คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่2 คนแปลกหน้า?
<< I'm Kyu Hhun >>
“ครับ” ปกติ. . ถ้าคนที่ชอบโทรมา เค้าคงจะยิ้มหน้าบานแล้วรับโทรศัพท์ด้วยใจ
ที่เต้นแรงสินะ แต่สำหรับผมแล้ว. . แค่นึกถึงเค้าผมก็รู้สึกแย่แล้วหละ ‘คยู คือคิบอม
ขอเลื่อนนัดเป็น 9 โมงครึ่งได้ไหม?’ ผมคิดอะไรไม่ผิดเลย. . เค้าโทรหาผมก็เรื่องคิบอมทั้งนั้น
แหละ “อื้ม ที่เดิมนะครับ ขอบคุณครับ” ผมสรุปเองแล้วตัดสายทิ้ง ใจมันเจ็บแปลบๆอีกแล้วสิ
ผมรักเค้า รักพี่ฮีชอล รักมาก แต่สำหรับเค้า. . ทุกสิ่งทุกอย่างคือคิบอม “เฮ้อ~” ผมถอนหายใจ
กับตัวเอง มองนาฬิกาข้อมือตัวเองแล้วอ่านเวลาออกมา “8 โมง 8 นาที” ผมจัดแจงหยิบ ชีส
หนังสือ เท็กบุ๊ค ที่ต้องใช้ใส่กระเป๋า แล้วเตรียมจะออกเดินทาง ‘เน มา อึม มี อา พา โด ~
อิบ ซุล รึน- -’ ผมกดรับโทรศัพท์ที่ดังขึ้นอีกครั้งจากเบอร์ที่พึ่งจะว่างไป “ครับ” ผมรับสาย
ด้วยเสียงที่คงจะดูเย็นชาไม่น้อย ‘คยู. . นายโกรธฉันอยู่หรอ’ ปลายสายถามตรงประเด็น
สมเป็นเค้าจริงๆ ผมยิ้มจางให้ตัวเองที่น่าสมเพชจนผมเองยังรับไม่ได้ ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่า
ถ้าเลิกรักเค้าได้. .คงไม่เจ็บแบบนี้ แต่. . นั่นแหละนะ ผมทำไม่ได้หรอก “หึ. หึ. พี่คิดว่า
ผมโกรธพี่หรอครับ? ผมคนที่ไม่ว่าพี่จะทำอะไร จะเอาแต่ใจแค่ไหนก็ตามใจพี่เสมอ
จะมีอะไรให้โกรธพี่หรอครับ” รอยยิ้มผมกว้างขึ้นเรื่อยๆเพราะได้คุยกับพี่ฮีชอลโดยไม่มีเรื่อง
คิบอมมาเกี่ยว แต่ใจผมมันก็ยัง เจ็บ! ยิ่งคิดว่าทุกอย่างเป็นอย่างนี้เพราะความโง่ของผมเอง
ก็ยิ่งทรมาน ‘ฮะ ฮา’ พี่ฮีชอลหัวเราะเหมือนทุกที ผมนึกหน้าเค้าตอนนี้ออกเลยหละ ผมหยิบ
กระเป๋าสตางค์ออกมาด้วยอีกมือที่ว่างอยู่แล้วมองไปยังรูปผู้ชายที่ผมรัก รอยยิ้มสดใสส่งมา
จากรูปนั้น ตอนนี้พี่ฮีชอลก็คงกำลังยิ้มแบบในรูปอยู่นั่นหละ ‘ค่อยยังชั่วหน่อย เมื่อกี้เสียงนาย
ดูเย็นชามากเลย’ หึ. พี่จะรู้บ้างไหม? ว่าการพยามทำเสียงเย็นชาแบบนั้นกับพี่มันทำให้ผม
ปวดใจแค่ไหน? ผมเก็บกระเป๋าสตางค์ลงเป้ตามเดิม ‘ฉันนึกว่านายจะยังโกรธเรื่องที่. .’
