ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO FIC] Marry me? รักผมก็บอก [KrisYeol]

    ลำดับตอนที่ #12 : Marry Me? : 11

    • อัปเดตล่าสุด 27 ก.ย. 56















    MARRY ME?

    11



















     

    [Kris’s part]

     

         ในที่สุดเจ้าตัวยุ่งก็ยอมไปกับผมจนได้ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับว่าผมจะชวนมันทำไม ให้มันนอนอยู่โรงแรมก็ดีแล้ว แต่ผมกลัวว่ามันจะหนีกลับเกาหลีไปก่อน เอ๊ะ จริงๆมันหนีกลับไปก็ดีแล้วไม่ใช่หรอ เฮ้ออออ ช่วงนี้ผมเป็นอะไรของผมเนี่ย อ้อจริงสิ ตอนนี้ผมกับภรรยา(?) อยู่ที่ไทม์สแควร์ครับ เป็นห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในฮ่องกงที่มีแต่แบรนด์ดังๆและสตาร์บัคส์(?) มันเป็นสวรรค์ของผมเลยล่ะ =w= 

     

         “นี่ ไม่คิดจะไปชมธรรมชาติอะไรแบบนี้เลยรึไงครับ” เมื่อไหร่ชานยอลมันจะหยุดพูดครับ ตั้งแต่ออกจากโรงแรมมาพวกเราก็เถียงกันเหมือนเดิม นี่จะไม่เถียงกันวันนึงได้มั้ยเนี่ย อีกอย่างนะ ตั้งแต่ไอ้บ้านี่เข้ามาในชีวิตผมก็รู้สึกเหมือนขาดน้ำขึ้นทุกวัน วันๆเถียงอยู่แต่กับหมอนี่ โดนทำร้ายร่างกายทุกวันด้วย

     

         “กว่านายจะอาบน้ำเสร็จก็จะเที่ยงอยู่แล้ว จะมีเวลาไปเที่ยวที่ไหนมั้ยล่ะ พรุ่งนี้ก็ตื่นเช้าๆแล้วกัน” 

     

         “ก็ดูเมื่อวานเดินหาโรงแรมเซ่ นานยิ่งกว่านาน เบื่อก็เบื่อ เหนื่อยก็เหนื่อย เพราะฉะนั้นวันนี้นายจะต้องชดใช้ด้วยการให้ฉันใช้บัตรเครดิตของนายรูดทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่ค่ารถไฟใต้ดินจนถึงค่าเสื้อขนสัตว์ - -++”

     

         “แล้ววันต่อไปนายก็จะไม่ซื้ออะไรอีกเลยสินะ ได้ งั้นค่าเดินทาง ค่าอาหาร แล้วก็การใช้จ่ายของวันต่อๆไปนายจะต้องเป็นคนจ่ายจนกลับเกาหลี ตกลงมั้ยล่ะ?” พูดพร้อมกับยักคิ้วหนึ่งทีเพื่อเพิ่มระดับความหล่อ(ที่มีอยู่แล้วล้นฟ้า)

     

    “นายมันแย่ -*-” พูดจบชานยอลก็ตบตีผม เฮ้ออออออออ จะยังไงก็ตามผมจะไม่ยอมจ่ายเงินไปมากกว่านี้แล้ว!

     

    “งั้นเปลี่ยนจากจ่ายเงินเป็นอย่างอื่นก็ได้ หึ”

     

    “อะไรอีก” 

     

    “ก็.....” ผมค่อยโน้มหน้าเข้าไปใกล้อีกคน หึหึ เจอแบบนี้ต้องยอมจ่ายแน่นอนล้านเปอร์เซนต์!

     

    “ไอ้..ไอ้บ้า อายคนอื่นเค้า” เจ้าตัวถอยห่างออกไปก่อนจะเอามือมาตีไหล่ผม อย่าทำตัวน่ารักไปกว่านี้นะครับ.. หึ 

     

         “แสดงว่าถ้าในห้องน้ำก็ยอมอ่ะดิ?”  อือหือ พูดออกไปได้ยังไงคริส - -

     

         “อยากโดนขโมยบัตรเครดิตอีกรอบรึไงครับที่รัก” ชานยอลจ้องตาผมกลับมาพร้อมกับอมยิ้ม ..

