คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : Marry me? : 15 (100%)
Marry me?
15
Kris's part
ผมเดินกลับเข้ามาในบ้านด้วยความหัวเสีย ไอ้เด็กนั่นมันแสบกว่าที่คิดเยอะนะ อย่าให้รู้ว่าไอ้คนผิวดำนั่นเป็นใคร พ่อจะจัดให้สักดอก เหอะ!
ปัง
ผมเดินเข้ามาในห้องนอนก็เห็นชานยอลนั่งเล่นไอแพดตัวเดิมอยู่บนเตียง นี่อย่าให้เห็นหน้าได้มั้ยเนี่ย โมโหครับโมโห
“แหม มีความสุขกับแม่นั่นเหลือเกินนะ” ..นี่ขนาดผมยังไม่ได้ก้าวเข้ามาในห้องได้เต็มตัวเลยนะ...จะมากไปแล้วนะโว้ย
“มีความสุขกับคนดำเหลือเกินนะ รสนิยมแบบนี้ก็ไม่บอก เหอะ”
“กลับดึกนะ ไปส่งแม่นั่นมาล่ะสิ” ชานยอลยังไม่ละสายตาจากเกมที่มันเล่นอยู่
“แหม รู้ดีนิ พรุ่งนี้ว่าจะไปกินข้าวเย็นที่บ้านคริสตัลด้วยนะ” ผมเดินเข้าไปนั่งใกล้ชานยอลก่อนจะดึงไอแพดออกมาจากมือหมอนั่น
“ดี ฉันจะได้ไปกินข้าวกับกิ๊กฉันบ้าง เหอะ” ชานยอลหันหน้ากลับมาจ้องผมพร้อมกับยักคิ้วให้หนึ่งที เหอะ คิดว่าจะหึงหรอ
“เป็นภรรยาทำไมทำกับสามีแบบนี้ ไม่รู้หรอเดี๋ยวคนอื่นจะมองว่ามันไม่ดีน่ะ” ผมค่อยๆโน้มหน้าเข้าไปใกล้อีกฝ่าย
“ฉันว่านายจะโดนคนอื่นตอกหน้าก่อนฉันมั้ง” ชานยอลค่อยๆถอยออกห่างก่อนที่จะโดนผมบังคับให้ลงไปนอนบนเตียง หึ
“หรอ ฉันว่าไม่นะ”
“นายรู้จักฉันน้อยนะ ขนาดเพื่อนฉันนายยังไม่รู้เลย หาว่าเป็นกิ๊กเนี่ยนะ นายมันบ้า ตาถั่วรึไง รสนิยมฉันน่ะต้องหล่อกว่านาย รวยกว่านาย แล้วก็ไม่เลี้ยงหมาไว้ในปากแบบนาย คึ” ชานยอลดึงผมมาใกล้ๆก่อนจะกระซิบประโยคเมื่อกี้ เดี๋ยวนี้กล้าหรอ..
“ปาร์ค ชานยอล กรุณาเก็บหมาในปากดีๆด้วยครับ”
“นายว่าไงนะ! นี่มันจะแรงไปแล้วนะโว้ยยย” ชานยอลผลักผมออกมาพร้อมกับเอาหมอนฟาด คึ แกล้งเจ้านี่สนุกชะมัด
“ฉันว่านายได้ยินชัดแล้วนะ หึ” ยักคิ้วให้หนึ่งทีเพื่อความหล่อ -..- หน้าหมอนั่นตอนโมโหนี่น่าถ่ายรูปเก็บไว้นะเนี่ย ฮ่าๆๆๆๆๆ
“นายมันแย่ งานการไม่ทำออกมาเดทกับผู้หญิงมันใช้ได้ที่ไหน!”
