ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ภรรยานำดวง (Re-up มี E-book)

    ลำดับตอนที่ #11 : ไปหาหลวงพ่อตอนนี้เลย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.8K
      23
      18 มี.ค. 64

    เรืองรุ่งทายไม่ผิด คนที่เพิ่งก้าวเท้าลงจากรถตู้คือคุณนวลระวีนั่นเอง อดีตนางเอกภาพยนตร์สมัยวงการจอเงินรุ่งเรือง ก่อนผันตัวมาเป็นนางเอกละครโทรทัศน์ อยู่ในยุคข้ามผ่านของธุรกิจบันเทิงจากจอเงินสู่จอแก้ว ถึงแม้ปัจจุบันในวัยห้าสิบ คุณนวลระวีจะเปลี่ยนบทบาทมารับบทเป็นพี่สาว น้าสาว ป้า แม่ หรือย่ายาย แต่ละครทุกเรื่องที่เธอแสดงไม่ว่าจะเป็นบทบาทไหน ก็ล้วนแต่ประทับอยู่ในหัวใจของแฟนละครอยู่เสมอ 

    โดยเฉพาะบทนางร้ายสูงศักดิ์ หม่อมเจ้าหญิง หม่อมราชวงศ์ หม่อมหลวง คุณหญิง หรือผู้ดีตกยากอะไรแนวนั้น ไม่มีดาราหญิงคนไหนเทียบเคียงคุณนวลระวีได้เลยสักคน แค่เธอปรายตามองนางเอกหรือนักแสดงร่วมเวลาเข้าฉาก รังสีอำมหิตก็แผ่ซ่านออกจากตัว ส่งผ่านจากจอโทรทัศน์มาถึงด้านนอก ทำให้คนดูรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนทุกคราวไป 

    ในปัจจุบัน คุณนวลระวีได้เปลี่ยนบทบาทตัวเองใหม่อีกครั้ง ด้วยการการเปิดค่ายละครของตัวเองเมื่อห้าปีที่ผ่านมา ซึ่งละครสองเรื่องแรกที่ออกอากาศไป ก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี

    เรืองรุ่งเห็นผู้หญิงที่เธอเชื่อว่าเป็นคุณนวลระวีลงจากรถ แล้วเดินผ่านประตูรั้วเข้ามาในบ้าน เธอก็วางทุกอย่างในมือ ชวนอ่อนช้อยออกจากร้านเดินไปต้อนรับ

    “สวัสดีค่ะ”

    คุณนวลระวียกมือไหว้ก่อน ทำเอาเรืองรุ่งตกใจ รีบยกมือรับไหว้อีกฝ่ายอย่างลนลาน ขณะที่อ่อนช้อยซึ่งยืนอยู่ข้างน้าสาวก็ยกมือไหว้ดาราดาวค้างฟ้าด้วยความตื่นเต้น และได้รับรอยยิ้มอ่อนโยนตอบกลับมา

    “พี่ชื่อนวลระวีนะคะ เป็นแม่ของลูกนำ”

    คุณนวลระวีแนะนำตัวด้วยรอยยิ้ม เธออยู่ในชุดสีขาวครีม ประกอบด้วยเสื้อแขนยาวและกางเกงผ้าแนวเรียบร้อย สวมรองเท้าส้นเตี้ยสีดำ

    “พอดีเห็นรถลูกนำจอดอยู่ คิดว่าพ่อตัวดีน่าจะอยู่ที่นี่”

    “คุณนำ…คุณนำกำลังนอนอยู่ค่ะ”

    เรืองรุ่งตอบคุณนวลระวี ขณะพยายามระงับความตื่นเต้นของตัวเองจนสุดกำลัง 

    ก็ใครจะไม่ตื่นเต้นกันล่ะ อยู่ๆ มีดาราชื่อดังมาที่ร้านแบบนี้ คุยอวดทั้งปียังได้ ไม่คิดมาก่อนเลยว่ามารดาของนำดวง ที่เขาบอกว่าจะพามาทำบุญสะเดาะเคราะห์ที่วัดเขาตะคร้อ ที่แท้แล้วก็คือคุณนวลระวีดาราหญิงชื่อดังของเมืองไทย   

    เจ้าของบ้านวัยห้าสิบชี้ไปที่ต้นหูกวางข้างรั้ว มองเห็นชายหนุ่มกำลังนอนหลับสบายอยู่บนเปล ได้ยินเสียงเพลงที่เปิดเอาไว้กล่อมนอนดังแว่วๆ คุณนวลระวีเลิกคิ้วขึ้นสูงเล็กน้อย ใบหน้าซึ่งยังอ่อนเยาว์กว่าวัย ทอประกายอ่อนโยนเมื่อมองดูลูกชายตัวเอง

    “ตานำนี่ไม่ไหวเลย มารบกวนคุณแบบนี้” คุณนวลระวีหันมาพูดกับเรืองรุ่ง สีหน้าน้ำเสียงมีร่องรอยเกรงอกเกรงใจ “ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไรคะ?”

