ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ] Sorry, My Juliette [Bumhyuk, WonKyu, TeukChul]

    ลำดับตอนที่ #13 : Sorry,My Juliette - Chapter 13

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 692
      1
      17 ก.ย. 54

     

    Chapter 13

     

                ฮยอกแจขับรถยนต์ไปหาทงเฮที่บ้านทุกวันจนกลายเป็นกิจวัตรประจำวันของเขาเสียแล้ว ถึงจะช่วยอะไรทงเฮไม่ค่อยได้ แต่อย่างน้อย...ขอให้ได้อยู่เป็นเพื่อนก็ยังดี

     

                “เขาไม่มีเพื่อนคนอื่นเลยเหรอ?”

     

                คนตัวโตที่นั่งข้างๆ กันเอ่ยถาม ซีวอนนั่นเองที่ติดรถฮยอกแจไปหาทงเฮด้วย คำพูดของฮยอกแจทำให้เขาเองก็อยากรู้จักทงเฮเช่นกัน

     

                “ไม่รู้สิ เขาความจำเสื่อมน่ะ”

     

                “ความจำเสื่อม?”

     

                ฮยอกแจพยักหน้านิ่งๆ แต่ซีวอนกลับย่นคิ้วอย่างแปลกใจ

     

                “คงจะลำบากมากเลย” ซีวอนว่าพลางนึกถึงใบหน้าของคนที่ชื่อทงเฮไปด้วย

     

                จะสูงหรือเปล่า

     

                จะผอมหรืออ้วน

     

                จะขาวหรือดำ

     

                คิดไปต่างๆ นานา หากแต่สุดท้ายก็หลุดขำกับความคิดบ้าๆ ของตัวเอง อีกไม่กี่นาทีก็จะได้พบกันอยู่แล้ว ไม่รู้จะคิดให้เปลืองพื้นที่ในสมองไปทำไมกัน

     

                “ฮยอกแจ...”

     

                ซีวอนอยากจะถามอะไรบางอย่าง แต่เขาไม่กล้า

     

                ไม่กล้าที่จะฟังคำตอบนั้น

     

                “มีอะไร? เรียกทิ้งเรียกขว้าง!” ฮยอกแจหันมาบอก ก่อนจะหักพวงมาลัยเลี้ยวออกนอกเมือง

     

                “มีลูกค้าที่ร้านที่ชื่อ...คยูฮยอน นายรู้ไหมว่า...”

     

                ฮยอกแจหันขวับไปมองเพื่อน เขาจำได้แม่นยำแม้ว่าจะไม่ใช่คนต้อนรับลูกค้า วันนั้นฮยอกแจไม่อยู่ แต่หลังจากนั้นเขาก็ได้ยินฮีชอลพูดถึงคู่แต่งงานที่ชื่อยองอุนกับคยูฮยอนทุกวัน

     

                ไม่คิดมาก่อนว่าจะเป็น...

     

                คยูฮยอน...ที่ซีวอนรัก

     

                “มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ยังไง เขาบอกว่าจะแต่งงานกับนาย แต่เขาไปแต่งกับคนอื่นเนี่ยนะ ฉันล่ะไม่อยากเชื่อเลยจริงๆ” ฮยอกแจก็บ่นไปตามประสา แต่ดวงตาของซีวอนกลับเศร้าสร้อยมากกว่าเดิม

     

                “คนที่คยูฮยอนรักมาก่อนคือคุณยองอุน ไม่ใช่ฉัน” ซีวอนบอกอย่างยอมแพ้

     

                “ถ้าเป็นฉัน ฉันจะรักคนที่มาทีหลัง”

     

                “ทำไม?”

     

                “เพราะว่าถ้าเราสามารถรักอีกคนได้ นั่นหมายถึงเราหมดรักกับคนเก่าไปแล้ว”

     

                “คนเราไม่เหมือนกันหรอกนะฮยอกแจ คยูฮยอนเขารักยองอุนมากจริงๆ”

     

                หลังจากสิ้นประโยคของซีวอนก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมากันอีกเลย ซีวอนคิดว่าระหว่างเขากับคยูฮยอนมันเป็นแค่ความผูกพันเท่านั้น เป็นแค่ความรู้สึกดีๆ ที่มอบให้กันในวันที่คยูฮยอนไม่เหลือใครเลย

     

                “แล้วตกลงเขาแต่งงานกันวันไหนเหรอ?”

