คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Just Friend(?) #Kris x Lay
SF : Just Friend(?)
Couple : Kris x Lay
Writer : Little.hyomi
- มันสั้นมาก ;___; ฮืออออออออออ ต้นฉบับเก่าหายจ้า *เขี่ยพื้น* .__. อ่านแก้ขัดไปก่อนนะ 55555555.
เดี๋ยวเรื่องใหม่จะไฉไลกว่าเดิมแน่นอนค่ะ :D
- มหาวิทยาลัย ABC –
“ย๊า!!! อู๋อี้ฟาน!!!!!!! เส่นห่วยแบบนี้อยากโดนตีหรือไงห้ะ?!!!” เสียงห้าวตะโกนโหวกเหวกอยู่ข้างสนาม แต่เจ้าของชื่อ ‘อู๋อี้ฟาน’ หรืออีกชื่อที่ใครๆรู้จักคือ ‘คริส’ กัปตันทีมบาสของมหาวิทยาลัยกลับไม่ได้สนใจ และยังคงเล่นต่อไป เพราะความสูงเกือบสองเมตร จึงไม่แปลกเลยที่เขาจะได้เป็นกัปตันของทีม
“เอาน่าเลย์ นายอย่าซีเรียสนักเลย ยังไม่ใช่วันแข่งจริงเสียหน่อย” เสียงหวานของ ‘เสี่ยวลู่หาน’ บอกเพื่อนสนิทใจร้อนอย่าง ‘จางอี้ชิง’ หรือ ‘เลย์’
“นายขี้ใจอ่อนแบบนี้ไงเสี่ยวลู่ เจ้าพวกนี้ถึงไม่ตั้งใจซ้อมแบบจริงๆจังๆหน่ะ ผับพ่าสิ! เมื่ออาทิตย์ที่แล้วฉันไม่น่ากลับจีนเลย” ร่างโปร่งพูดจบก็ทึ้งหัวตัวเองอย่างบ้าคลั่ง(?) จะไม่ให้เขาเครียดได้ยังไง ในเมื่ออีกแค่สองเดือนก็จะถึงวันแข่งกีฬาประจำปีแล้ว แต่ทีมบาสยังคงซ้อมบ้างไม่ซ้อมบ้าง แถมยังเล่นแย่ขนาดนี้ ถ้าแพ้ขึ้นมาหล่ะก็นะ ... อี้ชิงคนงามคงจะโดนโค้ชยุนโฮด่าแบบนอนสต๊อปชัวร์โดยไม่ต้องพึ่งหมอลักษณ์ฟันธงเลย โอ้ย คิดแล้วเพลีย อี้ชิงอยากตาย ...
ในขณะที่เลย์กำลังนึกด่าโชคด่าโชคชะตาตัวเองโดยมีลู่หานเสียบหูฟังและหลับไปเรียบร้อยแล้วอยู่ข้างๆนั้น ก็มีผู้ชายคนหนึ่งวิ่งเข้าไปหาทั้งสองที่นั่งอยู่
“พี่เลย์ เหนื่อยมั้ยครับ? ผมเอาอมยิ้มรสโคล่าของโปรดของพี่มาฝาก” เสียงทุ้มที่ติดจะแหบเอ่ยขึ้น โดยที่เลย์ไม่ต้องเงยหน้าไปมองก็รู้ว่าเป็นใคร ‘โอเซฮุน ปี2 เอกการแสดง(เต้น) ที่รักของนูน่าประจำมหาวิทยาลัย’
“ขอบใจนะเซฮุน แต่วันหลังไม่ต้องเอามาเยอะขนาดนี้ก็ได้ ถึงพี่จะชอบกินแต่เยอะขนาดนี้ปากพี่พังพอดี ฮ่าๆ” เลย์ตอบกลับพร้อมเสียงหัวเราะ และยิ่งหัวเราะมากขึ้นไปอีกเมื่อรุ่นน้องที่เพิ่งให้อมยิ้มตนมานั้นกำลังยืนเกาหัวแก้เขิน
การกระทำของเลย์และเซฮุน ได้ถูกใครบางคนจับตามองอยู่ ..
