คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : จุดเริ่มต้น [[100%]]
ภายในห้องมืดขนาดกลาง รกเนื่องไปด้วยตำรามากมายที่วางระเกะระกะไปทั่วทั้งห้อง
มีเพียงแสงไฟสลัวจากเปลวเพลิงขนาดย่อมลอยอยู่กลางห้องเหนือศีรษะของสิ่งมีชีวิตรูปงาม
ทั้ง 2 . . พวกเค้าดูตรงข้ามกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ คนหนึ่ง. . ดูมีอายุกว่าอีกคนนิดหน่อย
ผิวขาวจนแทบซีด. . แต่ถ้าลองมองดูดีๆจะเห็นว่าสีผิวที่ขาวเกินปกตินั้น เป็นเพราะมีละออง
น้ำแข็งบางๆเกาะทั่วตัวเค้าต่างหาก ผมสีน้ำตาลเข้มที่ตัดสั้นพอประมาณถูกเซตอย่างเรียบง่าย
ทำให้ดูสุขุมขึ้นอย่างน่าประหลาด ตรงข้ามกับคนตรงหน้าที่ปล่อยไอร้อนออกจากตัว เค้ามี
คิ้วและผมสีม่วงจนเกือบแดง ผมสั้นนั้นลอยขึ้นด้วยไอความร้อน ร่างกายดูแข็งแรงกว่าคนเป็นพี่
อย่างเห็นได้ชัด ทั้ง 2 คนนั่งขัดสมาธิหันหน้าเข้าหน้ากัน ระยะห่างระหว่างหัวเข่าของพวกเค้า
มีเพียงไม่ถึงคืบเท่านั้น
“ให้เร็วได้ไหมพี่! ชักช้าจริงๆเลย” ชายผู้มีสีผมดุจเพลิงกล่าวอย่างไม่มีความเคารพผู้ที่ตน
เรียกว่า ‘พี่’ เลยแม้แต่น้อย “ใจเย็นๆสิ จะรีบร้อนไปทำไมกัน” อีกเสียงตอบกลับมาราบเรียบ
ยิ่งทำให้อีกคนยิ่งร้อนรน “ส่งพลังจิตธาตุน้ำมาให้ผมนะ! ผมไม่อยากเป็นไฟอยู่อย่างนี้!!”
เค้าขมวดคิ้ว หลับตาแน่น เกร็งมือที่วางอยู่บนเข่าจนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อ “หึ ซีวอน ฉันบอกให้
ควบคุมธาตุไฟให้อ่อนลง” ผู้เป็นพี่ยังคงพูดราบเรียบ “จะได้ใจเย็นลงนิด ไม่ใช่มาขอธาตุน้ำฉัน
ไปเพื่อให้ไฟของตัวเองเย็นลง” ฮันกยองพูดเสริมอีก เรียกไอเย็นออกมาจากร่างกายมากขึ้น
มากขึ้น. . “โธ่โว๊ย! จะอะไรก็เหมือนกันแหละ!” ซีวอนประกาศกร้าว ลูกไฟที่ลอยอยู่
ยิ่งลุกโชนตามอารมณ์ของผู้ใช้ “ใจเย็นๆ แล้วฝึกความคุมพลังไป” ผู้เป็นพี่ลืมตามองน้องชาย
อย่างอบอุ่น “ฝึกไปหละ พี่เก็บตำราให้เอง” ว่าแล้วผู้เป็นพี่ก็ลุกขึ้นยิ้มให้น้องชายก่อนจะ
หันมองรอบตัว รอยยิ้มใจดีเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มร่าเริง เค้าโบกมือนิดหน่อยให้น้ำเย็นเฉียบ