พี่ฮีชอลเว้นวรรค คงกลัวจะทำร้ายจิตใจผม “55555 เรื่องที่พี่บอกเลิกผมเมื่อวานหนะหรอ”
ผมหัวเราะกลบเกลื้อนเพราะไม่อยากให้เค้าไม่สบายใจ แล้วเช็คของในกระเป๋าว่าขาดอะไร
ไปไหม ‘อื้ม ฉันไม่อยากให้นายเปลี่ยนไป ยังไงฉันก็ยังอยากเป็นพี่ชายนายนะ’ คำพูดนั้น
ทำร้ายจิตใจผมมากเลย .. พี่ฮีชอลอยากเป็นพี่ชายผม. . แต่คงไม่อยากเป็นพี่น้องแท้ๆกับ
คิบอมสินะ “ครับ เราคบกันแค่ไม่กี่เดือนเอง จะเลิกไปก็คงไม่เป็นอะไรมากหรอกครับ”
ผมฝืนพูดเพื่อเค้าอีกครั้ง แต่เค้าเองก็รู้ดีว่าผมรักเค้ามาหลายปีแล้ว แล้วเค้า. . ก็รักคิบอม
มานานแล้วเหมือนกัน ‘อื้ม ขอบใจนะ’ ผมยิ้มจางๆกับตัวเอง “ครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอวาง
หละนะครับ เดี๋ยวผมไปสาย” ผมล็อคประตูบ้านให้เรียบร้อย เตรียมออกเดินไปร้านที่นัดกันไว้
ร้านนั้นเป็นร้านอาหารอังกฤษที่อยู่ระหว่างบ้านผมกับคิบอมพอดี แค่เดินไปแปปเดียวก็ถึง
‘5555 โอเคๆ คิบอมกำลังไปแล้วหละ คงไปถึงก่อน 8 โมงครึ่งแน่เลย’ พี่ฮีชอลหัวเราะ
ผมได้แต่พยามสะบัดทุกสิ่งออกจากหัว คิบอมไม่ได้ผิดอะไรเลยและเค้าก็เป็นเพื่อนสนิท
ผมด้วย ถ้าผมเผลอทำตัวไม่ดีใส่เค้าเพราะเรื่องของผมกับพี่ฮีชอล. . ผมคงเกลียดตัวเองมาก
แล้วพี่ฮีชอลก็ไม่ได้ผิดอะไร แค่รักผมไม่ได้เท่านั้นเอง เพราะงั้น. . ผมจะทำทุกอย่างให้พี่ชาย
ที่แสนดีและเพื่อนรักของผมมีความสุข ระหว่างคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยผมก็มาถึงร้านอาหารแล้ว
“คนนั้นเค้าทำอะไรหนะ?” พนักงานตอนรับ 2 คนที่อยู่หน้าร้านกำลังคุยกันแล้วชี้ไปในร้าน
“นั้นสิ เราเข้าเตือนดีไหม? เดี๋ยวลูกค้าท่านอื่นกลัวหมด” ผมมองตามสายตาของพนังงานทั้ง
2 คนเข้าไปในร้าน “คิบอม” ผมพูดชื่อเพื่อนรักของผมที่ตกเป็นเป้านินทาอยู่ ตอนนี้คิบอมกำลัง
พูดคนเดียวอยู่? ผมเดินแทรกพนักงานตอนรับ 2 คนนั้นเข้าไปหาคิบอม “เห้ย!” ผมตบลงที่หลัง
เพื่อนรักเป็นการทักทาย “ทำอะไรอยู่ว่ะคิบอม?” หน้าตอนคิบอมหันมาอยู่ตกใจเล็กน้อย
ผมถอยหลังลงนั่งเก้าอี้ตัวที่คิบอมวางกระเป๋าเอาไว้ “ก็นี่ไง ฉันกำลังคุยกับคนที่ฉันเคยเล่า
ให้นายฟังอยู่ คนที่ฉันฝันถึงมาตลอด 17 ปีเนี๊ย~~” คิบอมขยับตัวเหมือนจับอะไรมาไว้
หน้าตัวเอง “พูดบ้าอะไรห่ะ ฉันเห็นแกพูดคนเดียวมาตั้งแต่ฉันเดินเข้าร้านมาแล้วนะโว้ย”
ผมพูดด้วยความสัจจริง แต่ดูมันจะไม่เชื่อผมเลย ผมส่ายหน้าอย่างระอาแล้วหันมาสนใจเมนู
บนโต๊ะแทน แต่ก็ไร้วี่แววว่ามันจะสนใจผม “เห้ย! ยืนทำไรอยู่ว่ะ?! นั่งดิ จะติวป่ะเนี๊ย?”
ผมพูดพลางฉุดแขนคิบอมมาทางเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม สายตาของคิบอมยังคงมองอยู่ที่เดิม
ที่ๆผมก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไร ก่อนจะนั่งฟุบหน้าลงกับโต๊ะแล้วบ่นพรึมพรัมกับตัวเองอย่างกับ
บทสวด “เฮ้ย!” อยู่คิบอมก็ตะโกนแล้วลุกพรวดขึ้น “ฉันว่า. . เราค่อยติวกันวันหลังเหอะ”
ผมมองมันงงๆ วันนี้คิบอมมันเป็นบ้าอะไรของมันเนี๊ย?~ “ฉันไปละนะ บาย” คิบอมโบกมือลา
