ภาษากายที่ยิ่งใหญ่กว่าคำพูด
วันเกิดปีนี้คุณทำอะไรเพื่อใครบ้าง
ผู้เข้าชมรวม
1,256
ผู้เข้าชมเดือนนี้
7
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
วันคล้ายวันเกิด..ปกติแล้วคุณทำวันนี้เพื่อใคร?
ไปเที่ยวนอกบ้านกับเพื่อนฝูง
ซื้อเค้กมาเป่าแล้วตัดแบ่งแจกเพื่อนที่โรงเรียน
ทำบุญตักบาตรตอนเช้า
ไปแจกขนมบ้านเด็กอ่อน เด็กกำพร้า
คุณรออะไรจากใคร?
รอแฟนเซอร์ไพรส์ดินเนอร์คืนนี้
รอของขวัญพิเศษสุดหวานจากคนรัก
รอเพื่อนส่งคำอวยพรมาให้ทางแมสเสจ
รอการ์ดวันเกิดนับร้อย
รอที่จะเดินเข้าไปในห้องทำงาน หรือห้องเรียนที่ปิดไฟมืด แล้วก้าวที่สามมีแสงเทียนสว่างพรึบอยู่บนเค้ก กับเสียงเพลงแฮ็บปี้เบิร์ดเดย์ทูยู
หรือ..จะรอลุ้นตอนแกะกล่องของขวัญสีสวยจากคนรู้จักมากหน้าหลายตาในงานวันเกิดที่จัดขึ้นมาอย่างยิ่งใหญ่อลังการที่สุดในรอบปี
ใช่!
เกือบทุกปีฉันก็อยากทำกิจกรรม และมีความคาดหวังไม่ต่างอะไรกับคำกล่าวข้างต้น
บนพื้นฐานคอนเซ็ปที่ว่า ทำสิ่งที่ดีที่สุดในรอบปีเพื่อตัวเอง และจะได้รับความสำคัญจากคนใกล้ชิดตามลำดับอย่างไรบ้าง
เพิ่งมาปีสองปีนี้เอง
ที่ฉันคิดเปลี่ยนคอนเซ็ปนั้น ให้กลายเป็นการทำอะไรเพื่อคนอื่น และทำสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อความประทับใจของผู้ให้กำเนิด
โดยเฉพาะปีนี้ วันคล้ายวันเกิดที่เพิ่งผ่านมา อันที่จริงก็ถัดจากวันนั้นอีกหนึ่งวัน เพราะฉันติดวันธรรมดาที่ต้องเรียนหนังสือ และหอพักอยู่ไกลจากบ้านเกินกว่าจะกลับไปในวันนั้นได้
ฉันคิดทำอะไรเล็กๆ ไม่มีพิธีรีตองมากมาย
แต่เพียบพร้อมด้วยความยิ่งใหญ่ที่ออกมาจากใจจริง
ฉันแค่อยากทำอะไรที่ไม่เคยทำจริงๆจังๆเสียทีในวันนั้น
การกราบพ่อแม่..
ฉันก็เคยทำมาก่อนหน้านี้
การกราบแม่..ก็เคยกราบตอนวันเกิดเมื่อปีก่อน กราบที่หน้าตักก่อนนอน
ส่วนกราบพ่อ..
ด้วยความไม่กล้าพอ ฉันก็ได้แต่แอบเข้าไปกราบท่านตอนที่ท่านนอนหลับอยู่ ไม่กล้ากราบต่อหน้าเพราะฉันไม่เคยทำสิ่งนั้น และด้วยเหตุผลที่ฉันทำตัวใกล้ชิดกับพ่อน้อยกว่าแม่
ปีนี้ฉันจึงคิดทำอะไรที่มันจริงจังมากขึ้น และได้ประโยชน์กับหลายฝ่าย
ฉันคิดซื้อพวงมาลัยดอกไม้สักสองพวง
คิดฉากที่ให้พ่อกับแม่นั่งบนเก้าอี้ตัวติดกัน
คิดมอบพวงดอกไม้อีกอันให้น้องสาว
ก้มลงกราบแทบเท้าด้วยกัน
เพราะฉันคิดว่า..ถ้าฉันกราบท่านทั้งสองโดยมีน้องยืนมองอยู่ห่างๆ
น้องอาจรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่นัก
ตอนแรกฉันก็ไม่ได้คาดหวังให้ผลมันออกมาเป็นอย่างที่ต้องการอะไรหรอก
แค่ได้แสดงจากใจให้พ่อแม่ได้รับรู้ว่า..ฉันสำนึกในบุญคุณของท่านที่ทำให้มีวันนี้ได้
เพียงเท่านั้น...
