คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : -Chapter 3-
นัม: รับผิดชอบฉันด้วยนะ
มิโน: (;¬ω¬)
Male Pregnant
-Chapter 3-
ใต้ซุ้มไม้เลื้อยอันแสนสงบและเย็นสบายหน้าตึกคณะวิทยาศาสตร์ในวันนี้ แดดไม่แรงจัดและลมก็พัดเอื่อยๆกำลังดี แต่คิมจินอูผู้น่าสงสารกลับนั่งหน้านิ่ว กุมขมับแน่น สลับกับอาการยีหัวตัวเองแรงๆจนผมที่ไม่ค่อยจะเป็นทรงอยู่แล้วยิ่งฟูเละไม่เป็นทรงหนักยิ่งกว่าเก่า
“ แม่ง ทำไมแกไม่ท้องซักทีล่ะวะ ไอ้แทฮยอน ” จินอูคลั่งหนักจนถึงขั้นจะเอาหัวฟูๆนั่นโหม่งสูตรสมการเคมีที่ขึ้นหราอยู่บนหน้าจอโน๊ตบุ๊คประชดชีวิตกะให้ตายอนาถกันไปข้าง
“ พี่จินอู อย่า!!! โน๊ตบุ๊คมันแพงนะฮะ ” ฮันบินรีบชักโน๊ตบุ๊คประจำกลุ่มที่อยู่ตรงหน้ารุ่นพี่สุดที่รักหลบ จนหน้าผากโหนกๆของจินอูต้องพลาดไปสังเวยเอาพื้นโต๊ะม้าหินอ่อนแทนอย่างช่วยไม่ได้
“ ฮันบิ๊น คิดจะฆ่าพี่เหร๊อออ ” จินอูที่น่าสงสารเจ็บปวดรุนแรงถึงขั้นน้ำตาเล็ด มือที่ใช้ยีหัวตัวเองเมื่อครู่จึงเปลี่ยนมาลูบรอยกระแทกบนหน้าผากเป็นการปลอบขวัญตัวเองแทน
“ เอาน่า ฮันบินหวังดีนะ ว่าแต่มึงเถอะ ทำกันอีท่าไหนวะ นี่มันจะ 3 เดือนแล้วนะเว้ย ” จีวอนรีบพูดข้ามช็อตไปท่ามกลางความงงงวยของคิมจินอู ที่ดูเหมือนจะไม่ได้รับความยุติธรรมเท่าที่ควร
“ บ้า ถามอะไรแบบนี้ ” มินโฮแกล้งทำเป็นเขินแล้วเว้นประโยคไปชั่วอึดใจ “ ทำกันไปตั้งหลายท่า ใครจะไปนั่งจำ เนอะ แทฮยอนเนอะ ” ก่อนจะหันไปยักคิ้วให้อีกคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของตัวเองอย่างกวนๆ
“ หน้าด้าน ” แทฮยอนพึมพำด่าเสียงค่อย ระยะหลังมานี้เขาเริ่มตระหนักได้ว่ามนุษย์อย่างมินโฮจะด่าหรือตวาดยังไงมันก็ไม่ค่อยสะดุ้งสะเทือนอะไรกับเขาหรอก เพราะงั้นแทฮยอนจึงเริ่มคิดได้ว่าเขาควรสงวนแรงด่าเก็บเอาไว้ใช้ในยามจำเป็นจริงๆดีกว่า
“ เฮ้ย นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆเลยนะพวก ถ้าไอ้แทฮยอนมันไม่ท้องนี่ เท่ากับพวกเราต้องพับโครงการนี้ทิ้ง แล้วเริ่มนับศูนย์ คิดโครงการใหม่กันเลยนะเว้ย ” จินอูเริ่มเปิดประเด็นจริงจังกับชีวิตอีกครั้ง
“ ไม่เอานะ ผมไม่อยากให้คุณพ่อคุณแม่เสียใจที่มีลูกไม่ได้เรื่องได้ความ ทำอะไรก็ไม่สำเร็จซักอย่าง คุณพ่อคุณแม่ผมยิ่งเซนซิทีฟเรื่องแบบนี้กันอยู่ด้วยอะ เนอะพี่แทฮยอนเนอะ ” ฮันบินบอกพร้อมซ่อนคำกดดันพี่ชายตัวเองเอาไว้อย่างแนบเนียน
“ อะ..เอ่อ งั้นมั้ง ” แทฮยอนคล้ายกับจะลืมไปชั่วขณะว่าบุคคลที่ฮันบินพูดถึงอยู่นั่นก็เป็นบุพการีของเขาด้วยเหมือนกัน ... แต่ได้ข่าวว่า พ่อแม่เขาไม่เคยเซนซิทีฟนะ มันเอาที่ไหนมาพูด แล้วตกลงพวกเราพ่อแม่เดียวกันแน่เปล่าวะ งงๆนะ
