ดั่งคำสัญญา - ดั่งคำสัญญา นิยาย ดั่งคำสัญญา : Dek-D.com - Writer

    ดั่งคำสัญญา

    คำว่ารัก เวลาไม่เคยทำให้มันเลือนหายไป

    ผู้เข้าชมรวม

    105

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    105

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  1 พ.ค. 52 / 12:15 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    คำสัญญา สิ่งที่ช่วยเตือนความจำของเราให้ทำสิ่งนั้นให้ได้จริง
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      “หมอกฟ้า”!! “รอนานมั้ย”
      “ก็พอสมควร ว่าแต่ทำไมวันนี้ช้าจังอ่ะ”
      “อืม ...พอดีวันนี้เป็นเวรทำความสะอาดห้องนะ” “ว่าแต่เรากลับบ้านกันเถอะเย็นแล้ว”
      ตลอดทางที่เดินกลับบ้านเขาจับมือฉันไว้ตลอดเลยรู้มั้ยมันทำให้ใจฉันเต้นแรงเป็นบ้าเลยล่ะ เฮ้อ...ความรู้สึกแบบนี้ที่เป็นทุกครั้งที่อยู่ใกล้เขาจะใช่ความรักหรือป่าวน่ะ แล้วเธอก็ต้องหลุดออกจากห้วงความคิดเมื่อได้ยินเสียงคนเรียกชื่อของเธอ
      “หมอกฟ้า” “หมอก”
      “หือ …. มีไรเหรอ ?”
      “คือว่า .....เอ่อเรามีอะไรจะบอกเธอน่ะ”
      “อะไรเหรอ ?” ฉันเลิกคิ้วด้วยความสงสัย
      “คือว่านนท์ ........ “ ฉันซึ่งกำลังจ้องมองเขาอยู่เมื่อเขาจ้องมองฉันกลับมาบ้าง ฉันก็ต้องหลบสายตาเขาทันที(ก็มันเขินนี่นา)
      เขารวบมือของทั้งสองข้างของฉันมาวางไว้ที่หน้าอกของเขา ส่วนฉันก็ได้แต่ก้มหน้าลงไม่กล้าสบตาเขา
      “เงยหน้ามองกันหน่อยสิฉันอยากมองหน้าเธอชัดๆ” ฉันเงยหน้าขึ้นตามที่เขาขอ
      “ฉันชอบเธอน่ะ” เขาเงียบไปครู่หนึ่งก่อนเอ่ยขึ้นมาว่า “แล้วหมอกล่ะชอบเราบ้างมั้ย”
      เอ่อ.....แค่นายสารภาพรักกับฉันๆก็อึ้งแล้วก็เขินจะแย่ นี่นายยังจะถามอีกว่าชอบนายมั้งรึป่าวแล้วใครจะกล้าตอบล่ะ
      “ ว่าไงล่ะ” “ชอบเราบ้างมั้ย”
      “อื้อ” ฉันพยักหน้าตอบ เพราะไม่กล้าพูดออกไปก็มันอายนี่นา
      “หมอกได้แต่พยักหน้า แล้วนนท์จะรู้เหรอว่าหมอกชอบเรารึป่าว”
      “ฉันก็ชอบนายเหมือนกัน”
      “ จริงน่ะ” ฉันยิ้มให้แทนคำตอบ แล้วเขาก็ยื่นหน้ามาหอมแก้มฉัน ก่อนจะดึงฉันเข้าไปกอดไว้หลวมๆ
      ถึงบ้านแล้ว ฉันเข้าบ้านก่อนนะ
      “แล้วพรุ่งนี้เราจะมาหานะ”
      “มาทำไมไม่อยู่บ้านอ่านหนังสือล่ะจะสอบแล้วนะ” “ ก็จะมาอ่านเป็นเพื่อนหมอกไง”
      และเวลาแห่งการสอบปลายภาคเรียนสุดท้ายก็มาถึง การสอบในแต่ละวันดำเนินไปอย่างรวดเร็วจนมาถึงวันสุดท้ายของการสอบที่ใครหลายๆคนอยากให้เวลาผ่านไปช้าๆเพราะจะได้มีเวลาอยู่ที่โรงเรียนแห่งนี้อยู่กับเพื่อนๆนานๆเนื่องจากพอจบมัธยมต้นต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไปเรียนที่อื่น
