ตอนที่ 4 : ✖ EP.2✖
พระผู้เป็นเจ้าไม่เคยเมตรตาให้กับคนบาป...ไม่เคยจะฟังคำวิงวอนร้องขอ..........
แต่พระผู้เป็นเจ้ากลับมอบความเจ็บปวดปางตายจนแทบไม่อยากจะหายใจเพื่อดำรงชีวิตต่อ.........
พระผู้เป็นเจ้าลำเอียงเสมอ....
ท่านมอบความแข็งแกร่งให้กับผู้อื่น......แต่ท่านกลับมอบความอ่อนแอให้กับผมอย่างนั้นหรือ......
ท่านทรงใช้ให้เขายิบยื่นความโศกเศร้าผสมกับความเกลียดชังให้กับผม.........
ถ้าย้อนเวลากลับไปได้จริงๆ........
ผมจะไม่ขอรู้จักกับเขา.......ไม่ขอเจอกับเขา
พยอนเบคยองจะไม่ขอพบเจอกับปาร์คชานยอล....
“Careless, careless. Shoot anonymous, anonymous.
Heartless, mindless. No one, who care about me?”
เสียงทุ้มต่ำที่ขัดกับใบหน้าที่เหมือนคนอารมณ์ดีตลอดเวลา ที่กำลังท่องคำพูดที่ฟังดูคล้ายๆกับบทสวดมนต์ขอพรจากพระผู้เป็นเจ้าที่กำลังถูกตรึงด้วยไม้กางเขน เพื่อที่จะไถ่บาปให้กับมนุษย์ทุกคน
“ทำความผิดอะไรมาหรือไงถึงได้มาตัดพ้ออะไรกับพระผู้เป็นเจ้า?” น้ำเสียงทุ้มๆของชายหนุ่มผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้นำยืนอยู่ตรงไหนพระเยซูคริส ของมหาวิหารบูคาเรสต์ที่มีอายุน้อยที่สุดหรือบางทีอายุอาจจะมากที่สุดในบรรดาบาทหลวงของวิหารเพียงแต่ใบหน้าของเขานั้นดูอ่อนเยาว์มากกว่าบาทหลวงคนเก่าที่แก่คราวพ่อถามไถ่ผู้มาเยือนวิหารแห่งนี้ที่ใช่ว่าจะไม่คุ้นหน้าคุ้นตาอะไรนัก แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาจากผู้มาเยี่ยมเยียนวิหารกลับเป็นแค่รอยยิ้มเท่านั่น
“พระผู้เป็นเจ้าไม่เคยรับฟังคำอ้อนวอน คำขอร้องจากผู้ที่ทำบาปหรอกท่านบาทหลวง”
“แล้วรู้ได้ยังไงว่าพระผู้เป็นเจ้าไม่ยอมรับฟังล่ะหืม ปาร์คชานยอล”
“ถ้าพระผู้เป็นเจ้ามีจริงหรือยอมรับฟัง แวมไพร์เลือดบริสุทธิ์แบบคิมฮิมชานก็คงจะแฝงตัวเป็นบาทหลวงไม่ได้หรอก”
“ไอ้เด็กปากเสีย! แต่เอาเถอะมาที่มีธุระอะไรไม่ทราบ ปกติไม่ชอบเข้ามาที่วิหาร” บาทหลวงกำมะลอถามไถ่การมาของเด็กที่มีส่วนสูงถึง185 ซม. ง่ายๆ สูงกว่าเจ้าตัวแค่5เซนเท่านั่น ส่วนคนที่ถูกถามที่กำลังจดจ้องเพราะสนใจเทวทูตในวิหารหันมาสบตาแล้วจึงระบายยิ้มจนเห็นฟันทั้ง32ซี่ รวมไปถึงเขี้ยวทั้งข้างของเขา