พัดหนังสือตำราที่ว่างเกะกะไม่เป็นที่ทั่วห้องกลับเข้าที่ของมันเอง ด้วยความเร็วที่มากพอจะ
ทำให้หนังสือไม่ทันเปียก “โอ๊ย!” ซีวอนร้องเนื่องด้วยกระแสน้ำเย็นที่พัดผ่านไปอย่างไม่ทัน
ตั้งตัว แต่เปลือกตายังคงปิดสนิท “นี่พี่! จงใจกวนผมใช่ไหม!!” ผู้เป็นน้องตะหวาดใส่ผู้เป็นพี่
อีกครั้ง “55555 ฉันเปล่านะ ไม่ได้ตั้งใจกวนนายเลยจริงๆ” น้ำเสียงสนุกสนานช่างขัดคำพูด
เหลือเกิน “หึ” ซีวอนพ่นหายใจ “จะเอาใช่ไหม? ไอ้ ฮัน-กะ-ยอง ” ซีวอนเน้นชื่อพี่ชายอย่าง
ชัดเจนทุกพยางค์ ดวงตาสีแดงลืมขึ้น สื่อความหมายได้เป็นอย่างดี ไฟลุกพรึบที่มุมหนึ่ง
ของห้อง “หึ หึหึ” เสียงหัวเรียงอย่างไม่ใส่ใจดังออกมาจากใจกลางของไฟที่ซีวอนจุดขึ้น
ฮันกยองผนึกร่างตัวเองไว้ด้วยน้ำแข็ง ไฟของซีวอนนั้นไม่มีผลอะไรกับฮันกยองเลย “ผม. .”
ซีวอนพูดเสียงต่ำ เปลวไฟแผ่วลงเล็กน้อย “ไม่มีวันแพ้พี่หรอกน่า!” ร่างสูงกระโจนเข้าไปชนกับ
ปราการน้ำแข็งนั้นจนฮันกยองล้มลง ไฟสีน้ำเงินลุกโชนที่มือคู่สวยของซีวอนที่กำรอบคอ
ผู้เป็นพี่อยู่ เค้าคร่อมร่างพี่ชายอยู่และเงื้อมือขาวขึ้นเตรียมจะต่อยขณะที่มือซ้ายบีบแรงขึ้นอีก
“ผมบอกอะไรก็ทำตามนั้นสิครับ พี่!” ซีวอนเรียก ‘พี่’ อย่างตระหนกเพราะอยู่ๆไฟที่กำลัง
ลุกโชนจากมือของเค้าก็หายไป เปลี่ยนเป็นน้ำแข็งเย็นยะเยือกจากพลังจิตของฮันเกิน
รอยยิ้มบางปรากฏขึ้นบนหน้าของผู้มีชัย “ฉันบอกอะไรก็ทำตามนั้นสิ” คำพูดของตัวเองถูกสวน
กลับมาให้ซีวอน *‘เกร็ง’* น้ำแข็งกระเด็นแตกออก ฮันกยองดันตัวเองออกจากน้องชายที่กำลัง
แข็งค้างอยู่ในท่าเดิม “ฝึกควบคุมพลังไป เราต้องเป็นเจ้านายมัน. . ไม่ใช่ให้มันเป็นเจ้านายเรา”
ฮันเกิงเดินไปเปิดประตู แสงจากภายนอกสาดเข้ามาจนมองเห็นเสี้ยวหน้าที่ยิ้มอย่างใจดีให้
น้องชายอีกครั้ง ก่อนจะพูดกับตัวเองเบาๆว่า “ฉันหละอยากรู้จริงๆ” ผู้เป็นพี่เหลือบมองน้องชาย
เพียงหางตาเท่านั้นก่อนพลบตาลงแล้วผู้กับตัวเองต่อ “ว่าทำไมนายถึงได้พยามปฏิเสธพลังจิต
ธาตุไฟเอาตอนนี้ . .” เค้าแง้มประตูมากขึ้นแล้วก้าวออกไปช้าๆ “ทั้งที่นายไม่เคยคิดจะทำเลย
มาทั้งชีวิต”
