ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO FIC] Marry me? รักผมก็บอก [KrisYeol]

    ลำดับตอนที่ #18 : Marry Me? : 16

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.41K
      10
      20 ม.ค. 57







     

      Marry me?
     

    16










     

    ร่างโปร่งหยุดอยู่หน้าตึกออฟฟิศของคุณสามีผู้หล่อเหลา เวลาตอนนี้คือ 4 โมงเย็น 

    ชานยอลหยิบโทรศัพท์ขึ้นต่อสายหาคนที่ใช้ให้เขาต้องถ่อมาถึงที่นี่

    (ครับที่รัก) 

     

    “ออฟฟิศนายอยู่ชั้นไหนเนี่ย ฉันอยู่หน้าตึกแล้ว” 

     

    (ชั้น 11 ให้ลงไปรับมั้ย) 

     

    “ไม่ต้อง ขึ้นไปเองได้” ชานยอลว่าพลางก้าวเข้าไปในตึกพร้อมกับกวาดสายตามองหาลิฟท์ 

     

    (ปากเก่งดีนัก ขอให้หลงทาง) 

     

    “อย่ามาพูดมากได้มั้ย ไม่ลงมารับก็วางหูไปอยู่กับยัยเลขานั่นไปปปป” 

     

    (เดี๋ยวก็เจอเลขาฉันละ)

     

    “เจอแล้วจะทำไม” 

     

    (ก็จะได้บอกให้รู้ไงว่านี่เมียฉัน)

     

    “ฉันเป็นเมียนายตอนไหนไอ่บ้าาาา”

     

    (อย่าลืมว่าวันนี้เราใส่เสื้อคู่กันนะ หึ)

     

    “แล้วนี่จะคุยจนฉันขึ้นไปถึงห้องทำงานนายเลยใช่มั้ย เปลืองค่าโทรศัพท์ฉันโว้ยยย” ร่างโปร่งมาหยุดที่หน้าลิฟท์ 

     

    “แล้วรู้เหรอว่าฉันอยู่ห้องไหน” 

     

    “เดี๋ยวก็หาเจ...เฮ้ย!” ชานยอลหันไปตามเสียงเมื่อรู้สึกว่ามันไม่ใช่เสียงที่มาจากโทรศัพท์

     

    “ตกใจอะไร วันนี้ฉันหล่อกว่าปกติรึไง” คริสที่ยืนกอดอกอยู่เดินมาหยุดตรงหน้าพร้อมกับยักคิ้วให้อีกคนหนึ่งทีด้วยสีหน้าเยาะเย้ย 

     

    “ใครใช้ให้นายลงมาเนี่ย”

     

    “ไม่รู้ ขามันมาเอง” จบประโยคร่างสูงก็แลบลิ้นใส่อีกคน

     

    “-////-”  

     

    “จะยืนเขินอีกนานมั้ย”

     

    “ใครเขิน ไม่มีโว้ย”

     

    ติ๊ง~ ลิฟท์ถูกเปิดออกก่อนที่ชานยอลจะก้าวเข้าไปในลิฟท์ด้วยความรวดเร็ว 

     

    “ใครบอกนายว่าใช้ลิฟท์ฝั่งนี้” 

     

    “นายว่าไงนะ?” คนที่อยู่ในลิฟท์ทำหน้างงใส่อีกคน

     

    “เฉิ่มจริง” คริสส่ายหน้าก่อนจะลากชานยอลออกมาจากลิฟท์

     

    “นายไม่บอกฉันจะรู้มั้ยเนี่ย” ชานยอลปลิวออกมาตามแรงอีกคนก่อนจะโดนลากไปตามทางต่อ

     

    “นายเงียบๆหน่อยได้มั้ย ถึงตรงนี้จะไม่มีคนก็เถอะ” คริสว่าพลางโอบไหล่ชานยอล

     

    “แล้วนายคิดว่าไม่มีคนแล้วจะทำอะไรตามใจแบบนี้ได้รึไง เอามือออกไปเลย -//-”

     

    “ไม่ (:” ร่างสูงหันไปกระซิบที่หูอีกคน

     

    “นี่วันนี้นายไปกินอะไรมาเนี่ย เอามือออกไปปปปปป”  

     

    “ก็กินข้าวต้มที่นายทำเมื่อเช้านั่นแหละ” ร่างสูงตอบกลับก่อนที่ทั้งสองคนจะมาหยุดที่หน้าลิฟท์

     

    “อร่อยล่ะสิ ฝีมือระดับนี้” 

     

    “ไม่เลย” 

     

    ติ๊ง~

    “นายมันแย่ คนเขาอุตส่าห์มีน้ำใจทำให้กินแล้วมาตอบแทนแบบนี้เนี่ยนะ แล้วนี่เมื่อไหร่จะเอามือออกไปเนี่ย” ชานยอลเอ่ยเมื่อทั้งสองคนเดินเข้ามาในลิฟท์แล้ว

