ตอนที่ 3 : การฝึกภาคสนาม
แสงแดดยามเช้าส่องลำแสงอ่อนเข้ายังหน้าต่าง ผู้นอนเกียจคร้านบนเตียงยังไม่ลืมตาตื่น ฝูชิงนอนขดตัวบนเตียงนอนใหญ่ของแม่ทัพเวิน เมื่อวานเธอนอนดึกจากเรื่องต้องคิดมากมาย
“นายน้อย” เสียงเคาะประตูดังขึ้น
“…” เมื่อไม่มีเสียงตอบออกมา พ่อบ้านเยี่ยก็เหงื่อตกรีบเคาะต่อเพราะคนที่มาขอพบเจ้าของจวนยามเช้านี้เขาคนเดียวรับมือไม่ไหว
“นายน้อยยามนี้หากท่านไม่ตื่นเกรงว่าคงลำบาก องค์หญิงสิบกำลังซ้อมทหารในจวนอยู่ที่ลานฝึกขอรับ!”
“หา!” ฝูชิงรีบลุกขึ้นจากเตียงให้บ่าวชายเข้ามาล้างหน้าผลัดเปลี่ยนชุด
พ่อบ้านเยี่ยรีบรายงาน เมื่อครึ่งชั่วยามก่อนองค์หญิงสิบและขบวนนางในวังพากันเหยียบผ่านประตูจวนแม่ทัพเข้ามาอย่างไม่สะทกสะท้าน เนื่องจากเป็นราชนิกุลทางคนของจวนจึงมิกล้าห้ามอะไรมาก คิดไม่ถึงหลังจากองค์หญิงสิบก้าวเข้ามาก็ลากนายทหารที่เฝ้าหน้าจวนเข้าไปลานฝึกซ้อมจนหน้าเขียวไปหมด ความผิดที่องค์หญิงสิบซ้อมทหารในจวนคือ เลี้ยงเสียข้าวสุกให้คนนอกบุกเหยียบผ่านระตูจวน!
ฝูชิงรีบก้าวยาวไปยังลานฝึก มุมปากเธอกระตุกเมื่อภาพลานฝึกตรงหน้าคือนายทหารทั้งหลายหมอบสลบคาไม้พลองสตรีที่ยืนหอบตรงหน้า
“อรุณสวัสดิ์องค์หญิง” ฝูชิงก้มทำความเคารพแม่ทัพเวินก่อนจะโบกมือให้คนรีบลากซากทหารออกจากลานฝึก
“เจ้ามาสาย” แม่ทัพเวินรู้สึกหงุดหงิดกับร่างกายที่บอกบางออกแรงนิดออกแรงหน่อยก็เหนื่อยหอบนี้ไม่ได้ แค่ซ้อมพวกทหารไร้วินัยนิดหน่อยก็เหงื่อตก
“ท่านมาเช้าเกินต่างหาก” ฝูชิงเข้าไปนั่งเก้าอี้หินอ่อนข้างแม่ทัพเวินคนงามก่อนสั่งให้บ่าวยกของว่างและชาเข้ามาดูแลแขก
“เราต้องเริ่มฝึกแต่วันนี้” แม่ทัพเวินมองฝูชิง เขาไม่ชินตาเท่าไรนักกับบุคลิกใหม่ของร่างกายเขา ปกติชุดของเขาจะมีแต่สีดำ ผมก็รวบเพียงง่ายๆแต่วันนี้ร่างกายเขาสวมชุดสีสดใสรวมถึงผมที่เกล้าอย่างดี
