คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : EP.4 (1/3)
10
เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ผมมีความคิดว่าเดี๋ยวจบอาทิตย์นี้ก็สบายล่ะ ว่างล่ะ
จนวันนี้...
ลืมงานวิชาการไปแล้วจ๊ะ
อะไรเนี่ยยยยยย
วันอาทิตย์หลังจากที่ทุกคนในบ้านตื่น (เกือบบ่าย2แหนะ) ทุกคนก็ลากสังขารมาหาอะไรกินกัน คุยกันไปคุยกันมา ผมถึงได้รู้ว่าผมลืมงานวิชาการไปซะสนิท ชื่อบูธก็ยังไม่ได้ส่งเลยเนี่ย
เพราะอย่างนั้นผมเลยมาโรงเรียนตั้งแต่ยังไม่7โมงเลยครับ แม้ไอ้เต้จะโวยวาย (มันต้องพลอยมาเช้าไปด้วย) แทบตายและตอกย้ำว่าไม่ทันหรอกพี่เป็นสิบครั้งก็ตาม ต้องลองดูก่อนดิ ถ้าผมไปบอกพวกในชมรมว่าเราส่งชื่อบูธไม่ทัน ต้องโดนปลดจากการเป็นประธานแน่ๆ (หรือว่าดีนะ)
การที่เราจะจัดวิชาการ ถ้าจะให้ทุกๆชมรมทั้ง3โรงเรียนออกบูธนี้น่าจะไม่ไหวใช่ไหม ดังนั้นโรงเรียนที่เป็นเจ้าภาพก็จะกำหนดมาว่าแต่ละโรงเรียนออกบูธได้เท่าไร แล้วโรงเรียนนั้นๆก็จะเปิดให้ไปลงชื่อบูธกันอีกที
สำหรับโรงเรียนผม เหมือนจะประกาศให้ลงชื่อไปเมื่อวันศุกร์ แต่ผมไม่อยู่ที่โรงเรียน (ไปจัดสถานที่) วันนี้เลยจะไปถล่มห้องสภาสักหน่อย
ผมรู้นะว่าพวกสภาไม่ผิด แต่จะให้ผมเฉยๆแล้วยอมรับ มันเป็นไปได้ยากพอๆกับหิมะตกเมืองไทยนั้นแหละครับ
ส่วนเหตุผลที่ผมต้องตกใจเพราะส่งชื่อไม่ทันเพราะว่าถ้าชมรมไหนที่ส่งชื่อไม่ทันจะถูกเกณฑ์ให้ไปช่วยงานพวกที่จัดบูธครับ ซึ่งไอ้พวกจัดบูธก็จะไม่มีความเกรงใจล่ะใช้งานพวกเราเยี่ยงทาส (ปีนี้แล้วชมรมผมจัดบูธ ได้ชมรมรักการอ่านมาช่วย สบายเลยครับ ฮ่าๆ) ดังนั้นถึงแม้พวกครูและสภานักเรียนจะเรียกชมรมที่ลงชื่อไม่ทันว่าชมรมผู้ช่วย แต่พวกผมก็เข้าใจว่ามันคือเบ๊ดีๆนี้แหละ
แล้วปีนี้พวกผมต้องเป็นเบ๊เนี่ยนะ
ยอมไม่ได้!
