เรื่อง : Princess of the light
ผู้วิจารณ์ : SEI
ก่อนอื่นขอออกตัวเป็นธรรมเนียมว่าเราไม่ได้เป็นนักวิจารณ์มืออาชีพ เพราะฉะนั้นยังอาจวิจารณ์ได้ไม่ตรงจุดหรือยังขาดๆ เกินๆ อยู่บ้าง และมันก็ยังเป็นภาษาไตล์การวิจารณ์ง่ายๆ ของเราที่มุ่งเน้นว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้รับการวิจารณ์บ้างไม่มากก็น้อยค่ะ
-โครงเรื่อง
ก่อนอื่นคงต้องบอกว่าหลังจากที่อ่านบทนำและบทที่1 มาได้เห็นประโยคและการบรรยายก็มั่นใจว่านิยายเรื่องนี้เป็นแฟนตาซียุคเก่าแน่ๆ แต่ทว่าพออ่านในบทที่ 2 ก็ชักประหลาดใจว่าทำไมถึงมี สารวัตร,บริษัท โผล่เข้ามา ทำให้ต้องรีบกดตอนไปอ่านให้แน่ใจอีกครั้ง และคงต้องบอกว่าเข้าใจผิดไปเต็มประตูเลยทีเดียวค่ะ เมื่อธีมเรื่องของนิยายเรื่องนี้เป็นแฟนตาซีร่วมสมัย(?)
***เนื่องจากในจุดนี้ผู้แต่งไม่ได้ให้ความกระจ่างเกี่ยวกับยุคสมัยของนิยายเรื่องนี้เลย จึงขอคาดเดาไปเองแล้วกันค่ะว่าเป็นแฟนตาซีร่วมสมัย เพราะนอกจากจะมีกลิ่นอายยุคเก่าๆ อยู่บ้างเช่น รถม้า,การเรียกชื่อและแบ่งชนชั้น,รวมไปถึงคำต่างๆ ในยุคสมัยใหม่เช่น บริษัท,สารวัตร จึงขอสรุปแบบนี้แล้วกัน (จะดีมากค่ะหากผู้แต่งช่วยบรรยายรายละเอียดตรงนี้แก่ผู้อ่านซักนิดเพื่อไม่ให้ผู้อ่านเกิดอาการงงหรือสับสนได้ ว่าขณะนี้กำลังอ่านนิยายที่อยู่ในช่วงยุคใด เพราะมันไม่ใช่แนวแฟนตาซีทั่วไปที่สามารถเข้าใจถึงการดำเนินเรื่องต่างๆ ได้ง่ายมากนัก)***
ธีมของเรื่องค่อนข้างแปลกสำหรับแนวแฟนตาซีเลยค่ะ เมื่อเนื้อเรื่องมีทั้งปิศาจ เอกโซซิส อีกทั้งยังมีกลิ่นอายแนวสืบสวนฆาตกรรมมาร่วมเสริมทัพให้นิยายดูออกแนวดาร์กไปเลยทีเดียว
โครงเรื่องของนิยายเรื่องนี้เป็นแบบโยนปริศนาตูมใหญ่มาก่อนจะค่อยๆ เผยรายละเอียดมาทีละนิดๆ ซึ่งการดำเนินลักษณะนี้ผู้แต่งจะต้องปูพื้นฐานของเรื่องและอธิบายรายละเอียดต่างๆ อย่างใจเย็น จึงจะทำให้ผู้อ่านมีความเข้าใจในเนื้อเรื่องและคล้อยตามให้ได้เสียก่อน คงต้องบอกว่าผู้แต่งผิดพลาดในจุดนี้อยู่ เพราะนอกจากจะไม่ได้ใส่รายละเอียดเนื้อเรื่องให้ผู้อ่านเข้าใจมากขึ้นแล้วยังมีการสอดแทรกปริศนาใหม่อยู่เนืองๆ ทำให้จากการที่อ่านแล้วเกิดความงุนงงสงสัยก็ยิ่งงงหนักเข้าไปใหญ่ ส่งผลให้ผู้อ่านที่ไม่ค่อยเข้าใจในเนื้อหาและสับสนกับปริศนาที่ทับถมขึ้นเรื่อยๆ เกิดอาการเบื่อหน่ายกับการอ่านได้ เชื่อว่าจุดนี้ทำให้เสียนักอ่านขาจรไปเป็นจำนวนมากทีเดียวเลยค่ะ