     

                ในที่สุดก็ถามออกไปจนได้ รู้ทั้งรู้ว่าคำตอบมันจะทำให้เจ็บ

     

                แต่ก็ยังอยากรู้

     

                อยากเห็นวันที่คยูฮยอนสวมชุดแต่งงาน และยิ้มให้กับแขกเหรื่อที่มาร่วมอวยพรอย่างมีความสุข

     

                “อีกสามวันน่ะ”

     

                ซีวอนแทบกลั้นหายใจ

     

                มันช่างรวดเร็วเหลือเกิน...

     

                คยูฮยอนคงจะรีบลบเลือนความทรงจำที่มีต่อเขาไปให้เร็วที่สุด

     

                มันดีแล้ว...มันดีแล้วที่เรื่องทุกอย่างจะจบลงแบบนี้ ซีวอนคิดเช่นนั้น แต่หัวใจกลับไม่ได้คิดตามด้วยเลย

     

     

     

                ฮยอกแจจอดรถที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง ทั้งคู่ลงจากรถและกดออดเพียงหนึ่งครั้ง ทงเฮก็เดินออกมาเปิดประตูให้ ทงเฮกำลังจะยิ้มทักทายฮยอกแจ ทว่าดวงตาคู่สวยกลับเหลือบไปเห็นซีวอนเสียก่อน

     

                “นี่ซีวอน...เพื่อนผมเอง” ฮยอกแจเบี่ยงตัวหลบและแนะนำซีวอนให้ทงเฮรู้จัก

     

                “สวัสดีครับคุณทงเฮ” ทงเฮเลิกคิ้ว

     

                รู้จักชื่อของเขาได้อย่างไรกัน

     

                “ฮยอกแจบอกผมตั้งแต่แรกแล้วว่าจะมาหาคุณ”

     

                ทงเฮพยักหน้า ก่อนจะเชิญทั้งสองคนเข้าไปด้านใน ทงเฮเปิดอินเทอร์เน็ตและค้นหาเบอร์โทรศัพท์ของโรงพยาบาลทั่วกรุงโซล

     

                เริ่มจากโรงพยาบาลใหญ่ๆ ก่อน

     

                ฮยอกแจและซีวอนช่วยกันโทรศัพท์ไปสอบถามว่ามีคนชื่อทงเฮเคยพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหรือไม่

     

                “มีคนไข้ชื่อทงเฮเข้ารับรักษาตัวที่โรงพยาบาลนี้บ้างหรือเปล่าครับ” ซีวอนกรอกเสียงลงไป

     

                [เราเปิดเผยข้อมูลคนไข้ไม่ได้จริงๆ ค่ะ ขอโทษนะคะ]

     

                บางโรงพยาบาลก็ไม่ยอมให้ข้อมูลใดๆ ในขณะที่บางโรงพยาบาลก็บอกว่าไม่มีคนไข้ชื่อนี้มาก่อน วิธีที่พวกเขาทำอยู่มันอาจจะไม่ได้ผล

     

                แต่ฮยอกแจก็ไม่ได้ถอดใจ เขากดโทรศัพท์ออกไปยังโรงพยาบาลอีกหลายแห่ง ทว่าเสียงโทรศัพท์ที่โทรเข้ามาทำให้ฮยอกแจสะดุ้งเฮือก

     

                “ครับ พี่ฮีชอล”

     

                [เด็กเหลวใหล ไหนบอกว่าจะไม่โดดงานอีกไง]

     

                “คือผม...” ฮยอกแจกำลังจะแก้ตัว แต่ดูเหมือนจะไม่ทันฝีปากของฮีชอ

     

                [รีบๆ กลับมาช่วยงานที่ร้านเลยนะ วันนี้ร้านยุ่งมาก รยออุคอยู่แต่ช่วยอะไรพี่ไม่ได้เลย]

     

                พูดจบก็วางสายไปโดยไม่รอฟังคำปฏิเสธจากฮยอกแจเลย ฮยอกแจค่อยๆ ลดโทรศัพท์ลง ก่อนจะหันไปบอกอีกสองคนที่ยังนั่งคุยโทรศัพท์อยู่

     

