หน้าที่ 1 , 2 , 3 , 4
 
ใครแต่ง : sfhsjfdhslkjfk
8 พ.ค. 57
80 %
5 Votes  
#11 REVIEW
 
เห็นด้วย
14
จาก 15 คน 
 
 
วิจารณ์นิยาย สไตล์ เซเซดๆ.

(แจ้งลบ)
  
เขียนเมื่อ 24 ก.ย. 54
เรื่อง : Fart of love มหัศจรรย์หมาตด ทำให้ผมตัวหดเล็ก
ผู้วิจารณ์ : ANN

สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นต้องขอออกตัวเป็นธรรมเนียมก่อนว่าเราไม่ได้เป็นนักวิจารณ์มืออาชีพนะคะ เพราะฉะนั้นอาจจะวิจารณ์ได้ไม่ตรงจุดหรือยังขาดๆ เกินๆ อยู่บ้าง อยากให้คิดเสียว่าการวิจารณ์นี้เป็นการแสดงแง่คิดในมุมมองของนักอ่านคนหนึ่ง ที่เข้ามาอ่านนิยายของท่าน โดยมุ่งเน้นว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้รับการวิจารณ์บ้างไม่มากก็น้อยค่ะ

-โครงเรื่อง

โครงเรื่องของเรื่องนี้นับว่ามาแปลกและไม่เหมือนใครเลยจริงๆ พอจะมีให้เห็นอยู่บ้าง เรื่องที่พวกตัวเอกโดนทำให้ตัวหดเล็กลง หรือโดนคำสาปสลับจากชายเป็นหญิง จากหญิงเป็นชาย จนต้องหาทางทำอะไรสักอย่าง แต่ไรเตอร์ก็เลือกวิธีนำเสนอให้น่าสนใจมาก นั่นก็คือ ‘ตดหมา’ เห็นแล้วติดใจตั้งแต่ชื่อเรื่องกันเลยทีเดียว

ชื่อเรื่อง – Fart of love มหัศจรรย์หมาตด ทำให้ผมตัวหดเล็ก ชื่อเรื่องน่าสนใจ และชวนให้คลิกอ่านมาก จากชื่อภาษาอังกฤษนี่ก็ชวนให้งงกันแล้ว ว่าตดมาเกี่ยวอะไรกับความรักได้ พออ่านชื่อภาษาไทย ก็พอจะเดาโครงเรื่องได้คร่าวๆ แล้ว แต่ต้องระวังไว้อย่างนึงนะคะ เพราะในเรื่องนี้ตัวเอกคือนางเอกชื่อ ปั่น แต่ชื่อเรื่องกลับใช้คำว่า ‘ผม’ ในตอนแรกเลยคิดไปว่า เรื่องนี้จะต้องดำเนินเรื่องด้วยตัวเอกที่เป็นชายแน่ๆ

แนะนำเรื่องแบบย่อๆ – แนะนำเนื้อเรื่องได้น่าสนใจและน่ารักดีค่ะ ติดใจมากตรงที่บอกว่า แย่งข้าวกับหมา เนี่ยแหละ (แอบฮา) เอาเป็นว่าตรงส่วนนี้ผ่านค่ะ

ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่อง – ข้อมูลเบื้องต้นท่านโปรยเป็นคำทักทายแทน ในส่วนนี้ถือว่าดีค่ะ คนอ่านจะได้รู้จักกับคนแต่ง แต่อยากให้โปรยเรื่องไว้บ้าง เพื่อให้เป็นทางเลือกของนักอ่านที่อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจอ่าน ส่วนเรื่องการจัดวางและตกแต่งตอนนี้ยังไม่ชวนให้อ่านเท่าไหร่นัก

-ภาษา สำนวน

การบรรยาย: การบรรยายเน้นบรรยายผ่านตัวเอกซึ่งก็คือหนูปั่น ทำให้เห็นมุมมองของคุณเธอได้ชัดเจน เรื่องฉาก สถานที่ ตัวละคร ยังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร อ่านแล้วยังไม่เห็นภาพนักว่าอะไรเป็นยังไง โดยเฉพาะตัวเอกทั้งสองที่รู้เพียงปั่นหน้าหมวย กับจิงโจ้รูปหล่อ ควรเพิ่มการบรรยายเข้าไปอีกสักเล็กน้อยว่าหน้าตาเขาเป็นยังไงบ้าง จมูกโด่งคม หรือมนตรงปลาย นัยน์ตาเรียวรี หรือกลมโตอย่างดาราเกาหลี ทรงผม สีผม อะไรแบบนี้ค่ะ คนอ่านจะได้เห็นภาพได้มากขึ้น ส่วนเรื่องเวลานี่ละเอียดมาก(เกินไป) การตัดฉากโดยใช้เวลาขึ้นมาบอกเล่ามีบ่อยจนเกินไปค่ะ ทำให้เกิดความซ้ำซ้อนและไม่หลากหลาย แนะนำว่าให้ลองหยิบสภาพดินฟ้าอากาศ หรือเสียงนกเสียงกาที่บอกให้รู้ว่าเวลานั้นเป็นเวลาไหนมาลองใช้แทนการโปรยด้วย 7.00 น อะไรแบบนี้ค่ะ

บทสนทนา: บทสนทนาทำได้ดีมาก อ่านแล้วจับบุคลิกของตัวเอกทั้งสองได้อย่างชัดเจน มีความตลกขบขันแทรกให้ยิ้มเป็นพักๆ อ่านแล้วรู้สึกว่ามันน่ารักมาก ผ่านฉลุยค่ะเรื่องนี้

คำผิด คำซ้ำ การหลากคำ: คำผิด คำตก คำหล่น มีบ้างประปราย แต่ไม่ทำให้เสียอรรถรสในการอ่าน มีเก็บมาให้เล็กน้อยค่ะ > มันจะบ้าไปเกิน=เกินไป? / เห็นการณ์=เหตุการณ์ / ดูถ้า=ดูท่า / คนตรงหน้าไม่บ่นไม่ขาดสาย=? / มือจะมีราคีมั้ยว่ะ=วะ (ตรงนี้ต้องระวังเสียงตอนลงท้ายค่ะ) / แม่ฉันดึงจิงโจ้คีบมาเพ่ง? (อันนี้อ่านแล้วแอบงง) / หมอนข้าว=หมอนข้าง / ฯลฯ อะไรแบบนี้ค่ะ แต่โดยรวมมันไม่มากเลย ถือว่าท่านเก็บส่วนนี้ได้ดีพอควรแล้วค่ะ ส่วนเรื่องการใช้คำซ้ำซ้อน เห็นจะมีจุดเดียวค่ะ > เป็นนักเรียนเรียนชั้นเท่าฉัน อายุเท่าฉัน หากลองปรับประโยคเล็กน้อย > เป็นนักเรียนระดับชั้นเดียวกับฉัน เราสองคนอายุเท่ากัน อะไรแบบนี้น่าจะดูไม่มึนกว่า(มั้งคะ)

ความถูกต้องของการใช้สัญลักษณ์ต่างๆ และซาวด์เอฟเฟค : การใช้สัญลักษณ์ถือว่าทำได้ดี ไม่มีปัญหา ส่วนเรื่องซาวด์เอฟเฟคมีงงจุดใหญ่ๆ จุดหนึ่งคือ ตอนเสียง ก๊อกๆๆๆ ที่ปั่นได้ยิน ตอนแรกเราอ่านแล้วนึกว่าเป็นเสียงเคาะประตูหรืออะไรเสียอีก เพราะมีไม้ยมกติดท้ายมาเยอะ แต่ในบทบรรยาย ได้บรรยายเอาไว้ว่ามันคือเสียงหินกระทบหน้าต่าง ซึ่งทำให้งงไปพอควรว่าหินอะไรกระทบหน้าต่างได้ต่อเนื่องขนาดนี้ แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง เสียงที่ใช้น่าจะเป็น ก๊อก...ก๊อก!...ก๊อกก!! (เพิ่มตามความแรงของคนปา) อะไรประมาณนี้ค่ะ

-ตัวละคร

ตัวละครในเรื่องแสดงอุปลักษณ์นิสัยออกมาชัดเจนมาก ทั้งปั่น และจิงโจ้เลย ติดอย่างเดียวคือไม่เห็นภาพลักษณ์ของตัวละครทั้งสองตัวนี้ รวมไปถึงเพื่อนๆ ของปั่น และจิงโจ้ด้วย ที่เห็นภาพสุดตอนนี้คงเป็นเจ้าหมาปั๊กล่ะมั้งคะ(ฮา) โดยรวมอ่านแล้วนิสัยดูสมจริงมาก ราวกับตัวละครนั้นๆ มีชีวิตและลมหายใจอยู่จริงๆ เลย ซึ่งไรเตอร์ทำส่วนตรงนี้ได้ดีมากค่ะ

-ความสมเหตุสมผล

ทำนองเรื่องมาแนวกึ่งแฟนตาซีหน่อยๆ ซึ่งถือว่ายอมรับได้ค่ะ มีให้เหตุให้ผลโดยผ่านคนเมาที่ไปเจอข้างทาง แต่ต้องระวังเล็กน้อยเพราะมีจุดใหญ่ๆ ที่ต้องทำให้ผู้อ่านอ่านแล้วกระจ่าง นั่นคือ ปั่นเองก็ดมตดหมาไป ทำไมตัวไม่หดเล็กลง? อาจจะต้องใส่เหตุผลในส่วนตรงนี้เพิ่มเติมลงไปอีกค่ะ อีกอย่าง ตัวของจิงโจ้หดเล็กลงจนตัวเท่ามด แต่กลับไม่รู้สึกถึงความแตกต่างระหว่างตัวเองกับปั่นเลย นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่อ่านแล้วมันคาใจไม่หาย สุดท้าย เป็นจุดเล็กๆ น้อยๆ ในบทนำ > ภายใต้ท้องฟ้าสีคราม (ในวันที่ฝนตก?) / เด็กเจ็บขวบ มีฟันครบสามสิบสองซี่(?) สองอย่างนี้ให้ลองเอากลับไปคิดทบทวนดูค่ะ

-การดำเนินเรื่อง/ความลื่นไหล/ความสนุกน่าติดตาม

การดำเนินเรื่อง: การดำเนินเรื่องชวนให้อ่านได้เรื่อยๆ มีความสนุกน่าติดตามจนอ่านเพลินเลยทีเดียว มีมุขตบต่อมความฮาตลอด แม้จะไม่ได้ฮามากจนขำกลิ้งน้ำตาไหล แต่ก็เรียกรอยยิ้มได้เรื่อยๆ ให้หลงรักพระนางของเรื่องนี้ไปโดยไม่รู้ตัว

ความสนุกน่าติดตาม: เริ่มแรกมาในบทนำ นับว่าน่าสนใจ แต่พอดำเนินเรื่องในบทถัดมา มันเหมือนๆ กับนิยายรักกุ๊กกิ๊กเรื่องอื่นๆ ที่ตื่นเช้ามาเจอเสียงนาฬิกาปลุก แล้วมีเสียงแม่เรียกตามมา ทำให้ความน่าสนใจของเนื้อเรื่องลดฮวบไปเล็กน้อย แต่พออ่านในบทถัดๆ มา นับว่าท่านทำได้ดี ภาษาอ่านลื่นไหล เข้าใจง่าย และน่ารักมาก มีมุขตลกตบให้คนอ่านขำเล่นตลอด ซึ่งเป็นสีสันอย่างหนึ่งที่ทำได้ดี และทำเรื่องนี้น่าติดตามค่ะ

-ภาพรวม/สรุป

โครงเรื่องน่าสนใจ อ่านแล้วคล้ายๆ กำลังอ่านการ์ตูนสักเรื่องอยู่เลยทีเดียว บรรยายได้ดีและน่าติดตาม พล๊อตเรื่องมาดีแล้ว ที่เหลือก็แค่เดินตามทางหาเห็ดและสิ่งของอื่นๆ เพื่อคลายคำสาปเท่านั้น พยายามบรรยายสิ่งแวดล้อมรอบตัวให้มากเพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้น นั่นรวมไปถึงลักษณะของตัวละครหลักๆ ด้วย เพื่อที่ผู้อ่านจะได้จิ้นกันไปในทิศทางเดียว หากมีการอัพอย่างสม่ำเสมอจะเป็นผลดีกับนิยายของท่านมาก หากบวกกับความเอาใจใส่ในผลงานแบบนี้ไปได้เรื่อยๆ และเชื่อว่าเรื่องนี้จะเติบโตไปได้ไกลแน่ค่ะ

[แอบข้ามคิว เป็นไรไหมหว่า เห็นชื่อเรื่องแล้วมันอยากอ่านงะ 555 อยากให้เป็นอีกเรื่องที่ได้การันตีว่าอ่านแล้วสนุก แต่จำนวนตอนยังน้อยอยู่บวกกับยังมีจุดที่ต้องแก้ไขอีกพอสมควรเลยยังไม่แนะนำแล้วกันจ้ะ :D ]

     
 
ใครแต่ง : N-PSY
25 เม.ย. 67
80 %
1 Votes  
#12 REVIEW
 
เห็นด้วย
13
จาก 13 คน 
 
 
วิจารณ์นิยาย สไตล์ เซเซดๆ.

(แจ้งลบ)
  
เขียนเมื่อ 15 ก.ย. 54
เรื่อง : The Ecchymosed Sin – บาปห้อเลือด
ผู้วิจารณ์ : ANN


สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นต้องขอออกตัวเป็นธรรมเนียมก่อนว่าเราไม่ได้เป็นนักวิจารณ์มืออาชีพนะคะ เพราะฉะนั้นอาจจะวิจารณ์ได้ไม่ตรงจุดหรือยังขาดๆ เกินๆ อยู่บ้าง อยากให้คิดเสียว่าการวิจารณ์นี้เป็นการแสดงแง่คิดในมุมมองของนักอ่านคนหนึ่ง ที่เข้ามาอ่านนิยายของท่าน โดยมุ่งเน้นว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้รับการวิจารณ์บ้างไม่มากก็น้อยค่ะ

-โครงเรื่อง

บาปห้อเลือด เป็นนิยายแฟนตาซีที่มีกลิ่นอายของความดาร์กโชยมาตั้งแต่ชื่อเรื่องเลยทีเดียว เริ่มจากชื่อเรื่องก่อนนะคะ บาปห้อเลือด เป็นชื่อที่ติดตาต้องใจมากตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เห็น อาจเป็นเพราะท่านเลือกใช้คำว่า บาป มาควบคู่กับคำว่า ห้อเลือด เลยทำให้รู้สึกว่าเรื่องนี้มันชักไม่ชอบมาพากลเสียแล้ว ซึ่งมันสะกิดต่อมอยากรู้เข้าอย่างจัง จนต้องไล่ตาอ่านที่ท่านแนะนำเรื่องแบบย่อไว้ เท่านั้นแหละค่ะ บอกได้คำเดียวว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แปลกแหวกแนว และน่าสนใจมาก!

โครงเรื่อง เกี่ยวกับพระเอกหนุ่มนามปรัชญา เขาสูญเสียคนที่รักยิ่งไปแล้ว แต่ด้วยความที่ยังมีเรื่องค้างคาใจอยู่ ทำให้เขาคิดไปว่าพวกศาสตร์มนต์ดำต่างๆ จะสามารถชุบชีวิตเธอขึ้นมาได้ นั่นทำให้เขาเริ่มต้นแผนการต่างๆ โดยมีเด็กสาวนามฟาห์ น้องสาวบุญธรรมที่ควบคู่ตำแหน่งคนรักปัจจุบัน เป็นไพ่ตายที่เขาจะเอาไว้ใช้เป็นร่างสังเวย นับว่าเป็นโครงเรื่องที่มาแปลกมาก และน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

-ภาษา สำนวน

การบรรยาย: การบรรยายและภาษาที่ใช้ต้องขอชื่นชมจากใจเลยว่าท่านทำยอดเยี่ยมมาก อ่านแล้วลื่นไหล บรรยายได้ชัดเจนแถมมีการใช้คำเปรียบเปรยให้ผู้อ่านเห็นภาพตามได้ไม่ยาก ส่วนของฉาก เวลา สถานที่ อารมณ์ความรู้สึกท่านก็จัดการได้ดี โดยส่วนของการบรรยายเรียกได้ว่ากินขาดค่ะ

บทสนทนา: การพูดคุยตอบโต้กันนับว่าทำได้ดี เป็นธรรมชาติ อ่านแล้วแยกแยะออกเลยว่าประโยคนั้นใครเป็นคนพูดขึ้นมา อาจเป็นเพราะตัวละครของท่านมีไม่เยอะมากด้วย เลยทำให้ส่วนของบทสนทนาไม่มีปัญหาอะไรค่ะ

คำผิด คำซ้ำ การหลากคำ: คำผิดแทบหาไม่เจอเลยค่ะ คาดว่าท่านคงเก็บไปหมดแล้ว การใช้คำท่านเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสม และแพรวพราวมาก เอาไปว่าเรื่องนี้ผ่านฉลุยค่ะ

ความถูกต้องของการใช้สัญลักษณ์ต่างๆ และซาวด์เอฟเฟค : สัญลักษณ์ที่ใช้มีความเหมาะสมดีอยู่แล้ว ส่วนเรื่องซาวด์เอฟเฟคเท่าที่ดูก็ไม่มีปัญหา

-ตัวละคร

ปรัชญา ตัวเอกของเรื่อง เท่าที่อ่านดูความเห็นจากคนอื่นๆ แล้วรู้สึกไม่มีใครปลื้มตัวละครนี้มากสักเท่าไหร่ ส่วนตัวข้าพเจ้าก็ไม่ชอบเหมือนกัน ภายนอกเขาดูเป็นคนสุภาพ ทว่าในใจนั้นยากแท้หยั่งถึง ยิ่งได้เห็นกระบวนการทางความคิดของเขาด้วยแล้ว บอกได้คำเดียวว่าเข้าใจยากแท้ และสามารถทำใจยอมรับได้ยาก อีกทั้งยังมาแบบคนมากรัก ซึ่งนั่นทำให้ภาพพจน์แลดูตกต่ำลงยิ่งนัก ส่วน ฟาห์ เด็กหญิงที่เหมือนจะออกแนวดาร์ก (หรือดาร์กแล้ว?) เธอคนนี้บอกได้เลยว่าเป็นตัวละครที่ทุกคนพร้อมเทคะแนนใจให้เธอไปเลยเต็มๆ คอยเอาใจช่วยสารพัด และหวังให้เธอรอดจากน้ำมือของปรัชญา
ตัวละครในเรื่องท่านจัดการได้ดีมาก ราวกับคนอ่านสามารถเข้าถึงความคิดของตัวละครนั้นๆ ได้เลยเชียวล่ะ รู้ทั้งกระบวนการคิด มุมมอง ทัศนวิสัย ซึ่งมันเป็นเรื่องยากมากๆ และน้อยคนนักที่จะจัดการส่วนตรงนี้ได้ดีเท่านี้

