ความทรงจำ - ความทรงจำ นิยาย ความทรงจำ : Dek-D.com - Writer

    ความทรงจำ

    เมื่อวันครบรอบ ต้องเป็นวันที่ต้องสูญเสีย ฉันไม่สามราถแก้ไข้อะไรได้ นอกจากปล่อยเวลาให้ผ่านไป

    ผู้เข้าชมรวม

    49

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    49

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  19 พ.ย. 56 / 21:39 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    เมื่อฉันต้องสูญเสียของรักในวันครบ2ปี
    ฉันไม่สามมารถทำอะไรได้นอกจากช่วยให้เวลาพาเราไปยังอนาคตต่อไป
    ฉัน
    ถึงแม่จะโศกเศร้าเสียใจเมื่อวันนั้นหวนกลับมาถึงทุกๆ1วันทุกปี
    แต่มันก็ช่วยเตือนย้ำว่า
    วันนี้
    เคยเป็นวันที่ฉันดีใจ มีความสุข และเสียใจ มีความทุกข์
    ไปพร้อมๆกัน


     
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ความทรงจำ(Memory)

        โครม!!!~ สิ้นเสียงนั้น ร่างกายของฉันก็ร่วงหล่นบนพื้นฉับพลัน ฉันไม่รู้เลยว่ารอบกายของฉันตอนนี้ เกิดอะไรขึ้นบ้าง ทุกอย่างมันมือดมน ราวกับมีคนมาเอาอะไรปิดตาฉันไว้ ไม่ให้ต้องแสง

        ฉัน ในตอนนี้ไม่มีแม้ความรู้สึกใด ร่างกายไม่ขยับเขยื้อนไปไหน ความรู้สึกมันอึดอัด เหมือนกับมีใครมาเอาเชือกพันผุกรอบกายนี้ไว้ ฉันเมื่อยเหลือเกิน แต่สามารถขยับส่วนใดได้เลย

        เช้าวันต่อมา

        ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้น เช้านี้ฉันอาการรู้สึกแปลกๆ ร่างกายมันเบาโหวง เหมือนจะลอยได้อย่างนั้นก้ไม่ปาน ฉันก้าวเท้าลงมาจากเตียงนอน เพื่อจะไปล้างหน้าแปรงฟัน ทันทีที่ฉันเข้าไปในห้องน้ำ ฉันก็ส่องกระจก แล้วก็ต้องตกใจเมื่อพบว่า ใบหน้าฉันดูซีดมาก ไม่ต่างกับศพอะไรเลย

        ฉันเดินลงมาข้างล่าง พบว่าพ่อ แม่ นั่งอยู่ด้านล่าง ทุกคนหน้าตาดูซีดเซียว ไม่ต่างอะไรจากฉัน แม่ฉันใบหน้าดุหม่นหมอง และเศร้าโศกเสียใจ ราวกับร้องไห้มาทั้งคืน ฉันเดินผ่านท่านทั้งสองไปนั่งโซฟาอีกตัว ขระที่ฉันเดินผ่าน ท่านทั้งสองไม่แม่เหลียวตามามองฉันเลย ราวกับฉันไม่มีตัวตน ฉันไม่เข้าใจเลยว่าพวกท่านเป็นอะไร โกรธอะไรฉันอยู่รึป่าว

       สวัสดีครับป้านวล ลุงผ่อง ฉันหันไปตามเสียงก้พบว่าธีร์ (คนข้างบ้านที่ฉันแอบชอบ) เข้ามาในบ้าน และเอ่ยกล่าวทักทายพ่อกับแม่ฉัน แต่สายตาเขานั้นไม่คิดแลมามองฉันเลยสักนิด

       เราจะไปกันเลยมั้ยครับ ฉันแปลกใจ พวกเขาจะไปไหน ทำไมไม่มีใครบอกฉันเลย ตกลงฉันไม่มีตัวตนเลยใช่มั้ย ฉันชักจะไม่ชอบแล้วนะ 