     

         “คราวนี้ไม่หลวมตัวให้กระเป๋าตังค์ที่รักแล้วครับ :P”

     

         “งั้นต้องเจอแบบนี้!!!” พูดจบผมก็โดนเหยียบเท้าไปอีกหนึ่งทีแล้วชานยอลก็สะบัดบ๊อบเดินเข้าร้านรองเท้าไปเลย เด็กอะไรแสบชะมัด อย่าคิดว่าแค่นี้เจ็บหรอครับไอ้เด็กเวร แต่เมื่อกี้เห็นชานยอลมันหน้าแดงด้วยแหละครับ หึ 

     

     

    “นายนี่มัน...”  .......น่ารัก ...

     

     

    [Chanyeol’s part]

     

    หลังจากที่ผมไม่สามารถต้านทานความหล่อของอีกฝ่ายได้(?) เฮ้ยนี่ผมพูดอะไรครับ ผมเปล่านะ ทำแบบนั้นอายชาวบ้านชาวช่องเขาบ้างไหมเนี่ย อยากจะกระทืบแล้วก็เตะแล้วก็ต่อยไอ้บ้านั่นจริงๆครับ ไม่ไหวจะทนกับสิ่งที่ไอ้เงิงนั่นทำกับผม หงุดหงิดครับหงุดหงิดดดด หงุดหงิดตัวเอง ทำไมจะต้องไปเขินด้วยเนี่ย อ้อ ต่อให้โดนเจ้านั่นทำให้เขินอีกกี่รอบผมก็ไม่ยอมจ่ายค่าใช้จ่ายที่เหลือหรอกนะ ผมสัมผัสได้ว่ามันจะมากมายมหาศาล เงินที่เสียไปจะต้องเอาไปอยู่กินได้เป็นปีๆแน่ ผมจะไม่ยอมเด็ดขาด อีกอย่างนะ ผมยังไม่ได้ทำงานด้วย เพราะฉะนั้นเงินที่จะเสียไปในทริปนี้จะต้องเป็นของอู๋อี้ฟานคนเดียวเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับผม!

    คริสเดินตามผมมาแล้วครับ แล้วหมอนั่นมันยิ้มอะไร เห็นแล้วมันหมั่นไส้ชะมัดดด ผมเดินเข้ามาในร้านรองเท้าแหละครับ อืมมมม มีแต่คู่ที่อยากได้ทั้งนั้นเลย ไปตอดสามีหน่อยดีกว่า -..-

     

    “ที่รักกกก ซื้อคู่นี้ให้เค้าหน่อยน้าาา” ผมวิ่งเข้าไปควงแขนคุณสามีแล้วทำหน้าอ้อนสุดชีวิตเท่าที่จะทำได้ หยึยยยยย ทำออกไปได้ จะอ้วกครับจะอ้วกกกกก คริสมันก็มองผมแบบงงๆนะ แต่ช่างเถอะครับ ปล่อยให้มันงงต่อไปแล้วผมก็ถือโอกาสหยิบกระเป๋าสตางค์ในมือหมอนั่นมาด้วยความเร็วแสง เย้!^O^

     

    “เฮ้ย!” หน้าหมอนั่นตอนนี้เอ๋อสุดๆไปเลยครับ แหมมมม่ ประเมินชานยอลต่ำไปแล้ววววววว

     

    “แบร่ ;P” ผมหันไปแลบลิ้นให้อีกคนแล้วเดินไปหยิบรองเท้ามาลองทันที ลูกพ่อออ พ่อมารับกลับบ้านแล้วนะคร้าบบบบ (พูดกับรองเท้า - -)

    คริสเดินมานั่งข้างๆผม ตาก็มองผมเลือกไปเรื่อยๆอะนะ เหมือนมันจะทำใจได้แล้วว่าจะต้องจ่ายให้ผม วะฮะฮ่า วันนี้ผมมีสามีน่ารักมากครับ 

     