สำหรับตัวละคนอื่นๆ ท่านก็จัดการได้ดีไม่แพ้ตัวละครหลักเลย อาจเป็นเพราะตัวละครในเรื่องของท่านน้อยด้วย เลยทำให้คนอ่านจำชื่อและนิสัยทุกคนได้หมด

-ความสมเหตุสมผล

จากที่เกริ่นไปบางส่วนแล้ว ในตัวของปรัชญา เขามีเหตุผลที่ต้องการคนรักเก่าคืน ซึ่งทำให้เขาจำต้องใช้วิธีต่างๆ ที่คนทั่วไปไม่สามารถยอมรับได้มาใช้ อันนี้ถือว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคลแล้วกันค่ะ การที่เขาเคยพบพระเจ้ามาก่อนแล้ว และเป็นผลพวงมาจากการที่รอดตายมาแล้วครั้งหนึ่ง อาจเป็นส่วนเสริมให้เขาเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่าเขาจะสามารถชุบชีวิตแฟนสาวขึ้นมาได้จริง จะบอกว่าเขาเป็นพวกจิตวิปลาสก็คงไม่ผิดนัก สำหรับคนอ่าน อาจคิดว่าเรื่องอย่างนี้มันจะเป็นไปได้จริงๆ หรอ? แต่ถ้าในมุมมองของตัวละครในนิยายแล้ว ถือว่ายอมรับได้ค่ะ

สำหรับฟาห์ การที่เธอต้องอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ามาก่อน แล้วถูกปรัชญารับไปเลี้ยง ปรัชญาเองคงเปรียบเสมือนเทพบุตรที่เข้ามาในชีวิตเธอเลยล่ะ การที่เธอทั้งรัก ทั้งเทิดทูนคนผู้นี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร รวมไปถึงความรักฉันท์ชู้สาวด้วย อยู่ก็อยู่ด้วยกัน แม้แต่นอนยังนอนด้วยกัน หากใจไม่ไขว้เขวบ้าง ปรัชญาก็นับว่าเป็นพระอิฐพระปูนเต็มทน ส่วนฟาห์ก็คงเรียกได้ว่าตายด้านแล้วล่ะค่ะ (ฮา)

ในเรื่องมีความสมเหตุสมผลดีค่ะ ท่านได้ลำดับเหตุการณ์ให้ทุกคนคล้อยตามไว้หมดแล้ว ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับว่าคนอ่านจะรับกับเหตุผลทั้งหมดที่มีในเรื่องได้มากน้อยแค่ไหนค่ะ

-การดำเนินเรื่อง/ความลื่นไหล/ความสนุกน่าติดตาม

การดำเนินเรื่อง: การดำเนินเรื่องเรียกได้ว่าช้ามาก มีการย้อนเหตุการณ์และย้อนความทรงจำอยู่บ่อยครั้ง ไม่นับรวมความฝันที่ฟาห์เจออีก แถมท่านยังเน้นบทบรรยายให้มีความสละสลวย มีการเปรียบเทียบ และพรรณนาอยู่ในตัว ทำให้ตัวอักษรที่ออกมาค่อนข้างเยอะ เรื่องจึงดูเนิบนาบไปด้วย แต่ทั้งหมดนั้นคือเสน่ห์ที่คงปฏิเสธได้ยาก เพราะมันสื่ออารมณ์ออกมาได้ชัดเจนมาก บทจะตื่นเต้นก็ลุ้นซะแทบหายใจไม่ออก บทจะโล่งใจมันก็โล่งใจจริงๆ ยิ่งตอนศพใต้เตียงด้วยแล้ว อ่านเสร็จแทบอยากไปนอนซุกกับแม่ซักคืน มันหลอนติดตาได้เรื่องจริงๆ นะท่าน

ความสนุกน่าติดตาม: หากใครได้ลองอ่านแล้วคงยากที่เลิกอ่านได้ มีแต่จะกลับไปอ่านอีกรอบด้วยซ้ำ ในเรื่องมีแต่ปมปริศนาที่ค่อยๆ คายออกมาให้ลุ้นกันตัวโก่ง ยิ่งอ่านก็ยิ่งอยากอ่านต่อ อยากรู้เร็วๆ ว่าตอนต่อไปจะเป็นยังไง หนูฟาห์จะรอดไหม หรือปรัชญาจะโดนตำรวจจับได้ก่อน เอาเป็นว่าอ่านแล้วหลอนระทึกทุกตอน เรื่องความสนุกน่าติดตามรับร้อยคะแนนไปเลยเต็มๆ ค่ะ

-ภาพรวม/สรุป

ภาพรวมของนิยายเรื่องนี้ขอบอกเลยว่าเป็นนิยายดีที่ไม่ควรพลาด ภาษาลื่นไหล สละสลวย เนื้อเรื่องแนวดาร์กน่าติดตาม ลึกลับ และหลอนจิตมาก คำว่าข้อผิดพลาดหาได้ยากยิ่งนักในนิยายเรื่องนี้ ขอให้ท่านมั่นใจไว้เถิด ว่านิยายท่านคือของจริง การแก้ไขและพัฒนาอยู่ตลอดเวลาไม่ใช่เรื่องเสียหาย แต่การแก้ไขมันก็มีทั้งข้อดีและไม่ดีสลับกันไป ไม่แก้เลยก็ไม่ดี แต่แก้มากไปก็ใช่ว่าดีเสมอไปนะคะ เท่าที่แนะนำได้ก็มีเท่านี้แหละค่ะ นิยายท่านดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว กลายเป็นว่าเรามาชมอย่างเดียวเลย ก็ขอให้มุ่งมั่นพัฒนานิยายเรื่องนี้ต่อไปนะคะ อย่าเพิ่งหยุด อย่าเพิ่งยอมแพ้ หวังว่าสักวันเราจะมีนิยายของท่านเป็นเล่มไว้ในครอบครองค่ะ

นิยายเรื่องนี้ ANN ขอการันตีว่าไม่ควรพลาด แล้วคุณจะหลอนไปกับคู่พระนางที่ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครกล้าเหมือนเลยเชียวล่ะ!
     
 
ใครแต่ง : sodium.n
3 เม.ย. 57
80 %
16 Votes  
#14 REVIEW
 
เห็นด้วย
12
จาก 12 คน 
 
 
วิจารณ์นิยาย สไตล์ เซเซดๆ.

(แจ้งลบ)
  
เขียนเมื่อ 10 ก.ย. 54
เรื่อง : Change เดิมพันสุดเพี้ยนเปลี่ยนใจเธอให้มารักผม!
ผู้วิจารณ์ : SEI

ก่อนอื่นขอออกตัวเป็นธรรมเนียมว่าเราไม่ได้เป็นนักวิจารณ์มืออาชีพ เพราะฉะนั้นยังอาจวิจารณ์ได้ไม่ตรงจุดหรือยังขาดๆ เกินๆ อยู่บ้าง และมันก็ยังเป็นภาษาไตล์การวิจารณ์ง่ายๆ ของเราที่มุ่งเน้นว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้รับการวิจารณ์บ้างไม่มากก็น้อยค่ะ


-โครงเรื่อง

บอกตามตรงว่าทันทีที่เห็นการเกริ่นนำในหน้าบทความเรื่องนี้แล้วค่อนข้างคาดหวังว่าจะได้อ่านนิยายที่นางเอกคงจะมีความมาดแมนบวกกับมั่นใจในตัวเองสูง แต่เมื่ออ่านไปเรื่อยๆ ก็รู้สึกว่ามันไม่ได้เป็นอย่างที่คิดเลยแม้แต่น้อย
ตามธีมของโครงเรื่องนั้น ‘น้ำซุป’ นางเอกของเรื่องยอมรับข้อตกลงของ ‘แวร์ซายส์’ ด้วยข้อเสนอที่ว่าเขาจะยอมไปจากชีวิตของ ฟินน์ หญิงสาวที่คบคนทั้งคู่ด้วยความสับสนว่าต้องการคบกับเพศใดกันแน่ ด้วยการเดิมพันที่ว่าหากน้ำซุปไม่ตกหลุมรักเขาในหนึ่งเดือนเขาจะยอมรามือจากฟินน์
ความน่าสนใจของเรื่องคงจะหนีไม่พ้นนางเอกของเรื่องที่ผู้แต่งกำหนดให้เป็นสาวทอมบอย ซึ่งส่วนใหญ่ในนิยายแนวนี้มักไม่มีค่อยมีนางเอกในรูปแบบนี้เท่าใดนัก แต่เมื่อดูโครงเรื่องหลักก็พบว่ามันเป็นแนวตลาดไม่มีความแปลกใหม่แต่อย่างใด
ส่วนจุดที่เป็นหัวใจหลักของนิยายเรื่องนี้คงจะหนีไม่พ้นจากการเปลี่ยนแปลงในด้านความคิดแล้วก็มุมมองของ ‘น้ำซุป’ นางเอกของเรื่องที่เป็นทอมบอยว่าจะมาหลงรัก ‘แวร์ซายส์’ ชายหนุ่มจอมกะล่อน ได้อย่างไร จึงไม่น่าแปลกใจว่าในนิยายเรื่องนี้คงจะมีฉากชวนกุ๊กกิ๊กหวานแหววเกิน 50% ในเนื้อเรื่องแน่ๆ


-ภาษา สำนวน

การบรรยาย: การบรรยายถือว่าใช้ได้ในระดับหนึ่ง สามารถบรรยายให้คนอ่านจินตนาการตามได้เป็นอย่างดี จุดที่แนะนำก็คือการบรรยายรายละเอียดปลีกย่อยที่ดูสั้นๆ ห้วนๆ จนเกินไปค่ะ

บทสนทนา: มีชีวิตชีวา กระฉับกระเฉง เข้าใจง่าย แต่จากการสังเกตพบว่าผู้แต่งมักจะดำเนินเรื่องโดยใช้บทสนทนาเป็นหลัก ทำให้แต่ละบทนั้นแทบจะมีแต่บทสนทนาของพระ-นางทั้งหน้า แม้จะมีการบรรยายเสริมมาช่วยไม่ให้กลายเป็นบทละครไป แต่โดยภาพรวมแล้วถือว่าผู้แต่งยังให้น้ำหนักในบทสนทนาและการบรรยายได้ไม่ดีเท่าที่ควร

คำผิด คำซ้ำ การหลากคำ: คำผิดพบได้ประปรายในเรื่อง เช่น เริด คำนี้มีความหมายว่า ค้างอยู่ ต่างจากคำว่า เริ่ด ที่มาจาก เลิศ พอสมควร/หัวปลักหัวปลำ-หัวปักหัวปำ/ มีคำที่เกิดจากการพิมพ์ตกหล่นอยู่บ้างเล็กน้อย แต่ยังไม่ส่งผลให้นิยายสะดุดหรือทำให้เสียอรรถรส มุมมองในภาพรวมจึงอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดี

ความถูกต้องของการใช้สัญลักษณ์ต่างๆ และซาวด์เอฟเฟค : การใช้เครื่องหมายอัศเจรีย์ (!) ในแต่ละบทค่อนข้างพร่ำพรื่อเกินความจำเป็น ควรปรับปรุงและแก้ไขในส่วนนี้เพื่อทำให้นิยายมีความสมบูรณ์เพิ่มมากขึ้นนะคะ

::: ซาวด์เอฟเฟค::: ยังแปลกๆ อยู่ในบางจุด เช่น แหมะ! แหมะ! ซึ่งในจุดนี้ไม่น่าใส่เครื่องหมาย ! เพราะมันจะทำให้รู้สึกตกใจแทนที่จะรู้สึกถึงเลือดที่ค่อยๆ หยดลง

-ตัวละคร

ด้านตัวละครยังถือว่ามีจุดที่หลุดคาแรคเตอร์อยู่พอสมควร ไม่ว่าจะเป็นน้ำซุปที่ในตอนแรกๆ นั้นเกลียดผู้ชายแถมย้ำนักย้ำหนาว่าตัวเองเป็นทอม แต่พอเจอแวร์ซายส์ก็เปลี่ยนอารมณ์เป็นสาวน้อยขึ้นมาทันตาเห็น หรืออาจจะเป็นเพราะผู้แต่งวางบทไว้ว่าน้ำซุปเป็นทอมเพราะประชดผู้ชายก็ตาม แต่มันก็ทำให้รู้สึกว่าความจริงแล้วน้ำซุปเป็นแค่ผู้หญิงที่ค่อนข้างไม่ชอบผู้ชายเฉยๆ ไม่ใช่ทอมที่เกลียดผู้ชายเหมือนที่กล่าวไว้ในตอนแรกๆ ซึ่งในจุดของแวร์ซายส์เองก็ไม่ต่างกันมากนักเพราะจากลักษณะจอมกระล่อนขี้หลีในตอนแรกก็เปลี่ยนมาดูดีสมกับบทพระเอกขึ้นจม พาร์ทกับกริลท์ไม่ขอพูดถึงค่ะเพราะสองคนนี้ยังมีข้อมูลน้อยมาก

-ความสมเหตุสมผล

คงต้องบอกว่านิยายเรื่องนี้ขาดความสมเหตุสมผลอยู่พอสมควร เริ่มตั้งแต่จุดแรกที่น้ำซุปยอมรับข้อตกลงของแวร์ซายส์เพื่อกำจัดเขาให้พ้นจากการเป็นตัวเลือกของฟินน์ ตรงนี้แหละค่ะที่ชี้ให้เห็นว่าน้ำซุปแคร์ฟินน์อยู่เหมือนกัน เพราะถ้าเธอไม่รักฟินน์เลยจะยอมรับข้อเสนอของแวร์ซายส์ทำไม สู้ปล่อยฟินน์ไปไม่ดีกว่าหรือ? และเพราะสาเหตุนี้น้ำซุปที่รู้ตัวว่ากำลังเล่นเกมกับแวร์ซายส์อยู่ไม่น่าที่จะปล่อยตัวปล่อยใจให้เริ่มรู้สึกดีกับแวร์ซายส์ไปง่ายดายนัก
น้ำซุปไม่เหมือนทอม? อย่างที่พูดไปค่ะว่าน้ำซุปเหมือนผู้หญิงที่ไม่ค่อยชอบผู้ชายเฉยๆ แต่กลับคบกับฟินน์(แถมหวงด้วย จนถึงกับยอมรับข้อเสนอแวร์ซายส์มา) ทำให้ดูขัดกับบทแรกพอสมควร
ต่อมาคงต้องบอกว่าทั้งแวร์ซายส์และพาร์ทต่างแอบตกหลุมรักน้ำซุปไวเกินไป เป็นจุดที่ผู้แต่งควรจะให้เวลาสำหรับตัวละครเหล่านี้ได้เรียนรู้กันอีกซักนิด จะทำให้เนื้อเรื่องมีมิติ และผู้อ่านก็คล้อยตามมากยิ่งขึ้นค่ะ

-การดำเนินเรื่อง/ความลื่นไหล/ความสนุกน่าติดตาม

การดำเนินเรื่อง: การดำเนินเรื่องเป็นไปอย่างเร็วถึงเร็วมาก จากจุดที่เป็นประเด็นหลักของเรื่องน่าจะเป็นส่วนที่ความรู้สึกของน้ำซุปค่อยๆ เปลี่ยนในหนึ่งเดือน กลายเป็นว่าผู้แต่งเร่งจังหวะให้น้ำซุปเริ่มรู้สึกดีๆ กับแวร์ซายส์ตั้งแต่เริ่มเรื่อง ทำให้ดูขัดๆ กันอยู่พอสมควร เข้าใจว่าอาจมีปมบางอย่างเพิ่มเข้ามาช่วยเสริมทำให้นางเอกหลงรักพระเอกมากขึ้น แต่ภาพรวมมันดูไวจนเกินไปค่ะ โดยเฉพาะการตกหลุมรักของน้ำซุปที่เป็นหัวใจหลักของเรื่องนี้ ทำให้เกิดความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงเลยทีเดียว
จุดที่ควรระวังคือการรีบตัดฉากค่ะ ดูเหมือนว่าผู้แต่งจะตัดหรือข้ามฉากที่ไม่ค่อยถนัดกระโดดไปยังปลายเหตุเลยแล้วค่อยกับมาอธิบายสั้นๆ อีกที ในส่วนนี้นอกจะทำให้นิยายดำเนินเรื่องไปด้วยความรวดเร็วแล้ว ยังเป็นการทำให้อารมณ์ผู้อ่านสะดุดอยู่พอสมควรค่ะ
อีกประการหนึ่งมีความรู้สึกเหมือนพาร์ทแอบชอบน้ำซุปหลังจากอ่านบทที่6 ซึ่งถ้าพาร์ทหลงรักนางเอกจริง คงไม่ต้องบอกว่าผู้แต่งดำเนินเนื้อเรื่องได้ไว(โฮก)ในระดับใด ขอแนะนำให้ใจเย็นๆ ค่ะ ค่อยๆ เผยด้านต่างๆ ของตัวละครออกมาให้ผู้อ่านหลงรักตามไปด้วย ดีกว่าด่วนสรุปตัดฉับให้ตัวละครปลื้มกันเองอยู่สองคน(โดยที่ผู้อ่านไม่ปลื้มตามจะดีกว่า)

ความสนุกน่าติดตาม: โดยส่วนตัวคิดว่านิยายเรื่องนี้ เป็นอีกเรื่องที่อ่านง่ายๆ ค่ะ เพียงแต่ควรแก้ไขข้อผิดพลาดต่างๆ จะทำให้ชวนติดตามเพิ่มมากขึ้น

-ภาพรวม/สรุป
ยังมีจุดผิดพลาดที่ต้องแก้ไขอีกมาก แต่รับรองค่ะว่าหากแก้ไขบางส่วนของงานแล้ว จะทำให้นิยายมีความลื่นไหล สนุก น่าติดตามเพิ่มขึ้นมากทีเดียว อย่าลืมว่านิยายเรื่องนี้เพิ่งอยู่ในช่วงแรกของการเริ่มเรื่องเท่านั้น พยายามอย่าเร่งรัดยัดเนื้อหาจนมากเกินไปเพราะจะทำให้นิยายนั้นขาดความน่าสนใจและเกิดความขัดแย้งต่างๆ ตามมา ข้อแนะนำที่เกือบจะลืมไปเลยก็คือ การสร้างสถานการณ์ให้ตัวเอกเกิดความรู้สึกดีๆ ด้วยกันไม่จำเป็นจะต้องพากันไปเที่ยวอย่างเดียวนะคะ ยังมีสถานการณ์ต่างๆ อีกมากมายที่นำมาใช้ได้ อย่างน้อยถ้าผู้แต่งนึกไม่ออกลองมองไปรอบๆ ตัวสิคะว่าสิ่งต่างๆ หรือเหตุการณ์รอบตัวนั้นมีอะไรที่สามารถนำมาประยุกต์ใส่ในนิยายได้บ้าง
บางทีจุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่เรามองข้ามไป อาจจะเป็น ‘จุดเริ่มต้น’ ที่ทำให้ความรักของคนสองคนเกิดขึ้นก็ได้นะ
     
 
ชื่อเรื่อง :  Princess of the light
ใครแต่ง : KiRiz@kI
4 พ.ค. 56
80 %
11 Votes  
#15 REVIEW
 
เห็นด้วย
12
จาก 12 คน 
 
 
วิจารณ์นิยาย สไตล์ เซเซดๆ.

