แท็กซี่ซีเจ็ด - นิยาย แท็กซี่ซีเจ็ด : Dek-D.com - Writer
×

    แท็กซี่ซีเจ็ด

    เรื่องจริงจากประสบการณ์ตรง ถ่ายทอดโดยนักเขียนหน้าใหม่โนเนมในรูปเรื่องสั้นเป็นตอน ๆ

    ผู้เข้าชมรวม

    1,306

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    1.3K

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  1 ก.ย. 66 / 17:57 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ


    ทำไมต้องขับแท็กซี่

         ก็

     

    ใช้เวลานานพอสมควร  กว่าที่จะตัดสินใจได้เด็ดขาดว่าจะขับแท็กซี่เพื่อหาเงินลำไพ่เป็นพิเศษ  ทั้งนี้เพราะเหตุว่า  ไม่ได้รับการสนับสนุนจากที่บ้านและคนรอบข้าง  ไม่สนับสนุนอย่างเดียวยังไม่พอ  แถมคัดค้านอย่างรุนแรงอีกต่างหาก  เพราะเขาเป็นห่วงเรานะเอง  กลัวสารพัด ซึ่งก็ควรจะกลัวอยู่หรอก  เพราะมีข่าวอยู่เนือง  ๆ ว่า  แท็กซี่ถูกจี้บ้าง  ถูกฆ่าชิงรถบ้าง ถูกสิบล้อชนบ้างสารพัด

     แต่ผมกลับคิดว่า   มันคงจะไม่ทุกคนหรอกน่า    แท็กซี่มีเป็นหมื่น ๆ แสน ๆ คัน ก็ต้องมีบ้างหรอกน่า  คิดเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วก็ไม่เท่าไรหรอก  ถ้าหากโดนเราก็นับว่าเป็นเรื่องของ บุญกรรม  ก็แล้วกัน

                    เพราะอยากหาประสบการณ์ให้แก่ชีวิต

    เป็นคำตอบข้อที่หนึ่ง

                    อยากศึกษาชีวิตของแท็กซี่ว่าเป็นอย่างไร มีรายได้พอจะทำเป็นอาชีพเสริมได้หรือไม่ ? ”

    เป็นคำตอบข้อที่สอง 

     ผมใฝ่ฝันมานานแล้วที่จะขับแท็กซี่หาลำไพ่ให้แก่ตัวเอง  ถึงกับแอบไปทำใบขับขี่สาธารณะและบัตรประจำตัวคนขับไว้เป็นเวลาหลายปี

     และเคยคิดจะออกรถแท็กซี่ส่วนบุคคล   ถึงขั้นไปขอจดทะเบียนจากกรมการขนส่งทางบกได้เลขทะเบียนมาแล้ว  กะว่าจะกู้เงินสหกรณ์มาดาวน์สักแสนสองแสนแล้วค่อยขับผ่อนไป  ไม่นานคงจะหลุดเป็นของตัวเอง    แต่ก็ถูกคัดค้านอย่างรุนแรงจากแม่บ้าน  

    เพราะกลัวจะถูกยึดรถเอานะซี

                    "  อายุอานามก็ปูนนี้แล้ว  หูตาก็ไม่ดี  จะขับไหวหรือ "     เป็นคำพูดคัดค้านของแม่บ้าน

    "  จะขับเฉพาะกลางวันเท่านั้น "      ผมแย้ง

                    "  งั้นไปเช่าเขาขับดูก่อน  มีประสบการณ์แล้วค่อยว่ากันทีหลัง "  เธอหลุดปากอนุญาตในวันหนึ่ง  เพราะทนผมเซ้าซี้ไม่ได้ 

    จึงเป็นที่มาของแท็กซี่ซีเจ็ดในครั้งนี้

                    เหตุผลประการสำคัญที่สุดที่ผมอยากขับแท็กซี่หาลำไพ่พิเศษ  ก็เพราะเหตุผลทางเศรษฐกิจ  ถึงแม้ว่าผมจะเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ระดับเจ็ดก็ตาม  ถึงกระนั้นเงินเดือนสุทธิหลังจากหักโน่นหักนี่แล้ว 

    เหลือไม่กี่พันบาทเท่านั้นเอง

     มันจะพอเลี้ยงลูกสามคนซึ่งกำลังกินกำลังเรียน  และเมียหนึ่งซึ่งก็ทำงานเป็นลูกจ้างชั่วคราวเงินเดือนไม่ถึงห้าพันบาท  ได้อย่างไร 

    จริงอยู่ผมมีรายได้อย่างอื่นมาเสริมบ้าง  จากการสอนพิเศษบ้าง สอน กศน.บ้าง หรือแม้แต่เป็นตัวแทนขายประกัน