“กลับกันเถอะอี้ชิง” เสียงทุ้มลึกเอ่ยขึ้นเมื่อตัวเองอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ
“อ่า... อื้อ” เลย์สะดุ้งนิดๆเมื่อถูกปลุกจากภวังค์
บรรยากาศบนรถของร่างสูงเป็นไปด้วยความเงียบ เงียบแบบกดดันด้วยซ้ำ จนร่างโปร่งทนไม่ไหวต้องเอ่ยคำพูดทำลายความเงียบนั้น
“อี้ฟาน นายเป็นอะไรหรือเปล่า?” ถามด้วยเสียงสั่นๆ เพราะกลัวคนข้างๆไม่พอใจตัวเอง
“เปล่า ฉันไม่ได้เป็นอะไร” คริสตอบกลับมาด้วยเสียงเรียบๆ เลย์อาจจะเชื่อคำตอบนั้นแล้ว ถ้าน้ำเสียงของอีกฝ่ายไม่ได้เย็นชาซะจนน่ากลัว
“นายโกหก เสียงนายมันฟ้อง.. บอกเถอะนะว่าเป็นอะไร หรือนายไม่พอใจที่วันนี้ฉันตะโกนด่านาย?” ร่างโปร่งพยายามนึกถึงสิ่งที่ตัวเองอาจจะทำให้ร่างสูงไม่พอใจจนคิ้วขมวดเป็นปม
“ฉันไม่ชอบเด็กที่ชื่อโอเซฮุน” พูดจบก็หันมาหาร่างโปร่งข้างๆแล้วใช้นิ้วชี้จิ้มไปที่หัวคิ้วเบาๆเพื่อให้อีกฝ่ายเลิกขมวดคิ้ว ร่างโปร่งก็ทำตามแต่โดยดี
“ละ แล้วทำไมนายถึงไม่ชอบเซฮุนหล่ะ? น้องก็นิสัยดีมากเลยนะ” เอ่ยด้วยเสียงตะกุกตะกัก เพราะยังขัดเขินกับการกระทำของคนข้างๆเมื่อครู่
“ฉันหวงนายไงอี้ชิง” จบประโยคนั้น ร่างสูงก็หันไปขับรถต่อเพราะไฟเขียวพอดี ทิ้งให้ร่างโปร่งนั่งอ้าปากค้างกับประโยคบอกเล่าของเพื่อนสนิทหน้าหล่อ
“ฉันว่าแล้ว มันต้องมีอะไรในกอไผ่แน่ๆ” เสียงหนึ่งเอ่ยขึ้น
“แล้วแกแน่ใจได้ไงวะลู่? ว่าคริสชอบเลย์จริงๆ ไม่ใช่แค่เป็นพวกประเภทหวงเพื่อนอ่ะ” คนที่นั่งฝั่งตรงข้ามกับลู่หานพูดขึ้นบ้าง
“แต่ฉันคิดว่าสองคนนั้นรักกันนะหมินเพียงแต่ไม่รู้ใจตัวเอง อ่า สำหรับคริส หมอนั่นอาจจะรู้ แต่เลย์ ฉันว่าไม่รู้ใจตัวเองแน่นอน” เสียงเล็กของ ‘โดคยองซู’ เอ่ยบอก ‘คิมมินซอก’ หรือ ‘ซิ่วหมิน’
“ฉลาดมากครับสุดที่รักของผม” ไม่ใช่เสียงของทั้งสามคนที่นั่งอยู่ แต่เป็นเสียงของจงอินที่กำลังเดินเข้ามาหาทั้งสามคนพร้อมรอยยิ้มทรงเสน่ห์ที่ทำให้คยองซูเขินอายได้ไม่ยาก
“ได้เรื่องอะไรบ้างมั้ยจงอิน? บอกมาเร็วๆ” ลู่หานเร่งเอาคำตอบจากคนรักของเพื่อนสนิททันทีที่อีกฝ่ายนั่งลงเรียบร้อยแล้ว
“อะไรกันครับพี่ นี่ไอ้ฮุนมันยังไม่ได้รายงานผลให้พี่รู้อีกหรอเนี่ย?” เสียงทุ้มแหบๆเอ่ยติดตลก
“เหอะ! ไม่รู้ว่าไปมุดหัวอยู่ที่ไหน หายไปตั้งแต่เมื่อวานอย่าให้เจอนะแม่จะสวดให้ยับเลย!” ลู่หานตอบอีกฝ่ายด้วยเสียงแค้นๆ
“ฮ่าๆ ก็อย่างที่ตัวเล็กของผมบอกนั่นแหละครับพี่ลู่ ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน เพราะเมื่อวานที่ผมให้ไอ้ฮุนเอาอมยิ้มรสโคล่าของโปรดพี่เลย์ไปให้ ผมเห็นพี่คริสยืนมองสองคนนั้นจนแทบจะกินเข้าไปแล้ว” จงอินตอบรุ่นพี่อย่างฉะฉาน แล้วอุ้มคนรักของตนเองขึ้นมานั่งบนตัก
“เฮ้อ เมื่อวานฉันไม่น่าหลับเล้ยยยยยย! ไม่งั้นก็ได้เห็นช็อตเด็ดแล้ว ฮึ่ยยยยยย!”