    “ไม่รบกวนเลยค่ะ คุณนำเป็นคนน่ารักมาก…ดิฉันชื่อเรืองรุ่งค่ะ” 

    หญิงวัยห้าสิบตอบคุณนวลระวีด้วยรอยยิ้ม ก่อนวางมือลงบนไหล่บอบบางของหลานสาว 

    “นี่หลานสาวดิฉันเองค่ะ ชื่ออ่อน หรืออ่อนช้อย”

    อ่อนช้อยยกมือไหว้คุณนวลระวีอีกครั้ง พบว่าอีกฝ่ายมองดูเธอด้วยสายตาอ่อนโยน ขณะเดียวกันก็เหมือนเพ่งพิศพิจารณาอยู่ในที

    อึดใจต่อมา ดาราหญิงชื่อดังก็พูดด้วยเสียงนุ่มนวลว่า

    “หนูอ่อน…โหงวเฮ้งดีมาก”

    คำทักทายของคุณนวลระวี ทำให้เรืองรุ่งค่อนข้างแปลกใจ ในหมู่บ้านเขาตะคร้อนั้น ใครต่อใครที่ไม่ชอบหน้าพวกนาง อย่างเช่นกลุ่มของนางโฉมเฉลา ต่างเรียกหลานสาวของนางด้วยคำหยาบคาย เป็นต้นว่า “อีดำ” “อีผอม” “อีแห้ง” “อีไส้กรอกย่าง” “อีกล้วยตาก” หรืออะไรทำนองนี้ ส่วนคนที่ดีสักหน่อยก็จะพูดว่าอ่อนช้อยมีหน้าตาคมขำ บอบบาง แต่คุณนวลระวีถือเป็นคนแรกที่ทักทายอ่อนช้อยแบบนี้

    อ่อนช้อยยกมือไหว้แล้วเอ่ยขอบคุณเสียงเบา เพราะเธอไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรต่อ ขณะที่เรืองรุ่งยิ้มหน้าบาน แทบจะบันทึกเสียงของคุณนวลระวีเอาไว้ เพื่อที่นางจะได้อวดชาวบ้านทุกคนในหมู่บ้านเขาตะคร้อ

    แน่ล่ะ อ่อนช้อยคือหลานสาวคนเดียวของนาง ทั้งห่วงทั้งรักไม่ต่างจากลูกแท้ๆ หัวอกของคนเป็นแม่ยามมีคนเอ่ยปากชมลูก จะไม่ให้รู้สึกปลาบปลื้มตื้นตันใจได้หรือ หนำซ้ำคนที่เอ่ยชมอ่อนช้อยในตอนนี้ ก็ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป แต่คือคุณนวลระวี ดาราหญิงชื่อดังที่คนทั้งประเทศรู้จัก

    จากนาทีแรกที่เรืองรุ่งรู้สึกหวาดกลัวคุณนวลระวีด้วยบทบาทการแสดงที่ชินตา ในตอนนี้หญิงวัยห้าสิบกลับรู้สึกสนิทสนม นับถือและชื่นชมอีกฝ่ายจนเต็มล้นใจ ก่อนนึกได้ว่าทุกคนกำลังยืนคุยกันอยู่หน้าร้าน

    “ตายจริง ดิฉันต้องขอโทษคุณนวลระวีด้วยที่เสียมารยาท เชิญคุณนวลระวีในร้านก่อนดีกว่าค่ะ”

    เรืองรุ่งเชื้อเชิญ ขณะที่คุณนวลระวีปฏิเสธ ดาราหญิงมองไปที่แคร่ใต้ต้นหูกวางที่ลูกชายนอนหลับบนเปล ก่อนพูดว่า

    “คุณเรืองรุ่งไม่ต้องลำบากหรอกค่ะ เราไปนั่งที่แคร่ดีกว่า” คุณนวลระวีบอกอีกฝ่าย “อ้อ อีกอย่างคุณเรืองรุ่งเรียกพี่ว่าพี่นวลเฉยๆ ก็ได้นะคะ ดูอายุแล้วพี่น่าจะอายุมากกว่าคุณ”