-ภาษา สำนวน
การบรรยาย:
ในช่วงบทแรกๆ จะพบกับปัญหาเหล่านี้ค่ะ
มีการใช้คำฟุ่มเฟือยอยู่พอสมควร ขอยกตัวอย่างในบทนำที่บรรยายถึงฉากที่รินะกำลังนั่งเหม่อ ประโยคนี้ค่ะ ดวงตาสีฟ้าใสเหม่อลอยไม่จับจ้องสิ่งใด ตรงจุดนี้ถือว่าผู้แต่งใช้คำค่อนข้างฟุ่มเฟือยไปนิดเพราะอาการเหม่อลอยก็บอกลักษณะของตัวละครได้ชัดเจนอยู่แล้ว แต่กลับเพิ่ม ไม่จับจ้องสิ่งใด เข้าไปขยายความต่ออีก โดยส่วนตัวคิดยังไม่เป็นปัญหาที่ทำให้เสียอรรถรสในการอ่านมากนักค่ะ แต่ผู้แต่งต้องพยายามสังเกตการใช้คำนิดนึง
กรณีต่อมาคือประโยคที่ใช้ยังติดขัดอยู่มาก ขอยกตัวอย่างในบทที่สองนะคะ ตรงประโยคนี้ค่ะ และในวินาทีนั้นเด็กสาวก็รู้ได้ทันทีว่าความซวยขั้นร้ายแรงกำลังมาเยือนเธอแล้ว ณ วินาทีนี้ ติดกันเลยค่ะ แหงสิ นี่มันอีกห้าทุ่มกว่าแล้วนี่นา จะเห็นได้ว่าจุดนี้รูปประโยคยังแปลกๆ อยู่และสามารถแก้ไขได้อย่างง่ายๆ คือการอ่านตรวจทานเช็คข้อความอีกครั้งเพื่อขัดเกลารูปประโยคให้สละสลวยและสมบูรณ์ค่ะ
หัวข้อถัดมาคือการบรรยายที่ขาดความกระชับ อ่านบทที่สองแล้วขอสารภาพตามตรงเลยค่ะ ว่าการบรรยายสิบกว่าบรรทัดแรกที่ผู้แต่งบรรยายฉากและสถานที่มาทำให้รู้สึกเหมือนกำลังอ่านเรียงความเรื่องการบรรยากาศสภาพในคฤหาสน์อยู่ เพราะการบรรยายที่ยืดเยื้อความขาดกระชับนั่นเอง
ตามมาด้วยการบรรยายเสริมที่ผิดจุด ในเรื่องนี้สังเกตได้จากฉากที่เคย์กัดมือของรินะ ซึ่งผู้แต่งน่าจะบรรยายถึงอาการของบาดแผลที่สมานตัวก่อนที่เคย์จะอุทานแสดงความทึ่งออกมา
แต่พอมาถึงบทหลังๆ ประมาณตอนที่ 15 ขึ้นไปผู้แต่งสามารถบรรยายและเก็บรายละเอียดได้ดีขึ้นมาก ซึ่งในบทที่ 19 จะเห็นการบรรยายของผู้แต่งที่พัฒนาขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัด มีความกระชับเนื้อหารวบรัดดีค่ะ นับว่าเป็นการพัฒนาในการเขียนได้เยี่ยมยอดเลย Level Up!
