ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [The Last Fic SJ] ----oooo 'หลงรัก' >>> EunHae, WonKyu

    ลำดับตอนที่ #15 : Chapter 14 ของขวัญ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.07K
      5
      7 ส.ค. 54

     

    Chapter 14

    ของขวัญ

     

                “ทงเฮว่าป๊าจะสร้างชิงช้าไว้ตรงไหนดี?”

     

                ฮยอกแจเอ่ยถามลูกชายในขณะที่นอนเล่นอยู่กลางบ้าน วันนี้เป็นวันเกิดของทงเฮ แต่เป็นวันที่ฮยอกแจมีความสุขมากที่สุดในชีวิต

     

                ทงเฮนอนหนุนตักเขา

     

                “ทงเฮไม่อยากได้ชิงช้าหรอกครับ”

     

                “ตอนเด็กๆ ทงเฮชอบเล่นชิงช้ามากเลยรู้ไหม ป๊าต้องไปยืนรอลูกเล่นชิงช้าที่โรงเรียนจนนักเรียนคนอื่นๆ กลับบ้านกันหมดแล้ว ทงเฮก็ยังไม่ยอมกลับ” ฮยอกแจบอก นึกถึงอดีตที่ทงเฮยังตัวเล็กๆ ขนาดที่เขาสามารถอุ้มไปไหนมาไหนได้

     

                “แล้วป๊าทำยังไงให้ทงเฮยอมกลับบ้านล่ะ?” ทงเฮเอ่ยถาม เขาพยายามนึกถึงความทรงจำตอนเด็กๆ

     

                แต่มันกลับไม่หลงเหลืออยู่เลย

     

                บางทีช่วงเวลาที่พ่อพูดถึงอาจจะเป็นช่วงที่เขายังจำความไม่ได้

     

                “ป๊าก็เอาของขวัญมาล่อทงเฮไง ทงเฮชอบที่จะแกะกระดาษห่อของขวัญ ลูกบอกว่ามันสนุกดีเวลาที่ได้ลุ้นว่าในกล่องของขวัญมีอะไรซ่อนอยู่”

     

                “นั่นสินะครับ ขนาดโตแล้วทงเฮก็ยังชอบที่จะแกะกระดาษห่อของขวัญอยู่เลย”

     

                ริมฝีปากอิ่มคลี่ยิ้มบางๆ ก่อนจะถือเครื่องนับก้าวไว้แนบอก แล้วพลิกตัวหันหน้าไปซบกับเอวแกร่งของผู้เป็นพ่อ ฮยอกแจเอื้อมมือมาลูบผมนุ่มของลูกชายด้วยความรักใคร่ ทงเฮรู้สึกไม่กลัวอันตรายใดๆ เลยสักนิดหากมีปะป๊าฮยอกแจอยู่กับทงเฮแบบนี้

     

                ครืด...ครืด...

     

                เสียงโทรศัพท์ที่สั่นอยู่บนโต๊ะทำให้ฮยอกแจหันไปมอง ร่างโปร่งก้มลงมองลูกชายอีกครั้งก็พบว่าทงเฮผล็อยหลับไปแล้ว เขาจึงหาหมอนนุ่มๆ มารองแทนตักของตัวเอง ก่อนจะเดินไปรับโทรศัพท์ในห้อง

     

                [ออกมาหาฉันเดี๋ยวนี้!]

     

                เสียงทุ้มที่ดังขึ้นทำให้ฮยอกแจเม้มปากแน่น

     

                ฮันกยอง...

     

                “ผม...ออกไปไม่ได้”

     

                [งั้นก็เลือกแล้วกันว่าจะออกมาหาฉัน หรือจะให้ฉันไปรับที่บ้านพร้อมกับลูกชาย คงสนุกพิลึกนะถ้าได้ทำพร้อมกันทั้งพ่อทั้งลูก]

     

                โทรศัพท์ถูกตัดสายไปโดยที่ฮยอกแจไม่ทันได้พูดอะไรมากไปกว่านั้น ร่างโปร่งยืนนิ่งเกร็งอยู่ในห้อง นึกเป็นห่วงลูกชายมากที่สุด

     

                ถ้าฮันกยองมาถึงที่นี่ มันจะไม่ใช่แค่ทงเฮถูกจับตัวไป แต่ทงเฮก็จะรู้ความจริงด้วยว่าอาชีพที่เขาทำมาตลอดนั้นคืออะไร

     

                ถ้าทงเฮรู้...