“ ก็นั่นไง เพราะงั้น แกต้องทำให้ได้นะ แค่ท้องเอง ท้องมันแค่เรื่องง่ายๆ ทำไมแกทำไม่ได้ฮะ!! ไอ้แทฮยอน ” จินอูยื่นหน้าเข้าไปกดดันร่างบางใกล้เสียจนแค่อีกนิดเดียวปากของเจ้าตัวก็จะแทบมุดเข้าไปในรูหูของอีกฝ่ายได้อยู่แล้วเชียว
“ อ..เออ ก็กำลังพยายามอยู่นี่ไงเล่า ” นรกอะไรที่นอกจากเขาจะโดนไอ้บ้าห้าร้อยที่นั่งอยู่ตรงข้ามลากเข้าห้องทุกวันชนิดไม่มีหวั่นแม้วันมามาก(?) แล้วไหงยังจะต้องมาโดนจินอูคาดคั้นอย่างเอาเป็นเอาตายแบบนี้ด้วยล่ะเฮ้ย
“ เออ ทำให้ได้นะเว้ย ถ้าแกไม่ยอมท้องซักที ฉันจะตัดชื่อแกออกจากกลุ่มจริงๆด้วย ” ในใจของแทฮยอน ณ ตอนนี้คือเขารู้สึกเหมือนกำลังโดนแม่ผัวกดดันว่าอยากอุ้มหลานเร็วๆ ถ้าไม่ยอมมีให้จะถูกตัดออกจากกองมรดกยังไงยังงั้น
เฮ้ย แต่ว่าก็ว่าเถอะ ทำไมไม่มีใครว่าอะไรไอ้มินโฮมันสักคำเลยวะ ไอ้ที่เขาไม่ท้องเนี่ย เผลอๆมันอาจจะเป็นเพราะไอ้บ้านั่นไม่มีน้ำยาก็ได้ใครจะไปรู้
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
“ เฮ้ย แทฮยอน หน้านายซีดๆนะ รู้สึกยังไงมั้งอะ เวียนหัวมั้ย คลื่นไส้รึเปล่า บลา บลา บลา ” หลังจากที่แทฮยอนหย่อนก้นลงนั่งกับเก้าอี้ในห้องแลคเชอร์ได้ไม่นาน ก็มีคำถามของคิมจินอูกระหน่ำเข้าหาไม่ยั้งทันที
“ ไม่อะ ไม่ได้เป็นอะไรเลย ” ร่างบางตอบพลางกลอกตาขึ้นมองหลอดฟลูออเรสเซนต์บนเพดานด้วยอาการเซ็งจัด ตลอดหลายเดือนมานี่ เพื่อนรักคนนี้เอาแต่ย้ำคำถามเดิมๆกับเขาทุกวัน และหลังๆมันชักจะเริ่มกลายเป็นทุกเวลา จากเดิมที่ไม่เคยคิดอะไร แทฮยอนก็เริ่มรู้สึกเครียดและกดดันขึ้นมาจริงๆซะแล้ว
“ ว้า จริงดิ ” จินอูครางเสียงหงอยอย่างผิดหวัง
“ …………………. ” น้ำเสียงแบบนั้นของเพื่อนสนิททำเอาแทฮยอนพูดอะไรไม่ออก ทุกครั้งเขาพยายามไม่คิดอะไรมาก เพราะจีวอนคอยเตือนอยู่เสมอว่าอย่าเครียด ยิ่งเครียดสุขภาพก็ยิ่งแย่ พอสุขภาพแย่แล้วเด็กก็ยิ่งติดยากไปกันใหญ่
แต่ไม่รู้ทำไมครั้งนี้เขากลับรู้สึกเหมือนกับว่าเรื่องนี้มันกำลังจะกลายเป็นปัญหาชีวิตของเขาอย่างจริงๆจังๆ เอ...หรือเรียกว่าปัญหาครอบครัวมันจะถูกกว่า เพราะไปๆมาๆเขาก็ชักจะดูเหมือนลูกสะใภ้ที่ต้องทำตัวหงอๆต่อหน้าแม่ผัวที่ทำท่าอยากจะอุ้มหลานจนตัวสั่นเข้าไปทุกที โอ๊ยยยยย ณ จุดนี้ นัมแทฮยอนอยากจะบ้าแล้วหนีไปกบดานอยู่ศรีธัญญาให้มันรู้แล้วรู้แรดเลยจริงๆสิ
“ นายกับมินโฮยังทำการบ้านกันทุกคืนอยู่รึเปล่าเนี่ย ” จินอูถามโดยที่พยายามเลือกใช้คำเลี่ยงๆเพราะกลัวว่าจะมีคนนอกได้ยิน ...แต่อันที่จริงแทนที่จะเรียก ‘การบ้าน’ เขาควรจะเปลี่ยนไปใช้คำว่า ‘งานกลุ่ม’ ซะ ดูท่าจะเหมาะกว่า
ก็มันเป็นงานกลุ่มในส่วนที่มีมินโฮกับแทฮยอนเป็นผู้รับผิดชอบร่วมกันจริงๆนี่นา คิมจินอู เปล่าทะลึ่งนะ
