ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO FIC] Marry me? รักผมก็บอก [KrisYeol]

    ลำดับตอนที่ #10 : Marry me? : 9 (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 19 ก.ย. 56










     

    MARRY ME

    9









     

     

    [Chanyeol’s part]






     

    ตอนนี้มันกี่โมงแล้วนะ ทำไมผมนอนไม่หลับสักที?

    หลังจากที่อาบน้ำเสร็จแล้ว ผมนอนพลิกตัวไปมาอยู่ไม่รู้กี่รอบ ตอนนี้คริสอาบน้ำอยู่ครับ สุดท้ายมันก็ยอมลุกไปอาบ ถ้าไม่อาบนี่คืนนี้ผมคงไม่หลับ เฮ้ออออ เหนื่อยมันก็เหนื่อยครับ เดินหาโรงแรมขนาดนั้น แต่ทำไมผมนอนไม่หลับล่ะเนี่ย บางทีอาจจะไม่ชินกับที่นี่ก็ได้นะครับ 

     

    ปัง




     

    เหมือนคริสจะออกมาแล้วนะครับ -0-

     




    “ยังไม่หลับหรอ?” คริสเดินออกมา มือก็ถือผ้าเช็ดตัวพลางเช็ดหัวไปด้วยก่อนจะเดินมาที่เตียง

     




    “นอนไม่หลับอ่ะ” 





     

    “อยากจะนอนกับฉันขนาดนั้น?”  อือหือ ดูพูดสิครับ น่าให้ไปนอนให้ห้องน้ำจริงๆ -*-

     



    “เปล่า บ้าเหรอ ใครจะไปอยากนอนกับนาย ทนนอนมาก็มากพอละ--” 

     



    “หรือว่ากลัวผี? ฮ่าๆ” คริสเดินไปปิดไฟแล้วขึ้นมานั่งกดมือถือบนเตียง

     



    “ตลกมั้ยเนี่ย T^T ยังจำได้อีกหรอ” นี่มันใช่เวลามาพูดเรื่องนี้มั้ยครับ จุดอ่อนผมมมมมมม T_______T 

     



    “ทำไมจะจำไม่ได้ หึ เอ๊ะนาย ด่านนี้มันผ่านยังไงนะ” คริสว่าพลางขยับตัวมาใกล้ๆผมแล้วยื่นโทรศัพท์ให้ ...อ้อ...ไอ้เกมอาบน้ำให้จระเข้นี่เอง ผมผ่านหมดแล้วนะขอบอกกก! 

     



    “เอิ่ม... นายต้องกดตรงนี้ แล้วก็เปิดก๊อกฝั่งนี้*@#$%)*!=\]@#)*&” ผมอธิบายไปซะยาวยืด แต่ก็ไม่รู้จะอธิบายทำไมครับ เพราะผมก็เล่นแทนคริสไปแล้ว โธ่ - -

     



    “นายจะพูดทำไม ฉันไม่ได้เห็นสักนิด นายเล่นเอาโทรศัพท์หันหาตัวเองขนาดนั้น” พูดจบก็ผลักหัวผมไปที โธธธธ่ คนมันจะโชว์เทพซะหน่อย งอนครับงอนนนนน

     



    “ชิ ทีหลังไม่ช่วยแล้ว นอนล่ะ ราตรีสวัสดิ์”

     



    “ขอให้นอนหลับนะครับ” ...กระซิบทำไม......สะ...เสียงแบบนี้ -///- ทำไมช่วงนี้มันแกล้งผมบ่อยจังครับ T///T

     



    “หลับโว้ยยยยยยย เชอะ” เอ่ยออกไปพร้อมกับนอนตะแคงหันหลังให้หมอนั่น ชิ! ปวดหัวครับปวดหัว นี่ก็จะเช้าอยู่แล้วจะมานอนอีก ผมไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ - - 

     



    “นอนไม่หลับก็ไม่ต้องมาปลุกนะ :P” แหนะ ยังจะพูดอีก -///-

     



    “ก็บอกว่าหลับไง ฮ่วยยยยย”

     



    “หึ จะคอยดู”

     




    ...ถึงผมไม่หลับก็ไม่บอกหมอนั่นหรอก!  T^T




    -----------37%-----------



    ----------------------------------------------------------------------

     

    “เฮ้ย ทำไมไอ้ยอลมันไม่รับโทรศัพท์วะ” ไคที่นั่งหัวเสียอยู่กับจอโทรศัพท์อยู่นานเอ่ยขึ้นกับเพื่อนๆ

     

