ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SEXY! Billionaire 'CHANBAEK FT. HH♡

    ลำดับตอนที่ #9 : CHAP. VIII ϟ it's okay it's love

    • อัปเดตล่าสุด 7 พ.ย. 57





    เวลามักจะผ่านไปเร็วเสมอทุกครั้งที่เราอยู่ด้วยกัน

    คงพูดไม่ได้ว่าจะรักไปได้นานขนาดไหน

    แต่จะขอดูแลและห่วงใยแบบนี้ไปตลอดชีวิต

     

     

    ----------------------------------------------------

     

     

    C H A P T E R  8

     

     

     

                แบคฮยอนตัดสินใจปิดร้านในช่วงเช้าก่อนจะจัดเตรียมของขวัญสุดพิเศษให้พนักงานดีเด่นอย่างลู่หานแถมยังเผื่อแผ่ไปยังคยองซูอีกด้วย ทั้งสองเองก็เหมือนน้องชายเขานั่นแหล่ะ ..

     

     

                “เชิญครับ” สารถีกิตติมาศักดิ์มาถึงก็เปิดประตูรถให้อย่างสุภาพบุรุษ

     

     

                “ขอบคุณครับ” แบคฮยอนก้มพลางเอ่ยขอบคุณเบาๆ ในลำคออย่างไม่เต็มเสียงนัก รู้สึกแปลกๆ อีกแล้ว ความอ่อนโยนของชานยอลเขาไม่เคยห้ามใจเต้นกับมันได้เลย..

     

     

     

                สายตาหลากหลายของทั้งชายและหญิง โดยเฉพาะคนที่ชอบสะสมรถจับจ้องไปยังรถคันหรู ที่ขับเข้ามายังตัวมหาลัย.. ชาตินี้ทั้งชาติจะได้รถแบบนี้มาครอบครองบ้างมั้ยนะ และเมื่อประตูรถถูกเปิดออกมากลายเป็นแบคฮยอนที่นั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถเหล่าบรรดาลูกค้าคุ้นเคยต่างก็อ้าปากค้างเป็นแถว

     

     

     

                ก็พอรู้ว่ามีนักธุรกิจตามจีบ แต่ไม่คิดว่าจะขนาดนี้ .. ไม่มีใครคิดว่าจะเป็นปาร์คชานยอล

     

     

     

                แบคฮยอนหลบเลี่ยงสายตาอย่างอายๆ เมื่อรู้ว่าโดนจ้องมองแปลกๆ  ก่อนจะมองหาลู่หานและคยองซู เมื่อเจอเป้าหมายเพียงลำพังเขาเองก็ต้องแปลกใจ

     

     

                “ยินดีด้วยนะลู่หาน นี่ของขวัญจากพี่”

     

     

                “ขอบคุณมากเลยครับ นอกจากพี่แล้วผมก็ไม่มีใครมาเลยนะเนี่ย แม่ไม่ว่างน้องยังเล็กท่านไม่อยากนั่งเครื่องมาหา” ลู่หานกล่าวยิ้มๆ อย่างไม่คิดอะไร หากแต่แบคฮยอนรู้ดีว่าเรื่องนี้เป็นใครก็เจ็บ เขาผ่านมันมาแล้ว ..

     

     

                มือเล็กบีบมือรุ่นน้องเบาๆ ก่อนจะส่งยิ้มให้พลางถามเปลี่ยนเรื่องไป

     

     

                “เอาน่า พี่ก็เป็นครอบครัวเราไง เหมือนๆ กันเนอะ แล้วคยองซูไปไหนซะละเห็นตัวติดกันจะตายไป”

     

     

                “โน่น สวีทกับแฟนอยู่ตรงนั้นแหล่ะครับ” ลู่หานว่าบุ้ยหน้าไปทางสวนเล็กๆ คนสองคนกำลังเดินจับจูงกันมาจากที่ไกลๆ พลางยู่ปากเล็กๆ ด้วยอารมณ์หมั่นไส้เพื่อนรักที่ดูจะสีชมพูซะเหลือเกิน “สวัสดีครับพี่ชานยอล” ก่อนจะโค้งหัวทักชานยอลที่เพิ่งเดินตามมาสมทบกับแบคฮยอนติดๆ

     

     

                “คยองซูก็โตแล้วนี่นา” ชานยอลเลิกคิ้วอย่างสนใจ เขารู้จักคยองซูตั้งแต่ตัวเองอายุสิบขวบ ซึ่งมันก็น่าแปลกพอสมควรเมื่อเห็นเด็กน้อยตัวเท่าเปี๊ยกวันนั้นกำลังโตขึ้นพร้อมทั้งมีคนเคียงข้าง เขาเองก็กลัวว่าน้องเพื่อนจะถูกหลอกเหมือนที่เขาหลอกคนอื่น ..