     

                ชีวิตของฮยอกแจก็จะจบสิ้นและไม่เหลืออะไรอีกแล้ว

     

                คงสนุกพิลึกนะถ้าได้ทำพร้อมกันทั้งพ่อทั้งลูก

     

                เสียงของฮันกยองดังขึ้นอีกครั้งในห้วงความคิด ฮยอกแจขนลุกเกรียว ร่างโปร่งทรุดนั่งลงบนเตียงอย่างหมดแรง เขากำลังหวาดระแวงกับทุกสิ่งรอบๆ ตัว

     

                “ป๊า!

     

                ฮยอกแจสะดุ้งเฮือกเมื่อเสียงเรียกของทงเฮดังอยู่ด้านนอก ไม่คิดว่าทงเฮจะตื่นขึ้นมาเร็วขนาดนี้

     

    หรือว่า...ทงเฮจะได้ยินเขาคุยโทรศัพท์หมดแล้ว

     

                “มะ...มีอะไรเหรอทงเฮ?” ฮยอกแจเปิดประตูออกไปถาม

     

                “ป๊าเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมหน้าซีดจัง” ทงเฮจะเอื้อมมือไปแตะใบหน้าของคนเป็นพ่อ หากแต่ฮยอกแจกลับก้าวหนีอย่างลืมตัว มือบางของทงเฮจึงค้างอยู่เช่นนั้น

     

                “ป๊า...เอ่อ...ไม่เป็นไร เมื่อกี้ทงเฮเรียกป๊าทำไมเหรอ?”

     

                “ทงเฮจะออกไปฉลองวันเกิดกับเพื่อนครับ แต่ถ้าป๊าไม่...”

     

                “ไปสิลูก!

     

                ทงเฮช้อนตาขึ้นมองพ่ออย่างตกใจ ฮยอกแจไม่เคยปล่อยให้เขาไปเที่ยวกลางคืนง่ายๆ แบบนี้มาก่อน ตอนแรกคิดว่าจะต้องโดนพ่อดุแน่ๆ ที่ขออนุญาตในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้

     

                แต่คำพูดของฮยอกแจกลับทำให้ทงเฮยิ่งสงสัย

     

                “ทงเฮออกไปได้จริงๆ ใช่ไหม?”

     

                ทงเฮระบายรอยยิ้มกว้างอย่างน่ารักน่าชัง หากแต่คนเป็นพ่อกลับจ้องมองลูกชายอย่างนึกสงสาร มือหนาเอื้อมไปสัมผัสพวงแก้มใสอย่างแผ่วเบา น้ำตาอุ่นค่อยๆ เอ่อคลอขึ้นมาจนเขาต้องรีบหันกลับไป

     

                “อย่ากลับมาดึกนักนะลูก”

     

                “คะ...ครับ”

     

                ทงเฮรับคำอย่างตะกุกตะกัก ก่อนจะรีบวิ่งออกไปเมื่อรถยนต์คันหนึ่งจอดอยู่หน้าบ้าน ฮยอกแจยืนนิ่ง ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาช้าๆ

     

                “เราจะต้องเข้มแข็งนะฮยอกแจ...เราจะต้องเข้มแข็ง”

     

                ฮยอกแจกับตัวเองให้รู้สึกอย่างนั้น แต่เขากลับทำอย่างที่พูดไม่ได้เลย

     

                ห้านาทีผ่านไป...

     

                รถยนต์สีดำสนิทจอดลงที่หน้าบ้านของฮยอกแจ คนขับรถก้าวลงมาแล้วเปิดประตูออก ฮันกยองกำลังนั่งคอยอยู่บนรถด้วยใบหน้าเรียบเฉย ฮยอกแจก้าวเดินไปขึ้นรถช้าๆ

     

                เขาพร้อมแล้ว!

     

                “เอาลูกไปซ่อนไว้ที่ไหนล่ะ?”