“ อะไร เมื่อวานก็ไม่เห็นจะมีการบ้านอะไรซักหน่อยนี่ ” แทฮยอนพาซื่อ ทำหน้าสงสัยด้วยความอินโนเซ้นท์จัด
“ ฉันหมายถึง มีเพศสัมพันธ์น่ะ ” จินอูกระซิบเบาด้วยความเขินอาย แต่อายที่ว่านี่คืออายที่ต้องพูดคำศัพท์บ้านนอกของเจ้าสองพี่น้องตระกูลผู้ดีนี่ออกมาหรอกนะ ไม่ได้อายเรื่องอื่น
“ ก..ก็..ทุกวัน..นั่นแหละ ” แทฮยอนตอบอย่างอดรู้สึกกระดากปากเล็กๆไม่ได้
“ แล้วทำไมมันท้องยากท้องเย็นจริง นี่ฉันชักเริ่มไม่ค่อยเชื่อแล้วนะ แกโกหกเปล่าเนี่ย ” คำพูดของจินอู ทำเอาแทฮยอนชักอยากเอาหัวโขกโต๊ะตาย ลำพังแค่ท่าเดินกะโผลกกะเผลกของเขาทุกวันนี้มันยังไม่พอจะเป็นข้อยืนยันคำพูดของเขาอีกหรือไงกัน สงสัยต้องถ่ายเป็นคลิปแล้วส่งเวียนให้ดูกันรอบกลุ่มซะล่ะมั้ง
“ ฉันไม่รู้อ่า จินอู คือ ฉันเพลียว่ะ ขอนอนเอาแรงซักแป๊บก่อนอาจารย์มาแล้วกัน ” พอเห็นว่าอีกฝ่ายเริ่มลากเขาเข้าสู่ประเด็นปัญหาครอบครัวอีกหน แทฮยอนก็ทำทีเป็นง่วงนอนขึ้นมาเสียอย่างนั้น
“ เฮ้ย แกเพลียใช่มั้ย แทฮยอน อ่อนเพลียแบบนี้อาจจะใช่นะเว้ย เอาที่ตรวจคร..เอ้ย ที่ตรวจเบาหวานไปตรวจเร็วเข้า ” จินอูสะกิดไหล่เพื่อนรักที่นอนเกยคางอยู่กับโต๊ะอย่างบ้าคลั่ง อารามดีใจจัด จนเกือบหลุดคำต้องห้ามออกไป เลยรีบพูดกลบเกลื่อนเป็นคำอื่นแทนไปอย่างเนียนๆ
แต่มันคงเนียนโครตๆเลยล่ะ ถ้าคิมจินอู ไม่ทำท่าลั้นลาจนดูเหมือนมันดีใจที่เพื่อนมีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานซะขนาดนั้นล่ะก็นะ
“ นายไม่ต้องตื่นเต้นไปหรอกว่ะ ที่ฉันเพลียเนี่ย เพราะโดนไอ้มินโฮมันเพิ่มรอบเอาต่างหากล่ะ ได้นอนอีกทีเกือบตีสามมาหลายคืนแล้วเนี่ย ”
ฟังแทฮยอนบ่นแล้วจินอูก็เกือบๆจะเห็นใจแต่ก็ยังไม่วายมีคำพูดที่ฟังดูน่าปวดตับสำหรับร่างบางตบท้ายตามมาอีกระลอก
“ อือ มินโฮมันก็ทำถูกแล้วไง มันคิดดีนะเนี่ย อุตส่าห์ทุ่มสุดตัวเพื่อโครงการของพวกเรา ”
ใครๆก็รัก ใครๆก็เทิดทูน ใครๆก็ชื่นชมคุณซงมินโฮ ส่วนไอ้นัมแทฮยอนมันก็แค่หนูทดลองยา ไม่ต้องไปสนใจมันมากก็ได้ ณ จุดๆนี้ มันน่าปวดตับมั้ยล่ะครับคู้ณณณ
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
ตั้งแต่มีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้มา 21 ปี นัมแทฮยอน ก็เพิ่งจะรู้วันนี้เองว่า เหตุการณ์ตอนถูกคุณแม่จับแต่งชุดกระโปรงฟูฟ่อง มีลูกไม้ระบายแบบเจ้าหญิงในวันรวมญาติเมื่อตอน 8 ขวบนั่นไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร หรือจะเป็นครั้งที่เล่นกับฮันบินจนไหล่หลุด ตอนอายุ 12 ก็ยังดูเบาะๆ หรือจะที่เกือบจมน้ำทะเลตายตอนเข้าค่ายรับน้องปี 1 นั่นก็ยังไม่เท่าไหร่
ถ้าเอาไอ้ที่เขาว่ามาทั้งหมดเทียบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้