     

     

                เมื่อดวงตากลมโตมองเห็นชานยอลอยู่ไกลๆ จึงคุยกับแฟนหนุ่มสองสามประโยคพร้อมทั้งเดินผละแยกออกมา

     

     

                “น้องเขาก็โตตั้งนานแล้วนะครับ” เป็นแบคฮยอนที่หัวเราะให้กับประโยคของชานยอล เขาว่าเจ้าชู้มักจะหวงน้อง ดูท่าจะจริงแฮะ

     

     

                “เดี๋ยวผมมานะครับ ไปหาพวกนู้นก่อน” ลู่หานพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าเพื่อนกลุ่มหนึ่งกวักมือเรียกจากที่ไกลๆ

     

     

                “ลู่หานไปไหนแล้วล่ะครับ” คยองซูที่เดินหน้ามึนเข้ามาเมื่อเห็นว่าเพื่อนเดินหายไป

     

     

                “ไปหาเพื่อนตรงนู้นแล้ว ยินดีด้วยนะคยองซู” แบคฮยอนชี้ไปทางลู่หาน ก่อนจะแสดงความยินดีด้วยรอยยิ้มหวานๆ

     

     

                “ไงเรา ยินดีด้วยนะ” เป็นชานยอลที่เอ่ยต่อ

     

     

                “ขอบคุณมากครับ พี่ชานยอลมาแทนพี่เซฮุนใช่มั้ย L” ใบหน้าเล็กยู่ปากอย่างน่ารักโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัวเลย

     

     

                “ฮ่าๆ ยังไงพี่ก็มาอยู่แล้วน่า น้องทั้งคน”

     

     

                “นั่นสิ ทำไมพี่เซฮุนไม่คิดแบบนี้บ้างนะ!” ว่าไปพลางก็นึกเปรียบเทียบกับพี่ชายอีกคน ที่เอะอะๆ เรื่องงานก็มักจะมาก่อนเสมอ

     

     

                “เอาน่า พี่มาแทนแล้วนี่ไงหล่อกว่ามันอีก”

     

     

                “โห่กล้า แล้วไปไงมาไงถึงมากับพี่แบคฮยอนได้ละครับ ตัวติดกันเชียว”  คยองซูว่าพลางทำหน้าตาล้อเลียน

     

     

                “มีแฟนแล้วเซี้ยวใหญ่เชียวนะเรา กับเด็กนั่นเซฮุนรู้มั้ย” ชานยอลทำเป็นไม่ได้ยินคำของคยองซูก่อนจะวกประเด็นเข้าเจ้าตัวเล็กเต็มๆ จะมาเทียบชั้นกับปรมาจารย์อย่างเขา เร็วไปสิบปี..

     

               

                “ไม่บอกหรอก แบร่”

     

     

                “พี่ฟ้องมันแน่”

     

     

                “ผมก็จะฟ้องเหมือนกันว่าพี่ชานยอลหนีลัทธิเจ้าชู้มาเกี้ยวพาราสีกับพี่ชายใจดีเจ้าของร้านกาแฟ” คยองซูพูดอย่างเป็นต่อ เขารู้ดีว่าเซฮุนกับชานยอลหวงแหนความโสดด้วยกันมากขนาดไหน ท่ามีใครสักคนทิ้งไปนี่คงโวยวายกันน่าดู ..