     

                ฮันกยองกระซิบถามข้างหู มือแกร่งข้างหนึ่งโอบไหล่ของฮยอกแจเอาไว้ ส่วนอีกข้างก็สอดเข้าไปสัมผัสเนื้อเนียนภายใต้เสื้อตัวบาง

     

                “ผมไม่ได้ซ่อน คุณอย่ายุ่งกับทงเฮเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นผมไม่ปล่อยคุณไว้แน่”

     

                “ขู่ฉันเหรอ?” ฮันกยองเอียงคอถาม ริมฝีปากหยักขบเม้มกกหูจนฮยอกแจต้องเอียงหนีอย่างรังเกียจ

     

                “ผมไม่ได้ขู่ แต่ถ้าคุณยุ่งกับทงเฮ...”

     

                “หึหึ ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ฉันยังไม่เบื่อของเล่นชิ้นนี้เลย”

     

                ฮันกยองเชยคางมนของฮยอกแจขึ้นไปขบกัดริมฝีปากบางจนห้อเลือด เมื่อเขาถอนปากออก ฮยอกแจก็เม้มปากของตัวเองแน่น

     

                ฮยอกแจอยากจะหลับตาหลบหนีความโหดร้ายตรงหน้า แต่ถ้าหากเขาหลับตาลง ฮยอกแจก็เกรงว่าฮันกยองจะทำอะไรที่น่ากลัวกว่าที่เขาคิด

     

                “วันนี้ฉันไม่ทำอะไรหรอก แค่ต้องการคนไปนั่งดื่มเป็นเพื่อนเท่านั้น”

     

                เขาบอกว่าจะไม่ทำอะไร ทว่าในขณะที่รถยนต์กำลังเคลื่อนไปทางไนต์คลับนั้น ฮันกยองก็บังคับให้ฮยอกแจใช้ปากกับส่วนนั้นของเขาจนเสร็จสมไปไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ

     

                ฮยอกแจไม่ได้แสดงความเจ็บปวด...แม้จะเจ็บปวด

     

                ไม่ได้แสดงความหวาดกลัว...แม้จะหวาดกลัว

     

                เพราะคำว่า...เงิน

     

    ฮยอกแจจึงต้องยอมทำทุกๆ อย่าง

     

                เพื่อเงิน... เพื่ออี ทงเฮ...

     

     

                “คุณหมอยกให้ผมจริงๆ เหรอครับ?”

     

                ทงเฮเดินไปรอบๆ ห้องที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สีขาวทันสมัย แม้ซีวอนจะบอกว่าเขาซื้อคอนโดนี้ไว้นานแล้ว แต่ทงเฮก็อดตื่นเต้นไปกับสิ่งที่เห็นไม่ได้

     

                “เอาไว้เวลาที่เรานัดเจอกันไง”

     

                ซีวอนรั้งเอวบางเข้ามาแนบชิด ยิ่งเห็นทงเฮหันหน้าหลบหนีด้วยท่าทางเขินอาย ซีวอนก็ยิ่งอยากโน้มลงไปหอมพวงแก้มใสสักฟอดใหญ่

     

                “อ๊ะ! คุณหมอ...” ทงเฮครางกระเส่า สัมผัสแค่บางเบาก็ทำให้เขาขนลุกชันได้แล้ว มือบางพยายามปัดป่ายและผลักไสร่างกายกำยำออกห่าง

     

                แต่ยิ่งสัมผัสก็ยิ่งหลงไหลในเสน่ห์ของคนตรงหน้า

     

                “เลิกเรียกผมว่าคุณหมอได้แล้ว ทงเฮไม่ใช่คนไข้ของผมแล้วนะ”

     

                “ละ...แล้วทงเฮเป็นอะไรสำหรับคุณล่ะครับ?”

     

                ทงเฮช้อนตาขึ้นไปถาม ซีวอนดันแผ่นหลังบางไปชนกับโต๊ะอาหารกลางห้อง ก่อนจะโอบอุ้มร่างเล็กขึ้นไปนอนแผ่หราอยู่บนนั้น

     

                “ตอนนี้ทงเฮเป็นอาหารของผม!

     

                “คุณหมอหื่นที่สุดเลย”

     

                “แล้วทงเฮไม่ได้หลงรักผู้ชายหื่นๆ คนนี้หรือไง”

     

                ซีวอนโน้มต่ำลงไปปลุกปั่นอารมณ์หวามให้กับร่างเล็กตรงหน้าได้ส่งเสียงครวญครางขึ้นมาไม่หยุด หัวใจของทงเฮเต้นระส่ำ พยายามต่อสู้การกระทำที่ชำนิชำนาญของเขา หากแต่ท่าทางที่ไม่ประสีประสากลับทำให้ทงเฮดูมีเสน่ห์น่าค้นหามากยิ่งขึ้น

     

                แม้ว่าทงเฮจะชอบแกะกระดาษห่อของขวัญ เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้น

     

                แต่เขากลับชอบให้คนอื่นมองว่าตัวเองเป็นกระดาษห่อของขวัญเสียมากกว่า

     

                และตอนนี้สายตาที่ซีวอนมองทงเฮกำลังเป็นเช่นนั้น

     

                ความรัก...