    “อยู่บ้านนั้นคงจะไม่ว่างล่ะมั้ง” ดีโอที่นั่งอ่านนิตยสารเอ่ยขึ้น

     

    “โหยโด้ กูว่าว่างยิ่งกว่าว่างงงงงงงง บ้านนั้นรวยยิ่งกว่าสตีฟจ็อปส์อีกนะมึงกูว่า วันนั้นก็เข้าไปเห็นมา เห็นแค่ประตูบ้านก็ขนลุกละมึง หรูยิ่งกว่าราชวังงงงง” ไคตอบกลับไปแต่มือก็ยิ่งวุ่นวายกับไอโฟนอยู่

     

    “จริงอ่ะ วันหลังพากูไปบ้างดิ *O*” 

     

    “โทรหามันให้ได้ก่อนดีกว่า” จบประโยคไคก็โทรหาชานยอลอีกรอบ

     

     

    ปึง 

    เสียงปิดประตูดังขึ้นทำให้รู้ได้ว่ามีคนอีกคนกำลังเข้ามาในห้อง

     

    “พวกมึ้งงงงงงงงงงงง” 

     

    “ไอ้ฮุน ผีเข้ารึไง” ดีโอหันไปเอ็ดเจ้าตัวให้หนึ่งที 

     

    “แสดงความยินดีกับกูหน่อยยยยยยยยยยยยยยยยย” คนที่เพิ่งโดนว่าไปเมื่อกี้วิ่งเข้ามากอดดีโอเหมือนลูกไม่ได้เจอแม่มา10ปี - - 

     

    “อะไรเนี่ยยยยยย มึงไปถูกหวยร้อยล้านมารึไงงงง” ดีโอที่ยังไม่รู้เรื่องอะไร(แต่ก็กอดอีกคนไปแล้ว) เอ่ยขึ้น 

     

    “วันนี้ไม่ใช่วันประกาศหวยนะโธ่ คือๆๆๆๆ”

     

    “?????”

     

    “กูได้งานทำแล้วววววววววววววววววว!!!!!!!!!! กูได้เป็นคนเขียนข่าวแล้วววววววว” เซฮุนกระโดดโลดเต้นก่อนจะเดินไปถอดเสื้อตัวนอกออกพาดกับเก้าอี้ 

     

    “ยินดีด้วยนะมึงงงงงงงงงง” 

     

    “ต้องฉลองเว่ยยยยยยยยย”

    แล้วทั้งสองคนก็โผกอดกันอีกครั้งโดยไม่สนใจใครอีกคนที่กำลังพยายามต่อโทรศัพท์หาเพื่อน

     

     

    “พวกมึงลืมกูกันไปแล้วใช่มั้ยยยยย พวกมึงมันแย่ๆๆๆๆ T_______T” ไคตะโกนออกมาก่อนจะทิ้งโทรศัพท์ไว้บนโซฟาแล้วลุกขึ้นมากอดกันกลมกับเพื่อนๆ 

     

    “แอ่กกกก กูหายใจไม่ออก หมอกควันอะไรมันมาจากไหนเนี่ย” เซฮุนพูดขึ้นเมื่อจมูกสัมผัสได้ถึงกลิ่นไหม้บางอย่าง...

     

    “เดี๋ยวนะมึง....” ไคเริ่มมองหาที่มาของควัน....

     

    “ห้องครัวมึง มันมาจากห้องครัว...”

     

    “อย่ามองมาที่กูนะ กูยังไม่ได้ทำอาหารอะไรทิ้งไว้” ดีโอพูดปัดความรับผิดชอบ

     

    “วันนี้มันก็มีพวกมึงสองคนที่อยู่ในห้องนี้....” เซฮุนชี้ไปที่ผู้ต้องสงสัยสองคน 

     

    “มึง...” ไคเอ่ยขึ้นเบาๆ..

     

    “อะไร”

     

    “นี่มันใช่เวลาหาคนทำที่ไหนละวะ! รีบไปดูก่อนเซ่ว่ามันเกิดอะไรขึ้นนนนนน!” จบประโยคไคก็วิ่งเข้าห้องครัวไปคนแรกตามด้วยดีโอและเซฮุนตามไปติดๆ

     

    ……….

     

    ……

     

    …..