    “คุณนายอู๋ครับ เสร็จรึยังครับ คุณอู๋หิวข้าว” คริสเอ่ยขึ้นมาเมื่อผมเลือกรองเท้าไปได้สักพัก ผมกำลังจะตัดสินใจได้แล้วแหละว่าผมจะซื้อคู่ไหน ใจจริงก็อยากจะซื้อมันให้หมดร้านเลยนะ แกล้งไอ้เงิงซะหน่อย แต่สงสาร ยังมีจิตใต้สำนึกที่ดีอยู่น่ะครับ 

     

    “ไม่ต้องพูดมาก ไม่มีกระเป๋าตังค์แล้วยังจะพูดมากอีกกกกก” ขัดความสุขคนกำลังเลือกรองเท้าจริงๆเล้ยยยย

     

    “ไม่มีกระเป๋าตังค์ก็จริง...แต่มีบัตรเครดิตนะครับคนดี :P” คริสว่าพลางดึงบัตรเครดิตสามใบออกมาจากกระเป๋ากางเกง...นี่มันหมายความว่ายังไงงงงงงงงง แสดงว่าเมื่อกี้แกล้งตกใจใช่ไหมครับ แงง T_T

     

    “นายมัน....ไอ้คนบ้าาาาาาาา” ไอ้...ไอ้...ไอ้บ้าคริสสสสสสสส จะไม่รู้ทันสักเรื่องได้มั้ยครับบบบบ อดเลยรองเท้าสุดสวยของผม ถ้าไม่ติดว่าเงินสดในกระเป๋าตังค์ของคริสมันไม่พอนะ ผมลุกไปจ่ายเองแต่แรกแล้วววว T^T

     

    “คิดว่าฉันไม่รู้หรอว่านายจะใช้วิธีนี้” พูดจบก็ดีดหน้าผากผมหนึ่งที คนบ้าๆๆๆๆ -///-

     

    “ฮืออออ ซื้อให้หน่อยเถอะนะ *3*” ผมหันไปพยายามทำหน้าลูกแมวแบบสุดชีวิต  ไม่คิดว่าผมจะต้องมาอ้อนมันขนาดนี้ โฮรววววว T_____T

     

    “น่ารักวันนึงได้มั้ยล่ะ” คริสยักคิ้วให้ผมและกระตุกยิ้มมุมปาก คิดว่าทำแล้วเท่เรอะ! เออเท่ .///.

     

    “นายก็เลิกหล่อวันนึงได้มั้ยล่ะ” 

     

    “ไม่มีวันนั้น หึ”

     

    “คำตอบของฉันก็เหมือนกับนาย แบร่!” แล้วผมก็แย่งบัตรเครดิตในมือคริสมาก่อนจะรีบวิ่งไปจ่ายเงินที่เค้าท์เตอร์ทันที เย่สสสสสส รอบนี้ชานยอลเป็นผู้ชนะ!!!! ^O^

     

    ผมเดินออกมาจากร้านพร้อมกับคริสที่ถือถุงรองเท้าออกมาให้ผม แหม วันนี้ดูคริสทำตัวดีเป็นพิเศษนะครับ แล้วทำไมผมต้องชมหมอนั่นด้วย = =

     

    “ไปกินข้าวกัน หิว” คริสว่าพลางดึงข้อมือผมไปทางร้านสเต็ก ฮ้าา กำลังอยากกินสเต็กอยู่พอดีเลยครับบบบ รู้ใจกันจริงๆเลย สงสัยวันนี้ต้องให้รางวัลซะแล้วววว ><

     

    “นายจะพาไปกินสเต็กหรอออออ”  ผมเดินไปตามแรงของอีกคน ปากก็พูดไปด้วย มีความสุขครับบบบ >_<

     

    “เปล่า ร้านข้างๆสเต็ก”..........ไอ้กวนทรีนนนนน =[]=!!!  ผมหันไปมองป้ายร้านที่อยู่ข้างๆร้านสเต็กของผม ..แล้วมันข้างไหนวะเนี่ย ไอ้หมอนั่นมันพูดอะไรของมันนนน

     

    “นี่นายหลอกให้ฉันดีใจรึไง”

     

    “ข้างซ้าย” ...นี่มันฟังผมบ้างมั้ยเนี่ยยย ตอบตรงคำถามมากครับคุณสามี = =ระหว่างที่พูดไปเราสองคนก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าร้านแล้ว มันเป็นร้านอารมณ์แบบ ข้าวหมูแดงอะไรแบบนี้ นี่คริสกินอะไรแบบนี้ด้วยหรอครับ ไม่เข้าใจมันจริงๆ อารมณ์ไหนเนี่ย หรือว่าเมื่อกี้จ่ายค่ารองเท้าแพงๆไปเลยอยากจะประหยัดเงินขึ้นมา ?

