Shonen Onmyoji จอมเวทปราบมาร Special Part (GUREN x MASAHIRO)
เมื่อทายาทคนสุดท้องของตระกูลอนเมียวจิที่มีชื่อที่สุดแห่งยุคอย่าง 'อาเบะ มาซาฮิโระ' เริ่มรู้สึกว่าหัวใจตีลังกากลับหลังเมื่ออยู่ใกล้หนึ่งในสิบสองขุนพลเทพ 'โทดะ (กุเรน)' แล้วจะทำเช่นไรต่อไปดีล่ะเนี่ย!?
ผู้เข้าชมรวม
305
ผู้เข้าชมเดือนนี้
32
ผู้เข้าชมรวม
ShonenOnmyoji FanFic FanFiction GurenMasa Guren Masahiro Yaoi Shonen-ai โชเน็นอนเมียวจ จอมเวทปราบมาร แฟนฟิค แฟนฟิคชั่น กุเรนมาซา กุเรน มาซาฮิโระ
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
นี่เป็นเรื่องราวที่เสริมเติมแต่งมาจากนิยายไลท์โนเวลชื่อดังของญี่ปุ่น ซึ่งเคยถูกนำไปสร้างเป็นมังงะ อนิเมะ รวมถึงละครเวทีมาแล้ว โดยต้นฉบับเป็นผลงานของ ‘ยูคิ มิตสึรุ’ ในชื่อผลงาน ‘Shonen Onmyoji’ เจ้าของลิขสิทธิ์ตีพิมพ์ในประเทศไทยคือ สำนักพิมพ์จีพลัส ในชื่อ ‘โชเน็น อนเมียวจิ จอมเวทปราบมาร’
สำหรับ ‘โชเน็น อนเมียวจิ จอมเวทปราบมาร ภาคพิเศษ (กุเรน X มาซาฮิโระ)’ นี้ จะแต่งต่อเนื่องจากฉบับไลท์โนเวลเล่มที่ 7 โดยคราวนี้จะนำมาใส่สีปรุงแต่งให้ออกแนวชายรักชายแบบใสๆ น่ารักๆ ตามใจไรเตอร์เรียกร้อง ทว่าผู้อ่านท่านใดที่ไม่สันทัด Shonen-ai ก็ไม่ต้องเป็นกังวล เนื่องจากแนวเรื่องจะเป็นไปในทางหวานปนเลี่ยนเสียมากกว่า และสำหรับคนที่ปันใจให้ด้านนี้แม้เพียงเล็กน้อย ก็ขอให้พยายามสนุกกับมันนะ (หัวเราะ)
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่คุณควรรู้
BEFORE YOU READ
Q: เคยได้ยินมานาน...ตกลง ‘อนเมียวจิ’ คืออะไรกันหนอ ?
A: อนเมียวจิ คือนักพรตผู้ประกอบพิธีกรรมต่างๆ ตามวิถีแห่งศาสตร์อนเมียว ที่มีอยู่จริงในสมัยโบราณ ซึ่งก็คือรูปแบบศาสตร์เวทมนตร์แขนงหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น อนเมียวจิจะแต่งชุดพิธีการที่เรียกว่า ‘คาริกินุ’ และใส่หมวกทรงสูงที่เรียกว่า ‘เอะโบชิ’ โดยมีหน้าที่หลักๆ คือเป็นที่ปรึกษาเฉพาะด้านเกี่ยวกับความเชื่อโชคลางให้ราชสำนัก ไม่ว่าจะเป็นการทำนายถึงภัยพิบัติ หายามร้ายยามดี จากการอ่านวิถีดารา การเขียนปฏิทินโหราศาสตร์ การปัดเป่าโรคร้ายจากผู้ป่วย ไปจนถึงการปราบวิญญาณร้าย และทุกวันขึ้นปีใหม่ในยุคนั้นจะมีการจัดพิธีชำระล้างครั้งใหญ่ อนเมียวจิทุกคนต้องออกตระเวนปัดเป่าลางร้ายทั่วทุกมุมของเมืองหลวง เพื่อให้ปีต่อไปมีแต่สิ่งดีสิ่งมงคล
Q: ‘อาเบะ เซย์เมย์’ สำคัญไฉน ทำไมโผล่หลายเรื่องจัง ?