และฉันก็แอบคิดว่า พ่อกับแม่ถ้าได้มาอยู่ในบรรยากาศแบบนั้นด้วยกัน
คงจะเกิดสายใยรักผูกพันแน่นแฟ้น และเข้าใจกันมากขึ้นเมื่อมีลูกมาช่วยเชื่อมโยง
ฉันแอบหวังให้พ่อกับแม่รักกันมากขึ้นด้วย
เมื่อสถานการณ์จริงมาถึง
ฉันก็เตรียมจัดทุกอย่างให้เป็นไปตามต้องการโดยไม่บอกให้ใครได้เตรียมตัวล่วงหน้า แม้แต่น้องสาวของฉัน
วันนั้นพ่อไปรับฉัน และก็พาฉันไปประชุมงานเครียดๆของพ่องานหนึ่ง
กว่าจะกลับก็เย็นได้ที่แล้ว
ฉันสัมผัสได้ถึงความตึงเครียดของพ่อกับงานนั้น
แต่ฉันก็ไม่มีทางละความตั้งใจที่มี
เมื่อวางแผนไว้แล้ว ก็ต้องทำให้ได้ ไม่ว่าบรรยากาศจะอำนวยหรือไม่ก็ตาม
ก่อนไปประชุมฉันบอกให้แม่อยู่รอฉันกับพ่อกลับมาก่อน อย่าเพิ่งหนีขึ้นไปทำงานข้างบน
เมื่อถึงเวลาที่ฉันกลับบ้าน และมีพ่อ แม่ น้องสาว อยู่พร้อมหน้า
ฉันก็บอกให้พ่อกับแม่มานั่งคู่กัน
ทีแรกท่านก็สงสัยกันใหญ่ว่าจะทำอะไร
ฝ่ายแม่ก็บอกว่าทำไมต้องไปเกี่ยวกับพ่อด้วย..คือตอนแรกแม่คิดว่าฉันจะทำอะไรสักอย่างให้ท่านเซอร์ไพรส์ แต่ก็ไม่คิดว่าพ่อจะอยู่ร่วมเหตุการณ์ด้วย
งุนงงกันพักใหญ่ แต่พ่อก็เป็นฝ่ายบอกว่านั่งๆไปเถอะ ลูกบอกให้ทำอะไรก็ทำไปก่อน แต่ก็ไม่วายหันมาถามอย่างระแวดระวังว่า ฉันจะทำอะไร
ฉันไม่พูดพร่ำทำเพลง รีบเข้าไปหยิบพวงมาลัยดอกไม้ที่เตรียมไว้แล้วสองพวง
บอกให้น้องสาวเตรียมตัว น้องก็งงอีกระลอกว่า ให้ทำอะไรอีกนะ
ฉันบอกให้น้องสาวคุกเข่าลงตรงหน้าที่แม่นั่ง ส่วนฉันคุกเข่าลงตรงหน้าที่พ่อนั่ง
ณ ตอนนั้นฉันสัมผัสได้ถึงกระแสความเย็นที่ตลบอบอวลไปทั้งบ้าน
พ่อหัวเราะแบบเก้อๆ แม่ก็ยิ้มแบบเกร็งๆ
ส่วนน้องสาว ถึงแม้จะงงกับแผนการฉุกละหุกปานนั้น ก็ยอมลงนั่งคุกเข่าตามที่ฉันบอกโดยดีแล้วรับพวงมาลัยไปถือ
เราสองคนที่น้องนั่งนิ่งไปพักหนึ่ง
นิ่งไปเพราะว่า..ฉันกำลังคิด
คิดว่าจะชวนน้องก้มลงกราบแทบเท้าพ่อกับแม่เลยดีไหม
แต่จู่ๆ โดยที่ไม่ได้เตรียมการไว้ล่วงหน้า
ฉันยื่นพวงดอกไม้ให้พ่อ พร้อมกับที่น้องยื่นให้แม่เสร็จ ปากของฉันก็โพล่งออกไปพร้อมยกมือขึ้นพนมที่อกว่า..
อะ...แพ็ทพูดตามพี่นะ (นิ่งอึ้งไปอีกยกหนึ่งก่อนพูดต่อ)
“ขอขอบคุณ..ที่ทำให้เราได้เกิดมา..จนเติบโตถึงทุกวันนี้
ขอบคุณที่ช่วยเลี้ยงดู...”