     

    “จนถึงห้อง ”

     

    “ฉันเดินเองได้โว้ยยย”

     

    “บอกว่าไม่ก็ไม่ไง ที่รักทำไมดื้อจัง :P”



     

    ครืดดครืดดด
     

    เสียงสั่นของโทรศัพท์ทำให้บทสนทนาหยุดไปก่อนที่คริสจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาสไลด์หน้าจอ
     

         “ครับ”

     

         (พี่คริส ไม่ได้อยู่ในห้องหรอ)

     

         “กำลังขึ้นไป มีอะไรรึเปล่า” 

     

         (อ๋อค่ะ เดี๋ยวตัลค่อยเอาเอกสารไปให้นะคะ)

     

         “วางไว้ที่โต๊ะพี่ก็ได้ เย็นแล้วตัลรีบกลับบ้านเถอะ” คริสพูดพลางดันหลังคนข้างๆให้ออกจากลิฟท์เมื่อลิฟท์เปิด

     

          (ค่ะ) 

    ปิ๊บ

     

    “แหม ต้องรายงานกันทุกย่างก้าวเลยนะ” ยังไม่ทันที่จะกดวางหูจากโทรศัพท์คริสก็โดนชานยอลแซะอีกตามเคย

     

    “นี่นาย..!”

     

    “อ้าวพี่คริส มาพอดีเลย ตัลกำลังจะเอาเอกสารไปวางให้พอดีเลยค่ะ” คริสต้องกลืนคำพูดทั้งหมดลงคอไปเมื่อเลขาสาวยื่นเอกสารฉบับหนึ่งให้

     

    “ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่เอาเข้าไปเอง” คริสว่าพลางเลื่อนมือไปจับลูกบิดประตู มืออีกข้างก็รับเอกสารจากคริสตัล

     

    “ค่ะ พี่คริสยังไม่กลับบ้านหรอคะ เอ่อ แล้วนี่..”

     

    “อ่อ นี่ชานยอล นี่เวลาเลิกงานแล้ว ตัลกลับบ้านได้แล้วนะ”

     

    “อ้อ ค่ะ พรุ่งนี้เจอกันนะคะ~” คริสตัลยิ้มหวานให้คริสก่อนจะหันมาโค้งให้ชานยอลก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องของตนเอง

     คริสยิ้มให้เลขาตนเองก่อนจะเปิดประตูแล้วดึงชานยอลเข้าไปด้วย 

     

    “อ๋อ ค่ะ พรุ่งนี้เจอกันนะคะ ถุ้ยยยยย ทำอย่างกับเป็นคู่รัก” จบประโยคชานยอลก็หย่อนก้นลงบนโซฟาตัวนิ่ม

     

    “อิจฉาล่ะสิ” คริสว่าพลางโยนกองกระดาษลงบนโต๊ะ

     

    “เฮอะ แค่เห็นหน้าก็รู้สึกไม่ถูกชะตา” 

     

    “หึงหรอ” คริสเดินมานั่งข้างๆอีกคนพร้อมกับยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้

     

    “ต้องให้บอกอีกกี่รอบ เลิกหลงตัวเองได้แล้ว ใครหึงกัน โว๊ะ” 

     

    “หึ นายนี่ตลกดีนะ” 

     

    “เงียบเหอะน่า แล้วกระดาษนี่อะไร?” ชานยอลดึงกระดาษมาจากมืออีกคน

     

    “ฉันจะให้นายออกแบบโบชัวร์ให้ ตรงนี้เป็นด้านหน้า ตรงนี้เป็นโลโก้ แล้วก็สีตามนี้เลยนะ อ้อใช่ ถ้านายมีไอเดียที่ดีกว่านี้ก็เปลี่ยนได้นะ แล้วเดี๋ยวฉันจะเอาข้อมูลที่ต้องใส่มาให้นายทีหลัง นายต้องทำให้เสร็จภายใน....โอ๊ะ..นายจะตีแก้มฉันทำไมเนี่ย!” คริสค้อนใส่คนที่เพิ่งตีแก้มตัวเอง

     

    “นี่คุณสามีครับ ช่วยพูดทีละอย่างได้มั้ยครับบบบ”  

     

    “นายฟังไปอีก3วิฉันก็จะพูดจบประโยคแล้วเนี่ย”

     

    “โอ้ยยยยย โอเคๆ ให้เสร็จภายในวันไหน”

     

    “ก็ฟังทันนี่ แล้วมาตีฉันทำไมเนี่ย” จบประโยคคริสก็จิ้มหน้าผากอีกคนแรงๆ

     