     

    “นายกินอะไรแบบนี้ด้วยหรอ” สงสัยจริงๆครับ - -

     

    “อยากกินห่าน” คริสหันมาแลบลิ้นใส่ผมแล้วก็ลากผมเข้าร้านทันที ...เมื่อกี้ว่าไงนะ ห่านเหรอ...อารมณ์ไหนของหมอนี่กันเนี่ยยยย อ้อใช่แล้วครับ คริสมันเคยบอกผมว่ามาฮ่องกงแล้วไม่กินห่านนี่เป็นอะไรที่เชยมากกกก งั้นผมขอลองหน่อยละกัน -..- (ไรท์อยากจะบอกว่าห่านที่ฮ่องกงนั้นอร่อยมากกกก) 

     

    ………

     

    …….

     

    ….

     

    ห่านมันอร่อยจริงๆนะครับนี่บอกเลยยย คริสมันตาถึงมากครับ วันนี้ผมให้คะแนนคริสเยอะกว่าวันอื่นนะขอบอกกก หลังจากที่กินห่านกันเสร็จแล้ว คริสมันก็ยังไม่หยุดกินครับ เจ้าตัวเดินเข้าสตาร์บัคส์ไปซื้อกรีนทีลาเต้ของโปรด ตอนนี้ผมยืนรออยู่หน้าร้านครับ พร้อมกับถือถุงรองเท้าไว้ด้วย - -+

    คนหล่อ(?)...เดินออกมาจากร้านพร้อมด้วยกรีนทีลาเต้แก้วนึงแล้วก็..อะไรสักอย่างอีกแก้วนึง แล้วก็ยื่นแก้วอะไรสักอย่างนั่นให้ผม วันนี้ใครเอาอะไรให้คริสกินเนี่ย ทำตัวดีเกินไป แต่ก็ดีนะ ชอบ -/- 

     

         “อะไรอ่ะ”

     

         “คาราเมลเฟรปเป้” พูดจบไอ้บ้าคริสก็ดูดกรีนทีลาเต้แล้วดึงถุงช็อปปิ้งจากมือผมมาถือเอง หลังจากนั้นก็เอาไอ้คาราเมลเฟรปเป้อะไรนั่นยัดใส่มือผม หึ้ยยยย -///-

     

         “นี่นาย ถ้าฉันไม่ชอบคาราเมลเฟรปเป้อะไรของนายอ่ะ” 

     

         “นายจะปฎิเสธหรอ สามีซื้อให้เลยนะ” จบประโยคคริสก็อมยิ้มและจ้องมาที่ผม ไม่นะ -//-

     

         “ไอ้บ้า -/- ” ทำไมหมอนี่ขยันทำให้ผมเขินจังครับ แล้วผมก็เขินอีกแล้ววว

     

         “เขินเก่งนะเรา” เอาอีกแล้ววว กระซิบอีกแล้ว T_T ...ผมแพ้นะ แพ้จริงๆเวลาได้ยินเสียงใกล้ๆหู... ชานยอลลลล นายต้องเข้าขั้นวิกฤตแล้ว ฮือออ

     

         “....ก็นายจะทำให้ฉันเขินทำไมเล่า” -/////- 

     

         “หึ ต่อไปตาฉันซื้อของละ” คริสว่าพลางเอามือมายีหัวผม ...คนบ้า .////.

