คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่3 กรรมของกู
<< I'm Ki Bum >>
ตอนนี้ผมกำขับรถBMWคันหรูคู่ใจของผมกลับไปที่ผับของครอบครัว จากที่เมื่อวาน
หนีไปนอนกับม๊าม้าที่บ้านมา รถของผมเป็นสีขาวสะอาดทั้งคัน อันที่จริงนะ. . ผมตั้งใจ
จะซื้อสีดำ แต่ไอ้พี่ที่รักของผมมันใช้อยู่หนะสิ อะไรที่ตรงข้ามกับมันได้ ผมทำทุกอย่าง . .
ผมเลี้ยวรถเข้าถนนเส้นหลัก . . ผับใหญ่ที่ตั้งอยู่ถนนสายหลักอย่างถูกกฎหมาย . .
“อื้ม . .อืม..” ผมฮัมเพลงเบาๆในลำคอ คิดถึงหน้าพี่ชายที่รักของผม อาจจะดูเหมือน
ผมไม่เคารพมัน. . ซึ่งก็ถูก . . แต่ผมก็รักมันนะ แกล้งมันแล้วสนุกดี บางทีก็มีเรื่องชกต่อย
กันบ้างตามประสาพี่ชายกับน้องชาย แล้วทุกครั้งผมก็เป็นคนเริ่มก่อนทั้งนั้น . .
หน้าจอโทรศัพท์เครื่องแพงของผมกระพริบอยู่บนเบาะที่นั่งข้างคนขับ ผมเหลือบมองนิดนึง
แบบไม่ได้สนใจเท่าไร ก่อนจอดรถหน้าผับหรูเดินอ้อมรถไปเปิดประตู เชิญคุณโทรศัพท์
ลงจากรถ แล้วก็มีเด็กเดินมารับรถไปเก็บให้ “เฮ้ย! เรียวอุคป่ะเนี๊ย~” ผมถามไอ้เด็กรับรถ
ที่คุ้นหน้าเหมือนเป็นเพื่อนผมเอง เค้าขยับตัวนั่งบนรถให้สบายก่อนหันมาพยักหน้าให้ผม
“ก็บอกแล้วไง~ ว่าไม่ต้องมาทำงานที่นี้” ผมพูดอย่างอารมณ์เสีย บ้านมันก็รวยจะตาย
แล้วดันมาทำงานเป็นขี้ข้าผมกับพี่เนี๊ยนะ พ่อมันจะรู้ไหมเนี๊ย!~ ว่าทายาทคนเดียว
ของบริษัททัวร์ยักษ์ใหญ่มาทำงานเป็นเมทให้ลูกชายเจ้าของผับเนี๊ย~
“ช่างฉันถอะน่า~” เรียวอุคตอบส่งๆแล้วคาดเซฟตี้เบลล์ คาดเพื่ออะไรห๊า! แค่ขับอ้อมไปจอด
เฉยๆเนี๊ยนะ “อ้อ!~ รู้หละ” ผมพูดขึ้นอย่างรู้ทัน . . เหตุผลเดียวที่คนรวยเวอร์แบบมัน
มาทำงานเป็นคนใช้ผมกับพี่ . . จะมีอะไรซะอีกหละ “รู้อะไร” คนที่ดูเรียบร้อยพูดอย่าง
รำคาญ “ก็นายชอบฉันหนะสิ อยากใกล้ชิดฉันใช่ไหมหลา~” ผมออกถามไป แต่ไม่ใช่
คำพูดเดียวกับที่มีอยู่ในใจ “ฉันต้องขอโทษทีนะ แต่นายเทียบกับพี่ฮีชอลของฉันไม่ได้หรอก”
เรียวอุคตั้งท่าเหมือนจะขับออกไปอย่างไม่สนใจผม ผมเลยวิ่งไปขวางหน้ารถไว้ “เฮ้ยๆ!
