ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Lunatear Online - The Birth Of Flamone Kingdom

    ลำดับตอนที่ #1 : The Accident (อุบัติเหตุแห่งโชคชะตา)[Re-Write]

    • อัปเดตล่าสุด 22 พ.ค. 57


    “วิ้ง...วิ้ง...”เสียงของความมึนงงดังอยู่ในหัวของชายหนุ่มคนหนึ่ง

    “พ่อ!...ที่นี่ที่ไหน”

    “........”

    “ ผมตายแล้วหรอครับ”

    “แล้วเด็กคนนั้นปลอดภัยไหม ไม่สิถ้าผมตายแล้วจะเจอพ่อได้ยังไง หรือพ่อจะฆ่าตัวตายตามผม อ้าวแล้วสรุปที่นี่ที่ไหน” ทันทีที่เห็นหน้าภาพคนที่ยืนอยู่เบื้องหน้า เค้าก็ตั้งคำถามเป็นชุดๆใส่คนที่เค้าเรียกว่าพ่อ ขณะนี้เค้ามีอาการณ์สับสนอย่างมาก เค้าพยายามนึกเรื่องราวต่างให้ออก ว่าแท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้น ความทรงจำล่าสุดของเค้าคือกำลังวิ่งไปช่วยเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังข้ามถนน จากนั้นรู้ตัวอีกทีเค้าก็มาโผล่ที่ห้องสีขาวโล่งๆนี่

    “ใจเย็นๆเจ้าวิงพ่อจะเล่าให้ฟังแกตั้งสติดีๆนะอย่าพึ่งตกอกตกใจไป แกบาดเจ็บหนักมาก ทำให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างการหรือมองเห็นได้อีกไม่สามารถมีชีวิตปกติในโลกธรรมดาได้ พ่อเลยตัดสินใจส่งแกมาในอีกโลกหนึ่ง เพื่อให้แกสามารถมีชีวิตปกติได้ ”คนเป็นพ่อจับที่หัวไหล่ของลูกชายพร้อมค่อยๆอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทีละนิด

     

    ย้อนกลับไป3เดือน

     

    “ติ๊ด...ติ๊ด....ติ๊ด” เสียงเครื่องตรวจจับการเต้นของหัวใจในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งดังอยู่ในห้องICU

                “หมอครับ ลูกผมจะเป็นอะไรไหมครับ” เสียงของ“วิคเตอร์”คนที่ดูท่าทางน่าจะเป็นพ่อของผู้ป่วยกำลังสนทนากับแพทย์ผู้รับผิดชอบอาการของคนไข้รายนี้

                “ตอนนี้ผมก็ยังยืนยันไม่ได้นะครับ อาการก็ขึ้นอยู่กับคนไข้ด้วยว่าจะฟื้นฟูได้มากน้อยแค่ไหน แต่ประสาทรับรู้ทั้งหมดถูกตัดขาดจากสมอง ถึงแม้ร่างการจะดีขึ้นก็จะไม่สามารถเคลื่อนไหวและมองเห็นได้อีกแล้วล่ะครับ” หมอพยายามอธิบายอาการของคนไข้ผู้โชคร้ายรายนี้ หมอจำเป็นต้องพูดตามความเป็นจริงออกไปเพื่อเป็นข้อมูลการตัดสินใจของผู้ปกครอง แต่ก็ต้องค่อยๆอธิบายให้นุ่มนวลที่สุดด้วยเช่นกัน ในใจก็คิดสงสารผู้ปกครองที่ต้องมาเห็นลูกเป็นแบบนี้

               

    “หมอครับ ช่วยลูกชายผมด้วยเถอะนะครับ ผมมีลูกอยู่แค่คนเดียว” วิคเตอร์พูดเสียงสั่นทั้งน้ำตา ขอร้องด้วยทุกวิธีที่เค้าสามารถทำได้ ลูกผู้ชายที่ว่าเสียน้ำตายากเย็นนักหนาอย่างเค้า ไม่ละอายเลยแม้แต่น้อยที่จะทำทุกอย่างเพื่อชีวิตของลูกชายตน

