ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สถานีต่อไป...คณะแพทยศาสตร์ (บทความแนะน้องสอบกสพท.จ้า)

    ลำดับตอนที่ #16 : [บทความพิเศษ] ไดอารี่เด็กเตรียมสอบหมอ by pingu

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.03K
      4
      26 มี.ค. 54

    วันนี็.. พี่ก็มีบทความที่รวบรวมประสบการณ์ของเพื่อนพี่มาฝากค่า >_<

    ก็เป็น reality สุด ๆ ว่า 1 ปีก่อนสอบพี่คนนี้ทำอะไรมาบ้าง (อ้อ พี่เค้าขี้อายนะ ขอไม่ประสงค์เอ่ยนาม 555)


    ลองไปติดตามชีวิต 1 ปีเด็กเตรียมสอบหมอ ละกันค่าา : ))


    หวังว่าน้อง ๆ จะได้แนวทางการเตรียมตัว และกำลังใจ นะค้า : ))

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -


    ฮัลหริวว .. สวัสดีค่ะ น้องๆ ทู๊กกกโคนนนนนน : )

    อยากบอกน้องๆทุกคนก่อนอ่านว่า “ สิ่งที่จะเขียนต่อไป ไม่ได้มีเจตนาจะให้น้องทำตาม หรือว่า เป็นการโฆษณาสถาบันเรียนพิเศษที่ที่ไหนนะคะ พี่แค่อยากจะมาเล่าประสบการณ์ของพี่ ความชอบที่เรียนพิเศษ การจัดตารางอ่านหนังสือ บลาๆ ฯลฯ ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้น เอาตัวเองเป็นที่ตั้งนะหนู อย่ายึดพี่เป็นหลักนะ .. อะฮิๆ

    พี่ขอแฝงตัวเงียบๆ ไม่เอ่ยชื่อเสียงเรียงนามนะ แบบว่ามัน เขิน =//= 555+ เอาเป็นว่า พี่ชื่อ “pingu” ละกัน เพราะพี่ชอบดูเรื่องนี้มาก ตอนเวลาจะสอบ มันน่ารักดี ฮ่าๆ (มีใครเคยดูมั้ย ? เพนกวินน้อยพิงกุ ดูจนตอนนี้พี่แทบจะพูดภาษากวิ้นได้ละ อะฮิ ๆ )

    อันตัวพี่นี้เป็นเด็กนักเรียนตัวน้อยๆ(จริงๆอ้วนมาก) จากโรงเรียนที่พอจะมีชื่อเสียงในจังหวัดที่ห่างไกลเมืองหลวงกว่า 1000 กิโลเมตร นั่งรถกันเป็นวัน ๆ (ไม่เกี่ยวเลย แต่อยากบอก เพราะมันเมื่อยมาก !!) รุ่นพี่ในโรงเรียนก็มีติดศิริราช ปีละไม่กี่คน บางปีก็ไม่มีเลย แลดูบั่นทอนกำลังใจใช่มั้ย ?? ไม่ต้องกลัวค่ะน้องๆ น้องต้องคิดไว้ว่า “อย่าได้แคร์” ถึงโรงเรียนเราปีนึงจะติดกี่คนไม่สำคัญ ขอให้เราเป็นหนึ่งในนั้นก็พอ !! เย๊ !! o.O

    พี่ก็เป็นคนนึงที่ก่อนจะสอบ กสพท แบบว่า หาข้อมูลจากศาสตราจารย์ กู(เกิ้ล) อย่างมากมายว่า กสพท สอบเมื่อไหร่ ? วิชาเฉพาะ เป็นไง ? วิชาสามัญ ออกเรื่องไรบ้าง ? บลาๆ สารพัดวิธีเตรียมตัวสอบ ซึ่งก็เคยไปอ่านเจอจากพวก blog ของพวกพี่ ๆ ที่เค้าไปแปะ ๆ ไว้ แล้วมันทำให้พี่รู้สึกว่า “ถึงฉันจะอยู่ ตจว แต่ฉันก็อัพเดทละว๊า” อะฮิ ๆ O.o แล้วที่สำคัญ มันเป็น “กำลังใจ” สุด ๆ ในวันที่น้อง เหนื่อย ท้อ หมดแรง หมดหวัง .. พี่ก็เลยอยากจะแชร์ประสบการณ์ของพี่บ้างอะไรบ้าง เผื่อมันจะเป็นประโยชน์กะน้อง ๆ บ้างอะเน๊อ (แต่อย่าหวังจากพี่มากนะ พี่อาจจะแลดูไร้สาระไปนิส อิอิ)