     

         “จ้า พ่อคนรวยยยยย”

     

         ผมกับไอ้ตัวสูงเดินเข้าออกหลายร้านมากครับ แล้วส่วนใหญ่คริสก็จะออกมาพร้อมกับถุงใบใหญ่ๆแทบทุกร้าน ก็เข้าใจนะครับว่าเป็นแฟชั่นคิง แต่แต่งตัวทีนี่บางครั้งผมก็อยากจะทำตัวเหมือนไม่รู้จักเขานะ เพราะสาวๆจะมองแต่หมอนั่น ทำให้ความหล่อของผมมันลดลงไป80%เลยทีเดียวเชียวววว เดี๋ยวนะ นี่ผมชมว่าหมอนั่นหล่อเหรอ... เอาเถอะ ทุกคนคงจะชินแล้ว -0-

     

         “นี่ๆ นายว่าตัวไหนดีกว่ากัน” ระหว่างที่ผมเดินดูเสื้อผ้าไปเรื่อยๆคริสก็หันมาสะกิดผมให้ดูเสื้อสองตัวที่มันถืออยู่

     

         “มีเงินไม่ใช่หรอ ซื้อสองตัวไปเลยสิ” จริงๆลายมันก็ไม่ได้ต่างกันมากครับ ตัวนึงสีดำอีกตัวสีขาว ลักษณะเสื้อเหมือนกันแค่คนละลายแล้วก็คนละสี ใจจริงผมชอบตัวสีดำมากกว่านะ -_-

     

         “งั้นให้นายตัวนึง” พูดจบก็เดินไปจ่ายตังค์ทันที...เออเชื่อแล้วว่าพ่อคุณรวยมากครับ เฮ้ออออออ เดี๋ยวนะ เมื่อกี้บอกว่าจะให้ผมหรอ งั้นผมขอตัวสีดำละกันนะ คิก!

     

         เวลาทั้งหมดในช่วงบ่ายหมดไปกับการช็อปปิ้งและการกิน ไม่มีอะไรนอกจากนี้ครับ -_- อ้อใช่ แล้วคริสมันหยอดผมไปกี่รอบแล้วก็ไม่รู้ ยังไงผมก็ไม่ชินครับบอกเลยยย ถึงมันจะเป็นคำพูดเล่นๆก็ตาม แต่เมื่อมันออกมาจากปากของผู้ชายคนนี้แล้ว รับรองว่าชะนีขาวชะนีดำเก้งกวางกุ้งหอยปูปลาที่ไหนก็ต้านไม่ไหวครับ รวมถึงคนหน้าตาดีอย่างผมด้วย T^T และตอนนี้เรากำลังนั่งกินไอศครีมกันอยู่ครับ ..เกือบลืมว่าเป็นเป้าหมายวันนี้ของผมเลยล่ะ

     

         “อ้าา” นั่นไง อยู่ๆก็มีไอศครีมมาเสด็จอยู่ตรงหน้าผมเป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ แล้วผมก็ต้อง(จำใจ)กินต่อไป 

     

         “นี่ช่วยหยุดทำตัวเหมือนจีบฉันอยู่สักทีได้ไหมมมม -*-” คนมันอายโว้ยยยยย

     

         “แบบนี้เขาเรียกสามีบริการภรรยาครับ” นั่น วันนี้คริสมันเป็นอะไรของมันครับ ขยันพูดจาน่าเกลียดจริงๆเลยยย

     

         “คนอื่นมอง โว๊ะ -/-”

     

         “มีแต่คนมองฉัน  ไม่ได้มองนายละกัน เพราะฉันหล่อ” จบประโยคก็ตักไอศครีมเข้าปากตัวเอง นี่มันไม่รู้สึกละอายกับคำพูดที่พูดออกมาเลยรึไงนะ - -

     

         “ฉันไม่น่ามากับนายเลย เฮ้อ”

     

         “ทำไม?”

     

         “ก็นายทำให้เรตติ้งฉันตก - -”

     

         “จากที่ไม่มีอยู่แล้วก็เลยยิ่งติดลบสินะ หึหึ” ดูพูดจาสิครับ คิดว่าหล่อแล้วพูดแบบนี้ได้เหรอ น่าเตะกลับไปแคนนาดาจริงๆ!

