คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : CHAP. Xl ϟ sextoy, disneyland
ความเสมอภาคไม่จำเป็นต้องได้เท่ากัน
แต่เป็นความพึงพอใจเท่ากันต่างหาก
----------------------------------------------------
C H A P T E R 11
เช้าวันต่อมาชานยอลพาแบคฮยอนที่วันนี้ดูจะตื่นเต้นเป็นพิเศษนั่งเรือเจทกลับไปยังเกาะฮ่องกงตามสัญญาว่าจะพาไปเดินถนนย่านของกินอย่าง temple street
ชายหนุ่มตัวสูงดูดีมีภูมิฐานดึงดูดผู้คนให้หันมองแม้จะแต่งตัวธรรมดาที่สุดแล้วก็ตาม เดินเคียงข้างคนตัวเล็กน่าทะนุถนอมเรียกสายตาเอ็นดูให้แก่ผู้คนทั้งละแวกได้เป็นอย่างดี ใช่แล้วล่ะชานยอลกำลังพาแบคฮยอนเดินถนนข้างทางของฮ่องกงด้วยสองเท้า ไม่ใช่รถยนต์คันหรูแต่อย่างใด ..
“ร้านนู้นน่ากินจังเลยครับ”
“ร้านตรงนั้นก็น่าไป”
“เดินเร็วๆ หน่อยสิครับเดี๋ยวคิวยาวนะ”
“เขาว่าอันนี้เป็นของขึ้นชื่อ ไม่กินคือมาถึงฮ่องกงนะครับ มาเร็ว”
แบคฮยอนเดินเข้าร้านนั้นออกร้านนี้อย่างตื่นเต้น ในขณะที่แขนก็ดึงมือลากชานยอลให้เดินตามตัวเองไปอย่างลืมตัว ชายหนุ่มมองใบหน้าเล็กที่ดูมีความสุขตลอดเวลา พูดนั่นนี่ไม่หยุดอย่างนึกเอ็นดู
มาไม่ถึงฮ่องกงงั้นหรอ? ชานยอลมาติดต่อธุระที่นี่เป็นสิบเป็นร้อยรอบครั้งแล้วล่ะ แต่ก็มักจะจบตรงภัตตาคารหรูหราราคาหลักหมื่นหรือย่านไฮคลาสชั้นนำ พวกอาหารข้างทางเสียบไม่เคยได้เฉียดเข้าใกล้ ไม่เคยมีความคิดแม้แต่จะลองด้วยซ้ำ ตั้งแต่เล็กจนโตชานยอลไม่เคยทำอะไรติดดินแบบนี้ อาจเนื่องด้วยฐานะและภาระหน้าที่ทางครอบครัวที่ค่อนข้างมีหน้ามีตา คงต้องยอมรับว่าอะไรที่ไม่เคยคิดจะทำอะไรที่ไม่เคยคิดจะลอง ชายหนุ่มกลับลองทำมันแทบทุกอย่างเพื่อแบคฮยอน จะว่านี่เป็นการเอาใจช่วงโปรโมชั่นก็คงถือว่าทุ่มทุนสร้างมากไปแล้วล่ะมั้ง
ถึงคราวเขาเมื่อไหร่
จะเอาดอกเบี้ยให้คุ้มกับที่ลงทุนไปเลยคอยดูสิ
แบคฮยอนปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามีความสุขจนแทบล้นออกมากับการมาเที่ยวในครั้งนี้ อีกทั้งได้เห็นชานยอลในอีกมุมซึ่งไม่เคยได้เห็น ทั้งการเป็นคนจริงจังกับงานสั่งงานลูกน้องอย่างเฉียบขาด ทั้งการเป็นเป็นคนโรแมนติกช่างเอาอกเอาใจจนทำเอาอ่อนวูบไปหลายต่อหลายครั้ง
เสน่ห์ทั้งหมดที่รวมออกมาเป็นชานยอลดึงดูดให้แบคฮยอนใจเต้นรัวอย่างห้ามไม่อยู่
คงไม่แปลกใจเลยสักนิดหากจะมีคนบอกว่าไม่มีใครอยู่ใกล้ชานยอลแล้วไม่มีทางไม่ตกหลุมรัก .. ซึ่งมันคงจะมีน้อยคนจริงๆ