“พี่คร้าบบบบบบ~~~~” เสียงใสเจื้อยแจ้วดังขึ้นทันทีที่ฮันกยองก้าวออกมาจากห้องสมุด
ตึกเล็กของโรงเรียนชายล้วนที่มีชื่อเสียงอันดับ 1 ด้านพลังจิต โรงเรียนฮนจา
‘ฮนจา’ ที่หมายถึง ‘คนเดียว’ ‘เพียงลำพัง’ คำนั้นนั่นแหละ โรงเรียนเรามีปรัชญาประจำสถาบัน
ว่า ‘คนที่จะเก่ง ไม่จำเป็นต้องรู้จักใคร เรามีเพียงแค่ตัวเองก็เพียงพอ’ ช่างเป็นปรัชญา
ที่โดดเดี่ยวเหลือเกิน “พี่ฮันนนนนน” เสียงเดิมใกล้ขึ้นอีก เจ้าของเสียงกระโดนกอด จน ‘พี่ฮัน’
แทบเซ “55555 อะไรของนายเนี๊ย? ทำอย่างกับไม่ได้เจอกันมาสัก 10 ปี” ฮันกยองพูดกับ
หนุ่มน้อย หุ่นบาง หน้าหวาน ที่ตอนนี้กำลังเงยหน้าช้อนตามองเค้าอยู่ “ก็แหม่~ ผมกับพี่ฮีชอล
ตามหาพี่กันตั้งนานแนะ จะมาชวนไปกินข้าวเที่ยงแต่นี่จะหมดเวลาพักอยู่แล้วนะคร้าบบบบบบ”
เสียงเจื้อยแจ้วแฝงน้ำเสียงงอนเล็กน้อย ในขณะที่ฮันกยองลูบหัวเจ้าตัวเล็กเป็นการง้ออยู่
ผู้ที่ถูกเอ่ยนามเมื่อกี้ก็เดินตามมาสบทบสักที “ฮยอกแจ ท่านประธานเค้าอาจจะยุ่งอยู่ก็ได้นะ
อย่ากวนเค้าสิ” หนุ่มหน้าสวย สูงขาว ผอมบาง ผมยาวสีแดงสด พูดกึ่งประชด “โธ่ฮีชอลลล
นี่นายก็งอนฉันหรอเนี่ย?!” ฮันกยองมองรองประธานนักเรียนสาวสวย[?]อย่างไม่เชื่อหู
“เปล่าครับ ผมสงสารเจ้าลิงน้อยที่วิ่งหาคุณทั่วโรงเรียนเพราะอยากทานข้าวกับคุณต่างหาก”
ฮีชอลยังคงใช้คำพูดสุภาพประชดอย่างเจ็บแสบ “อะๆ ขอโทษครับๆ ไปกินข้าวกันเถอะนะ”
ฮันกยองพูดพลางเบี่ยงตัวออกจากประตูห้องสมุดตึกเล็กที่ไม่เปิดให้คนใช้แล้วเพราะรู้สึกถึง
สายตาอยากรู้อยากเห็นของฮยอกแจ “พี่ฮันครับ?” ฮยอกเอ่ยปากจะถามอย่างที่ฮันกยองคิด
“ไปกันเถอะนะ เดี๋ยวไม่ได้กินข้าวกันพอดี นะๆๆ” ฮันกยองใช้รอยยิ้มหวานตัดบทได้อย่าง
แนบเนียน เค้าพาทั้ง 2 คนออกจากบริเวณนั้นไปได้ โดยที่ไม่รู้เลยว่าด้านหลังประตูนั้น. .
ซีวอนกำลังทำอะไรอยู่ เพียงเสี้ยววินาทีแห่งการต่อสู้ ซีวอนได้ขโมยพลังจิตธาตุน้ำของ
เค้าไปได้ในปริมาณที่น้อยนิด. . น้อยขนาดที่ฮันกยองไม่ทันได้รู้สึกถึงการหายไปของมัน
แต่ปริมาณเพียงแค่นั้น. . ก็มากพอที่ซีวอนจะใช้ความสามารถอันมากมายของเค้าพัฒนา
ทั้งน้ำและไฟให้รุนแรงพอๆกัน . . .