     

     

    “โอ้ยยย เป็นเรื่องอีกแล้วนะไค คราวที่แล้วก็ทำซุปเข้าโพดไหม้ คราวนี้มาทำสปาเก็ตตี้ไหม้” ดีโอกล่าวอย่างหัวเสียเมื่อทั้งสามคนจัดการกับห้องครัวเรียบร้อยแล้ว

     

    “ขอโทษ กูลืม T^T” คนโดนว่าเอ่ยขึ้น ตอนนี้ทั้งสามคนนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารพร้อมด้วยหม้อสปาเก็ตตี้ไหม้ๆอยู่ตรงหน้า

     

    “แล้วนี่มึงไม่ได้บอกดีโอไว้หรอว่าทำสปาเก็ตตี้ไว้อ่ะ” เซฮุนเอ่ยขึ้นพร้อมกับเอาส้อมไปจิ้มๆเส้นดำๆที่อยู่ในหม้อ

     

    “ก็....”

     

    “มะเร็งแดกแน่พวกมึงเอ้ยยยยยยยยยยยยยยย”  บุคคลที่สี่เดินเข้ามาในห้องครัวก่อนจะหย่อนก้นลงข้างๆไค

     

    “ไอ้แบค!!!!!!! หายไปไหนมาทั้งวัน!!!!!!” ทั้งสามคนประสานเสียงกันเมื่อตัวแม่ของแก๊งส์เดินเข้ามาอย่างไม่ให้ซุ่มให้เสียง แม้แต่เสียงประตูเปิดประตูปิดยังไม่ได้ยิน หรือเพราะพวกเขามัวแต่เถียงกันก็ไม่รู้

     

    “ก็ไปทำงานแล้วก็ไป แฮฟ ดินเนอร์ มาอ่ะนะ” จบประโยคก็ยักคิ้วให้เพื่อนๆหนึ่งที

     

    “เอาใหญ่เลยนะมึง เก็บนอด่วนครับคุณเพื่อน” เซฮุนพูดขึ้น มือก็ยังคงจับส้อมเขี่ยเส้นดำๆไปมาเรื่อยๆ

     

    “พูดแบบนี้ไปจีบแม่นั่นให้ติดก่อนเถอะมึง ชิ! เออแล้วพวกมึงจะกินอะไรกันเนี่ย วันก่อนกูเพิ่งกินมาม่าซองสุดท้ายไป” 

     

    “แบค.....มึงจำไว้เลยยยยยย” ไคชี้หน้าคาดโทษกับเพื่อนของคน

     

    “จะเอาKFCหรือพิซซ่าดีครับ = =” ดีโอตอบกลับ

     

    “มึงหิวระดับไหน” 

     

    “นี่คุณแบคฮยอนครับ มึงตลกมากมั้ย ความหิวมันมีระดับด้วยหรอวะ” จบประโยคไคก็ผลักหัวแบคฮยอน

     

    “ระดับแปด” เซฮุนกล่าวขึ้นก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา

     

    “ระดับแปดนี่แสดงว่าอยากกินพิซซ่าหน้าดับเบิ้ลเป็ปเปอโรนี่” แบคฮยอนยิ้มแฉ่งพลางชี้ไปที่หน้าเซฮุนเป็นเชิงเดาใจ

     

    “เออ! สวัสดีครับ ขอสั่งพิซซ่าครับ $%^*):?/@#!)+^$&~!” เมื่อสั่งอาหารเสร็จเซฮุนก็ยักคิ้วให้หนึ่งที “มึงรู้ใจก็ดีมากไอ้แบค ฮ่าาาาาาา

     

    “แน่นอนอยู่แล้วเว่ยยยย อิอิ”

     

    “เซฮุน มึงกินแบบนี้ตั้งแต่ปีหนึ่งแล้วนะเว่ย ยังไม่เบื่ออีกหรอ” ดีโอที่เงียบอยู่นานเอ่ยขึ้นบ้าง

     

    “ไม่อ่ะ กูก็ชอบของกูแบบนี้”

     

    “ทำไมมึงชอบผู้หญิง(?)ให้มันนานๆแบบชอบพิซซ่าบ้างวะห๊ะ” ไคว่าพลางลุกขึ้นหยิบหม้อสปาเก็ตตี้(ที่ไม่มีใครเก็บ)เอาไปวางที่ซิงค์

     

    “ก็ยังไม่เจอคนที่ใช่ :P”

     

    “เออพวกมึง” คนเก็บหม้อเอ่ยขึ้น

     

    “ว่าไง”

     

    “กูโทรหาชานยอลไม่ติดเลยว่ะ”

     

    “กี่สายวะ” แบคฮยอนเอ่ยถามขึ้น

     

    “เป็นสิบ ปกติน่าจะโทรกลับมาได้แล้วนะ แต่นี่หายเงียบ กูชัก..”

