ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ] Sorry, My Juliette [Bumhyuk, WonKyu, TeukChul]

    ลำดับตอนที่ #12 : Sorry,My Juliette - Chapter 12

    • อัปเดตล่าสุด 16 ก.ย. 54


     

    Chapter 12

     

                หลายวันมาแล้วที่ฮยอกแจไม่ได้พบกับคิบอม ฮยอกแจไม่รู้ว่าเขาจะเป็นอย่างไรบ้าง ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ เขาถึงหายตัวไปแบบนั้น แต่ตอนนี้ฮยอกแจไม่กลัวอะไรอีกต่อไปแล้ว

     

                เขารักคิบอม

     

                ฮยอกแจรักคิบอมมากจริงๆ

     

                “ฮยอกแจ” ทงเฮแตะมือบางที่เอาแต่นั่งเงียบมาตลอดเวลาที่มาอยู่บ้านของเขา ฮยอกแจสะดุ้งเฮือกและหลุดออกจากภวังค์ เขาจ้องหน้าทงเฮแล้วเอ่ยถาม

     

                “คุณบอกว่ารู้สึกแปลกๆ มาหนึ่งเดือนแล้วใช่ไหม”

     

                “ใช่” ทงเฮตอบพร้อมกับพยักหน้า

     

                “มันเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่เท่าไร”

     

                “ผมไม่แน่ใจ ขอดูปฏิทินหน่อยสิ” ทงเฮบอกกับฮยอกแจเพราะเขาทิ้งปฏิทินในบ้านไปจนหมดแล้ว ฮยอกแจจึงหยิบโทรศัพท์มือถือให้คนตรงหน้าดู

     

                ทงเฮกดไล่วันย้อนกลับไปทีละวัน...ทีละวัน...

     

                จนกระทั่งวันนั้น

     

                “อาจจะเป็นวันที่ 5 เมษา”

     

                “หลังจากวันสุดท้ายที่คุณเขียนไดอารี่น่ะเหรอ”

     

                ทงเฮไม่แน่ใจอะไรไปมากกว่านั้น แต่ที่ฮยอกแจจำได้แม่นยำเพราะวันสุดท้ายที่ทงเฮเขียนไดอารี่เป็นวันเกิดของเขาเอง เป็นวันที่ฮยอกแจซื้อเจ้าแคนดี้มา

     

                แล้วหลังจากนั้นไม่กี่วัน เขาก็ได้พบกับคิบอม

     

                “คุณจำได้ไหมว่าคืนวันที่ 4 เกิดอะไรขึ้น” คำตอบของทงเฮคือส่ายหน้าช้าๆ

     

                “ผมจำได้แค่ว่า...ผมตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาล”

     

                “โรงพยาบาลอะไร?!

     

                ฮยอกแจเอ่ยถามด้วยใจที่เต้นระทึก บางทีคำตอบทุกอย่างมันอาจจะอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนั้นก็ได้ แต่ทงเฮกลับส่ายหน้าอีกครั้ง ทงเฮนึกไม่ออกเลยว่าโรงพยาบาลที่เขาตื่นขึ้นมาคือที่ไหนกันแน่

     

                ความตกใจทำให้ทงเฮรีบวิ่งออกมาจากที่นั่นและนั่งแท็กซี่กลับมาที่บ้าน

     

                “มันอาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อยในการตามหาว่าคุณเคยแอดมิดเข้าโรงพยาบาลไหน แต่ไม่ต้องห่วงนะทงเฮ ผมจะอยู่ข้างๆ คุณ”

     

                ฮยอกแจเอื้อมมือไปกุมมือที่สั่นเทาของทงเฮเอาไว้ เขาเคยสงสารคิบอมมากที่สุด แต่ตอนนี้ฮยอกแจเห็นแล้วว่าอี ทงเฮต่างหากคือคนที่น่าสงสารมากที่สุด

     

                แม้ฮยอกแจจะเจ็บปวดแค่ไหน แต่เขาก็จะช่วยคิบอมกับทงเฮให้ได้

     

     

     

                ฮยอกแจกลับมาที่บ้านในตอนหัวค่ำ วันนี้มีการแสดงที่โรงเรียนของซองมินและรยออุค ฮีชอลและจองซูจึงพากันไปถ่ายรูปร่วมกับน้องๆ หลานๆ ในบ้านจึงมีเพียงซีวอนที่นั่งคิดอะไรเงียบๆ อยู่คนเดียวเท่านั้น

     

                “ซีวอน...” ฮยอกแจเอ่ยเรียกเพื่อนสนิทพลางนั่งลงข้างๆ กัน

     

                “ไปไหนมาเหรอ นึกว่านายไปงานโรงเรียนของซองมินกับรยออุคเสียอีก”

     

                “เอ่อ...ฉันไปทำธุระมาน่ะ”

     

                ฮยอกแจตอบเลี่ยงๆ ไม่อยากจะพูดถึงเรื่องของทงเฮกับคิบอมเพราะกลัวว่าเพื่อนจะตกใจ และคิดว่าเขาบ้า