     

     

                โดยที่ไม่สนใจเลยสักนิดว่าหน้าของแบคฮยอนแดงแทบจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว

     

     

     

     

     

     

    - - -  t r u s t m e  - - -

     

     

     

     

     

     

     

                วันรับปริญญาเป็นวันที่ใครต่างก็เฝ้ารอคอยให้คุ้มค่าเหนื่อยกับที่เรียนมาตลอดชีวิต ไม่เว้นแม้แต่คยองซูหรือลู่หานที่พยายามช่วยกันเข็นจนหืดขึ้นคอ ในที่สุดวันนี้ก็มาถึงเสียทีความพยายามที่เพียรมาทั้งหมดไม่สูญเปล่าแล้ว

     

     

     

                ด้านคยองซูคงไม่มีอะไรน่าห่วงอีกต่อไป ที่บ้านทั้งรักทั้งหวงแหนเสียขนาดนั้นไหนจะมีบริษัทของครอบครัวอีก เผลอๆ พี่เซฮุนของเจ้าตัวคงไม่ให้ทำงานด้วยซ้ำ แต่กับลู่หานไม่เหมือนกัน ถึงแม้ที่บ้านจะพอมีพอกินแต่ก็ไม่ใช่เงินของเขามันเป็นเงินของครอบใหม่แม่ที่เขาไม่ควรใช้ อีกอย่างนี่ก็เรียนจบแล้วจะให้ใช้เงินแม่ต่อไปเขาเองก็ละอายใจเกินจะทำ เห็นทีคงต้องเริ่มต้นหางานทำได้แล้ว

     

     

     

                หลังจากนี้ไม่รู้ว่าเส้นทางชีวิตลู่หานจะเป็นยังไง อาจจะเจอเจ้านายจอมเอาแต่ใจขี้เหวี่ยงขี้วีน เพื่อนทำงานขี้นินทาหรืออะไรก็แล้วแต่ ก็หวังว่าเขาคงจะไม่โชคร้ายขนาดนั้น อย่างน้อยการเรียนจบก็ถือได้ว่าเขาก้าวผ่านจุดสำคัญของชีวิตจุดหนึ่งมาได้แล้วลู่หานอดคิดอย่างภูมิใจในตัวเองไม่ได้

     

     

     

                เขานี่ก็เก่งเหมือนกันนะเนี่ย ..

     

     

     

                “นายจะไม่เปลี่ยนใจไปทัวร์ยุโรปกับฉันจริงหรอ” คยองซูเอ่ยถามหน้าม่อยอย่างไม่ค่อยพอใจ เมื่อรู้ว่าลู่หานเตรียมทริปต์ไปเที่ยวปูซานกับเพื่อนชาวจีนอีกกลุ่มหนึ่งที่นานๆ ครั้งจะพบปะกันที ซึ่งแน่นอนว่าคยองซูไม่ชอบหน้าคนพวกนั้นทั้งกลุ่มเลย ..

     

     

                “นั่นมันทริปต์ครอบครัวนายนะฉันจะไปได้ยังไงล่ะ ตลกแล้วลู่หานว่าพลางขยี้ผมคยองซูอย่างหมั่นเขี้ยวจนฟูฟ่องไปหมด

     

     

                “คุณแม่ฉันรักนายออกพี่เซฮุนเองก็ตามใจฉันจะตาย ไปด้วยกันเถอะน่า!” คยองซูยังคงไม่ละความพยายาม แม้จะรู้อยู่แล้วการตื้อลู่หานมันคงจะยากกว่าเรียนจบด้วยเกียรตินิยมแน่ๆ

     

     

                “บ้าสิ ฉันอยากไปเที่ยวทะเลมากกว่านี่นายังไงก็ซื้อของฝากมาด้วยนะ”

     

     

                “ที่นู่นทะเลก็มีเหอะ! ลู่หานนายมันใจร้ายฉันจะไม่หอบแม้แต่เอ็มแอนด์เอ็มมาฝากนายเลยคอยดู”

     

     

                " อ้าวฉันผิดอะไรเนี่ย " ลู่หานเลิกคิ้วให้กับความแสนงอนของเพื่อนเล็กน้อย คยองซูก็อย่างเนี่ยแหล่ะติดนิสัยเอาแต่ใจตามแบบฉบับคุณหนูสักเล็กน้อย แต่ก็ไม่ใช่ในเรื่องที่รับไม่ได้อะไรเขากลับมองว่ามันน่ารักซะด้วยซ้ำ

     

     

                “ไม่รู้แหล่ะ งอนแล้ว” คยองซูหันหน้าหนีอย่างงอนๆ

     

     