      “หมอกฟ้า!!! ฉันมีเรื่องจะคุยด้วยนะ”
      “ไว้คุยตอนเรากลับบ้านไม่ได้เหรอ “ “หมอกขอคุยกับเพื่อนๆก่อน”
      “ไม่ได้มันสำคัญมากจริงๆนะ”
      “สำคัญมากเลยเหรอ” เขาได้แต่พยักหน้าตอบ
      “งั้นก็ได้” ฉันกับเขาเดินมานั่งคุยกันที่ม้าหินอ่อนหลังโรงเรียนซึ่งเราจะมานั่งคุย อ่านหนังสือกันที่นี่ประจำเลยและวันนี้ก็คงเป็นวันสุดท้ายที่จะได้มานั่งแล้วด้วย
      “มีเรื่องสำคัญอะไรจะคุยกับหมอกเหรอ?”
      “คืออย่างนี้นะเราต้องไปเรียนที่อเมริกานะ พ่อเราต้องย้ายไปทำงานที่นั้นเราก็ต้องย้ายตามไปด้วย”
      “ไม่ไปไม่ได้เหรอ ?” ฉันถามเขา “ไม่ได้หรอกหมอก” เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ
      “ นายจะไปเมื่อไหร่ แล้วถ้านายไปแล้วนายจะลืมฉันมั้ย”
      “เราต้องออกเดินทางคืนนี้นะ “
      “ทำไมมันเร็วอย่างนี้ล่ะ”
      “เราก็ไม่รู้เหมือนกันพ่อก็เพิ่งบอกเราเมื่อวานนี้เอง” “อ้อ..แล้วเราก็ไม่มีทางลืมเธอหรอกนะ ใครจะลืมแฟนตัวเองได้ลงล่ะ”
      “แน่น่ะ “ “ แน่ซะยิ่งกว่าแน่อีก สัญญาก็ได้ว่าเราจะไม่ลืมหมอกเด็ดขาด” และเขาก็เอนหัวมาพิงไหล่ฉันแล้วเอ่ยต่อว่า “ สักวันฉันจะกลับมาหาเธอนะ เธอคือรักแรกและจะเป็นรักเดียวของฉันด้วย และเราจะมาขอหมอกแต่งงานนะ” ฉันยิ้มให้กับคำพูดของเขา วานนท์นายก็เหมือนกันนะนายก็คือรักแรกของฉันและจะเป็นรักสุดท้ายของฉันด้วย
      ฉันยังจำเรื่องราว คำพูดในตอนนั้นได้เสมอมารวมถึงคำสัญญาของนายด้วยนะ แม้เวลาจะผ่านมานานถึง10ปีแล้วก็ตาม แม้จะมีผู้คนผ่านเข้ามามากมายในชีวิตแต่ไม่มีแม้แต่วินาทีเดียวที่ฉันจะลืมนาย ฉันยังรอการกลับมาของนายเสมอไม่ว่าจะนานเท่าไหร่ก็จะรอ
      “หมอกฟ้า นั่งคิดอะไรอยู่เหรอ เห็นนั่งเหม่ออยู่นานสองนานแล้ว” เสียง ใบบัว มัณฑนากรสาวเพื่อนร่วมงานฉันถามขึ้น
      “ ก็คิดถึงเรื่องเก่าๆน่ะไม่มีอะไรหรอก” “แล้ววันนี้ไม่มีนัดคุยงานกับลูกค้าเหรอ”
      “ มี แต่ลูกค้าโทรมาเลื่อนนัดน่ะ “ “ เออ บอสให้มาตามไปพบน่ะเห็นว่าจะคุยเกี่ยวกับเรื่องโปรเจกต์ใหม่น่ะ”
      “ อือ ขอบใจนะ งั้นฉันเข้าไปหาบอสก่อนนะ”
      “บอสเรียกหมอกมามีอะไรเหรอค่ะ” ฉันพูดพลางนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม
      “คือมีโครงการใหม่ของสไตล์กรุ๊ปน่ะ หมอกสนใจทำรึป่าว”
      “เอ๋ !! บอสค่ะ เรายังไม่เคยทำงานให้บริษัทนี้เลยนี่คะ”
      “พี่รู้สึกว่าเขาเพิ่งมาเปิดสาขาที่เมืองไทยน่ะ แล้วเขาก็เจาะจงให้บริษัทเราทำโครงการนี้โดยเฉพาะเลยน่ะ” ว่าไงสนใจทำมั้ย
      “ค่ะ ตกลงหมอกรับโปรเจกต์นี้ “ “ว่าแต่ต้องไปคุยงานเมื่อไรเหรอค่ะ?”