      แต่ก็ยังไม่พอกับค่าใช้จ่ายอยู่ดี  แถมยังมีหนี้สินนุงนัง  ก็เลยคิดว่า  ตัวเองยังมีมันสมอง สองมือ  กำลังวังชาก็พอไหว  การขับแท็กซี่ก็เป็นอาชีพที่สุจริต ไม่เห็นจะผิดและน่ารังเกียจตรงไหน  จะคอยรอให้ใครมาปลดหนี้ปลดสินให้ 

    เราก่อเองก็ต้องหาทางแก้ไขเอง

    หากจะมีคำถามว่า   ทำไมต้องสร้างหนี้สร้างสินไว้มากมาย  ? ” 

    มันเป็นการยากมากที่จะตอบให้เข้าใจด้วยคำพูดเพียงไม่กี่ประโยค  ก็ยอมรับว่า  ส่วนหนึ่งมาจากการที่เราอยู่ในสังคมทุนนิยม  ย่อมจะมีความอยากได้ใคร่ดี  อยากมีอะไร ๆ เหมือนที่คนอื่นเขามี  เมื่อเรามีเรื่องใช้จ่ายมากก็ต้องพยายามหาให้มาก  

    ไม่มีใครอยากเป็นหนี้หรอก  หากไม่มีความจำเป็น

                    ตระเวนหาอู่ที่เหมาะสมอยู่เป็นเวลานานกว่าจะถูกใจ คือ ใกล้บ้านที่สุด  สะดวกที่สุด  เงื่อนไขดีที่สุด  ถึงแม้ว่าจะมีอู่รถอยู่เป็นจำนวนมากก็จริง  แต่ว่าแต่ละอู่ต่างก็มีเงื่อนไขที่หินมากจนรับไม่ได้ เช่น  จะต้องเช่าสองกะควบ  ในราคาวันละละ  750  บาท ให้รถมาอยู่กับเราตลอด  24  ชั่วโมง จะขับอย่างไรก็แล้วแต่  ขอให้มีเงินจ่ายวันละ  750  เป็นใช้ได้  แต่ผมต้องการขับเฉาะกลางวัน  วันหยุดเท่านั้น  จึงรับเงื่อนไขนี้ไม่ได้

    บางอู่ค่าเช่าไม่แพงมากนัก  เพียง  350 – 450  ต่อกะ แต่สภาพรถนั้นเหมือนเศษเหล็กวิ่งได้ รถเก่าซอมซ่อ จะหมดอายุใช้งานแล้ว  ผู้โดยสารก็ไม่เรียก

     ถ้ารถใหม่เอี่ยมก็  700 ขึ้น  บางอู่ก็ ( หลอก ) ระบายรถเก่าออกไป  โดยให้เช่าซื้อ  เช่น ดาวน์ 20,000 – 100,000  บาท  แล้วผ่อนส่งวันละ  400  กว่าบาท สามปีรถก็เป็นของเรา  แต่เมื่อครบสามปีรถก็เกินกำหนดที่จะใช้เป็นแท็กซี่ได้เสียแล้ว  ต้องทำเป็นรถบ้านอย่างเดียว  แต่ผมก็ยังขับไม่ได้อยู่ดี   เพราะขับทุกวันไม่ได้  ต้องการขับเฉพาะวันหยุดเท่านั้น  พูดง่าย ๆ ก็คือต้องการความอิสระจริง  ๆ คืออยากขับก็ขับ  อยากหยุดก็หยุด   แล้วอู่ไหนละจะให้ขับ  นอกจากอู่ที่มีรถจอดอยู่เฉย ๆ  ซึ่งอู่เช่นว่านี้  ต้องมาจากสองสาเหตุด้วยกัน  คือ  หนึ่งสภาพรถแย่มากจนไม่มีใครกล้าขับ   สองเขื่อนไขมหาโหดจนคนขับอยู่ไม่ได้

                    ในที่สุด  ผมก็ไปพบอู่ที่เข้าสเป๊คทุกอย่าง  อยู่ไม่ใกลจากที่พักมากนัก  เพียงนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างไป 10

    บาทก็ถึงอู่แล้ว  มีรถจอดวันละหลายคัน  โดยเฉพาะเงื่อนไขหลัก คืออยากขับเมื่อไร  อยากหยุดเมื่อไรก็ได้  สภาพรถก็ไม่โทรมมากนัก   ผมจึงรีบวางมัดจำทันที  ต่อจากนี้ไปเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับผมทั้งสิ้น

    ท่านที่สนใจอยากรู้เรื่องราวของแท็กซี่สมัครเล่นของผมโปรดตามมา

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น