เดี๋ยวดิ” เรียวอุคเงยหน้ามามอง “คุณชายครับ นี่มันงานผม อย่ามาขวาง” เรียวอุคผู้น่ารัก
เริ่มทำหน้าเหวี่ยง “จะโมโหไปไหน รู้หรอกหนะว่าชอบพี่ชายฉัน” ผู้ฟังหน้าแดงขึ้น
เมื่อผมพูดความจริงออกไป แต่สิ่งเดียวที่เงินของเรียวอุคซื้อไม่ได้ก็คือ. .
หัวใจของพี่เยซองนั้นแหละ พี่ชายผมไม่เคยมองเรียวอุคแบบนั้นเลย “นายตัดใจเถอะเรียวอุค
ก็รู้อยู่ว่าพี่เยซองเค้าไม่ได้ชอบนาย ตื้อเค้ามากๆเดี๋ยวเค้ารำคาญจะว่าฉันไม่เตือนไม่ได้นะ”
เรียวอุคมองผมตาขวางแต่ก็ไม่ได้ดูดุเลย. . แล้วพูดเน้นทุกคำ “เรื่อง-ของ-ฉัน”
เค้าเหยียบคันเร่งรถของผม จนผมคนนี้แทบโดนรถของตัวเองชนถ้าไม่เหวี่ยงตัวหลบซะก่อน
ผมนึกอิจฉาพี่เยซองจับใจ ทั้งๆที่ตัวเค้าเองแทบไม่สนใจใครๆรอบตัว แต่กลับมีคนมารัก
มาหลงเยอะแยะไปหมด . . แม้แต่หนังสือพิมพ์โรงเรียนที่พี่เค้าไม่เคยจะชายตามองสักครั้ง
ยังลงพาดหัวข่าวถึงเค้าเลย ผมเองก็ค่อนข้างหวงมันนะ ไม่ชอบให้ใครมายุ่งด้วย
ไอ้เพื่อนผู้ชายที่ทำเนียนแต๊ะอั้งมัน ก็ใช่ว่ามันจะไม่รู้ตัว แต่ก็ไม่สนใจซะงั้น ตรงกันข้าม. .
ผมนี่รักพี่ฮีชอลแทบตาย แต่เค้ากลับเห็นผมเป็นแค่เด็ก เหมือนๆกับที่พี่ชายผมมองเรียวอุค
เป็นเด็กนั้นแหละ แต่ว่า. . พี่คังอินไม่รู้หรอกนะครับว่าผมคิดแบบนั้น ถ้าขืนพี่เค้ารู้
มีหวังผมกับพี่คังอินคงได้เปิดศึกแลกหมัดกันสักตั้ง แล้วหน้าของผมก็คงยับเหมือนกระดาษ
ที่ถูกขยำแล้วกระทืบซ้ำ ผมเดินเข้าไปในลิฟต์ที่มีขนาดพอๆกับห้องน้ำบ้านคนปกติ
ในใจผมคิดถึงแต่หนังสือพิมพ์โรงเรียนที่ตัดค้างเอาไว้ ฉบับเดือนที่แล้ว. .
หนังสือพิมพ์โรงเรียนประกาศผลโหวตตำแหน่งเจ้าหญิงและนางฟ้าประจำโรงเรียน
ตำแห่งนางฟ้าพี่ลีทึกได้ไปอย่างไม่ต้องสงสัย ที่ 2 และ 3 เป็นของฝาแฝดตระกลูโจ
ที่ชื่อยองมินกับกวังมิน ซึ้งผมก็จำไม้ได้หรอกนะว่าคนไหนได้ที่เท่าไร ส่วนที่ 1
ของตำแหน่งเจ้าหญิงก็คือซองมิน เป็นหนึ่งในคนที่ผมค่อนข้างรู้จักดี เพราะเจอบ่อยๆ
เวลาไปออกงานสังคมกับแม่ อืม.. จะว่าไปเพื่อนสนิทของซองมินที่ชื่อทงเฮก็ได้ที่ 3 นี่นะ . .
