ในสมัยเด็กๆ หลายคนอาจจะต้องท่องจำว่าใครคือนายกรัฐมนตรีคนแรกของไทย แบบเรียนเล่มแรกของไทยชื่ออะไร ใครเป็นผู้แต่งเพลงสรรเสริญพระบารมี ฯลฯ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ แม้โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว หลายคนก็ยังจำได้อยู่ แต่หลายคนก็อาจจะลืมเลือน ดังนั้น เพื่อเป็นการทบทวนความจำทั้งความรู้เก่าและเกร็ดความรู้ใหม่ที่บางคนอาจจะไม่เคยทราบมาก่อนเกี่ยวกับประเทศไทย กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม จึงขอนำสาระบางส่วนจากหนังสือ " ความรู้รอบตัว รอบรู้เรื่องเมืองไทย" ของฝ่ายวิชาการชมรมเด็ก ซึ่งจัดพิมพ์โดยสุวีริยาสาส์น มาเพื่อเสนอ ดังต่อไปนี้
-แบบเรียนเล่มแรกของไทยชื่อ "จินดามณี" แต่งโดย พระมหาราชครู กวีในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (ครองราชย์ปีพ.ศ. ๒๑๙๙-๒๒๓๑)
-ถนนสายแรกในเมืองไทย คือ ถนนเจริญกรุง (New Road) สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๔ เมื่อพ.ศ. ๒๔๐๔ โดยต่อมาได้มีการตัดถนนบำรุงเมือง ถนนเฟื่องนคร รวมทั้งถนนพระราม ๔ และถนนสีลมในเขตชานพระนคร
-น้ำแข็งเข้ามาเมืองไทยครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ ๔ ประมาณพ.ศ. ๒๔๑๐ สันนิษฐานว่าผลิตที่สิงคโปร์แล้วส่งมาถวาย โดยใส่หีบกลบขี้เลื่อย คนเฒ่าคนแก่ในสมัยนั้นไม่เชื่อว่าจะทำน้ำแข็งได้จริง ถึงกับออกปากว่า "จะปั้นน้ำเป็นตัวได้อย่างไร"
-พระมหากษัตริย์ไทยพระองค์แรกที่เสด็จประพาสต่างประเทศคือ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ โดยเสด็จประพาสสิงคโปร์เป็นแห่งแรก เมื่อปีพ.ศ. ๒๔๑๓ และเสด็จชวาด้วย
-ผู้ที่ประพันธ์เพลงสรรเสริญพระบารมี คือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระนริศรานุวัดติวงศ์ โดยมีนายปโยตร์ ซูโรฟสกี้ (Pyotr Shchurovsky) ชาวรัสเซีย แต่งทำนองเพลงขึ้นทูลเกล้าฯถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อปีพ.ศ. ๒๔๓๑
-ธนบัตรหรือเงินกระดาษของไทยที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ผลิตขึ้นครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ ๕ พิมพ์ออกใช้ครั้งแรกเมื่อวันที่ ๗ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๔๕ โดยก่อนหน้านั้นในสมัยรัชกาลที่ ๔ ได้มีการผลิตธนบัตรหรือเงินกระดาษออกใช้เป็นครั้งแรกในเมืองไทยแล้ว เมื่อปีพ.ศ. ๒๓๙๖ แต่เรียกว่า "หมาย" ทำด้วยกระดาษปอนด์สีขาวรูปสี่เหลี่ยม พิมพ์ลวดลายด้วยหมึกทั้งสองด้าน และประทับตราพระราชลัญจกรประจำแผ่นดิน ตราจักร และพระราชลัญจกรประจำรัชกาลสีแดงชาด (ลัญจกร อ่านว่า ลัน-จะ-กอน แปลว่า ตราสำหรับใช้ตีหรือประทับ ราชาศัพท์ใช้คำว่า พระราชลัญจกร)