    อันพี่จะขอเล่าชีวิต ม.6 ของพี่ก่อนแล้วกันเนอะ

    ปิดเทอม มีนา เมษา : เรียนพิเศษหัวฟูค่ะ ปิดเทอมนี้ T^T ขอใช้คำหยาบคายนิดนึง .. เหนื่อยบรรลัย !!! ตัวพี่เรียน คอร์ส entrance ของ the brain 5 ชั่วโมงตอนเช้า แล้วก็เรียน applied คอร์ส entrance ต่อ ตอนบ่ายโมง เลิก บ่ายสามครึ่ง กลับบ้านมา นอนไปรอบนึงก่อนที่จะเริ่มต้นทำการบ้าน แล้วก็ทวน ๆ เนื้อหาที่เรียนไป แต่ที่โหดที่สุดคงเป็นช่วงรอยต่อระหว่างคอร์ส ที่ the brain ยังไม่จบ แต่ ICU ของเจ๊บีม เริ่มแล้ว คือพี่ต้องเรียนตั้งแต่ 7 ครึ่ง ถึง สามทุ่มกว่า อยู่ประมาณ 5 วัน จำได้ กลับบ้านมา สลบคาเตียง !!!

    เปิดเทอม : กิจกรรม ม.6 โรงเรียนพี่โหดมว๊ากกกกกก !!!! ไม่นับพวกรายงาน งานกลุ่ม การบ้านประจำวิชาแบบจิปาถะนะ กีฬาสี พี่ยังคงต้องเป็นเทคนิคเชียร์ ทำสแตนด์เชียร์ คุมเด็ก ๆ มีละครห้องอีก วุ่นวายสุด ๆ แต่ก็นะ มันเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขสุด ๆ แล้วที่ได้ทำงานกับเพื่อน ๆ กับน้อง ๆ อ่อ เปิดเทอมนี้ พี่เรียน อาจารย์ อุ๊ คอร์ส Entrance อึด ถึก มาก เรียนทั้งเปิดศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ทั้งเทอมเลย ตอนเรียนบ่นแทบตาย เมื่อไหร่จะปิดคอร์ส ? แต่ตอนนี้พี่คิดถึง อาจารย์อุ๊ มาก ๆ แล้วก็เรียน Intensive ของ ครูปิง Davance อันนี้ เรียนไปเล่นไป ชิล ๆ ตอนครูปิงเมาส์มอย พี่ก็ฟัง ตอนครูปิงสอน พี่ก็หลับบ้างอะไรบ้าง 555+ ขอเพื่อนจดเอา แต่จริงๆควรจะตั้งใจเรียนนะคะ อย่าเอาพี่เป็นเยี่ยงอย่างเน๊อ : P

    ปิดเทอม ตุลา : เพิ่งเริ่มทำโจทย์ 15 พศ อย่างจริงจัง ตารางอ่านหนังสือของพี่ (ไม่เคยทำได้อย่างตาราง) ก็ออกแนว วันนึงทำหลายๆวิชาหน่อย แล้วก็พอทำโจทย์ออกมา น้องจะรู้เองว่าเรื่องไหนไม่ได้ แล้วค่อยกลับไปอ่านๆเอานะ แล้วก็ทำข้อสอบพวกมิติสัมพันธ์ แนวข้อสอบ SAT อ่ะ หมุนรูป พวกตรรกะ ไรงี้ ฝึกเชื่อมโยงไป ๆ เพื่อเตรียมสอบวิชาเฉพาะ