     

         “นายมันแย่ กลับโรงแรมดีกว่า อ้อลืมไป นายจ่ายนะ” พูดจบผมก็ลุกแล้วทิ้งถุงทุกอย่างไว้ให้คริสถือ บอกจะบริการภรรยาใช่มั้ย ได้ทำสมใจแน่ เชอะ -^-

     

         “เฮ้ยเดี๋ยว ถือของของนายไปด้ว....”

     

    ฟอดดดดดด~

     

    “...”

      

         “ขอบคุณสำหรับไอศครีมนะครับที่รัก :P”  

     







     

     

    --------------------------------------------

     

     



     

    [Baekhyun’s part]

     

     

    กริ๊ง กริ๊ง



     

     

         “ฮัลโหลครับ”

     

    (บยอน แบคฮยอน ไปพบหัวหน้าด้วยค่ะ)

     

    “รับทราบครับ”

     

    ผมวางมือจากการเขียนคอลัมน์นิตยสารและลุกออกจากโต๊ะทำงานของตัวเองไปที่ลิฟท์ทันที

     

    “โอ๊ะ โทษครับ” นี่เดินไปชนใครเข้าระหว่างที่กำลังจะเดินกดลิฟท์เนี่ย

     

    “ไม่เป็นไรครับ....อ้าวน้องแบคนี่ เป็นยังไงบ้างล่ะ ทำงานยากมั้ย $%#@!*($+@>!+&*” พี่เขาพูดอะไรก็ไม่รู้ยาวยืดมาก ผมจำประเด็นได้แค่นี้ =[]=

     

    “อ่ะเอ่อ สวัสดีครับพี่เฮนรี่ งานก็ไม่ค่อยยากนะครับ ฮ่าๆ แล้วพี่จะไปไหนล่ะครับ?” ผมโค้งให้คนที่เป็นรุ่นพี่ควบกับตำแหน่งมือซ้ายของบอส...ข้างซ้ายเลยนะทุกค๊นนนนนนนน ผมเกร็งจนไม่รู้จะเกร็งยังไงแล้ว ตอนพี่เขาใส่สูทแบบนี้นี่เท่มากเลยครับ แฟนคลับอ่ะ TwT แหนะ สงสัยล่ะสิว่าแล้วมือขวาของบอสผมเป็นใคร เอาจริงๆตอนผมรู้ก็ไม่อยากจะเชื่อหรอกนะ เดี๋ยวไปรอลุ้นเองแล้วกัน(?)

     

    “พี่ก็ลงมาตามนายนั่นแหละ เมื่อกี้พี่ปลอมเสียงเป็นผู้หญิงเอง เป็นไงๆ เสียงสวยอ่ะดิ 555555555555555”  ผมก็ไม่เข้าใจว่าพี่เขาจะขำอะไรมากมายนะครับ หรือเขาเฟรนลี่เกินไป? เดี๋ยวนะ แล้วพี่เค้าจะปลอมเสียงเพื่ออะไรครับ ผมล่ะสงสารบอสจริงๆ อยู่กับคนแบบนี้ทั้งวันได้ยังไง =[]=


     

          “เอ่อ..ก็สวยดีครับ =[]=” ตอบไปตามพิธีครับ... นี่พี่เขาเป็นอะไรมากมั้ยครับ อุ้ย ผมไม่ได้พูดนะ 555555555

     

     



    ติ๊ง~

     

          เมื่อลิฟท์เปิดพวกเราสองคนก็เดินเข้าไป เอาจริงผมก็แอบเสียวๆนะ บอสผู้สูงส่งของผมเขาจะเรียกใช้งานเด็กกะโปโลที่เข้ามาทำงานได้เดือนกว่าๆทำไม ผมนั่งเขียนคัมลัมน์นินทาดาราไปวันๆมันก็ดีอยู่แล้วนะครับ

     



          “นี่น้องแบคๆๆ”

     

          “ครับๆ” 

     

          “งานนี้อย่าทำพลาดนะ”  พี่เฮนรี่พูดพลางตบบ่าผมสองที

     