      นี่พ่อค่ะ แม่ค่ะ จะไปไหนกัน ทำไมไม่เห็นบอกหนูเลยล่ะค่ะ ฉันกล่าวถามท่านทั้งสองออกไปอย่างทนไม่ได้

      ไปกันเถอะธีร์ ป้าอยากไปที่นั่นให้เร็วที่สุด แม่ไม่ได้ตอบฉัน แต่กับไปบอกให้นายธีร์ รีบพาไปที่ไหนสักแห่ง หน้าของแม่ดูร้อนใจ และแววตาที่หมองเศร้านั้น ทำให้ฉันสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้น ส่วนพ่อที่เอาแต่เงียบมาพักใหญ่ ไม่ได้เอะปากพูดอะไรออกมาเลย

      ครับป้า ไปกันครับลุง รีบไปกันเถอะครับ แล้วพวกเขาก็พากันเดินออกไป โดยปล่อยฉันไว้แบบนี้ ในเมื่อไม่มีใครสนใจ และไม่มีใครบอกว่าเขาไปไหนกัน ฉันก้ไม่สนหรอก 

       

        ฉันแอบตามพวกเขามา แล้วก้พบว่า พวกเขามาโรงพยาบาล ฉันงงมากว่าพวกเขามาทำอะไรกันที่นี่ ใครเป็นอะไร ทำไมพวกเขาดุร้อนใจกันเหลือเกิน

        ฉันเดินตามพวกเขาเข้าไป แล้วก็มาพบว่าพวกเขายืนอยู่หน้าห้อง คนไข้ VIP ห้องหนึ่ง "ใครกันนะ" ฉันกล่าวอยู่คนเดียว ทั้งๆที่อยากรู้แต่ก้ไม่อยากเดินไป กลัวพวกเขาจะหาว่าฉันแอบตามมา

        ขณะที่ฉันเฝ้ามองเขามาสักพัก ประตูห้องนั้นก็เปิดออก แม่ฉันรีบปรี่เข้าไปหาบุคคลที่เรียกว่า หมอ ทันที่ที่เขาเดินออกมาดดยใบหน้ากังวลใจเป็นยิ่ง

       หมอค่ะ เป็นไงบ้างค่ะ

       เอ่อ...

       ว่าไงครับหมอเป็นยังไงบ้าง พ่อที่เอาแต่เงียบ ไม่เห็นจะพูดอะไร บัดนนี้เขามีทีท่าดูกังวลมาก

       เอ่อ คือว่า..

       หมออออ เป็นไง บอกเถอะหมอ หมอ หมอ

       ครับ ผมเสียใจด้วย ทันทีที่หทอกล่าวจบ ร่างกายแม่ฉันก็ทรุดฮวบหล่นลงมาทันที

         ฉันไม่เข้าใจเลยว่า แม่จะเสียใจอะไรขนาดนั้น ฉันทนไม่ได้ จึงรีบเดินเข้าไปหา แต่ก้ถุกพ่อ และนายธีร์หามเข้าไปในห้องนั้น โดยหมอก็เดินตามเข้าไปฉันรีบเร่งฝีเท้าตามเข้าไปทันที ก่อนที่ฉันเองก็

      ฟุ่บ!!~ ร่างกายฉันทรุดฮวบลงทันทีที่เห็นบุคคลนอนนิ่งราวกับไร้วิณญาณบนเตียงนั้น ปากฉันสั่นราวกับหนาวสั่น แต่ไม่ใช่ ฉันพยายามจะถามในสิ่งที่ตัวเองอยากถาม แต่ไม่สามารถกล่าวอะไรได้เลย ตอนนี้ ฉันไม่อยากรับรู้อะไร มันเหมือน แต่มันคือความจริง และแล้วทุกอย่างก็มืดมนอีกครั้ง และฉันก็ไม่สามารถรับรู้อะไรได้อีกเลย

       เอื้อยๆ เอื้ยๆ ~ ฉันลืมตาขึ้นมา ก่อนจะพบว่า แม่และพ่อฉัน กำลังยืนมองจ้องฉันตาไม่กระพริบ