เพราะวันนี้ ในวันที่แทฮยอนมีอายุครบ 21 ปีกี่เดือนไม่ได้นับ มันเป็นวันที่เขาเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองเริ่มตั้งท้อง
ท้องที่หมายถึงมีครรภ์นั่นไง สำหรับคิมจินอูมันคงเป็นความสำเร็จของโครงการ สำหรับทุกคนในกลุ่มมันคือผลงานที่แสนมีค่า แต่สำหรับเขา มันคือนรกขนาดย่อมๆ
“ พี่แทฮยอน สูดหายใจเข้าลึกๆนะฮะ ” ฮันบินคอยลูบหลังให้พี่ชายที่เอาแต่เกาะติดขอบโถชักโครกโก่งคออาเจียนไม่หยุดมากว่าครึ่งชั่วโมงด้วยความเห็นใจ แต่เด็กน้อยก็ไม่รู้จะทำอะไรได้ดีไปกว่าการคอยให้กำลังใจอยู่ข้างๆอีกแล้ว
“ โท...โทรหา...จินอู...บอกจารย์...ให้ด้วย...อุ๊บ......แหวะ ” แทฮยอนเงยหน้าขึ้นมาสั่งเสีย(?)กับน้องชาย ก่อนจะหันกลับไปอาเจียนต่อเมื่อรู้สึกได้ว่าอาหารมื้อค่ำของเมื่อวานมันกำลังตีกลับขึ้นมาจนถึงคอหอยอีกระลอกแล้ว
“ ได้ฮะ ” ฮันบินรับคำพลางเดินออกไปหยิบมือถือที่เตียงก่อนรีบกลับมานั่งยองๆข้างๆร่างบาง แล้วยกมือถือขึ้นคุย “ พี่จินอู พี่แทฮยอนไม่สบาย วันนี้คงไม่เข้าเรียนนะฮะ... เอ ไม่รู้สิฮะ เห็นเอาแต่อ้วกอย่างเดียว ตัวก็เย็นๆฮะ ไม่ได้มีไข้... ”
ฮันบินยังไม่รู้ แต่แทฮยอนรู้... เขารู้ดีว่าตัวเองเป็นอะไรในทันทีที่เช้าวันนี้มาถึง ...จะไม่ให้รู้ได้ยังไง ก็จินอูเล่นสัมภาษณ์เขาทุกเช้า-เย็น ว่าเวียนหัวมั้ย คลื่นไส้หรือเปล่า อ่อนเพลียหรือไม่ รู้สึกเหม็นๆอะไรบ้างมั้ย
แทฮยอนอยากจะอวดอย่างภาคภูมิใจซะเหลือเกินว่าตอนนี้เขามีครบทุกอาการที่จินอูต้องการเลยล่ะ
“ ฮะ!!! พี่แทฮยอนท้องเหรอ? ” ฮันบินตะโกนอย่างตื่นเต้นระคนดีใจดังลั่นหลังจากได้ยินผลการวินิจฉัยโรคเบื้องต้นจากปลายสาย จะไม่ให้ดีใจได้ไงไหว พี่แทฮยอนมีลูกก็เท่ากับเขามีหลานไว้ให้เล่น แถมยังได้ผลงานอันน่าภาคภูมิใจไปอวดหม่ามี้ป่าปี๊อีกต่างหาก
“ แค่ก ๆๆ โอ่กกกกกกกกก อุ๊บ...แหวะ แค่กๆๆ อ่อก!!! ” ขณะที่ฮันบินกำลังคุยโทรศัพท์ ด้านข้างก็มีซาวด์เอฟเฟ็คระบบเซอร์ราวด์คุณภาพคับหูดังแทรกขึ้นมาเป็นระยะๆให้คนปลายสายได้รู้สึกขยะแขยงเล่นอีกด้วย
“ เฮ้ย พี่แทฮยอน ...พี่จินอู พี่แทฮยอนเป็นลมไปแล้วง่า ทำไงดี ” ฮันบินลนลานเมื่อเห็นพี่ชายของตัวเองทิ้งร่างไถลลงมาพิงกับไหล่ของเขาอย่างหมดแรง คอพับคออ่อนเสียจนน่าสงสาร แต่ก็ไม่รู้จะช่วยอย่างไร จะให้แบกกลับไปที่เตียง เขาก็คงไม่มีแรงพอ ถึงพี่แทฮยอนจะตัวบางแค่นี้เองก็เถอะ
ตามปกติแล้ว ฮันบินคงใช้วิธีลากออกไป แต่ถ้าเป็นตอนนี้เห็นทีคงไม่เหมาะ เพราะนอกจากพี่แทฮยอนจะเจ็บแล้ว เจ้าเอ็มบริโอตัวน้อยในท้องมันจะกระทบกระเทือนไปด้วยนี่น่ะสิ เขาถึงได้ไม่กล้า