    “งั้นคุณนวลเรียกดิฉันว่าเรืองเฉยๆ ก็ได้ค่ะ ดิฉันอายุเข้าห้าสิบแล้ว”

    เรืองรุ่งตอบ ก่อนเดินนำคุณนวลระวีไปยังแคร่ไม้

    “แปลว่าพี่อายุมากกว่าน้องเรืองปีกว่า”

    คุณนวลระวีพูดขณะนั่งลงบนแคร่อย่างไม่กลัวเปื้อน แล้วขยับที่นั่งให้เรืองรุ่งที่นั่งหมิ่นเหม่บนแคร่ด้วยความเกรงใจ ส่วนอ่อนช้อยนั่งข้างน้าสาว ใกล้เท้าของนำดวงพอดี 

    คุณนวลระวีพิจารณามามองอ่อนช้อยอีกรอบหนึ่ง แล้วถาม

    “หนูอ่อนอายุเท่าไหร่แล้วจ๊ะ?”

    “หนูอายุสิบห้าค่ะ”

    อ่อนช้อยตอบด้วยกิริยาสุภาพ มองคุณนวลระวีที่พินิจมองหน้าเธออย่างไม่เข้าใจนัก

    “เรื่องหนูอ่อนโหงวเฮ้งดี ที่พี่พูดไปนั้น พี่พูดจริง” คุณนวลระวีหันไปกล่าวกับเรืองรุ่ง “บ้านของพี่เชื่อศาสตร์พวกนี้ พี่ถึงได้พาตานำมาทำบุญสะเดาะเคราะห์ พี่เองอยู่กับพ่อกับลุงที่ศึกษาเรื่องดวงชะตาหลากหลายแขนง ก็พอจะครูพักลักจำ ดูโหงวเฮ้งได้บ้างเล็กน้อย” 

    น้ำเสียงของคุณนวลระวีนุ่มนวลอ่อนหวาน แต่มีพลังสะกดใจ เมื่อเธอพูดออกมาก็ทำให้เรืองรุ่งปลาบปลื้ม พยักหน้ารับด้วยความตื้นตัน และเชื่อถือที่อีกฝ่ายพูดมาทุกอย่าง

    “อย่างหนูอ่อนเป็นคนหางตาเฉียงขึ้น ปากรูปกระจับอวบอิ่ม พวงแก้มเต็ม หน้าผากกว้างอิ่มนูน คิ้วละมุน และติ่งหูหนา นี่เป็นโหงวเฮ้งของคนที่มีวาสนาสูง น้องเรืองจำคำของพี่เอาไว้ได้เลย เมื่อหนูอ่อนโตขึ้น จะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน พอถึงวัยออกเรือนแต่งงานก็จะได้สามีมีฐานะ และครอบครัวของสามีจะรักใคร่ อุปถัมภ์ค้ำชู”

    เรืองรุ่งหน้าบานแล้วบานอีก เธอกล่าวคำขอบคุณคุณนวลระวีไม่ขาดปาก ขณะที่ดวงตาดำขลับของอ่อนช้อยมีความลังเลวูบผ่าน เกิดความสงสัยไม่แน่ใจว่า ดวงชะตาของเธอจะดีได้ขนาดนั้นจริงหรือ?

    เธอเป็นแค่เด็กบ้านนอกคอกนา ฐานะยากจน แค่ได้มาอยู่กับน้า ไม่ต้องอยู่กับพ่อและนางโฉมเฉลา ก็ถือว่าเธอโชคดีไม่ต่างจากขึ้นสวรรค์แล้ว จะหวังสูงถึงความสำเร็จ มีสามีรวย หรือครอบครัวสามีอุปถัมภ์ มันดูเกินเอื้อมไปหรือเปล่า

    คุณนวลระวียิ้มละไม ขณะพิจารณามองอ่อนช้อย เด็กสาวคนนี้เป็นคนใช้ได้ มีความสงบนิ่งเกินวัย รู้จักครุ่นคิดไตร่ตรอง ถ้าหากเป็นเด็กในวัยเดียวกัน ได้รับคำชมมากมายขนาดนี้ อย่าว่าแต่คำชมจากเธอที่เป็นดาราชื่อดัง ดูมีเครดิตน่าเชื่อถือเลย ต่อให้เป็นคำของหมอดูไร้ชื่อเสียง ก็อาจจะยิ้มหน้าบาน หลงเชื่อถ้อยคำโดยไม่คิดใคร่ครวญไตร่ตรอง