“ทำไม หึงอ่ะดิ”
“ปะ.. เปล่า ใครหึงนาย ไม่มีโว้ย”
“แล้วทำไมต้องมาป้อนข้าวป้อนน้ำต่อหน้าฉันด้วยล่ะ”
“หึ ใครเริ่มก่อนละ” ชานยอลลุกจากเตียงเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าก่อนจะหยิบเสื้อคู่ที่ซื้อที่ฮ่องกงออกมา
“หยิบออกมาทำไม?” ...นี่มันจะทำอะไรครับ อย่าบอกนะว่า...
“พรุ่งนี้ใส่ตัวนี้กัน แล้วก็พรุ่งนี้มารับที่บริษัทด้วยนะครับที่รัก จุ๊บ” ว่าจบก็หอมแก้มหนึ่งทีแล้วเดินหน้าระรื่นขึ้นเตียงไป...อะไรกันเนี่ย =___=
.....
...
หลังจากที่ผมอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ออกมาจากห้องน้ำก็เห็นว่าชานยอลหลับไปแล้วล่ะครับ
“วันนี้นายชนะฉันสองรอบแล้วนะ เมื่อไหร่ฉันจะชนะนายบ้างเนี่ย” ผมเดินไปปิดไฟที่หัวเตียงให้ตามปกติก่อนจะละสายตาออกไปข้างนอกระเบียง ..วันนี้ดาวสวยดีนะครับ ออกไปสูดอากาศหน่อยดีกว่า
“แหม มีความสุขกับแม่นั่นเหลือเกินนะ”
....ฉันใช้แม่นั่นเป็นสะพานที่จะได้เถียงกับนายต่างหาก
“กลับดึกนะ ไปส่งแม่นั่นมาล่ะสิ”
...ไปส่งบ้าอะไรล่ะ พรุ่งนี้ก็ไม่ได้กินข้าวด้วย แค่พูดไปเล่นๆ
“นายรู้จักฉันน้อยนะ ขนาดเพื่อนฉันนายยังไม่รู้เลย หาว่าเป็นกิ๊กเนี่ยนะ นายมันบ้า ตาถั่วรึไง รสนิยมฉันน่ะต้องหล่อกว่านาย รวยกว่านาย แล้วก็ไม่เลี้ยงหมาไว้ในปากแบบนาย คึ”
...ก็แปลกนะ อยู่ด้วยกันทุกวันทำไมนายไม่เล่าเรื่องเพื่อนนายให้ฉันฟังบ้างล่ะ?
“เฮ้อออออออออออออออออออ” ผมถอนหายใจยาวออกมา ทำไมสมองมันคิดแต่เรื่องพวกนี้ โอ้ยยย มองดาวไปก็ไม่ช่วยอะไร ชานยอลอยู่ใกล้กว่าดาวเยอะทำไมรู้สึกว่าหมอนั่นมันอยู่ไกลจัง
ต่อไปนี้ฉันก็คงแพ้นายตลอดแหละไอ้เด็กหูกาง
38%
“คริส พ่อมีอะไรจะให้นายช่วย” คนเป็นพ่อเดินมาที่โต๊ะทำงานของลูกชายตัวเองก่อนจะนั่งลงตรงข้ามกับคนเป็นลูก
“ครับ?”