      “เป็นไปได้พรุ่งนี้เลยก็ดีน่ะ”
      การคุยกับทางบริษัทสไตล์กรุ๊ปเป็นไปได้ด้วยดี เขาต้องการเน้นให้รีสอร์ทมีในเรื่องของความสบายๆและสะดวก เงียบสงบแล้วก็เป็นธรรมชาติมากที่สุด
      โครงการนี้ที่หมอกฟ้ากำลังดูแลการออกแบบตกแต่งอยู่นั้นเป็นไปอย่างราบรื่นซึ่งคาดว่าอีกหนึ่งสัปดาห์น่าจะเสร็จเรียบร้อยดี และมีอีกอย่างที่เธอไม่รู้ก็คือเจ้าของษริษัทนี้คือ ’นายวานนท์ สุวัฒนกิจ’ คนที่เธอรอคอยมาแสนนานนั้นเอง แต่สำหรับ วานนท์แล้วเขาเฝ้ามองตลอดระยะการทำงานของเธอโดยที่เธอไม่รู้เลยและเขาเองก็ตั้งใจไว้ว่าเมื่อไรที่โครงการเสร็จเรียบร้อยเขาจะไปพบเธอและขอเธอแต่งงาน
      “บอสค่ะโครงการเสร็จเรียบร้อยแล้วพรุ่งนี้บอสจะไปเปิดงานด้วยกันมั้ยค่ะ” หมอกฟ้าถาม ผู้เป็นเจ้านาย
      “คงจะไม่ได้หรอกพอดีพรุ่งนี้พี่ต้องไปคุยงานที่ฝรั่งเศสน่ะ”
      “เหรอค่ะ แย่จัง กะจะให้ไปดูผลงานซะหน่อย “ “ งั้นหมอกไปก่อนน่ะค่ะนัดลูกค้าเอาไว้”
      วันนี้เป็นวันเปิดโครงการของบริษัทสไตล์กรุ๊ป มีแขกมาร่วมงานมากมายและเธอ ‘หมอกฟ้า’ก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย เธอมาในฐานะที่ออกแบบตกแต่งในโครงการนี้
      เมื่อได้เวลาเปิดป้ายโครงการ เธอก็ได้รู้ว่าเจ้าของบริษัทนี้คือ วานนท์ สุวัฒนกิจ คนที่เธอรักและรอคอยการกลับมา แล้วเมื่อเขาขึ้นเวทีกล่าวเปิดงานเสร็จ เขายังพูดด้วยว่า ‘หมอกฟ้าเธอเป็นคนดูแลออกแบบตกแต่งในโครงการนี้และก็ยังเป็นคนรักของเขาด้วย’ เมื่อเธอได้ยินดังนั้นน้ำตาก็ค่อยๆเอ่อล้นออกมา มันเป็นน้ำตาแห่งความปิติยินดีที่วันที่รอคอยการกลับมาของคนที่เธอรักได้สิ้นสุดลงแล้ว
      เมื่อวานนท์พูดจบเขาก็ก้าวลงจากเวทีและเดินตรงไปหยุดที่หน้าหมอกฟ้าคนที่เขารักหมดหัวใจ
      “หมอกฟ้าผมคิดถึงคุณที่สุดเลยรู้มั้ย”
      “หมอกก็คิดถึงคุณค่ะ” พอเธอพูดจบเขาก็ดึงเธอเข้ามากอดด้วยความรักและคิดถึง สักพักแล้วเขาก็ผละออกจากเธอแล้วพูดว่า “แต่งงานกับผมนะหมอกฟ้า”
      “ค่ะ หมอกจะแต่งงานกับคุณ” แล้วเขาก็ดึงเธอเข้าไปสวมกอดอีกครั้ง
      วันนี้เขาได้ทำตามดั่งเขาคำสัญญาที่ไว้ให้หมอกฟ้าแล้ว และการรอคอยของเธอก็ได้สิ้นสุดลงแล้วเช่นกัน
      ความรู้สึกของทั้งคู่ไม่เคยแปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ไม่เคยรักกันน้อยลงจะมีแต่จะเพิ่มมากขึ้น มากขึ้น
      และทั้งสองคนก็ยังเชื่อว่า ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนหรือห่างไกลกันสักเพียงใดหากรักที่มีเป็นรักแท้แล้วล่ะก็มันจะไม่มีวันแปรผันไปอย่างแน่นอน


      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×