    “ก็อยากตีมีอะไรมั้ย -*-”

     

    “นี่นายระบายความหึงด้วยวิธีแบบนี้รึไง”

     

    “ใครหึงนาย ก็ไม่มีไงโว้ยยยย” จบประโยคชานยอลก็คว้าหมอนมาตีอีกคนเต็มแรง

     

    “โอ๊ะ หึงชัดๆยังจะมาปากแข็งอีก ต้องทำยังไงกับนายเนี่ย” คริสว่าพลางพยายามดึงหมอนจากมืออีกคนมา 

     

    “นายคิดว่านายมันคาริสม่ามากรึไง เอะอะก็บอกหึงอยู่นั่น มีเลขาแล้วทำตัวแบบนี้หรอ ย๊าาา อย่านะโว้ยยย” ชานยอลโดนดึงไปพร้อมกับหมอนก่อนจะที่จะโดนรวบข้อมือไว้

     

    “อะไร? :P” 

     

    “นายอย่าทำแบบนี้นะ ._.”

     

    “ทำไม ทำไม่ได้หรอ” คริสค่อยๆเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้อีกคน 

     

    “...”

     

    “โบชัวร์ทำให้เสร็จภายในสัปดาห์หน้านะครับ” ร่างสูงก้มลงกระซิบอีกคนก่อนจะผละออกมา

     

    “...นี่นาย...ไอ้...” 

     

    “ไปกินข้าวเย็นกัน” จบประโยคร่างสูงก็ลากอีกคนออกจากห้องโดยไม่ลืมที่จะหันกลับไปปิดไฟ






     

    ......

     






     

    .....






     

    “วันนี้นายอยากกินหม้อไฟหรอ” ชานยอลที่สมองยังไม่หายเออเร่อเอ่ยขึ้นขณะมองหม้อไฟที่อยู่ตรงหน้า

     

    “ไม่ต้องถามก็ได้นะ นายก็อยากกินเหมือนกันใช่มั้ยล่ะ มือนี่คีบหมูอยู่นั่น” คริสที่กำลังยุ่งกับการต้มผักตอบกลับไป

     

    “นี่นาย แค่จะบอกว่าทำให้เสร็จภายในอาทิตย์หน้าทำไมจะต้องทำแบบ...นั้น..ด้วย..” 

     

    “อยากแกล้งนายไง :P เขินล่ะสิ”

     

    “โว๊ะ ช่างมันเถอะ” จบประโยคชานยอลก็ตักเต้าหู้ใส่ชามอีกคน

     

    “นี่ ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ชอบเต้าหู้ นี่ไม่จำใช่มั้ย” คริสเอาตะเกียบคีบผักบุ้งใส่ปากอีกคน

     

    “นายก็ไม่จำเลยใช่มั้ยว่าฉันไม่ชอบผักบุ้งอ่ะ” ชานยอลเบะปากใส่อีกคนก่อนจะเอาเต้าหู้ก้อนที่สองใส่ชามอีกคน

     

    “ทำไมจะจำไม่ได้”

     

    “แล้วทำไมยัง..!”

     

    “อะไรที่มันแกล้งนายแล้วสนุกฉันก็จำได้หมดแหละ...ตั้งแต่ตอนเด็กจนถึงตอนนี้ :P” 





     

    .......






         .......






     

    “เฮ้ยพวกมึงงง กูมีอะไรจะบอก” เซฮุนเดินกลับเข้ามาในห้องหลังจากที่ขึ้นไปส่งลู่หานตามปกติ

     

    “ว่า” ไคกับดีโอที่นั่งดูทีวีอยู่พูดออกมาพร้อมกับก่อนจะหันไปที่หน้าประตู

     

    “กูติดต่อแบคฮยอนได้แล้ววววววว”

     

    “นี่มึงทำเหมือนแบคฮยอนเป็นบุคคลสูญหาย - -”

     

    “ถึงไม่ใช่ก็ไม่ต่างอ่ะมึง มันบอกว่ายุ่งมาก แต่คืนนี้จะมาสไกป์กับพวกเราเว้ยยยยย” เซฮุนว่าพลางวิ่งถลามานั่งที่โซฟา

     

    “งานที่มันทำไม่ใช่งานปกตินิ” ดีโอเอ่ยขึ้น

     

    “หือ มึงหมายความว่าไง?” 