ทั้งสองเดินกันไปเรื่อยๆ จนพ้นมุมอาหาร ก่อนจะพบของเล่นแปลกตาที่เรียกสายตาวาตื่นตาตื่นใจจากแบคฮยอนได้ตลอดทาง ชานยอลส่ายหัวขำๆ กับท่าทีเด็กๆ ของลูกทัวร์กิตติมศักดิ์ของตัวเอง เขาไม่ได้ทำตัวสบายๆ แบบนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ
แบคฮยอนแวะบางร้านบ้างเป็นครั้งคราว อย่างน้อยข้าวของที่นี่เขาก็กล้าหยิบจ่ายใช้สอยมากกว่าตามห้างหรูอย่างวันก่อน แต่สุดท้ายคนจ่ายก็ไม่พ้นชานยอลอยู่ดี .. จนกระทั่งมาถึงมุมมุมหนึ่งของย่านนี้ .. ซึ่งมีสินค้าแนวเดียวกันวางเรียงรายตลอดแนวถนน จนแบคฮยอนแทบอยากจะหายตัวไปโผล่อีกมุมหนึ่งของซอยให้เร็วที่สุด
ชานยอลอมยิ้มถูกใจยิ่งกว่าเก่า เมื่อเห็นว่ามือของแบคฮยอนที่จูงไว้บีบแน่นกว่าเดิมมาก สายตาพราวแพรวมองสินค้าไม่วางตาราวกับถูกใจมันเป็นนักหนา
“จะรีบเดินไปไหนล่ะ ไม่แวะรึไง”
“คุณนี่! รีบไปกันเถอะ” ดวงตาเล็กหันไปค้อนให้อย่างแง่งอนก่อนจะจับมืออีกฝ่ายที่ดูอิดออดให้เดินไวขึ้น ขำลังโดนแกล้ง ใครจะไม่รู้!
“เดี๋ยวสิ ฉันชอบอันนี้นะนายชอบมั้ย” ชานยอลปล่อยมือนุ่มออก ก่อนจะหยิบสินค้าบางอย่างขึ้นมาดู.. ก่อนจะหันมาหยิบให้ราวกับให้คนตัวเล็กช่วยเลือก ใบหน้าแบคฮยอนแดงก่ำจนแทบจะกลายเป็นมะเขือเทศเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ในมืออีกฝ่าย!
ดิลโด้สีขาวอันขนาดมะเมื่อมอยู่ในมือชานยอล คุณป้าเจ้าของร้านก็ช่างใจดีมีการทดลองให้ดูว่ามันสั่นได้!!! เสียงแหลมแก่ๆ เอ่ยถามร่างสูงด้วยภาษาจีนกลางซึ่งแน่นอนว่าแบคฮยอนฟังออก!
“ใช้กับหนูคนข้างๆ หรอพ่อหนุ่ม”
“ครับ”
“เฮ้ย! ไม่ใช่แล้วคุณ อย่ามั่วแบบนี้สิ!” นอกจากรอยยิ้มกรุ้มกริ่มชานยอลก็ไม่มีอะไรให้ สายตาคมกวาดตามองหาสินค้าอื่นอย่างสนใจออกนอกหน้าเสียจนแบคฮยอนรู้สึกหมั่นไส้ คนตัวเล็กค้อนให้หนึ่งที
“กลับเถอะครับนะๆๆ” ร่างเล็กมีท่าทีร้อนรนเสียจนคนตัวใหญ่ที่ยืนข้างๆ แทบจะออกเสียงหัวเราะ
“ตัวเล็กแบบนี้ ไซส์นี้ถึงใจเลย สั่นได้หกระดับด้วยนาตัวใหม่ล่าสุด” ป้าเจ้าของร้านที่ฟังภาษาเกาหลีไม่ออกยังคงขายสินค้าต่อไปรวมถึงบรรยายสรรพคุณมากมายที่แบคฮยอนไม่ค่อยอยากรับรู้เท่าไหร่
“โอ้ย ผมไม่อยู่ด้วยแล้ว ไปก่อนนะ” เมื่อเริ่มทนไม่ไหว ขาเล็กจึงเริ่มสาวเท้าเดินหนีออกมา ชานยอลหัวเราะหันไปพูดคำสองคำกับแม่ค้าก่อนจะเริ่มเดินตามหลังคนตัวเล็กไปก่อนที่จะหายไปซะก่อน