     

                กับ

     

                ความหลง...

     

                ถ้ามันโคจรมาพบกันเมื่อไร ก็เหมือนโคถึกที่ไม่มีใครอาจจะต้านทานได้ แม้แต่ความถูกต้อง...ก็ยังถูกแทนที่ด้วยเหตุผลโง่ๆ ไปเสียหมด

     

                ซีวอนรักคยูฮยอน

     

                แต่กับทงเฮ...มันก็เป็นแค่ความลุ่มหลงชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น

     

                ซีวอนคิดแบบนี้ ทว่าในความเป็นจริงก็คือ...โจ คยูฮยอนจะไม่มีทางยอมรับกับการกระทำเหล่านี้ได้เลย ไม่ว่าซีวอนจะหาเหตุผลใดๆ มาอ้างก็ตาม

     

     

                ซีวอนและทงเฮออกมาจากคอนโดในเวลาเกือบสองทุ่ม พวกเขาไปทานข้าวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง และซีวอนก็ทำทุกๆ อย่างให้ทงเฮมีความสุข

     

                มองเผินๆ ทั้งคู่ก็เหมือนคู่รักกัน

     

                แต่จริงๆ แล้วทงเฮก็เป็นเพียงแค่ ชู้และ คู่นอนของซีวอนเท่านั้น

     

                “ทงเฮไม่อยากได้ของขวัญจากผมเหรอ?” ซีวอนถามคนตรงหน้าหลังจากที่ทานอาหารกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว

     

                “แค่คุณหมอพาผมมาทานข้าวในวันเกิด ผมก็มีความสุขมากแล้วครับ”

     

                “เพราะคอนโดนั่นหรือเปล่าที่ทำให้ทงเฮมีความสุข?”

     

                “คุณหมอบ้า ไม่ใช่สักหน่อย” ทงเฮต่อว่าอีกฝ่ายพลางก้มหน้างุดด้วยความอาย พูดถึงเรื่องที่ยอมเป็นอาหารของเขาทีไรก็อดที่จะเขินไม่ได้

     

                ทงเฮไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่า...

     

                ซีวอนกำลังหลงไหลในตัวของเขา

     

                แต่สำหรับซีวอน...เพราะทงเฮหลงรักในตัวเขาก่อนต่างหาก ซีวอนจึงสนองความต้องการให้ ในเมื่อมันก็ไม่ได้เสียหายตรงไหน

     

                ...ถ้าคยูฮยอนไม่รู้

     

                “สรุปจะไม่อยากได้ของขวัญจริงๆ ใช่ไหม งั้นผมไม่ให้นะ”

     

                “อยากได้สิครับ ทงเฮอยากได้” ทงเฮรีบทักท้วงก่อนที่ซีวอนจะเปลี่ยนใจ

     

                “งั้นหลับตาสิ”

     

                สิ้นคำพูดของซีวอน เปลือกตาบางก็ค่อยๆ ปิดลงไป ซีวอนเลื่อนเก้าอี้ออกแล้วลุกขึ้นมายืนอยู่ด้านหลัง ก่อนที่สัมผัสเย็นๆ จะทาบลงที่ลำคอระหงของทงเฮ

     

                “ผมเลือกซื้ออยู่ตั้งนาน ไม่รู้ว่าทงเฮจะชอบหรือเปล่า?”

     

                ซีวอนจับไหล่บางเอาไว้แล้วโน้มมากระซิบถาม ทงเฮคลำมือที่ลำคอของตัวเอง มันเป็นสร้อยเงินเส้นเล็กๆ ที่มีจี้รูปแมวห้อยประดับอยู่

     

                “ทำไมถึงเป็นแมวล่ะครับ?”