แต่เหตุผลที่ทำให้ผมถึงขนาดจะตัดหนังสือพิมพ์โรงเรียนใส่กรอบรูปไว้ก็คือ. .
ไอ้พี่ชายสุดที่รักของผมดันได้ที่ 2 ของตำแหน่งเจ้าหญิงมาหนะสิ
ซึ่งเจ้าตัวเองก็ไม่ได้รู้เรื่องด้วยเลยสักนิด มันทำให้ผมทั้งดีใจแล้วก็หวงพี่ชายเลย
ประตูลิฟต์เปิดออกอีกครั้ง ผมเดินตรงไปที่ห้องซึ่งผมอาศัยอยู่กับพี่เยซอง
. .ถึงจะเรียกมันว่าห้อง แต่ก็มีขนาดพอกับบ้านหนึ่งหลังเลยทีเดียว
ผมเปิดประตูเข้าไปแล้วตะโกนเรียกดู “พี่! พี่เยซอง!” ไม่พบเงาหัวของใครอื่นนอกจากผม
ผมเปิดประตูเข้าห้องพี่ชายไปเพราะรู้นิสัยพี่ดีว่าไม่เคยล็อคประตู แล้วอยู่ๆก็ได้ยินเสียงหนึ่ง
ดังขึ้นในห้องนี้. . '*ฮอ ดุง จี ดุง นุน กัม ปัก ฮัล ชา อิ ทา โน จิล รา ล้า ลา ล้า ลา*'
ผมคุ้นๆว่าเป็นเสียงร้องเพลงของพี่ชาย เลยมองหาต้นเสียงดู แล้วก็เจอมันนอนแน่นิ่งอยู่
ข้างๆโคมไฟ เสียงจากโทรศัพท์ที่เค้าลืมเอาไว้หยุดไปแล้ว. . ผมเลยเอามันขึ้นมากดหาดูว่า
เพลงที่พี่เยซองแอบไปร้องแล้วตั้งเป็นเสียงเรียกเข้าทั้งๆที่ไม่ใช่ท่อนฮุกคือเพลงอะไร
ขณะที่กำลังเปิดดูระบบตั้งค่า ทันให้เห็นชื่อเพลงBe My Girl เสียงนั้นก็ดังขึ้นมาอีกรอบ
หน้าจอปรากฏรูปคนที่ผมคิดถึงเป็นที่สุด “ครับพี่” ผมพูดได้แค่นั้นก็ต้องเอาโทรศัพท์ออก
ห่างจากหูทันที เพราะเสียงของปลายสายเริ่มตะหวาดใส่ผมที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่เป็นชุด
‘ไอ้เยซอง!!! ฉันโทรหาทำไมไม่รู้จักรับ นี่ฉันโทรหานายตั้งแต่เที่ยงแล้วนะ
งานที่ให้ทำเสร็จหรือยัง รีบๆเอามาให้ฉันเลยนะ ฉันจะได้ทำงานต่อ
ถ้าฉันทำหนังสือพิมพ์โรงเรียนไม่ทันฉันเอานายตายจริงๆด้วย’ เสียงรัวชุดใหญ่หยุดลง
วรรคหายใจ และทำท่าจะเริ่มต่อ ‘นี่นายอยู่ไหนเนี๊ยรีบเอา- - ’ “พี่ครับ!!” ผมพูดให้ดังหน่อย
เพื่อขัดพี่ฮีชอลที่รักเอาไว้ “นี่ผมคิบอมครับ พี่เยซองเค้าลืมโทรศัพท์ไว้ที่ห้อง” ผมกลับมาพูด