แล้วเดินออกไปโดยไม่หันกลับมามอง ดูท่าทางเร่งรีบพิกล ผมส่ายหน้ากับตัวเองแล้วลุกตาม
“เอ้า!” สายตาผมเหลือบเห็นกระเป๋าของคิบอมจากเก้าอี้ตอนผมลุกขึ้น ผมหยิบขึ้นมาสะพาย
ไว้ที่บ่าอีกข้างนึงแล้วกระชับสายกระเป๋าตัวเอง “เฮ้อ~ นี่ต้องเอาไปคืนอีกใช้ไหมเนี๊ย”
ผมเกาะหัวอย่างเซ็งๆแล้วเดินไปทางบ้านคิบอม วันนี้เป็นวันที่ผมเสียเวลาเปล่าจริงๆ หนังสือ
ก็ไม่ได้ติว ข้าวก็ไม่ได้กิน เฮ้อ~ “คิบอม!!” ผมตะโกนเรียกเพื่อนรักตั้งแต่ยังไม่เข้าเขตบ้านมัน
“คิบอมโว้ย!!!!” ผมตะโกนซ้ำ แต่ก็ยังไม่เห็นวี่แววของคนที่เรียก “คิบอม!!~” ผมตะโกนอีกที
ตอนถึงหน้าประตูบ้าน แต่คนที่เดินออกมากลับไม่ใช่คิบอม “อ้าวคยู!?” พี่ฮีชอลเดินออกมาหา
ผม “ไม่เจอคิบอมหรอ?” พี่ฮีชอลถาม ผมมองแล้วก็ยิ้ม พี่ฮีชอลนี้น่ารักจริงๆเลย “เจอครับ”
ผมตอบคำถาม พี่ฮีชอลดูงงๆผมเลยขยายความต่อ “เมื่อกี้เจอกันแล้ว แต่คิบอมขอตัวกลับก่อน
แถมลืมกระเป๋าไว้ด้วยเนี๊ย” ผมชูกระเป๋าของคิบอมให้พี่ฮีชอลดูก่อนยื้นให้เค้า “หืม? แต่คิบอม
ยังไม่กลับมาเลยนะ” พี่ฮีชอลแสดงอาการเป็นห่วงคิบอมอย่างเห็นได้ชัด เค้าจะเคยห่วงผม
แบบนี้บ้างไหมนะ? “มันคงเดินเล่นเรื่อยเปื่อยอยู่มั้ง ไม่ต้องห่วงหรอกน้า มันไม่เป็นไรหรอก”
ผมตอบอย่างไม่ใส่ใจคิบอมเท่าไรพลางลูบไหล่พี่ฮีชอล แต่ก็นั้นแหละ คิบอมมันเป็นผู้ใหญ่แล้ว
ดูแลตัวเองได้แหละหน่า “อื้มๆ ไม่ไหวเลยน้องคนนี้” พี่ฮีชอลส่ายหน้าอย่างระอา ทำเอาผม
หลุดขำโดยไม่ตั้งใจ “ฮะ ฮา งั้นผมกลับหละนะครับ” หมดธุระแล้วก็บอกลาดีกว่า ยิ่งเจอพี่เค้า
ผมยิ่งทำใจลำบาก “กลับดีๆนะ อย่าเถรไถลเหมือนคิบอมหละ” พี่ฮีชอลแหวะไปถึงคนที่ไม่ได้
อยู่ตรงนี้ด้วย “คร้าบบบบ คร้าบบบ~~” ผมขานรับโบกมือลา พี่ฮีชอลโบอกมือกลับแล้วยืนส่ง
จนลับสายตา ผมก็เดินถอยหลังอยู่อย่างนั้นจนมองไม่เห็นพี่ฮีชอลนั้นแหละถึงหันกลับไป
แต่พอกลับไปถึงบ้านก็เห็นชายผิวขาว ผมขาวยาวระต้นคอ ยืมด่อมๆมองๆอยู่หน้าบ้าน
“นี่นาย” ผมสะกิด “เห้ย!” เค้าสดุ้งหันกลับมา เค้าเป็นผู้ชายที่หน้าหวานจนผมคงอดคิดว่า
เค้าเป็นผู้หญิงไม่ได้ ถ้าไม่เห็นกล้ามที่ต้นแขนของเค้า “นายมาทำอะไรหน้าบ้านฉันเนี๊ย?”
ผมถามชายแปลกหน้าที่มาด่อมๆมองๆอยู่หน้าบ้านผม แต่ดูท่าทางเค้าก็ดูดี คงไม่ได้เป็นขโมย
หรอกมั้ง “คุณคือคยูใช่ไหมครับ” นอกจากเค้าจะไม่ตอบแล้วยังมาถามผมกลับอีก ผมพยักหน้า
แทนคำตอบ “ผมชื่อซองมินครับ ผมมาขอความช่วยเหลือ” . . .
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
내 마음이 아파도 입술은 저절로 웃게 되는 날
เน มา อึม มี อา พา โด อิบ ซุล รึน ชอ ชอล โร อุซ เก ดเว นึน นัล
แม้ว่าหัวใจของผมอาจจะเจ็บ แต่ริมฝีปากของผมก็ยังยิ้มได้ในวันนั้น
^
^
^
^
เนื้อร้องและคำแปลเพลง A 'Good'bye ท่อนที่คยูใช้เป็นเสียงRingtoneตอนฮีชอลโทรมาครับ
แถมรูปให้
อิมเมจคยูเรื่องนี้จะเป็นแนวนี้แหละ ดูนิ่งๆหน่อย
เป็นประเภทที่ยอมเจ็บเพื่อคนที่ตัวเองรัก
[จะว่าไปไรเตอร์ก็แต่งคยูแนวนี้เป็นเรื่องที่ 2 ละ
แต่เรื่องแรก ยังไม่นิ่งเท่าเรื่องนี้]
ฝากเม้นด้วยน้าาา เป็นกำลังใจเล็กๆน้อยๆ ^^
ความคิดเห็น