     

                “ก็ทงเฮเป็นลูกแมวตัวน้อยๆ ของผมไง”

     

                คยูฮยอนเป็นเหมือนลูกแมวขี้อ้อนของผม

     

                คำๆ นี้...ซีวอนอาจจะลืมไปแล้วว่าเขาพูดกับคยูฮยอนตอนที่คบกันใหม่ๆ คยูฮยอนทั้งขี้อ้อนและน่ารักสดใสเหมือนลูกแมว

     

                และสิ่งนั้นเองที่ทำให้ซีวอนหลงรักคยูฮยอนจนต้องขอเป็นแฟน

     

                เขาคงลืมมันไปหมดแล้ว...

     

     

                “ทงเฮอยากไปดื่มครับ” เสียงหวานเอ่ยชวนขณะที่ซีวอนกำลังจะขับรถไปส่งที่บ้าน

     

                “ทงเฮเพิ่ง 16 เองไม่ใช่เหรอ ไปสถานที่แบบนั้นไม่ได้หรอก ต้องรอให้โตก่อน”

     

                “แต่ทงเฮดื่มเป็นแล้วนะครับ” ร่างเล็กโต้แย้ง

     

                “ถ้าทงเฮออกไปดื่มเหล้า ผมจะทำโทษทงเฮให้เข็ดเลย”

     

                ซีวอนหันไปมองด้วยสายตากะลิ้มกะเหลี่ย ทงเฮจึงฟาดเข้าที่ต้นแขนแกร่งเบาๆ อย่างหมั่นไส้ คนอะไรหื่นได้ตลอดเวลา

     

                แต่ทงเฮอาจจะไม่รู้

     

                ว่าตัวเองก็พยายามอ่อยคุณหมอหนุ่มตลอดเวลาเช่นกัน

     

                “นะครับคุณหมอ ทงเฮอยากไปจริงๆ”

     

                “ทงเฮอย่าดื้อกับผมสิ ลูกแมวน้อยไม่ควรจะดื้อนะ...เข้าใจไหม?”

     

                ซีวอนเอื้อมมือไปขยี้ผมนุ่มอย่างเอ็นดู ทงเฮมุ่ยหน้าอย่างไม่พอใจ ต่อให้ทงเฮหลงรักคุณหมอมากแค่ไหน เขาก็ไม่ชอบให้คุณหมอมาขัดใจตัวเองแบบนี้

     

                คุณหมอไม่ใจดีกับทงเฮเลย

     

                “งั้นขับรถผ่านไปดูแสงสีแถวๆ นั้นก็ได้”

     

                ซีวอนยิ้มให้กับคนที่เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ ทงเฮเป็นเด็กในสายตาของซีวอนเสมอ แม้ไม่ได้ศอกก็ขอให้ได้แค่คืบก็ยังดี ในที่สุดก็ต้องใจอ่อนขับรถพาทงเฮไปย่านไนต์คลับใจกลางเมืองหลวงจนได้

     

                เสียงโทรศัพท์จากจงอุนดังขึ้นอยู่หลายครั้ง ทงเฮกดตัดสายไป จงอุนก็ยังโทรมาตื๊ออีก ในที่สุดก็ต้องปิดเครื่องหนี

     

                แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายตั้งใจจะโทรมาอวยพรวันเกิด

     

                แต่วันนี้ทงเฮมีความสุขดีอยู่แล้ว เขาไม่ต้องการคำอวยพรโง่ๆ จากคนโง่ๆ อย่างจงอุน

     

                ผ่านไปสักพัก ซีวอนก็ขับรถเข้ามาในซอยที่มีแต่ไนต์คลับตั้งเรียงรายกันเต็มสองข้างทาง มันเป็นสถานที่เริงรมย์ของคนที่มีรสนิยมรักร่วมเพศ

     

                โดยเฉพาะผู้ชายกับผู้ชาย

     

                ทงเฮมองไนต์คลับทั้งสองฝั่งอย่างตื่นตาตื่นใจ บางร้านมีผู้ชายใส่กางเกงในตัวเดียวยืนเรียกลูกค้าอยู่หน้าร้าน โชว์แผงอกกำยำและมัดกล้ามที่น่าลิ้มลอง แต่ทงเฮก็คิดว่าร่างกายของซีวอนนั้นเพอร์เฟ็คท์ที่สุดแล้ว

     

                บางร้านก็มีผู้ชายเดินกอดคอนัวเนียกันออกมา ไม่ต้องเดาให้ยากก็คงจะรู้ว่าพวกเขาจะต้องจบลงที่เซ็กส์แน่ๆ

     

                แต่ทำไม...