ซึ่งบ่งบอกให้รู้ว่า ชานยอลเป็นอย่างเดียวกับคิมฮิมชาน
“ยิ้มแบบนี้ทีไรเป็นได้เกิดเรื่องจริงๆเถอะน่า” บาทหลวงฮิมชานทำสีหน้าเบื่อหน่ายใส่ผู้มาเยือน
“ที่นี่ไม่ใช่ทรานซิลวาเนียนะเจ้าโย่ง อย่าทำอะไรให้มันเอิกเกริก”
“อะไรคือคำว่าเอิกเกริก” น้ำเสียงยอกย้อนของคนที่สูงกว่าทำให้ฮิมชานแทบจะเดินไปหยิบดาบสีเงินมาฟันคอญาติผู้น้องของตนให้ขาด ชานยอลรู้ว่าบาทหลวงผู้นี้กำลังหมายถึงอะไร แต่ด้วยความที่ชอบแกล้ง และไม่ได้เจอกันนานแกล้งนิดแกล้งหน่อยคงไม่ใช่เรื่องแปลก
“ไฟไหม้ปราสาทหลังใหญ่ของเผ่านักล่า4ขาที่ทรานซิลวาเนีย เศษเดนพวกนั้นตายหมดเพราะถูกสูบเลือดจนหมดตัวแล้วจับมาย่างสดอย่างน่าสงสาร” บาทหลวงบรรยายสิ่งที่ตนเองเห็นในมโนภาพ
“ผมเปล่าทำซักหน่อย” ชานยอลหยักไหล่เล็กหน่อยเหมือนกับว่าตนเองไม่ได้สนใจในสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว
“ก็มีอยู่แค่2ท่านที่กล้าทำไม่ใช่หรอไงล่ะพ่อหนุ่ม อีกตนยังอยู่ที่บ้านเกิดแต่กำลังจะตามมา”
“ฝีมือเจ้านั่นแหละ ไม่ใช่ผมสักนิด ผมก็แค่โปรยสะเก็ดไฟแค่นิดเดียวเอง”
ฮิมชานใช้มือของตนเองกุมขมับทันทีที่รู้ถึงกรรมวิธีการฆ่าสายพันธุ์ที่เป็นศัตรูกันอย่างคราสสิค จริงอยู่ที่ไรแคนท์จะมีความรวดเร็วและปราดเปรียวสูง แต่ก็ไม่มากเท่าแวมไพร์ แวมไพร์ความเคลื่อนไหวอาจจะไม่เร็วเท่าไลแคนท์นักแต่จงอย่าลืมว่าพวกเขามีความสามารถเหนือกว่าไลแคนท์แทบจะทุกอย่าง
“เอิ่ม....ขอโทษฮะท่านบาทหลวง”
เสียงของผู้มาใหม่ทำให้ประโยคสนทนาของบาทหลวงและเด็กตัวสูงที่กำลังคุยกันอย่างอกรสออกชาติหยุดลงไปชั่วขณะ ก่อนจะหันไปทางต้นเสียงที่อยู่ตรงประตูบานใหญ่ของวิหารบูคาเรสต์ เผยให้เห็นชายหนุ่มตัวเล็กที่หน้าตาจิ้มลิ้มดวงตาสีอัลเซลนัด ปากสีชมพูระเรื่อที่มองยังไงก็เป็นคนที่สุขภาพดี ที่กำลังเดินตรงมายังแท่นบูชาที่ตัวแทนของพระเยซูคริสกำลังยืนสนทนากับคนร่างสูง ในมือก็ถือคัมภีร์เล่มโตติดตัวมาด้วย
“ผมเอาพระคัมภีย์มาคืนน่ะฮะ” คนตัวเล็กยื่นคำภีย์ให้กับผู้ดูแลวิหารแล้วยิ้มจนตาหยี เชกเช่นเดียวกับฮิมชานที่ยื่นมือรับคัมภีย์เอาไว้และจึงยิ้มตอบ
“อ่านจบแล้วหรอ?”