ฮันบินนี่หันซ้ายแลขวามองหาตัวช่วย แต่ก็ไม่เจอใคร ก็แน่ล่ะ เพราะในห้องนี้ก็มีแค่เขากับพี่แทฮยอนที่อยู่ด้วยกัน แล้วมันจะมีใครโผล่มาเป็นตัวช่วยให้เขาได้อีกเล่า
ปกติพี่แทฮยอนอึดขนาดร้อยวันพันปีจะป่วยสักหน ต่างกับเขาที่เดี๋ยวก็เป็นไข้ เดี๋ยวก็เป็นหวัดกลับมาให้คนรอบข้างดูแลอยู่เสมอๆ แต่การเป็นคนที่ถูกดูแลแต่ฝ่ายเดียว บางครั้งก็เป็นการสร้างนิสัยเสียเล็กๆให้เขาได้ทางหนึ่งเหมือนกัน นั่นเพราะมันทำให้เขากลายเป็นคนที่ดูแลใครไม่เป็นไปโดยปริยาย
แล้วจะให้ฮันบินที่น่ารักจัดการอย่างไรกับสภาพศพ เอ้ย สภาพร่างเปื่อยๆของพี่แทฮยอนดีล่ะเนี่ย จะอุ้มออกไปก็ไม่ไหว หรือจะให้นอนอยู่ในห้องน้ำรอพี่จินอูก็คงไม่ดี เพราะกว่าพี่แกจะขออาจารย์โดดเรียนมาได้ เราสองพี่น้องคงได้เน่าตายคาห้องน้ำกันพอดี
“ อ่า กดชักโครกก่อนละกัน ” ถึงไม่ได้ช่วยให้พี่ชายฟื้นขึ้นมาได้ แต่อย่างน้อยก็ทำให้บรรยากาศภายในห้องน้ำดีขึ้นนิดหน่อยล่ะนะ ฮันบินคิดพลางค่อยๆพยุงร่างบางให้นอนหนุนตัก ส่วนตัวเองก็กระเถิบตัวเอาหลังไปนั่งพิงกับกำแพงห้องน้ำแก้เมื่อยไปพลาง
ยังดีที่หอพักนี้มีการจัดหาแม่บ้านให้มาทำความสะอาดห้องทุกวัน ห้องน้ำของพวกเขาจึงสะอาดเอี่ยมพร้อมใช้อยู่เสมอ มันสะอาดมากถึงขนาดให้เด็กเล็กๆลงมาคลานเล่นได้อย่างไม่ต้องกังวลเลยล่ะ
“ ฮันบินอา นี่พี่เอง เปิดประตูให้ทีสิครับ ” คิดอะไรเพลินๆโดยไม่ทันตั้งตัวก็มีเสียงทุ้มๆที่คุ้นเคยลอยมาจากทางหน้าห้อง
“ พี่จีวอน ” ฮันบินตะโกนเรียกด้วยความดีใจ ในที่สุดตัวช่วยที่ Swag ที่สุดในสามโลกของเขาก็โผล่มา อันที่จริงเขาลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าเช้านี้นัดกับพี่จีวอนไว้ที่หน้าตึกเพื่อจะเข้าม.พร้อมกัน อีกฝ่ายคงเห็นว่าเลยเวลามามากแล้ว ถึงได้เดินขึ้นมาตามที่ห้องแบบนี้
ประตูห้องเปิดผาง คนตัวบางกระโดดกอดคอคนที่ยืนรออยู่หน้าห้องแน่นอย่างดีใจราวกับไม่ได้เจอหน้ากันมาสักชาติเศษ แต่คนโดนกอดก็ไม่ได้ว่าอะไร ออกจะดีใจจนหน้าบานด้วยซ้ำที่นานๆทีจะถูกเจ้าเด็กน่ารักนี่ลวนลาม(?)
“ คิดถึงพี่เหรอ ” จีวอนถามอย่างเข้าข้างตัวเองเป็นที่สุด
“ เปล่าฮะ ผมแค่ดีใจที่พี่จีวอนมักจะมาปรากฏตัวในเวลาที่ผมต้องการเสมอเลย ” ฮันบินยิ้มแย้มบอกพร้อมกับลากข้อมือหนาเข้าไปภายในห้อง เดินเรื่อยเข้าไปจนถึงตัวห้องนอน
“ เฮ่ ด....ด..เดี๋ยวๆๆนะ พี่ว่าเราสองคนคงยังไม่ถึงเวลาที่จะ..... ” จีวอนทำปากพะงาบๆเหมือนปลาขาดน้ำ ใครจะรู้ว่าแค่เห็นห้องนอนอยู่ตรงหน้า ต่อมจิ้นของเขาก็ส่งแรงดันไปยังสมองให้เห็นเป็นภาพเรือนร่างขาวๆภายใต้เสื้อผ้าของฮันบินนี่ที่น่ารักของเขาอย่างหยุดไม่ได้ซะแล้ว
จีวอนไม่ได้หื่นนะ เขาก็แค่เป็นคนมีจินตนาการสูงก็เท่านั้นเอง จริงๆนะ เอาฟันกันสาดคู่หน้าของเขาเป็นประกันเลยก็ได้ เอ้า!!!