     

                คนที่เดินออกมาจากร้านนั้น...ดูคุ้นตาทงเฮเหลือเกิน

     

                “...ป๊า...” ทงเฮมองตามร่างโปร่งที่เขารู้จักเป็นอย่างดี ฮยอกแจกำลังยืนให้ผู้ชายร่างสูงใหญ่คนหนึ่งกอดจูบลูบไล้อยู่หน้าร้าน

     

                เขาไม่อยากจะเชื่อว่าสิ่งที่คนอื่นพูด...มันเป็นความจริง

     

                “เมื่อกี้ทงเฮว่าอะไรนะครับ?” ซีวอนหันมาถามขณะที่ยังขับรถไปเรื่อยๆ

     

                “จอดรถครับคุณหมอ”

     

                “จอดทำไม?”

     

                “จอดเถอะครับ!” ทงเฮตะโกนดังลั่นด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป ซีวอนเหยียบเบรคแทบจะในทันที ทงเฮเปิดประตูรถแล้ววิ่งออกไปยังร้านที่เขาเพิ่งนั่งรถผ่านเมื่อครู่นี้

     

                ฮยอกแจกำลังจะก้าวขึ้นรถไปที่อื่น

     

                หากแต่ร่างโปร่งกลับหันมาพบลูกชายเสียก่อน

     

                “ทะ...ทงเฮ!

     

                ฮยอกแจเรียกชื่อลูกชายด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา ทงเฮจ้องมองคนเป็นด้วยแววตานิ่งเฉย มันเป็นดวงตาที่ว่างเปล่า แต่สร้างความเจ็บปวดให้กับฮยอกแจมากเหลือเกิน

     

                “ทงเฮฟังป๊าอธิบายก่อนนะ ทง...”

     

                คนตัวเล็กวิ่งหนีกลับไปขึ้นรถของซีวอนอีกครั้ง น่าสมเพช สิ่งที่ฮยอกแจกำลังทำอยู่เป็นสิ่งที่น่าสมเพชที่สุด สุดท้าย...ทงเฮก็เป็นแค่ลูกของผู้ชายขายตัวกระจอกๆ คนหนึ่ง

     

                น่าอับอาย

     

                น่ารังเกียจ

     

                ไม่เหลือคุณค่าอะไรให้ชื่นชมเลยแม้แต่นิดเดียว

     

                “ทงเฮ!!!” ฮยอกแจดิ้นพล่านเมื่อถูกลูกน้องของฮันกยองมาจับตัวเอาไว้ ฮยอกแจกลัวเหลือเกิน กลัวว่าทงเฮจะหนีเขาไปแล้วไม่กลับมาให้เห็นหน้าอีกแล้ว

     

                “ปล่อยมัน!” เสียงคำรามของฮันกยองออกคำสั่งจนลูกน้องทุกคนถอยกรูด ฮยอกแจหันมาจ้องหน้าฮันกยองอย่างโกรธแค้น

     

                “ไม่วิ่งตามลูกไปล่ะ?” ฮันกยองถามอย่างยั่วโมโห

     

                ฮยอกแจกำลังจะก้าวขาวิ่งออกไป แต่เขาก็ก้าวไม่ออกเพราะคำพูดของฮันกยอง

     

                “ถ้านายวิ่งไป คราวนี้ฉันคงจะต้องจับมาทั้งพ่อทั้งลูก”

     

                ฮยอกแจกัดฟันกรอด มองดูรถยนต์ที่ทงเฮขึ้นไปเมื่อครู่ค่อยๆ เคลื่อนออกไปจากสายตา ก่อนที่ร่างโปร่งจะถูกจับโยนเข้าไปในรถของฮันกยอง

     

                ฮยอกแจไม่เหลือเรี่ยวแรงขัดขืนใดๆ อีกแล้ว

     

                เขากำลังทำให้ฮันกยองขัดใจ และหลังจากนี้คงจะไม่มีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นมาอีกแล้วล่ะ มันจบสิ้นแล้วชีวิตของอี ฮยอกแจ

     

     

                “เมื่อกี้ทงเฮวิ่งไปหาใครมา?”