                “คุณพ่อใจเย็นๆก่อนนะครับ ถึงร่างกายจะใช้การไม่ได้แล้ว แต่ก็ยังไม่เสียถึงกับชีวิต คนไข้ยังมีโอกาสที่จะใช้ชีวิตตามปกติได้อยู่ แค่อาจจะไม่ใช่..ที่นี่” หมอพูดแบบทำหน้าอึดอัดใจเล็กน้อย

                “วิธีไหนหรอครับคุณหมอ ผมยอมทุกอย่างอย่างน้อยแค่ได้คุยกับลูกก็ยังดี ไม่ใช่ที่นี่แล้วที่โรงพยาบาลไหน หมอบอกผมมาเถอะครับ” คนเป็นพ่อยังคงน้ำตาไหลอยู่ พูดไปพลางเขย่าตัวหมอไปด้วยความร้อนรนใจ

                “เอ่อผมไม่ได้หมายถึงโรงพยาบาลครับ ผมหมายถึงไม่ใช่โลกฝั่งนี้น่ะครับ”  คุณหมอพูดเสียงค่อย

                “หมอหมายความว่ายังไงครับ” วิคเตอร์ทำหน้าแปลกใจ

                “คุณเคยได้ยินเรื่องเทคโนโลยีคลื่นสมองไหมครับ”

                “ก็เคยครับได้ยินมาบ้างครับ”วิคเตอร์พยักหน้า

              “หรือว่า!

    “ใช่ครับ ทางที่จะช่วยให้ลูกชายของคุณกลับมามีชีวิตปกติได้อีกครั้ง คือการโอนคลื่นสมองไปในเซิฟเวอร์”

                “หมอหมายความว่าจะให้ลูกชายผมเข้าไปอยู่ในโลกออนไลน์น่ะหรอครับ”วิคเตอร์เริ่มเข้าใจจุดประสงค์ของหมอ

                “ใช่ครับ ยังถือว่าโชคดีมากที่แม้ร่างกายจะบาดเจ็บสาหัสขนาดนั้น แต่สมองของคนไข้กลับไม่ได้รับการกระทบกระเทือนมากเท่าไหร่อย่างไม่น่าเชื่อ สมองจึงยังสามารถส่งสัญญาณคลื่นสมองได้ตามปกติครับ และที่สำคัญ ทางครอบครัวจะสามารถไปเยี่ยมคนไข้ที่โลกอีกฝั่งได้ด้วยนะครับ”หมอเริ่มอธิบายต่อ

                “แต่ก็ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์นะครับ เพราะกรณีแบบนี้ก็ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ต้องเรียกได้ว่าอยู่ในขั้นทดลอง การที่ผู้ส่งคลื่นสมองไม่มีระบบร่างกายอื่นๆรองรับเลยแบบนี้ถึงจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าและก็อาจเป็นทางเลือกเดียวที่เหลือแล้วจริงๆ แต่มันก็เสี่ยงไม่น้อย”หมอพยายามอธิบายรายละเอียดทุกอย่างๆมีจรรยาบรรณที่สุด

                “ถ้ามันไม่มีทางอื่นแล้วผมก็ยินดีที่จะเสี่ยง ผมตกลงครับหมอแล้วเรื่องค่าใช้จ่าย...”วิคเตอร์สีหน้าเปลี่ยนไปนิดหน่อย เพราะการรักษาโดยใช้เทคโนโลยีระดับสูงนั้นมักจะแลกมาด้วยราคาที่แสนแพงและเค้าก็ไม่ใช่คนร่ำรวยมหาศาลอะไร