“อรุณสวัสดิ์..” ผมเคาะประตูห้องสภาอยู่2 3ทีก่อนที่จะมีเสียงขานรับดังมาจากในห้อง พอเปิดประตูเข้ามาก็ต้องชูชกพวกนี้จริงๆ ในขณะที่ชมรมผมยังไม่มีใครโผล่หัวมาสักคน ห้องสภานักเรียนดันเริ่มมีสมาชิกที่วุ่นๆทำงานอยู่5คนแล้ว ห้องสภานี้เปรียบเหมือนห้องฉุกเฉินในโรงพยาบาลเลยนะ ผมไม่เคยเห็นพวกมันได้อยู่กันว่างๆเกินวันสักที
ดีนะที่ผมไม่ได้อยู่สภา
“วุ่นอยู่เหรอวะ” หลังจากกวาดสายตาดูทั่วห้องแล้วก็พบว่าคนที่สมควรเข้าไปทักทายคือไอ้ฟีฟ่า เป็นเพื่อนสนิทกับประธานนักเรียนครับ แม้มันจะคนล่ะแนวกับประธานเลย ผมจำได้ว่ามันนี้แหละ ไปแอคติ้งหน้าตายใส่ครูฝ่ายปกครองตอนนี้พวกผมแอบเอาลูกหมามาโรงเรียน (ไอ้กัมกับไอ้เกมส์อ่ะดิครับ บอกว่าที่บ้านไม่มีคนอยู่ถ้าไม่เอามาโรงเรียน ลูกหมาอาจจะต้องตายอยู่บ้านก็ได้ เลยเอามาเลี้ยงที่ชมรม... ปรากฏว่าโดนจับได้ เกือบโดนเรียกผู้ปกครองกันยกชมรม ได้ไอ้ฟ่านี้แหละเข้ามาช่วยไว้ก่อน มารู้ทีหลังว่ามันชอบพวกลูกหมา ลูกแมวอะไรพวกนี้มากครับ เลยช่วยพวกผมเต็มที่เลย) มันดูเหมาะกับเป็นคนที่จะช่วยชีวิตพวกผมที่สุดเลยไม่ใช่เหรอครับ
“นิดหน่อยวะ แต่เดี๋ยวส่งรายชื่อให้โรงเรียนนู่นเสร็จ ก็ว่างแล้ว”
“รายชื่ออะไร!” ผมออกตัวแรงไปใช่ไหม...
“อะไรของเมิงงงง รายชื่อคนออกบูธไง”
“มึงยังไม่ได้ส่งเหรอวะ” ถ้าเรายังสู้เดี๋ยวความหวังก็จะมาหาเราเองแหละครับ
“ส่งไปแล้ว ถูกส่งกลับมาแก้นิดหน่อย” ความหวังมาเร็วไปเร็วจัง...
“ส่งชื่อเพิ่มทันป่ะ” ไอ้ฟ่าเงยหน้าจากแฟ้มอะไรสักอย่างมาขมวดคิ้วใส่ผมแทน “ว่าแต่มึงมานี้มีไร” พูดแค่นี้ดูออกเลยเหรอ เก่งจังงง
“กูส่งรายชื่อไม่ทันว่ะฟ่า”
“แล้วมึงมาบอกกูทำไมมมม สายไปล่ะเหอะ”
“ก็กูไม่รู้อ่ะ คนไม่รู้ย่อมไม่ผิดดิ”
“มึงจะไม่รู้ได้ไง พวกกูทั้งติดประกาศ ทั้งประกาศออกไมค์ตั้ง2ครั้ง มึงไม่รู้แสดงว่ามึงไม่ได้อยู่ในโรงเรียนแล้วววว”
“เออออไง วันศุกร์กูไปจัดสถานที่มา พวกมึงก็รู้ไม่ใช่รึไงว่าวันเสาร์ชมรมกูออกนอกสถานที่” เพราะก่อนที่พวกผมจะไปกันได้ต้องส่งเรื่องมาให้สภาก่อนอยู่แล้ว พอผมเถียงไปแบบนั้นที่นี้ไอ้ฟ่ามันเงียบครับ สงสัยคงคิดอยู่ว่ามันรู้ไหม (มันต้องรู้สิเฮ้ย ตอนผมมาส่ง ผมก็ส่งให้มันนะ)
“อ้อ...”