เสียงปกติ นั่งลงที่เตียงของพี่เยซอง ‘อ้าวหรอ? ถึงว่า. . ไม่เห็นรับสายสักที’ พี่ฮีชอล
เริ่มสงบลง “แล้วพี่ฮีชอลให้พี่เยซองทำอะไรหรอครับ?” ผมถามปลายสาย หวังว่าจะแกล้ง
เอ๊ย! จะช่วยอะไรพี่ชายได้บ้าง ‘งานง่ายๆหนะคิบอม แค่ให้ไปสัมพากย์ ซองมินเฉยๆ’
ซองมิน. . ผมเงยหน้ามองเพดานแล้วก็นึกออก เมื่อกี้ก็ยังคิดถึงอยู่เลย
“อ้อ. . แล้วพี่จะเอางานเมื่อไรหละครับ” ผมถามไปงั้นๆ ไม่ได้คิดอะไรมากมาย
แค่อยากคุยกับพี่ฮีชอลนานๆ ‘เออ.. ฉันบอกเยซองว่างันพุทธ’ น้ำเสียงอ่อยๆของพี่ฮีชอบ
ตอบกลับมา อืม. . วันพุธ แต่นี้วันอาทิตย์นี่หว่า? “คือพี่ครับ. . วันนี่ยังวันอาทิตย์อยู่เลย
นะครับ” ผมหละเหนื่อยใจ พี่ฮีชอลจะรีบไปไหน ‘อืม. . ก็จริงแหละ. . ความจริงฉันก็พึ่งสั่งงาน
เยซองไปตอนสายๆนี่เอง. .โทษที ใจร้อนไปหน่อย’ ผมยกมือเกาหัวตัวเอง
ยังไม่รู้จะพูดอะไรต่อ แต่ปลายสายก็ตัดไปซะก่อน “อ้าว! บทจะวางก็วางเฉยเลยนะพี่”
ผมบ่นกับโทรศัพท์ . . วันนี้มันวันซวยอะไรของผมว่ะเนี๊ย!!!~ เกือบถูกรถตัวเองชน
แถมยังโดนพี่ฮีชอลด่าอีก. . กรรม
<< I'm Hee Chul >>
ผมกดวางสายแล้วฟุบหน้าลงกับขาตัวเอง “โอ๊ย!!!!!!!!~ เป็นอะไรของนายว่ะฮีชอล”
ผมขยี้หัวตัวเองแรงๆ เพราะความรู้สึกหงุดหงิดมันดูจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งรู้สาเหตุยิ่งหงุดหงิด
เข้าไปใหญ่ ‘ฉันต้องกลับไปอยู่จีน 2 อาทิตย์ว่ะ ฝากตามงานให้ด้วยแล้วกัน’ เสียงที่เค้าพูด
กับเพื่อนเข้าหูผมโดยบังเอิญ ปกติไม่เจอแค่วันสองวันผมก็ประสาทจะกินอยู่แล้ว
แต่นี่. . เค้าจะกลับไปอยู่จีนตั้ง 2 อาทิตย์ ผมจะลงแดงตายมั๊ยเนี๊ย???~
“เหอะ! ไม่อยู่ก็ดีสิ ไม่มีคนขัดใจตั้ง 2 อาทิตย์ สบายจะตาย” ผมพูดกลับตัวเอง
ใช่! ผมควรรู้สึกแบบนั้นแหละ แต่ทำไมผมถึงเป็นแบบนี้เนี๊ย~ ‘ดื้อนัก เดี๋ยวก็จูบซะเลยนี่’
คำพูดและเสียงของเค้าแวบเข้ามาในหัว ผมขยี้หัวตัวเองแรงๆอีกที รู้สึกเลยว่า. .