       เป้นไงบ้าง เป็นอะไรรึป่าว 

       แม่ค่ะ พ่อค่ะ ฉันน้ำตาไหลพรากทันที ที่เห็นหน้าท่าทั้งสอง

       ไม่เป็นไรนะลุก แม่ขอโทษที่ไม่ได้บอกลุก แม่ไม่อยากให้ลุกรับรู้เรื่องนี้

       น้ำตา ฉันยังไหลมาอย่างไม่ขาดสาย ฉันเดินออกมาจากพัก โรงพยาบาล ก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องนั้นอีกครั้ง และฉันก้พบธีร์ยืนอยู่ขอบเตียงนั้น เมื่อฉันเห็นภาพตรงหน้าอีกครั้ง ฉันก็แทบจะล้มลงไปอีกครั้ง ขามันอ่อนไปหมด จนธีร์ต้องรีบมาประคอง ฉันไม่อยากเชื่อสายตาเลยว่า ภาพบุคคลตรงหน้า ที่นอนแน่นิ่งไม่หายใจ จะเป็นคนที่ฉันรักมากที่สุด เข้าคือธีร์ คนเดียวกับคนที่ยืนประคองร่างฉันนั้นเอง

       แต่ความจริงแล้ว มันไม่ใช่ เขาที่นอนนั้นคือธีร์น่ะถุกแล้ว ส่วนคนที่ยืนประคองฉันอยู่เขาคือธันย์ พี่ชายฝาแฝดของธีร์ต่างหาก

       พี่ธันย์ ฉันเอ่ยปาก พลางมองคนข้างกายฉันด้วยสายตาร่ำไห้ ทันทีที่เขาได้ยิน น้ำตาที่กลั้นไว้นานเพียงใดไม่รู้ ได้ถูกปล่อยให้ไหลงมา

       พี่ขอโทษนะเอื้อย เขากล่าวออกมา ฉันพอจะเข้าใจความหมายนั้นได้ฉันพยักให้เขา แล้วหันไปมองคนบนเตียงแทน

        แล้วภาพในเย็นวันนั้นได้ย้อยคืนสู่ฉันอีกครั้ง

       จะไปไหนต่อรึป่าว

       ไม่หล่ะ จะค่ำแล้ว กลับบ้านกันเถอะนะธีร์

       อะอื้ม ฉันกับธีร์ เราทั้งคู่ออกไปเที่ยวด้วยกันในวั้นนั้น เพราะเป็นวันครบรอบ2ปีที่เราคบกัน

       แวะทานอะไรหน่อยไหม

      ไม่ไดีกว่าธีรืเดี๋ยวเอื้ยไปทานพร้อมพ่อ และแม่ดีกว่า ฉันตอบพลางส่งยิ้มให้เขา ซึ่งเขาก็ยิ้มตอบให้ฉัน

      ปะ ไม่มีรถละ เรารีบข้ามกันเถอะ ธีรืเอ่ย พลางจูงมือฉันข้ามถนนไปด้วยกัน แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ก็เกิดขึ้นกับฉันและเขา รถยนต์คันหนึ่งวิ่งมาด้วยความเร็วสูง แต่เสียหลักพุ่งข้ามเกาะกลางถนน พุ่งตรงมาทางฉันกับธีร์ ธีรืพยามผลักฉันให้กระเด็นออกไปจากบริเวณนั้น แล้วเหตุการณ์นั้น ก็พลันสลายหายไป พร้อมกับร่างของฉันที่ไม่เห็นภาพอะไรเหล่านั้นอีกแล้ว

        วันครบรอบ2ปีของเราทั้งสอง ฉันจะเสียใจ ดีใจ มีความสุข มีความทุกข์ หัวเราะ ร้องไห้ ได้ของขวัญ และเสียเขาไป ในวันนี้ ทุกๆปีที่ผ่านพ้นไป เมื่อถึงวันนี้อีกครั้ง มันก้พลันให้ฉันร่ำไห้อีกครั้งหนึ่ง ที่ีผ่านมาฉันจะเก็บเอาไว้เป็นความทรงจำดีๆเสมอ ฉันจะรักเขาตลอดไป

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×