“ช่วยทำโบชัวร์บริษัทเราให้หน่อยสิ ตอนนี้งานแกไม่เยอะมากใช่มั้ย”
“ครับ เดี๋ยวจะทำให้นะ พ่อเอากาแฟมั้ย เดี๋ยวผมให้คริสตัลไปทำให้”
“ก็ดีนะ พ่อว่าจะคุยกับแกต่อสักหน่อย”
“สักครู่นะครับ” ว่าจบร่างสูงก็ยกหูโทรศัพท์ขึ้น
“ตัล เอากาแฟมาให้พ่อพี่หน่อย” จบประโยคคริสก็วางหูโทรศัพท์กลับที่เดิม
“วันนี้เสื้อสวยดีนี่ แหม ชานยอลนี่ช่างเลือกจริงๆเล้ยยย”
“..นี่พ่อรู้ได้ไงว่าไอ้ยอล เอ้ย ชานยอลมันเลือก”
“ก็เมื่อเช้าพ่อเห็นชานยอลใส่เสื้อตัวนี้ออกไปทำงานเหมือนกัน แหม เข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ยขนาดนี้ค่อยสบายใจหน่อย ฮ่าๆๆๆ”
“อะไรของพ่อเนี่ย ไร้สาระน่า แค่นี้ยังเอาภาระมาให้ผมไม่พอรึไง”
“ลูกชายพ่อนี่ปากแข็งเหมือนแม่เลยนะเนี่ย~”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ขออนุญาตค่ะ” คริสตัลเดินเข้ามาพร้อมกับแก้วกาแฟก่อนจะมาวางที่โต๊ะของสองพ่อลูก
“ขอบใจมากนะ มีเลขาฯน่ารักๆแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ฮ่าๆๆๆ” ชายวัยกลางคนหัวเราะออกมาก่อนจะยกแก้วกาแฟขึ้นจิบอย่างสบายใจ
“แหม ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ ขอตัวนะคะ” คริสตัลยิ้มให้อีกฝ่ายก่อนจะปลีกตัวออกไป
“จะว่าไปนะ ผมให้ชานยอลมาออกแบบโบชัวร์ดีมั้ยครับ?” คริสเอ่ยถามคนเป็นพ่อหลังจากที่สังเกตเรียบร้อยว่าคริสตัลออกไปจากรัสมีห้องแล้ว
“เออดีๆ นี่แกก็ฉลาดกับเขาเหมือนกันหรอเนี่ย”
“พ่อพูดแบบนี้ไม่ไว้ใจลูกชายหรอครับ”
“เปล่าหรอกกก พ่อพูดเล่นน่ะ เห็นแกแบบนี้ก็ดี ค่อยน่าเปลี่ยนพินัยกรรมหน่อย”
“หา?”
“ช่างมันเถอะ พ่อมีอะไรจะถาม” คนเป็นพ่อดื่มกาแฟอีกอึกก่อนจะวางแก้วกาแฟลง
“ครับ?”
“สำหรับแก ชานยอลเป็นปัญหากับแกรึเปล่า”
ร่างสูงหยุดไปกับคำถามที่ไม่คิดว่าจะออกมาจากปากของคนเป็นพ่อ
“ถามทำไมล่ะครับ?”
“ถ้าแกไม่สบายใจ ก็หย่าได้นะ หลังจากที่กลับมาจากฮ่องกงแกน่าจะรู้ใจตัวเองมากขึ้น”
“...”
“บางทีพ่อก็ไม่อยากเห็นลูกตัวเองต้องอยู่กับคนที่ไม่ได้รักจริงๆอะนะ”
“ผมว่าพ่อเลือกถูกคนแล้วล่ะ”
“หืม?”
“ชานยอล...”
“?”
“เป็นคนสำคัญของผมครับ”
.....
....
....