“เดินออกมาทำไมล่ะ ซื้อให้ไม่ดีหรอ เขาบอกว่าตัวใหม่ล่าสุดด้วย” น้ำเสียงทุ้มยังเอ่ยหยอกล้อแบคฮยอนที่เดินหน้าแดงไม่หาย
“คุณอ่ะ! แกล้งผม นิสัยไม่ดี”
“เปล่านะไม่ได้แกล้ง ฉันซื้อให้จริงๆ”
“โอ้ยคุณ!!! ผมไม่คุยด้วยแล้ว!!!” แบคฮยอนสาวเท้าให้ก้าวใหญ่กว่าเดิมเดินหนีไปอีกทาง ร่างสูงที่ขายาวกว่าจึงต้องรีบก้าวตามให้ทันตัวเล็กแบบนี้หลงไปล่ะยุ่งแน่ จนทั้งคู่เดินเคียงคู่กันอีกครั้ง
หลังจากที่แหย่แบคฮยอนจนพอใจแล้ว ชานยอลก็พาแบคฮยอนไปเดินย่อยอาหารอกินลมชมวิวเกาะฮ่องกงยู่พักหนึ่ง ก่อนจะถึงเวลาอาหารเย็นจึงพาไปยังภัตตาคารใจกลางเมืองแสนหรูแห่งหนึ่ง การแต่งตัวที่ธรรมดาแต่ยังคงแฝงไปด้วยแบรนด์เนมทั้งหลายไม่สามารถเรียกสายตาดูถูกจากพนักงานได้
คนรวยมักจะมีออร่าเป็นของตัวเองอยู่แล้ว ..
อาหารมากหน้าหลายตาทำเอาแบคฮยอนมึนไปหมดเลือกสั่งแทบไม่ถูก จนร่างสูงต้องเป็นคนสั่งและแนะนำเมนูทั้งหมดให้อย่างเอาอกเอาใจ ทั้งสองคนเหมือนจะไม่รู้ตัวว่าตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างกันคืออะไร ชานยอลลืมไปแล้วว่าที่ทำไปทั้งหมดเพื่อจุดประสงค์อะไร แบคฮยอนเองก็ลืมแทบหมดสิ้นว่าชานยอลไม่ใช่คนรักของตัวเอง
ไม่มีช่องว่างระหว่างกันอีกต่อไป
ทุกอย่างกำลังจะเป็นไปได้สวย แต่ ..
“อุ้ยคุณชานยอล มาทำอะไรที่ฮ่องกงหรอคะไม่ได้เจอกันนานเลย” เสียงหวานหยดย้อยของผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเดินเข้ามาทักทายกันถึงโต๊ะอาหารทำเอาคนสองคนที่กำลังหยอกล้อกันอย่างได้ที่ถึงกับหยุดชะงัก
เมื่อร่างสูงเงยหน้ามองคนมาใหม่ถึงกับต้องสบถในใจออกมา
ชิบหาย
“ครับ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” เสียงทุ้มเลือกตอบกลับแต่ประโยคหลังไปอย่างมีมารยาท ทั้งที่อยากจะไล่เธอไปไกลๆ เสียเหลือเกิน
“จู่ๆ คุณก็หายไปเลยนี่คะ” หญิงสาวบ่นอย่างน่ารักในความคิดของตัวเอง หากเป็นเมื่อก่อนชานยอลก็ว่าดีอยู่หรอกหากแต่ตอนนี้กลับดูน่ารำคาญเสียเหลือเกิน .. เมื่อไหร่จะไปสักที
“ไม่ค่อยว่างน่ะครับ” เจ้าตัวจงใจตอบรับแค่คำถามของหญิงสาว ไม่สนใจแม้แต่จะชวนร่วมโต๊ะอย่างปกติด้วยซ้ำ เขาควรจะแกล้งเมินไปซะก่อนที่เธอจะพูดอะไรไปมากกว่านี้
“ว่าแต่นี่คุณมาเที่ยวกับน้องชายหรอคะ” เมื่อเธอเห็นสีหน้าของชานยอลยามเมื่อพูดรื้อฟื้นออกมาในทางลบแล้วจึงต้องรีบเปลี่ยนเรื่องในทันที เพราะมันคงไม่ส่งผลดีให้ตัวเองแน่ๆ ..