(แจ้งลบ)
  
เขียนเมื่อ 11 ก.ย. 54
เรื่อง : Princess of the light
ผู้วิจารณ์ : SEI

ก่อนอื่นขอออกตัวเป็นธรรมเนียมว่าเราไม่ได้เป็นนักวิจารณ์มืออาชีพ เพราะฉะนั้นยังอาจวิจารณ์ได้ไม่ตรงจุดหรือยังขาดๆ เกินๆ อยู่บ้าง และมันก็ยังเป็นภาษาไตล์การวิจารณ์ง่ายๆ ของเราที่มุ่งเน้นว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้รับการวิจารณ์บ้างไม่มากก็น้อยค่ะ


-โครงเรื่อง

ก่อนอื่นคงต้องบอกว่าหลังจากที่อ่านบทนำและบทที่1 มาได้เห็นประโยคและการบรรยายก็มั่นใจว่านิยายเรื่องนี้เป็นแฟนตาซียุคเก่าแน่ๆ แต่ทว่าพออ่านในบทที่ 2 ก็ชักประหลาดใจว่าทำไมถึงมี สารวัตร,บริษัท โผล่เข้ามา ทำให้ต้องรีบกดตอนไปอ่านให้แน่ใจอีกครั้ง และคงต้องบอกว่าเข้าใจผิดไปเต็มประตูเลยทีเดียวค่ะ เมื่อธีมเรื่องของนิยายเรื่องนี้เป็นแฟนตาซีร่วมสมัย(?)

***เนื่องจากในจุดนี้ผู้แต่งไม่ได้ให้ความกระจ่างเกี่ยวกับยุคสมัยของนิยายเรื่องนี้เลย จึงขอคาดเดาไปเองแล้วกันค่ะว่าเป็นแฟนตาซีร่วมสมัย เพราะนอกจากจะมีกลิ่นอายยุคเก่าๆ อยู่บ้างเช่น รถม้า,การเรียกชื่อและแบ่งชนชั้น,รวมไปถึงคำต่างๆ ในยุคสมัยใหม่เช่น บริษัท,สารวัตร จึงขอสรุปแบบนี้แล้วกัน (จะดีมากค่ะหากผู้แต่งช่วยบรรยายรายละเอียดตรงนี้แก่ผู้อ่านซักนิดเพื่อไม่ให้ผู้อ่านเกิดอาการงงหรือสับสนได้ ว่าขณะนี้กำลังอ่านนิยายที่อยู่ในช่วงยุคใด เพราะมันไม่ใช่แนวแฟนตาซีทั่วไปที่สามารถเข้าใจถึงการดำเนินเรื่องต่างๆ ได้ง่ายมากนัก)***

ธีมของเรื่องค่อนข้างแปลกสำหรับแนวแฟนตาซีเลยค่ะ เมื่อเนื้อเรื่องมีทั้งปิศาจ เอกโซซิส อีกทั้งยังมีกลิ่นอายแนวสืบสวนฆาตกรรมมาร่วมเสริมทัพให้นิยายดูออกแนวดาร์กไปเลยทีเดียว
โครงเรื่องของนิยายเรื่องนี้เป็นแบบโยนปริศนาตูมใหญ่มาก่อนจะค่อยๆ เผยรายละเอียดมาทีละนิดๆ ซึ่งการดำเนินลักษณะนี้ผู้แต่งจะต้องปูพื้นฐานของเรื่องและอธิบายรายละเอียดต่างๆ อย่างใจเย็น จึงจะทำให้ผู้อ่านมีความเข้าใจในเนื้อเรื่องและคล้อยตามให้ได้เสียก่อน คงต้องบอกว่าผู้แต่งผิดพลาดในจุดนี้อยู่ เพราะนอกจากจะไม่ได้ใส่รายละเอียดเนื้อเรื่องให้ผู้อ่านเข้าใจมากขึ้นแล้วยังมีการสอดแทรกปริศนาใหม่อยู่เนืองๆ ทำให้จากการที่อ่านแล้วเกิดความงุนงงสงสัยก็ยิ่งงงหนักเข้าไปใหญ่ ส่งผลให้ผู้อ่านที่ไม่ค่อยเข้าใจในเนื้อหาและสับสนกับปริศนาที่ทับถมขึ้นเรื่อยๆ เกิดอาการเบื่อหน่ายกับการอ่านได้ เชื่อว่าจุดนี้ทำให้เสียนักอ่านขาจรไปเป็นจำนวนมากทีเดียวเลยค่ะ

-ภาษา สำนวน

การบรรยาย:
ในช่วงบทแรกๆ จะพบกับปัญหาเหล่านี้ค่ะ
มีการใช้คำฟุ่มเฟือยอยู่พอสมควร ขอยกตัวอย่างในบทนำที่บรรยายถึงฉากที่รินะกำลังนั่งเหม่อ ประโยคนี้ค่ะ ‘ดวงตาสีฟ้าใสเหม่อลอยไม่จับจ้องสิ่งใด’ ตรงจุดนี้ถือว่าผู้แต่งใช้คำค่อนข้างฟุ่มเฟือยไปนิดเพราะอาการเหม่อลอยก็บอกลักษณะของตัวละครได้ชัดเจนอยู่แล้ว แต่กลับเพิ่ม ‘ไม่จับจ้องสิ่งใด’ เข้าไปขยายความต่ออีก โดยส่วนตัวคิดยังไม่เป็นปัญหาที่ทำให้เสียอรรถรสในการอ่านมากนักค่ะ แต่ผู้แต่งต้องพยายามสังเกตการใช้คำนิดนึง

กรณีต่อมาคือประโยคที่ใช้ยังติดขัดอยู่มาก ขอยกตัวอย่างในบทที่สองนะคะ ตรงประโยคนี้ค่ะ ‘และในวินาทีนั้นเด็กสาวก็รู้ได้ทันทีว่าความซวยขั้นร้ายแรงกำลังมาเยือนเธอแล้ว ณ วินาทีนี้’ ติดกันเลยค่ะ ‘แหงสิ นี่มันอีกห้าทุ่มกว่าแล้วนี่นา’ จะเห็นได้ว่าจุดนี้รูปประโยคยังแปลกๆ อยู่และสามารถแก้ไขได้อย่างง่ายๆ คือการอ่านตรวจทานเช็คข้อความอีกครั้งเพื่อขัดเกลารูปประโยคให้สละสลวยและสมบูรณ์ค่ะ

หัวข้อถัดมาคือการบรรยายที่ขาดความกระชับ อ่านบทที่สองแล้วขอสารภาพตามตรงเลยค่ะ ว่าการบรรยายสิบกว่าบรรทัดแรกที่ผู้แต่งบรรยายฉากและสถานที่มาทำให้รู้สึกเหมือนกำลังอ่านเรียงความเรื่องการบรรยากาศสภาพในคฤหาสน์อยู่ เพราะการบรรยายที่ยืดเยื้อความขาดกระชับนั่นเอง

ตามมาด้วยการบรรยายเสริมที่ผิดจุด ในเรื่องนี้สังเกตได้จากฉากที่เคย์กัดมือของรินะ ซึ่งผู้แต่งน่าจะบรรยายถึงอาการของบาดแผลที่สมานตัวก่อนที่เคย์จะอุทานแสดงความทึ่งออกมา

แต่พอมาถึงบทหลังๆ ประมาณตอนที่ 15 ขึ้นไปผู้แต่งสามารถบรรยายและเก็บรายละเอียดได้ดีขึ้นมาก ซึ่งในบทที่ 19 จะเห็นการบรรยายของผู้แต่งที่พัฒนาขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัด มีความกระชับเนื้อหารวบรัดดีค่ะ นับว่าเป็นการพัฒนาในการเขียนได้เยี่ยมยอดเลย Level Up!

บทสนทนา: ค่อนข้างห้วนๆ สั้นๆ ซะมาก เพราะต่างคนต่างพูดไปในแนวเป็นปริศนาให้อีกฝ่ายเก็บไปคิดซะหมด จึงไม่ค่อยลื่นไหลมากนักในภาพรวม

คำผิด คำซ้ำ การหลากคำ:

คำผิด เช่น อัศดง-อัสดง/กราดเกลื่อน-กลาดเกลื่อน/สดุด-สะดุด/หลั่นริน-หลั่งริน/ตลาดกาล-ตลอดกาล/สารวัต-สารวัตร/อาเพส-อาเพศ/สิทธิ-สิทธิ์/เนี้ย-เนี่ย/อุส่า-อุตส่าห์/ยิ้มเยอะ-ยิ้มเยาะ/สติสตางค์-สติสตัง/ระรึก-ระลึก/เจ้าใจ-เข้าใจ/รี-รีบ จะเห็นได้ว่ามีทั้งคำที่ใช้ผิดแล้วก็รีบพิมพ์จนเกินไปค่ะ

คำซ้ำ พบเป็นระยะๆ ในเนื้อเรื่อง แต่ยังถือว่าไม่มากจนทำให้สะดุดตามากนัก เช่น สรรพนามของรินะที่ผู้แต่งกำหนดให้เป็นเด็กสาว ก็จะปรากฏแต่คำนี้ตลอดค่ะ

การหลากคำ ถือว่ายังมีการใช้คำไม่ค่อยหลากหลายเท่าใด มักจะเห็นการใช้คำเดิมๆ ในสถานการณ์ที่ใกล้เคียงหรือคล้ายกัน สืบเนื่องมาจากคำซ้ำค่ะ

ความถูกต้องของการใช้สัญลักษณ์ต่างๆ และซาวด์เอฟเฟค :

การขึ้นย่อหน้า : จัดเป็นปัญหาค่อนข้างมากพอสมควร สังเกตได้จากผู้แต่งมักจะขึ้นย่อหน้าใหม่เมื่อบรรยายฉากหรือเรื่องๆ หนึ่งจบ ทำให้การดำเนินเรื่องขาดความต่อเนื่องขึ้นซึ่งในบางจุดผู้แต่งสามารถบรรยายต่อเนื่องเป็นประโยคยาวได้แต่กลับรีบตัดเนื้อหาขึ้นบรรทัดใหม่ จึงทำให้เกิดความรู้สึกไม่ปะติดปะต่อขึ้น

ด้านสัญลักษณ์ไม่มีปัญหา ส่วนซาวด์เอฟเฟคนั้นแทบจะไม่ปรากฏในเรื่องเลย

:::การใช้คำ::: คำที่ใช้ยังมีภาษาพูดในการเขียนอยู่พอสมควร เช่น ยังไง,ไม่งั้น,ได้ไง,เซ็งจิต,แหงๆ,ยั๊ว

-ตัวละคร

ด้านตัวละครยังไม่ค่อยมีมิติเท่าที่ควร โดยเฉพาะรินาริเรียที่มีหน้ากากหลากหลายและอารมณ์ที่ค่อนข้างแปรปรวนอยู่มาก ซึ่งทำให้ยากที่หยั่งถึงจิตใจเธอรวมถึงผู้อ่านด้วยเช่นกัน และแม้แต่ตัวละครที่เหลือไม่ว่าจะเป็น หมออัล หรือพ่อบ้านเคย์ ผู้เต็มไปด้วยปริศนาก็ราวกับมีไอทะมึนครอบคลุมอยู่รอบตัวทำให้มองไม่เห็นถึงบุคลิกและเอกลักษณ์ที่เป็นจุดเด่นมากมายเท่าไหร่ ดังนั้นตัวละครที่ค่อนข้างเปิดเผยอย่าง กิล จึงเป็นตัวละครที่ค่อนข้างมีมิติมากที่สุดนั่นเอง

-ความสมเหตุสมผล

ความสมเหตุสมผลยังค่อนข้างต้องแก้ไขพอสมควร ทั้งเรื่องการฆาตกรรมในตอนแรกที่เพียงชั่วข้ามคืนกลับส่งกลิ่นเหม็นเน่าออกมาได้ ในจุดนี้ถือว่ายังไม่ค่อยจะสมจริงนักค่ะ ถ้าเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดและเศษซากอวัยวะที่เริ่มเน่านี่ยังพอรับได้ แต่ถ้าน่าเฟะมีหนอนไชตามที่บรรยายไว้นี่ออกจะขาดความสมจริงทีเดียวค่ะ

ในส่วนที่เหลือคงไม่อาจวิจารณ์ได้เพราะเป็นปริศนาขมวดปมพันเป็นเกลียวเสียเหลือเกิน เพียงแต่สงสัยว่าทำไมถึงมีผู้บุกรุกเข้าคฤหาสน์ของรินะได้ง่ายดายนัก โดยเฉพาะอัศวินสีขาวที่บุกเข้ามาถึงในห้องนอนแบบที่ไม่รู้สึกตัวกันเลย

อ่านจนถึงตอนสุดท้ายหรือก็คือบทที่ 23 ในเรื่อง มีข้อแนะนำอย่างหนึ่งค่ะ คือความเนียน ในจุดนี้ผู้แต่งคงต้องทำการบ้านมากๆ เพราะในส่วนนี้ผู้แต่งจะต้องโยงเนื้อเรื่องทั้งหมดเข้าหากัน แน่นอนค่ะว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหลายบวกกับรายละเอียดตลอดเรื่องซึ่งค่อนข้างเยอะมากทำให้ยังมีจุดที่ขัดๆ กันอยู่บ้างพอสมควร ดังนั้นแล้วส่วนที่จะมาช่วยทำให้เนื้อเรื่องลื่นไหลก็คือความเนียนในการปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดนี่แหละค่ะที่จะทำให้เนื้อเรื่องมีความสมบูรณ์มากขึ้น

-การดำเนินเรื่อง/ความลื่นไหล/ความสนุกน่าติดตาม

การดำเนินเรื่อง: การดำเนินเป็นไปอย่างเนิบๆ เรื่อยๆ ค่ะ โดยส่วนตัวคิดว่ายังไม่มีความหวือหวาให้ดึงดูดน่าสนใจมากนัก แต่ช่วงบทที่16 เป็นต้นมาค่อนข้างลื่นไหลพอสมควร ทำให้อ่านได้เรื่อยๆ ไม่น่าเบื่อเหมือนในช่วงแรกๆ
การเปลี่ยนฉาก,ตัดฉากในบางจุด ยังทำได้ไม่ดีนักค่ะ ทำให้นิยายยังสะดุดอยู่พอควร

ความสนุกน่าติดตาม: ในจุดนี้คงต้องบอกว่าเนื้อเรื่องที่ซ่อนปมปริศนาที่พันกันหลายตลบและมีการดำเนินเรื่องเรียบๆ นั้น บวกกับตัวผู้แต่งเองที่กำหนดให้สถานการณ์เป็นปมปัญหาซับซ้อนโดยที่มาคลายเงื่อนในตอนหลังๆ เท่านั้นทำให้นิยายเรื่องนี้เกิดอาการเคว้งคว้างไร้ทิศทางยากที่จะคาดเดาตามไปด้วยทำให้นิยายเรื่องนี้ขาดความสนุกไปพอสมควรทีเดียว

-ภาพรวม/สรุป

แนะนำให้รีไรท์สามตอนแรกอย่างด่วนเลยค่ะ เพราะการเปิดตัวและเนื้อหาช่วงแรกๆ เป็นจุดที่ทำให้นักอ่านตัดสินใจว่าควรจะกดตอนถัดไปในนิยายเรื่องนั้นดีหรือไม่ ซึ่งเราต้องขอบอกว่าสามตอนแรกของนิยายเรื่องนี้นั้นมีจุดผิดพลาดเยอะทีเดียวค่ะ ควรแก้ไขให้เนื้อหากระชับและครอบคลุมรวมถึงการใส่รายละเอียดที่ช่วยให้ขยายความให้ผู้อ่านสามารถเข้าใจเนื้อเรื่องได้ง่ายๆ จะทำให้นิยายเรื่องนี้มีความสมบูรณ์และน่าติดตามมากขึ้น โดยส่วนตัวคิดว่าเป็นนิยายที่มีการพัฒนาเรื่อยๆ ค่ะ ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องดีเลยทีเดียว เป็นกำลังใจให้ สู้ๆ ต่อไปค่ะ
     
 
9 ก.ย. 54
80 %
2 Votes  
#16 REVIEW
 
เห็นด้วย
12
จาก 12 คน 
 
 
วิจารณ์นิยาย สไตล์ เซเซดๆ.

(แจ้งลบ)
  
เขียนเมื่อ 15 ก.ย. 54
เรื่อง : It’s Love wrong.But I don’t care นี่มันเรื่องของผม [Yaoi]
ผู้วิจารณ์ : ANN

สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นต้องขอออกตัวเป็นธรรมเนียมก่อนว่าเราไม่ได้เป็นนักวิจารณ์มืออาชีพ นะคะ เพราะฉะนั้นอาจจะวิจารณ์ได้ไม่ตรงจุดหรือยังขาดๆ เกินๆ อยู่บ้าง อยากให้คิดเสียว่าการวิจารณ์นี้เป็นการแสดงแง่คิดในมุมมองของนักอ่านคนหนึ่ง ที่เข้ามาอ่านนิยายของท่าน โดยมุ่งเน้นว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้รับการวิจารณ์บ้างไม่มากก็น้อยค่ะ

-โครงเรื่อง

อายูมุ เรียว กับ อายูมุ ริว สองพี่น้องฝาแฝดซึ่งต้องอยู่บ้านกันตามลำพังด้วยเหตุผลบางประการ (ซึ่งท่านยังมิได้กล่าวถึง) ทั้งสองต่างแยกกันอยู่คนละโรงเรียน (ซึ่งท่านยังมิได้กล่าวว่าเพราะเหตุใด) อายูมุ เรียว ตัวหลักของเรื่องมีเพื่อนสนิท(ที่คงจะคิดไม่ซื่อ) คนหนึ่งชื่อ เคน และมีอาจารย์คนหนึ่งมาหลงรัก(?)

