My Mate ใกล้นัก รักเลย
จาง สาวบ้าโอปป้าเกาหลีเข้าเส้น ต้องร่วมภาระกิจลับกับเพื่อนชายที่ไม่อยากสนิท แถมยังมีซุปตาร์ร่วมชั้นตามประกบ เธอจะหนีหัวใจตัวเองได้ไหม?
ผู้เข้าชมรวม
535
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
< เรื่องเล่าของวันวาน >
< 3 พี่น้อง >
เมื่อยี่สิบปีก่อน เศรษฐกิจบนเกาะฮ่องกงเจริญถึงขีดสุด มีอัตรา GDP เติบโตสูงปีละ 20% อย่างต่อเนื่อง โดยมีตระกูลสำคัญที่เป็นเจ้าใหญ่ที่สุดของการลงทุนในเกาะฮ่องกง ณ ขณะนั้นคือตระกูลเลี่ยง
ตระกูลเลี่ยงรุ่นที่ 3 มีผู้สืบทอดทายาททั้งหมดสามคน โดยมีอวี้เฟิ่งเป็นพี่สาวคนโต มีต้าหลงและเสี่ยวหลงเป็นน้องชายคนกลางและน้องชายคนเล็กตามลำดับ ผู้เป็นพ่อได้ร่วมประชุมกับคณะกรรมการบริหารบริษัท เลี่ยงกรุ๊ปว่า จะให้ใครสืบทอดธุรกิจต่อไป
ทางคณะกรรมการมีมติเห็นชอบให้เสี่ยวหลงเป็นกรรมการผู้จัดการต่อจากพ่อของเขาในรุ่นถัดไป เพราะมีนิสัยห้าวหาญ เด็ดเดี่ยว และมีความเป็นผู้นำสูง ในขณะที่อวี้เฟิ่งถึงแม้จะฉลาดปราดเปรื่องก็จริง แต่ความเป็นผู้หญิงอาจทำให้มีปัญหาในการปกครองคนในองค์กรซึ่งมีผู้ชายอยู่เป็นส่วนใหญ่ ส่วนต้าหลงใจเย็น สุขุมทว่าเชื่องช้าเกินไปไม่เหมาะกับตำแหน่งผู้นำ
แน่นอนว่าการตัดสินใจเช่นนี้ทำให้พี่ใหญ่อย่างอวี้เฟิ่งไม่พอใจเป็นอย่างมาก เธอกับสามีได้ชักชวนต้าหลงกับลูกน้องที่ไว้ใจได้ ลาออกมาเปิดบริษัทซึ่งทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แข่งกับเลี่ยงกรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทของตระกูลเธอเอง
พ่อของเธอโกรธจนตัดขาดเธอออกจากความเป็นพ่อลูก
บริษัทลีกรุ๊ปได้ถือกำเนิดขึ้น ภายใต้การดูแลของอวี้เฟิ่งกับสามี โดยมีต้าหลงน้องคนกลางเป็นที่ปรึกษา พวกเขาสามารถสร้างยอดขายอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างมหาศาล มีอัตราการเติบโตเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ต่อปี และภายในระยะเวลา 12 ปีทรัพย์สินรวมของบริษัทลีกรุ๊ป ก็มีมูลค้ารวมสูงถึงเก้าจุดห้าแสนล้านล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ
อวี้เฟิ่งค่อยๆเข้าซื้อหุ้นของบริษัทเลี่ยงกรุ๊ปทีละน้อยๆ จนภายใน 12 ปีเศษๆ เธอและสามีได้กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทที่พ่อและน้องชายคนเล็กของเธอบริหารจัดการอยู่
ในวันที่พ่อของเธอล้มป่วยใกล้จะสิ้นใจ อวี้เฟิ่งและต้าหลงเข้าไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล โดยเล่าสาเหตุที่ต้องซื้อบริษัทของพ่อตัวเองเพราะต้องการบอกให้พ่อเห็นว่าน้องเล็กเสี่ยวหลงยังอ่อนประสบการณ์ชีวิตและใช้อารมณ์ในการตัดสินใจเกินไป ไม่เหมาะที่จะให้มารับตำแหน่งบริษัทต่อจากพ่อในทันที
เสี่ยวหลงหลบหน้าพี่ทั้งสอง ทั้งน้อยใจและโกรธแค้น เขาตัดสินใจลาออกจากบริษัทแล้วหนีไปอยู่ต่างประเทศ
หลังจากนั้นไม่นานอวี้เฟิ่ง สามี และลูกชายก็ประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตกกลางทะเล ทำให้ทั้งสามคนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที มีคนพบร่างของสองสามีภรรยาแต่ไม่มีคนพบร่างของบุตรชาย
ทนายเชน ทนายประจำตัวของอวี้เฟิ่ง ได้มาเปิดพินัยกรรมที่อวี้เฟิ่งเขียนไว้ ในเนื้อหาของพินัยกรรมอวี้-เฟิ่งและสามีแจ้งความประสงค์ชัดเจนในการยกทรัพย์สินทั้งหมดให้กับบุตรชายคนเดียว แต่เนื่องจากไม่พบร่างของบุตรชายศาลจึงกำหนดให้เป็นบุคคลสูญหาย และเนื่องจากเกิดอุบัติเหตุทางท้องทะเลกับบุตรชาย โอกาสที่ผู้ประสบเหตุจะตายมีมากกว่าจะรอด ศาลจึงลดเวลาจากภายใน 5 ปีเพื่อให้บุตรชายมาแสดงความเป็นตัวตนว่ามีชีวิตอยู่ เหลือ 2 ปี ถ้าไม่มาแสดงตนภายในระยะเวลาดังกล่าวจะถือว่าเป็นผู้เสียชีวิต แต่ทนายเชนพยายามยกพยานหลักฐานมาจนศาลขยายเวลาให้เป็น 5 ปี ตามเดิม
ระหว่าง 5 ปีนั้น มรดกจะตกไปอยู่ในความดูแลของทายาทลำดับถัดไป
ต้าหลงตรอมใจมากกับการจากไปของพ่อ พี่สาวและพี่เขย ทำให้เขามีอาการป่วยเป็นโรคซึมเศร้าและหมอวินิจฉัยว่าเป็นผู้ที่ไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติต้องอยู่ในความดูแลของจิตแพทย์
รักษาการคณะกรรมการบริหารบริษัทลีกรุ๊ป จึงจำเป็นต้องตัดสินใจเรียกตัวเสี่ยวหลงซึ่งเป็นทายาทลำดับสุดท้าย มารับมรดกทั้งหมดไปรวมทั้งอำนาจในการบริหารบริษัททั้งเครือตามคำร้องของทนายเชน
ต่อมา 5 ปีหลังจากนั้น..
ผลงานอื่นๆ ของ halongbae ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ halongbae
ความคิดเห็น