“ครับ ขอโทษนะครับ พอดีผมต้องการเวลาส่วนตัว” ชานยอลรีบบอกปัดไปเพื่อให้เรื่องราวมันจบเร็วขึ้น โดยลืมนึกไปว่าการไม่ปฏิเสธคำว่าน้องชายส่งผลกระทบต่อจิตใจใครบางคนอยู่เช่นกัน
“อ้อ .. ขอโทษค่ะ แล้วเวนดี้จะโทรไปหานะคะ” หญิงสาวยกมือขึ้นทำท่าโทรศัพท์ ยิ้มทักทายคนที่ชานยอลรับว่าเป็น ' น้องชาย ' ก่อนจะเดินหายตัวไปจากตรงนั้น
ความเงียบเกิดขึ้นหลังจากที่หญิงสาวเดินออกไปต่างจากก่อนหน้านี้ลิบลับ ชานยอลรับรู้ความผิดปกติของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น หากแต่นึกไปเพียงว่าแบคฮยอนอาจจะโกรธตรงที่มีผู้หญิงคนอื่นเข้ามาทักซึ่งความจริงแล้ว .. มันเป็นเพราะประโยคสุดท้ายของเขาต่างหาก
น้องชายก็น้องชาย
สถานการณ์ยังคงพาหน่วงไปอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งส่งแบคฮยอนเข้านอนคนตัวเล็กไม่ค่อยพูดจาอะไรออกเท่าไหร่นัก ชานยอลเองก็เหนื่อยที่จะชวนคุย ทุกอย่างเหมือนย้อนกลับไปยังศูนย์ใหม่ ไม่สิ .. ติดลบเลยต่างหาก
“พรุ่งนี้เจ็ดโมงเช้าจะพาไปข้างนอก รีบตื่นนะ”
หากเป็นหลายชั่วโมงก่อนหน้านี้แบคฮยอนคงบ่นอุบอิบอย่างน่ารักพร้อมทั้งขอเลื่อนเวลาเหมือนเด็กน้อยโดนปลุก หากแต่ตอนนี้มีแต่เพียงคำว่าครับสั้นๆ ง่ายๆ ซึ่งทำเอาชานยอลถึงกับต้องลอบถอนหายใจ
ดื้อเงียบจริงๆ ด้วย
เช้าวันต่อมาสถานการณ์ยังคงมึนตึงอยู่เช่นเดิม ชานยอลเลือกที่จะไม่พูดอะไรมากมายทำหน้าที่เป็นคนนำทางอย่างเดียว ในวันนี้มาแปลกกว่าเดิมตรงไม่มีรถประจำตัว ไม่มีกาขับรถเองเหมือนที่ผ่านมาแต่อย่างใดร่างสูงกลับพาแบคฮยอนไปยังรถไฟฟ้าสาธารณะแทน ซึ่งแน่นอนว่าเรียกสีหน้าฉงนสงสัยจากใบหน้าเล็กที่งอง้ำได้เป็นอย่างดี แต่จนแล้วจนรอดเจ้าตัวก็ไม่เอ่ยปากสักถามอะไรอยู่ดี ให้ไปก็ไป ..
นั่งต่อไปได้เพียงสามสถานีชานยอลก็บอกสั้นๆ ว่าให้หลับรอไปเลยเพราะรอบนี้คงจะนาน ไม่รู้ว่าเพราะแบคฮยอนเชื่อฟังมากเกินไป หรือนอนไม่พอกันแน่ คนดื้อเงียบจึงหลับในทันทีโดยที่รถไฟฟ้าเคลื่อนตัวออกไปได้ไม่ถึงสามสิบนาที
เวลาผ่านไปสักพักจนกระทั่งชานยอลปลุกคนตัวเล็กที่เอาหัวไปผิงไหล่เขาตั้งแต่เริ่มโงนเงนหลับไปได้ไม่นาน เจ้าตัวได้แต่อมยิ้มมองคนน่ารักหลับ หากเป็นคนอื่นชายหนุ่มคงไม่ยอมเมื่อยไหล่แบบนี้แน่ ไม่แม้แต่จะได้รับการกระทำที่พาใจเต้นอย่างการปัดปอยผมที่ดูจะรบกวนการนอนให้อย่างอ่อนโยน
ในตอนนี้คงต้องยอมรับจริงๆ ว่าแบคฮยอนพิเศษกว่าคนอื่นมาก
“ตื่นได้แล้วครับคนเก่ง” เสียงทุ้มหากแต่ฟังดูนุ่มนวลเสียเหลือเกินดังขึ้นข้างหูแบคฮยอน เจ้าตัวค่อยๆ ลืมตาขึ้นก่อนจะเจอชานยอลที่มองมาอยู่ก่อนแล้ว คนเผลอหลับยกมือขึ้นเช็ดหน้าเช็ดตาเล็กน้อยก่อนจะถูกจูงกึ่งดึงไปยังรถไฟฟ้าอีกขบวนหนึ่งซึ่งอยู่ตรงข้าม
ตาเล็กที่ปรืออยู่เบิกค้างขึ้นในทันทีเมื่อพบเห็นสิ่งที่อยู่หน้า ..