หน้าของผมที่ร้อนทั้งแดงขนาดไหน “ไม่ๆ เลิกคิดสักทีสิ” ผมส่ายหน้าแรงๆ มือยังกุมหัวไว้อยู่
“พี่!!! พี่ครับ” เสียงหนึ่งดังอยู่หน้าห้องนอนผม พร้อมกับเสียงรั้วเคาะประตูไม่หยุด
ผมเริ่มรวบรวมสติขึ้นมาได้บ้างแล้ว “พี่ครับ พี่ฮีชอลโว๊ย!!!~” ไอ้คนหน้าห้องเริ่มเรียก
แบบกวนๆตามนิสันมัน “เออๆ รู้แล้ว” ผมตะโกนตอบแล้วลุกจากเตียงไปเปิดประตู
“ว่าไง?!” ผมถามห้วนๆ เยซองส่งยิ้มร่าเริงมาให้ผม พร้อมชูเครื่องอัดเสียงในมือ
“หมดหน้าที่ผมแล้วพี่” ผมรับเครื่องอัดเสียงกลับมา “แต่พี่ต้องไปแยกเอาเองนะ
ว่าอันไหนเสียงซองมิน” ผมขมวดคิ้วมองเยซอง แล้วถามออกไป “หมายความว่าไงว่ะ”
เยซองถือวิสาสะแทรกตัวผ่านประตูเข้าไปนั่งบนเตียง “ก็ผมไม่รู้จักเค้า” เยซองตอบไปบ่นไป
“เห็นอยู่กัน 3 คน ถามว่าคนไหนซอง ทั้ง 3 คนก็แย่งกันเป็นซองมิน ผมเลยถามๆไป
แล้วอัดเสียงไว้ทุกคนเลย” เยซองนอนแผ่เหมือนหมดแรง แล้วทำท่าจะหลับไปจริงๆ
ผมต่อหุฟังกับเครื่องอัดเสียง “ชื่อไร. . ซองมิน ซองมิน ซองมิน . . ” ผมกดหยุด
แล้วเดินไปตบหัวคนที่นอนอยู่บนเตียงของผม “โอ๊ยพี่!” มันยกมือขึ้นมาลูบๆหัว
แต่ก็ยังนอนต่อ “จะถามชื่อหาอะไรว่ะ ก็รู้อยู่ว่าต้องตอบซองมินกันทุกคนอยู่แล้ว”
ผมนั่งลงบนเตียงบ้าง “ก็คำถามปูทางไงพี่ ช่างมันเหอะ” เจ้าน้องตัวดีตอบอย่างไม่ใส่ใจ
ผมกดเล่นต่อ “วันเกิดหละ . . 15 ตุลา วันที่1เดือน1 วันที่4เดือน4” . . อืม . .
“ชอบสีอะไร . . สีชมพู้ชมพู สีเหลืองมั้ง? สีส้มแสดๆ อืม.. ประมาณนั้นแหละ” . . เริ่มหละ . .
“มีสัตว์ที่ชอบป่ะ . . ก็. .มีคนว่าผมเหมือนลิงเผือกอะนะ แต่ผมชอลปลาแอนโชวี่มากกว่า
ลิงเผือกหรอ?.. ก็เหมือนดีนี่ โหย!~ พี่เยซอง ฮาฮาห้า.. แต่ผมชอบกระต่ายหละ
พี่ว่าผมเหมือนกระต่ายไหม . . เออๆ ฟันโคตรเหมือนกระต่ายเลย พี่นี่ก็!. .ผมหมายถึง
ความน่ารักต่างหาก หึ.หึ.ฉันว่าฉันน่ารักกว่านายอีก โหย~ พี่เยซอง ผมไม่ตอบเล่า!
อืม.. คำถามนี่ไม่ต้องตอบหละ รอตอบคำถามถัดไปแล้วกัน 555+ เอ้า! น้องกล้าม
นายยังไม่ได้ตอบเลย ก็พี่แหละ ไม่ฟังผมสักทีเนี๊ย~ ผมนะ. .ชอบปลา ชอบนี่โม่
ชอบพวกลูกปลาตัวเล็กๆอะ . .” ผมดึงหูฟังออก แล้วฟาดสายไปที่เยซอง
“พี่! ซาดิตส์หรอห๊า!!” เยซองโวยวาย ลุกขึ้นมาจ้องหน้าผมกวนๆ “โดนเด็กมันหลอกเล่า!”