“เล่มมันหนาเกินไปน่ะฮะ ผมอ่านไม่จบหรอกแหะๆ”
“อ่อ”
“อ่า..แล้วก็นี่ฮะบาทหลวง Plasma fruit ที่ให้ผมช่วยหาให้” คนหน้าสวยยื่นผลไม้สีแดงที่คล้ายลูกแอปเปิ้ลให้กับฮิมชานอีกครั้ง ด่อนจะอธิบายสรรพคุณตามที่คนสั่งต้องการ
“ไอ้เจ้าผลไม้คล้ายๆแอปเปิ้ลแต่ข้างในเหมือนกับเสาวรสที่ท่านบาทหลวงถามถึงมันชื่อว่า Plasma fruit น่ะฮะ มันชอบขึ้นตามสุสาน ผู้คนที่เห็นต้นไม้พวกนี้แถวๆนั้นก็ไม่ค่อยเข้าใกล้หรอก ส่วนรสชาติผมว่ามันค่อนข้างห่วยแตกนะ” น้ำเสียงเจื้อยแจ้วของคนตัวเล็กที่อธิบายผลไม้สีเลือดที่ตนเองก็ไม่ค่อยรู้เพราะไม่อยากจะศึกษาบอกไปเรื่อยๆจนลืมว่าในที่นี้มันไม่ได้มีแค่เจ้าตัวเล็กกับบาทหลวงแค่สองคน ผิดกับอีกฝ่ายที่กลับมองคนชั่งพูดอย่างไม่กระพริบตาบวกกลับสายตาที่เรียบเฉย
ชานยอลไม่ชอบรอยยิ้มนั้น......
“อ่า..ผมว่า ผมต้องกลับก่อนแล้วล่ะ เพราะที่คลินิกยังมีคนไข้รอทำแผลอยู่น่ะฮะ” คุณหมอตัวเล็กที่แอบเผลอไปเห็นสีหน้าและสายตาของคนร่างสูงเข้า จึงต้องรีบหลบสายตาและขอตัวกลับก่อน ผู้เป็นบาทหลวงจึงได้แต่พยักหน้ารับรู้เท่านั้น
“ขอให้พระผู้เป็นเจ้าคุ้มครอง...คุณหมอเบคยอน”
“อย่ามาหวงไม่เข้าเรื่อง ชานยอล อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าในสมองนายกำลังคิดอะไรอยู่”
“.........”
“รู้ว่าเกลียดรอยยิ้มแบบนั้น แล้วนายทำอะไรได้”
“.......”
“คุณหมอตัวน้อยคนนั้นเขาจำอะไรไม่ได้แล้วชานยอล ความทรงจำในระยะเวลานั้นมันหายไป”
“ผมจะเอาความจำกลับมา” รอยยิ้มเย็นๆถูกแสดงออกมายังใบหน้าคมของร่างสูง จนบทหลวงจอมปลอมอย่างฮิมชานยังต้องถอนหายใจออกมาแรงๆ เพราะนิสัยที่ดื้อรั้นและตลกร้ายของปาร์คชานยอล
“มนุษย์หนอมนุษย์ ชอบรื้อฟื้นอะไรเก่าๆขึ้นมาให้มันเจ็บปวด”
“แต่ข้าหาใช่เป็นมนุษย์ไม่ เฉกเช่นเดียวกับท่าน คิมฮิมชาน”