“เข้าใจแล้ว...พวกเจ้าออกไป” ฝูชิงไล่บ่าวรับใช้ออกจากลานฝึก แม่ทัพเวินพยักหน้าพร้อมไล่ข้ารับใช้ตัวเองให้ออกตามไป
“นายน้อย...” พ่อบ้านเยี่ยยืนกล่าวอ้ำอึ้ง เขาเกรงว่าชื่อเสียงขององค์หญิงสิบจะเสีย ชายหญิงที่ยังมิสมรสไม่ควรอยู่สองต่อสองกับชายหนุ่ม กลัวว่างานนี้นายน้อยจะหลุดจากการสมรสไม่หลุดหากข่าวลือการอยู่สองต่อสองหลุดออกไป
“ให้คนยืนเฝ้าหน้าลานหนึ่งคน” ฝูชิงเข้าใจสิ่งที่พ่อบ้านเยี่ยคิด เธอจึงอนุญาตให้มีคนยืนห่างในระยะไม่ได้ยินเสียงเธอกับแม่ทัพพูดกัน จะได้ไร้ซึ่งคำครหาผู้คน เหมือนแม่ทัพเวินพึ่งระลึกได้เรื่องความเหมาะสมไม่เหมาะสมจึงหน้าแดงขึ้น
“ยามนี้ท่านเป็นสตรีควรรักษาชื่อเสียงมิฉะนั้นที่เคยหลีกหนีอาจไม่พ้น” ฝูชิงหัวเราะกับใบหน้าแดงเรือของแม่ทัพเวิน
“ขอบใจ” แม่ทัพเวินก้มหน้าแดงของตัวเอง ตั้งแต่เข้ามาอยู่ร่างสตรีผู้นี้อารมณ์ของเขาขึ้นลงตลอดคล้ายสตรี หรือเป็นเพราะร่างกายนี้ตอบสนองร่างกายของเขาตรงหน้าเกินไป
ฝูชิงอดขำกับความน่ารักของคนตรงหน้าไม่ได้แต่เธอก็ไม่อยากกลั่นแกล้งคนตรงหน้าไปนักจึงรีบชวนเข้าเรื่อง
“ท่านจะเริ่มจากไหนก่อน?”
“เจ้าถนัดอะไรมากที่สุด” ฝูชิงนั่งนึกถึงสิ่งที่เธอถนัด
“วางแผน ยึดทรัพย์ บริหารความเสี่ยง” ฝูชิงตอบ แม่ทัพเวินขมวดคิ้ว
“เจ้าหมายถึงวางกลยุทธ์รบ กุนซือ?” ฝูชิงพยักหน้าเอาเถอะคงเรียกได้แบบนั้นในยุคนี้
“แล้วบู้เจ้าเป็นอะไรบ้าง กระบี่ ดาบ?”
“กอล์ฟ”
“กอ..?” แม่ทัพเวินสับสนกับภาษาของคนผ่านทางที่เข้ามาอยู่ในร่างตน
“เอาเป็นว่าไม่เป็นละกัน” ฝูชิงรีบตอบ เธอสายบริหารไม่ใช่สายกีฬานี่นะ
“อาเป่ายังมีประโยชน์มากกว่าเจ้า”
“อาเป่านี่ใคร?” ฝูชิงสงสัย เธอเข้ามาอยู่ในจวนนี้ก็นานพอจำบ่าวรับใช้ได้ทุกคน แล้วอาเป่านี่ใคร?
“หมาของพ่อบ้านเยี่ย” ฝูชิงหน้าดำไปแถบ นี่เขาเอาเธอไปเปรียบเทียบกับหมา!