“เห็นม่ะๆ ที่นี้พอชมรมกูต้องมาเป็นเบ๊มันไม่ยุติธรรมมมมมม” โวยวายเข้าไปครับ เราต้องเรียกร้องสิทธิ
“กูก็เห็นใจมึงนะ แต่มันไม่ทันแล้วจริงๆว่ะ”
“ได้ไงอ่ะ ไม่เอาดิ” โวยวายไม่ได้ผล เราจะงอแงแทนแล้วครับ
“อ้าวเคียว มาทำไรแต่เช้า” ผมหันกลับไปเจอกับยิ้มที่โครตเป็นมิตรของไอ้บอส บอสเป็นประธานครับ มีบุคลิกที่โครตจะใจดี ตอนที่ผมรู้ว่าประธานปีนี้คือบอส ผมยังอดห่วงไม่ได้เลยว่ามันจะรับมือกับเด็กในโรงเรียนได้ยังไง ในเมื่อมันใจดีขนาดนี้ แต่บอสมันก็มีทางของมันครับ จนพวกน้องๆตั้งฉายาให้มันว่าหมี เพราะถึงจะมีรูปร่างที่น่ารักน่ากอด แต่หมีก็คือหมีครับ มันก็ยังมีความดุอยู่ดี แต่ในสายตาผม ถ้าบอสเป็นหมี ก็คงเป็นได้แค่หมีคุมะมากกว่า
“ไอ้เคียวมันมาโวยวายเรื่องที่มันมาลงชื่อจัดบูธไม่ทัน เพราะมันไปจัดสถานที่กิจกรรมวันเสาร์ของชมรมมันมา” สมกับเป็นเลขา พอประธานมาปุ๊บ ฟ้องเลยนะ
“อ้อ ไปจัดสถานที่นี้เอง ผมก็งงว่าทำไมชมรมจิตอาสาไม่มาลงชื่อ” ปกติชมรมผมมาลงชื่อเป็นชมรมแรกเลยครับ เพราะบ้านไอ้ยะอยู่แค่ตรงนี้เอง แล้วพอเป็นเรื่องบูธ ไอ้ยะที่ไม่ยอมเป็นเบ๊ชาวบ้านเลยยอมตื่นแต่เช้าวันหนึ่งเป็นกรณีพิเศษ (ไปหลับในห้องเรียนแทน)
“ใช่ม่ะ แล้วที่นี้ชมรมกกูต้องเป็นเบ๊เนี่ย ทำไงงง”
“ผมก็อยากช่วยนะ แต่ไม่รู้จะช่วยยังไงดี ส่งรายชื่อไปแล้วใช่ป่ะ” ประโยคหลังมันหันไปถามฟ่า ทั้งๆที่ผมรู้อยู่แล้วว่าใช่ ผมก็ยังแอบหวังให้ฟ่าตอบว่ายังอยู่ดีอ่ะ
“ส่งไปแล้ว จนถูกกลับมาแก้ จนแก้จะเสร็จแล้วเนี่ย”
“บอสสสสสสสสส” เราต้องงอแงต่อไปอย่าไม่ยอม
“เดี๋ยวผมจะหาชมรมที่งานน้อยๆให้ชมรมเคียวนะ” บอสพูดขนาดนี้ผมถึงกับหมดแรงใช้ชีวิตลงไปฟุบกับโต๊ะทันที ปกติถ้าช่วยได้ พวกมันก็จะช่วยเต็มที่นั้นแหละ แต่ถ้ามันพูดมาขนาดนี้แสดงว่าช่วยไม่ได้จริงๆสินะ ต้องทำใจสินะ เฮ้อออออ
“เออๆ เดี๋ยวเสร็จแล้วกูเอามาให้”
“เค” ผมกำลังแบกกล่องใส่สีจากชมรมห้องสมุดไปทำที่ชมรมตัวเอง ตอนพักเที่ยงสภานักเรียนนำรายชื่อชมรมที่ไม่ได้จัดบูธมาติดบอร์ด ชมรมผมก็ฮอตทันทีครับ หลังจากที่มีคนจากชมรมนู่นชมรมนี้แวะมาขอให้ชมรมผมไปเป็นเบ๊ สุดท้ายผมก็ตกลงปลงใจกับชมรมห้องสมุด เพราะดูหน้าตาสมาชิกชมรมนี้ดูไม่ค่อยมีพิษมีภัย แต่ดูเหมือนว่าจะคิดผิด เพราะพอผมตอบตกลงจะช่วยงานชมรมมัน มันก็สั่งให้พวกผมไปทำป้ายบูธทันทีครับ เย็นนี้ผมกับรูทเลยลากสังขารมาเอาอุปกรณ์ไปทำป้ายให้พวกมัน
ผมบอกแล้ว เป็นเบ๊มันไม่รุ่งจริงๆ