    เปิดเทอม 2 : ก็หวั่นไหวไปกับการสอบรับตรง ณ มหาวิทยาลัยชื่อดังของรัฐแห่งหนึ่งในภาค คะแนนออกมา มีวิชาที่พี่ไม่ผ่าน 30% ซึ่งก็คือ คณิตศาสตร์ !! เพราะฉะนั้น พี่ไม่มีสิทธิ์เลือก หมอ ทันตะ แล้ว ~ ใจปิ๊วววววว .. ววว .. ร้องไปหลายวันอยู่ เพราะคิดในใจว่า แค่ในภาคเรา ยังไม่ผ่านเลย แล้วจะเอาอะไรที่ไหนไปสู้กับเด็กส่วนกลาง !!! หมดอาลัยตายอยากมาก ณ จุดๆนั้น แล้วก็มาสู้ใหม่กับ กสพท ฟิตแต่เลขจนทำให้พี่ละเลยวิชาวิทย์ไป (อ้าว!!) คะแนนวิทย์ กสพท ของพี่เลยห่วยแตกมาก 555+

    ผลลัพธ์ : ติด คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ด้วยคะแนนที่ผ่านมาอย่างเฉียดฉิว .. - - “ !!!!

     

    การเลือกอันดับ

    เอาแบบตามหลักจริง ๆ น้องต้องดูคะแนนสูงต่ำของปีที่ผ่านมา แล้วก็กะ ๆ เอานะ เพราะว่ามันไม่แน่ไม่นอน แต่ก็ไม่ได้ผิดเพี้ยนไปจากปีที่ผ่าน ๆ มามากนัก ต่างกันนิดหน่อย

    อันดับ  1 : ความใฝ่ฝันของน้องเรย เลือกไปเลยน้อง อย่าได้แคร์คำคน อย่าสนใจใคร อย่าเปลี่ยนแนว คนแน่แน่วเท่าน้านนผู้ชนะ !!! (เพลง พี่เสก loso พี่ชอบมาก ได้ฟีลลิ่งสุด ๆ  555+)

    อันดับ 2 : เอาที่น้องคิดว่า “เออแฮะ เรามีหวังเฟร้ยยยย”
    อันดับ
    3 : เลือก ๆ ไปเหอะ

    อันดับ 4 : อันนี้ต้องติดชัวร์ กันหลุด ๆ

     

    เตรียมสอบวิชาเฉพาะ

    อันตัวพี่นี้ ทำความถนัดแพทย์แค่เล่มเดียวอ่ะ หน้าปกแดง ๆ รูปหมอ จำ สนพ ไม่ได้ แต่ว่าพี่จะสอบตรง นิติ มธ ด้วย พี่เลยมีหนังสือข้อสอบ SAT อยู่อีกเล่มนึง ก็ทำๆไป แต่ไม่หมด เยอะเกิ๊น ขี้เกียจ 555+ จริง ๆ แล้ว สอบวิชาเฉพาะ เอาเชื่อมโยงให้เต็ม แล้วก็ตรงพาร์ทจริยธรรม ตอบอย่าให้เวอร์ไป อย่าให้เลวไป เป็นคนธรรมดาๆ มันก็โอเคแล้วแหละ ที่ตัดกันมันก็ตรงพาร์ทแรก เกี่ยวกับเชาว์ปัญญา (ซึ่งพี่ไม่ค่อยมี = = “) วิชาเฉพาะ ถามว่าสำคัญมั้ย ? สำคัญนะคะ พี่ติดศิริราชมาด้วยวิชาเฉพาะนี่แหละพี่ว่า 555+ เพราะคะแนนวิชาสามัญพี่ต่ำเตี้ยเรี่ยดินสิ้นดี lol แต่ถึงมันจะสำคัญยังไง แต่มันก็ไม่ใช่ทั้งหมดเน๊อ แค่ 30% เอง น้องยังเหลือวิชาสามัญอีก 70% แหนะ .. สู้ตาย !!