ขบวนรถไฟฟ้านั้นไม่เหมือนขบวนอื่นทั่วไปที่เขานั่งมาเมื่อหลายสถานีก่อน .. ขบวนรถสีม่วงที่ถูกตกแต่งเต็มไปด้วยมิคกี้เม้าส์และเหล่าการ์ตูนจากการ์ตูนดิสนีย์
ไหนตอนแรกชานยอลบอกว่าให้ตายยังไงก็จะไม่ไปยังไงล่ะ ..
ร่างสูงหัวเราะให้กับท่าทีตกตะลึงนั้นก่อนจะเนียนโอบเอวร่างเล็กให้เข้าไปนั่งยังเบาะกำมะหยี ซึ่งมีแต่รถไฟฟ้าขบวนไปดิสนีย์แลนด์เท่านั้น โมเดลตัวละครมากมายถูกตู้กระจกครอบไว้ตกแต่งอยู่ภายในรถไฟเรียกความสนใจได้เป็นอย่างดี จากท่าทีง่วงมึนงงกลับกลายร่างเป็นเด็กสนใจนู้นนี่ไปหมด ลืมไปแล้วเสียด้วยซ้ำว่ากำลังงอนอีกฝ่ายอยู่
ระหว่างทางที่ขบวนกำลังไต่ขึ้นเขา แบคฮยอนก็ชี้นู้นชี้นี่ด้วยความตื่นเต้นให้ชานยอลดูตลอดทางจนกระทั่งถึงที่หมาย คนที่กลายร่างเป็นเด็กแทบจะวิ่งพุ่งลงจากขบวนเป็นคนแรก โชคดีที่วันนี้คนไม่เยอะและฝนฟ้าอากาศค่อนข้างเป็นใจไม่ร้อนไม่หนาวไม่มีฝน ดีกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว ..
เมื่อทำการตรวจบัตร ตรวจกระเป๋าทุกอย่างเรียบร้อยเสร็จสรรพ แบคฮยอนรีบเดินจ้ำอ้าวไปโดยไม่รอช้า สถานที่แรกที่เจอก็คือ .. ร้านค้า
“น่ารักจังงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง” เสียงเล็กตะโกนเสียงลากยาวเมื่อเจอหูมิกกี้เม้าส์ที่เขาใฝ่ฝันอยากได้มาแสนนาน แขวนตั้งอยู่ในจุดแรกที่เดินเข้ามาเห็น
“อยากได้หรอ”
แบคฮยอนถึงกับทำหน้าตกใจเมื่อพลิกปลายดูราคา .. นึกว่าของในสนามบินแพงขนาดนี้ขูดเลือดขูดเนื้อเขาไปเถอะ
“ไม่เอาครับ แพง เอาไปก็ไม่ได้ใช้ด้วย” ยู่ปากอีกทีหนึ่งก่อนจะดึงแขนชานยอลย้ายไปยังประสาทดิสนีย์ ซึ่งเป็นจุดแรกโดยไม่นับร้านค้าของสวนสนุกแห่งนี้
คนตัวเล็กวิ่งเข้าไปรับแผนที่ ก่อนจะลากแขนยาวของชานยอลไปทั่วทุกโซน เริ่มประเดิมแห่งแรกด้วยเหมืองเพชรจำลองจากการ์ตูนเรื่องกริซลี่ย์ กัช ซึ่งมีเครื่องเล่นหวาดเสียวให้เล่นอยู่ด้วย ชานยอลยืนนิ่งอยู่นานก่อนจะถูกแบคฮยอนลากไปต่อแถว หมดกันภาพลักษณ์อันน่าเกรงขาม ..