                “โอ๋ดีกัน ไปเที่ยวกับแม่กับพี่ชายไง น่าสนุกออกจะตาย” ลู่หานยื่นนิ้วก้อยง้อเพื่อนรัก ที่ไม่ว่าจะหน้ามุ่ยยังไงก็ดูน่ารักน่าเอ็นดู

     

     

                “เหงาแย่ดิ พี่เซฮุนต้องปลีกตัวไปดูงานที่สาขาย่อยแน่ๆ ฉันสัมผัสได้ Lคยองซูหันกลับมาตอบโต้ลู่หานก่อนจะบ่นออกมา

     

     

                “อ่อกลัวโดนพี่ชายทิ้งเลยจะเอาฉันไปเป็นคนคั่นเวลาว่างั้น เสียใจจริงๆ เลย”

     

     

                “โหยใช่ซะที่ไหนกันเล่า อยากให้นายไปเปิดหูเปิดตา”

     

     

                “โอกาสสัญญาเลยว่าจะไม่พลาดโอเคมั้ย ฉันเจอแต่คุณแม่นายแล้วพี่ชายสุดที่รักไปไหนซะละหืม ฉันยังไม่เคยเจอเลยนะ” ลู่หานชะเง้อหน้ามองซ้ายขวาแต่ก็ยังพบเพียงแม่ของคยองซูและเหล่าบรรดาเครือญาติทั้งหลาย

     

     

     

                ใช่มันเป็นเรื่องที่น่าแปลกมาก!

     

     

     

                ลู่หานไม่เคยเจอพี่ชายของเพื่อนรักเลยสักครั้งเดียว ทั้งๆ ที่รู้จักกันมาตั้งสี่ปี อาจจะเพราะช่วงนั้นพี่เซฮุนของคยองซูกำลังเรียนต่อปริญญาโทอยู่ที่อังกฤษ พอกลับมาก็ต้องรับกิจการต่อทันที จะเจอกันแต่ละทีก็คลาดกันอย่างเฉียดฉิวตลอด ..

     

     

     

                ดวงมันจะไม่ให้เจอยังไงก็คงไม่ได้เจอ

     

     

                “ตกเครื่องน่ะสิ !!!! น่าเสียใจชะมัดวันรับปริญญาน้องตัวเองแท้ๆ”

     

     

                “น่าสงสารจริงๆ เลยหนูน้อยของฉัน งั้นเอาพี่จงอินไปก่อนละกันเนอะลู่หานว่าบุ้ยปากเป็นสัญญาณให้คยองซูมองตาม ซึ่งก็เป็นรุ่นพี่ผิวแทนแฟนของเจ้าตัวเองนั่นแหล่ะ

     

     

                “น่าอิจฉาจริงจริ๊ง เรียนจบก็พร้อมกันแต่งงานกันเลยมั้ยล่ะ หืมลู่หานส่งเสียงแซวก่อนจะวิ่งหนีคยองซูที่ตะโกนว่าลู่หานไปหน้าแดงไป เพื่อนบ้า!

     

     

     

                แฟนหนุ่มของคยองซูเองก็เรียนจบเดือนนี้เช่นเดียวกันและเพิ่งรับปริญญาไปหมาดๆ เมื่อหลายอาทิตย์ก่อน เห็นเข้มๆ โหดๆ คนภายนอกอาจจะมองว่าเป็นเด็กวิศวะ แต่ความจริงแล้วกลับเป็นถึงว่าที่คุณหมอศัลยแพทย์เชียว คนเรานี่มองแต่รูปลักษณ์ภายนอกไม่ได้จริงๆ

     

     

     

                เมื่อลู่หานวิ่งหนีไปแล้ว จงอินก็เดินมาถึงตัวคยองซูยื่นดอกไม้ให้ก่อนจะพูดคุยหยอกล้อกันอย่างน่ารักตามประสาแฟนจนทำให้คนที่อยู่รอบข้างอดอิจฉาไม่ได้ ก็ชื่อเสียงฉาวโฉไม่เหมาะจะเป็นแพทย์สักนิดเลยนี่นาเจ้าตัวหยิ่งเย็นชาต่างจากกว่าที่คุณหมอที่ต้องใจดีคนอื่นจะตายไป ถ้าไม่ใช่คนไข้หรือชื่อคยองซู ก็อย่าหวังจะได้รอยยิ้มเขาไปเลย ..