    คณิต

    พี่ทำ 15 พศ แล้วก็ให้เพื่อนจาก ต.. ส่งข้อสอบเก่า ๆ ที่รุ่นพี่จดมา กับพวกชีทบลา ๆ มาให้ แล้วก็ทำ ๆ ดู ตรงไหนไม่ได้ก็ถามเพื่อนเอาอ่ะนะ เพื่อนที่มันเทพ ๆ อ่ะน้อง ถามไปเต๊อออะ ถามครูก็ได้นะ แต่พี่อาศัยเพื่อนมากกว่า อิอิ หรือไม่ก็ ส่ง e-mail ไปถามติวเตอร์เลย (อันนี้พี่เคยทำ เจ๋งโคตร !!) ปีพี่ กสพท 2554 เค้าบอกมาว่าเลขมันง่ายลง ก็อย่าได้แน่ใจไปนักว่ามันจะเป็นแบบนี้ทุกปี ทำยาก ๆ ไว้ก่อน แต่ไม่ต้องยากมากนะ มันเสียกำลังใจปล่าว ๆ (พี่ซื้อหนังสือข้อสอบโอลิมปิกมา ยังเรียบกริบ เพราะไม่เคยเปิด อะฮิ ๆ )

    วิทย์

    สารภาพว่าอ่านวิทย์น้อยมาก เพราะพี่ไปทุ่มให้คณิตซะเยอะ มานั่งเสียดายจนถึงทุกวันนี้ ทำ short note ช่วยได้มากนะคะ ถ้ามีเวลาเหลือมาก ๆ ก็ควรจะทำเอง เอาบางวิชาก็ได้ หรือถ้ามันไม่ทันแล้ว ก็ไปถ่ายเอกสารของเพื่อนมา แชร์ ๆ กัน แบ่งกันทำคนละวิชา เดี๋ยวมันก็ได้ครบเอง ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ อิอิ

    เคมี : พี่อาศัยทำโจทย์ในคอร์สเอนท์ อาจารย์อุ๊ เอา กับทำ 15 พศ ไปได้ซักครึ่งเล่มได้มั้ง (มันไม่ทัน แหะ ๆ ) ตั้งใจเรียนให้มากๆ ทำโจทย์เยอะ ๆ  ช่วยได้มากนะน้อง อันนี้พี่คอนเฟิร์ม !! เพราะว่า ตอนอ.อุ๊ สอนดุลสมการรีดอกซ์ พี่แอบหลับไป เตร่งงง เตรงงง เตร๊งงง .. กสพท ออกดุลรีดอกซ์หลายข้อมาก และพี่ก็ทำไม่ได้ เพลง ธรณีกรรแสงแว๊บเข้ามาในหัวตอนทำข้อสอบ แล้วก็มานั่งคิดว่า .. ตรูไม่น่าหลับเลย TT^TT

    ฟิสิกส์ : ทำโจทย์จริงอะไรจริง ส่วนตัวพี่มีปัญหากับฟิสิกส์มาตั้งแต่จำความได้ มันเป็นอะไรที่ไม่ถูกกับพี่เอาซะเลย พี่ก็อ่านแล้วก็ทำโจทย์ ข้อไหนไม่ได้ ก็วงแล้ววงอีก จนหนังสือ 15 พศ ฟิสิกส์พี่มันเหี่ยวมาก 555+ แล้วก็อาศัยเรียนกะ อ.เผ่าสุดหล่อ กับเรียน neo physics สมัยยังเอ๊าะ (ม.4-5) เอาหนังสือที่เรียนนั่นแหละ มาอ่านๆดู

    ขอย้ำว่า “ห้ามทิ้งเรื่องไฟฟ้าเด็ดขาด !!” เพราะมันออกเยอะมากกกกก และพี่ก็ทำไม่ได้ T^T

    ชีวะ : ตั้งใจเรียนเวลาเจ๊บีมสอนนะน้องเอ๋ย ICU ช่วยชีวิตน้องจริงอะรัยจริง แล้วก็ทำข้อสอบ 15 พศ (ถ้าน้องมีหนังสือเฉลยข้อสอบของหลาย สนพ หลายอาจารย์ น้องจะรู้ว่าบางข้อเฉลยแอบไม่ตรงกันซักกะเล่ม สุดท้ายก็ ตอบไปตามที่คิดว่าตัวเองถูกละกัน 555+)

    ไทย

    ก็อาศัยความรู้เดิมจากที่โรงเรียน จาก intensive ครูปิง กับ อ่าน mini thai book ก่อนสอบ แล้วก็ทำโจทย์ย้อนหลังไปซะ หลักภาษาไม่มีอะไรยากถ้าน้องแม่น ที่จะยากสำหรับพี่ก็คือพวกถาม อารมณ์คนเขียน ? จุดประสงค์ ? ไรแบบนั้นแหละ (พี่เคยแอบคิดว่า แล้วตรูไม่ใช่คนเขียน ตรูจะไปรู้ได้งัยว่าเค้าอยู่ในอารมณ์ไหน ? อะฮิ ๆ)