แต่เอาเข้าจริงเมื่อถึงเวลาขึ้นเครื่องเล่นกลับเป็นแบคฮยอนที่หวีดร้องออกมาเสียงหลงแทนซะได้ ซึ่งผลให้คนที่ไม่อยากขึ้นในทีแรกอย่างชานยอลหัวเราะเสียงดังลั่นจนได้รับค้อนไปหนึ่งที เขาปลดปล่อยทุกอย่างไม่ออกม ไม่จำเป็นต้องมีฟอร์มมากมายอ ยู่กับแบคฮยอนแค่มีความสุขก็คงพอแล้วละมั้ง ..
เมื่อเดินเลยออกมาก็เจอจุดขายของอย่างที่แรกอีกครั้ง แวะในทุกโซนก็เจอร้านแบบนี้เช่นกัน
“นี่เขากะจะขายให้ได้เลยใช่มั้ยเนี่ย” แบคฮยอนบ่นอุบอิบก่อนไปลูบๆ คลำๆ หูมิคกี้เม้าส์อีกครั้ง โชคดีที่ร้านตรงบริเวณนี้คนไม่แย่งกันซื้อเหมือนอย่างร้านแรกทางด้านหน้า อาจจะเพราะแห่กันไปซื้อร้านนั้นหมดแล้วก็เป็นได้ มือเล็กจับอยู่อย่างนั้นสักพักก่อนจะลากชานยอลออกมาซึ่งก็ไม่ได้สังเกตเลยว่าในมือเจ้าตัวถือถุงดิสนีย์แลนด์อยู่ในมือแล้ว
“ต่อไปไปโซนไหนกันดีครับ!!” เอ่ยถามตาก็กวาดไปตามจุดต่างๆ ของแผนที่ขยับตัวยุกยิกไปมาเหมือนเด็กซนๆ
“อยู่นิ่งๆ สิ หันมา” แบคฮยอนที่งงๆ ไปกับคำพูดของอีกฝ่ายจึงเงยหน้าขึ้นมาก่อนจะพบว่าหูมินนี่เม้าส์สีชมพถูกสวมไว้อยู่บนหัวตัวเอง
“เอ่อ..”
“ซื้อให้”
“มินนี่เม้าส์เนี่ยนะครับ?” สีหน้าเหวอๆ ของแบคฮยอนเรียกรอยยิ้มรอบที่เท่าไหร่ของชานยอลก็ไม่รู้ให้ขึ้นเต็มใบหน้า
“ใช่”
“คุณจะให้ผมใส่คนเดียวหรอ”
“ของเด็กๆ ก็เหมาะกับนายดีนี่ ฮ่าๆ” ตาเล็กค้อนใส่อีกฝ่ายวงโตก่อนจะรื้อของในกระเป๋าเป้ตัวเองออกมา
“อ่ะนี่แลกกันครับ” ก่อนจะยื่นหูมิกกี้เม้าส์ซึ่งชานยอลเองก็ไม่รู้ว่าเจ้าตัวแอบไปซื้อตอนไหนกันมาให้
“ไปซื้อมาเมื่อไหร่ จะให้ฉันใส่หรอ” ร่างสูงถามเพื่อความมั่นใจก่อนจะชี้เข้าหาตัวเอง
“ความลับราชการ แฮ่ ใส่ด้วยกันไงครับ คู่กันออก” ยิ้มแย้มแจ่มใสเสียจนชานยอลต้องรับมาใส่ไว้ไม่ได้ เป็นภาพที่ดูตลกปนน่ารัก หวังว่าคงจะไม่มีบรรดาปาปารัซซี่ตามมาถึงแถวนี้หรอกนะ ..
แบคฮยอนเปลี่ยนมาเป็นการเกาะแขนอีกฝ่ายแทนการเดินนำอย่างลืมตัว เมื่ออีกฝ่ายเดินช้าไม่ทันใจ หรือไม่บางทีก็เป็นฝ่ายชานยอลโอบเอวเล็กนั่นไว้ เหมือนคู่รักกันจริงๆ .. เป็นคู่รักที่เหมาะสมกันเสียด้วย ผู้คนที่มาเที่ยวในวันนั้นจ้องมองกันเป็นแถวบางคนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายเลยก็มี คนหน้าตาดียังไงก็ย่อมเป็นจุดสนใจอยู่แล้ว ..