ตอนนี้โครงเรื่องนิยายของท่านยังเพิ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้น ยังเห็นภาพไม่มาก แต่ถ้าดูจากที่ท่านได้เกริ่นไว้หน้าบทความที่ว่า ผิดหรอ?? ที่จะชอบคนเพศเดียวกัน สายเลือดเดียวกัน แอบรักเพื่อนสนิท ชอบอาจารย์ของตัวเอง และชอบคนที่มีเจ้าของแล้ว คงเดาได้ลางๆ ว่าหลังจากนี้คงอีรุงตุงนังชิงพระเอก(หรือนางเอก?)กันแน่ๆ

-ภาษา สำนวน

การบรรยาย: ทำได้ดีในเรื่องฉาก และสถานที่ บทบรรยายทั่วไปค่อนข้างวกวนอยู่พอสมควร อ่านแล้วยังติดๆ ขัดๆ อยู่ การบรรยายตัวละครยังไม่เห็นภาพเพราะท่านแทบไม่ได้กล่าวถึงเลย รู้แต่เคนสูงกว่าเรียว และเคนหล่อ เรื่องบุคลิกท่าทาง หน้าตา สไตล์ผมนี่ยังคลุมเครืออยู่มาก เรียกได้ว่าแทบไม่เห็นภาพเลยค่ะ

บทสนทนา: ตอนนี้บทสนทนาท่านทำได้ดีกว่าบทบรรยายมาก ทำให้พอคาดเดาถูกว่าตัวละครนั้นๆ มีอุปนิสัยอย่างไรบ้าง อย่างเรียว เป็นพวกปากไม่ตรงกับใจ ขี้โวยวาย แต่ก็สุภาพกับผู้ใหญ่ เคน ค่อนข้างมาดสุขุม ทว่าขี้แกล้ง และกล้าแสดงออก ริว หนุ่มน้อยสไตล์พ่อบ้านที่มีความสุภาพและน่ารักเป็นจุดขาย เป็นคนให้เกียรติผู้หญิงที่รักอยู่พอตัว สุดท้ายอาจารย์ที่ปรึกษา มาแบบเหลี่ยมจัดเล็กน้อย เป็นพวกมีหน้ากากสองหน้า ซึ่งจากบทสนทนาจะเห็นบุคลิกคร่าวๆ ได้ดังที่บอกไปค่ะ

คำผิด คำซ้ำ การหลากคำ: คำผิดมีเยอะมากจากที่เห็น น่าตา=หน้าตา / อนุญาติ=อนุญาติ / สังเกตุ=สังเกต / หน๊อยแน่ะ=หนอยแน่! / มือนึง=มือหนึ่ง ฯลฯ นอกจากคำผิดแล้ว เสียงวรรณยุกต์ท้ายประโยคยังต้องแก้ไขอีกเยอะค่ะ เช่นคำว่า คะ ค่ะ อะ อ่ะ อ๊า อะไรพวกนี้ค่ะ หากท่านใช้เสียงวรรณ์ยุกต์ผิด ประโยคนั้นๆ อาจสื่ออารมณ์เพี้ยนไปได้เลยนะคะ แนะนำว่าหากไม่มั่นใจคำไหนให้เปิดดิค ไม่ก็ Google เลยค่ะ

::: การใช้คำ ยังมีคำซ้ำคำซ้อนอยู่เยอะ อ่านแล้วสะดุดกึกอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งแนะนำว่าหลังจากพิมเสร็จ ให้ละออกไปจากคอมก่อน ทิ้งไว้ซักชั่วโมงหรือสองชั่วโมงก็ได้ แล้วค่อยกลับมาอ่านเนื้อเรื่องของท่านใหม่ อย่าอ่านแบบเก็บคำผิด อ่านแบบผ่านตาเอาค่ะ แล้วท่านจะเห็นจุดที่ท่านใช้คำซ้ำคำซ้อนที่ท่านอาจมองข้ามไป

ความถูกต้องของการใช้สัญลักษณ์ต่างๆ และซาวด์เอฟเฟค : ซาวด์เอฟเฟคยังไม่พบเห็นในเรื่อง ส่วนสัญลักษ์ก็มีเพียง “…” / (...) กับ ... เท่านั้น หากถามความคิดเห็นในเรื่องนี้ ต้องบอกเลยว่า ... ที่ท่านใช้มีเยอะเกินไปค่ะ แล้วพวก (...) ยิ่งใช้น้อยยิ่งดีค่ะ ตอนนี้รู้สึกมันมากเกินไป

-ตัวละคร

ตัวละครยังไม่ค่อยมีมิติและภาพลักษณ์ที่ชัดเจนค่ะ เนื่องมาจากท่านไม่ได้บรรยายลักษณะของตัวละครนั้นๆ ไว้ในนิยายเลย จะมีก็เพียงส่วนสูงที่ให้รู้ว่าเคนจังสูงกว่าเรียวจัง และหน้าของเคนจังแบบนิดๆ หน่อยๆ นอกนั้นจำต้องจินตนาการเอาเองหมดผ่านบทสนทนา

-ความสมเหตุสมผล

จากที่อ่านไป 6 ตอน (ตอนล่าสุด) อ่านเสร็จมีเรื่องที่ข้องใจอยู่สองประเด็นหลักๆ คือ หนึ่ง ครอบครัวอายูมุตอนนี้เหลือแค่เรียวกับริวหรือเปล่า? แล้วพ่อแม่ของสองแฝดนี่หายไปไหน และสอง ถ้าเรียวรักริวขนาดนั้นทำไมถึงแยกกันอยู่คนละโรงเรียน อันนี้ท่านต้องชี้แจงให้เข้าใจ

เรื่องของความรักมันอาจไม่มีเหตุผล แต่ท่านควรอธิบายพื้นเพและความเป็นมาให้เข้าใจด้วยค่ะ ตัวอย่าง การที่เคนชอบเรียว เพราะเขาเป็นเพื่อนสนิท เป็นคนที่รับรู้เรื่องการตายของพ่อแม่ และเป็นคนที่ไม่ปล่อยให้เขาเหงา(?) อะไรก็ว่าไปค่ะ สำหรับอาจารย์ ทำไมอยู่ดีๆ เขาถึงมาชอบเรียวได้ เพราะเห็นเป็นเด็กดี(?) อ่อนน้อยถ่อมตน(?) หรือเพราะขยันขันแข็ง(?) อันนี้ท่านต้องอย่าลืมระบุไว้ด้วยค่ะ

-การดำเนินเรื่อง/ความลื่นไหล/ความสนุกน่าติดตาม
การดำเนินเรื่อง: การดำเนินเรื่องถือว่าค่อนข้างช้า เน้นบรรยายเรื่องกิจวัตรประจำวันไปเรื่อยๆ ปล่อยให้ผู้อ่านเห็นภาพของครอบครัวและความสนิทชิดเชื้อของตัวละครเสียมากกว่า รวมไปถึงความรู้สึกของเรียวที่มีต่อเคนจังด้วย

ความสนุกน่าติดตาม: ความน่าติดตามของเรื่องในตอนนี้คงเป็นที่การอยากรู้ว่าเรียวจะรู้สึกอะไรยังไงกับใครมากกว่า หากถามเรื่องภาพรวมแล้วคงบอกได้แค่ว่ายังไม่ค่อยน่าติดตามเท่าไหร่ค่ะ เท่าที่แนะนำได้ก็คือ ท่านต้องรู้จักเว้นวรรคให้ดี ตอนนี้บทพูดของตัวละครตีกันมั่วในประโยคเดียวยังมีให้เห็นอยู่เยอะ เรื่องคำผิดต้องขยันเก็บ และตรวจทานเรื่องสำนวนบ่อยๆ ค่ะ ระวังเรื่องคำซ้ำซ้อนด้วย ถ้าหากมีเวลาก็อยากให้หานิยายอ่าน (เอาแบบเป็นเล่มนะคะ) แล้วลองศึกษาวิธีเขียนของพวกเขาดู (แต่อย่าลอกนะ!) ดูวิธีเว้นวรรค เว้นบรรทัด และการดำเนินเรื่องอะไรพวกนี้ค่ะ รับรองเลยว่ามันจะช่วยพัฒนานิยายท่านได้เยอะเลยเชียวล่ะ

-ภาพรวม/สรุป

ยังคลุมเครือไม่ชัดเจนอยู่ค่ะ มีจุดที่ต้องแก้ไขอยู่อีกมาก การบรรยายเรื่องฉากและสถานที่โอเคแล้ว เหลือแต่เหล่าตัวละครที่ท่านต้องบรรยายลักษณะออกมาให้ผู้อ่านเห็นภาพ ว่าคนๆ นั้นเป็นยังไง? สูงไหม? หน้าตาหวานน่ารัก สวยประดุจหญิง หรือคมเข้มมาดแมน ไว้ผมทรงไหน? สั้น ยาว ระต้นคอ หรือยาวถึงกลางหลัง นัยน์ตาคนๆ นั้นสีอะไร? ดำ น้ำตาล ฯลฯ ระวังการใช้คำซ้ำซ้อน คำผิด และเรื่องชื่อตัวของฝาแฝด เห็นบางประโยคท่านแอบมึนใช้ชื่อเรียวสลับกับริวอยู่

นิยายเรื่องนี้เพิ่งอยู่ในช่วงปูพื้นสำหรับเข้าสู่ตัวเนื้อเรื่องหลักเพียงเท่านั้น ขอให้ท่านพยายามต่อไป อย่าเพิ่งย่อท้อ อ่านเยอะๆ ฝึกเขียนมากๆ ทักษะการเขียนเป็นสิ่งที่ได้มาด้วยการฝึกฝน เพราะฉะนั้น สู้ๆ นะคะ
     
 
ชื่อเรื่อง :  Memorial Mind
ใครแต่ง : คนเร่ร่อน
20 ก.ย. 54
80 %
15 Votes  
#17 REVIEW
 
เห็นด้วย
12
จาก 12 คน 
 
 
วิจารณ์นิยาย สไตล์ เซเซดๆ.

(แจ้งลบ)
  
เขียนเมื่อ 18 ก.ย. 54
เรื่อง : Memorial Mind
ผู้วิจารณ์ : SEI

ก่อนอื่นขอออกตัวเป็นธรรมเนียมว่าเราไม่ได้เป็นนักวิจารณ์มืออาชีพ เพราะฉะนั้นยังอาจวิจารณ์ได้ไม่ตรงจุดหรือยังขาดๆ เกินๆ อยู่บ้าง และมันก็ยังเป็นภาษาสไตล์การวิจารณ์ง่ายๆ ของเราที่มุ่งเน้นว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้รับการวิจารณ์บ้างไม่มากก็น้อยค่ะ

เฉพาะเจาะจงสำหรับเรื่องนี้ คงต้องขอบอกตามตรงว่าเซพยายามอ่านและทำความเข้าใจในนิยายของท่านอยู่พอสมควรทีเดียวค่ะ เพราะฉะนั้นเลยเห็นจุดผิดพลาดต่างๆ เยอะพอดูเหมือนกัน หากมีข้อสงสัย ข้องใจ หรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมสามารถส่งข้อความลับหาเซหรือติดต่อทางบทความได้ค่ะ ส่วน Qm ไม่ค่อยได้เช็คค่ะ


-โครงเรื่อง

นิยายเรื่อง Memorial Mind เป็นนิยายแฟนตาซี ผจญภัย โดยมีธีมหลักคือการผจญภัยของเดวิดที่หลังออกจากหมู่บ้านมาเผชิญโลกกว้างโดยการมัดมือชกของเพื่อนสนิทที่พ่วงตำแหน่งเจ้านาย ‘ฟรานซิส’ ก็ทำให้มีมุมมองต่อโลกที่แปลกใหม่ อีกทั้งยังส่งผลให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปจากเดิมตลอดกาล

แนวโครงเรื่องถือว่ายังไม่มีความแปลกใหม่เท่าใดนัก แม้ผู้แต่งจะนำการเอาอักษรรูนาเดล หรือ เรียกสั้นๆ ให้เข้าใจได้ง่ายว่าเวทมนต์ (ที่มีข้อบังคับวิธีการใช้เพิ่มเติม) มาเสริมให้เนื้อหามีความน่าสนใจมากขึ้น แต่คงต้องบอกว่าในส่วนการสอดแทรกรายละเอียดเข้ามาทำให้เนื้อหามีความน่าสนใจยังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร จึงไม่น่าแปลกใจหากจะมีผู้อ่านจำนวนหนึ่งเกิดความงุนงงกับวิธีใช้ หรือกฎข้อบังคับในรูนาเดลอยู่ค่ะ

ทิศทางของเรื่องออกแนวผจญภัยจริงๆ ค่ะให้ความรู้สึกเหมือนล่องเรือไปเรื่อยๆ แต่จุดหมายหลายทางอยู่ที่ใดไม่ทราบแน่ชัด มีการสอดแทรกข้อคิดแฝงในบางจุดอยู่บ้าง ในส่วนนี้นอกจากเนื้อเรื่องที่เรียบๆ ไม่ค่อยหวือหวาและดูดดึงให้เกิดอารมณ์คล้อยตามทำให้นิยายของท่านอยู่ในโทนราบเรียบเป็นจังหวะสม่ำเสมอ แน่นอนว่ามันเป็นสิ่งที่ทำให้นิยายของท่านไม่เป็นที่สนใจของนักอ่านเท่าใดนัก

การเกริ่นนำเนื้อเรื่องนั้น เนื่องจากเซอ่านของเก่าทันก็เลยขอบอกในจุดนี้ไว้เลย ว่าสามารถเลือกจุดที่มาเกริ่นนำได้น่าสนใจขึ้นค่ะ ส่วนบทนำก็ยังดูเรียบเฉยไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเท่าใด

ภาพรวมของโครงเรื่อง จากการสังเกต รู้สึกเหมือนผู้แต่งจะแบ่งการเน้นรายละเอียดฟิคเป็นส่วนๆ ไปตามชื่อตอน ทำให้ตอนนี้ยังมองภาพรวมทั้งหมดไม่ออกค่ะ ว่าจะมีปมอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ อีกประการก็คือรู้สึกเหมือนนิยายเรื่องนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นปูพื้นฐานเรื่องราวต่างๆ อยู่นั่นเอง

-ภาษา สำนวน

การบรรยาย:
การบรรยายถือว่ายังทำได้ไม่ดีค่ะ มีจุดที่ติดขัดอยู่มากจึงทำให้ขาดความลื่นไหล อ่านแล้วเกิดอาการสะดุดทันที บางประโยคยังบรรยายขาดๆ เกินๆ อยู่บ้าง เช่น ตอนที่6(บทที่3) “แต่ก็คงจะอีกไม่นานนักหรอก ตะวันฉายที่ปลายขอบฟ้าแล้ว อีกไม่กี่เพลาผู้คนก็จะเริ่มตื่นขึ้นมาทำงาน” ตรงจุดนี้จะเห็นได้ว่าหากผู้แต่งขัดเกลารูปประโยคจะทำให้เกิดความสมบูรณ์มากขึ้น และทำให้ประโยคดูไม่ซ้ำซ้อนขยายความจนน่าเบื่อค่ะ

การบรรยายในบางจุดดูไม่ค่อยปะติดปะต่อกันเท่าไหร่ อีกทั้งยังมีบางจุดที่ผู้แต่งพยายามบรรยายอย่างตั้งใจจนเกินไป ซึ่งมันไม่เป็นเพียงแค่จุดเดียว ขอแนะนำให้ผู้แต่งลองอ่านตรวจทานรายละเอียดก่อน อย่าอ่านเอาผ่านตานะคะ เพราะมันจะทำให้เราอ่านไปตามที่เราเข้าใจแล้วจะทำให้เกิดความผิดพลาดขึ้นได้ค่ะ

อีกจุดก็คือรายละเอียดในบางช่วงดูเหมือนตกหล่นค่ะ เช่น ตอนที่ 5 ในฉากที่เดวิดและฟรานซ์กำลังควบม้าหนี แล้วเดวิดเกิดได้รับบาดเจ็บ…จากอะไร? ผู้แต่งยังใส่รายละเอียดไม่ชัดเจนดูคลุมเครืออยู่ค่ะ หรือในตอนที่ 8 (บทที่4) ที่เนื้อหาดูกระโดดไปมาชวนสับสนเป็นอย่างมาก สรุปแล้วตัดฉากโผล่มาที่เหมืองกันได้อย่างไร? ทำไมถึงมาโผล่ที่นี่??? รายละเอียดที่กล่าวถึงจุดนี้แทบไม่มีเชียวล่ะค่ะ จนกระทั่งอ่านไล่ถึงช่วงหลังของในบทนั้นถึงได้เห็นว่าผู้แต่งแอบหยอดมานิดๆ ว่าเป็นเพราะฟรานซ์อยากมาหาประสบการณ์ (แค่นี้เหรอ? ไม่มีอธิบายมากกว่านี้เหรอคะ???) จุดนี้ทำให้รู้สึกว่าเหมือนกับผู้แต่งลืมอธิบายรายละเอียด ซึ่งพอนึกขึ้นได้ก็แทรกเฉลยมาเพิ่มเติมในประโยคเฉยๆ จากการอ่านทำให้คิดได้แบบนั้นจริงๆ ค่ะ

แต่ในช่วงหลังๆ ตั้งตอนที่ 12 (บทที่ 6) เป็นต้นมา การบรรยายมีการพัฒนาดีขึ้นค่ะ การใช้ภาษาก็พัฒนาขึ้นเช่นกัน คาดว่าผู้แต่งคงจะทิ้งช่วงในการแต่งนิยายพอสมควร จึงทำให้เห็นพัฒนาการด้านภาษาแบบก้าวกระโดด แต่นับว่าเป็นการพัฒนาไปในทิศทางที่ดีทีเดียวค่ะ