“ พอดีพี่แทฮยอนเป็นลมในห้องน้ำน่ะฮะ ผมเลยอยากให้พี่ช่วยพาพี่เขามาที่เตียงให้หน่อย ” ประโยคง่ายๆของฮันบิน หยุดภาพลามกอนาจารทั้งหลายแหล่ในหัวของจีวอนได้ชะงัดนัก
“ แทฮยอนเป็นลม? ” จีวอนทวนคำเหมือนไม่เชื่อหู ก่อนจะรีบสาวเท้าเข้าไปใกล้ที่เกิดเหตุตามที่อีกฝ่ายบอกอย่างรวดเร็ว “เฮ้ย ตัวเย็นเจี๊ยบเลยว่ะ ทำใจดีๆไว้ก่อนนะเว้ย ไอ้แทฮยอน ”
จีวอนใช้มัดกล้ามที่ประดับอยู่บนต้นแขนตัวเองซึ่งปกติมีไว้เพียงเพื่ออวดสาวให้เกิดประโยชน์ด้วยการช้อนร่างบางๆของเพื่อนรักขึ้นจากพื้นกระเบื้องเย็นเฉียบ พาตัวคนป่วยอาการร่อแร่ให้พ้นจากอุณหภูมิต่ำๆในห้องน้ำโดยเร็ว
พอถูกวางลงที่เตียง แทฮยอนก็เหมือนจะรู้สึกตัวพอดี และในทันทีที่ลืมตา อาการเวียนหัวกับความรู้สึกคลื่นไส้ก็ตามมาเล่นงานเขาอย่างเฉียบพลัน ฝ่ามือบางจึงเลื่อนขึ้นกุมขมับ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นกระหน่ำทึ้งหัวตัวเองแรงๆด้วยหวังว่ามันจะช่วยคลายจากอาการที่เป็นอยู่ได้
“ เฮ้ย แกเป็นไรเนี่ย แทฮยอน ” จีวอนรีบคว้ามือเพื่อนรักเอาไว้ทันทีด้วยความตกใจ
“ ห้องหมุน...มันหมุนไปหมดแล้ว...โอยยยย....อยากอ้วก ” แทฮยอนตอบด้วยท่าทางเพ้อๆพร้อมหลับตาลงอย่างอ่อนแรง
“ อยากอ้วกเหรอ เป็นมานานรึยัง แทฮยอน ” จีวอนเริ่มสะกิดใจแปลกๆกับอาการของคนตรงหน้า ก่อนจะชะงักไปเพราะได้ยินเสียงฝีเท้าหนักๆของใครสักคนหรือมากกว่านั้นวิ่งมาหยุดอยู่ที่หน้าห้อง
“ ปังๆๆๆๆ ฮันบิน เปิดประตูให้พี่เร็วเข้า!!! ” เสียงจินอูเอ่ยเร่งเข้ามา ก่อนจะเห็นคนตัวบางวิ่งดุ๊กๆออกจากห้องนอนไปเปิดประตูตามคำสั่งนั้น
“ อ้าว พี่เขยก็มาด้วยเหรอ ” ฮันบินทักทายอย่างร่าเริงด้วยสรรพนามแปลกใหม่ที่พักหลังๆมามักจะได้ยินบ่อยขึ้นในกลุ่มของพวกเขา
“ จินอูโทรตามให้มาด้วยกันน่ะ ” มินโฮตอบยิ้มแย้มอย่างรู้สึกถูกใจคำเรียกของอีกฝ่าย อันที่จริงเขาก็ไม่ได้ดีใจกับตำแหน่งที่ฮันบินมอบให้อะไรขนาดนั้นหรอก แค่รู้สึกชอบใจเวลาที่เห็นแทฮยอนทำหน้าไม่สบอารมณ์ที่ได้ยินน้องชายตัวเองเรียกเขาแบบนั้นต่างหาก
หน้าหวานๆของแทฮยอนเวลาที่กำลังโมโหใครสักคน มันดูแล้วเพลินดี ก็แค่นั้น
“ พี่แทฮยอนท้องแล้วนะ รู้เปล่า พี่จะได้เป็นพ่อคนแล้วนา ดีใจมั้ยฮะ ” ฮันบินบอกยิ้มๆ พลางเดินนำไปยังห้องนอนที่เขากับพี่ชายใช้ร่วมกัน
