

    “มีเมืองที่ใกล้ที่สุดห่างจากที่นี่18กิโลเมตรค่ะ เดี๋ยวเนวี่จะส่งแผนที่ให้นะคะ” ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีเนวี่ก็สามารถหาเมืองที่ใกล้ที่สุดเจอ จากนั้นก็มีแผนที่โปร่งแสงสวยงามลอยมาอยู่เบื้องหน้าของโฟลริช เป็นหนึ่งในเวทมนต์เฉพาะของนางฟ้านำทางที่สามารถค้นหาตำแหน่งของสิ่งต่างๆภายในรัศมีรอบตัวได้

    “อืม..สะดวกดีแฮะ หึๆๆ ขอบใจมากนะเนวี่” โฟลริชมองจากแผนที่แล้วถ้าเดินออกจากหมู่บ้านไปก็ผ่านลำธารเดิม แล้วก็ลัดป่าไปนิดหน่อยจะเจอถนนสายหลักที่นำไปสู่เมือง เค้าไม่รีรอรีบเดินออกทางต่อทันที

     

    ทั้งคู่เดินไปคุยกันไปอย่างสนุกสนานจนเริ่มสนิทสนมกันมากขึ้น พอตกเย็นเค้าก็ไปหาอุปกรณ์มาตั้งแคมป์โดยให้เนวี่หาสถานที่ที่เหมาะสมที่สุดให้

              “แฮมมอส” โฟลริชเรียกแฮมมอสออกมา เค้าจับส่วนที่เป็นค้อนกับใบหอกแล้วออกแรงแยกมันออกจากกันกลายเป็นค้อนหนึ่งอันกับมีดอีกหนึ่งเล่ม ในการ์ดสีขาวระบุว่าสามารถสร้างอาวุธได้หนึ่งชิ้นก็จริงแต่ไม่ได้กำหนดว่าเพิ่มความซับซ้อนได้มากที่สุดแค่ไหน โฟลริชจึงใช้ช่องว่างตรงนี้สร้างอุปกรณ์อเนกประสงนี้ขึ้นมา ตามแบบฉบับคนชอบสร้างอย่างเค้า

     

    เค้าเริ่มออกไปหาฟืนมาก่อกองไฟและออกไปล่ามอนสเตอร์ระดับที่ไม่สูงมากแต่ดรอปไอเท็มประเภทเนื้อสัตว์ เช่นพวกหมูป่าบากัสระดับ 5 ที่หน้าตามันไม่ต่างจากหมูป่าทั่วไปเท่าไหร่แต่ทรงผมของมันค่อนข้างจะโดดเด่นด้วยทรงโมฮอคสีแดงฉูดฉาดหรือจะเป็นกวางแอปเปิลระดับ8ที่เขาของมันมีผมแอปเปิลงอกอกมา หลังกลับจากการล่าโฟลริชก็ได้เนื้อสัตว์มาทำอาหารเป็นจำนวนมากเรียกได้ว่าไม่ต้องล่าไปอีกเป็นเดือน มอนสเตอร์แถวนี้มีไม่มากที่จะโจมตีก่อนและส่วนใหญ่ไม่ดุร้ายมากนัก ถือว่าสบายกว่าตอนสู้กับเดม่อนแรทหลายขุมเลยทีเดียว โฟลริชล่าซะแทบหมดฝูง ได้หนังสัตว์มาทำเต็นท์สำหรับการพักผ่อนคืนนี้อีกเพียบ โชคดีที่เค้ามีกระเป๋าที่ใหญ่พอใส่ของทั้งหมดได้ แต่แปลกตรงที่ครั้งนี้เค้าไม่ยักกะได้โซลของพวกมอนสเตอร์ที่เค้าพึ่งจะสังหารไปซึ่งโฟลริชก็คิดว่าเดี๋ยวค่อยไปถามจากลุงเต่าของเค้าเอาทีหลังว่าตกลงกลไกของโซลมันทำงานยังไง

     

    โฟลริชนั่งอยู่หน้าเต็นท์กับเนวี่ ทั้งสองช่วยกันย่างเนื้อกินกันอย่างเอร็ดอร่อย  จบการล่านี้ทำให้โฟลริชระดับเพิ่มขึ้นเป็นระดับ12 ได้ทักษะการสร้างสิ่งของระดับ5 ทำอาหารระดับ3 และค่าสถานะต่างด้านร่างกายเพิ่มขึ้น เรียกได้ว่าล่าจนคุ้ม พอเริ่มดึกแล้วต่างคนก็แยกไปนอนในเต็นท์ของตัวเองที่โฟลริชทำไว้อย่างปราณีตกว้างขวาง ตอนที่กางเต้นไว้ ระบบเตือนขึ้นมาว่ารอบที่พักอาศัยจะปลอดภัยจากมอนสเตอร์ โฟลริชจึงสบายใจไปเปราะหนึ่งและหลับสบายโดยมีเนวี่นอนอยู่ข้างๆ เหมือนคู่พ่อลูกหลงป่าไม่มีผิด

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×