พูดได้เท่านี้ น้องสาวฉันก็หยุดพูดตามไปเสียอย่างนั้น
พ่อก็ถามน้องว่าทำไมไม่พูดตามพี่เขาต่อล่ะลูก
เราก็งงๆจึงหันไปมองหน้าน้อง
พบว่าน้องกำลังยกมือขึ้นปิดปากหน้าแดง ทำท่าจะร้องไห้
วินาทีนั้นฉันรู้สึกเต็มตื้นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
เพราะน้องไม่เคยแสดงท่าทีอะไรตื้นตันให้พ่อแม่เห็นมาก่อน
เพียงพูดตามฉันไม่กี่คำ..ก็ทำให้พ่อกับแม่ได้เห็นถึงความรักที่มีอยู่เต็มล้นใจมานานแสนนาน
ฉันไม่ปล่อยให้บ้านเงียบสงัดอยู่ในกระแสเคล้าน้ำตาของน้องนานนัก ก็ชิงพูดต่อด้วยรอยยิ้ม
“ขอให้พ่อกับแม่มีความสุข...มีสุขภาพแข็งแรง..”
น้องสาวฉันไม่พูดตามฉันไปนานแล้ว
แต่คราวนี้ฉันเป็นฝ่ายหยุดนิ่งไปชั่วขณะเสียเอง
แม่ฉันตาแดงก่ำ เริ่มมีเสียงสะอื้นไห้ตามมา
ส่วนพ่อ..เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นประกายตาที่ต่างออกไป
น้ำตาคลอเต็มสองหน่วยตาของพ่อ
คราวนี้ทั้งพ่อแม่ และน้องก็น้ำตาซึมไปตามๆกัน
ฉันรู้สึกซาบซึ้งใจมาก... ถึงแม้ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมาในขณะนั้น
ก็สัมผัสได้ถึงใจที่มีความรักล้ำค่า และความผูกพันที่มอบให้แก่กัน
จนฉันต้องกลั้นน้ำตา และควบคุมเสียงให้เป็นปกติก่อนพูดต่อ
“พวกเรา..จะขอตอบแทนบุญคุณพ่อแม่..ไปจนกว่า..”
คราวนี้เสียงสะอื้นหนักกว่าเก่า
เพราะฉันเองก็น้ำตาคลอ พูดอะไรไม่ออก อยู่เป็นนาน ก่อนจะปิดฉากลงด้วยเสียงสั่นๆ
“จนกว่า..จะตายจากกัน”
จบประโยคนั้นฉันก็ก้มลงกราบแทบเท้าพ่อ น้องสาวก็กราบเท้าแม่
ช่วงเวลาที่ศีรษะของฉันก้มต่ำลงจนหน้าผากชิดสองมือที่พนมไว้บนพื้น
มานะอัตตาของฉันมันลดฮวบลงไปอย่างมาก
ฉันกราบด้วยความเงียบของเสียง แต่ดังกระหึ่มด้วยใจที่นอบน้อมอย่างสุดซึ้ง
จากนั้นก็สลับกับน้อง เปลี่ยนไปกราบเท้าแม่ และให้น้องมากราบเท้าพ่อ
ช่วงเวลาอันแสนมีค่าเสร็จสิ้นลงพร้อมกับคำอวยพรขอพ่อแม่
เป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกถึงช่วงเวลาอันมหัศจรรย์ของชีวิตอีกรูปแบบหนึ่ง
สิ่งที่ฉันไม่เคยทำ
ไม่คิดเลยว่าเมื่อทำแล้ว จะให้ผลทางใจอย่างล้ำค่า หาคำอธิบายได้ยากขนาดนี้
คำพูดมีไม่กี่คำ
แต่ความรู้สึก และกระแสเย็นซึ้งที่หลั่งไหลออกมา มันมีความหมายยิ่งกว่าคำพูดมากนัก
ฉันเชื่อว่าวันนั้นจะเป็นอีกวันที่ครอบครัวฉันจุดคบเพลิงแห่งสายใยรัก และความอบอุ่นร่วมกัน
และเป็นวันคล้ายวันเกิดสุดพิเศษ น่าประทับใจกว่าที่ฉันเคยเจอมาตั้งแต่เล็กจนโต
ทั้งที่วันนั้น ไม่มีของขวัญสำหรับฉัน ไม่มีเค้กวันเกิดก้อนโต ไม่มีงานวันเกิด ไม่ได้ออกไปเที่ยวฉลองเฮฮาปาร์ตี้ที่ไหน
แต่วันนั้น..
จะเป็นวันสำคัญของชีวิตที่ฉันไม่อาจลืมเลือนไปจนกว่าสัญญาจะดับลง
อีกวันแห่งความประทับใจ
๗ สิงหาคม ๒๕๕๓
ศิลาริน พุทธบุตรี
ผลงานอื่นๆ ของ ศิลาริน ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ศิลาริน
ความคิดเห็น