บทสนทนา: บทสนทนายังดูแปลกๆ และติดขัดอยู่ในช่วงแรก แต่มีการพัฒนามาเรื่อยๆ และเห็นในช่วงหลังได้ชัดเจนค่ะ

คำผิด คำซ้ำ การหลากคำ: ในหัวข้อการใช้คำขออนุญาตแบ่งรายละเอียดยิบย่อยเป็นส่วนๆ เพิ่มเติมเพื่อที่จะได้เห็นภาพรวมที่ต้องแก้ไขได้ชัดเจนยิ่งขึ้นค่ะ

คำผิด เช่น ผลิ้วไหว-พริ้วไหว/เอน็จอนาจ-อเนจอนาถ/คฤหาสต์-คฤหาสน์/นัยตา-นัยน์ตา/พึ่ง-เพิ่ง/พรรณ-พันธุ์/ช้อนซ้อม-ช้อนส้อม/เกลื่อนกราด-เกลื่อนกลาด/เสกสรรค์-เสกสรร/ตระง่าน-ตระหง่าน ส่วนใหญ่เป็นคำที่ท่านใช้ผิดค่ะ แนะนำว่าคำใดไม่มั่นใจลองเช็คจากอากู๋กูเกิ้ลเลยค่ะ

การใช้คำยังมีคำที่เป็นภาษาพูดในการเขียนอยู่บ้าง เช่น หยั่ง-อย่าง/แห่งนึง-แห่งหนึ่ง และยังมีการคำที่แปลกๆ อยู่บ้าง เช่น ห่ะ,งึมงำงุบงิบ,หลากตาหลายวัย,เบิกตาซีดกว้าง,แผล็บเดียว

การเล่นคำมากเกินไปในประโยค เช่น ใหลหลง,อุตสาหวิริยะ,ถ้อยวจี,เสกสรร,พสุธา,เบิกเนตร,ไหลหลั่ง เมื่อเอาศัพท์พวกนี้มาใช้ นอกจากจะทำให้ภาษาแปลกตาไปยังชวนสะดุดด้วยค่ะ บางประโยคนี่พอเล่นคำพวกนี้เข้าไปแทบจะคล้ายกลอนเลยทีเดียว

การเน้นคำ ขอยกตัวอย่างจากประโยค “ลมหนาวพัดผ่าน ดาวลอยเกลื่อนท้องฟ้าสีทมิฬในยามค่ำคืนอันเกือบจะเงียบสงัด…เกือบจะเงียบสงัด” มันเน้นเกินไปมั้ยคะ? ลองขัดเกลารูปประโยคให้เน้นแบบดูไม่จงใจลงหน่อยมั้ยคะ อาทิเช่น “ลมหนาวพัดผ่าน ดาวลอยเกลื่อนท้องฟ้าสีทมิฬในยามค่ำคืนอันเงียบสงัด หรือจะให้ถูก…คงต้องเป็นเกือบจะเงียบสงัด” แบบนี้ดูมีมิติ ไม่เน้นเจาะจงเหมือนประโยคแรกใช่มั้ยคะ ลองเอาไปปรับปรุงแก้ไขดูนะคะ

การใช้คำซ้ำซ้อน/ฟุ่มเฟือย เห็นได้ชัดจากบทนำเลยค่ะ จากประโยค “ คนซื้อส้มพยายามเดินออกจากตลาด ซึ่งเต็มไปด้วยผู้คนแออัดยัดเยียดเบียดเสียดอย่างแน่นหนา” เลือกใช้ซักคำก็เห็นภาพชัดเจนแล้วค่ะ

การเชื่อมคำ เชื่อมประโยค ยังทำได้ไม่ดีเช่นกันค่ะจนสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนเลยทีเดียว แต่ก็เป็นมากในช่วงบทแรกๆ เท่านั้นค่ะ บทหลังๆ นั้นสามารถทำในส่วนนี้ได้ดีขึ้น ก็ต้องขอชมเชยในด้านการพัฒนาฝีมือค่ะ

:::ภาพรวมของการใช้คำ::: คงต้องบอกว่าผู้แต่งยังเลือกใช้คำได้ไม่ค่อยดี และขาดเหมาะสมพอสมควร จึงส่งผลให้เมื่อนำไปใช้ในการบรรยายหรือดำเนินเรื่องเกิดความอาการสะดุด ในส่วนของการเล่นคำก็ยังมีแปลกๆ และชวนชะงักอยู่เช่นเดียวกันค่ะ

ความถูกต้องของการใช้สัญลักษณ์ต่างๆ และซาวด์เอฟเฟค : การใช้จุดไข่ปลา(…) ควรใช้แค่สามจุดเท่านั้นนะคะ อีกทั้งผู้แต่งยังใส่ในประโยคพร่ำพรื่อเกินความจำเป็นอยู่ค่ะ / ในด้านการใช้ไม้ยมก (ๆ) บางประโยคหรือบางตอนมีการใช้ที่ดูเกินความจำเป็นอยู่บ้างเช่นกัน

ด้านซาวด์เอฟเฟค ยังดูแปลกๆ ไม่เป็นธรรมชาติอยู่ประปรายค่ะ

การเว้นวรรค เว้นบรรทัด จัดย่อหน้า ทั้งสามอย่างนี้ยังไม่ค่อยเป็นระเบียบเท่าใดนักค่ะ ทำให้ดูไม่เป็นระเบียบ ขาดความเอาใจใส่ค่ะ ยังไงก็ลองแก้ไขในสามจุดนี้ดูนะ


-ตัวละคร
ขอบอกตามตรงเลยนะคะ ว่าในด้านตัวละครมีความขัดแย้งอยู่ในตัวมันเองสูงมาก อีกทั้งยังดูแบนๆ ไม่มีมิติเลยค่ะ เริ่มจากตัวเอกเดวิดซึ่งมีหน้าที่เป็นพ่อครัวอีกทั้งยังรับหน้าที่ทำงานในคฤหาสน์แต่กลับมีอุปนิสัยขี้เซา แถมมีพาลตอนเพิ่งตื่นซะอีก คำพูดคำจาก็ดูห่างจากบุคลิกที่ผู้แต่งให้กับคำว่าสุขุมอยู่ไกลโข คงต้องบอกว่าหลุดคาแร็กเตอร์ไปไกลเลยล่ะ

ด้านฟรานซ์และไรเจลเองก็ไม่ได้ดีไปว่ากันนักเพราะนอกจากบุคลิกและอาชีพคร่าวๆ ที่ผู้แต่งพยายามสื่อออกมาให้เห็นอุปนิสัยของตัวละคร แต่มันก็ยังไม่น่าสนใจและมีเอกลักษณ์เท่าใด ลองพยายามดึงจุดเด่นของทั้งสองคนนี้ขึ้นมาค่ะ เพราะผู้แต่งก็เลือกตัวละครหลากหลายอาชีพมารวมกันอยู่แล้วคงจะไม่ยากเกินความสามารถแน่ๆ

ในด้านของซีเรลเองดูจะมีราศีกว่าคนอื่นนิดหน่อยเพราะมีเอกลักษณ์และจุดเด่นที่เห็นได้ชัด อีกทั้งยังมีความชัดเจนในเรื่องของอารมณ์และบรรยากาศพอสมควร ซึ่งนับว่ามีมิติมากกว่าตัวละครอื่นๆ ที่มีบทบาทในปัจจุบันมากกว่าอยู่ทีเดียวค่ะ ส่วนมิเกลเองก็เป็นตัวละครที่ค่อนข้างมีความชัดเจนในด้านอารมณ์ บุคลิก ท่าทาง อยู่พอสมควร

ด้านตัวประกอบก็โผล่ออกมาสมตัวประกอบมากค่ะ โผล่ออกมาเยอะ + มาไวไปไวสุดๆ สมควรให้ความสำคัญ จัดการและบริหารตัวละครนิดนึงค่ะ เพราะจากเท่าที่อ่านจำนวนตอนยังไม่มากแต่ตัวละครนี่ค่อนข้างโผล่เยอะทีเดียว มิหนำซ้ำยังดูเหมือนเข้าข่ายใช้แล้วทิ้งอีกด้วย


-ความสมเหตุสมผล

เนื้อเรื่องดูหลักลอยเกินไป ในจุดที่ฟรานซ์ขอทางบ้านออกเดินทางเพื่อไปหาประสบการณ์ยังดูไม่สมเหตุสมผลมากค่ะ การผจญภัยที่ไร้ทิศทางรวมไปถึงจุดสิ้นสุดที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ลองคิดดูในแง่ของความเป็นจริงก็ได้ค่ะว่าถ้าอยู่ดีๆ ท่านเดินไปบอกพ่อแม่ว่าขอไปเที่ยวไม่มีกำหนดกลับ พ่อแม่จะว่าอย่างไร? เหมือนกันค่ะ การที่ฟรานซ์ไปขอออกเดินทางแบบนี้ มันยังดูขาดรายละเอียดที่สมจริงอย่างมาก และทางครอบครัวของเขาเองก็ดูไม่ค่อยกังวลกันเท่าใดนัก จึงปล่อยให้คนทั้งคู่ออกมาผจญภัยโลกภายนอกกันได้ง่ายๆ ซึ่งเขาแน่ใจและคิดดีแล้วหรือที่ปล่อยเด็กชายซึ่งทำอะไรไม่เป็น(เพราะเป็นคุณหนู) มาพร้อมกับพ่อครัว(ที่ขี้เซาจอมโวยวาย[ในบางครั้ง]) คิดๆ ดูแล้วแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยค่ะที่จะปล่อยเด็กทั้งคู่ออกมาหาประสบการณ์ในโลกกว้าง (เพราะดูท่าทางแล้วยังไงก็คงจะไม่รอดแน่ๆ)

:::ข้อสงสัย::: ในตอนที่ 6 (บทที่3) ฉากที่เดวิดเขียนข้อความเวททิ้งเอาไว้ แต่ทำไมตรงที่อธิบายรายละเอียดถึงเป็นการหน่วงวิญญาณ?


-การดำเนินเรื่อง/ความลื่นไหล/ความสนุกน่าติดตาม

การดำเนินเรื่อง:

ด้านการดำเนินเรื่องเป็นไปอย่างเรื่อยๆ เนิบๆ ถึงค่อนข้างช้า ระดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแม้จะเป็นฉากต่อสู้ก็ยังถือว่าเรียบๆ ไม่ค่อยน่าสนใจและยังไม่ดึงดูดชวนให้ผู้อ่านคล้อยตามได้ค่ะ และถือว่ายังดำเนินเรื่องได้ไม่ค่อยดีนัก สืบเนื่องมาจากบทบรรยาย เนื้อหาตกหล่น ขาดความปะติดปะต่อของเหตุการณ์บางส่วนทำให้การดำเนินเรื่องในภาพรวมนั้น ยังต้องปรับปรุงแก้ไขอีกมากค่ะ

การตัดฉากยังทำได้ไม่ดีนัก โดยเฉพาะเมื่อผู้แต่งใช้ ---- ยาวเพื่อตัดฉากด้วยทำให้อ่านแล้วเกิดอาการสะดุด ข้อดีของมันก็คือช่วยให้ผู้อ่านรู้ว่า เฮ้…เปลี่ยนฉากแล้วนะ แต่ข้อเสียก็มีค่ะ ซึ่งขอบอกว่าผู้แต่งมีการเปลี่ยนฉากบ่อยมากๆ แล้วพอใช้เส้นขีดคั่นทำให้ผู้อ่านรู้สึกตัวได้เลยว่า เอ๊ะ! เปลี่ยนฉากอีกแล้วเหรอ ทำไมมันไวจัง? อะไรประมาณนี้ ทางที่ดีควรจะเว้นบรรทัดห่างกันเล็กน้อยให้ผู้อ่านรู้เองโดยใช้จินตนาการตามดีกว่าค่ะ

ความสนุกน่าติดตาม: ด้วยการดำเนินเรื่องที่เนิบๆ ค่อยๆ ขยับไปทีละเล็กละน้อยและเนื้อหาที่ไม่ชวนหวือหวา ราบเรียบซะเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ผู้อ่านขาดอารมณ์ร่วมไปกับนิยายและรู้สึกไม่น่าติดตามเท่าใดนัก ผู้แต่งจึงควรบรรยาย เลือกใช้คำและดำเนินเรื่องให้มีความกระชับยิ่งขึ้น สร้างมิติให้ตัวละครให้มีชีวิตชีวา มีสีสันจากเดิมเพิ่มมากขึ้น ในด้านการหยอดมุขก็ควรระวังมุขแป้กด้วยค่ะ

-ภาพรวม/สรุป

ภาพรวมของนิยายเรื่องนี้คงต้องบอกตามตรงว่า มีข้อผิดพลาดและควรแก้ไขหลายจุดทีเดียว แต่โดยส่วนใหญ่ที่ทำให้นิยายเรื่องนี้เกิดความสะดุด คือ บทบรรยาย การเลือกใช้คำ และเนื้อเรื่องที่ยังขาดความสมเหตุสมผลและปมเรื่องที่ครอบคลุมรายละเอียดทั้งหมดค่ะ ซึ่งแม้ว่ามันอาจจะยังไม่ถึงจุดที่ผู้แต่งต้องการเผยปมออกมา แต่ก็ควรลองเกริ่นๆ ใส่ไว้เป็นไกด์ไลน์ให้ผู้อ่านได้รู้สึกถึงเป้าหมายหรือทิศทางของเนื้อเรื่องก็ยังดีค่ะ ไม่อย่างนั้นคงต้องบอกว่ากว่าจะถึงจุดที่เนื้อเรื่องเริ่มเข้มข้นนั้น ผู้อ่านคงจะตีตัวออกจากนิยายเรื่องนี้ไปเสียก่อน ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดายทีเดียวค่ะ

ยังไงก็ตามหลังจากรีไรท์น่าจะเห็นทิศทาง เนื้อเรื่อง ภาษา ของนิยายเรื่องนี้มีความชัดเจนและพัฒนาขึ้น เพราะเชื่อว่าผู้แต่งย่อมขัดเกลาพัฒนาฝีมือในการเขียนเรื่อยๆ อยู่แล้วล่ะค่ะ ถึงตอนนั้นหากต้องการคำแนะนำเซก็พร้อมยินดีช่วยเหลือค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้ท่านมุ่งมั่น ตั้งใจในการเขียนต่อไป

ปลล.อย่าดองมากนะมันไม่ดี
     
 
ใครแต่ง : Severus D Momz
6 ต.ค. 54
80 %
9 Votes  
#18 REVIEW
 
เห็นด้วย
12
จาก 12 คน 
 
 
วิจารณ์นิยาย สไตล์ เซเซดๆ.

(แจ้งลบ)
  
เขียนเมื่อ 19 ก.ย. 54
เรื่อง : Olygreef’s Ring [แหวนมนตรา]
ผู้วิจารณ์ : ANN

สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นต้องขอออกตัวเป็นธรรมเนียมก่อนว่าเราไม่ได้เป็นนักวิจารณ์มืออาชีพ นะคะ เพราะฉะนั้นอาจจะวิจารณ์ได้ไม่ตรงจุดหรือยังขาดๆ เกินๆ อยู่บ้าง อยากให้คิดเสียว่าการวิจารณ์นี้เป็นการแสดงแง่คิดในมุมมองของนักอ่านคนหนึ่ง ที่เข้ามาอ่านนิยายของท่าน โดยมุ่งเน้นว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้รับการวิจารณ์บ้างไม่มากก็น้อยค่ะ

ตอนล่าสุดที่อ่าน : ตอนที่ 20 – ความจริงของเด็กประหลาด [Part2/2]

-โครงเรื่อง

คาลอส โอลี่กรีฟ เด็กหนุ่มผู้แสนจะขี้แยและไม่ได้เรื่อง เขาต้องมาแบกรับภาระอันหนักอึ้งทันทีที่ได้รับแหวนที่หลายๆ คนปรารถนา ต้องหนีจากการตามล่าจากกลุ่มคนที่มีนัยน์ตาสีแดง (เรดอาย) พวกคนใส่หน้ากาก (มาร์ค ออฟ เดท) และพวกนักวิทยาศาตร์ ทำให้เขาต้องประสบพบเจออุปสรรคอีกนานัปการที่จะทำให้ชีวิตเขาเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังเท้าเลยทีเดียว

ในเนื้อเรื่องจะแบ่งเป็นเป็นฝักเป็นฝ่ายชัดเจน แถมยังมีการแบ่งลำดับขั้นของผู้ใช้พลังวิเศษให้เห็นอีกด้วย นั่นคือ บุคคลทั่วไปที่ใช้มนตราบริสุทธิ์ได้ มนุษย์ไร้พลังที่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่สามารถใช้มนตราได้เลย ผู้วิเศษผสม คนที่ต้องมีแหวนช่วยถึงจะสำแดงพลังได้เต็มที่ และสุดท้าย ผู้วิเศษบริสุทธิ์ ที่สามารถใช้มนตราได้โดยไม่ต้องใช้แหวนหรือสิ่งอื่นๆ มาช่วย

โครงเรื่องโดยรวมจัดได้ว่าวางพล๊อตมาดีมาก มีการแบ่งแยก ลำดับขั้นตอนดี และตีกรอบไว้ชัดเจน ตรงส่วนนี้นับว่าผู้แต่งทำได้ดีมากค่ะ

ชื่อเรื่อง – Olygreef’s Ring [แหวนมนตรา] ถือว่าเป็นชื่อเรื่องที่ดีค่ะ ตรงประเด็น และครอบคลุมเนื้อเรื่องทั้งหมด เพราะมันเป็นตัวจุดประกายให้เนื้อเรื่องทั้งหมดดำเนินเลยก็ว่าได้

แนะนำเรื่องแบบย่อๆ – ในส่วนตรงนี้ถือว่าทำได้ดีระดับหนึ่ง แต่บอกตามตรงว่ายังไม่น่าสนใจชวนให้คลิกเข้ามาอ่านเสียเท่าไหร่ค่ะ

ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่อง – ส่วนผสมของนิยายเรื่องนี้ทางที่ดีเราว่าน่าจะเอาออกค่ะ คนส่วนใหญ่เขาชอบเข้ามาอ่านแล้วรับรู้เองว่าเนื้อเรื่องนี้มันมีอารมณ์ความรู้สึกแบบไหนมากกว่า บางคนเขาอาจชอบเรื่องราวที่เกี่ยวกับมิตรภาพ พอมาเห็นว่าท่านให้ 1/10 บางทีเขาอาจชิ่งปิดบทความท่านทิ้งเลยก็ได้ เอาเป็นว่า ให้เขาลุ้นในเรื่องดีกว่าค่ะ ดีต่อยอด view ของท่านด้วย :) ที่เหลือ ทำได้ดีแล้วค่ะ เขียนทิ้งไว้ชวนให้น่าอ่าน ท่านมีของดีอยู่ในมือแล้ว ลองเอาส่วนตรงนี้ใส่ลงในแนะนำเรื่องแบบย่อๆ ดูนะคะ

-ภาษา สำนวน

การบรรยาย: ใช้คำได้ดี สำหรับมือใหม่แล้วต้องบอกเลยว่าบรรยายได้เก่งมาก แต่มีบางจุดที่อ่านแล้วแปร่งๆ อยู่เยอะ เช่น ขยะแขยงเหมือนแหวนเป็นโดนัทน้อยแสนโสมม (บอกตามตรงมันไม่ได้ให้ความรู้สึกขยะแขยงเลยค่ะ ถ้าเปรียบเทียบว่า น่าขยะแขยงราวกับของต้องสาป หรืออะไรทำนองนี้ยังชวนคล้อยตามได้มากกว่า) / เหมือนลูกโป่งที่ถูกอัดลมอย่างรวดเร็วแล้วโดนเข็มจิ้มจนแตกกระจาย นั่นแหละที่คาลอสรู้สึก มันเหมือนความหวังที่พุ่งพรวด แล้วดิ่งลงอย่างรวดเร็ว (ตอนแรกบอกเหมือนลูกโป่งโดนจิ้มแตก แต่ตอนหลังกลับบอกเหมือนความหวังที่พุ่งพรวด แล้วดิ่งลง อ่านแล้วรู้สึกว่าอารมณ์มันคนละอย่างกันเลยค่ะ ลองใช้เป็น เหมือนความหวังที่พุ่งพรวด แต่กลับแตกสลายกลางอากาศ หรืออะไรทำนองนี้ดูนะคะ มันจะได้ไปในทิศทางเดียวกัน) / หัวใจบีบตัวเองรัวเหมือนปืนกล (หัวใจบีบ กับคำว่า รัว มันขัดแย้งกันเองอยู่ค่ะ ถ้าบอกว่าหัวใจเต้นรัวราวกับปืนกล แบบนี้จะน่าคล้อยตามกว่าค่ะ แต่ถ้าให้ดี เอาเป็น หัวใจเต้นรัวราวกับกลองที่โหมกระหน่ำจะเข้าท่ากว่า) / ฯลฯ เรื่องการบรรยายท่านทำได้ดีแล้ว เสียแต่คำเปรียบเปรยมันดูแปร่งๆ อยู่เยอะ บางครั้งไม่จำเป็นต้องใช้คำที่ดูสวยมากก็ได้ค่ะ เอาอ่านแล้วได้อารมณ์ชวนให้คล้อยตามจะดีกว่า ส่วนการบรรยายอื่นๆ อาทิเช่น การตัดฉากไปอีกการบรรยายหนึ่ง จะบอกว่าในเรื่องมีการตัดฉากบ่อยมาก และบางครั้งไม่ปะติดปะต่อกันเท่าไหร่ค่ะ อยากให้ระวังตรงจุดนี้ให้มากด้วย

บทสนทนา: นับว่าทำได้ดี แต่หลังๆ มีบทสนทนาเยอะมาก เรียกได้ว่ากินพื้นที่การบรรยายไปจนเกือบหมดเลยก็ว่าได้ค่ะ โดยเฉพาะบทที่ 15 ท่านควรระวังเรื่องนี้ให้ดี เพราะมันจะกลายเป็นบทละครไปได้หากท่านปล่อยให้บทบรรยายโดนกลืนไปหมด

คำผิด คำซ้ำ การหลากคำ: คำผิด พิมตก พิมเกิน มีให้เห็นประปราย และใช้คำผิดตรงคำที่สามารถออกเสียงตัวสะกดได้เหมือนกัน เช่น เธอสูงเรา-ราว / นั่งกินเข้า-ข้าว / จ้าวปัญหา-เจ้าปัญหา / ผอออ-ผอ. เป็นต้น ส่วนการใช้คำซ้ำ ส่วนมากจะเป็นคำว่า แล้ว , แต่ อะไรพวกนี้ค่ะ เช่น แล้วหันมาทางคาลอส แล้วก็จ้องไปที่แล้ว แล้วตามด้วย...บลาๆๆ / พ่อเคยใช้ค้อนร้อยปอนด์ทุบมันแต่ก็ไร้ผล แต่ค้อนกลับแหลกละเอียด / ให้อาหารเจ้าอีฟแล้ว ขณะนี้เวลาเกือบสามทุ่มแล้ว ใกล้ถึงเวลาแล้ว / ฯลฯ จะเห็นได้ว่าท่านมีการใช้คำๆ เดียวติดๆ กันในประโยคใกล้เคียง ซึ่งทำให้อ่านแล้วไม่สละสลวยเท่าที่ควรค่ะ และมีประโยคตัดฉากประโยคหนึ่งที่ท่านใช้ทิ้งท้าย คือ ‘แล้วพวกเขาก็หัวเราะ’ แล้วตัดฉากไป จะบอกว่ามันซ้ำประมาณ 2-3 ฉากได้มั้งคะ ถ้าจำไม่ผิด ซึ่งการทิ้งท้ายเหมือนๆ กันเยอะเกินไป อ่านแล้วมันชวนให้รู้สึกว่า ‘อีกแล้ว’ ค่ะ ลองปรับเปลี่ยนประโยคในการตัดฉากดูใหม่นะคะ

ความถูกต้องของการใช้สัญลักษณ์ต่างๆ และซาวด์เอฟเฟค : สัญลักษณ์โดยรวมโอเคค่ะ การเว้นวรรค จัดหน้ากระดาษมีปัญหาอยู่บ้าง ซึ่งท่านได้แจ้งไว้แล้วว่ามันเป็นปัญหาเกี่ยวกับโปรแกรมที่ใช้ เราเลยดูในส่วนของการเว้นวรรคให้ไม่ได้มาก ส่วนซาวด์เอฟเฟคโดยรวมก็ถือว่าโอเคค่ะ แต่มีเก็บมาฝากเล็กน้อย > กริ๊ง เสียงนี้หากจำไม่ผิดคิดว่าท่านกะจะใช้มันแทนเสียงกริ่งโรงเรียนที่บอกเวลาหมดคาบ แต่ท่านใช้เพียงแค่ กริ๊ง เท่านั้น ซึ่งเสียงนี้มันให้ความรู้สึกเหมือนแก้วไวน์กระทบกันมากกว่าค่ะ หากอยากได้เป็นเสียงออดจริง น่าจะใช้เป็น กริ๊งงงงงง! อะไรอย่างนี้มากกว่าค่ะ

-ตัวละคร

ตัวละครหลัก คาลอส โอลี่กรีฟ ด้วยอุปลักษณ์นิสัยแล้วมีให้เห็นน้อยในหมวดพระเอก นานๆ ครั้งถึงจะเห็นตัวละครแบบนี้ออกมาซักที ถ้าถามว่ามันมีมิติแล้วสมจริงไหม อาจจะมีมั้งคะ แต่ความคิดของเขาบางครั้งก็ตีกันเองจนคนอ่านอย่างเรางงค่ะ ส่วนตัวแล้วอ่านๆ ไปเริ่มรู้สึกไม่ชอบตัวละครนี้ขึ้นเรื่อยๆ เขาอ่อนแอเกินไป หวั่นไหวง่ายเกินไป และไร้เหตุผลมากจนอ่านแล้วรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูกค่ะ (ปล.นี่แค่ความเห็นส่วนบุคคลเท่านั้น)

ส่วนตัวละครอื่นๆ ถือว่าทำได้ดีค่ะ แต่ระวังเรื่องสาวๆ ไว้บ้างก็ดีนะคะ ตอนนี้ฟ้าฝนกับเจนนี่มีลักษณะคล้ายๆ กันอยู่ บางครั้งเวลาอ่านบทสนทนาแล้วก็ทำเอาแยกไม่ค่อยออกเหมือนกัน

ส่วนอเล็กซ์กับไอร่า ถือว่าทำได้ดีค่ะ อเล็กซ์มีจุดขายตรงตัวที่เรียกว่าความอยากโชว์ เรียกได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ส่วนตัวที่จำได้ขึ้นใจเลยค่ะ ส่วนไอร่าก็มาดาร์กแบบโดดเด่นมาก ความแค้นของเขาทะลุเบ้าตาเลยค่ะ

-ความสมเหตุสมผล

เนื้อเรื่องโดยรวมนับว่าสมเหตุสมผลดี มีเหตุผลรับรองตลอดว่าอะไรเป็นยังไง และมีความสำคัญยังไงบ้าง แต่ที่มีความขัดแย้งอยู่เด่นๆ เห็นจะเป็นนิสัยของตัวเอกดังที่ได้กล่าวไปข้างต้นในการวิจารณ์ตัวละครว่า ความคิดและนิสัยเขามันตีกันเองอยู่ ยกตัวอย่างประโยคเลยแล้วกันนะคะ > เขา[คาลอส]อยากจะเอาอึไปปาบ้านหมอนั่นจังเลย – ประโยคนี้จริงๆ แล้วควรจะให้ความรู้สึกที่รุนแรงมากกว่านี้ แต่ท่านกลับใช้คำว่า ‘จังเลย’ ท้ายประโยค ไปๆมาๆ เลยกลายเป็นว่าตาคาลอสดูเป็นพวกปวกเปียกขึ้นมาอย่างแรง ลองใช้คำว่า ‘ชะมัด’ ดูสิคะ ประโยคนี้จะทำเอาคาลอสเท่ห์ขึ้นอีกหลายเท่าเลย และไม่ถึงขนาดหลุดกรอบคาแร็คเตอร์ตัวเอกที่ขี้แยที่ท่านตั้งไว้ด้วย / การกระทำของหล่อนมันโหดร้ายยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน สักวันเขา[คาลอส]จะต้องไปแตะ[พิมผิดมั้งคะ]ก้นหล่อนสักป้าบ ไม่ก็สาปหล่อนให้กลายเป็นลูกกอล์ฟแล้วตีไปดวงจันทร์ซะเลย แต่มันออกจะเว่อ[พิมผิดด้วยคำนี้]ไปหน่อย(และเขาก็ตีกอล์ฟไม่เป็น) – จากประโยคนี้คาลอสเคียดแค้นแทนเดม แต่กลับกลายเป็นว่าอ่านแล้วรู้สึกตลกฝืดกับความคิดเขามากกว่า และไม่ได้รับรู้ถึงความเคียดแค้นแทนเลย ต่อให้เป็นคนขี้ขลาดขี้แยขนาดไหน อย่างน้อยๆ เวลาโกรธเวลาเกลียดอารมณ์มันก็น่าจะรุนแรงกว่านี้ แต่นี่กลับรู้สึกเบาหยองอย่างบอกไม่ถูกเลยค่ะ / สามีฆ่าภรรยาตัวเองกับมือ พ่อฆ่าลูกแฝดตัวเองกับมือ เพราะถูกควบคุม แต่เคออสกลับบอกว่า เขาไม่โทษเดมเลย(ที่จะโกรธเกลียดคนพวกนั้น) ถ้าเป็นเขา เขาจะทำมากกว่านี้ด้วยซ้ำ เขาอาจจะเสกเค้กหัวหอมใส่ซีอิ้วมายัดปากพวกนั้นให้ตาย นั่นทรมานพอรึยังนะ... -_-* ประโยคนี้ทำเราอึ้งไปหลายวินาทีเลยค่ะ จากที่ยกตัวอย่างมา พอรู้เลยว่าไรเตอร์อยากให้มันดู(เกือบ)ฮา และให้มันดูมีความคิดแปลกแหวกแนว แต่อย่างที่บอกไปค่ะ อ่านแล้วเหตุผลมันตีกันเอง อ่านแล้วไม่สมเหตุสมผล ที่สำคัญไม่สมจริงเลย และแป้กอย่างแรงค่ะ

การตายแทนคนอื่น ชีวิตหนึ่งช่วยอีกชีวิตหนึ่ง กับคนที่ไม่รู้จัก? ส่วนนี้ท่านได้บรรยายไว้ว่าผู้เฒ่า(?)เห็นนายตำรวจโดนสายฟ้าผ่าตาย เขาไม่สมควรตาย เพราะฉะนั้นท่านผู้เฒ่าเลยช่วยให้เขาฟื้นคืนชีพขึ้นมาโดยใช้ชีวิตตัวเองแลก คนอะไรช่างประเสริฐแท้ ถ้าเป็นลูกหลานตัวเองเราจะไม่แย้งข้อความนี้เลยค่ะ ทว่านี่ไม่ได้มีความเกี่ยวสัมพันธ์อะไรกันเลย อ่านแล้วมันเลยดูเหลือเชื่อมากกว่าให้คล้อยตามค่ะ

คาลอส จากที่เคยเป็นเพียงเด็กธรรมดา อยู่ดีๆ กลายเป็นผู้คุมอำนาจของกลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่า ผู้วิเศษ เขาก็รู้ตัวดีว่ากุมชีวิตของคนกลุ่มนี้อยู่ แถมพ่อแม่โดนทำร้ายบาดเจ็บสาหัสจะตายมิตายแหล่ พี่ชายต่างพ่อหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ทว่าเขายังมานั่งเล่นกับแมว เอากีตาร์มาดีดเล่น นั่งอ่านหนังสือนิยาย ฟังเพลงในไอโฟน ...? ดูจากบุคลิกขี้แยและคิดมากสุดๆ ของเขา เขาคงไม่ชิลขนาดนั้นมั้งคะ อย่างน้อยก็น่าจะกลัดกลุ้ม ไม่เรื่องพ่อแม่ก็ต้องเรื่องความอ่อนแอของตัวเองบ้าง แต่นี่กลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย จนรู้สึกตะขิดตะขวงใจมากๆ ค่ะ

การไปตามหาคนเขียนหนังสือเมื่อร้อยปีที่แล้ว ด้วยเหตุผลที่ว่า...ไปตามความรู้สึก -_- คือ…ไม่อยากให้ยกเหตุผลนี้ขึ้นมาเลยจริงๆ ค่ะ อ่านแล้วสะดุดใจกึกเลยทีเดียว ถ้าให้เหตุผลว่า มีที่ๆ พอจะสืบหาเบาะแสอะไรได้ หรือไปถามจากสำนักพิมพ์อะไรก็ได้ ความน่าเชื่อถือมันจะดูมีน้ำหนักกว่าค่ะ

สรุปความเห็นในเรื่องความสมเหตุสมผล : โครงเรื่องสมเหตุสมผลดี แต่เรื่องตัวละครยังมีปัญหาอยู่มากค่ะ


-การดำเนินเรื่อง/ความลื่นไหล/ความสนุกน่าติดตาม

การดำเนินเรื่อง: การดำเนินเรื่องไปอย่างเนิบๆ เรื่อยๆ มีการตัดฉากบ่อยครั้ง เรียกได้ว่ายังไม่ค่อยน่าสนใจและน่าติดตามเท่าที่ควรค่ะ

ความสนุกน่าติดตาม: เปิดบทแรกมาน่าติดตามมาก แต่พอผ่านไปซักพักความน่าติดตามเริ่มลดลงเรื่อยๆ สาเหตุก็ตามที่กล่าวไปข้างต้นทั้งหมดนั่นแหละค่ะ ตอนแรกคาลอสถึงจะแลดูขี้แยขี้ขลาด แต่ขนาดกระโดดจากสะพานลอยได้นี่ไม่เรียกว่างั้นแล้วมั้งคะ แต่พอยิ่งอ่านไปในเรื่อยๆ ก็เห็นความไม่สมเหตุสมผลมากขึ้นตามลำดับ ทำให้ความน่าติดตามลดลงฮวบเลยทีเดียว

-ภาพรวม/สรุป

เนื้อเรื่องน่าสนใจมาก มีการให้เหตุผลเรื่องลำดับขั้นตอนต่างๆ ดี ใช้ภาษาได้ดีมากในฐานะมือใหม่หัดเขียน ทักษะการเขียนการบรรยายโดยรวมดูแล้วไม่น่ามีปัญหา และสามารถพัฒนาไปได้ต่ออีกเยอะ แต่มีปัญหาตรงตัวละครที่ไม่รู้จะเอายังไงแน่ ยิ่งเป็นกับตัวเอกด้วยแล้วคนอ่านจะยิ่งเห็นข้อผิดพลาดมากขึ้นเรื่อยๆ ควรพยายามบรรยายให้รู้สึกถึงความสมจริงแทนที่จะใช้คำให้ดูเลื่อนลอยเกินกว่าที่เป็น อย่าทิ้งฉากบรรยายแล้วใช้บทสนทนาดำเนินเรื่องแทน มิฉะนั้นนิยายท่านจะกลายเป็นบทภาพยนตร์ได้ ระวังอย่าเอาเรื่องการเมืองมาปนกับนิยาย อย่าใส่ชื่อเรื่องนิยายที่ท่านชอบลงมาด้วย เพราะมันจะทำให้คนอ่านเกิดอคติขึ้นได้ ทั้งหมดก็ประมาณนี้แหละค่ะ

หมายเหตุ : สาบานได้ว่าเราไม่ได้มีอติอะไรกับการอ่านนิยายเรื่องนี้ ผิดก็ว่ากันไปตามผิด จริงก็ว่ากันไปตามจริง เนื้อหาที่วิจารณ์อาจแรงไปบ้าง แต่ทั้งหมดนั้นถ้าท่านเอาไปปรับปรุง เราเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่านิยายท่านจะน่าสนใจ น่าติดตาม และมีคนอ่านคนเมนท์มากยิ่งขึ้น หวังเป็นอย่างยิ่งว่านิยายเรื่องนี้จะพัฒนาขึ้นไปได้อีก ท่านมีความสามารถและพื้นฐานการเขียนอยู่ในระดับดีแล้ว ที่เหลือก็คือท่านจะแก้ไขจุดที่มันบกพร่องที่ว่าไปได้มากน้อยแค่ไหน ขอให้ท่านอย่าเพิ่งยอมแพ้ และพัฒนานิยายเรื่องนี้ต่อไปเรื่อยๆ นะคะ แล้วเราจะเป็นกำลังใจให้ค่ะ
     
 
ชื่อเรื่อง :  Seres Of Grave
ใครแต่ง : ไซเลนท
10 ธ.ค. 55
80 %
5 Votes  
#19 REVIEW
 
เห็นด้วย
12
จาก 12 คน 
 
 
วิจารณ์นิยาย สไตล์ เซเซดๆ.