ถ้าถามว่าตอนนี้เขากำลังทำอะไรอยู่? เขาก็ตอบตัวเองไม่ได้เหมือนกัน เขาเฝ้าถามตัวเองตั้งแต่ก้าวเข้ามาในนี้ ว่า ‘นี่กูมาทำอะไรที่นี่?’
“พี่เลย์หิวมั้ยครับ? ในกระเป๋าผมมีขนมปังอยู่ พี่กินได้นะครับ” ไม่รอให้ร่างโปร่งตรงหน้าตอบอะไร ก็เดินออกไปกลางห้องเพื่อซ้อมเต้นต่อทันที
เลย์มองไปรอบๆห้องเมื่อรู้สึกได้ว่ามีสายตาหลายคู่มองอยู่ แต่ร่างโปร่งก็ไม่ได้สนใจแล้วหยิบขนมปังในกระเป๋าของคนที่กำลังซ้อมเต้นอยู่
“ไส้หมูหยอง? หึ รู้ใจฉันตลอดสิน่าโอเซฮุน” ร่างโปร่งเอ่ยกับตัวเองขำๆเมื่อเห็นขนมปังตรงหน้า เพราะมันเป็นรสชาติสุดโปรดของเขาหน่ะสิ บางทีเขาก็สงสัยนะ ว่าเซฮุนไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาบ้าง เพราะรุ่นน้องคนนี้รู้เรื่องของเขาทุกอย่างจริงๆ อาจจะรู้มากกว่าตัวเขาเองก็ได้
เมื่อการซ้อมเต้นสิ้นสุดลง เซฮุนก็พาเลย์มาที่โรงจอดรถเพื่อจะขับรถพาเลย์ไปส่งที่บ้าน
Rrrrrrr
“อ๊ะ! แป๊ปนะเซฮุน” ร้องบอกรุ่นน้องก่อนที่ตัวเองก็ควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋า
“อ่า ว่าไงอี้ฟาน?” กดรับสายทันทีที่หาเจอ
(อยู่ไหน?) เสียงปลายสายถามกลับมาด้วยเสียงที่ติดจะห้วนๆ
“อยู่มหาลัยแหละ กำลังจะกลับแล้ว” ตอบคำถามเพื่อนสนิทพลางเดินไปขึ้นรถของรุ่นน้อง
(กลับยังไง? วันนี้ฉันไม่ได้ไปรับ หื้ม?)
“เอ่อ... คือ ฉะ ฉันกลับกับเพื่อนในห้องหน่ะ บ้านฉันเป็นทางผ่านบ้านหมอนี่พอดี” เลย์เลือกที่จะโกหกออกไป เพราะเขารู้ดีว่าคริสไม่ชอบเซฮุนสักเท่าไหร่
(ฉันเพิ่งรู้นะ ว่าโฮเซฮุนเรียนอยู่ห้องเดียวกับนาย หึ!)