“เห้อ...เอาเถอะท่านบุรุษที่ได้มาซึ่งความอมตะ ข้าไม่คิดจักเสวนาเรื่องเลือดเนื้อ หรืออดีตอะไรกับท่านแล้วล่ะ เพราะตัวข้ากำลังอยู่ในหน้าที่บาทหลวง....ที่เป็นตัวแทนของพระผู้เป็นเจ้า ที่...เอิ่ม...ต้องคอยอบรมสั่งสอนให้มนุษย์และสัตว์โลกเป็นคนดี” บาทหลวงผู้จาอ้อมแอ้มพร้อมกับเปรยสายตาไปยังไม้กางเขนที่ตั้งตระหง่านอยู่ข้างหลังแท่นบูชาขนาดใหญ่ สร้างรอยยิ้มให้กับชานยอลไม่มากก็น้อย บาทหลวงผู้นี้กระทำความผิดครั้งใหญ่ที่บังเอิญไปปลดตำแหน่งบาทหลวงคนเก่าแล้วตนเองก็สวมรอยเป็นซะเอง ตระกูลของพวกเขา เป็นพวกเลือดบริสุทธิ์ พวกเขาไม่กลัวไม้กางเขน เนื้อตัวแตะต้องกับแสงแดดได้ จึงไม่ต้องแปลกใจนักหรอกที่ทำไมผู้นำเผ่าพันธุ์อัมตะอย่างฮิมชานถึงได้มาเริงร่าอยู่ในวิหารแห่งนี้ได้
“ว่าแต่ ท่านบอกว่าเจ้านั่นเป็นหมอ?” ชานยอลถามข้อสงสัยที่เกี่ยวกับคนที่จากไปเมื่อสักครู่ จนเหมือนผู้คุมวิหารจะเริ่มรำคาญกับสำนวนที่ห่างเหิน
“โอ๊ย! เลิกพูดจาสำนวนโวหารเถอะ ลำบากลิ้นและการกลั่นกรอง เมื่อกี้ถามว่าอะไรนะ เบคยอนนะหรอ?”
“....” ชาลยอนพยักหน้าตอบแทนคำพูด
“ใช่เป็นคุณหมอ หน้าสวย รักษาผู้คนในเมืองนี้น่ะ โดยเฉพาะพวกฮันเตอร์ รู้แล้วยังจะถาม”
“ถามเอาไว้ ทบทวนความจำ...ไม่เหมือนเจ้านั่นที่ชอบลืม”
“ลืม?”
“พยอนเบคยอนชอบลืม ชอบทำเป็นลืม”
“พยอนเบคยอนชอบลืมว่า ตนเองนั้นเป็นของใคร” รอยยิ้มสดใสปรากฏบนใบหน้าของชานยอลอีกครั้งเมื่อนึกถึงหน้าคุณหมอที่เขาเรียกชื่อบ่อยๆ ผิดกับญาติผู้พี่ที่ทำหน้าปลงตก
เพราะภายใต้รอยยิ้มที่เหมือนกับคนอารมณ์ดีตลอดเวลา การพูดจาที่บ่งบอกว่าเป็นคนที่สุภาพรวมถึงแสดงความเป็น ‘สุภาพบุรุษ’
แววตาขี้เล่นในบางครั้งจนใครๆอาจจะเผลอหลงใหลไปกับแววตาและรอยยิ้มเหล่านั้น.....
แต่ใครจะไปรู้ว่า ลึกๆลงไปแล้ว....
มันตรงกันข้ามทุกอย่าง.......เพราะสิ่งเบื้องหน้าที่เห็นๆกัน
มันคือฉากๆหนึ่ง ที่สร้างเอาไว้เผื่อให้เหยื่อของเขาตายใจ......
แท้จริงแล้ว หมอนั่นเหมือนกับความมืด ดวงตาเย็นชาเหมือนกับศพที่นอนอยู่โลง รอวันที่จะฝังลงดิน
หัวใจของนั่นเหมือนทำมาจากเงินเย็น เหมือนกับประบอกปืนที่มักจะสถิตอยู่ในอุ้งมือหนา
เขาเหมือนกับคนโรคจิต ที่งานอดิเรกคือมองดูเหยื่อของตนเองถูกทำลายด้วยน้ำมือของตนเองเมื่อมีใครรับรู้ถึงเบื้องหลังของเขา
และที่สำคัญกว่านั้น...
หัวใจของปาร์คชานยอลหยุดเต้นไปนานแล้ว
TBC...