A: อาเบะ เซย์เมย์ มีตัวตนอยู่จริงในประวัติศาสตร์ เขาเป็นอนเมียวจิที่มีชื่อเสียงที่สุดในยุคเฮอัน เล่ากันว่าเขาเป็นบุตรของสุนัขจิ้งจอก เพราะพลังอนเมียวของเขามีมากมายมหาศาลเสียจนเป็นที่โจษจัน (ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าสุนัขจิ้งจอกเป็นสัตว์ที่มีเวทมนตร์)
Q: ทำไมพออ่านชื่อ 12 ขุนพลเทพบางคนแล้วเกิดรู้สึก ‘เอ๊ะ! คุ้นๆ เหมือนเคยได้ยินที่ไหน’ ?
A: ไม่แปลกที่คุณจะคุ้น โดยเฉพาะสาวก Beyblade (งงล่ะสิว่าเกี่ยวกันยังไง) เพราะมี 4 ตนในขุนพลเทพที่มีชื่อตรงกับเทพอสูรศักดิ์สิทธิ์ผู้คุ้มครองทิศทั้ง 4 และธาตุทั้ง 4 ตามความเชื่อ อันได้แก่ มังกรฟ้า (เซย์ริว) แห่งทิศตะวันออก ตัวแทนธาตุไม้ หงส์แดง (สุซากุ) แห่งทิศใต้ ตัวแทนธาตุไฟ พยัคฆ์ขาว (เบียกโกะ) แห่งทิศตะวันตก ตัวแทนธาตุลม และสุดท้าย เต่าดำ (เกมบุ) แห่งทิศเหนือ ตัวแทนธาตุน้ำ พอจะคุ้นๆ อยู่ใช่ไหมคะสำหรับคนที่ดู Beyblade ภาคแรกๆ เพราะนี่เป็นชื่อรูปลักษณ์สัตว์วิเศษประจำ Beyblade ของตัวเอกทั้ง 4 คน (ทาคาโอะ ไค เรย์ และแม็กซ์) นั่นเอง และสังเกตได้ว่าธาตุของขุนพลทั้ง 4 ตนตรงตามข้อมูลเป๊ะ!
Q: ทำไมต้อง ‘มกคุง’ ?
A: ความจริงแล้วชื่อ ‘มกคุง’ ที่มาซาฮิโระใช้เรียกขุนพลเทพโทดะในร่างสัตว์อสูร ไม่ใช่ชื่อลอยๆ ที่เจ้าตัวตั้งขึ้นมาเองมั่วๆ นะคะ แต่มันเพี้ยนมาจากคำว่า ‘Mononoke’ ต่างหาก ซึ่ง ‘โมโนโนเคะ’ เป็นศัพท์ที่ใช้เรียกพวกภูติพราย อสูร ปีศาจทั้งหลาย หมายถึงสิ่งที่สามารถเปลี่ยนรูปร่างได้ สิ่งลึกลับ สัตว์ที่แปลงร่างได้อย่างพวกสุนัขจิ้งจอกหรือทานุกิ
****************************************
HALL OF FAME
โชเน็น อนเมียวจิ จอมเวทปราบมาร ตอนพิเศษ ~ค่ำคืนแห่งฤดูร้อน~
ผลงานอื่นๆ ของ doubleDEUCE ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ doubleDEUCE
"ชอบมากมาย"
(แจ้งลบ)เรื่องนี้เป็นหนึ่งในเรื่องที่เราติดตามมากที่สุดเลยชอบตั้งเเต่มันเป็นอะนิเมะเเล้วละพอมาเจอเเนว yaoi เเบบนี้เเล้วยิ่งโดนใจเพราะเป็นคนชอบ เเนวนี้อยู่เเล้ว เเถมยั้งเขียนบรรยายลัษณะ ท่าทาง นิสัยใจคอ ของตัวละครได้งดงามมากอีกด้วย ไงก็พยายามต่อไปนะค่ะ เราขอเป็นหนึ่งในนักอ่านที่ติดตามผลงานของไรเตอร์เเล้วกันนะ อ่านเพิ่มเติม
เรื่องนี้เป็นหนึ่งในเรื่องที่เราติดตามมากที่สุดเลยชอบตั้งเเต่มันเป็นอะนิเมะเเล้วละพอมาเจอเเนว yaoi เเบบนี้เเล้วยิ่งโดนใจเพราะเป็นคนชอบ เเนวนี้อยู่เเล้ว เเถมยั้งเขียนบรรยายลัษณะ ท่าทาง นิสัยใจคอ ของตัวละครได้งดงามมากอีกด้วย ไงก็พยายามต่อไปนะค่ะ เราขอเป็นหนึ่งในนักอ่านที่ติดตามผลงานของไรเตอร์เเล้วกันนะ