     

    “สงสัยว่ามีกิจกรรม? 5555555555555” 

     

    “ไอ้เชี่ยฮุนนนน ทะลึ่ง”

     

    “มึงก็เห็นวันที่เราปีนระเบียงขึ้นไปหามันอ่ะ คือกูกลัวไอ้ยอลมันจะปันใจให้ไอ้คุณชายบ้านรวยนั่นมากอ่ะ”

     

    “ทำไมวะ”

     

    “คือเถียงกันตลอดเวลามันก็ใช่นะเว่ย แต่มันไม่ใช่เถียงแบบเกลียดขี้หน้ากันมึงเข้าใจป่ะ”

     

    “เออๆ เอร้ยยยยยยย อยากมีโมเมนต์แบบนี้บ้างอ่ะ >.<”

     

    “ไอ้แบคเงียบไป แล้วไงต่อๆๆๆ” เซฮุนเอามือไปปิดปากแบคก่อนจะบอกให้ไคพูดต่อ

     

    “กูรู้สึกถึงรังสีสีชมพูอ่ะมึ้งงงงงงงง”

     

    “หาาาาาาา” O_________O

     

    “พวกมึงก็อยู่นี่ ไม่รู้สึกอะไรบ้างหรอวะๆๆ” 

     

    “กูไม่” แบคฮยอนตอบกลับอย่างรวดเร็ว

     

    “กูรู้สึกนิดหน่อย แต่ไม่ได้ใส่ใจ เดี๋ยวนะไอ้ดำ ทำไมมึงพูดเหมือนมึงหวงไอ้ยอลวะ”

     

    “ไค อย่าบอกนะว่ามึงง....” แบคฮยอนชี้หน้าพร้อมกับจ้องไปที่เพื่อนตัวยุ่ง

     

    “จะบ้าหรอวะ! ก็กูเห็นพวกมึงจะสละโสดกันไปทีละคน แล้วมึงดูไอ้ยอลดิๆๆๆ มีอะไรไม่เห็นจะมาปรึกษาพวกเราบ้างเลยยยยย”

     

    “ก็แสดงว่ามันจัดการเองได้” ดีโอที่เงียบอยู่นานเอ่ยขึ้น

     

    “พวกมึงอ่ะ T^T”

     

    “ไอ้ไค ถ้ามึงยังเป็นแบบนี้ก็ไม่มีหรอกเว่ยคนมาจีบคนมาอ้อยอ่ะ มึงต้องเป็นแบบกู อ๋อแต่ลืมไป หน้าตามึงกับกูมันคนละระดับกันอ่ะนะ แอร้ย” แบคฮยอนพูดขัดตอกหน้าเพื่อนของเขา (คือใจร้ายมาก - -)

     

    “เออ ขอโทษที่กูไม่มีศิลปะการอ้อยแบบมึง..”

     

    ติ๊งหน่อง~

     

     

    “เอ๊า พิซซ่ามาส่งละมึง” ดีโอ(ที่เป็นผู้ฟังที่ดี)บอกเพื่อนๆก่อนจะลุกออกไปหยิบเงิน

     

    “เดี๋ยวกูออกไปเอาให้ๆ” แบคฮยอนว่าพลางลุกจากเก้าอี้แล้วเดินออกจากห้องครัวไป 

     

    “อีแบค เก็บนอก่อนเปิดประตูนะเว่ย 5555555555555” ไคตะโกนไล่หลังคนตัวเล็กไป

     

    ........

     

     

    .....

     

     

    ....

     

     

    ..

     

    .

     

    แสงแดดที่สาดผ่านผ้าม่านเข้ามากระทบเปลือกตาของคนสองคนทำให้ทั้งสองค่อยๆลืมตาขึ้นมาด้วยความงัวเงีย และหลังจากนั้น....

     

     

    “เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!!” คริสกับชานยอลร้องออกมาพร้อมกันเมื่อรู้สึกตัวได้ว่าทั้งสองคนกำลังนอนกอดกันกลมยิ่งกว่าลูกบอล 

     

    พลั่กกกก 

     

    “ไอ้บ้าาาาาาาาา นายมันคนฉวยโอกาส ไอ้ ไอ้ไอ้..ไอ้ชั่วววว โดนแค่ถีบมันยังน้อยไปด้วยซ้ำ!” หลังจากที่ผลักคนสูงกว่าตกจากเตียงไปแล้ว ชานยอลก็หยิบเอาหมอนที่วางอยู่บนเตียงมาเตรียมจะโยนลงไปซ้ำเติมคนฉวยโอกาส(?)ต่อ

     