-ผู้ที่คิดออกลอตเตอรี่เป็นคนแรกในเมืองไทย คือ มิสเตอร์เฮนรี่ อาลบาสเตอร์ (ต้นตระกูล "เศวตศิลา") ชนชาติอังกฤษ เป็นผู้นำลักษณะการออกรางวัลสลากแบบยุโรปมาเผยแพร่เป็นคนแรก โดยเรียกว่า "ลอตเตอรี่" โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้กรมทหารมหาดเล็กออกลอตเตอรี่เป็นครั้งแรกในประเทศไทย เมื่อปีพ.ศ. ๒๔๑๗ เนื่องในงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา
-คนไทยคนแรกที่ได้ขึ้นเครื่องบิน คือ พระบรมวงศ์เธอ กรมพระยากำแพงเพ็ชรอัครโยธิน โดยประทับเครื่องบินออร์วิลไรท์ คู่กับกัปตัน มร.เวนเดนเปอร์น ซึ่งขับวนเวียนเหนือสนามราชกรีฑาสโมสร เป็นเวลา ๓ นาที ๔๕ วินาที เมื่อวันที่ ๓๑ มกราคม พ.ศ.๒๔๕๓ เป็นเครื่องบินที่บริษัทฝรั่งเศสนำมาแสดง ณ ราชกรีฑาสโมสร(สนามม้านางเลิ้ง) ซึ่งถือว่าเป็นสนามบินแห่งแรกที่ใช้ในการบินของเมืองไทยด้วย
-พระมหากษัตริย์ไทยพระองค์แรกที่ทรงผ่านการศึกษาจากต่างประเทศคือ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ เสด็จไปศึกษา ณ ประเทศอังกฤษ ตั้งแต่เมื่อครั้งทรงยังดำรงพระอิสริยยศสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เมื่อปีพ.ศ. ๒๔๓๖-๒๔๔๕ รวมระยะเวลา ๙ ปี
-นามสกุลหมายเลข ๑ ที่รัชกาลที่ ๖ ทรงคิดพระราชทานคือ นามสกุล "สุขุม" พระราชทานเมื่อวันที่ ๓๐ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๕๖ ต้นสกุลคือ เจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม)
-ผู้ที่ให้กำเนิดรถแท็กซี่ขึ้นในประเทศไทยครั้งแรกคือ พลโท พระยาเทพหัสดิน (ผาด เทพหัสดิน ณ อยุธยา) เป็นรถยนต์นั่ง (รถเก๋ง)ยี่ห้อออสติน จำนวน ๔ คัน เปิดบริการรับจ้างครั้งแรกเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๖๖ ในสมัยรัชกาลที่ ๖ ในสมัยนั้นเรียกว่า "รถไมล์"
-ประเทศไทยเริ่มนับเวลาตามแบบสากลครั้งแรกในสมัย รัชกาลที่ ๖ โดยแต่เดิมเรานับเวลาตอนกลางวันเป็น "โมง" และตอนกลางคืนเป็น "ทุ่ม" พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงให้เปลี่ยนมาเรียกว่า "นาฬิกา" (เขียนย่อว่า "น.") และให้นับเวลาทางราชการใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับธรรมเนียมสากลนิยม โดยให้ถือว่าเวลาหลังเที่ยงคืนเป็นเวลาเปลี่ยนวันใหม่ และให้ถือเวลาที่ตำบลกรีนิช ประเทศอังกฤษเป็นมาตรฐาน ซึ่งเวลาในประเทศไทย เป็นเวลาก่อนหรือเร็วกว่าเวลาที่กรีนิช ๗ ชม. เช่น ไทยเป็นเวลา ๑๙.๐๐ น. ทางกรีนิชเท่ากับ ๑๒.๐๐น. เป็นต้น
-ผู้ที่ประดิษฐ์เครื่องพิมพ์ดีดภาษาไทยเครื่องแรก คือ มิสเตอร์เอ็ดวิน แมกพาแลนด์ ยี่ห้อเรมิงตัน
-นายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศไทยคือ พระยามโนปกรณนิติธาดา (ก้อน หุตะสิงห์) เข้าดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ ๒๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๕- ๒๐ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๗๖ ส่วนนายกรัฐมนตรีคนแรกที่ถูกบังคับให้ออกจากตำแหน่งคือ นายควง อภัยวงศ์ หลังจากที่เข้าดำรงตำแหน่งได้ประมาณ ๑ เดือนเศษ ในวันที่ ๖ เมษายน พ.ศ. ๒๔๙๑ ได้ถูกคณะนายทหารเข้าพบเพื่อขอร้องแกมบังคับให้ลาออกจากตำแหน่ง ทั้งนี้เพื่อเปิดทางให้กับจอมพลป.พิบูลสงครามกลับเข้าเป็นนายกรัฐมนตรี สมัยที่ ๓
-ยศสูงสุดของทหารไทยคือ ยศจอมพล แต่ปัจจุบันไม่มีการแต่งตั้งแล้ว ยศสูงสุดทางทหารในปัจจุบันคือ "พลเอก" ผู้ที่เป็นจอมพลคนแรกของไทยคือ จอมพล สมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภานุพันธุวงศ์วรเดช ทรงเป็นต้นสกุล "ภาณุพันธุ์" ส่วนจอมพลคนแรกในระบอบประชาธิปไตย คือ จอมพลป. พิบูลสงคราม และคนสุดท้ายที่ดำรงตำแหน่งจอมพลในระบอบประชาธิปไตยคือ จอมพลประภาส จารุเสถียร เมื่อวันที่ ๑๘ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๑๖ (สำหรับพระมหากษัตริย์จะทรงดำรงตำแหน่ง "จอมทัพไทย")
-ผู้ประพันธ์เพลงชาติไทยในปัจจุบัน คือ พระเจนดุริยางค์ (ปิติ วาทยากร) เป็นผู้แต่งทำนอง และหลวงสารานุประพันธ์ (นวล ปาจิณพยัคฆ์) เป็นผู้แต่งเนื้อร้อง เมื่อพ.ศ. ๒๔๘๓
-ผู้ที่คิดฝนเทียม หรือ ฝนหลวง ขึ้นเป็นครั้งแรกในเมืองไทยคือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพล
อดุลยเดชมหาราช โดยได้ทรงค้นคิดและวิจัยมาตั้งแต่ปีพ.ศ. ๒๔๙๘ และทรงถ่ายทอดแนวพระราชดำริและผลการวิจัยแก่ม.ร.ว.เทพฤทธิ์ เทวกุล วิศวกรผู้เชี่ยวชาญทางการเกษตร จนมีการทำฝนหลวงพระราชทานครั้งแรกในปีพ.ศ. ๒๕๑๒
-มกุฎราชกุมารพระองค์แรกที่ทรงเข้าศึกษาในโรงเรียนเสนาธิการทหารบกคือ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร
-สมเด็จเจ้าฟ้าพระองค์แรกที่สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยของประเทศไทย คือ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยทรงจบอักษรศาสตร์บัณฑิต เกียรตินิยมอันดับ ๑ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเมื่อปีพ.ศ. ๒๕๑๙
-คนไทยคนแรกที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติคือ พลตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๙๙
-ผู้นำไทยคนแรกที่ได้รับรางวัลแมกไซไซ คือนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ ๑๘ ของไทย ได้รับในสาขางานบริการภาครัฐบาล ประจำปีพ.ศ. ๒๕๔๐
ทั้งหมดนี้คือส่วนหนึ่งในหนังสือดังกล่าว ซึ่งหวังว่าจะทำให้ผู้อ่านและผู้สนใจได้รับความรู้เพิ่มขึ้น
........................................
อมรรัตน์ เทพกำปนาท กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม
เรียบเรียงจากหนังสือ ความรู้รอบตัว รอบรู้เรื่องเมืองไทย โดย ฝ่ายวิชาการชมรมเด็ก โทร.๐๒๘๗๑ ๗๕๔๒
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น