แท็กซี่ซีเจ็ด
เรื่องจริงจากประสบการณ์ตรง ถ่ายทอดโดยนักเขียนหน้าใหม่โนเนมในรูปเรื่องสั้นเป็นตอน ๆ
ผู้เข้าชมรวม
1,306
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ทำไมต้องขับแท็กซี่
ก็ |
ใช้เวลานานพอสมควร กว่าที่จะตัดสินใจได้เด็ดขาดว่าจะขับแท็กซี่เพื่อหาเงินลำไพ่เป็นพิเศษ ทั้งนี้เพราะเหตุว่า ไม่ได้รับการสนับสนุนจากที่บ้านและคนรอบข้าง ไม่สนับสนุนอย่างเดียวยังไม่พอ แถมคัดค้านอย่างรุนแรงอีกต่างหาก เพราะเขาเป็นห่วงเรานะเอง กลัวสารพัด ซึ่งก็ควรจะกลัวอยู่หรอก เพราะมีข่าวอยู่เนือง ๆ ว่า แท็กซี่ถูกจี้บ้าง ถูกฆ่าชิงรถบ้าง ถูกสิบล้อชนบ้างสารพัด
แต่ผมกลับคิดว่า มันคงจะไม่ทุกคนหรอกน่า แท็กซี่มีเป็นหมื่น ๆ แสน ๆ คัน ก็ต้องมีบ้างหรอกน่า คิดเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วก็ไม่เท่าไรหรอก ถ้าหากโดนเราก็นับว่าเป็นเรื่องของ “ บุญกรรม ” ก็แล้วกัน
“ เพราะอยากหาประสบการณ์ให้แก่ชีวิต ”
เป็นคำตอบข้อที่หนึ่ง
“ อยากศึกษาชีวิตของแท็กซี่ว่าเป็นอย่างไร มีรายได้พอจะทำเป็นอาชีพเสริมได้หรือไม่ ? ”
เป็นคำตอบข้อที่สอง
ผมใฝ่ฝันมานานแล้วที่จะขับแท็กซี่หาลำไพ่ให้แก่ตัวเอง ถึงกับแอบไปทำใบขับขี่สาธารณะและบัตรประจำตัวคนขับไว้เป็นเวลาหลายปี
และเคยคิดจะออกรถแท็กซี่ส่วนบุคคล ถึงขั้นไปขอจดทะเบียนจากกรมการขนส่งทางบกได้เลขทะเบียนมาแล้ว กะว่าจะกู้เงินสหกรณ์มาดาวน์สักแสนสองแสนแล้วค่อยขับผ่อนไป ไม่นานคงจะหลุดเป็นของตัวเอง แต่ก็ถูกคัดค้านอย่างรุนแรงจากแม่บ้าน
เพราะกลัวจะถูกยึดรถเอานะซี
" อายุอานามก็ปูนนี้แล้ว หูตาก็ไม่ดี จะขับไหวหรือ " เป็นคำพูดคัดค้านของแม่บ้าน
" จะขับเฉพาะกลางวันเท่านั้น " ผมแย้ง
" งั้นไปเช่าเขาขับดูก่อน มีประสบการณ์แล้วค่อยว่ากันทีหลัง " เธอหลุดปากอนุญาตในวันหนึ่ง เพราะทนผมเซ้าซี้ไม่ได้
เหตุผลประการสำคัญที่สุดที่ผมอยากขับแท็กซี่หาลำไพ่พิเศษ ก็เพราะเหตุผลทางเศรษฐกิจ ถึงแม้ว่าผมจะเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ระดับเจ็ดก็ตาม ถึงกระนั้นเงินเดือนสุทธิหลังจากหักโน่นหักนี่แล้ว
มันจะพอเลี้ยงลูกสามคนซึ่งกำลังกินกำลังเรียน และเมียหนึ่งซึ่งก็ทำงานเป็นลูกจ้างชั่วคราวเงินเดือนไม่ถึงห้าพันบาท ได้อย่างไร
จริงอยู่ผมมีรายได้อย่างอื่นมาเสริมบ้าง จากการสอนพิเศษบ้าง สอน กศน.บ้าง หรือแม้แต่เป็นตัวแทนขายประกัน
แต่ก็ยังไม่พอกับค่าใช้จ่ายอยู่ดี แถมยังมีหนี้สินนุงนัง ก็เลยคิดว่า ตัวเองยังมีมันสมอง สองมือ กำลังวังชาก็พอไหว การขับแท็กซี่ก็เป็นอาชีพที่สุจริต ไม่เห็นจะผิดและน่ารังเกียจตรงไหน จะคอยรอให้ใครมาปลดหนี้ปลดสินให้