    สังคม

    ก็ตั้งใจเรียนให้เยอะๆใน intensive พวกประวัติศาสตร์นี้ ขอเน้น เพราะว่า ถ้าน้องมาอ่านเอง มัน อึด ถึก ควาย มากกกก !! สิ่งที่ครูปิงเล่าในห้อง ที่น้องคิดว่ามันตลก เฮฮา ไร้สาระ แต่นั่นล่ะน้อง พึงประจักษ์ว่านั่นแหละ ข้อสอบ !!! เก็บเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยไว้ให้ดี พวกภูมิศาสตร์ หน้าที่พลเมือง กฏหมาย ก็คล้ายๆข้อสอบทั่วไป

    อังกฤษ

    ไม่รู้จะแนะนำอะไรดี วิชานี้ พี่ว่ามันต้องอาศัยบุญเก่าเยอะหน่อย 555+ พี่ก็เรียนมาเรื่อย ๆ ทั้งครูสมศรี ทั้งพี่แนน แต่สุดท้าย อังกฤษ มันอยู่ที่น้องทำโจทย์เก่า ๆ กับท่องศัพท์มากกว่า ax ของพี่แนน ที่เล่มฟาดหัวโจรแตกอ่ะ ทำ ๆ ไป แล้วก็ท่องศัพท์ วันละซัก 5 คำก็ยังดีน้อง ให้มันผ่านหูผ่านตาบ้าง อะฮิ ๆ

     

    GAT - PAT

    พี่เลิกสนใจไปนานแล้ว เพราะคะแนนพี่แต่ละครั้ง ต่ำต้อยด้อยค่า พี่เลย งอน สทศ 555+

     

    จากใจ <3 พี่

    น้องต้องรู้จักตัวเอง !!! อันนี้สำคัญมากนะคะ เพราะอย่างที่พี่บอก ตารางชีวิตของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ชอบไม่เหมือนกัน น้องต้องรู้ว่านิสัยของน้องเป็นไง บางคนชอบอ่านหนังสือตอนเช้า บางคนชอบอ่านตอนดึก ๆ อะไรแนวเนี๊ยะ น้องต้องมีตารางเป็นของตัวเอง (ทำให้ได้ด้วยนะ !! น่าจะเวิร์คมาก แต่พี่ทำไม่ได้ ฮ่า ๆ) จัดระเบียบชีวิตตัวเองให้ดี ไม่ใช่ว่าจะอ่านแต่หนังสืออย่างเดียว ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ หาความสำราญเบิกบานใจให้ตัวเองบ้าง สุขภาพสำคัญนะคะ ฟิตมาทั้งปี แต่ไม่สบายเอาวันสอบ ก็ไม่ไหวเหมือนกันน๊า ^^ เรื่องการจัดตารางอ่านหนังสือ ก็ตามสไตล์ของแต่ละคนน๊อ ของพี่ สลับ ๆ กันไปนะ เพราะพี่เบื่อง่าย แล้วก็ขี้ลืมด้วย 555+