สาวYไม่มีใครเกิน | 20 พ.ค. 55
11
0
""Critics Empire [Empress Marisa ]""
(แจ้งลบ)8.5 เต็ม 10 [ปัญหา (ส่งตรงจากเจ้าของผลงาน)] : คิดว่าใช้คำหรูหราฟุ่มเฟือย ยืดเยื้อน่าเบื่อ และเหมือนจะน้ำเน่าเกินความจำเป็น อ่า... เรื่องใช่คำเอ็มมาร์คิดว่าสำหรับเรื่องนี้แล้ว มันยังหรูไม่พอ! การใช้คำบางครั้งก็ไม่ต้องกลัวว่ามันจะยืดเยื้อหรือไม่ขอแค่มาครบถ้วนกระบวนความที่เราต้องการจะสื่อมันออกมาก็เป็นอันใช้ได้ เอาแบบที่ว่าถ้าตัดประโยคใดประโยคหนึ่ง ... อ่านเพิ่มเติม
8.5 เต็ม 10 [ปัญหา (ส่งตรงจากเจ้าของผลงาน)] : คิดว่าใช้คำหรูหราฟุ่มเฟือย ยืดเยื้อน่าเบื่อ และเหมือนจะน้ำเน่าเกินความจำเป็น อ่า... เรื่องใช่คำเอ็มมาร์คิดว่าสำหรับเรื่องนี้แล้ว มันยังหรูไม่พอ! การใช้คำบางครั้งก็ไม่ต้องกลัวว่ามันจะยืดเยื้อหรือไม่ขอแค่มาครบถ้วนกระบวนความที่เราต้องการจะสื่อมันออกมาก็เป็นอันใช้ได้ เอาแบบที่ว่าถ้าตัดประโยคใดประโยคหนึ่ง หรือคำใดคำหนึ่งออกไปแล้วจะอ่านแทบไม่ได้ใจความ นั่นหมายความว่าคุณไม่ได้ใช้คำฟุ่มเฟือย แต่เป็นการใช้เพื่อบรรยาย เพิ่มอรรถรสในการอ่านให้ผู้อ่านเกิดอารมณ์ร่วมมากยิ่งขึ้น ส่วนเรื่องการใช้คำหรูหรานั้น ไม่ต้องห่วงมันหรอกจ้า แนวเรื่องประมาณนี้เป็นแบบแฟนตาซีขนานแท้ จะใช้คำเวอร์แค่ไหนก็ไม่มีใครว่าเราได้ เพราะฉะนั้น ขอให้ใส่เต็มที่ไปเลย ในขณะที่คนเขียนกำลังกังวลกับเรื่องคำศัพท์ที่ฟุ่มเฟือยอยู่นั้น เอ็มมาร์เห็นว่ามันยังขาดไปอีกส่วนหนึ่ง นั่นคือการบรรยายเกี่ยวกับสถานที่ที่แวดล้อมตัวละครอยู่ขณะนั้น บางครั้งเอ็มมาร์เองก็ไม่แน่ใจว่าอยู่ที่ไหนกันแน่ เข้าป่าก็ขอให้พูดถึงต้นไม้หน่อย เข้าเมืองก็พูดถึงตึกอาคารบ้านช่องผู้คน เข้าที่ทำงานก็อย่าลืมหนังสือทั้งหลาย เพื่อร่วมงาน และอื่นๆ อาจจะบรรยายในย่อหน้าแรกว่าสภาพเป็นยังไงก่อน แล้วค่อยดำเนินเรื่องต่อไป ถ้าทำแบบนั้น ฉากที่ชัดเจนจะติดอยู่ในหัว แล้วจากนั้นจะทำอะไรก็ว่าไปเพราะเราได้เข้าไปอยู่ในสถานที่นั้นแล้ว ซึ่งวิธีนี้คนเขียนน่าจะถนัดกว่าอีกวิธีคือการแทรกข้อความบรรยายลงไปตามกริยาอาการที่มาหลังคำพูดหรือการกระทำ เช่น “เขายกตำราขึ้นเก็บบนชั้นวางที่มีตำราแบบเดียวกันหลายเล่มวางอยู่ก่อนแล้ว สองมือน้อยเร่งทำงาน ในขณะที่ปากก็ยังคงทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม ‘ก็ใครใช้ให้เจ้ามาเฝ้าข้าเล่า!’ ‘ก็ปู่ของเจ้านะสิ!’ กุเรนตอบพลางแยกเขี้ยว ใจนึกอยากจะใช้หางปัดแท่นฝนหมึกที่วางรวมกับม้วนกระดาษสีขาวบนโต๊ะให้มันกระจุยเสียให้หมด” อาฮะ! มาทำนองนั้นล่ะ เห็นแล้วขี้เกียจแทนเลย! เขียนตามแบบที่ตัวเองถนัดดีกว่าจ้า ไม่ต้องตามแบบใครเค้าหรอก และอีกเรื่องที่คนเขียนกังวลคือเรื่อง “ความน้ำเน่า” เอ่อ... สำหรับเรื่องนี่เอ็มมาร์ว่ายังไงก็ไม่เน่า! คนอ่านเค้าอ่านแล้วมีอารมณ์ร่วม อ่านแล้วแบบว่า... ฟิน... ประมาณนั้นแหละจ้า ไม่ใช่อะไรเน่าๆกลิ่นตุๆแน่นอน ถึงแม้ออร่ามันจะออกม่วงๆหน่อยก็เถอะ XD ปล.ขออภัยในความล่าช้า เอ็มมาร์ผิดไปแล้ว ToT ความสมบูรณ์ในส่วนของอารมณ์ ทำให้เราลืมความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆของคุณได้ เป็นเกียรติอย่างหาที่สุดมิได้ มาริสา [Marisa] Empress of Critics Empire อ่านน้อยลง
Marisa | 31 ธ.ค. 55
3
0
ดูทั้งหมด
""Critics Empire [Empress Marisa ]""
(แจ้งลบ)8.5 เต็ม 10 [ปัญหา (ส่งตรงจากเจ้าของผลงาน)] : คิดว่าใช้คำหรูหราฟุ่มเฟือย ยืดเยื้อน่าเบื่อ และเหมือนจะน้ำเน่าเกินความจำเป็น อ่า... เรื่องใช่คำเอ็มมาร์คิดว่าสำหรับเรื่องนี้แล้ว มันยังหรูไม่พอ! การใช้คำบางครั้งก็ไม่ต้องกลัวว่ามันจะยืดเยื้อหรือไม่ขอแค่มาครบถ้วนกระบวนความที่เราต้องการจะสื่อมันออกมาก็เป็นอันใช้ได้ เอาแบบที่ว่าถ้าตัดประโยคใดประโยคหนึ่ง ... อ่านเพิ่มเติม
8.5 เต็ม 10 [ปัญหา (ส่งตรงจากเจ้าของผลงาน)] : คิดว่าใช้คำหรูหราฟุ่มเฟือย ยืดเยื้อน่าเบื่อ และเหมือนจะน้ำเน่าเกินความจำเป็น อ่า... เรื่องใช่คำเอ็มมาร์คิดว่าสำหรับเรื่องนี้แล้ว มันยังหรูไม่พอ! การใช้คำบางครั้งก็ไม่ต้องกลัวว่ามันจะยืดเยื้อหรือไม่ขอแค่มาครบถ้วนกระบวนความที่เราต้องการจะสื่อมันออกมาก็เป็นอันใช้ได้ เอาแบบที่ว่าถ้าตัดประโยคใดประโยคหนึ่ง หรือคำใดคำหนึ่งออกไปแล้วจะอ่านแทบไม่ได้ใจความ นั่นหมายความว่าคุณไม่ได้ใช้คำฟุ่มเฟือย แต่เป็นการใช้เพื่อบรรยาย เพิ่มอรรถรสในการอ่านให้ผู้อ่านเกิดอารมณ์ร่วมมากยิ่งขึ้น ส่วนเรื่องการใช้คำหรูหรานั้น ไม่ต้องห่วงมันหรอกจ้า แนวเรื่องประมาณนี้เป็นแบบแฟนตาซีขนานแท้ จะใช้คำเวอร์แค่ไหนก็ไม่มีใครว่าเราได้ เพราะฉะนั้น ขอให้ใส่เต็มที่ไปเลย ในขณะที่คนเขียนกำลังกังวลกับเรื่องคำศัพท์ที่ฟุ่มเฟือยอยู่นั้น เอ็มมาร์เห็นว่ามันยังขาดไปอีกส่วนหนึ่ง นั่นคือการบรรยายเกี่ยวกับสถานที่ที่แวดล้อมตัวละครอยู่ขณะนั้น บางครั้งเอ็มมาร์เองก็ไม่แน่ใจว่าอยู่ที่ไหนกันแน่ เข้าป่าก็ขอให้พูดถึงต้นไม้หน่อย เข้าเมืองก็พูดถึงตึกอาคารบ้านช่องผู้คน เข้าที่ทำงานก็อย่าลืมหนังสือทั้งหลาย เพื่อร่วมงาน และอื่นๆ อาจจะบรรยายในย่อหน้าแรกว่าสภาพเป็นยังไงก่อน แล้วค่อยดำเนินเรื่องต่อไป ถ้าทำแบบนั้น ฉากที่ชัดเจนจะติดอยู่ในหัว แล้วจากนั้นจะทำอะไรก็ว่าไปเพราะเราได้เข้าไปอยู่ในสถานที่นั้นแล้ว ซึ่งวิธีนี้คนเขียนน่าจะถนัดกว่าอีกวิธีคือการแทรกข้อความบรรยายลงไปตามกริยาอาการที่มาหลังคำพูดหรือการกระทำ เช่น “เขายกตำราขึ้นเก็บบนชั้นวางที่มีตำราแบบเดียวกันหลายเล่มวางอยู่ก่อนแล้ว สองมือน้อยเร่งทำงาน ในขณะที่ปากก็ยังคงทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม ‘ก็ใครใช้ให้เจ้ามาเฝ้าข้าเล่า!’ ‘ก็ปู่ของเจ้านะสิ!’ กุเรนตอบพลางแยกเขี้ยว ใจนึกอยากจะใช้หางปัดแท่นฝนหมึกที่วางรวมกับม้วนกระดาษสีขาวบนโต๊ะให้มันกระจุยเสียให้หมด” อาฮะ! มาทำนองนั้นล่ะ เห็นแล้วขี้เกียจแทนเลย! เขียนตามแบบที่ตัวเองถนัดดีกว่าจ้า ไม่ต้องตามแบบใครเค้าหรอก และอีกเรื่องที่คนเขียนกังวลคือเรื่อง “ความน้ำเน่า” เอ่อ... สำหรับเรื่องนี่เอ็มมาร์ว่ายังไงก็ไม่เน่า! คนอ่านเค้าอ่านแล้วมีอารมณ์ร่วม อ่านแล้วแบบว่า... ฟิน... ประมาณนั้นแหละจ้า ไม่ใช่อะไรเน่าๆกลิ่นตุๆแน่นอน ถึงแม้ออร่ามันจะออกม่วงๆหน่อยก็เถอะ XD ปล.ขออภัยในความล่าช้า เอ็มมาร์ผิดไปแล้ว ToT ความสมบูรณ์ในส่วนของอารมณ์ ทำให้เราลืมความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆของคุณได้ เป็นเกียรติอย่างหาที่สุดมิได้ มาริสา [Marisa] Empress of Critics Empire อ่านน้อยลง
Marisa | 31 ธ.ค. 55
3
0
"ชอบมากมาย"
(แจ้งลบ)เรื่องนี้เป็นหนึ่งในเรื่องที่เราติดตามมากที่สุดเลยชอบตั้งเเต่มันเป็นอะนิเมะเเล้วละพอมาเจอเเนว yaoi เเบบนี้เเล้วยิ่งโดนใจเพราะเป็นคนชอบ เเนวนี้อยู่เเล้ว เเถมยั้งเขียนบรรยายลัษณะ ท่าทาง นิสัยใจคอ ของตัวละครได้งดงามมากอีกด้วย ไงก็พยายามต่อไปนะค่ะ เราขอเป็นหนึ่งในนักอ่านที่ติดตามผลงานของไรเตอร์เเล้วกันนะ อ่านเพิ่มเติม
เรื่องนี้เป็นหนึ่งในเรื่องที่เราติดตามมากที่สุดเลยชอบตั้งเเต่มันเป็นอะนิเมะเเล้วละพอมาเจอเเนว yaoi เเบบนี้เเล้วยิ่งโดนใจเพราะเป็นคนชอบ เเนวนี้อยู่เเล้ว เเถมยั้งเขียนบรรยายลัษณะ ท่าทาง นิสัยใจคอ ของตัวละครได้งดงามมากอีกด้วย ไงก็พยายามต่อไปนะค่ะ เราขอเป็นหนึ่งในนักอ่านที่ติดตามผลงานของไรเตอร์เเล้วกันนะ
สาวYไม่มีใครเกิน | 20 พ.ค. 55
11
0
ดูทั้งหมด
ความคิดเห็น