. .เย็นวันเดียวกัน. .
สายตาหลายสิบคู่ของบรรดาสาวๆที่รออยู่หน้าประตูต่างจ้องมองไปที่เดียวกัน อาจดูเป็น
ภาพที่แปลกตาสำหรับคนทั่วไป ที่หญิงสาวจำนวนมากนั้นเพียงแค่จ้องมองประตูโรงเรียนฮนจา
จากที่ห่างไกล หากเป็นภาพที่ปรากฏอยู่ในนิยายหรือละครทั่วไปคงเป็นภาพหญิงสาวเหล่านั้น
กำลังรุ่มทึ้งจนประตูแทบพัง ที่มาของเหตุการณ์แปลกตานี้ก็มาจาก 1 ใน 3 ของชายหนุ่ม
สูงโปร่ง หน้าตาดี ที่กำลังเดินออกจากโรงเรียนนั้นเอง
ชายหนุ่มที่หน้าหวานที่สุดในบรรดา 3 คนนั้นโปรยยิ้มพลางโบกมือให้สาวๆที่มายืนรอ
พวกเค้า “ชิ!” ชายอีกคนส่งเสียงชิชะไม่พอใจพวกผู้หญิงเหล่านั้น ส่วนชายอีกคนกำลังหัวเราะ
ในท่าทางที่ช่างขัดกันของฮีชอลและซีวอน “หัวเราะอะไร” ซีวอนถามพี่ชายอย่างหงุดหงิด
“ก็ดูนายสิ ทำพวกนั้นกลัวหมดแล้ว” ฮันกยองตอบพลางชี้ไปทางผู้หญิงที่มองพวกเค้าอยู่
พวกเธอดู. . กลัว หวาดระแวง และ มีความสุขในเวลาเดียวกัน “พูดมากน่า” ซีวอนสวนกลับ
แล้วพลาดใส่ฮีชอล “พอเถอะพี่ น่าอายจะตาย” เค้ารวบมือที่กำลังโบกให้คนนู้นทีคนนี้ทีมาไว้
ข้างตัวเอง “เขินอะดิ้~~~” เสียงเจื้อแจ้วกวนประสาทดังขึ้นแทบจะข้างหูของซีวอน ผู้ถูกแซว
หันกลับไปมองตาขวาง ด้วยความที่ตัวเล็กกว่า 3 คนแรกค่อนข้างมากจึงไม่ค่อยมีใครสังเกต
ตอนที่ฮยอกแจเดินตามออกมา “เขินบ้า!อะไร!” ซีวอนตะคอกใส่โดยไม่จำเป็น เสียงดังลั่นนั่น
ไม่สามารถทำให้คนตัวเล็กกว่าหลบตาได้ด้วยซ้ำ ฮยอกจ้องเขม่งกลับไปอย่างไม่สะทกสะท้าน
แถมยังยิ้มอย่างสนุกสนาน “ไม่เขิน?” ฮยอกถามย้ำ ทั้งฮันกยองและฮีชอลต่างหัวเราในท่าทาง
ของทั้ง 2 ฝ่าย แต่ดูจะขำซีวอนมากกว่า ฮยอกแจลอยหน้าลอยตา ลูบหัวคนสูงกว่าเบาๆ
เป็นเชิงเอ็นดู “โถ่ๆๆๆๆๆ” ซีวอนปัดไม้ปัดมืออย่างรำคาญแต่ฮยอกก็ไม่สนใจ ยังลูบหัวเค้าต่อ
“โถ่ๆเด็กน้อย ยังไม่โตพอจะเข้าใจเรื่องความรู้สึกสินะ” ยิ่งฮยอกแจเล่นมากเท่าไรฮันกยองกับ
ฮีชอลยิ่งหัวเราะชอบใจ และยิ่งจุดไฟให้ซีวอนระเบิดอารมณ์ได้เร็วขึ้นอีก “แก!” ซีวอนตะวาด
พร้อมปล่อยหมัดใส่ฮยอกเต็มแรง แต่ทำได้แค่ชกอากาศเท่านั้นเพราะฮยอกไวกว่าเค้ามาก
“ทำได้แค่นั้นหรอน้องสาววววว” ฮยอกตอกกลับอย่างดูถูก ซีวอนจ้อง “ไอ้เวรเอ้ยยย!~”