แต่แค่แบกไอ้กล่องนี้ก็หนักมากพอแล้วไง ใครโทรมาอีกกก
“เฮ้ยรูท แปปๆกูรับโทรศัพท์ก่อน”
“กูไปก่อนนะ” ผมพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ ก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูว่าใครโทรมา ไอ้ซีนั้นเองครับ โทรมามีเรื่องอะไรป่ะเนี่ย
‘ไงมึง’
‘มึงอยู่ไหนวะ’
‘อยู่โรงเรียนดิ มีไรป่าว’
‘อยู่โรงเรียนช่ะ เออเดี๋ยวกูแวะไปหา’ ผมฟังไม่ผิดใช่ไหม มันบอกว่ามันจะแวะมาหาผมเรอะ
‘แวะมาทำไมมมม’
‘กูมาทำธุระที่โรงเรียนไอ้ก้อง แต่ตอนนี้เสร็จแล้ว ไม่มีที่ไป ไปหามึงล่ะกัน’
‘มึงอยู่โรงเรียนไอ้ก้องมึงก็ไปหาไอ้ก้องดิ หรือไม่ก็ไอ้เซน’
‘พวกมันงานยุ่งอยู่ มึงก็รู้ว่าโรงเรียนมันเป็นเจ้าภาพ’
‘กูก็ยุ่งนะ’
‘ไม่เป็นไรเดี๋ยวกูไปช่วย’
‘ห๊ะ ซีๆ จะวางทำไมไม่บอกก่อนวะ’ ความจริงคือถึงแม้โรงเรียน3โรงเรียนจะจะอยู่ติดๆกันแต่โรงเรียนผมกับซีก็ห่างกันพอสมควร ดังนั้นถ้ามันตรงจากโรงเรียนมันมาหาผมอ่ะแปลกแต่ถ้ามันอยู่โรงเรียนก้องก็ไม่ค่อยห่างกับโรงเรียนผมเท่าไรล่ะ มันจะมาก็เรื่องของมันล่ะกัน มีคนช่วยงานด้วย
“หวัดดีครับพี่ซี” ไอ้ซีที่พึ่งเปิดประตูเข้ามารีบรับไหว้น้องๆในชมรมผม ที่ตอนนี้อยู่กันจนแทบล้นชมรม เพราะต้องทำไอ้ป้ายนี้แหละครับ
“ไงมึง มาแล้วก็มาช่วยงานเลย” ไอ้ซีมันแค่ขำกับประโยคนั้นของไอ้รูท ก่อนที่มันจะโยนกระเป๋ากองๆไว้กับพวกผมแล้วเดินเข้ามาหา
“มีไรให้กูทำบ้างอ่ะ”
“เยอะแยะมึงอยากทำไรอ่ะ” ประโยคนี้มาจากยะครับ ตั้งแต่ที่ซีไปถ่ายรายการที่บ้านเลี้ยงเด็กกำพร้าวันนั้นก็ดูมันจะสนิทกับเพื่อนผมได้อย่างรวดเร็ว
“ไงมึง” แล้วซีก็ยังเป็นซี มันยังคงทักผม ทั้งๆที่มันก็คงรู้ว่าผมเห็นตอนมันเปิดประตูเข้ามาแล้ว เราก็เป็นแบบนี้แหละครับ
“มึงจะมาช่วยงานใช่ป่ะ เอาอาวุธไป” ผมส่งพู่กันให้มัน ซึ่งมันก็รับไปแบบไม่มีปัญหาอะไรแถมยังกวาดสายตามองว่าจะลงสีตรงไหนได้บ้าง
“ของบูธมึงเหรอ”
“เปล่าอ่ะ ชมรมกูเป็นเบ๊”
“พี่ซีดูดิ เพราะพี่เคียวส่งรายชื่อไม่ทัน พวกผมเลยต้องมาเป็นเบ๊เลยเนี่ย” ขี้ฟ้องจริงนะมึง ผมชี้พู่กันใส่ไอ้กัมเป็นสัญญาณเตือนให้มันระวังตัวไว้
“มึงลืมจริงดิ” แล้วมึงนี้ก็เชื่อคนง่ายจัง ถึงแม้จะจริงก็เหอะ
“อาทิตย์ที่แล้วมันวุ่นๆอ่ะ กูจะลืมก็ไม่แปลกป่ะวะ ไม่เห็นมีใครจะเตือนกูเลยสักคน” จบประโยคนั้นของผมก็เรียกเสียงโห่จากทุกคนในชมรมได้ทันที ก็จริงป่ะอ่ะ ไม่เห็นมีใครเตือนผมเลย พอส่งไม่ทันแล้วมาโวยวาย มันน่านัก...