ด้านนอกห้อง
“ชานยอล? คนสำคัญ? หึ ใครกันนะ อยากรู้จักจริงๆ” คริสตัลแสยะยิ้มออกมาก่อนจะเดินออกจากบริเวณหน้าห้อง
Chanyeol's part
ตอนนี้ผมกำลังตัดต่องานโฆษณาอยู่ครับ มีความสุขกับงานตัวเองจริงๆเล้ยยยย ไม่คิดว่าวันนี้จะมาถึงเร็วขนาดนี้นะครับ ว่าจะส่งเงินเดือนเดือนแรกจะส่งกลับไปให้แม่ด้วย เหมือนไปทิ้งชีวิตเก่าที่ฮ่องกงจริงๆ
“เฮ้ยไอ้ยอล ว่างๆก็กลับมาเยี่ยมพวกกูที่คอนโดบ้างก็ได้นะ” ไคถอดหูฟังออกแล้วเลื่อนเก้าอี้มาข้างๆผม
“อื้อ ไว้ว่างๆกูจะไปนะ เมื่อวานทำดีมากเพื่อน คริสคิดว่าเป็นกิ๊กกันจริงๆ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ” ผมอยากจะด่าไอ้บ้านั่นมาก นี่มันโง่หรือมันไม่รู้จริงๆเนี่ยยย
“กูเก่งอยู่ละ เออใช่ๆ ไอ้แบคไม่ค่อยติดต่อมาเลยว่ะ สงสัยจะงานยุ่ง”
“แล้วไอ้ฮุนละ?” จะว่าไปหลังจากที่รู้ว่าเซฮุนกำลังคบอยู่กับพี่หน้าหวานนั่นผมก็ยังไม่ได้เจอหน้ามันเลยนะเนี่ย
“ช่วงนี้ทำงาน บางวันก็เดทกับแฟนต่อ กลับดึกทุกวันเลย สรุปนะ ดีโอก็เฝ้าห้องเหมือนเดิม เออมึงไปคอนโดกูวันนี้เลยมะ” ไคว่าพลางหยิบแก้วกาแฟขึ้นดื่ม
“เออได้ๆๆ เย็นนี้กูว่างพอดี” ...แต่เอ๊ะ รู้สึกเหมือนจะไม่ว่าง..แต่มันนึกไม่ออกแฮะ
“ดีเลยมึงงงงงง กูคิดถึงมึงม๊ากกกกกมากกกกกกกคุณนายอู๋ ฮ่าๆๆๆ”
“เมื่อกี้มึงพูดว่าอะไรนะ!” ได้ยินแล้วมันคันไม้คันมืออยากจะฟาดไอ้หมอนี่จริงๆเล้ยยยย!
“เปล๊า เออ วันนี้เสื้อสวยดีนะ วันหลังแบ่งกูใส่บ้าง” ไคยักคิ้วให้ผมตามประสาก่อนจะเลื่อนเก้าอี้กลับไปที่โต๊ะทำงานของตัวเอง
ใครจะให้ใส่ นี่มันเสื้อคู่กับคริสนะ มึงจะเอาไปใส่ได้ยังไง เชอะ ...ก็ได้แต่พูดในใจอ่ะนะ เอ๊ะ เสื้อคู่แล้วทำไมต้องหวงด้วยเนี่ย ชานยอลลลลลลล เป็นอะไรอีกแล้วเนี่ย ...
.....ผมนึกอะไรได้.... ผมบอกคริสไว้นี่ว่าวันนี้ให้มารับ ! โอ้ยยยยย อดไปหาเพื่อนอีกแล้วครับ T^T
“ไอ้ไค วันนี้กูไปไม่ได้ว่ะ” ผมหันไปบอกไคทันทีที่นึกได้
“ทำไมวะมึงงงงงงง” ไคหันหน้ามาทำหน้าเป็นหมาหงอยใส่ผม แง รู้สึกผิดจังT_T
“กูต้อง...”
ครืดด ครืดดด
ขอบคุณโทรศัพท์ที่ช่วยชีวิตผม T^T ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเลื่อนสไลด์หน้าจอตามสเต็ป
“ฮัลโหล”
(ที่รักครับ เย็นนี้มาที่บริษัทหน่อย) ..เสียงปลายสายมันคริสนี่!! นี่ผมรีบรับโทรศัพท์จนลืมดูว่าใครโทรมาหรอเนี่ยยยย
“...ห๊ะ หาาาา” มันต้องมารับผมไม่ใช่เรอะ!