“ท่านเห็นสิ่งนั้นไหม” นางกำนัลองค์หญิงสิบพากันดีใจแทบก้มลงไปกราบพื้นเมื่อเห็นเจ้านายตนเองสดชื่นแจ่มใสขนาดส่งเสียงดังใส่แม่ทัพเวินที่นั่งจิบชาไม่รู้ร้อนหนาว
“โฮ ข้าจะรีบส่งคนกลับไปแจ้งหวงกุ้ยไท่เฟย” ขันทีดีใจที่แม่ทัพเวินเปลี่ยนท่าทียอมรับและสนิทสนมกับองค์หญิงมากขึ้น ต้องรีบไปเรียนหวงกุ้ยไท่เฟย
“…” พ่อบ้านเยี่ยที่แอบยืนมองอยู่ก็แทบจะลงกราบกับพื้น ดูท่านายน้อยจะคิดตกยอมเปิดใจหานายหญิงเข้าจวนเสียที
ในอดีตมีสาวใช้ที่คิดปีนเตียงแม่ทัพเวินเพื่อขึ้นเป็นเมียบ่าวอยู่ โชคดีหรือร้ายไม่รู้ที่องค์หญิงสิบทรงทราบเข้าจึงยื่นมือเข้ามาจัดการในจวนแม่ทัพ ไม่นานสาวใช้ผู้นั้นก็หายไปโดยไม่ทราบสาเหตุ การกระทำเกินเลยครั้งนี้ขององค์หญิงทำให้แม่ทัพเวินโกรธมากจึงสั่งปิดจวนทันที และหลังจากนั้นจวนแม่ทัพก็ไม่มีสาวใช้ผู้หญิงอีกเลย
สองหนุ่มสาวผู้เป็นประเด็นการพูดคุยของเหล่านางกำนัลและกงกงกลับไม่รู้เรื่องอะไรยังคงปะทะคารมกัน หลังจากปะทะคารมกันจนเริ่มเหนื่อยฝูชิงก็ถูกแม่ทัพเวินให้ฝึกท่าพื้นฐานเพื่อเรียกความคุ้นชินของร่างกายตนเองกลับมาก่อนจะฝึกของจริง เขาประหลาดใจไม่น้อยที่ยังเห็นฝูชิงยังสบายดีอยู่ได้แม้จะมีเหงื่อตกเล็กน้อยจากการฝึกร่างกาย
“ดูท่าทางเจ้าจะมีพื้นฐานการฝึกร่างกาย?”
“ร่างกายท่านดีต่างหาก” ฝูชิงยิ้มแม้จะเหนื่อยจนเหงื่อตก นางไม่พูดเกินจริงด้วยร่างกายของแม่ทัพเวินชินกับการฝึกร่างกายแต่เด็กบวกกับเธอมีพื้นฐานกีฬาขี่ม้ายิงปืน และกอล์ฟทำให้ไม่ยากที่จะรับการฝึกร่างกายของแม่ทัพเวินได้
“วันนี้แค่นี้ก่อน”
“คนที่แอบอยู่ตรงนั้นแอบดูจนพอใจหรือยัง!” ฝูชิงคว้าก้อนหินปาไปยังด้านหลังของแม่ทัพเวิน ทันทีที่ก้อนหินกระทบเข้ากับพุ่มบนยอดกิ่งไม้ บุรุษชุดดำก็หล่นกลิ้งตกพื้นลงมา เธอเกลียดนักพวกถ้ำมอง
ทันทีที่บุรุษชุดดำตกลงมา ทหารในจวนก็พากันล้อมจับ ขันทีและเหล่านางกำนัลพากันตกใจวิ่งเข้ามาอารักขาองค์หญิงของตน
“ดูท่าเจ้าพอมีดีอยู่” แม่ทัพเวินมองชายที่ถูกจับมัดนอนกับพื้น จริงๆเขาพอทราบเรื่องคนแอบอยู่บนต้นไม้อยู่เพียงคิดไม่ถึงฝูชิงจะรู้เรื่องนี้และลงมืออย่างรวดเร็ว
“เล็กน้อย เล็กน้อย ไม่ทราบว่าองค์หญิงจะให้กระหม่อมห่อชายผู้นี้พากลับไปด้วยกันเลยหรือไม่” ฝูชิงเป็นคนความรู้สึกไวเพราะต้องคอยปะทะกับกองทัพนักข่าวเสมอ ส่วนเรื่องปาก้อนหินเป็นเพียงความสามารถในการเล่นปาลูกดอกยามเบื่อของเธอเท่านั้น