     

                ซีวอนเอ่ยถามขณะที่กำลังขับรถไปส่งทงเฮที่บ้าน ทงเฮเอาแต่นั่งเงียบตลอดทาง มือเรียวสั่นเทาและใบหน้าขาวใสก็มีน้ำตาเอ่อไหลออกมาไม่ขาดสาย ทงเฮหันออกไปมองนอกหน้าต่างตลอดเวลาจนซีวอนต้องแตะไหล่บางเอาไว้อย่างเป็นห่วง

     

                “ทงเฮ...”

     

                “ทงเฮไม่เป็นอะไรหรอกครับคุณหมอ ทงเฮแค่สงสารเพื่อนน่ะ”

     

                “เพื่อน?” ซีวอนเอียงหน้าคมถาม

     

                “ครับ คนที่ทงเฮวิ่งไปหาเมื่อกี้คือพ่อของเพื่อนทงเฮเอง เขาขายบริการ เขาทำแบบนี้ได้ยังไง เขาไม่อายคนในสังคมบ้างเหรอ น่าสมเพชที่สุด”

     

                ยิ่งพูด...ทงเฮก็ยิ่งหักห้ามน้ำตาไม่ได้ ยิ่งโกหกออกไป ทงเฮก็ยิ่งเจ็บแน่นที่หน้าอกจนทนไม่ไหว ร่างบางขอร้องให้ซีวอนรีบพาไปส่งเขาที่บ้านที

     

                ใครว่าวันเกิดจะเป็นวันที่มีความสุขที่สุดในชีวิต

     

                มันเป็นวันที่มีแต่ความอัปยศอดสูต่างหากล่ะ

     

                ตอนแรกซีวอนบอกว่าจะอยู่เป็นเพื่อน แต่ทงเฮก็ปฏิเสธไป ทงเฮนั่งรอพ่ออยู่ในบ้าน ถึงเขาจะโกรธมากแค่ไหน แต่ก็อยากฟังคำอธิบายจากปากของพ่อ ถึงแม้จะเป็นแค่คำแก้ตัวก็ยังดี

     

                แต่ฮยอกแจก็ไม่ได้กลับมา

     

                ทงเฮนั่งกำมือแน่นให้เล็บคมมันจิกเข้าที่ฝ่ามือจนเลือดออก พ่อไม่กลับมาที่บ้าน พ่อไม่คิดแม้แต่จะวิ่งตามเขา แต่ทงเฮก็ยังเลือกที่จะรอ...รอฟังคำอธิบายจากผู้ชายหน้าไม่อาย

     

                จนกระทั่งตีสี่

     

                ฮยอกแจกลับเข้ามาในบ้านด้วยสภาพที่แตกต่างจากตอนที่ทงเฮเห็นอย่างสิ้นเชิง เสื้อสีดำขาดรุ่งริ่ง ตามเนื้อตัวมีแต่รอยฟกช้ำเหมือนที่ทงเฮเคยเห็นที่โรงพยาบาล

     

                ริมฝีปากบวมช้ำและห้อเลือด เนื้อสีขาวที่โผล่ออกมาจากเสื้อก็มีรอยฟันขบกัดเต็มไปหมด

     

                ทงเฮค่อยๆ ลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปจ้องหน้าคนเป็นพ่อ ฮยอกแจยิ้มทั้งน้ำตา มีความสุขเหลือเกินที่ลูกไม่ได้ไปไหน ฮยอกแจมีความสุขมากเหลือเกินที่ทงเฮนั่งรอเขาอยู่ที่นี่

     

                “นี่ใช่ไหมอาชีพของป๊า ป๊าบอกกับทงเฮว่าป๊าไม่ได้ทำอาชีพแบบนั้น แล้วที่ทงเฮเห็นวันนี้มันเรียกว่าอะไร?”

     

                “ทงเฮฟังป๊าก่อนนะ” ฮยอกแจคว้ามือลูกชายมาจับไว้ แต่ทงเฮกลับก้าวถอยหนี

     

                “ตัวของป๊าน่าขยะแขยงที่สุด”

     

                “ทงเฮ...อย่าว่าป๊าแบบนั้น!

     

                ฮยอกแจไม่ได้โกรธเคืองกับคำพูดของลูก แต่ฮยอกแจไม่อยากให้ทงเฮกลายเป็นคนบาป ใครที่ด่าบุพการีเป็นคนที่สวรรค์จะไม่ยอมยกโทษให้...ไม่มีทาง

     

                “อาชีพอื่นมีตั้งเยอะแยะ ทำไมป๊าไม่ทำ?!