    เวลาอ่านหนังสือ อ่านแต่พอประมาณ อย่าให้มากไป แต่ละคนมีลิมิตไม่เท่ากัน บางคนอ่านติดต่อกันได้เป็น 3 ชั่วโมง อันนี้แล้วแต่คนจริง ๆ อ่านไปเรื่อย ๆ นะ ถ้าถึงจุดที่ว่าน้องฝืนไม่ไหว ง่วงแล้ว หรือไม่อยากอ่านแล้วจริง ๆ ก็พักซะ งีบเอาซักครึ่งชั่วโมง แล้วค่อยอ่านต่อเอาก็ได้ เพราะถ้าน้องยิ่งฝืนอ่านไป น้องจะจำอะไรไม่ได้เลย แล้วมันก็เป็นการเสียเวลาในการพักผ่อนด้วยนะเออ ~ แล้วก็ปากกาสี นี้สำคัญนะ my colour พี่มีครบทุกสีเลย (ใช้ไม่หมดทุกสีหรอก เอาว่ามีครบไว้ก่อน 555+) ปากกา zig ก็ดี ไฮไลท์ได้ด้วย ใช้ง่ายดี ข้อไหนไม่ได้ ตรงไหนที่อ่านแล้วลืม วงมันเข้าไป เขียนดอกจันเจ็ดร้อยดอก(แบบพี่แนน enconcept) หรือจะทำดาว วาดการ์ตูน บลาๆ เอามันให้เด่นไปเลย post it ด้วยนะ สภาพห้องพี่ตอนก่อนสอบ มันเกินจะบรรยาย แบบว่า โพสต์อิท แปะทั่วเลย เวลาน้องทำข้อสอบ หรือ อ่านตรงไหน แล้วน้องคิดว่า น้องลืมแน่ ๆ แปะเลยน้อง แปะมันเข้าไป ฝาผนังห้อง บนโต๊ะ โคมไฟ ข้างเตียง บนตุ๊กตา ปกหนังสือ ฯลฯ หลากสีไว้ก่อน จะได้แลดูสวยงาม (พี่คิดไปเอง อะฮิ ๆ )

    ก่อนสอบ

    ไหว้พระ !! ซะน้อง ไหว้พระ !!! ทำใจให้สบาย ๆ อย่าวิตกจนเกินเหตุ แล้วก็อย่าชิลจนเกินไป

    ถ้าเข้าห้องสอบ เอาลูกอมไปได้ อมเลยค่ะ เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด ชอคโกแลตก็ดี กินตอนพักเที่ยง ตอนบ่ายจะได้ไม่ง่วง พร้อมสู้ต่อ

     

    ท้อแล้วทำไง ??

    เป็นธรรมดาที่ทุกคนจะเกิดอาการ ท้อแท้ สิ้นหวัง ไร้เรี่ยวแรงจะอ่านต่อ มันเบลอ ตื้อไปหมดในชีวิต

    สิ่งสำคัญที่สุด !!กำลังใจ !!! กำลังใจสำคัญมาก ๆ ทั้งจากพ่อแม่ จากเพื่อน จากครู บลา ๆ อันตัวพี่นี้ ไร้ซึ่ง BB ก็ได้แต่แมสเสจส่งกันระหว่างเพื่อนประหนึ่งว่าฟรี เป็นกันทุกคนแหละน้อง ก่อนสอบ หลังสอบ มันจะเกิดอาการ “paranoid” หรือ นอยด์ ที่เราเรียก ๆ กัน ก็ได้แต่แมสเสจปลอบกันไป ปลอบกันมา จนค่าโทรศัพท์หมดไปเป็นพัน ถ้าวันไหนที่น้องท้อแท้ เหนื่อยแบบ โอ๊ยยยยย ตรูไม่ไหวแล้ว !!! ให้น้องนึกถึงหน้าตัวน้อง หน้าพ่อแม่ หน้าญาติโกโหติกา อาอึ้ม อาม่า โซ่ยตี๋ เหล่าเจ็ก ตอนน้องสอบติด ตอนน้องรับปริญญา จินตนาการไว้นะคะ แล้วมันจะเป็นจริง : ))

    ปล. ถ้าน้องคนไหน มีโอกาสเรียนสดกับติวเตอร์ที่ชื่นชอบ ขอลายเซนต์อาจารย์มานะคะ อันนี้พี่คอนเฟิร์มว่า ลายเซนต์กับคำอวยพรของอาจารย์มันทำให้พี่มีแรงฮึดมากๆถึงมากที่สุดเวลาพี่เหนื่อยและท้อแท้ (พี่ได้ของพี่แนน พี่เวียง แล้วก็ครูปิงมา ^^)

     

    สุดท้ายแล้ว

    ขอให้น้องทุกคนที่ตั้งใจจะเรียนหมอ ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยอะไร ไม่ต้องหมอก็ได้ เอาเป็นว่า ขออวยพรทุกคนละกัน ให้ทุกคนประสบความสำเร็จ ได้เรียนในคณะและมหาลัยที่ตัวเองหวังด้วยเท๊อญญญ .. สาธู๊ววว ~

    พี่เป็นกำลังใจให้ค่ะ !!!

    Pingu : )



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×