                “เรื่องค่าใช้จ่ายไม่ต้องกังวลครับผมจะแจ้งว่านี่ก็ถือเป็นการทดลองอีกขั้นโดยได้รับการยอมรับจากผู้ปกครองของคนไข้แล้ว ค่าใช้จ่ายทางโรงพยาบาลยินดีจะออกให้ทั้งหมดครับ เพราะถ้าการทดลองนี้สำเร็จจะถือเป็นก้าวสำคัญของการรักษาเลยก็ว่าได้” หมอตอบด้วยรอยยิ้ม

                “ขอบคุณมากครับคุณหมอ”แววตาของวิคเตอร์เริ่มมีความหวังขึ้นมา

                “แต่ว่า....”หมอพูดขัดความยินดีของวิคเตอร์ขึ้นมากลางคัน

                “แต่ว่าอะไรครับหมอ”วิคเตอร์มีสีหน้ากังวล

                “.................”

               

     

    ณ ปัจจุบัน

               

                “เพราะแบบนี้แหละ แกจึงจำเป็นที่จะต้องอยู่ในโลกนี้ไปเพื่อมีชีวิตอยู่ต่อ”วิคเตอร์เล่าเหตุการณ์คร่าวๆให้ลูกชายของเค้าฟัง

                “แล้วผมหลับไปนานเท่าไหร่ครับ”

                “3เดือน” วิคเตอร์ตอบ

              “โห นานเหมือนกันนะ แล้วแม่เป็นยังไงบ้างครับ”วิงถามอย่างเป็นห่วง

                “แกดูไม่ค่อยตกใจเลยนะ”จริงๆที่วิคเตอร์เล่านั้นเป็นเพียงแค่บทสรุปย่อๆเท่า ระหว่างทางสามเดือนเต็ม เค้ากับทีมงานแพทต้องทำงานหนักตลอดเวลาเพื่อที่จะจูนคลื่นสมองของวิงให้สมบูรณ์ บางวันต้องอดหลับอดนอนเพื่อประคองคลื่นความถี่ให้คงที่ตลอดเวลา ความผิดพลาดก็เกิดขึ้นอยู่ตลอด ต้องคอยแก้ไม่ให้มันส่งผลเสียกับเซลสมอง เรียกได้ว่ากว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ ต้องเสียทั้งหยาดเหงื่อและน้ำตาไปไม่น้อย

                “แต่ก็เอาเถอะ ช่วงแรกๆแม่แกก็ร้องไห้ทุกวัน แต่พอพ่อเล่าว่าจะได้เจอแกอีกแน่นอนก็ดีขึ้น แม่เค้ากำลังรอตั้งค่าคลื่นสมองอยู่เดี๋ยวอีกซักพักคงตามเข้าม..”

                “วิงลูกแม่!” ไม่ทันขาดคำบลูเบลแม่ของวิงก็รีบวิ่งมากระโดดกอดลูกชายหอมแก้มลูบหัวยกใหญ่ด้วยความคิดถึงและเป็นห่วง

                “อึกๆๆ พอแล้วแม่”วิงต้องค่อยๆดันตัวแม่ออกมาเพราะรับการจู่โจมสายฟ้าแลบไม่ไหว

                “ก็แม่คิดถึงนี่นา รู้ไหมแม่เป็นห่วงมากแค่ไหน ฮือ”บลูเบลพูดไปซักพักอยู่ดีๆก็ร้องไห้โฮออกมา

                “โอ๋ๆ ลูกกลับมาแล้วนะที่รัก”วิคเตอร์ต้องเข้ามาปลอบ ดูแล้วก็ช่างเป็นครอบครัวที่สนิทสนมกันมากพอสมควรให้บรรยากาศที่อบอุ่นและน่ารักมากๆ

                “แล้วผมอยู่นี่จะทำอะไรดีล่ะครับ มีแต่ที่โล่งๆขาวๆน่าเบื่อแย่เลย”วิงทำหน้าเซงๆ

                “รอดมาได้ก็บุญแล้วยังจะมาบ่งมาเบื่อ”วิคเตอร์พูดติดตลก

                “โถ่ ก็จริงนี่นาพ่อ จะให้อยู่ในห้องสีขาวโล่งๆไปทั้งชาติเลยหรอครับ ฮือ”วิงทำตาอ้อนวอนสุดฤทธิ์สุดเดช