ตาของซีวอนเปลี่ยนจากสีน้ำตาลเข้มเป็นสีแดงเพลิงอย่างรวดเร็ว เป็นสัญญาณให้รู้ว่าเค้ากำลัง
จะจุดไฟ “หึ” ฮยอกแจพ่นลมเยาะเย้ย เสื้อที่ทำพิเศษผ่าเป็นรอยเล็กๆ 2 รอย รอยผ่านั่นค่อยๆ
กว้างขึ้นเผยให้เห็นแผ่นหลังที่เคยขาวนวลก่อนจะเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดที่กระเซ็นออกมาใน
แนวเดียวกับรอยขาดของเสื้อ ที่ปากแผลเหมือโดนกรีดออกมาจากข้างใน กระดูกชิ้นเล็ก
โพล่ออกมาเป็นโครงสร้างของปีกขนาดใหญ่ที่เติมเต็มขนนกให้กลายเป็นปีกเพียงเสี้ยวนาที
ไฟลุกพรึบขึ้นในขณะเดียวกับที่ปีกของฮยอกแจสยายออก เค้าส่ายหน้าอย่างระอาพร้อมมอง
ซีวอนโดยไม่ก้มหน้าลงด้วยซ้ำ “คิดจริงๆหรอว่าจะชนะฉันได้?” ฮยอกถามด้วยน้ำเสียงสงสัย
จากใจจริง ผู้เงยหน้ามองจากเบื้องล่างรู้สึกได้ถึงการดูถูกของชายร่างเล็ก ซีวอนมองกลับไป
ด้วยสายตาเกรี้ยวกราด “แก. . ” เค้ากัดฟันพูด ปล่อยเสียงลอดออกมาเพียงแค่นั้น แต่สิ่งที่
ตอบกลับมามีแต่รอยยิ้มที่แสร้งทำเป็นหัวเราะสนุกสนานของฮยอก ทั้งที่สายตาของฮยอกนั้น
มองซีวอนเป็นแค่เศษธุลีดิน ซีวอนกำมือแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อก่อนจะเอ่ยอาฆาตออกมา
“แล้วจะได้เห็นดีกัน” . . .
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
จากใจเลยนะ. .
ซีวอนเรื่องนี้กากเกิ้นนนนน~~~
พระเอกควรจะเก่งสุดป่ะ!?!
เปิดมาตอนเดียวแพ้ทั้งป๋าทั้งฮยอก = =
นี่ตกลงเก่งบ้างไหมเนี๊ย?
55555555
ทุกอย่างมันมีที่มาที่ไปนะ ^^
เดี๋ยวจบตอน 2 หรือ 3 จะลงรายละเอียดและข้อจำกัดของแต่ละสายให้
ตอนนี้ลงรูปก่อนละนะ ^0^
[เหมือนกลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของไรท์เตอร์ไปหละ 555]
อิมเมจของซีวอนเวลาปกติ
สีผมจะเป็นสีดำประกายน้ำตาล ตาสีน้ำตาลเข้ม
อิมเมจของซีวอนเวลาจะให้พลังจิตหรือไม่พอใจมากๆ
สีผมจะเป็นสีม่วงประกายแดง สีส้ม หรือ สีแดง
แล้วแต่ความรุนแรง ยิ่งอารมณ์รุนแรงมากสีจะยิ่งแดงขึ้น
ตาสีน้ำตาลแดงจุดกลางเป็นสีเหลือง ไปจนถึง แดงเพลิง
ตามความรุนแรงเหมือนกัน
^^
ฝากเม้น ฝากติดตามด้วยนะ
ขอบคุณนะครับ
:) Shalunla
ความคิดเห็น