     

    “มันต้องไปสืบอะไรสักอย่าง ตอนไปส่งมันที่สนามบินมันบอกกู” ดีโอว่าพลางหยิบหมอนมากอด

     

    “โห ไอ้แบคนี่ ชีวิตจะโรแมนติกแอคชั่นไปละ” ไคพูดต่อ

     

    “อะไรของมึงวะ เออ แล้วชานยอลเป็นไงบ้าง กูอยากจะไปหาพวกมึงที่ออฟฟิศจริงๆเลยยยย” เซฮุนว่าพลางถอดเสื้อโค้ดตัวนอกออกไปด้วย

     

    “ก็ปากแข็งเหมือนเดิม เออนี่ วันก่อนกูไปกินข้าวกับไอ้ยอลแล้วดันไปกินร้านเดียวกับแฟนมัน แล้วมึงรู้มั้ยกูโดนอะไร” ไคเริ่มเปิดวงเม้ามอยทันที

     

    “อะไร? มึงก็ต้องนั่งกินข้าวคนเดียว? ฮ่าๆๆๆๆๆ” เซฮุนระเบิดหัวเราะออกมาพร้อมกับไฮไฟว์กับดีโอ

     

    “เข้าใจคิดมากนะมึงงงง แฟนมันมากับเลขา ... ไอ้ยอลบอกว่าเป็นเลขาอ่ะนะ หลังจากนั้นไอ้ยอลกับคริสก็หึงกันนนนน”

     

    “มากับเลขา? แล้วมึงโดนอะไรวะ”

     

    “กูก็ต้องไปเล่นเป็นกิ๊กมันให้มันหึงกันเล่นสิวะ” 

     

    “แล้วมันยังไงวะ” เซฮุนงงกับสิ่งที่เพื่อนของตัวเองพูด

     

    “นี่พวกมึงไม่ตื่นเต้นหรอว่าไอ้ยอลมันกำลังอินเลิฟอ่ะ” 

     

    “อ้อ นี่คือสิ่งที่มึงจะสื่อหรอ” 

     

    “เออ” ไคตอบกลับไปด้วยความหัวเสีย

     

    “เออ สมน้ำน่า” ดีโอตบท้ายก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป

     

         “เลขาหน้าตาเป็นไงวะ มึงถ่ายรูปมาป่ะ” เซฮุนเริ่มเปลี่ยนสีหน้าเมื่อดีโอลุกออกไปแล้ว

     

         “ถ่ายไว้ๆ” ไคว่าพลางหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดให้เซฮุนดู

     

    “เดี๋ยวนะ เลขาคนนี้ชอบมาให้กูเขียนข่าวพวกข่าว gossip อ่ะ ..นี่เป็นเลขาของอู๋กรุ๊ปหรอเนี่ย” 

     

    “หือ มึงไม่ได้เขียนข่าวบันเทิงอยู่แล้วหรอ”

     

    “ไอ้งั่ง ส่วนใหญ่กูเขียนข่าวต่างประเทศไม่ก็พวกข่าวธุรกิจโว้ย” ว่าจบเซฮุนก็ตบหัวไคไปหนึ่งที

     

    “เออ อย่าเพิ่งนอกเรื่อง แล้วทำไมเขาชอบมาให้มึงเขียนพวกข่าวบันเทิงอ่ะ”

     

    “อืมม... เหมือนเขาจะมีปัญหากับพวกดาราดังๆมั้ง แต่กูก็เขียนไปนะ เพราะอยากได้เงิน คึ”

     

    “มึงนี่แย่จริงๆ เอ๊ะเดี๋ยวนะ....”

     

    “นี่มึง แล้วเลขาคนนั้นเขาไปอยู่อู๋กรุ๊ปได้ยังไง”

     

    “อู๋กรุ๊ป? อ้อ บริษัทของสามีไอ้ยอลอ่ะนะ” ไคเพิ่งจะถึงบางอ้อ

     

    “เออสิวะ”

     

    “กูจะไปรู้มั้ยเนี่ย แต่ดูเผินๆก็ดูเป็นคนไม่มีอะไรนิ แค่ผู้หญิงคนนึง”

     

    “ยิ่งดูธรรมดายิ่งน่ากลัวนะมึงงงง ให้กูเขียนข่าวทีนึงนี่แรงอยู่”

     

    “ไอ้โง่ ไปเขียนให้เขาทำไมล่ะวะ” ไคได้ทีก็ตีหัวเซฮุนกลับ

     

    “กูไม่รู้จะปฏิเสธเขายังไงอ่ะ ตีกูทำไมเนี่ย”

     

    “เออ ที่สำคัญนะ วันที่ไปกินข้าวกูเห็นอะไรมากกว่าสองคนนั้นหึงกัน”

     

    “เอ๊ะ มึงบอกว่า”

     

    “ใช่ ผู้หญิงคนนั้นจะต้องอยากได้เงินของอู๋กรุ๊ปแน่ๆ มึงก็ระวังไว้ละกัน”





     

     

    TBC.



    มาต่อแล้วเย้ คุยกันในไลน์หรือทวิตได้น้าาาา ไรท์รับฟังความคิดเห็นของทุกคนน้`า :D

     
    BlackForest✿
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×