(แจ้งลบ)
  
เขียนเมื่อ 20 ก.ย. 54
เรื่อง : Seres Of Grave
ผู้วิจารณ์ : ANN

สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นต้องขอออกตัวเป็นธรรมเนียมก่อนว่าเราไม่ได้เป็นนักวิจารณ์มืออาชีพนะคะ เพราะฉะนั้นอาจจะวิจารณ์ได้ไม่ตรงจุดหรือยังขาดๆ เกินๆ อยู่บ้าง อยากให้คิดเสียว่าการวิจารณ์นี้เป็นการแสดงแง่คิดในมุมมองของนักอ่านคนหนึ่ง ที่เข้ามาอ่านนิยายของท่าน โดยมุ่งเน้นว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้รับการวิจารณ์บ้างไม่มากก็น้อยค่ะ

ตอนล่าสุดที่อ่าน : ตอนที่ 15 – -12- Wrath [ราธ]

-โครงเรื่อง

รัชทายาทอันดับสองนาม ซีริส ถูกพาตัวออกนอกวังโดย คารอส เพื่อนสนิทของพระบิดา ทำให้เขารู้สึกผิดหวังกับชีวิตมากจนถึงขนาดอยากตาย คารอสจึงได้ลบความทรงจำขององค์ชายผู้นี้ทิ้งและให้ชื่อใหม่นาม ทีเฟล พร้อมกับฐานะใหม่นั่นก็คือลูกชายของบาทหลวงนอกรีต จนวันที่ถึงเวลาเปิดเผยความจริงมาถึง คารอสได้มอบของสิ่งหนึ่งให้กับซีริส จากนั้นเขาจึงจากไปอย่างสงบ การเดินทางของซีริสจึงได้เริ่มต้นขึ้นเพื่อมุ่งสู่บ้านเกิดที่พี่ชายซึ่งเป็นทรราชปกครองอยู่

โครงเรื่องออกแนวเจ้าชายเจ้าหญิง แต่มีจุดดีตรงที่มีการเอาเรื่องการเล่นแร่แปรธาตุเข้ามาช่วยเสริมด้วย ซึ่งนั่นทำให้เนื้อเรื่องดูมีความน่าสนใจมากขึ้นค่ะ

ชื่อเรื่อง – Seres Of Grave – ชื่อเรื่องจัดได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้นักอ่านจดจำนิยายของคุณได้ ทว่าชื่อที่ใช้อยู่ตอนนี้ยังไม่มีความน่าสนใจเท่าที่ควร บวกกับเป็นภาษาอังกฤษล้วน ทำให้หลายๆ คนอาจมองข้ามนิยายเรื่องนี้ไปได้ค่ะ แนะนำว่าให้มีชื่อภาษาไทยด้วยจะดีกว่า

แนะนำเรื่องแบบย่อๆ – ตอนนี้ยังไม่มีความน่าสนใจเท่าที่ควรค่ะ ท่านมีของดีอยู่ในมือแล้ว ควรจะใช้โอกาสนั้นหยิบฉวยสิ่งที่ดีขึ้นมาแนะนำในส่วนตรงนี้เพื่อดึงดูดความสนใจของนักอ่านที่กำลังหานิยายดีๆ สักเรื่องอยู่ ลองมองดูให้ดีๆ ว่าประโยคแบบไหนกันแน่ที่เอาขึ้นไปโชว์แล้วมันดูน่าดึงดูดใจได้มากที่สุด แล้วเลือกเอาส่วนนั้นมาลองใช้ดูค่ะ ดูจากการบรรยายในเรื่องแล้ว เราคิดว่าในส่วนตรงนี้ไม่เกินมือท่านหรอกค่ะ (หมายเหตุตัวโตๆ ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนั่นแหละที่เราว่ามันน่าสนใจมาก และอยากให้ท่านหยิบส่วนตรงนี้มาใช้แนะนำเรื่องมากกว่าค่ะ)

ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่อง – ข้อมูลเบื้องต้นแนะนำได้น่าสนใจมาก ชวนให้คลิกอ่านอย่างแรงค่ะ ถ้าจะให้ดี เอาในส่วนคิดพล๊อต-เขียนเรื่อง-เปิดเรื่อง-เปลี่ยนชื่อนางเอก-ตั้งชื่อตอน อะไรพวกนี้ลงมาข้างล่างดีกว่าค่ะ แต่จะดีมากหากเหลือแค่วันที่เปิดนิยายค่ะ อย่างอื่นมีมากๆ มันจะดูรก ให้คนที่เข้ามาสนใจเพียงแก่นของเนื้อหาอย่างเดียวน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าค่ะ หากท่านคิดว่ามันสั้นไป อาจจะใช้เป็นการแนะนำตัวเองแบบคร่าวๆ ก็ได้ จะได้สร้างความสนิทสนมกับผู้อ่านสักเล็กน้อยก่อนอ่านนิยายด้วยค่ะ

ปล. > อันนี้ตามความเข้าใจส่วนตัว สาเหตุที่ท่านเอาเรื่องของการเล่นแร่แปรธาตุขึ้นแนะนำเรื่องแบบย่อๆ อาจจะเป็นเพราะนี่คือแก่นสำคัญของเรื่อง(?) แต่ตอนนี้เรื่องรัชทายาทอันดับสองกำลังจะกลับไปเคลียร์ปัญหาชีวิตที่บ้านเกิดมันดูมีพลังมากกว่าในส่วนตรงนี้ ซึ่งคราวนี้ท่านคงต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งเสียแล้ว ว่าจะเอาเรื่องไหนให้เด่นกว่ากันค่ะ

-ภาษา สำนวน

การบรรยาย: อันนี้ต้องขอชื่นชมเลยว่าใช้ภาษาในการบรรยายได้ดีมากๆ อ่านแล้วคล้อยตามแบบไม่ชวนเบื่อหรืออยากกดปิดทิ้งเลยค่ะ นอกจากภาษาดีแล้ว สำนวน การใช้คำยังเลือกได้ดีมากๆ เรียงลำดับการเล่าเรื่องได้ดี เป็นขั้นเป็นตอน ชวนคลิกอ่านต่อได้เรื่อยๆ ค่ะ การบรรยายฉาก สถานที่ คนในท้องถิ่น ลักษณะต่างๆ บรรยายได้ค่อนข้างชัดเจน และนึกภาพตามได้ไม่ยากค่ะ

บทสนทนา: บทสนทนาทำได้ดีไม่แพ้การบรรยายค่ะ เข้ากับยุคสมัย และแบ่งแยกออกว่าประโยคไหนใครพูด นิสัยของตัวละครสื่อออกมาทางบทสนทนาได้ดีเลยทีเดียว

คำผิด คำซ้ำ การหลากคำ: คิดผิด คำตก คำหล่นมีบ้างประปราย แต่ถ้าไม่ไล่อ่านทีละตัวก็ยากค่ะที่จะหาเจอ แต่ในเมื่อเจอแล้วก็เอาคำผิดมาฝากเสียเลย > น้ำพรุ = น้ำพุ / ครั่น = ครั้น / หลับไหล = หลับใหล / เครียดแค้น = เคียดแค้น / ขี้เถ่า = ขี้เถ้า เท่าที่เห็นก็มีประมาณนี้แหละค่ะ จาก 12 ตอนเจอเท่านี้นับว่าน้อยมากๆ แสดงว่าผู้แต่งสนใจในการเก็บรายละเอียดในส่วนตรงนี้เป็นอย่างมาก ซึ่งต้องขอชื่นชมค่ะ ส่วนคำซ้ำ การหลากคำ ท่านเลือกใช้คำในส่วนตรงนี้ได้ดีอยู่แล้ว ไม่มีปัญหาค่ะ เอาเป็นว่าผ่านฉลุย
ความถูกต้องของการใช้สัญลักษณ์ต่างๆ และซาวด์เอฟเฟค : เท่าที่ดูไม่มีปัญหาค่ะ ซาวด์เอฟเฟคยังเจอไม่เยอะด้วย เอาเป็นว่าผ่านในส่วนตรงนี้แล้วกันค่ะ

-ตัวละคร

ตัวละครหลักเริ่มจาก ทีเฟล เด็กคนนี้มาอารมณ์แบบนิ่งๆ แต่มีจิตใจด้านลบพอสมควร เขาเป็นพวกขวนขวายหาความรู้ด้วยตัวเอง ออกอารมณ์แบบแนวเก็บกดหน่อยๆ อาจเพราะมีเรื่องของผู้เป็นแม่มาเกี่ยวพัน อันนี้ถือว่าโอเคไม่มีปัญหาค่ะ แต่ฉากที่เขาเอากระต่ายทดลองแล้วกระต่ายระเบิดตาย ตรงนี้เขาดูจะนิ่งไปนิดนะคะ หรือช็อคอยู่(?) อันนี้ก็ไม่รู้ แต่เรารู้สึกว่า หากเขาระเบิดความผิดหวังอะไรแบบนี้ออกมามันจะดูสมจริงมากขึ้นกว่าเดิมค่ะ ส่วนในตอนที่เขารับรู้ความเป็นจริงว่าคารอสไม่ใช่พ่อแท้ๆ อ่านแล้วมันชวนให้สะเทือนอยู่นา แต่มันไม่ได้มาแบบค่อยๆ สะเทือน อยู่ดีๆ มันก็โพล่งสะเทือนมาเสียอย่างนั้น อ่านแล้วเลยสะดุดกึกไปหน่อยค่ะ อาจต้องเพิ่มบทพูด หรือบทบรรยายเข้าไปในส่วนก่อนหน้านี้ให้มาก เพื่อให้ผู้อ่านเริ่มอารมณ์คล้อยตาม ก่อนบูม กลายเป็นโกโก้ครั้นซ์ (ไม่ใช่แล้ว) ก็อย่างที่ว่ามาแหละค่ะ มันจะส่งพลังให้ผู้อ่านรับรู้ในฉากสะเทือนจิตนี้เพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัวเลยทีเดียว

ในส่วนของซีริส ในตอนที่เขาเพิ่งตื่นขึ้นมาจากจิตใต้สำนึกของทีเฟล ในตอนแรกเขาแลดูจะเคียดแค้นคารอสมาก ซึ่งก็พอยอมรับได้เพราะเขาโดนขังอยู่ใต้จิตสำนึกมาเป็นสิบปี แต่ทว่าในตอนที่คารอสตาย ทำไมดูเขาเหมือนเสียใจเหลือเกิน (อันนี้แอบงง) บางทีท่านอาจต้องบรรยายเพิ่มว่าการที่เขามองผ่านทีเฟล เขาก็รู้สึกผูกพันกับคารอสไปด้วย การที่คารอสจากไปเลยทำให้เขารู้สึกอะไรๆ ประมาณนี้แหละค่ะ คนอ่านจะได้ไม่ค้างคาใจหลังอ่านฉากสะเทือนจิตและบ่อน้ำตาตรงนี้ไป

-ความสมเหตุสมผล

เนื้อเรื่องมีเหตุและมีผลรองรับอยู่ตลอด เพียงแต่บางจุดท่านให้เหตุผลน้อยไปหน่อยจนรู้สึกว่ามันยังไม่ใช่เท่าไหร่นัก เช่น ตอนที่ทีเฟลกับคารอสอยู่ในป่าเพื่อหาทางกลับบ้าน ทำไมอยู่ดีๆ คารอสถึงบอกความจริงกับทีเฟล ท่านเพียงบรรยายไว้แค่ว่า มันถึงเวลาแล้ว แต่นั่นมันไม่ช่วยคลายความสงสัยให้ผู้อ่านได้ในจุดนี้เท่าที่ควรค่ะ / เหตุผลที่ซีริสอยากตาย อันนี้อ่านดูแล้วก็ค้างคาใจหน่อยๆ เลยเก็บมาฝากให้คิดเป็นการบ้านค่ะ ว่าน้ำหนักมันมีพอแล้วหรือยัง หากพ่อเขาเอามีดจ่อคอหอย หรือไม่ก็โดนทรมานเยี่ยงทาสอันนี้ก็ว่าไปอย่าง ก็ลองเพิ่มเหตุผลที่ชวนคล้อยตามมากกว่านี้ดูนะคะ ส่วนอื่นๆ ก็ใกล้เคียงกับที่กล่าวไป หากว่างๆ มีการรีไรท์เมื่อไหร่ก็ลองเสริมความแข็งแกร่งให้ในส่วนของการบรรยายเพิ่มเติมด้วยนะคะ

-การดำเนินเรื่อง/ความลื่นไหล/ความสนุกน่าติดตาม

การดำเนินเรื่อง: การดำเนินเรื่องทั่วไปถือว่าทำได้ดี น่าอ่าน น่าติดตาม ชวนให้คลิกไปยังบทถัดไปได้เรื่อยๆ แม้การดำเนินเรื่องจะไปในโทนราบเรียบ แต่ด้วยมนต์ของภาษาราวกับเมโลดี้และการใช้ตัวอักษรแต่ละตัวบอกได้เลยว่าอ่านเพลินมากๆ

ความสนุกน่าติดตาม: แค่ภาษาและการใช้คำก็กินขาดในเรื่องของความน่าติดตามแล้วค่ะ อ่านบทแรกก็แทบกดเฟฟไม่ทัน แถมยังทิ้งท้ายไว้ได้น่าติดตามมากๆ อีก แต่ต้องระวังในช่วงของการเดินทาง ที่ดูจะเนิบนาบไปเสียหน่อย และมีปริมาณเยอะพอควร นอกนั้นนับว่าไม่มีปัญหาค่ะ (สังเกตได้จากการที่เรากดอ่านได้แบบไม่ขี้เกียจแสดงว่านิยายท่านดีจริงนะเออ) :D

-ภาพรวม/สรุป

โดยภาพรวมทำได้ดีอยู่แล้ว ที่เหลือเพียงต้องแต่งเสริมการบรรยายให้ดูมีน้ำหนักมากขึ้นกว่าเดิมเพื่อให้ผู้อ่านอ่านแล้วคล้อยตามและไม่ค้างคาใจ และถ้าให้ดี ในตอนแต่ละตอนอย่างน้อยก็น่าจะ 7-8 กระดาษเอสี่ ตอนนี้มันน้อยมากค่ะ ราวกับประมาณ 2-3 กระดาษเอสี่เอง ถึงจะเห็นว่าแบ่งไว้เป็น part ก็เถอะค่ะ แต่สำหรับคนอ่านแล้ว การเปลี่ยนหน้าๆ หนึ่ง มันให้ความรู้สึกว่าเนื้อเรื่องกำลังจะเปลี่ยนฉากไปสู่การดำเนินเรื่องใหม่ ซึ่งพอมาเจอเนื้อเรื่องเก่าแล้ว มันให้ความรู้สึกว่า ทำไมไม่ต่อจากบทเมื่อกี้ไปเลย อะไรทำนองนี้ค่ะ เรื่องนี้จัดว่าเป็นนิยายที่ดีแล้ว ที่เหลือ หากอัพนิยายให้มีความสม่ำเสมอมากกว่านี้จะเป็นผลดีต่อนิยายท่านมากขึ้นแน่นอนค่ะ
     
 
19 ก.ค. 63
280 %
9 Votes  
#20 REVIEW
 
เห็นด้วย
12
จาก 13 คน 
 
 
วิจารณ์นิยาย สไตล์ เซเซดๆ,

(แจ้งลบ)
  
เขียนเมื่อ 30 ก.ย. 54
เรื่อง : Athena เจ้าหญิงแห่งกาลเวลา
ผู้วิจารณ์ : SEI


ก่อนอื่นขอออกตัวเป็นธรรมเนียมว่าเราไม่ได้เป็นนักวิจารณ์มืออาชีพ เพราะฉะนั้นยังอาจวิจารณ์ได้ไม่ตรงจุดหรือยังขาดๆ เกินๆ อยู่บ้าง และมันก็ยังเป็นภาษาสไตล์การวิจารณ์ง่ายๆ ของเราที่มุ่งเน้นว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้รับการวิจารณ์บ้างไม่มากก็น้อยค่ะ


-โครงเรื่อง

ก่อนอื่นขอบอกว่าคิดไม่ถึงเลยว่านิยายเรื่องนี้จะเป็นแนวโรงเรียนค่ะ เพราะอ่านโครงเรื่องในตอนแรกๆ ก็นึกว่าธีมของเรื่องนี้จะเป็นการข้ามมิติของนางเอก แต่กลายเป็นว่าธีมหลักเป็นการเข้าเรียนที่โรงเรียนขุนนางเพื่อตามหากุญแจแห่งมิติ(ในตอนแรก) และเม็ดทรายสีขาว(ในตอนหลัง) ซึ่งเนื้อเรื่องนั้นก็ยังคงเต็มไปด้วยปัญหาต่างๆ ที่โถมเข้ามา ทั้งศัตรูหมู่มิตรที่ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร โลกของฝั่งนางเอกซึ่งมีความเชื่อมโยงกับโลกอีกในมิติที่ยังเต็มไปด้วยปริศนา สิ่งของที่ทรงอำนาจต่างๆ ที่มีอำนาจพิเศษและคำทำนายต่างๆ ที่บ่งบอกว่านางเอกเป็นผู้ถูกเลือก

เซคงต้องขอบอกเลยว่าท่านพยายามทิ้งปมต่างๆ มากเกินไปตั้งแต่ต้นเรื่อง อีกทั้งปมยังลึกลับซับซ้อนมาก เรียกได้ว่าปมเก่ายังไม่คลายปมใหม่มาเสริม ซึ่งคงไม่ต้องบอกผลลัพธ์ค่ะ ว่ามันจะกลายเป็นปมที่พันกันแน่นขนาดไหน และหากมันแน่นมากๆ เราก็จะคลายมันไม่ออกอีกต่อไปค่ะ ในจุดนี้ถือว่าเป็นปัญหาทั้งผู้อ่านและผู้แต่งเลยทีเดียว ในกรณีของผู้อ่านนั้นอาจจะมีปัญหาไม่มากนักเพราะตัวปมปัญหานั้นค่อนข้างซับซ้อนและมีการเฉลยน้อยมาก ทำให้ผู้อ่านส่วนหนึ่งที่ลองคิดแก้ปัญหาตามไปด้วยอาจเกิดความงุนงงและสับสน อีกส่วนหนึ่งที่อ่านสนุกๆ ไม่คิดมากก็จะอ่านไปเรื่อยๆ ด้วยความรู้สึกที่ว่าพล็อตค่อนข้างซับซ้อนแค่นั้น แต่ปัญหาหลักๆ ส่วนใหญ่จริงๆ คงจะเกิดกับตัวผู้แต่งเองที่มีการผูกปมไว้มากเกินไป ซึ่งหากผู้แต่งกำหนดและวางปมไม่ละเอียดพอ จะส่งผลให้ตอนเฉลยและคลี่คลายปมทั้งหลายนั้นเกิดความผิดพลาดและตกหล่นในการเฉลยปัญหาได้