    ”ใครฉวยโอกาสกัน นายนั่นแหละเขยิบมาซบฉันก่อน อย่ามาหวงตัวหน่อยเลยไอ้เด็กบ้า” ร่างสูงลุกขึ้นหยิบหมอนที่อยู่บนโซฟา แขนอีกข้างก็ชี้หน้าเถียงอีกคน

     

    “นี่นายหาว่าฉันอ่อยหรอ! นายมันแย่ นายมันนิสัยไม่ดี ย๊าาาา”  จบประโยคคนขี้โวยวายก็เอาหมอนโยนใส่อีกคนไม่ยั้ง 

     

    “นายพูดเองนะ ฉันไม่ได้พูด นายอยากมากอดฉันเองช่วยไม่ได้ :P” คริสเอามือบังหมอนที่ปามาแม่นยิ่งกว่ายิงธนูก่อนจะหาจังหวะขึ้นไปดึงตัวเองคนลงไปนอนบนเตียง

     

    “ใครอยากกอดนายไม่ทราบบบ ชาตินี้และชาติไหนๆฉันจะไม่ขอนอนเตียงเดียวกับนายอีกต่อไป! จะทำอะไรอ่ะ ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ ไอ้คนฉวยโอกาสสสสสสส T//T” 

     

    “ไม่ทันละ นอนด้วยกันมาจะเป็นเดือนแล้วครับที่รัก (:” ร่างสูงรวบมืออีกคนไว้ก่อนจะดันให้ลงไปนอนแล้วเอามืออีกข้างยันเตียงไว้ไม่ให้หนี

     

    “ไปรักกับคนฮ่องกงไปปปปปปปป ปล่อยยยยยยย T___T”

     

    “ไม่ปล่อย อยากกอดภรรยาอีกจัง -..-” 

     

    “ไม่!บอกเลยว่าจะไม่เงียบจนกว่านายจะลุกออกไปจากตัวฉันนนนนนน ไอ้คนเลวววววววว” จบประโยคคนตัวบางก็กัดแขนอีกคนไปหนึ่งทีทำให้ตัวเองเป็นอิสระ

     

    “เล่นงี้ใช่มั้ย โอ้ย!” ร่างสูงโดนอีกคนกระทืบแล้วถีบตกเตียงไปอีกรอบอย่างไม่ใยดี

     

    “อย่าคิดจะฉวยโอกาสอีกนะ!! ขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่าฉันจะให้นายไปนอนในห้องน้ำ!!” จบประโยคชานยอลก็ปาหมอนใบสุดท้ายใส่คริสอีกรอบ

     

    “หึ นี่เขินขนาดนั้นเลยหรอเนี่ย?” ร่างสูงที่นอนกุมท้องตัวเองเงยหน้ามองอีกคนก่อนจะกระตุกยิ้ม

     

    “เขินบ้านนาย .////.”

     

    “บ้านฉันก็บ้านนายนั่นแหละครับ”

     

    “ไอ้.. ไอ้เงิงเฉาะหัวกระต่ายยยยย ฉันไม่รู้จะหาคำอะไรมาด่านายแล้ววววววว ไอ้ชั่วววว T___T” ร่างบางเดินไปหยิบที่เป่าผมมาเตรียมจะเดินมาฟาดใส่

     

    “เฮ้ย เล่นแรงไปแล้ว หยุดเลย” คริสที่นอนจุกอยู่ลุกขึ้นจับข้อมืออีกคนก่อนที่ไดร์เป่าผมจะลอยมากระแทกหัว

     

    “นายต้องโดนแบบนี้ ถ้าวันนี้นายไม่ได้ไปนอนโรงพยาบาลฉันก็จะให้นายนอนในห้องน้ำนี่แหละ อ้ะ---”

    ร่างบางตั้งใจผลักอีกคนลงไปบนโซฟาแต่ดันล้มลงไปด้วย ทำให้นอนอยู่บนตัวคริสแบบไม่ได้ตั้งใจ

     

    “...”


     

    หน้าของทั้งสองคนห่างกันไม่กี่เซน



     

    “...”




     

    ไม่มีเสียงใดๆเกิดขึ้น นอกจากเสียงหายใจและสายตาของทั้งสองคนที่ประสานกัน

     







     

    TBC.

     

     



    PS. ไรท์มาแล้วววววว อัพเต็มร้อยแล้วจ้าาาา อิ__อิ จบให้แบบค้างๆกันเลยยย (อย่าเพิ่งเตะไรท์5555555) เจอกันตอนหน้าค้าาา!






    THE★ FARRY
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×