          “หืม งานอะไรครับ?” ทำไมอะไรยังไงครับ ผมชักจะงงกับพี่เขาไปทุกที พี่เขาเก่งเกินไปจนสื่อสารไม่รู้เรื่องรึเปล่า เอิ่ม ผมไม่ได้พูดนะครับ ลืมๆมันไป =[]=

     

          “งานที่บอสจะมอบหมายให้นาย”

     

          “มันเป็นงานสำคัญหรอครับ?” ใจผมชักไม่ดี บอสจะให้ผมทำอะไรครับ แถลงข่าว? สัมภาษณ์ หรือไปถ่ายแบบ? เอิ่ม อันหลังเหมือนจะไม่ใช่

     

          “แล้วงานไหนมันไม่สำคัญบ้าง!!! 55555555555555 ” แล้วก็ระเบิดหัวเราะออกมา...พี่เฮนรี่นี่ดูเป็นคนมีอารมณ์ขันดีนะครับ =[]=

     

     

    ติ๊ง ~ 

    และแล้วผมก็มาถึงห้องทำงานของผู้บรรชาการสูงสุดในตึกแห่งนี้ แอบตื่นเต้นนะครับ -/\-

     

     

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก 

    “เฮโหลววววววว แบคฮยอนมาแล้วคร้าบบบบบ”  เอ่อ.. นี่ไม่ใช่เสียงผมนะครับ มันเป็นเสียงของคนที่อยู่ข้างๆผมต่างหาก พี่เฮนรี่เปิดตูเข้ามาโดยที่ไม่ได้รับคำอนุญาตจากคนที่อยู่ข้างในและที่สำคัญ....แน่ใจว่านี่คือภาษาที่พี่เฮนรี่ใช้กับบอส? =[]=

     

    “ถ้าจะพูดขนาดนี้เปิดประตูเข้ามาเลยไม่ง่ายกว่าหรอเฮนรี่”

     

         “แหม อย่าเครียดนักสิคุณทงเฮฮฮฮฮ มีมือซ้ายกับมือขวาเก่งขนาดนี้รับรองว่าได้ตัวคนโกงมาแน่นอน ^O^”


    .... เชื่อว่าตอนนี้ผมหายไปจากสายตาของทั้งสองคนแล้วครับ = = มือซ้ายกับมือขวาของคุณทงเฮนี่ต่างกันมากเลยนะครับ อีกคนก็บ้าๆบอๆ อีกคนก็มาดเข้มมม -/-  เดี๋ยวนะ เมื่อกี้พี่เฮนรี่พูดว่าคนโกงเหรอ?

     

         “ทำไมนายชอบทำฉันหลงประเด็นอยู่เรื่อยเลยเนี่ย ไปเรียกเทามาได้แล้ว ไปทำกาแฟให้ฉันถึงไหนเนี่ย ช้าชะมัด อ้อเฮนรี่ นายไปเอาเอกสารของเรื่องนี้มาด้วย” คุณทงเฮ หรือผู้บรรชาการสูงสุดของผมเอง ตีเฮนรี่ไปทีนึง 

     

         “รับทราบคร้าบบบ รับขนมจีบซาลาเปาเพิ่มมั้ยครับ 55555555555555” เสียงขำของพี่เฮนรี่น่าจะดังประมาณ100กิโลได้ครับ = =

     

         “เออๆ ขนมจีบ ขอบใจมาก” หลังจากที่คุณทงเฮหันไปตอบพี่เฮนรี่เสร็จเรียบร้อยแล้วก็หันหน้ามาคุยกับผม (สักที อย่าให้คนสวยรอนาน -..-)

     

         “แบคฮยอน มานั่งนี่สิ”

     

         “ครับ” ผมทำตามอย่างว่าง่าย เวลาเจ้านายทำหน้าจริงจังผมกลัวจริงๆเล้ยยย นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ขึ้นมาในห้องทำงานครับ ปกติผมคงเป็นพวกคนท้ายๆที่บอสจะเรียกใช้งาน

     

         “ระหว่างรอเฮนรี่กับเทาฉันจะเกริ่นๆไปก่อนนะ ก็คือ ตอนนี้ฉันสงสัยว่ามีคนเอาทุจริตในบริษัทของเรา”

     

         “...”