    แต่นั่นแหละ คุณนวลระวีรู้ดีว่าเธอพูดความจริง โหงวเฮ้งของอ่อนช้อยบอกเธอแบบนั้น

    ขณะที่คุณนวลระวีกำลังจะพูดต่อ เสียงของนำดวงก็ดังแทรกขึ้นมาเสียก่อน

    “ถ้าโหงวเฮ้งของน้องอ่อนดี…แล้วทำไมเมื่อเช้า หลวงพ่อบอกว่าน้องอ่อนชะตาขาด”

     

    คำพูดของนำดวงไม่ต่างระเบิดลูกโตที่โยนเข้ามากลางวง คุณนวลระวีถึงกับชะงักคำพูด หันไปมองลูกชายที่เธอคิดว่าหลับอยู่ด้วยสีหน้าแปลกใจระคนสงสัย พร้อมกันนั้นความตกใจก็ฉาบผ่านดวงตาของเธอ ขณะที่เรืองรุ่งถึงกับผุดลูกขึ้นยืน แล้วมองนำดวงด้วยความตื่นตระหนก มีเพียงอ่อนช้อยเท่านั้นที่จมอยู่กับความครุ่นคิด ขณะหันไปมองชายหนุ่มช้าๆ ด้วยกิริยาปกติ

    หลวงพ่อพูดแบบนั้นหรือ?

    อ่อนช้อยพยายามนึกทบทวนเหตุการณ์เมื่อเช้า

    ถ้าจำไม่ผิด หลวงพ่อเปี่ยมบอกว่า ถ้าหากนำดวงกับแม่จะไปวัด ให้พาเธอไปด้วย เพราะดวงชะตาของเขาจะไม่สามารถแก้ไขได้ถ้าไม่มีเธอ ส่วนดวงชะตาของเธอก็ไม่ต่างกัน

    นั่นคือสิ่งที่หลวงพ่อพูด

    “ไม่ต่างกัน” หมายถึงอะไร ในความเข้าใจของเด็กสาว หลวงพ่อเปี่ยมคงหมายถึงดวงชะตาของเธอไม่ต่างกันกับดวงชะตาของนำดวง การที่ชายหนุ่มพูดทะลุมากลางป้องแบบนั้น ก็แปลว่าตัวเขาชะตาขาด จึงตีความหมายคำพูดของหลวงพ่อว่าเธอก็ชะตาขาดเหมือนกัน…อย่างนั้นใช่หรือเปล่า?

    อ่อนช้อยจมอยู่ในความมึนงงสับสนไปชั่วขณะ

    ด้วยความที่นำดวงเป็นคนพูดเก่ง พูดเรื่องนี้ยังไม่จบ เขาก็พูดเรื่องใหม่ บวกกับความร่าเริงอารมณ์ดี เรื่องที่พูดออกมาไม่ว่าจะเป็นเรื่องใหญ่หรือเล็ก เรื่องจริงหรือเล่น ชายหนุ่มก็ยิ้มแป้นสนุกสนานเฮฮา ยามเอ่ยวาจาเล่าให้ทุกคนฟัง 

    อย่างสาเหตุที่เขามาหมู่บ้านเขาตะคร้อ นำดวงก็บอกอยู่หรอกว่าแม่จะพาเขามาทำบุญสะเดาะเคราะห์ เพราะอายุย่างเข้าเบญจเพส พื้นดวงชะตามีดาวอะไรต่อมิอะไรจรเข้าภพอะไร เธอเองก็จำไม่ได้ เพราะตัวคนเล่าเองก็จำไม่ได้ รวมทั้งไม่ได้เน้นช่วงไหนเป็นพิเศษ แม้แต่ตอนที่บอกเธอกับน้าว่าเขาอาจตายโหงตายห่า ก็คล้ายกับว่าเป็นเรื่องเล่าเรื่องเล่น สนุกสนานบันเทิง ยึดถือเป็นเรื่องจริงจังไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว

    ในเมื่อตัวคนมีเคราะห์ไม่ได้เดือดร้อนอะไร อ่อนช้อยเองก็ไม่เดือดร้อนเช่นกัน แม้แต่ตอนหลวงพ่อเปี่ยมบอกให้เขาพาเธอไปวัดด้วย เธอยังคิดอยู่เลยว่าจะไปหรือไม่ไป ขึ้นอยู่กับนำดวงและแม่ของเขาต่างหาก แม้ดวงชะตาของเธอจะไม่ต่างกับชายหนุ่ม แต่เธอก็ไม่ได้หวาดหวั่นกังวล เพราะแต่ไหนแต่ไรมาเธอก็สนใจแค่เรื่องทำมาหากิน เรื่องอื่นๆ นอกเหนือจากนี้ ยิ่งเป็นเรื่องทำนายทายทัก เรื่องของอนาคต ซึ่งอยู่เหนือธรรมชาติเกินสายตามองเห็น เธอจึงจัดความสำคัญน้อยกว่าเรื่องชีวิตในปัจจุบัน จนแทบไม่มีความสำคัญใดๆ ต่อชีวิต