“นะ นายอยู่ไหนหน่ะอี้ฟาน? ทำไมถึง...” ยังไม่ทันได้ถามจบประโยคร่างโปร่งก็ตกใจจนโทรศัพท์แทบหล่นจากมือ ตกใจเพราะมองไปเบื้องหน้าเห็นคนปลายสายที่กำลังคุยด้วย ยืนกอดอกมองอยู่หน้ารถ
“เอ่อ พี่ขอโทษนะเซฮุน บางทีพี่อาจจะไม่ได้กลับกับนาย” เอ่ยบอกรุ่นน้องด้วยความที่รู้ดีว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้
“ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจ”
เลย์เปิดประตูลงจากรถแล้วเดินแบบกล้าๆกลัวๆไปหาร่างสูงด้านหน้า คริสไม่พูดอะไร ได้แต่มองเซฮุนอยู่แบบนั้น สักพักหนึ่ง ก่อนที่จะดึงแขนเลย์และลากไปที่รถของตัวเอง ในขณะที่คริสกำลังเดินหันหลังให้เซฮุนอยู่นั้น เขาก็ได้หันมามองคนที่นั่งอยู่ในรถและพูดประโยคที่มีแต่เซฮุนเท่านั้นที่รู้
‘อย่ามายุ่งกับคนของฉัน’
“ฉันขอโทษนะอี้ฟาน” ร่างโปร่งเอ่ยขึ้นเมื่อเข้ามานั่งอยู่ในรถแล้ว
“ขอโทษเรื่องอะไรหล่ะ?”
“ขอโทษที่โกหกว่ากลับบ้านกับเพื่อน แล้วก็ขอโทษที่กลับกับเซฮุนทั้งๆที่นายไม่ชอบ” พูดจบก็ก้มหน้าจนคางแทบชิดอก
“ฉันไม่ได้โกรธเรื่องนั้นหรอก แต่ฉันโกรธที่วันนี้นายไม่มาดูทีมซ้อม แต่ไปดูไอ้เด็กนั่นซ้อมเต้นแทน” เสียงทุ้มพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาจนคนที่ก้มหน้าต้องเงยหน้าขึ้นมา
“ฉันขอโทษจริงๆนะอี้ฟาน ฉันไม่ได้ตั้งใจอยากจะไป เซฮุนมาขอร้องให้ฉันไปดูเขาเพราะเขาอยากได้กำลังใจไปแข่งวันมะรืนนี้เท่านั้นเอง” พูดด้วยน้ำเสียงเจือสะอื้นนิดๆที่ทำให้ร่างสูงใจกระตุก
“โอเคๆ อย่าร้องไห้เลยนะ ฉันเข้าใจแล้วอี้ชิง ฉันเชื่อนายนะ” ร่างสูงโน้มอีกฝ่ายเข้ามากอดเพื่อปลอบประโลม เขารู้ดีว่าคนตรงหน้าคิดมากแค่ไหน โดยเฉพาะถ้าเป็นเรื่องของเขา ก็ยิ่งคิดมาก
- สองเดือนผ่านไป -
“แหมมมมมมมม หน้าตาดูสดใสจังนะจางอี้ชิงคนงาม” เสียงแซวของซิ่วหมินดังขึ้นมาเมื่อเห็นว่าเพื่อนสนิทกำลังเดินยิ้มหน้าบานเข้ามาหาพวกเขาที่โต๊ะประจำ
“ดูออกขนาดนั้นเลยหรอ?” ถามพลางเอามือแนบหน้าตัวเองแล้วอมยิ้มอยู่อย่างนั้นจนลู่หานหมั่นไส้นิดๆ อดจะแกล้งบีบจมูกเล็กของเลย์อย่างเสียไม่ได้
“มีอะไรดีๆงั้นหรอเลย์? เล่ามาเดี๋ยวนี้!” สิ้นคำประกาศิตของลู่หาน เลย์ก็เอามือที่แนบหน้าลงแล้วพูดขึ้น