     

     

                เมื่อหาที่สงบๆ คุยกันได้แล้วจงอินจึงเริ่มเอ่ยปากพูดขึ้น

     

     

                “คยองซูของพี่ เรียนจบสักทีนะ”

     

               

                “ใช่แล้ว แฟนพี่ก็เก่งเหมือนกันนะ” คยองซูว่าพลางยกนิ้วโป้งชมตัวเองอย่างมีท่าที ซึ่งก็ส่งผลให้แฟนผิวเข้มที่นั่งอยู่เคียงข้าง ยกมือขึ้นหยิกแก้มอย่างหมั่นเขี้ยว

     

     

                “พี่จะไปเรียนต่อเฉพาะทางที่อังกฤษ” เจ้าตัวพูดเรื่องที่ค่อนข้างน่าใจหาย หากแต่การกระทำยังงอ่อนโยน มือหนาลูบผมแฟนตัวเล็กเบาๆ อย่างอ่อนโยน

     

     

                “ถ้าบอกว่าอย่าไปก็คงจะเห็นแก่ตัวสินะคยองซูว่าพลางขมุบขมิบปากบ่นเบาๆ ในลำคอ

     

     

                “แค่บอกมาคำเดียวว่าไม่อยากให้ไปพี่ก็จะไม่ไปนะ” สายตาคมเข้มจริงจังจ้องมองดวงตากลมโตที่ตัวเล็กกว่า

     

     

                “ผมไม่ได้งี่เง่าขนาดนั้นสักหน่อย” ค้อนให้แฟนหนุ่มสักทีก่อนจะขมวดคิ้วคิด ถึงจะไม่อยากให้ไปสักเท่าไหร่ แต่เหล่าคนไข้ที่ต้องการหมอผ่าตัดดีๆ ก็สำคัญกว่าเขามาก

     

     

                “แล้วจะเอายังไงล่ะ หืม”

     

     

                “ผมจะไปด้วย!”

     

     

                “ฮะ? เอาจริงหรอ

     

     

                “เรื่องอะไรผมจะปล่อยให้พี่ไปหาสาวฝรั่งตาน้ำข้าวคนเดียวล่ะคนบ้า!!!” พูดเองก็หน้าแดงเอง ถึงแม้จะเป็นคนตรงๆ แต่การพูดเรื่องแบบนี้ในเวลานี้มันช่างน่าอายจริงๆ ..

     

     

                “งั้นจองไว้ก่อน”  จู่ๆ จงอินก็ยกมือคยองซูขึ้นก่อนจะบรรจงสวมแหวนทองคำขาวเกลี้ยงเรียบง่ายมีเพียงชื่อคู่ของทั้งสองที่สลักเอาไว้ ' kaisoo '

     

     

                “..”

     

     

                “พี่รู้ว่ามันค่อนข้างเร็ว แต่ก็อยากให้มั่นใจไม่ว่ายังไงพี่จะไม่ทิ้งเราที่นั่นเด็ดขาด” คำพูดที่ไม่ได้หวานแหววอะไร หากแต่มันออกมาจากใจจงอินจนคยองซูถึงกับต้องน้ำตาคลอ เขาไม่เคยหวังอะไรถึงขั้นนี้แล้วแอบกังวลกับความสัมพันธ์เราทั้งคู่เอามากๆ จงอินฮอตจนเขากลัว กลัวว่าจะโดนทิ้งหากแต่วันนี้ผู้ชายคนนี้กลับบอกให้เชื่อมั่นในตัวเขา

     

     

                “ขอแล้วห้ามทิ้งผมนะ”

     

     

                “ให้พี่ชายเอาปืนมายิงพี่ได้เลย”

     

     

                และแน่นอนว่า .. คยองซูจะเชื่อ

     

     

                “บ้าสิ พี่ตายไปผมจะอยู่ยังไงเนี่ย!! อย่าพูดอย่างนี้อีกนะ.. และอีกสารพัดคำบ่นที่ทำเอาจงอินแทบจะหูชาไปในตอนนั้น

     

     

     

     









     
    พี่ปาร์คยังอยู่ที่เกียร์ 1 ค่ะเพิ่งออกตัวยังไม่เริ่มๆ 
    ขอโทษค่าหายไปนานเลยไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ U_U
    #ฟิคเชื่อใจ

    themy M
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×