บทสนทนา: ค่อนข้างห้วนๆ สั้นๆ ซะมาก เพราะต่างคนต่างพูดไปในแนวเป็นปริศนาให้อีกฝ่ายเก็บไปคิดซะหมด จึงไม่ค่อยลื่นไหลมากนักในภาพรวม
คำผิด คำซ้ำ การหลากคำ:
คำผิด เช่น อัศดง-อัสดง/กราดเกลื่อน-กลาดเกลื่อน/สดุด-สะดุด/หลั่นริน-หลั่งริน/ตลาดกาล-ตลอดกาล/สารวัต-สารวัตร/อาเพส-อาเพศ/สิทธิ-สิทธิ์/เนี้ย-เนี่ย/อุส่า-อุตส่าห์/ยิ้มเยอะ-ยิ้มเยาะ/สติสตางค์-สติสตัง/ระรึก-ระลึก/เจ้าใจ-เข้าใจ/รี-รีบ จะเห็นได้ว่ามีทั้งคำที่ใช้ผิดแล้วก็รีบพิมพ์จนเกินไปค่ะ
คำซ้ำ พบเป็นระยะๆ ในเนื้อเรื่อง แต่ยังถือว่าไม่มากจนทำให้สะดุดตามากนัก เช่น สรรพนามของรินะที่ผู้แต่งกำหนดให้เป็นเด็กสาว ก็จะปรากฏแต่คำนี้ตลอดค่ะ
การหลากคำ ถือว่ายังมีการใช้คำไม่ค่อยหลากหลายเท่าใด มักจะเห็นการใช้คำเดิมๆ ในสถานการณ์ที่ใกล้เคียงหรือคล้ายกัน สืบเนื่องมาจากคำซ้ำค่ะ
ความถูกต้องของการใช้สัญลักษณ์ต่างๆ และซาวด์เอฟเฟค :
การขึ้นย่อหน้า : จัดเป็นปัญหาค่อนข้างมากพอสมควร สังเกตได้จากผู้แต่งมักจะขึ้นย่อหน้าใหม่เมื่อบรรยายฉากหรือเรื่องๆ หนึ่งจบ ทำให้การดำเนินเรื่องขาดความต่อเนื่องขึ้นซึ่งในบางจุดผู้แต่งสามารถบรรยายต่อเนื่องเป็นประโยคยาวได้แต่กลับรีบตัดเนื้อหาขึ้นบรรทัดใหม่ จึงทำให้เกิดความรู้สึกไม่ปะติดปะต่อขึ้น
ด้านสัญลักษณ์ไม่มีปัญหา ส่วนซาวด์เอฟเฟคนั้นแทบจะไม่ปรากฏในเรื่องเลย
:::การใช้คำ::: คำที่ใช้ยังมีภาษาพูดในการเขียนอยู่พอสมควร เช่น ยังไง,ไม่งั้น,ได้ไง,เซ็งจิต,แหงๆ,ยั๊ว
-ตัวละคร
ด้านตัวละครยังไม่ค่อยมีมิติเท่าที่ควร โดยเฉพาะรินาริเรียที่มีหน้ากากหลากหลายและอารมณ์ที่ค่อนข้างแปรปรวนอยู่มาก ซึ่งทำให้ยากที่หยั่งถึงจิตใจเธอรวมถึงผู้อ่านด้วยเช่นกัน และแม้แต่ตัวละครที่เหลือไม่ว่าจะเป็น หมออัล หรือพ่อบ้านเคย์ ผู้เต็มไปด้วยปริศนาก็ราวกับมีไอทะมึนครอบคลุมอยู่รอบตัวทำให้มองไม่เห็นถึงบุคลิกและเอกลักษณ์ที่เป็นจุดเด่นมากมายเท่าไหร่ ดังนั้นตัวละครที่ค่อนข้างเปิดเผยอย่าง กิล จึงเป็นตัวละครที่ค่อนข้างมีมิติมากที่สุดนั่นเอง
-ความสมเหตุสมผล
ความสมเหตุสมผลยังค่อนข้างต้องแก้ไขพอสมควร ทั้งเรื่องการฆาตกรรมในตอนแรกที่เพียงชั่วข้ามคืนกลับส่งกลิ่นเหม็นเน่าออกมาได้ ในจุดนี้ถือว่ายังไม่ค่อยจะสมจริงนักค่ะ ถ้าเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดและเศษซากอวัยวะที่เริ่มเน่านี่ยังพอรับได้ แต่ถ้าน่าเฟะมีหนอนไชตามที่บรรยายไว้นี่ออกจะขาดความสมจริงทีเดียวค่ะ