                “คุณก็อย่าไปแกล้งลูกสิคะ”บลูเบลต้องเข้ามาโอ๋ลูก

                “โถ่คุณก็ หมดสนุกเลย”วิคเตอร์ส่ายหน้าเล็กๆ เค้าคิดจะแกล้งลูกชายสุดกวนอีกสักหน่อยแท้ๆ

                “แกสามารถเลือกเซิฟเวอร์ได้ ปัจจุบันโลกคลื่นสมองก็เริ่มเติบโตขึ้นมากแล้ว มีองกรธุรกิจมากมายเข้ามาเปิดกิจการในโลกคลื่นสมองเยอะแยะ แกก็เลือกเอาละกันว่าจะทำอะไร” วิคเตอร์พูดพร้อมสาธิตวิธีการเลือกเซิฟเวอร์ต่างๆ

     

     

    วิงมองดูเซิฟเวอร์ต่างๆพร้อมอ่านรายละเอียดที่ทางเซิฟเวอร์นั้นๆให้มา ใช้เวลาไม่นานเค้าก็ตัดสินใจได้

              “อืม.....อ๊ะ! เอาอันนี้ละกันพ่อ”           

    “ไหนดูซิ “Lunatear ” เห้ยนี่มันเกมนี่ แกเนี่ยน้า จะใช้ชีวิตทั้งทีดันเลือกเกมซะได้ ทำไมไม่ลองดูพวกโรงเรียน หรือบริษัทพัฒนาไอทีล่ะ ยังไงแกก็เก่งเรื่องการสร้างประดิษฐ์สิ่งของนู่นนี่อยู่แล้ว ” วิคเตอร์ถึงกับกุมขมับกับการตัดสินใจเลือกสถานที่ในการสร้างชีวิตใหม่ของลูกชาย

                “เอาเถอะค่ะคุณ ให้ลูกทำสิ่งที่อยากทำเถอะยังไงเราก็ไม่มีเวลามาเยี่ยมแกที่นี่บ่อยๆอยู่แล้ว ให้ลูกได้สนุกบ้างเถอะค่ะ ” บลูเบลพยายามเกลี้ยกล่อมตามประสาแม่ที่ตามใจลูกชาย

                “เฮ่อ คุณก็ตามใจมันตลอดเลยนะ” วิคเตอร์ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ

                “นะครับพ่อ ผมจะเลือกเกมที่แลกเงินเป็นเงินจริงได้ก็แล้วกันนะครับ เผื่อโชคดีหาเงินในเกมได้เยอะๆจะได้ส่งให้พ่อให้แม่ไงครั...”

    “โป๊ก!

    “โอ๊ย!!

    “นี่แหนะ ยังจะมาหัวหมออีกเอาเถอะอยากจะทำอะไรก็ทำละกัน แต่มีข้อแม้ ถ้าแกอยากอยู่ในเกม แกต้องให้สัญญากับพ่อสามข้อ”อยู่ดีๆวิคเตอร์ก็มีสีหน้าจริงจังขึ้นมา

    “อะไรน่ะพ่อ อยู่ดีๆก็จริงจัง”วิงถามด้วยความสงสัย เพราะอยู่ดีๆพ่อของตนก็เปลี่ยนอารมณ์อย่างกะทันหัน

    “เอาเถอะน่า จะรับปากหรือไม่แล้วแต่แก”วิคเตอร์จริงจัง

    “ข้อแรก แกต้องมั่งคลั่งทรัพย์สินให้ได้”วิคเตอร์พูดพลางทำท่าชูนิ้วตามจำนวนข้อ

    “ข้อสอง แกต้องเป็นผู้เล่นอันดับต้นๆในเกม”

    “ข้อสาม แกต้องห้ามตาย ไม่สิ ห้ามให้ระดับHPต่ำกว่า10%เด็ดขาด”วิคเตอร์พูดแบบจริงจังสุดๆ