อีกประการหนึ่งซึ่งเป็นผลเสียของการวางปมที่เยอะเกินไป,ออกมาเร็วเกินไป,ขาดการผูกโยงปมเป็นส่วนๆ นั้น จะทำให้เนื้อเรื่องค่อนข้างสะเปะสะปะ จับต้นชนปลายของเนื้อหาและทิศทางของนิยายได้ยากทีเดียวค่ะ ทางที่ดีผู้แต่งน่าจะเริ่มทยอยเฉลยเรื่องราวบางส่วนออกมาบ้างจะดีกว่าค่ะ

โดยส่วนตัวคิดว่าชื่อเรื่องและในส่วนของการเกริ่นเรื่อง ยังไม่ค่อยตรงกับเนื้อหาของเรื่องเท่าใดนักค่ะ เพราะจากการอ่านแค่ชื่อเรื่องและการเกริ่นนำมันทำให้เซเข้าใจว่าเรื่องนี้มีธีมหลักในจุดของการข้ามมิติจริงๆ แต่ความจริงแล้วเป็นธีมของมันคือปัญหาต่างๆ ที่พัวพันกับนางเอกที่เป็นผู้ถูกเลือกมากกว่าค่ะ


-ภาษา สำนวน

การบรรยาย: การบรรยายยังถือว่าทำได้ไม่ดีนักในภาพรวมค่ะ สาเหตุมาจากผู้แต่งไม่ค่อยให้รายละเอียดในจุดของการบรรยายฉาก เวลา สถานที่ซักเท่าไหร่ หรือบางครั้งก็บรรยายแต่ยังไม่ละเอียดเท่าใดนัก เมื่อมองในภาพรวมจึงเห็นช่องว่างในการอธิบายรายละเอียดของสิ่งต่างๆ ค่อนข้างเยอะเชียวค่ะ ไม่ว่าจะเป็นหอพักที่ธีน่าอยู่,ห้องนอน,สภาพภายในโรงเรียนขุนนางฯ โดยรวม หรือแม้แต่ตรากษัตริย์-ตราลัญจกร และยังมีสถานที่ต่างๆ เช่นห้องสมุดลับ,ห้องประชุมขององค์กร ฯลฯ ถึงมันจะไม่กระทบต่อเนื้อหาและการดำเนินเรื่อง แต่มันทำให้ภาพของสถานที่และสิ่งของต่างๆ ดูคลุมเครือไม่ชัดเจนนั่นเองค่ะ ผู้แต่งจึงควรให้ความสำคัญในการบรรยายให้ผู้อ่านเห็นภาพในส่วนนี้ด้วย

บทสนทนา: ประโยคสนทนายังดูคลุมเครืออยู่บ้างค่ะ เช่นบางครั้งผู้แต่งก็กำหนดบทพูดขึ้นมา แต่ไม่ได้บอกลักษณะหรือที่มาที่ไปว่าใครเป็นคนพูด ซึ่งทำให้ผู้อ่านเกิดความสับสนในบทพูดนั้นๆ ค่ะ และจะยิ่งงงมากขึ้นเมื่อมีการสนทนาเป็นกลุ่มใหญ่

อีกประการหนึ่งซึ่งควรปรับปรุงแก้ไขก็คือบทพูดที่ยังดูสั้นๆ ห้วนๆ อยู่ในบางจุดค่ะ ในกรณีนี้มักจะพบในคู่สนทนาของธีน่าค่ะซึ่งนอกจากบทสนทนาแล้วผู้แต่งไม่ค่อยมีการบรรยายให้เห็นอากัปกิริยาท่าทางของอีกฝ่ายที่พูดกับธีน่าเลย ข้อแนะนำก็คือผู้แต่งควรให้รายละเอียดเสริมท้ายประโยคพูดของอีกฝ่ายบ้าง ซึ่งอาจจะนำการบรรยายสั้นๆ มาช่วยในส่วนนี้เพื่อเสริมความหลากหลายแก่บทสนทนาก็ได้ค่ะ ซึ่งมันจะทำให้เห็นภาพของบทสนทนาที่ชัดเจนและมีอรรถรสมากขึ้น

คำผิด คำซ้ำ การหลากคำ: คำผิดพบน้อยมากค่ะ แสดงให้เห็นถึงความเอาใจใส่ในนิยายของท่านดีมาก จะมีแต่เพียงคำที่ไม่เป็นภาษาเขียน เช่น นี่หน่า – นี่นา เป็นต้นค่ะ

ในด้านของคำซ้ำและการหลากคำ ถือว่าผู้แต่งสามารถเลือกใช้คำที่ดีมาก จึงไม่มีปัญหาในส่วนนี้ค่ะ

ความถูกต้องของการใช้สัญลักษณ์ต่างๆ และซาวด์เอฟเฟค : ในบทแรกๆ มีการใช้เครื่องหมายอัศเจรีย์พร่ำพรื่ออยู่บ้างค่ะ แต่ก็เป็นแค่ช่วงแรกๆ เท่านั้น ในเนื้อหาส่วนกลางถึงช่วงหลังมีในการใช้ได้ดีแล้วค่ะ ด้านซาวด์เอฟเฟคก็ถือว่าปรากฏน้อยมากในเรื่องและไม่มีปัญหาแต่อย่างใด


-ตัวละคร

ด้านตัวละครคงต้องบอกว่าตัวละครยังแบนๆ อยู่ค่ะ ไม่ค่อยมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเท่าใดนักจึงไม่น่าแปลกใจเลยหากผู้อ่านจะจดจำรายละเอียดของตัวละครต่างๆ ไม่ได้ แม้จะเป็นตัวละครหลักอย่างเอธีน่าหรืออัลเบิร์ก ขอสารภาพตามตรงเลยค่ะว่าตั้งแต่เซอ่านมาตั้งแต่ต้นจนจบ หากถามรายละเอียดเกี่ยวกับธีน่า เซตอบได้แค่ว่าเธอมีผมสีน้ำตาล และนิสัยที่ไม่ค่อยจะเหมือนใครติดเล่นแต่สนุกเหมือนเด็ก ส่วนอัลเบิร์กนี่ออกแนวจอมเก๊กแต่มีมุมอบอุ่นแฝงอยู่บ้าง แล้วก็มีผมสีดำ ส่วนอย่างอื่นนี่จำไม่ได้ซักอย่างเดียวเลยค่ะ ที่เหลือไม่ว่าจะเป็นเลโอ ชิโร่ หรือคนอื่นๆ คงต้องบอกว่าเวลาเซอ่านต้องกดไปดูรูปหน้าบทความเพื่อนึกหน้าตาของตัวละครเลยล่ะค่ะ ขึ้นชื่อว่าเป็นตัวละครหลักแล้วยิ่งจำเป็นที่ผู้แต่งต้องให้ความใส่ใจกับรายละเอียดต่างๆ มากเป็นพิเศษค่ะ ต้องคิดว่าทำยังไงถึงจะทำให้ตัวละครเหล่านี้เป็นที่ประทับใจจะน่าจดจำสำหรับผู้อ่าน ในจุดนี้จึงเป็นอีกส่วนที่ผู้แต่งต้องหาเอกลักษณ์ความโดดเด่นดึงดูดใจผู้อ่านให้ได้ค่ะ

ส่วนที่สองคือตัวละครที่มากเกินไปในเนื้อเรื่องค่ะ คงต้องบอกว่านิยายเรื่องนี้ขนขบวนตัวละครออกมาเยอะพอสมควร ซึ่งแต่ละตัวก็ไม่ค่อยมีบทบาทที่เด่นและชัดเจนมากนัก เมื่อปรากฏออกมาในแต่ละฉากจึงทำให้ผู้อ่านจดจำไม่ได้ ในส่วนนี้ผู้แต่งจึงต้องสมควรบริหารจัดการตัวละครให้มีบทบาท ความน่าสนใจ มากขึ้น หรืออาจลดจำนวนตัวละครที่ไม่ค่อยมีบทลงไปบ้างก็ได้ค่ะ


-ความสมเหตุสมผล

ความสมเหตุสมผลสำหรับเรื่องนี้มองได้ยากจริงๆ ค่ะ เพราะเนื้อหายังค่อนข้างเป็นปริศนาดำมืดอยู่ ในส่วนที่ทำให้เกิดความสงสัยคือโลกต่างมิติอย่างแกรด์ดิสนี่ไม่น่าจะเข้ามาได้อย่างง่ายๆ ขนาดธีน่าเองยังมาโดยใช้กุญแจนำพา แล้วปู่หรืออันยาเน่เธอเข้ามาที่แกรนด์ดิสได้อย่างไร ในขณะที่หนทางออกจากแกรนด์ดิสได้ก็มีแต่ต้องหากุญแจนำพากลับเท่านั้น ซึ่งเซไม่เข้าใจว่าผู้แต่งบรรยายรายละเอียดในส่วนนี้น้อยไปหรือเซอ่านข้ามเอง (มีหลายจุดมากที่เซอ่านแล้วไม่เข้าใจทำให้ต้องย้อนกลับไปอ่านอีกหลายรอบพอสมควร)

หรือในส่วนที่ตอนแรกบอกว่าโลกของแกรนด์ดิสนั้นไม่มีเวทย์มนต์ (เพราะต้องใช้พลังจากธรรมชาติ) แล้วทำไมเพอร์ซี่ อันยาเน่ หรือศัตรูของธีน่า ถึงใช้เวทย์มนต์ได้ กระทั่งหลังๆ ธีน่าเองก็สามารถเรียกคทาออกมาใช้พลังได้เหมือนกัน ตรงจุดนี้ขอบอกตามตรงว่าแอบสับสนพอสมควรค่ะ

ส่วนที่สามคือวิทยาการต่างๆ ในแกรนด์ดิส ซึ่งเมื่ออ่านแล้วเซกำหนดขอบเขตในด้านการพัฒนาวิวัฒนาการของโลกนี้ไม่ถูกค่ะ เพราะตัวเนื้อเรื่องยังค่อนข้างมีกลิ่นอายยุคเก่าๆ อยู่บ้าง เช่นใช้เกวียน ขี่ม้า แต่ก็มีวิทยาการเช่นวิทยาศาสตร์ การเดินทางโดยรถไฟ หรือแม้แต่เพลงของบีโทเฟ่นที่มีบทบาทด้วย ทำให้เซค่อนข้างงงทีเดียว ว่ามันเป็นยุคสมัยใดกันนี่?


-การดำเนินเรื่อง/ความลื่นไหล/ความสนุกน่าติดตาม

การดำเนินเรื่อง: การดำเนินเรื่องนั้นเป็นไปอย่างเรื่อยๆ ค่ะ ไม่ยืดเยื้อจนน่าเบื่อ แต่ก็ไม่หวือหวามากเช่นกัน ซึ่งจากการอ่านจะเห็นว่าในตอนที่ 1-5 ยังดำเนินเรื่องเอื่อยๆ อยู่ไม่ค่อยน่าสนใจนัก แต่เมื่อตัวเอกเริ่มเข้าโรงเรียนในบทที่ 6 เป็นต้นมาเหมือนผู้แต่งจะชอบในแนวนี้เป็นพิเศษจึงแต่งได้ลื่นไหลขึ้น แต่ก็ยังมีจุดที่ชวนอ่านสะดุดอยู่บ้างเช่นการตัดฉากซึ่งขอกล่าวในหัวข้อถัดไป และภาพรวมของการบรรยายก็ส่งผลในการดำเนินเรื่องอยู่พอสมควร ทำให้ความลื่นไหลนั้นสะดุดเป็นช่วงๆ ค่ะ

(แอบเห็นข้อความที่ผู้แต่งถามถึงเรื่องความกระชับของเนื้อหา เลยขอแนะนำในส่วนนี้เพิ่มขึ้นค่ะ คงต้องบอกว่านิยายของท่านยังอยู่ในเกณฑ์กลางๆ โดยเฉพาะตั้งแต่ช่วงที่ผู้แต่งเริ่มทยอยเผยคำใบ้ต่างๆ ออกมานั้น ทำให้ผู้แต่งต้องพยายามอธิบายถึงการตีปมปัญหาของนางเอก และด้วยความที่ปมมันแน่นมาก จึงพันกันเป็นเกลียว การตีปมปัญหาจึงพลอยวกวนใช้เวลามากตามไปด้วย ส่งผลให้ตัวเนื้อเรื่องต้องดำเนินไปอย่างช้าๆ แทนค่ะ ซึ่งก็ไม่ต้องเป็นกังวลไปค่ะ เพราะในจุดนี้หากเร่งดำเนินเรื่องให้ไวผู้อ่านอาจไม่เข้าใจประเด็นสำคัญต่างๆ ในเนื้อหาได้ และหากช้าเกินไปก็อาจกลายเป็นความน่าเบื่อได้ค่ะ เพราะฉะนั้นทางสายกลางในช่วงคลายปมปัญหาจึงถือว่าเป็นทางที่ดีที่สุด โดยรวมก็ไม่ต้องกังวลในช่วงนี้มากค่ะ แต่อาจจะต้องเขียนเนื้อหาให้รัดกุมและครอบคลุมแทนนั่นเองจึงจะเป็นการกระชับเนื้อหาในส่วนนี้ได้ดีที่สุด)

การตัดฉาก/เปลี่ยนฉาก ยังถือว่าทำได้ไม่ดีเท่าที่ควรค่ะ เพราะผู้แต่งมีการเปลี่ยนฉากโดยใช้ตัวหนาเน้นข้อความในช่วงที่เปลี่ยนเพียงเท่านั้น ซึ่งปกติบางประโยคที่ผู้แต่งต้องการเน้นก็ใช้ตัวหนาเช่นกัน ทำให้เกิดความสับสนขึ้น ข้อแนะนำในการเปลี่ยนฉากก็คือ การเว้นบรรทัด1-2 บรรทัดก่อนขึ้นย่อหน้าฉากบรรยาย หรือสำหรับประโยคคำพูดในฉากใหม่ (1 บรรทัดในกรณีที่พิมพ์ถูกต้องตามหลักของ สนพ. คือการพิมพ์ไม่เว้นบรรทัดเลย ซึ่งจะทำการเว้น 1 บรรทัดในการเปลี่ยนฉากใหม่เท่านั้น // 2 บรรทัด สำหรับการลงนิยายตามปกติตามเว็บไซด์ทั่วไปเพื่อทำให้ผู้อ่านสามารถเข้าใจได้ว่าเป็นการเป็นเปลี่ยนฉากใหม่ เป็นการช่วยลดความงุนงงสับสนให้กับการดำเนินเรื่องค่ะ

ความสนุกน่าติดตาม: เป็นเรื่องที่อ่านได้เรื่อยๆ ค่ะ เนื้อหาไม่หนักเกินไปไม่เครียดเกินไป เพียงแต่ปมปัญหามันเยอะมากเท่านั้นเอง ซึ่งปัญหาที่มีบางส่วนก็สามารถคาดเดาตามได้ง่าย (เช่นในตอนสอบสารวัตรนักเรียน) แต่ปริศนาในเรื่องหลักของนางเอกนั้นดูเหมือนผู้แต่งจะเข้าใจอยู่คนเดียวเพราะให้แต่ละคำใบ้มานี่ไม่ได้เฉลยให้ผู้อ่านเกิดความเข้าใจมากขึ้นเลยค่ะ (ตอนนี้เซก็ยังงงอยู่ว่าผู้แต่งจะโยงปมทั้งหมดยังไงหว่า เยอะแยะมากมาย)

ในส่วนการหยอดมุขนั้นก็สามารถทำได้ดีพอสมควรเชียวค่ะ เพียงแต่ในจุดที่สมควรจะเป็นฉากอารมณ์แต่นางเอกเรากลับเล่นมุขเสียนี่ ซึ่งผู้อ่านบางคนก็คิดว่าฮาดี แต่สำหรับเซแล้วมันทำให้รู้สึกว่าเด็กคนนี้ไม่รู้กาลเทศะจริงๆ เลย (มุมมองคนแก่มากค่ะ อย่าถือสา แต่ชอบในจุดหนึ่งคือเซน่ากับห่วงยางเป็ดซึ่งอ่านในตอนแรกรู้สึกว่ามุขนี้มันไม่น่าโผล่ขึ้นมามาก แต่เมื่อธีน่าเจอเซน่าอีกที พอเธอพูดถึงห่วงยางเป็ดในตอนแรกแล้วรู้สึกเข้าท่าเชียวล่ะค่ะ) โดยรวมแล้วคิดว่าเป็นนิยายที่ชวนกดอ่านได้เรื่อยๆ เรื่องหนึ่งเลยล่ะค่ะ


-ภาพรวม/สรุป

ภาพรวมของนิยายเรื่องนี้ยังมีจุดที่ควรปรับปรุงแก้ไขในส่วนของการบรรยายที่ไม่ค่อยให้รายละเอียดและความชัดเจนเท่าใดนัก และตัวละครที่ยังไม่โดดเด่นเท่าที่ควร อีกทั้งปมปัญหาที่เยอะมากซึ่งผู้แต่งควรทยอยเฉลยเรื่อยๆ บ้าง จะทำให้นิยายมีความสมบูรณ์ น่าติดตามอ่านมากขึ้น เซคิดว่าท่านสามารถดำเนินเรื่องและวางปมได้ค่อนข้างน่าสนใจทีเดียวค่ะแม้จะเป็นนิยายแนวโรงเรียนแต่กลับให้ความน่าสนใจในปริศนาและปัญหาของนางเอกมากกว่า ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้ผู้แต่งมากๆ นะคะ เชื่อว่าหากนิยายเรื่องนี้เริ่มเฉลยปมออกมาบ้าง เนื้อเรื่องจะเข้มข้นชวนติดตามขึ้นมากนะเออ! สู้ๆ นะจ้าเอาใจช่วยค่ะ
     
 
หน้าที่ 1 , 2 , 3 , 4