     

                “ป๊าไม่มีทางเลือก...”

     

                “ไม่มีทางเลือกเพราะว่าป๊าไม่เคยเลือกเลยมากกว่า ป๊าคิดถึงแต่ตัวเอง ถ้าป๊าจะทำตัวน่ารังเกียจแบบนี้ ทำไมป๊าต้องให้ทงเฮเกิดเป็นลูกของป๊าด้วย ทงเฮไม่อยากมีพ่อขายตัว”

     

                เพียะ!

     

                ฮยอกแจตบลูกจนล้มคว่ำไปกองกับพื้น ทงเฮกำหมัดแน่น อยากจะลุกขึ้นมาสู้กับพ่อ แต่เมื่อหันกลับไปหาฮยอกแจอีกครั้งก็พบว่าใบหน้าคมของฮยอกแจมีแต่น้ำตาไม่ต่างจากเขา

     

                “ป๊าจะมาเสียใจทำไม คนที่เสียใจคือทงเฮต่างหาก”

     

                ฮยอกแจมองหน้าลูกชายด้วยแววตาที่เจ็บปวด เขาอยากจะพูดออกไปเหลือเกินว่าทงเฮก็ไม่ได้เกิดมาเป็นลูกชายของเขาเช่นเดียวกัน

     

    ถ้าทงเฮรู้ว่า...

     

    คนที่ขายศักดิ์ศรีเลี้ยงทงเฮมาตลอดชีวิตไม่ใช่พ่อบังเกิดเกล้า

     

    ทงเฮก็คงจะมีความสุข...

     

    “ถ้าป๊าเลือกได้ ป๊าก็ไม่อยากให้ทงเฮมาเป็นลูกของป๊าเหมือนกัน”

     

    “ปะป๊า...” พอได้ยินคำพูดที่เย็นชาแบบนั้นจริงๆ ทงเฮก็รู้สึกจุกแน่นในอก พ่อลูกต่างจ้องมองหน้าของอีกฝ่ายด้วยหัวใจที่แตกเป็นเสี่ยงๆ

     

                ทงเฮจะเป็นคนไม่ดีแค่ไหน จะทำผิดอีกสักกี่ครั้ง ก็ไม่มีครั้งไหนเลยที่ฮยอกแจจะนึกโกรธเกลียดลูก ทว่าเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้นที่ฮยอกแจทำผิดพลาดไป

     

                ทงเฮกลับเกลียดชังราวกับพวกเขาไม่ใช่พ่อลูกกัน

     

                “ตัวป๊ามันสกปรก จิตใจป๊าก็สกปรก ป๊ามันเลวที่ทำอาชีพต่ำๆ แบบนั้น แต่เพราะว่าป๊าเป็นเพียงแค่เด็กนักเรียนจนๆ คนหนึ่งที่ต้องทำหน้าที่พ่อของทงเฮให้ได้ ป๊าก็แค่...อยากเป็นพ่อที่ดีที่สุดของทงเฮ”

     

                ฮยอกแจไม่รับรู้อีกแล้วว่าสิ่งที่เขาพูดจะซึมลึกเข้าไปในความคิดของทงเฮได้หรือไม่ ถ้าหากเขารู้ตั้งแต่วันแรกที่ได้พบกับทงเฮ รู้ว่าเด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกชายของเขา

     

                ฮยอกแจจะไม่มีวันเดินไปทำงานแบบนั้นเลย

     

                โลกตรงหน้าของฮยอกแจพังทลายไปหมดแล้ว เหมือนโลกกำลังเหวี่ยงอย่างรุนแรงและพร้อมที่จะแตกเป็นเสี่ยงๆ เหมือนหัวใจของเขา ฮยอกแจจ้องมองหน้าของทงเฮตลอดเวลา

     

                แม้สติของเขาจะดับวูบลงไปแล้วก็ตาม...

     

     

    Talk with Lee Seen

                คำเตือน ห้ามอ่านเกินวันละสองรอบ

    หลังจากอ่านแล้ว กรุณาแก้เครียดด้วยการไปดู Mr. Simple

    ตอนหน้ามี NC วอนคยู(มั้ง)

    แต่อึนเฮ วอนคยู ตอนหน้า หวานปนขม...จัดเต็มค่ะ!!!

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×