“ อื้ม ดีใจ ” มินโฮตอบแบบรักษาน้ำใจ แต่ความจริงเขาก็ยังตอบตัวเองไม่ถูกเลยด้วยซ้ำว่ารู้สึกแบบไหน ครั้งแรกที่ได้ยินจากปากของจินอูผ่านทางโทรศัพท์ว่าแทฮยอนท้อง ก็แค่รู้สึกดีใจที่โครงการของพวกเขากำลังเข้าใกล้ความสำเร็จไปอีกขั้นแล้ว แต่ไอ้ความรู้สึกอยากเป็นพ่อคนอย่างที่ฮันบินว่านี่ มันแทบไม่ได้อยู่ในมันสมองของเขาเลยสักนิด เพียงแต่ลึกๆแล้วก็อดใจหายไม่ได้ว่าต่อไปนี้เขาก็คงจะไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไปต่อรองขอมีอะไรกับแทฮยอนได้อีกแล้วสินะ
หมดแล้วกับเรื่องบนเตียง ต่อไปเขาก็จะเป็นแค่เพื่อนร่วมกลุ่มกับแทฮยอนเหมือนอย่างเก่า คิดแล้วก็อดเศร้านิดๆไม่ได้
“ แทฮยอน ลุกขึ้นมาเร็วเข้า เอานี่ไปด้วย ให้ว่องๆ ” จินอูเขย่าร่างที่นอนพังพาบอยู่กับเตียงแรงๆพลางจัดแจงยัด ‘ ชุดตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตัวเอง ’ ใส่ในมือของอีกฝ่ายอย่างกระตือรือร้น
“ หื้ออ อย่า ...เขย่า...เวียนหัว ” แทฮยอนนิ่วหน้าบอกด้วยเสียงแหบแห้งจนคนฟังชักรู้สึกผิด
“ ขอโทษๆ แต่ฉันตื่นเต้นนี่นา อยากยืนยันให้ชัดเจนว่านายท้องแน่ๆเปล่า นะ แค่เช็คด้วยไอ้นี่นิดเดียวเอง ทำให้หน่อยเถอะนะ แล้วจะกลับมานอนไปจนถึงพรุ่งนี้เช้า ฉันก็ไม่ว่า ” จินอูกระหายความสำเร็จจนแทบคลั่งตาย ถ้าแทฮยอนชักช้าอีกแค่นาทีเดียว ความใจร้อนของเขาอาจจะทำให้ตัวเองอกแตกตายไปจริงๆก็ได้
“ อือ ” แทฮยอนตกลงอย่างตัดรำคาญ คิดเสียว่าถ้าทำตามที่อีกฝ่ายบอกแต่โดยดี มันก็จะได้ไม่มากวนใจเขาอีก
ร่างบางๆเดินลงจากเตียง สะโหลสะเหลจัดจนเกือบล้มลงอยู่หลายรอบ แต่ก่อนจะเป็นแบบนั้นก็มีมือใหญ่ๆเข้ามาช่วยพยุงเอาไว้เสียก่อน
“ เดินดูทางมั่งเด่ะ จะชนขอบโต๊ะอยู่แล้วนั่น ” เสียงทุ้มๆว่าพลางคอยประคองช่วงเอวคอดกันไม่ให้อีกฝ่ายล้มลงกับพื้น
“ อื้อ ” แทฮยอนครางรับเบาๆในลำคออย่างว่าง่าย เพราะอ่อนแรงเกินกว่าจะต่อปากต่อคำอะไรกลับไปได้
มินโฮอมยิ้มกับท่าทีเชื่องๆผิดกับภาพลักษณ์ปกติที่ชอบวีนเหวี่ยงใส่ใครๆของแทฮยอนก่อนจะออกแรงกึ่งดันกึ่งพยุงหลังบางๆไปจนถึงห้องน้ำ
“ ออกไปสิ ” แทฮยอนดันอกของอีกคนที่ทำท่าจะเดินตามเขาเข้าไปในห้องน้ำด้วย
“ ได้ไง ถ้านายเป็นลมเป็นแล้งไปอีกแล้วใครจะช่วยเล่า ” อันที่จริงมินโฮได้ยินเรื่องที่แทฮยอนเป็นลมแว่วๆจากจินอูระหว่างทางที่มาที่นี่ด้วยกันแล้ว จึงอดเป็นห่วงขึ้นมาเล็กๆไม่ได้
เขาแค่เป็นห่วงผลงานของตัวเองหรอกนะ ไม่ได้ห่วงแทฮยอน อย่าเข้าใจผิดเชียว!!!