“เจากงกงฝากท่านจัดการเรื่องนี้ ช่วยเรียนเสด็จแม่ด้วยว่า เราไม่ต้องการให้มีคนคอยเป็นเห็บแอบอยู่ในจวนแม่ทัพ” เจากงกงโค้งคำนับก่อนจะให้คนประคององครักษ์เงาของหวงกุ้ยไท่เฟยกลับตำหนัก
“เจ้ารู้เรื่องคนตั้งแต่เมื่อไหร่?” แม่ทัพเวินอดสงสัยไม่ได้ เดิมเขายอมปล่อยคนเหล่านี้ไว้เพื่อไม่ให้หวงกุ้ยไท่เฟยทำอะไรน่ารำคาญไปมากกว่านี้
“ตั้งแต่วันแรก” เธอยักไหล่
“…”
การฝึกผ่านมาอาทิตย์เต็มทำให้แม่ทัพเวินเห็นจุดแข็งและจุดอ่อนของฝูชิง คนผ่านทางถนัดเจาะทะลุจากภายในมากกว่าการใช้แรงเพื่อบุกตะลุยเช่นเขา นี่ย่อมเป็นจุดแข็งของคนผ่านทางแต่ก็เป็นจุดอ่อนเช่นกัน ทหารทั้งหลายล้วนเคยชินกับการรบของเขาเมื่อเปลี่ยนกลวิธีไปไม่ว่าใครย่อมจับได้ถึงความเปลี่ยนแปลงทันที
“เจ้าควรเปลี่ยนตัวเอง” แม่ทัพเวินมองฝูชิงที่นั่งหาวใช้ข้อศอกยันคางอย่างเกียจคร้าน
“ได้แค่นี้แหละขอรับท่าน พยายามสุดๆแล้ว” ฝูชิงไม่อาจเปลี่ยนตัวเองได้เมื่อเธอไม่ได้โตขึ้นเช่นแม่ทัพเวิน กาก็คือกา หงส์ก็คือหงส์
แม่ทัพเวินถอนหายใจก่อนจะลงนั่งอีกฝากของฝูชิง “เอาเถอะข้าไม่ควรบังคับเจ้ามากเกินไป” ฝูชิงเมื่อเห็นแม่ทัพเวินถอยให้ตัวเองหนึ่งก้าวก็ยิ้ม
“อะไรจะเกิดก็ปล่อยมันเกิด ท่านก็อย่าคิดอะไรมากเลย” ฝูชิงยิ้ม เธอมาอยู่ในร่างของแม่ทัพเวินมานานนับเดือนก็ยังไม่เห็นความแตกมีคนโวยวายว่าเธอไม่ใช่แม่ทัพเวิน
“เอาที่เจ้าสบายใจ” แม่ทัพเวินยกชาขึ้นจิบ
“วันนี้เลิกฝึกเถอะ เรามาทำความรู้จักกันให้มากขึ้นดีกว่า เผื่อเราจะเข้าใจท่านมากขึ้น” แม่ทัพเวินเลิกคิ้วเรียวน่ารักขึ้น
“ไม่ใช่เจ้าแอบดูความทรงจำเราไปเรียบร้อยแล้วหรือ?” แม่ทัพเวินเองก็ได้รับความทรงจำจากร่างที่เข้ามาอาศัย
“อันนั้นไม่เรียกทำความรู้จักกัน เรามาเล่นเกมถามคำถามกันดีกว่า”
“ถ้าเราไม่ตอบ”
“ก็ยกเหล้าจอกนี้ให้หมด” ฝูชิงเลื่อนไหและจอกสุราเข้าใกล้แม่ทัพเวิน
“ถ้าข้าตอบครบแล้วจะได้อะไร”
“ได้เพื่อนรู้ใจไง อย่างน้อยเราก็รู้จักกัน เอาน่าเล่นสนุกๆ” เมื่อฝูชิงเห็นแม่ทัพไม่พูดอะไรเธอก็ตัดสินเข้าข้างตัวเองว่าแม่ทัพเวินตกลง “คำถามแรกท่านชอบทานอะไร”
“ปลานึ่ง คำถามข้าเจ้าคืออะไร” ฝูชิงยิ้ม
“คนที่ไม่เคยมีอยู่ในดินแดนที่ท่านอยู่”
“คำถามที่สอง ท่านชอบบุรุษหรือสตรี”
“เจ้า!”
“สุราหรือตอบ” ฝูชิงหัวเราะ
“สตรี!”