     

         “ดูจากข้อมูลสถิติเงินที่เข้ามาในบริษัทปีนี้ของเราแล้วมันลดลงจากปีก่อนๆแบบผิดสังเกต ทั้งที่จริงๆแล้วปีนี้รายได้น่าจะมีมากขึ้นเพราะเราได้ขยายสาขาไปที่ประเทศอังกฤษน่ะ”

     



    ก๊อก ก๊อก ก๊อก  

    เสียงเคาะประตูดังขึ้น คุณทงเฮเหลือบตาไปที่ประตูก่อนจะหันไปดูภาพจากกล้องวงจรปิด

     



         “เข้ามาทั้งสองคน”

     

         “ขนมจีบ กาแฟ และมือขวาสุดหล่อมาแล้วคร้าบบบบบบบบบบบบ” พี่เฮนรี่เดินถือแก้วกาแฟกับจานขนมจีบ ....ที่มีอยู่ชิ้นเดียว -_- ผมไม่เข้าใจพี่เค้าจริงๆเลยนะครับเนี่ยยยย เมื่อพี่เฮนรี่วิ่งแจ้นเข้ามาในห้องแล้ว เทาก็ตามเข้ามาก่อนจะหันไปปิดประตูที่เปิดอ้าซ่าไว้ อ้อใช่ มือขวาก็คือเทานั่นแหละครับ พูดเองก็เขินเองนะเนี่ย ฟ้าบรรดาลให้ผมได้มาเจอกับเขาแล้วยังให้ผมทำงานที่เดียวกับเขาอีก...แบบนี้มันเรียกเกิดมาคู่กันครับ แอร้ยยยยยยยยยย

     

         “นี่ฉันคิดผิดรึเปล่าว่าให้นายเป็นมือซ้ายของฉันนะเฮนรี่ - -”

     

         “จริงๆพี่ทงมีผมช่วยงานคนเดียวก็พอนะครับ พี่เฮนรี่นี่นับวันจะเพี้ยนขึ้นทุกวัน” ร่างสูงกับผมสีบลอนด์ (เพิ่งย้อมมาใหม่55555555) เดินตามพี่เฮนรี่เข้ามาในมือถือเอกสารอยู่....เอ่อเดี๋ยวนะ นี่ผมจำได้ว่าคุณทงเฮเขาสั่งให้พี่เฮนรี่ไปเอาเอกสารไม่ใช่หรอ แล้วทำไมมันสลับกันแบบนี้ละครับ โอ้ยยย ผมไม่เข้าใจสามคนนี้จริงๆครับ =[]=

     

         “พวกนายสองคนนี่พูดมากจริงๆ มาเข้าเรื่องได้แล้ว เอาเอกสารมาแล้วมานั่งนี่ เฮนรี่นายออกไปกินข้าวได้ เอาแซลมอนสเต็กขึ้นมาให้ฉันด้วย” ผมรู้สึกว่าบอสเริ่มจะทนไม่ไหวแล้วนะ...

     

         “รับทราบครับผมมมมมม บ้ายบายยยยย”

    ว่าแล้วเจ้าตัวก็เดินออกจากห้องไป ตอนนี้ในห้องก็เหลือสามคนครับ คนเป็นเจ้านายถอนหายใจหนึ่งครั้งก่อนจะยื่นตั๋วเครื่องบินมาให้ผมกับคนข้างๆ 

     

    ..

     

     

    “เทากับแบคฮยอน พวกนายสองคนต้องไปอังกฤษ”

     




    “!!!!”

     

     








    TBC.




     


    ---------------------------------------------





    ขอกรี๊ดพี่เฮนรี่ก่อนค่ะ กรี๊ดดดด กรี๊ดเทาแบคด้วยค่ะกรี๊ดดดด 55555555 (เป็นอะไรมากมั้ย - -)
    รอบนี้เต็มตอนค่ะเต็มตอนนนนน คอมไรท์พังเพิ่งเอาไปซ่อม ตกใจหมดกลัวฟิคหายยย 55555555 แต่สุดท้ายมันก็ไม่หาย >_<

     
    คอมเม้นเป็นกำล้งใจด้วยน้า <3

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×