“พี่ก็ขี้ฟ้อง” จะเอาใช่ม่ะไอ้กัม ว่าแล้วผมก็ส่งซิกให้น้องดิวที่นั่งอยู่หลบวงโคจร ซึ่งน้องเขาก็รู้งานครับ รีบหลบให้ผมทันที ทีนี้ก็ได้จังหวะเล็งและปาพู่กันใส่หัวมันได้พอดี (มันนั่งหันหลังให้ผมพอดี)
“โห่พี่!”
“ทำไมๆ”
“เห็นว่าเป็นพี่หรอกนะ ผมถึงยอม” ผมทำหน้าเหนือใส่มันก่อนที่จะหันมาทำป้ายต่อ
“แล้วชมรมมึงทำบูธป่าว” ไอ้เฟรมที่มันอยู่ตรงข้ามผมเงยหนาขึ้นมาถามไอ้ซี เออ ผมก็อยากรู้เหมือนกัน แล้วถ้ามันจัดบูธทำไมถึงมาช่วยงานพวกผมได้
“จัดนะ แต่ว่าของชมรมกูเขารวมทั้ง3โรงเรียนเป็นบูธเดียวกันว่ะ”
“อ้อ ให้เห็นๆกันไปเลยอ่ะดิ ว่าภาพของโรงเรียนไหนเจ๋งกว่า” โหดแหะ เปรียบเทียบกันแบบชัดๆเลยสินะ
“ประมาณนั้น แต่กูไม่ค่อยซีเรียสเท่าไร”
“แน่ดิพี่ ผลงานของชมรมพี่เจ๋งมาตลอดนิ ไหนจะส่งภาพประกวดอะไรอีก” ไอ้เกมส์ก็ยังคงยกให้ไอ้ซีเป็นไอดอลเหมือนเดิม ตอนแรกผมก็นึกว่าพวกมันพูดอวยเกินเหตุ แต่ตอนนี้เริ่มรู้สึกว่ามันเจ๋งจริงๆล่ะ
“ไม่ขนาดนั้นหรอก คือกูไม่ได้คิดว่ามันเป็นการเปรียบเทียบแบบโหดร้ายอะไรขนาดนั้น คิดว่ามันเป็นนิทรรศการภาพถ่ายอะไรงี้มากกว่า”
“ถ้ากูมองโลกในแง่ดีได้ครึ่งของมึงก็ดีดิ” ซีมันแค่หันมายิ้มให้ผม ผมไม่รู้หรอกว่ายิ้มของมันสื่ออะไร ให้กำลังใจ ตลก หรืออะไร แต่เอาเป็นว่ามันดูเป็นยิ้มที่มาจากใจ ผมจะคิดในแง่ดีล่ะกัน
D-2
อีก 2 วันงานวิชาการ เมื่อวานเราอยู่ทำป้ายกันจนเกือบ6โมง เพราะผมเห็นว่ามันเริ่มเย็นแล้วเลยไล่ให้ทุกกคนกลับบ้าน แม้ป้ายมันจะเหลือแค่นิดเดียวจะเสร็จแล้วก็เถอะ แต่กลับบ้านดึกนักมันก็ไม่ดีใช่ไหมล่ะ เช้านี้ผมเลยคิดว่าจะเข้าไปทำป้ายในชมรมให้เสร็จก่อนแล้วค่อยเข้าห้องเรียน ช่วงนี้เป็นช่วงกิจกรรมครับ พวกครูทั้งหลายเลยไม่ค่อยสั่งงาน ถือว่าเป็นโชคดีของพวกผมจริงๆ ผมแฮปปี้มาตลอดทาง จนเห็นประกาศใหม่
ประกาศรายชื่อของชมรมที่ต้องช่วยจัดบูธ ถ้าคนเยอะๆผมคงไม่คิดจะเข้าไปดู แต่เพราะตอนผมผ่านไปเห็นมันยังเช้าอยู่ ผมเลยเข้าไปดูแบบไม่คิดอะไร
ก่อนที่จะพบว่ารายชื่อชมรมที่ช่วยชมรมห้องสมุดไม่ใช่ชื่อชมรมผม
นี้ผมโดนพวกมันหลอกใช้งานฟรีเหรอเนี่ยยยยยย