“แล้วทำไมท่านรังเกียจคนงานอย่างองค์หญิงสิบ เป็นเราจะถนอมดอกไม้ รักษาหยกไม่ให้ช้ำ หากท่านจะบอกว่ารังเกียจสตรีเจ้าเล่ห์จอมมารยาเราไม่เห็นสตรีไหนไม่มารยา ที่องค์หญิงทำไปค่อนข้างเล็กน้อยด้วยซ้ำหากเทียบกับสตรีทั่วไป ถ้าจะบอกนางโหดร้ายกำจัดคู่แข่งเราว่าท่านเองน่าจะรู้แก่ใจ” ฝูชิงรู้ดีจากความทรงจำของแม่ทัพว่าคนกำจัดขายบ่าวที่คิดปีนเตียงคือตัวแม่ทัพเอง ส่วนองค์หญิงเพียงส่งคนเข้ามาตบบ่าวปีนเตียงผู้นั้น หากคนอย่างองค์หญิงคิดยื่นมือเข้ามาไม่คิดว่าจะแค่หายตัวคงจะมีศพอืดคาจวนมากกว่า
“ข้า...” แม่ทัพเวินตอบไม่ถูก ยามก่อนเขารำคาญองค์หญิงเพียงเพราะนางทำตัวเอาแต่ใจ ยามนี้เขาเริ่มเข้าใจสิ่งที่องค์หญิงแสดงออกเพียงเพราะต้องการปกป้องตนเองจากพี่น้องและสตรีในวัง การแย่งชิงวังหลังหากไม่ร้ายก็ไม่อาจคงอยู่อย่างสงบได้
“เมื่อท่านเข้าใจ...หากวันใดทุกอย่างกลับคืนช่วงเวลาดังเดิม คงหวังให้ท่านเปิดใจมอง” เธอฝันทุกคืนถึงสายตาสื่อความรักอย่างซื่อตรงขององค์หญิงสิบ
“เจ้าทำผิดข้อตกลง ถามมากกว่าหนึ่งคำถามทั้งที่ข้ายังไม่ได้ถาม”
“ท่านถามซิ” เธอยิ้ม
“เจ้า...เป็นสตรีหรือบุรุษกันแน่”
“สตรี อะ อะ แต่ท่านไม่ต้องห่วงร่างกายอันผุดผ่องของตัวเองหรอกนะ” ฝูชิงเห็นแม่ทัพเวินอ้าปากหน้าแดงจะพูดบางอย่างก็ชิงพูดก่อน “ถ้าจะด่าเราไร้ยางอาย...ฮึ เทียบกันตอนนี้คงไม่เท่าท่านหรอก” แม่ทัพเวินหน้าแดง เขาไม่มีสิทธิ์ตำหนิฝูชิงแม้แต่น้อยเพราะเขาก็อยู่ในร่างของสตรี แถมเป็นสตรีที่ยังมิออกเรือน ทุกครั้งที่ต้องอาบน้ำถึงมีนางกำนัลช่วยอาบน้ำแต่ดวงตาก็อดไม่ได้ที่จะจ้องมองรูปร่างขององค์หญิง
“ทำไมเจ้าถึงเข้ามาอยู่ร่างของข้าและข้ามาอยู่ในร่างนี้” ฝูชิงยักไหล่ก่อนจะยกสุรากรอกปาก
“ไม่รู้ อาจในช่วงสงครามมีผู้ตายมากมาย องค์ยมงานล้นมือทำให้เกิดความผิดพลาดขึ้น”
“ตาข้าละ ท่านยังเป็นหนุ่มบริสุทธิ์?” จบคำถามเธอแทบเอี้ยวตัวหลบจอกสุราที่ถูกปาจากมือแม่ทัพเวินแทบไม่ทัน แม่ทัพเวินหยิบไหสุรายกเทสุราที่เหลือเข้าปาก
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ปล.นักเขียนอาจสับสนเรื่องใช้คำนิดนึงขออนุญาตแนะนะคะ
เกลียด = เกลียดบางสิ่งบางอย่าง น่าเกลียด เกลียดขี้หน้า เป็นต้น
เกียจ = รังเกียจ เกียจคร้าน ขี้เกียจ เป็นต้นค่ะ
แนวนี้ก็ดีค่ะ ไม่ค่อยซ้ำกับใครให้น่าเบื่อ
รีบมาต่อนะค่ะ. รอๆๆๆๆ