กาลครั้งหนึ่งของสงคราม

ข้อมูลเบื้องต้น

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีน้ำตกที่เมื่อแสงของพระอาทิตย์ส่องลงมาที่น้ำ สีของน้ำตกจะส่องแสงปนะกายแวววาวราวกับอัญมณี ทุกคนจึงตั้งชื่อน้ำตกแห่งนี้ว่า น้ำตกแลมเบท* นอกจากนี้ทุกคนต่างก็เชื่อว่าน้ำตกแลมเบทนั้นเป็นส่วนหนึ่งของน้ำตกแห่งสรวงสวรรค์ในตำนานกราซีเนีย* ทำให้เกิดการอ้างสิทธิ์ว่าน้ำตกแห่งนี้เป็นของตนจนสร้างความขัดแย้งระหว่างมนุษย์ด้วยกัน  แม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าไรความขัดแย้งนี้ก็ไม่มีที่ท่าจะเบาลง จนสุดท้ายก็เกิดสงครามเพื่อแย่งน้ำตกแลมเบท มีคนจำนวนมากที่ต้องตายไปเพราะเรื่องเพียงแค่นี้ พ่อแม่สูญเสียลูก ภรรยาสูญเสียสามี เด็กน้อยสูญเสียพ่อแม่ ความสุขในวันวานเปลี่ยนเป็นความทรมานในตอนนี้ หลังจากทำสงครามกันมาอย่างยาวนานสุดท้ายก็ไม่มีฝ่ายใดชนะ ต่างฝ่ายต่างก็ถอยกลับไป ความสูญเสียที่เกิดขึ้นช่างมากมายแต่สิ่งที่จะได้รับกลับมาขึ้นเวลาที่จะต้องทนอยู่กับมัน
มนุษย์คนหนึ่งเคยกล่าวไว้ว่า สงครามีแต่ความสูญเสีย
แต่ว่าสงครามมีแต่ความสูญเสียจริงๆเหรอ? ลองคิดดูสิหากไม่มีสงครามเจ้าก็ไม่มีที่อยู่ แผ่นดินของเจ้าจะถูกแย่งชิง หากไม่มีข้าวกินเจ้าก็ต้องทำสงครามเพื่อประทังชีวิต หากไม่มีสงครามเจ้าคงไม่สะดวกสบายเท่าตอนนี้
สงครามที่มีแต่ความสูญเสีย คือสงครามที่เจ้าไม่ได้ประโยชน์จากมันเลยต่างหาก



น้ำตกแลมเบท ( lambent) มีความหมายว่า น้ำตกเรืองแสง
 
ตำนานกราซีเนีย เป็นตำนานที่คนเขียนสมมุติขึ้นมา กล่าวถึงก่อนที่จะมีมนุษย์เกิดขึ้นมาเคยมีเหล่าเทพเจ้าอาศัยอยู่ โดยมีเทพเจ้าสูงสุดเป็นผู้ปกครองเหล่าเทพเจ้าอีกที ต่อมาเทพเจ้าสูงสุดได้สร้างมนุษย์ขึ้นมาและค่อยดูแล เหล่าเทพเจ้าต่างก็ไม่พอใจที่เทพเจ้าสูงสุดดูแลเอาใจใส่พวกมนุษย์มากกว่าพวกตน และมนุษย์ก็ไม่ชอบเทพเจ้าเช่นเดียวกันเพราะเหล่าเทพเจ้าชอบมองพวกมนุษย์ด้วยสายตาที่เหมือนมองเศษขยะเน่าๆรวมทั้งยังชอบพูดจาโอ้อวดตน จากความไม่ชอบหน้าของทั้งสองฝ่ายสุดท้ายจึงเกิดสงคราม เทพเจ้าสูงสุดมิอาจหยุดสงครามนี้ได้สุดท้ายจึงใช้พลังตนเองแยกแผ่นดินออกมาเป็นดินแดนของมนุษย์และดินแดนเทพ และตัดขาดการสื่อสารระหว่างมนุษย์กับเทพอีก

น้ำตกแห่งสรวงสวรรค์เป็นน้ำตกที่อยู่ในตำนานกราซีเนีย น้ำตกแห่งนี้เกิดจากเทพีแห่งสายน้ำและเทพีแห่งอัญมณีหลงรักกัน จึงได้สร้างน้ำตกที่เมื่อนำน้ำของน้ำตกไปอาบแสงพระจันทร์ 7 วัน 7 คืน น้ำจะกลายเป็นอัญมณีเม็ดงาม เป็นสัญลักษณ์แห่งความรักของทั้งสอง