พวกผมเคยใช้มุขนี้เมื่อปีที่แล้ว หลอกใช้ชมรมอื่นแล้วลงชื่ออีกชมรมหนึ่ง (จะกลายเป็นว่าเรามีชมรมช่วย2ชมรมทั้งๆที่ปกติมันต้องมีชมรมเดียว) แต่ผมไม่คิดเลยว่าเหตุการณ์แบบนี้มันจะย้อนกลับมาโดนกับชมรมผมเอง แหมไอ้พวกชมรมห้องสมุด เห็นเด็กเรียนแบบนั้น ร้ายใช่ย่อยเลยนะ
ถึงแม้จะเซ็งขนาดไหน ผมก็ตรงไปทำป้ายให้พวกมันต่ออยู่ดี มันจะเสร็จอยู่แล้วนี้ครับ ทำให้มันเสร็จๆไปล่ะกัน
ส่วนรายชื่อชมรมผม ดันไปอยู่ช่วยพวกสภาซะงั้น
ถึงแม้พวกสภาจะงานหนัก แต่ผมรู้ดีว่าพวกมันขยันและมีความรับผิดชอบขนาดไหน ดังนั้นพวกชมรมช่วยแทบจะไม่ได้ช่วยเลยครับ
บอสมันรักษาคำพูดที่ให้ไว้กับผมจริงๆด้วย
“เคียว ทำไมมาเช้าจัง” ตายยากจริงๆแหะ นึกถึงก็โผล่มาเลย
“เรามาทำป้ายบูธของชมรมห้องสมุดให้เสร็จอ่ะ จะได้เอาไปให้มัน”
“แต่ชมรมเคียวไม่ได้ช่วยงานชมรมห้องสมุดนะ”
“ก็ใช่อ่ะดิ พวกสภาแหละออกประกาศช้าเกิน เราโดนชมรมนู่นหลอกใช้งานเรียบร้อย”
“อ้าว ฮ่าๆ ผมขอโทษนะ”
“ชั่งมันเถอะ” ผมยิ้มให้มันก่อนที่จะไขประตูห้องชมรมเพื่อเข้าไปทำป้ายต่อ
“ให้ผมช่วยไหม”
“เฮ้ย ไม่เป็นไร ว่าแต่บอสเหอะเอาชมรมเราเป็นผู้ช่วยอ่ะ ชมรมเราขี้เกียจนะ” ผมรู้ว่าที่บอสมันบอกว่าจะช่วยผมก็เพราะมันเป็นคนมีน้ำใจนั้นแหละ ทั้งๆที่งานมันเยอะขนาดนั้น
“ผมรู้อยุ่แล้ว” อ้าว กวนเหมือนกันนะเนี่ย
“ฮ่าๆ งั้นเราไปก่อนนะ”
“อื้ม เจอกัน” ผมกำลังจะปิดประตูก่อนที่จะนึกขึ้นมาไดว่าลืมบอกอะไรบอสมันไปอย่างหนึ่ง “บอส!”
“ว่าไง” ผมกลัวมันจะเดินไปไกลแล้วเลยแหกปากเต็มที่ ปรากฏว่ามันยังยืนอยู่ที่เดิมเลยครับ เขินเลย ผมตะโกนทำไมมม
“เราจะบอกว่าถ้ามีงานอะไรอย่าลืมบอกเรานะ”
“อ้อ อื้ม” ผมยิ้มกว้างให้มันอีกครั้งก่อนที่จะปิดประตูห้องชมรมจริงๆสักที ผมไม่ได้สนิทกับบอสมาก แต่ก็เจอกันบ่อยๆ ตอนพวกผมเตะบอลมันก็มาเล่นด้วยเป็นประจำ หรือตอนที่พวกผมมีปัญหามันก็พร้อมที่จะช่วยโดยที่ผมไม่ต้องร้องขอ อาจจะแบบนี้ด้วยมั้งเลยทำให้ผมรู้สึกว่าบอสมันเป็นเพื่อนที่สำคัญคนหนึ่งของผมเหมือนกัน
พอจะว่างมันก็ว่างจริงๆแหะ
ตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้ผมเหมือนไม่ได้เรียนเลยครับ ครูส่วนมากให้คาบพวกผมไปเตรียมของทำบูธกัน (เหมือนว่าจะเอาของเข้าไปจัดที่โรงเรียนนู่นได้ตั้งแต่เย็นวันนี้) แต่พวกผมช่วยสภาอย่างที่บอก เลยกลายเป็นว่าว่าง จนไปสิงห้องชมรมกันตั้งแต่เช้า เพราะว่ากลัวว่าถ้าไปป้วนเปี้ยนห้องสภาจะเป็นการขัดขวางการทำงานของพวกมันมากกว่าช่วย