    แต่น้าสาวของเธอกับคุณนวลระวีไม่ใช่

    เพราะทันทีที่ชายหนุ่มพูดจบ พร้อมยันกายลุกขึ้นนั่งบนเปลด้วยท่าทางเกียจคร้าน เรืองรุ่งก็ถามนำดวงทันทีด้วยความตกใจ

    “คุณนำหมายความว่ายังไงคะ หลวงพ่อที่ไหนบอกว่ายายอ่อนชะตาขาด?”

    “หลวงพ่อที่ผมกับน้องอ่อนตักบาตรเมื่อเช้านี่แหละครับ” นำดวงตอบ แต่เขาไม่รู้จักหลวงพ่อรูปนั้น จึงชะเง้อคอถามอ่อนช้อย “น้องอ่อนรู้มั้ยครับว่าหลวงพ่อท่านชื่ออะไร?”

    “หลวงพ่อเปี่ยมค่ะ”

    คำตอบของอ่อนช้อยราวกับระเบิดลูกที่สองของเรืองรุ่ง เพราะคนพื้นที่อย่างนางรู้ดีว่าคำพูดของหลวงพ่อเปี่ยมนั้นศักดิ์สิทธิ์มากเพียงใด แม้แต่คุณนวลระวี ที่พาลูกชายมาทำบุญสะเดาะเคราะห์ต่ออายุไกลถึงที่นี่ ก็เพราะได้ยินถึงบารมีของหลวงพ่อ ถึงแม้เธอไม่มั่นใจว่าจะได้พบหลวงพ่อเปี่ยมหรือเปล่า ก็ตัดสินใจขอพาลูกชายมาเสี่ยงดูก่อน

    “หลวงพ่อพูดว่าอ่อนชะตาขาดอย่างนั้นหรือ?”

    นางเรืองรุ่งหน้าซีดเผือดขณะเอ่ยถามหลานสาว อ่อนช้อยเห็นดังนั้นก็อดค้อนนำดวงไม่ได้ อยู่ๆ พูดออกมาโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง ไม่รู้จักใช้คำพูด หนำซ้ำคำที่พูดออกมาก็ไม่ใช่ถ้อยคำของหลวงพ่อ นี่ถ้าน้าของเธอช็อกตายขึ้นมา เขาจะรับผิดชอบยังไง

    นำดวงเห็นสายตาเยียบเย็นของอ่อนช้อย ก็ยิ้มหน้าเจื่อน เขาเลยรีบแก้ไขคำพูดของตัวเอง

    “ไม่ใช่แบบนั้นครับคุณน้า ผมพูดผิดไปหน่อย” ชายหนุ่มหัวเราะแหะๆ ก่อนเล่าให้ทุกคนฟังอีกรอบ “คือเมื่อเช้าก่อนที่ผมกับน้องอ่อนจะตักบาตร จู่ๆ หลวงพ่อท่านก็พูดกับผมว่า”

    นำดวงกระแอมหนึ่งที มองหน้าแม่ของตัวเองสลับกับเรืองรุ่ง จากนั้นก็ดัดเสียงตัวเองให้แก่ชรา เชิดคอทำท่าเหมือนตัวเองเป็นหลวงพ่อ

    “ถ้าวันนี้ประสกกับแม่ไปหาอาตมาที่วัด ให้พาสีกาคนนี้ไปด้วย ไม่เช่นนั้นดวงชะตาของประสกก็แก้ไขอะไรไม่ได้” นำดวงหยุดเว้นระยะอยู่ครู่หนึ่ง จึงพูดต่อ “จากนั้นท่านก็เบนสายตาไปที่น้องอ่อน แล้วพูดว่า…ดวงชะตาของแม่หนูก็ไม่ต่างกัน” 

    จบคำพูดของนำดวง คุณนวลระวีก็ลุกขึ้นจากแคร่ เธอหันมองเรืองรุ่งสลับกับอ่อนช้อย แล้วพูดขึ้นว่า

    “ไป…น้องเรือง พวกเราทุกคนไปหาหลวงพ่อกันตอนนี้เลย”

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×