เวลาแห่งความสุขย่อมผ่านไปเร็วเสมอ ตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มซึ่งจะมีโชว์สุดอลังการส่งท้ายวันเหล่าขบวนพาเลซตัวการ์ตูนทยอยกันออกมาเดินแล้ว ไหนจะพลุมากมายนั่นอีก แบคฮยอนมองตาเป็นระยิบ เขาไม่เคยคิดเคยฝันเลยจริงๆ ว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้
ที่ชีวิตเขามีทุกอย่างในวันนี้ส่วนหนึ่งก็เพราะชานยอล ซึ่งเรียกได้ว่าส่วนใหญ่ๆ เลยล่ะ
“ขอบคุณนะครับ” พูดด้วยน้ำเสียงเบาๆ ซึ่งก็ถูกกลืนไปกับเสียงพลุและเสียงดนตรีอันดังก้องในขณะที่ดวงตาก็ยังคงไม่ละสายตาไปจากความสวยงามบนฟากฟ้า
ไม่มีเสียงใดตอบกลับมา แบคฮยอนเองก็ไม่ได้หวังว่าชานยอลจะพูดอะไรมากมายไปกว่านี้ แต่แล้วเมื่อเวลาผ่านไปจนกระทั่งขบบวนจากการ์ตูนเรื่องแรกหมดลง เสียงทุ้มก็เอ่ยขึ้น
“ขอโทษนะเมื่อวาน ฉันไม่ได้สนใจผู้หญิงคนนั้นเลย”
ชานยอลไม่ได้ตอบรับแบคฮยอนแต่กลับหยิบยกเรื่องที่ทำให้รู้สึกไม่ดีกลับมาพูดอีกครั้ง แบคฮยอนผละสายตาออกมาจากขบวนเหล่าตัวการ์ตูนตรงหน้าก่อนจะยิ้มบางๆ ให้อีกฝ่าย
“ครับ” แล้วจึงหันหลับไปทางเดิม
เขาไม่ได้รู้สึกไม่ดีเรื่องนี้แต่ก็ช่างมันเถอะ ไม่พูดก็ดีแล้ว แต่ ..
“ฉันไม่ได้รู้สึกว่านายเป็นน้องชายด้วย แค่พูดให้เธอรีบๆ ไป”
“..”
“ฉันอยากใช้เวลากับนายมากกว่าเธอคนนั้น เข้าใจฉันนะ” ตั้งแต่เกิดมาจนอายุยี่สิบแปดปี ในชีวิตของปาร์คชานยอล ไม่เคยมีสักครั้งที่จะต้องลงทุนงอนง้อ อธิบายการกระทำของตัวเองกับใคร แต่แบคฮยอนกลับได้มันไปทั้งหมด คนตัวเล็กได้หลายอย่างจากเขาไปชานยอลรู้สึกได้มันไม่ใช่เงินทองแต่กลับเป็น .. ความรู้สึกต่างหาก
มันเป็นสิ่งที่เขาไม่คิดยอมรับในตอนนี้ และที่แน่ๆ ไม่ใช่เร็วๆ นี้แน่ เขาคงแค่เห่อของใหม่เท่านั้น คงจะเห่อมากจริงๆ ..
แบคฮยอนนิ่งเงียบชะงักกึกไป ใบหน้าเล็กที่หันหน้าเสไปมองทางอื่นหันกลับมาจ้องตากับชานยอล ดวงตาไหวหวั่นจ้องมองลึกลงไปยังดวงตาคม ในตอนนี้เสียงพลุเสียงดนตรีหรือเสียงผู้คนโดยรอบไม่ได้ดึงความสนใจของคนทั้งคู่ไว้อีกแล้ว สายตาสอดประสานก่อนที่ริมฝีปากจะประกบจูบกันเป็นไปอย่างธรรมชาติ ดูดดื่ม เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ไม่ใช่ความใคร่
แม้เสียงกรีดร้องจากเด็กสาวไม่กี่คนบางกลุ่ม เสียงแชะจากกล้องก็ไม่สามารถหยุดยั้งได้ มือเล็กโอบรอบคออีกฝ่ายประคองร่างกายไว้เมื่อผละจูบออกจากกัน .. จูบนี่รู้สึกเหมือนโดนสูบพลังงานยิ่งกว่าเดินทั่วทั้งสวนสนุกเป็นสิบรอบเลยด้วยซ้ำ
#ฟิคเชื่อใจ
มารอดูสกิลการง้อของมิสเตอร์ปาร์คกันค่ะ 55555
170% แล้วนะคะ . _ . ย้าฮุ้ มีคนอ่านอยู่มั้ย T__T
(c) Chess theme
ความคิดเห็น