“คือว่า... หลังจากแข่งบาสจบทีมมหาวิทยาลัยเราชนะใช่มั้ยหล่ะ? เอ่อ นั่นแหละ แล้วคริสเขา ก็ขอฉันเป็นแฟนหน่ะ” พูดไปก็เขินไป แก้มแดงปรั่งเฉกเช่นเดียวกับสาวแรกรุ่นที่เพิ่งมีความรักอย่างไงอย่างนั้น
“...” ทั้งลู่หาน ซิ่วหมิน และคยองซูสตั๊นไปสิบวิ ... #อาเมน
“เห้ย มีอะไรหรอ? ทำไมพวกแกไม่ดีใจกับฉันหล่ะ?” เลย์ถามขึ้นด้วยจิตใจที่ว้าวุ่นกลัวว่าจะมีเรื่องอะไร
“ไม่ๆ คือฉันตกใจหน่ะ ไม่คิดว่าคริสจะกล้าขอแกเป็นแฟน” คยองซูที่ได้สติคนแรกเอ่ยบอกเพื่อน
“ใช่ ฉันตกใจจริงๆนะ แต่ก็ดีใจด้วย” ลู่หานบอกเลย์เพราะเขารู้ดีว่าร่างโปร่งจะต้องคิดมากแน่ๆที่เห็นพวกเขาตกใจ
“แล้วแกตอบไปว่าไงอ่ะ?” ซิ่วหมินถามขึ้นบ้าง
“เอ่อ ฉนก็แค่ตอบว่า ‘อื้ม’ แค่นั้นเอง” ดูเหมือนยิ่งพูดยิ่งเขิน
“โหย อะไรวะ ตอบแค่นั้นเองจริงดิ? ไม่โรแมนติกเลย” เมื่อฟังเลย์ตอบจบ ซิ่วหมินก็โวยวายขึ้นมา
“ก็ยังดีว่าคนไม่มีแฟนนะหมินหมินอา~”ฉึก! ประโยคเรียบๆของคยองซูทำให้ซิ่วหมินเจ็บไปถึงลำไส้เล็กกันเลยทีเดียว
นั่งคุยกันได้สักพักจงอินก็เดินเข้ามา
“ตัวเล็กของจงอิน! คิดถึงจังเลยครับ” ว่าจบก็หอมแก้มคยองซูไปสองทีตามประสาคนชอบสกินชิพ
“เห นายมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่หน่ะคยองซู? ไม่เห็นบอกฉันเลย” คงจะมีแต่เลย์คนเดียวที่ตกใจกับการกระทำของหนุ่มรุ่นน้องคนนี้
“อ่า พี่คงจะเป็นพี่เลย์สินะครับ? ผมคิมจงอิน ปี2 เอกการแสดง เป็นเพื่อนสนิทของไอ้ฮุน เอ่อ เซฮุนหน่ะครับ” ไม่ต้องรอให้เลย์ถาม จงอินก็เลือกที่จะแนะนำตัวกับคนตรงหน้าที่ยังทำหน้ามึนอยู่ทันที
“เป็นเพื่อนของเซฮุน? แล้วตอนนี้เขาหายไปไหน? จงอินรู้มั้ย พี่ไม่เห็นเขามาเป็นเดือนแล้ว ติดต่อก็ไม่ได้” ร่างโปร่งของเลย์รัวคำถามใส่รุ่นน้องทันทีที่รู้ว่าเป็นเพื่อนสนิทของเซฮุน
“มันไปเป็นครูสอนเต้นให้ที่โรงเรียนสอนเต้นของแม่มันหน่ะครับ ถือว่าเป็นการฝึกงานไปในตัวด้วย อีกไม่กี่วันคงกลับมา พี่คิดถึงมันหรอครับ? ฮ่าๆ” เสียงทุ้มแหบพล่าของจงอินเอ่ยขึ้นกลั้วหัวเราะไปด้วย
“คิดถึงผมมั้ยครับ? พี่เลย์” สิ้นเสียงหัวเราะของจงอินได้ไม่นาน ก็มีเสียงที่ร่างโปร่งแสนจะคุ้นเคยดังขึ้นอยู่ด้านหลัง
“เซฮุน! ไอ้เด็กบ้าหนิ หายไปไหนทำไมไม่บอกกันบ้าง พี่เป็นห่วงนะรู้มั้ย” เมื่อแน่ใจว่าใช่คนที่กำลังพูดถึงจริงๆ ก็รัวคำถามไม่ยั้ง เหมือนกับตอนที่ถามจงอินนั่นแหละ...