(ตกใจอะไร ไม่ได้เรียกไปโรงแรมสักหน่อย)
“อ่ะ โอเคๆ ให้ไปกี่โมงล่ะ” ประโยคนี้ผมตั้งใจพูดให้ไคมันได้ยินนะ กลัวมันจะหาว่าติดแฟนมากกว่าเพื่อน แงงงงงง
(4โมงได้มั้ย)
“ได้ครับ แค่นี้นะ”
ปิ๊บ
“เฮ้ออออออออออ ตลอดอ่ะมึงงงงงง ตารางเยอะดีนะ” ไคถอนหายใจออกมาก่อนจะหยิบโทรศัพท์จากมือผมไปด้วยความเร็วแสง นี่มันจะทำอะไรของมันเนี่ยยยย
“มึงจะทำอะไรอ่ะ กูขอโทษนะ T^T”
“ที่แท้ก็แฟนโทรมา เช้อออออออ ว่างๆก็เอามากินข้าวบ้างนะ”
“เอา? เดี๋ยวๆ นี่มึงเห็นคริสเป็นสิ่งของรึไง”
“เดี๋ยวนี้เป็นพวกเดียวกันแล้วหรอ ใครวะที่พูดว่า ถ้าแต่งกับคนอื่นจะไม่บ่นสักคำเลยนะ ” ไคว่าพลางเลียนเสียงตาม ..นั่นมันประโยคที่ผมพูดไว้นี่! เออใช่ ไอ้คริสมันก็สมควรเป็นสิ่งของอยู่แล้วนี่ -_-
“ไม่ๆๆๆ กูไม่ได้หมายความแบบนั้นนน”
“มึงจะโกหกตัวเองไปถึงไหนเนี่ยยยยย”
“ห๊ะ กูหรอ?”
“มึงกล้าไปจดทะเบียนหย่าตอนนี้มั้ยล่ะ ถ้ามึงทำได้กูจะเชื่อว่ามึงไม่ได้ชอบเค้า” ไคยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วมองมาที่ผม โอ้ยยย อะไรของมันเนี่ย ทะเบียนหย่าอะไรไม่เห็นจะรู้เรื่องงง T///T
“...”
“ยอมรับแล้วใช่มะ” ไคเลื่อนเก้าอี้มาข้างๆผมที่กำลังเบะปากใส่มัน
“มะ..”
“โอเคยอมรับแล้ว” ไคยิ้มหน้าบานใส่ผมอีกครั้ง โอ้ยยย อะไรของมันเนี่ยยยยยย
“ตอนนี้ถึงเวลาที่มึงจะมาปรึกษาเรื่องหัวใจกับอาจารย์จงอินผู้ปราดเปรื่องเรื่องความรัก”
“อะไรของมึงเนี่ย”
“มึงชอบคริสแล้วคริสก็ชอบมึง ทุกอย่างลงตัว แต่งงานกันเรียบร้อย แฮปปี้เอนดิ้ง” ไคพูดออกมาเป็นสเต็ปๆแล้วพยักหน้าไปด้วย
“มึงรู้ได้ไงว่าคริสมันชอบ...เอ่อ นั่นแหละ”
“ก็บอกแล้วไง กูเป็นอาจารย์ผู้ปราดเปรื่องเรื่องความรัก”
“อย่ามาตลก”
“เฮ้อ กูเห็นหมดทุกอย่างตั้งแต่เมื่อวานที่พวกมึงแกล้งให้หึงกันละ”
“...”
“ให้หมามาดูยังรู้เลยว่าพวกมึงแอบรู้สึกดีต่อกัน โว๊ะ”
“นี่มึง ..!” เปรียบเทียบได้เห็นภาพเกินไปมั้ยยยยย
“กูพูดจริง กูยังอิจฉาเลย”
“แต่อยู่แบบนี้มันก็ดีอยู่แล้ว ถ้าคริสไม่พูดกูก็ไม่พูดอ่ะ อืม..แต่บางทีกูอาจจะคิดไปเองคนเดียวก็ได้”
“ไม่หรอก เชื่อกูสิ มึงลองถอยออกมาสักก้าวนึง แล้วมึงจะเห็นว่าวันแรกที่มึงไปอยู่ในบ้านหลังนั้น กับวันนี้ มันไม่เหมือนกันเว่ย” จบประโยคไคก็ตบบ่าผมแล้วหันกลับไปตัดต่องานของตัวเองต่อ
......สุดท้ายผมก็ยอมรับจนได้สินะ เฮ้อออออ คนเรามันโกหกตัวเองได้ไม่นานเลยจริงๆ
TBC.
ความคิดเห็น