     

                “นาย...เชื่อเรื่องพรหมลิขิตไหมฮยอกแจ”

     

                ซีวอนหันมาถาม แววตาของเขาไม่มีความสุขเลย ฮยอกแจมัวแต่สนใจเรื่องของคิบอมกับทงเฮจนลืมนึกไปเลยว่าตั้งแต่วันนั้นเขาก็ไม่เคยเห็นแฟนของซีวอนมาที่บ้านอีก และดูเหมือนว่าเรื่องแต่งงานก็จะเงียบหายไปด้วย

     

                “แล้วนายล่ะ? นายเชื่อหรือเปล่า?” ฮยอกแจย้อนถามกลับไปบ้าง

     

                “ฉันเชื่อ แต่ว่าพรหมลิขิตทำให้เราได้มาเจอกันเท่านั้น แต่ไม่ได้ทำให้เรารักกัน”

     

                “หมายถึง...คยูฮยอนเหรอ?”

     

                ซีวอนพยักหน้าแทนคำตอบ ก่อนจะหันไปมองทางอื่นแล้วเม้มปากแน่น ฮยอกแจรู้สึกว่ารอบๆ ตัวของเขามีแต่คนที่มีความทุกข์ใจ ฮยอกแจอยากทำให้ทุกคนหายจากความเศร้าเหล่านั้น

     

                แต่เขาก็ตระหนักดีว่า...ตัวเองเป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่งเท่านั้น

     

                “สำหรับบางคน ความรักอาจจะเป็นทุกอย่าง แต่ถ้าไม่มีความรักก็ไม่ใช่ว่าเราจะตายเสียหน่อย” ฮยอกแจยื่นมือไปแตะแขนแกร่งของซีวอน

     

                “แต่ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะตาย”

     

                “ซีวอน...”

     

                “จริงๆ นะฮยอกแจ ฉันรู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก ฉันไม่รู้ว่าจะอยู่ได้ยังไงถ้าไม่มีคยูฮยอน”

     

                ฮยอกแจไม่ได้พูดอะไรต่อ ซีวอนคงไม่ได้คิดสั้น ถึงแม้ว่าร่างสูงจะเสียใจแค่ไหน ฮยอกแจก็รู้ดีว่าซีวอนจะไม่ทำร้ายตัวเองเด็ดขาด จู่ๆ ฮยอกแจก็นึกถึงทงเฮขึ้นมา บางทีการที่ซีวอนไปพบทงเฮอาจจะทำให้มุมมองของซีวอนเปลี่ยนไปก็ได้

     

                “พรุ่งนี้นายไปกับฉันนะ” ฮยอกแจเอ่ยบอกทำให้คนตัวสูงหันมาเลิกคิ้วถาม

     

                “ไปไหน?”

     

                “ไปหาเพื่อนคนหนึ่ง เขาเป็นคนที่น่าสงสารมาก คนรักเขาจากไปแล้ว และเหมือนเขาจะเสียใจจนความจำเสื่อม แต่เขาก็ยังอยู่ได้ นายไปหาเขาพร้อมฉันนะซีวอน”

     

     

     

                ที่โรงเรียนมัธยมปลายแห่งหนึ่ง ซองมินและรยออุคเต้นโคฟเวอร์แดนซ์ร่วมกับเพื่อนๆ อยู่บนเวที จองซูและฮีชอลยืนเบียดไหล่กันอยู่หน้าเวที เขาต้องการจะถ่ายภาพของน้องชายและหลานชายของตัวเองให้ออกมาดีที่สุด

     

                “นายจะมาเบียดฉันทำไมจองซู” ฮีชอลหันมาตวัดเสียงถาม

     

                “ใครกันแน่ที่เบียด ถอยไปนะ ฉันจะถ่ายรูปซองมิน”

     

                “แต่ฉันจะถ่ายวิดีโอหลานชายของฉัน นายนั่นแหละที่ถอยไป”

     

                “คิม ฮีชอล!” จองซูตะโกนเรียกชื่อของอีกฝ่ายอย่างไม่เกรงใจผู้ปกครองคนอื่น

     

                “ทำไม...ปาร์ค จองซู!

     

                แต่มีหรือที่ฮีชอลจะยอมแพ้ จองซูตะโกนได้ เขาเองก็ตะโกนได้เหมือนกัน ทั้งคู่ทะเลาะกันไปเรื่อยๆ จนกระทั่งการแสดงจบลง ในที่สุดก็ถ่ายรูปหลานและน้องของตัวเองได้แค่ไม่กี่ภาพเท่านั้น

     

                “สวัสดีครับอาฮีชอล” ซองมินโค้งศีรษะทักทายฮีชอล พลางกอดเอวของจองซูแน่น

     

                “พี่จองซู สวัสดีครับ” รยออุคก็เดินมาโค้งศีรษะให้จองซูแล้วเดินไปยืนฝั่งเดียวกับฮีชอลเช่นเดียวกัน