“ดีใจจังที่พี่เป็นห่วง งั้นผมจะถือว่าพี่คิดถึงผมแล้วกันนะครับ” พูดจบก็เดินไปนั่งข้างๆลู่หานแล้วเชยคางของลู่หานขึ้นพร้อมกับประกบจูบทันที
“คิดถึงนะครับ ที่รัก” พูดพลางยิ้มที่แสนจะทรงเสน่ห์ในแบบของตัวเอง
“อื้อ ฉันเขินนะไอ้นี่หนิ!!!” ทุบไหล่คนรักของตัวเองไปเบาๆหนึ่งทีเพื่อแก้เขิน
“เดี๋ยวนะ เดี๋ยว.. เซฮุน นายเป็นแฟนกับเสี่ยวลู่หรอ?” คงจะมีแต่เลย์คนเดียวที่ยังไม่เข้าใจกับเหตุการณ์ตรงหน้า
“ครับ ผมเป็นแฟนกับเสี่ยวลู่ คบกันมาสักพักแล้วครับ แต่ถ้าถามว่าทำไมผมถึงไปจีบพี่เลย์ อันนี้ก็ต้องถามเพื่อนพี่แล้วหล่ะครับ ฮ่าๆ” ตอบคำถามคนเป็นพี่แล้วก็หัวเราะออกมาเบาๆ
“เล่ามาให้หมด!!! เสี่ยวลู่หาน!”
“เอ่อ คือ คือ.. มันเป็นแผนของฉันเองแหละ แบบว่าฉันรู้ว่าแกกับคริสรักกัน รักกันมากกว่าเพื่อน แต่พวกนายก็ไม่รู้ใจตัวเองกันเสียที ฉันเลยให้เซฮุนทำทีว่าเข้าไปจีบแก ทำให้คริสหึงหวงแกขึ้นมา เผื่อแกสองคนจะได้ตาสว่าง” จบคำตอบยืดยาวของลู่หาน เลย์ก็ถึงกับอ้าปากค้าง
“แล้วคริสรู้เรื่องนี้มั้ย” หายจากอาการอึ้งก็ถามต่อ
“ฉันก็เพิ่งรู้พร้อมนายเนี่ยแหละอี้ชิง” เสียงทุ้มที่ติดจะเย็นชาของคริสดังขึ้น ทำให้ลู่หานหน้าซีดเป็นไก่ต้ม
“คริส~ นายอย่าโกรธฉันเลยนะ ที่ทำไปทั้งหมดก็เพราะหวังดีกับนายแล้วก็เลย์ทั้งนั้นอ่ะ นะน๊า ~” เมื่อเห็นว่าเพื่อนสนิทตัวสูงไม่พูดอะไร ลู่หานก็ทำการอ้อนอีกฝ่ายทันที
“เฮ้อ ฉันเคยทำอะไรนายได้มั้ยหล่ะเสี่ยวลู่? ต้องขอบใจด้วยซ้ำที่ทำให้ฉันกับเลย์รู้ใจตัวเอง อ้อ รวมถึงนายด้วย โอเซฮุน” ได้ยินอย่างนั้นทั้งลู่หานและคนอื่นๆก็โล่งอก เพราะทุกคนรู้ดีว่าคริสไม่ชอบการโกหก ไม่สิ เกลียดการโกหกเลยต่างหาก
แสงสีส้มที่กำลังจะลับขอบฟ้าไม่ได้ทำให้ทั้งสองร่างที่กำลังบอกรักกันผ่านร่างกายหยุดการกระทำนั้นได้เลย
“อ๊ะ.. อื้อ! อะ อี้ฟาน” ร่างโปร่งครางเสียงกระเส่าเมื่ออีกฝ่ายกระแทกไปโดนจุดกระสัน
“อือ อี้ชิง อีกนิดนะ...” ร่างสูงที่อยู่ด้านบนร้องบอกร่างข้างใต้ว่ากำลังจะปลดปล่อยในไม่ช้า
“อื้อออออออออ” ทั้งสองคนร้องออกมาพร้อมกันเมื่อไปถึงสวรรค์ที่สร้างขึ้นมา
“อืมมม อีกรอบนะชิงชิงอา~” ไม่รอให้คนรักตอบอะไร ตัวเองก็จัดการสานต่อทันที ... กว่ากิจกรรมที่สุดแสนจะเร่าร้อนจบลงเวลาก็ย่างก้าวผ่านวันใหม่แล้ว...