ในส่วนที่เหลือคงไม่อาจวิจารณ์ได้เพราะเป็นปริศนาขมวดปมพันเป็นเกลียวเสียเหลือเกิน เพียงแต่สงสัยว่าทำไมถึงมีผู้บุกรุกเข้าคฤหาสน์ของรินะได้ง่ายดายนัก โดยเฉพาะอัศวินสีขาวที่บุกเข้ามาถึงในห้องนอนแบบที่ไม่รู้สึกตัวกันเลย
อ่านจนถึงตอนสุดท้ายหรือก็คือบทที่ 23 ในเรื่อง มีข้อแนะนำอย่างหนึ่งค่ะ คือความเนียน ในจุดนี้ผู้แต่งคงต้องทำการบ้านมากๆ เพราะในส่วนนี้ผู้แต่งจะต้องโยงเนื้อเรื่องทั้งหมดเข้าหากัน แน่นอนค่ะว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหลายบวกกับรายละเอียดตลอดเรื่องซึ่งค่อนข้างเยอะมากทำให้ยังมีจุดที่ขัดๆ กันอยู่บ้างพอสมควร ดังนั้นแล้วส่วนที่จะมาช่วยทำให้เนื้อเรื่องลื่นไหลก็คือความเนียนในการปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดนี่แหละค่ะที่จะทำให้เนื้อเรื่องมีความสมบูรณ์มากขึ้น
-การดำเนินเรื่อง/ความลื่นไหล/ความสนุกน่าติดตาม
การดำเนินเรื่อง: การดำเนินเป็นไปอย่างเนิบๆ เรื่อยๆ ค่ะ โดยส่วนตัวคิดว่ายังไม่มีความหวือหวาให้ดึงดูดน่าสนใจมากนัก แต่ช่วงบทที่16 เป็นต้นมาค่อนข้างลื่นไหลพอสมควร ทำให้อ่านได้เรื่อยๆ ไม่น่าเบื่อเหมือนในช่วงแรกๆ
การเปลี่ยนฉาก,ตัดฉากในบางจุด ยังทำได้ไม่ดีนักค่ะ ทำให้นิยายยังสะดุดอยู่พอควร
ความสนุกน่าติดตาม: ในจุดนี้คงต้องบอกว่าเนื้อเรื่องที่ซ่อนปมปริศนาที่พันกันหลายตลบและมีการดำเนินเรื่องเรียบๆ นั้น บวกกับตัวผู้แต่งเองที่กำหนดให้สถานการณ์เป็นปมปัญหาซับซ้อนโดยที่มาคลายเงื่อนในตอนหลังๆ เท่านั้นทำให้นิยายเรื่องนี้เกิดอาการเคว้งคว้างไร้ทิศทางยากที่จะคาดเดาตามไปด้วยทำให้นิยายเรื่องนี้ขาดความสนุกไปพอสมควรทีเดียว
-ภาพรวม/สรุป
แนะนำให้รีไรท์สามตอนแรกอย่างด่วนเลยค่ะ เพราะการเปิดตัวและเนื้อหาช่วงแรกๆ เป็นจุดที่ทำให้นักอ่านตัดสินใจว่าควรจะกดตอนถัดไปในนิยายเรื่องนั้นดีหรือไม่ ซึ่งเราต้องขอบอกว่าสามตอนแรกของนิยายเรื่องนี้นั้นมีจุดผิดพลาดเยอะทีเดียวค่ะ ควรแก้ไขให้เนื้อหากระชับและครอบคลุมรวมถึงการใส่รายละเอียดที่ช่วยให้ขยายความให้ผู้อ่านสามารถเข้าใจเนื้อเรื่องได้ง่ายๆ จะทำให้นิยายเรื่องนี้มีความสมบูรณ์และน่าติดตามมากขึ้น โดยส่วนตัวคิดว่าเป็นนิยายที่มีการพัฒนาเรื่อยๆ ค่ะ ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องดีเลยทีเดียว เป็นกำลังใจให้ สู้ๆ ต่อไปค่ะ |