เยซองดูเหมือนไม่เข้าใจที่ผมพูด “ฟังนะ ตอนถามวันเกิด. .คำตอบจริงๆอยู่ที่ซองมิน
พอถามสีที่ชอบ คำตอบไปอยู่ที่ฮยอกแจ” เยซองเกาหัวงงๆ ปรับท่านั้งของตัวเอง
ให้สบายขึ้น “แล้วพอถามเรื่องสัตว์ที่ชอบนะ คำตอบก็กลับไปเป็นซองมินอีก” ผมอธิบายต่อ
“ไปสัมพากย์มาใหม่เลยไป” เยซองทำหน้าเหมือนโลกจะแตก “พี่~” เยซองเขย่าแขนผม
“พี่ฮีชอลอ่า~ พี่ฮีชอลผู้ใจดี” เค้ายังทำท่าอ้อนต่อไป “ให้คนอื่นทำเหอะ ผมไม่รู้จักซองมิน
อ่า~” เค้ากระพริบตาปริบๆ “ก็รู้จักซะสิ” ผมตอบพร้อมลุกขึ้นจากเตียง ดูเหมือนอยู่ๆ
เยซองก็หมดแรงอ้อนไปซะดื้อๆ “ไปๆ ไปหาซองมินเลยไป” ผมกึ่งดึงกึ่งลากเยซอง
ไปที่ประตู “โถ่~ พี่ฮีชอลอย่าทำแบบนี้สิ เดี๋ยวผมไปฟ้องพี่ฮันกยองนะ” ชื่อที่ถูกเอยขึ้นมา
ทำผมชะงักไป 3 วินาที “ฟ้องก็ฟ้องไปดิ คนที่จะกลับไปจีนแบบนั้นจะทำอะไรฉันได้”
ผมเปิดประตูห้องแล้วดันเยซองออกไป ส่วนเค้าเองก็ฟื้นสุดฤทธิ์ “พี่ตกข่าวละ
เค้าไปตั้งแต่เย็นวันศุกร์เล่า แล้วเค้าก็พึ่งกลับมาถึงเมื่อเช้านี่เอง” ผมไม่รู้ว่า
ผมเผลอยิ้มไปหรือเปล่า แต่ถึงยิ้มเยซองจะคงไม่ทันได้เห็น เพราะผมรีบผลักเค้าออกไป
แล้วปิดประตูลง . . “กลับมาแล้วหรอ..” ผมพูดกับตัวเอง เดินไปยิ้มไปจนถึงเตียงนอน
ล้มตัวลงแล้วเอาหมอนใบใหญ่ปิดหน้าตัวเอง . . ตกลงผมเป็นอะไรของผมเนี๊ย
ทำไมแค่เรื่องเล็กๆน้อยๆที่เกี่ยวกับเค้า. . ก็ส่งผลกับผมได้ขนาดนี้. . ทำไมกันนะ
- - - - - - - - - - - - - - - -
เย้!!~
ลงครบตอนได้สักที ฮิ้ว~
ตอนนี้ก็อัฟ 2 ทีจบเหมือนกัน
แต่ตอนต่อไปบทใครหว่า??
อ้อ! บทพี่ทึก
กับ กับ กับใครหว่า?
ชั่งเหอะ
ลงรูปนิดจิตแจ่มใส[- - *]
เอาฝาแฝดมาแจม
น่ารักโว๊ย!!!~
อืม.. ขอบคุณรูปที่น้องแก้วเอามาแกล้งพี่
พี่เลยเอามาลงเลย ก๊ากๆๆๆ
แต่ก็นะ . .
ตอนนี้เปิดตัวหลายคู่จัด
ความจริงตอนที่แล้วก็เปิดไปอะนะ
[ฮันซิน]
ลงตอนนี้แทนแล้วกันเน้อ
จัดเลยแล้วกัน
2 อุน
เปิดมาคู่แรกก็ไม่เกี่ยวเลย
แค่อยากลงรูปคู่เพื่อรักเพื่อนเลิฟคู่นี้บ้างอ่า~
ฮันซิน
0 //// ๐
บอมซิน
น่ารักมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
อ่านแล้วเม้นด้วยนะ
ขอบคุณครับ
ความคิดเห็น