ร่างสูงนอนเท้าแขนมองคนรักของตัวเองที่กำลังหลับตาพริ้มอยู่ข้างๆด้วยสาตาอบอุ่น ริมฝีปากหนายกยิ้มขึ้นน้อยๆ เมื่อร่างโปร่งที่นอนหนุนแขนอีกข้างของเขานั้นกำลังลืมตาใสแจ๋วมองเขาอยู่
“ตื่นนานแล้วหรออี้ฟาน?” ร่างโปร่งเอ่ยถามคนรักด้วยเสียงแหบๆ แน่สิ ก็เล่นร้องครางนานขนาดนั้น เสียงไม่แหบให้รู้ไป
“สักพักแล้ว อยากอาบน้ำมั้ย?” เลย์ทำหน้าคิดนิดๆแล้วส่ายหัวเป็นการบอกปฏิเสธ และพูดประโยคหนึ่งซึ่งทำให้ร่างสูงไม่รอช้าที่จะฟัดร่างตรงหน้าอีกสักสิบรอบ
“ชิงชิงอยากโดนที่รักกดมากกว่า คิกคิก”
“ภรรยาขอมา สามีก็จัดให้ครับJ”
.จบเถอะ.
สเป (สั้นเท่าหางอึ่ง)
“อี้ชิง ถ้าจบการแข่งบาสแล้วอย่าเพิ่งไปไหนนะ รอก่อน ฉันมีเรื่องจะบอก” คริสกำชับด้วยเสียงเข้มๆก่อนจะเดินไปลงสนาม
ผลการแข่งขันออกมา ทีมมหาวิทยาลัย ABC เป็นฝ่ายชนะ อย่างที่ใครหลายๆคนพูดถึง
“มีอะไรหรือเปล่าอี้ฟาน? ทำไมหน้าเครียดจัง? หื้ม” ร่างโปร่งถามด้วยเสียงที่แสนจะอบอุ่น
ร่างสูงไม่ตอบคำถาม แต่กลับนั่งคุกเข่าและยื่นกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินไปตรงหน้าอีกฝ่าย
“อะ อะไรหน่ะอี้ฟาน... นายกำลังจะทำอะไร” เลย์เอ่ยด้วยเสียงติดจะสั่นๆเมื่อเริ่มเข้าใจว่าร่างสูงตรงหน้าต้องการอะไร
“เป็นแฟนกับฉันนะจางอี้ชิง” คริสพูดออกมาพร้อมกับสายตาที่มั่นคงและจริงจังจนร่างโปร่งอดจะเขินอายไม่ได้
“...อื้อ” สิ้นสุดสียงตอบรับ คริสก็สวมแหวนให้เลย์ที่นิ้วนางข้างซ้ายและลุกขึ้นกอดร่างโปร่งแน่น
“ฉันรักนายนะ ชิงชิงของฉัน”
“ฉันก็รักนาย อี้ฟานของชิงชิง”
พิมพ์ตรงไหนผิดมั่งมั้ย? ;_; แบบว่าเบลอๆ 55555555555555555
แอบมีฉาก ฉึกๆ มานิดนึงอ่ะ แบบ จะโดนแบนป้ะ? ไม่หรอกเนอะ ._. 55555555555555555555
มันสั้นมากอ่ะ *ดิ้น* เรื่องต่อไปอาจจะเป็นฮุนฮาน #ครุคริ
ใครอยากอ่านคู่ไหนก็บอกเลยนะคะ เราจะพยายามแต่งให้ :D
ความคิดเห็น