                “คือ...ฉันต้องกลับไปทำงานน่ะ ซีวอนจะกลับพร้อมกันเลยหรือเปล่า” ฮยอกแจเอ่ยถามอย่างเกรงใจ แต่ดูเหมือนซีวอนก็อยากจะอยู่ช่วยทงเฮด้วยเช่นกัน

     

                “นายไปเถอะ เดี๋ยวฉันจะอยู่เป็นเพื่อนทงเฮเอง เลิกงานแล้วค่อยกลับมาก็ได้”

     

                ฮยอกแจไม่รู้ว่ามันสมควรหรือไม่ที่เขาจะทิ้งซีวอนให้อยู่ที่นี่ แต่ในที่สุดก็รีบร้อนขับรถยนต์ออกไป ในบ้านจึงเหลือเพียงซีวอนและทงเฮ...

     

                ที่นั่งอยู่ท่ามกลางความเงียบเท่านั้น

     

                “ค...คุณซีวอนทานอะไรมาหรือยังครับ?” ทงเฮหันมาเอ่ยถามเมื่อคิดว่าเขาควรจะชวนซีวอนคุยอะไรสักอย่าง

     

                “ยังเลยครับ ตื่นเช้าก็ถูกฮยอกแจลากมาที่นี่แล้ว”

     

                “คุณอยู่บ้านเดียวกันเหรอ?!” ทงเฮเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ

     

                “แค่ชั่วคราวน่ะครับ พอดีผมมีปัญหาชีวิตนิดหน่อย”

     

                ซีวอนลืมเรื่องอาหารที่ทงเฮถามไปชั่วขณะ ทั้งคู่ต่างเล่าชีวิตของตัวเองให้อีกฝ่ายฟังอย่างไม่ปกปิด เล่าให้ฟัง...ราวกับว่าเป็นเพื่อนที่รู้จักและสนิทสนมกันมานาน

     

                ในที่สุดความเคอะเขินก็ค่อยๆ จางหายไป

     

                เหลือเพียงความเห็นใจ ความเป็นห่วง และ...ความรู้สึกดีๆ ให้กับคนตรงหน้า

     

                “เกือบลืมไปแน่ะ เดี๋ยวผมไปหาอะไรให้คุณทานดีกว่า ที่บ้านมีขนมปังอยู่บ้าง คุณทานได้ไหม?”

     

                “ยังไงก็ได้ครับ” ซีวอนบอกอย่างเกรงใจ ครั้นจะลุกตามไปช่วย ทงเฮก็ส่งเสียงร้องห้ามเอาไว้ ไม่นานนักทงเฮก็เดินกลับมาพร้อมกับขนมปังปิ้งหอมฉุยและน้ำหวานเย็นๆ อีกสองแก้ว

     

                “ปกติผมทำอาหารทานเอง แต่ถ้าต้องทำให้คุณทาน ผมกลัวจะทำให้คุณท้องเสีย” ทงเฮบอก ก่อนจะวางจานขนมปังปิ้งลงบนโต๊ะ

     

                “คุณก็ใช้ใจทำอาหารสิ” ซีวอนแนะนำ ไม่ได้คิดจะละลาบละล้วงแต่อย่างใด

     

                “ต่อให้ใช้ใจแค่ไหน ถ้าฝีมือไม่ดีมันก็ไม่อร่อยหรอก” ทงเฮหัวเราะเบาๆ ก่อนจะหยิบขนมปังยื่นให้คนตรงหน้า ทั้งคู่พูดคุยกันในหลายๆ เรื่อง

     

                จนซีวอนลืมไปแล้วว่าเขามาที่บ้านทงเฮเพื่อทำอะไร

     

     

     

                “ดูมันสิ เป็นหลานที่ประเสริฐมาก ให้มาช่วยงานที่ร้าน กลับมาใช้โทรศัพท์ของร้านคุยกับแฟน”

     

                ฮีชอลบ่นหลานชายตัวแสบที่คุยโทรศัพท์จ๊ะจ๋ากับน้องชายคนเล็กของร้านฝั่งตรงข้ามกัน ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมจะต้องโทรศัพท์คุยด้วย

     

                เดินออกมานั่งคุยกันไม่ดีกว่าหรือไง

     