เล็กจะบอกว่า:: อีกไม่กี้วันเน็ตหอจะหมดชั่วโมงในอีกไม่ช้า เราอาจจะไม่ได้อัพยาว ชานยอลมันออกมาแล้ว!!! ใครเมนชานยอล ขอโทษด้วยที่ทำกับเอ๋อแบบนั้น ทั้งๆที่มันก็เป็นหนึ่งในเมนหลักของเล็กเช่นกัน #ห๊ะ เล็กสนับสนุนให้เมนตัวเองหล่อเลวกันทุกคน #ห๊ะ เล็กว่าเราอาจจะไม่หวังในคอมเม้นเย๊อะๆแล้วนะ เพียงแค่ กระจายโทรโข่งบอกกล่าวกันให้มาอ่าน มาเสพของเล็กบ้างนะคะ เม้นบ้างอะไรบ้าง#ห๊ะ เรทมันจะเพิ่มขึ้นตามความเถื่อนของฟิค - -*
อีกเรื่องหนึ่งที่อยากให้อ่านก่อน ไม่งั้นอาจจะไม่รู้เรื่อง จริงๆนะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เห็นด้วยกะไรท์
แล้วแบคทำผิดอะไรไม่ทราบถึงคิดแค้ากันล่ะชาน
น้องแบคเป็นหมอ!!!!!!!!!! *0*
ฮิมชานไปเป็นบาทหลวงทำเพื่อ?
แกไปกัดคอบาทหลวงคนเก่าเร๊าะ!? -0-
แล้วอิหยอยนี่... เกลียดรอยยิ้มน้องแบคตะไม?
มองขนาดนั้นจะกินน้องแบคเหรอคะ?
น้องแบคเคยรู้จักกับชานยอล?
เออ... แลดูจะมากกว่ารู้จักด้วยแฮะ
แล้วทำไมความทรงจำหายไปวะ?
หะ...? อิหยอยมีหวงน้องแบคด้วย?
แล้ว... อิน้องแบคมันไปเป็นของแกตั้งแต่เมื่อไหร่วะหยอย? -*-
ชอบที่คนเขียนบอกว่า *สนับสนุนให้เมนตัวเองหล่อเลวทุกคน*
แพ้เลยยยยยยยยยย คำนี้
โอ้ ทำไมหลอนเยี่ยงนี้ แต่ก็สนุกมากๆค่ะไรเตอร์ นี่แค่เริ่มแรกๆนะเนี่ย เป็นกำลังใจให้นะคะ
ออกดาร์กๆ ก้ากชอบชอบ เห็นน้องยอลเอ๋อๆมานานละ ฮุฮุๆ
เข้าเรื่อง โอ้ยมันเกิดอะไรกันนะเนี่ย สงสารเเบคให้ตายเถอะ T_____T #กัดลิ้นตัวเอง #เพื่อ? = ='
ยังไงก็เถอะ เรื่องที่เเบคไม่อยากจำเเบบนั้นนะ มันต้องเลวร้ายชั่่วช้าต่ำทรามมาก - -?
กี๊สไอหยอยแกทำไรหมาน้อย เดี๊ยวเเม่งจับกด !!
ชานนจะะทำอะร้ายยยย
>< !!!
????????????????
บอกเลยไม่ชบฟิคแนวนี้นะ แต่ไรเตอร์แต่งคือแบบ ><
#ยอม
แบคน้อยของฉ้านจะแย่มั้ยเนี่ย - -
555555555555555 อันที่จริงนิคว่าที่หัวใจยอล
หยุดเต้นไปนานแล้ว เพราะจริงๆแล้วหัวใจยอล
อยู่ที่นิคเองแหละพี่เล็ก อิ้อิ้ -/- (เจอถีบ 555555)
ชอบฮิมชาน -///- (ปล. ยังจำหน้า B.A.P ได้ไม่หมดเลย แต่ชอบบทของฮิมชานจัง)