กราบสวัสดีนักอ่านทุกท่านทั้งที่ตั้งใจกดเข้ามา
และไม่ได้ตั้งใจกดเข้ามาอ่าน
ขอบอกว่า เรื่องนี้ถึงจะตั้งรูปไอคอนเป็นกาคุชูกับคารุมะ
แต่ไม่ได้กะให้เขาสองคนคู่กันหรอกนะคะ
เพราะงั้นเรื่องนี้ไม่ Y แน่นอนค่ะ
อยากรู้ว่าเนื้อเรื่องเป็นยังไง..ไม่บอกหรอก ไปอ่านกันเลยจ้า
.
.
.
เดี๋ยวๆ! ลืมบอก อ่านบทนำก่อนนน
ท่ามกลางความเงียบของห้องประชุมและเสียงพลิกหน้ากระดาษของทุกคนในห้องยังมีเด็กสาวคนหนึ่งซึ่งนั่งอยู่หลังสุดมองไปรอบๆด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เธอคิดในใจว่า ถ้ามีคนมาถามชื่อเธอเพราะยังไม่รู้จักกัน เธอก็คงจะไม่แปลกใจในเมื่อคนในห้องนี้แทบจะไม่คุยกันเลย เด็กสาวยิ้มขบขันก่อนจะหันไปมองนอกหน้าต่าง ดูภาพของตึกที่ไร้ซึ่งความน่าสนใจในความคิดของเธอ ร่างบางมองภาพนั้นซักพักก่อนที่เสียงเลื่อนของประตูจะดังขึ้นเรียกความสนใจของเธอ
"วันนี้จะมีอาจารย์จากมหาวิทยาลัยมาบรรยายเรื่องตรีโกณมิตินะครับ" อาซาโนะ กาคุชูผู้ซึ่งเดินเข้ามาในห้องกล่าวหน้าโพเดียมก่อนจะถอยออกมา เชิญให้ชายหนุ่มคนหนึ่งผู้ที่น่าจะเป็นอาจารย์จากมหาวิทยาลัยเข้ามาแทน ผู้บรรยายคนนั้นกล่าวสวัสดีและแนะนำตัวง่ายๆอย่างเป็นกันเองก่อนจะเดินไปเปิดโปรเจคเตอร์ฉายภาพหัวข้อที่ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องที่จะมาบรรยาย
"ก่อนจะเข้าเรื่องเรียนพี่ขอถามคำถามซักข้อก่อนนะครับ" อาจารย์จากมหาวิทยาลัยผู้ที่แทนตัวเองว่าพี่เพื่อความสนิทสนมกล่าวเสียงนุ่ม เว้นคำพูดก่อนจะกล่าวต่อ "น้องๆคิดว่าคนที่ฉลาดแต่ไร้ซึ่งศีลธรรมกับคนที่มีศีลธรรมแต่โง่ ใครดีกว่ากันครับ" เป็นคำถามที่ไม่ง่ายและไม่ยาก แต่ก็สะท้อนถึงตัวตนของคนนั้นๆ ว่ามีทัศนคติเป็นอย่างไร ห้องAทุกคนต่างตระหนักถึงข้อนี้ดีถึงได้พร้อมใจกันเงียบ ผู้บรรยายเมื่อเห็นความเงียบนี้จึงแย้มยิ้มก่อนจะบอกว่าถ้าใครจะตอบให้ยกมือ
เด็กสาวที่นั่งอยู่ริมหน้าต่างหลังห้องกวาดสายตามองทุกคนในห้อง เมื่อเห็นว่าไม่มีใครคิดจะตอบเธอจึงยกมือขึ้น ถ้าเป็นปกติแล้วอาซาโนะคงเป็นคนตอบแต่ทว่าตอนนี้เขากำลังอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ค่อยดี ถ้าตอบแทนทุกคนล่ะก็ ใครๆก็ต้องมองว่าเขาออกหน้าแทนทุกคน แล้วห้องAก็จะถูกมองว่าไร้ซึ่งศักยภาพต้องให้ประธานนักเรียนออกหน้าแทนแน่ๆ เธอนึกในใจก่อนจะลุกขึ้น เด็กสาวมีผมสีดำมะเกลือปรกหน้าตัดกับผิวสีขาวซีดจนเหมือนกับว่าไร้ซึ่งเลือดเนื้อ ริมฝีปากสีชมพูเป็นกระจับแย้มยิ้มเมื่อได้รับอนุญาตให้พูดก่อนจะเอ่ยในสิ่งที่ตนคิดเกี่ยวกับคำถามออกมา
"คนที่ฉลาดแต่ไร้ซึ่งศีลธรรมค่ะ" เด็กสาวเว้นคำพูดก่อนจะเอ่ยต่อ "เพราะว่าสิ่งที่แสดงถึงคุณค่าของคนคือปัญญา ถ้าไร้ซึ่งปัญญาก็ไร้ความหมาย ต่อให้คนคนนั้นจะไร้ซึ่งศีลธรรมและทำแต่เรื่องชั่วร้ายแต่สิ่งที่เขาทำก็จะยังคงเป็นฐานความรู้ให้กับคนรุ่นถัดๆไปอยู่ดี สิ่งที่โลกต้องการที่จริงแล้วไม่ใช่ความดีแต่เป็นความรู้และการบุกเบิกต่างหากค่ะ ไม่มีใครจารึกชื่อของคนที่ทำความดีทั้งชีวิตแต่จะจารึกชื่อของผู้ที่บุกเบิกวิทยาการใหม่ๆให้กับโลกค่ะ" เธอกล่าวอย่างเนิบๆจนจบก็นั่งลง และรับรู้ได้ถึงสายตาที่จดจ้องมาของคนทั้งห้องประชุม
"ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ" อาจารย์คนนั้นพูดยิ้มๆ เขาเก็บสีหน้าแปลกใจก่อนหน้านี้อย่างแนบเนียนก่อนจะกล่าวแนะนำเนื้อหาที่จะมาบรรยายจริงๆเพื่อเรียกความสนใจของทุกคนในห้องประชุมให้มามองที่โปรเจคเตอร์อีกครั้ง....
คำเตือน!
เนื้อหาในฟิคนี้อาจมีบางอย่าง
ขัดต่อศีลธรรมที่ดี ล้อเลียนวิถีประชาในบางเรื่อง
กรุณาเตรียมใจเล็กน้อยก่อนกดอ่าน
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น