     

                “แสดงกันเสร็จแล้วเหรอ?” ฮีชอลหันไปเอ่ยถามหลานชายของตัวเอง

     

                “ใช่แล้วครับ” รยออุคตอบ

     

                “แต่อายังไม่ได้ถ่ายวิดีโอรยออุคเลยอ่ะ”

     

                “ก็อาฮีชอลมัวแต่ทะเลาะกับพี่จองซูนี่ครับ”

     

                ซองมินเอ่ยบอก ก่อนจะหันไปหารยออุคและส่งเสียงหัวเราะให้แก่กัน แต่ฮีชอลกลับหันมามองจองซูแล้วต่อว่าขึ้นด้วยความหงุดหงิด

     

                “เพราะนายคนเดียวที่ทำให้ฉันไม่ได้ถ่ายวิดีโอ”

     

                “นายนั่นแหละที่ทำให้ฉันไม่ได้ถ่ายรูปซองมิน”

     

                “เพราะนายนั่นแหละจองซู”

     

                “เพราะนายต่างหาก”

     

                ทั้งคู่ทะเลาะกันเป็นเด็กๆ จนซองมินกับรยออุคต้องดึงแขนพี่ชายออกไปขึ้นรถกันคนละทาง บางทีความบาดหมางที่ยืดเยื้อมาหลายปีคงต้องมีมือที่สามเข้ามาช่วยแก้ไขบ้างแล้ว

     

                ขืนให้ฮีชอลและจองซูปรับความเข้าใจกันเอง

     

                คงได้ทะเลาะกันไปจนถึงชาติหน้าแน่ๆ

     

     

     

                “คยูฮยอน อาทิตย์หน้าเราก็จะแต่งงานกันแล้วนะ”

     

                ยองอุนเอ่ยขึ้น แต่ก่อนจะถึงวันนั้นพวกเขายังต้องซื้อแหวน จัดเตรียมสถานที่และเชิญคนรู้จักมาให้ครบถ้วน อีกทั้งยองอุนยังอยากตกแต่งบ้านใหม่ให้คยูฮยอนอีกด้วย

     

                สีเขียวที่คยูฮยอนชอบมันซีดจางลงไปตามกาลเวลา

     

                ยองอุนอยากจะทำทุกๆ อย่างให้มันกลับมาสดใสอีกครั้ง

     

                “เราจะต้องมีความสุขกันมากๆ ใช่ไหมครับ?”

     

                “แน่นอนอยู่แล้ว พี่จะทำให้คยูฮยอนเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในโลก”

     

                “ผมก็คิดว่าอย่างนั้น”

     

                คยูฮยอนเอนศีรษะซบลงกับไหล่แข็งแรงของยองอุน แต่ดวงตาคู่หม่นกลับก้มดูหน้าจอโทรศัพท์หลายต่อหลายครั้ง ถึงแม้จะเป็นแค่เบอร์สาธารณะ แต่มันก็ทำให้คยูฮยอนมีความหวัง

     

                เขาอยากให้เบอร์นั้นโทรเข้ามาอีก

     

                แต่มันกลับไม่มีเลย

     

                “หลังจากแต่งงาน เราไปฮันนีมูนกันนะ” ยองอุนว่า แต่คยูฮยอนกลับไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบ

     

                ถ้ามีใครสักคนที่ไม่ดี มันคงทำให้คยูฮยอนเลือกง่ายกว่านี้

     

                แต่ยองอุนก็รักเขา และซีวอนก็แสนดีเหลือเกิน

     

                คยูฮยอนอยากจะรักผู้ชายทั้งสองคนนี้ไปพร้อมๆ กัน แต่ความจริงมันก็คือความจริงวันยังค่ำ เขาไม่มีทางจะมอบความรักให้กับคนสองคนพร้อมกันได้

     

                “คยูฮยอน!” เสียงเรียกของยองอุนทำให้คยูฮยอนสะดุ้งเฮือก

     

                “วะ...ว่าไงครับ?”

     

                “พี่บอกว่า...เราไปฮันนีมูนกันนะ”

     

                “ได้สิครับ พี่ยองอุนอยากไปที่ไหนล่ะครับ ผมไปได้หมด”

     

                คยูฮยอนบอกเหมือนคนที่ไร้ซึ่งวิญญาณ ยองอุนไม่ได้พูดต่อ รู้สึกเหมือนโดนตีแสกหน้า เขาอยากให้คยูฮยอนเป็นฝ่ายเลือกว่าจะไปฮันนีมูนกันที่ไหน อยากให้คยูฮยอนตื่นเต้นกับการไปท่องเที่ยวหลังแต่งงานของพวกเขา

     

                แต่คยูฮยอนไม่มีความสุขเลย

     

                และ...คิม ยองอุนก็ไม่ได้มีความสุขกับการครอบครองร่างที่ไร้หัวใจของคยูฮยอนเช่นเดียวกัน

     

    To be continue…

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×