                แถมยังส่งเสียงกระซิบกระซาบราวกับว่าเรื่องที่คุยเป็นความลับ

     

                “ฮยอกแจมาพอดีเลย ไปวัดตัวลูกค้าคู่นั้นให้พี่หน่อย” ฮีชอลหันไปบอกลูกจ้างที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามา ฮยอกแจจึงวิ่งวุ่นไปทั่วร้าน

     

                แต่ก็ดีเหมือนกัน

     

                จะได้ไม่ต้องมีเวลาเหลือให้คิดอะไร

     

                “พี่ฮยอกแจกลับมาแล้ว เมื่อกี้หายไปไหนมาก็ไม่รู้ อาฮีชอลเดือดใหญ่เลย”

     

                รยออุคยกมือป้องปากรายงานความคืบหน้าของร้านตัดชุดแต่งงานที่ตัวเองนั่งอยู่

     

                [ตอนนี้พี่จองซูก็ยุ่งเหมือนกัน เขาแขวนป้ายหน้าร้านว่า close เพราะบอกว่าทำงานส่งลูกค้าไม่ทันแล้ว]

     

                “ถ้าเป็นแบบนี้แผนที่เราวางไว้ต้องไม่สำเร็จแน่เลยซองมิน”

     

                รยออุคส่งเสียงเศร้าสร้อยออกไป เหล่มองฮีชอลที่พูดคุยต้อนรับลูกค้า ก่อนจะหันมาให้ความสนใจกับคนในโทรศัพท์อีกครั้ง

     

                [งั้นรอตอนเย็นดีไหม?]

     

                “ได้ไงล่ะ ตอนเย็นเราจะไปเดทกันไม่ใช่เหรอ?” รยออุคร้องท้วง

     

                [งั้นวันนี้ไปเดทกันก่อน แล้วระหว่างนั้นค่อยคิดหาแผนใหม่ก็แล้วกัน]

     

                แทนที่จะช่วยกันคิดหาวิธีทำให้น้าชายและพี่ชายคืนดีกัน ซองมินกับรยออุคกลับหยอดน้ำตาลใส่กันอย่างไม่แคร์สายตาคนอื่น           

     

                แล้วอย่างนี้เมื่อไรจองซูกับฮีชอลก็คืนดีกันได้สักที

     

     

     

                ฮยอกแจกลับมาที่บ้านของทงเฮอีกครั้งหลังจากร้านปิดแล้ว พอกำลังจะเดินเข้าไปในบ้าน ก็พบว่าคิบอมยืนจ้องมองซีวอนกับทงเฮนั่งหลับคอพับกันอยู่บนโซฟา

     

                ดวงตาคู่นั้นไม่ได้แสดงความโศกเศร้าเสียทีเดียว

     

                แต่ก็ไม่ได้แสดงความยินดีออกมาอย่างชัดเจน

     

                มันเป็นสายตาที่คาดเดายากเหลือเกิน ฮยอกแจเดินเข้าไปแล้วแตะท่อนแขนแกร่งจากด้านหลังเบาๆ

     

                “คิบอม”

     

                “คุณกลับมาแล้วเหรอ?”

     

                “คุณหายไปไหนมาตั้งหลายวัน แล้ววันนั้นเกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ๆ คุณก็หายตัวไป”

     

                แทนที่ฮยอกแจจะตอบคำถามคิบอมก่อน ร่างบางกลับยิงคำถามรัวใส่คนตรงหน้า ยังมีคำถามอีกมากมายที่ฮยอกแจอยากรู้ แต่เขาก็ลืมเลือนไปหมดเมื่อพบคิบอมอีกครั้ง

     

                แค่นี้ฮยอกแจก็ดีใจมากเหลือเกิน

     

                “ทงเฮกับซีวอนคงเหนื่อยน่ะ เขาโทรศัพท์หาโรงพยาบาลที่ทงเฮเคยเข้าพักกันทั้งวัน”

     

                ฮยอกแจบอก ก่อนจะเดินไปเอื้อมมือปลุกเพื่อนสนิทตัวสูง ทว่าคิบอมกลับแตะไหล่บางเอาไว้

     

                “อย่าเพิ่งไปปลุกเขาเลย”

     

                “ทำไมล่ะ?”