ถึงจะอย่างนั้นก็เหอะ แต่ผมก็ยังพอมีจิตใต้สำนึกอยู่บ้าง สุดท้ายหลังจากพักเที่ยงก็แวะไปดูว่าสภามีอะไรให้ช่วยรึเปล่า และก็เป็นดังคาด ห้องสภายุ่งวุ่นวายหนักกว่าวันปกติเป็น3เท่า ผมยืนยิ้มเก้ออยู่ตั้งนานกว่าจะมีคนหันมาเห็น พอผมถามว่ามีอะไรให้ช่วยไหม พวกมันกลับประสานเสียงว่าไม่มีส่งกลับมา ทั้งๆที่ดูวุ่นขนาดนั้นแท้ๆแต่ไม่มีอะไรให้ช่วยแหะ พวกมันพูดชัดเจนขนาดนั้นผมเลยกลับมาสิงที่ห้องชมรมอีกครั้ง กลายเป็นว่างยาวอีกตามเคย
จนตอนนี้เกือบ4โมงแล้ว พวกผมก็ยังคงนั่งเล่นเกมส์กกันอยู่ในห้องชมรมเหมือนเดิม
จนมีคนโทรมานี้แหละ (ช่วงนี้คนโทรหาผมเยอะจัง)
เบอร์ไม่คุ้นแหะ
‘สวัสดีครับ’ พูดเพราะๆไว้ก่อนแล้วกันเผื่อไว้
‘เคียวป่ะ นี้บอสนะ’
‘อ้าวบอสเหรอ มีไรให้ช่วยป่าววว’
‘ตอนนี้มีแล้วอ่ะ...’
‘มีไรอ่ะ ว่ามาเลย เราพร้อมช่วยเต็มที่’
‘ขอบคุณนะ คือตอนนี้ผมมาคุยงานที่ บ.ค.แต่ว่าลืมเอาเอกสารมา เคียวเอามาให้หน่อยได้ป่ะ’ (บ.ค.เป็นชื่อย่อของโรงเรียนไอ้ก้อง ไอ้เซนครับ)
‘ได้ดิได้ เอกสารอะไรอ่ะ’
‘อยู่บนโต๊ะผมอ่ะ แฟ้มสีขาว มีอยู่แฟ้มเดียวอ่ะ’ ผมฟังประโยคนั้นพลางลุกขึ้นไปด้วย ต้องรีบไปดูครับ เพราะถ้าหาไม่เจอจะได้ถามมันได้ จะให้โทรไปใหม่ก็ไม่มีตัง
‘แปปนึงนะบอส เดี๋ยวเราขอไปดูก่อน’ วิ่งสิครับวิ่ง
‘อยู่บนโต๊ะผมอ่ะ มีอยู่แฟ้มเดียว’ มีอยู่แฟ้มเดียวจริงๆครับ ไอ้พวกนี้จัดโต๊ะกันยังไงนะ ของเยอะแยะแต่ไม่รกเลยสักนิด หาของก็ง่าย ว่างๆไปจัดให้ที่ชมรมผมบ้างน่าจะดีนะ
‘เจอล่ะๆ เดี๋ยวเราเอาไปให้นะ’
‘ผมรออยู่ที่ห้องสภาของบ.ค.นะ’
‘ได้ๆ เดี๋ยวเจอกัน’ วางสายจากบอสเสร็จ ผมก็เดินกลับไปที่ชมรมเพื่อไปลากพวกมันไปกับผม ผมไม่ยอมไปคนเดียวหรอกนะ
ในที่สุดผมก็ได้ช่วยงานมันจริงๆสักทีสินะ (นี้อาจจะเป็นงานเดียวด้วย) ต้องรีบหน่อยล่ะ บอสจะได้รู้ว่าคิดไม่ผิดที่ใช้ผม
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สวัสดีค่าาาา แวะมาแปะรูปให้แแล้วนะะะะ เอาเป็นว่าปิดตอนนี้ เย้ๆ ลองเปิดอ่านกันสักนิดนะ
คอมเม้นต์แห้งเหือดไปตามกาลเวลา เสียใจจังงงง TT เม้นต์ให้เราหน่อยเนอะะะะ ขอบคุณมากค่าาา
ความคิดเห็น