    “ต้องขนาดนั้นเลยหรอจ๊ะพ่อ”บลูเบลถามขึ้นมาอย่างสงสัย

    “คุณฟังเงียบๆไปก่อนนะที่รัก ผมมีเหตุผลให้ลูกต้องทำแบบนั้น”วิคเตอร์ที่ไม่เคยขัดใจบลูเบลเลยถึงกับพูดอย่างแข็งขืนขึ้นมา

    “ผมไม่รู้หรอกนะว่าพ่อมีเหตุผลอะไร และทำไมพ่อถึงได้ดูจะรู้เรื่องเกมเยอะผิดปกติ แต่ผมจะพยายามทำให้ได้ละกันนะ”วิงตอบรับแบบคาใจ

    “ไม่ใช่แค่พยายาม แกต้องทำให้ได้ ถ้าไม่ได้แกจะไม่ได้เข้าเซิฟเวอร์เกมประเภทนี้อีก!”วิคเตอร์กำชับแน่นหนัก

    “เห้ย! เอาจริงหรอพ่อ”วิงสบตาที่แน่วแน่ของวิคเตอร์อยู่พักนึง

    “....เฮ่อ ครับผมจะทำให้ได้ตามนั้น ถ้าพลาดข้อไหนจะไม่แตะเกมพวกนี้อีก”พิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายวิงก็ยอมรับคำสัญญาสุดกู่นี้ แม้จะไม่รู้ที่มามากนัก แต่เค้าก็พอจะจับสัญญาณได้ว่าน่าจะมีบางอย่างที่วิคเตอร์จำเป็นต้องบอกเค้าแต่ให้บลูเบลรู้ไม่ได้แฝงอยู่

     

    “ดีมาก”

    “โป๊ก!

              “โอ้ย!

      “งั้นแกก็จัดการเอาเองได้เลย แล้วไว้ว่างๆพ่อกับแม่จะเข้ามาเยี่ยมละกันนะ อย่าลืมเช็คหน้าจอบ่อยๆ ตอนนี้ต้องออกไปดูความเรียบร้อยเรื่องต่างๆข้างนอกสักหน่อย”วิคเตอร์จัดการเขกกะโหลกลูกชายจอมกวนไป1ทีให้หายคิดถึง

    “แล้วแม่จะพยายามมาหาบ่อยๆนะลูก”บลูเบลขณะพูดน้ำตาก็เริ่มคลอๆอีกแล้ว

    “ครับพ่อแม่ไม่ต้องเป็นห่วง ขอบคุณนะครับ ถึงแม้มันจะไม่ค่อยเหมือนเดิมเท่าไหร่แต่ผมก็จะพยายามปรับตัวดู” ทั้งสามคนกอดล่ำลากันก่อนที่วิคเตอร์และบลูเบลจะออกจากเซิฟเวอร์ชั่วคราวนี้

    “บายครับพ่อแม่ รักษาตัวด้วยนะครับ”วิงเอ่ยลาพ่อกับแม่ของเค้าอีกครั้ง

    “ฟรุป ! ฟรุป !” แล้วร่างกายของวิคเตอร์และบลูเบลก็กลายเป็นแสงหายไปจากพื้นที่นี้

     

                “เฮ่อเอาล่ะเข้าเกมเลยดีกว่า ไหนต้องทำยังไงน้า... ”วิงอ่านรายระเอียดการสมัครเข้าเกมและข้อมูลอื่นๆจนได้ข้อมูลเพียงพอเค้าก็กดปุ่มที่โผล่ขึ้นมาจากการใช้ความคิดสั่งการ “LOGIN”

    “วืบๆๆๆๆๆๆ”จากนั้นเค้าก็ถูกส่งมาที่เซิฟเวอร์ใหม่ วิงมองสำรวจรอบๆตัวก็พบว่าเค้าถูกส่งมาในป่าแห่งหนึ่ง

               

     

               

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×