     

                “ก็คุณบอกว่าเขาเหนื่อยไม่ใช่เหรอ อย่าไปรบกวนพวกเขาเลย”

     

                คิบอมบอกพลางมองทงเฮที่ค่อยๆ เอนศีรษะลงมาซบกับไหล่หนาของซีวอน ฮยอกแจคิดว่าเขาควรจะทำอะไรสักอย่างกับสถานการณ์ตรงหน้า แต่มันติดตรงที่คิบอมจับไหล่เขาไว้อยู่

     

                “คุณ...หึงหรือเปล่า?” เสียงหวานเอ่ยถาม พลางแอบมองใบหน้าของคิบอมที่มีแต่ความเรียบเฉย

     

                “ผมต้องหึงอะไร?” เขาถามกลับ ฮยอกแจส่ายหน้าเบาๆ

     

                “ไม่รู้สิ คนรักของตัวเองนอนซบผู้ชายคนอื่น บางทีอาจจะไม่หึง...แต่หวง”

     

                “คงงั้นมั้ง!” คิบอมบอก ก่อนจะเดินไปนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับทงเฮ

     

                ซีวอนสะดุ้งตื่นขึ้นมาพอดี เขาหันไปดูน้ำหนักที่กดทับไหล่แข็งแรงของตัวเอง ก่อนจะตกใจก่อนขยับตัวหนี ทำให้ทงเฮก็สะดุ้งตื่นตามมาด้วย

     

                “กลับมานานแล้วเหรอฮยอกแจ” ซีวอนถามขึ้นพลางลูบหน้าตาของตัวเองให้หายงัวเงีย

     

                “เปล่า เพิ่งมาน่ะ”

     

                “แย่จังครับ ผมเผลอหลับไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้” ทงเฮบ่นที่ทำตัวไม่ค่อยได้เรื่อง ฮยอกแจจึงเดินไปยืนข้างๆ ระหว่างกลางที่ทงเฮกับคิบอมนั่งอยู่

     

                “ทงเฮ...คิบอมอยู่ตรงนี้นะ” ฮยอกแจชี้ไปที่เก้าอี้ที่ว่างเปล่า ทงเฮรู้สึกขนลุกขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ ในขณะที่ซีวอนกลับนั่งอึ้ง

     

                ฮยอกแจหมายความว่ายังไง

     

                “ทงเฮ ผมอยู่นี่!” คิบอมบอกทั้งๆ ที่เขารู้ดีว่าทงเฮไม่มีวันจะได้ยิน

     

                “คิบอม...เราเป็นคนรักกันใช่ไหม คุณคือคนรักของผมใช่ไหม” ทงเฮถามอากาศตรงหน้า คิบอมพยักหน้าและเอ่ยขึ้น

     

                “ผมยังรักคุณเหมือนเดิมนะทงเฮ ไม่ว่าคุณจะจำผมได้หรือเปล่า ผมก็จะรักคุณอยู่อย่างนี้”

     

                ฮยอกแจหันไปบอกทงเฮในทุกๆ ถ้อยคำที่ร่างสูงเอ่ยบอกกับคนรักของเขา

     

                “คิบอมยังรักคุณเหมือนเดิม ไม่ว่าคุณจะจำเขาได้หรือไม่ เขาก็จะรักคุณ”

     

                แม้ว่ามันจะเป็นเพียงการส่งต่อคำพูดจากคิบอมให้ทงเฮได้รับรู้ แต่ฮยอกแจกลับบังคับน้ำเสียงของตัวเองไม่ให้สั่นไม่ได้ เขารู้สึกเจ็บเมื่อต้องพูดคำนั้น

     

                แววตาที่คิบอมมองทงเฮ

     

                มันทั้งดูอบอุ่นและเศร้าสร้อยมากเหลือเกิน

     

                “ผมจะจำคุณให้ได้ คิบอม...ได้ยินไหม ผมจะจำความรักของเราให้ได้นะ”

     

                ทงเฮร้องไห้พร้อมกับยื่นมือบางไปตรงหน้า คิบอมยื่นมือมากุมมือของทงเฮเอาไว้ แต่ก็ทำให้แค่ให้มันใกล้ชิดกันเท่านั้น ทงเฮไม่ได้รู้สึกถึงการมีตัวตนของอีกฝ่ายเลยแม้แต่นิดเดียว

     

    To bo continue…

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×