เราก่อเองก็ต้องหาทางแก้ไขเอง
หากจะมีคำถามว่า “ ทำไมต้องสร้างหนี้สร้างสินไว้มากมาย ? ”
มันเป็นการยากมากที่จะตอบให้เข้าใจด้วยคำพูดเพียงไม่กี่ประโยค ก็ยอมรับว่า ส่วนหนึ่งมาจากการที่เราอยู่ในสังคมทุนนิยม ย่อมจะมีความอยากได้ใคร่ดี อยากมีอะไร ๆ เหมือนที่คนอื่นเขามี เมื่อเรามีเรื่องใช้จ่ายมากก็ต้องพยายามหาให้มาก
ไม่มีใครอยากเป็นหนี้หรอก หากไม่มีความจำเป็น
ตระเวนหาอู่ที่เหมาะสมอยู่เป็นเวลานานกว่าจะถูกใจ คือ ใกล้บ้านที่สุด สะดวกที่สุด เงื่อนไขดีที่สุด ถึงแม้ว่าจะมีอู่รถอยู่เป็นจำนวนมากก็จริง แต่ว่าแต่ละอู่ต่างก็มีเงื่อนไขที่หินมากจนรับไม่ได้ เช่น จะต้องเช่าสองกะควบ ในราคาวันละละ 750 บาท ให้รถมาอยู่กับเราตลอด 24 ชั่วโมง จะขับอย่างไรก็แล้วแต่ ขอให้มีเงินจ่ายวันละ 750 เป็นใช้ได้ แต่ผมต้องการขับเฉาะกลางวัน วันหยุดเท่านั้น จึงรับเงื่อนไขนี้ไม่ได้
บางอู่ค่าเช่าไม่แพงมากนัก เพียง 350 – 450 ต่อกะ แต่สภาพรถนั้นเหมือนเศษเหล็กวิ่งได้ รถเก่าซอมซ่อ จะหมดอายุใช้งานแล้ว ผู้โดยสารก็ไม่เรียก
ถ้ารถใหม่เอี่ยมก็ 700 ขึ้น บางอู่ก็ ( หลอก ) ระบายรถเก่าออกไป โดยให้เช่าซื้อ เช่น ดาวน์ 20,000 – 100,000 บาท แล้วผ่อนส่งวันละ 400 กว่าบาท สามปีรถก็เป็นของเรา แต่เมื่อครบสามปีรถก็เกินกำหนดที่จะใช้เป็นแท็กซี่ได้เสียแล้ว ต้องทำเป็นรถบ้านอย่างเดียว แต่ผมก็ยังขับไม่ได้อยู่ดี เพราะขับทุกวันไม่ได้ ต้องการขับเฉพาะวันหยุดเท่านั้น พูดง่าย ๆ ก็คือต้องการความอิสระจริง ๆ คืออยากขับก็ขับ อยากหยุดก็หยุด แล้วอู่ไหนละจะให้ขับ นอกจากอู่ที่มีรถจอดอยู่เฉย ๆ ซึ่งอู่เช่นว่านี้ ต้องมาจากสองสาเหตุด้วยกัน คือ หนึ่งสภาพรถแย่มากจนไม่มีใครกล้าขับ สองเขื่อนไขมหาโหดจนคนขับอยู่ไม่ได้
ในที่สุด ผมก็ไปพบอู่ที่เข้าสเป๊คทุกอย่าง อยู่ไม่ใกลจากที่พักมากนัก เพียงนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างไป 10
บาทก็ถึงอู่แล้ว มีรถจอดวันละหลายคัน โดยเฉพาะเงื่อนไขหลัก คืออยากขับเมื่อไร อยากหยุดเมื่อไรก็ได้ สภาพรถก็ไม่โทรมมากนัก ผมจึงรีบวางมัดจำทันที ต่อจากนี้ไปเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับผมทั้งสิ้น
ท่านที่สนใจอยากรู้เรื่องราวของแท็กซี่สมัครเล่นของผมโปรดตามมา
ผลงานอื่นๆ ของ บุญช่วย มีจิต ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ บุญช่วย มีจิต
ความคิดเห็น