“ อือ ” เป็นอันว่าตกลง เพราะไม่อยากเรื่องมาก อย่างน้อยแทฮยอนก็รับรู้ว่าอีกฝ่ายหวังดี
“ แล้วรู้รึเปล่าว่าใช้ยังไง ” มินโฮดึงของในมือของอีกฝ่ายขึ้นมาแกะซองออกให้อย่างเอาใจ
“ รู้ ” จะไม่ให้รู้ได้ยังไงไหว ก็ช่วง 2- 3เดือนที่ผ่านมา จินอูบังคับให้เขาทดสอบการตั้งท้องด้วยอุปกรณ์บ้าๆนี้ทุกวันเว้นวันเห็นจะได้ ถ้าใช้ไม่เป็นก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ว
“ ให้หันหลังมั้ย ” ถึงจะขึ้นชื่อเรื่องหน้าด้าน แต่มินโฮก็ยังพอจะมีจิตสำนึกอยู่บ้างเล็กๆ
“ อืม ” แทฮยอนรับคำสั้นๆ พลางรับอุปกรณ์จากมือมินโฮมาถือไว้ จัดการตามขั้นตอนที่เคยทำมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งอย่างแม่นยำ ก่อนจะสะกิดเรียกอีกฝ่าย
“ เรียบร้อยแล้ว? ” มินโฮถาม ก่อนรับแท่งอุปกรณ์ที่อีกฝ่ายยื่นใส่มือมาให้อย่างงงๆ
“ อืม เอาไปให้พวกข้างนอกดูสิ ” แทฮยอนบอก
“ แล้วนาย? ”
“ ฉันจะอ้วก นายจะดูรึไง ” ร่างบางถามกลับ
“ อือๆ ” มินโฮยอมล่าถอยออกมาจากห้องน้ำแต่โดยดี อย่างน้อยอีกฝ่ายก็ควรจะมีพื้นที่ส่วนตัวในการจัดการกับธุระของตัวเองบ้าง และอีกอย่างเขาก็ไม่ได้ใจแข็งพอที่จะยืนมองคนกำลังอาเจียนได้โดยไม่รู้สึกอะไร หรือถ้าจะให้พูดตรงๆเลยคือมันขยะแขยงเกินกว่าจะทนได้ต่างหาก
ทั้งที่เสียงอาเจียนและกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ที่เล็ดลอดออกมาจากภายในห้องน้ำ มันก็ชวนแหวะถึงขนาดนั้น แต่เพราะอะไรก็ไม่รู้ หลังจากที่เอาอุปกรณ์ไปส่งถึงมือจินอูเรียบร้อยแล้ว มินโฮถึงยังอุตส่าห์เดินกลับมายืนเฝ้าอยู่หน้าห้องน้ำอีกครั้งได้หน้าตาเฉย
“ ส…ส….สองขีด…ป…ป…ป เป็นครั้งแรกที่.ม…มันขึ้นมา…ส….ส….สองขีด ” จินอูตื่นเต้นจนพูดติดอ่างโดยไม่รู้ตัว หลังจากสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นของแท่งทดสอบในมือเมื่อเวลาผ่านไปสักครู่ใหญ่
“ สองขีดนี่แปลว่าท้องใช่มั้ยฮะ ” อันที่จริงดูจากท่าทางของจินอูก็พอจะเดาคำตอบเองได้อยู่ แต่ฮันบินก็เลือกที่จะถามเพื่อความมั่นใจ
“ อ…อื้อ…” จินอูพยักหน้าตอบน้ำตาปริ่มด้วยความปลื้มใจ ก่อนที่สองพี่น้องจะโผเข้ากอดกันอย่างดีใจในความสำเร็จ
“ อ๊ากกกกกก แยกๆๆ ” จีวอนร้องลั่นเหมือนผีเข้าอย่างทนไม่ได้ที่จะต้องเห็นฮันบินอยู่ในอ้อมกอดของใครก็ตามที่ไม่ใช่เขา เพราะขนาดเขาเองก็ใช่ว่าจะมีโอกาสได้กอดฮันบินบ่อยๆ
คิดแล้วจีวอนก็ตบหน้าผากแรงๆไปทีหนึ่งเป็นการทำโทษตัวเองที่มัวแต่หึงหวงแทนที่จะทำเนียนๆเข้าไปกอดน้องด้วยอีกคน
“ เฮ้ย มินโฮ มึงเป็นไร ปวดขี้เหรอ ” จีวอนหันไปแขวะคนที่เอาแต่ยืนเฝ้าห้องน้ำมาพักใหญ่แก้เซ็ง
“ กูหิวข้าว ” อีกคนประชดหน้าตายกลับมาทันควัน ทำเอาคนถูกประชดเบ้ปากอย่างเซ็งหนักกว่าเดิม
“ แทฮยอนยังไม่ออกมาอีกเหรอเนี่ย จะเป็นลมไปอีกเปล่าวะ ” จินอูเริ่มเป็นห่วง
“ ปังๆๆๆๆๆๆๆๆ ” ได้ยินแบบนั้นมินโฮก็ไม่รอช้ารีบรัวเคาะประตูห้องน้ำเรียกทันที
“ จะเคาะทำไม!! ไม่มีอะไรทำหรือไง ” เสียงคนข้างในตวาดแว้ดกลับมาเจือความหงุดหงิดแบบเต็มสตรีม
“ เปล่า ก็นายเข้านานนี่ ฉันก็อยากจะใช้ห้องน้ำบ้างเหมือนกันนะ ” พอได้ยินเสียงแทฮยอนตอบกลับมา มินโฮก็โล่งอก แต่ยังคงไว้ท่า ทำทีเป็นอ้างเอ่ยเหตุผลไปอย่างนั้น
ยอมรับว่าเป็นห่วงออกมาตรงๆไม่ได้หรอก เดี๋ยวไม่หล่อ!
“ แอ๊ด ” เสียงประตูเปิดออก พร้อมกับมือขาวๆที่เกาะกรอบประตูไว้มั่นด้วยสภาพร่างกายที่พร้อมจะเอนเอียงไปตามแรงโน้มถ่วงโลกได้ทุกเมื่อ
“ ไหวป่ะเนี่ย ” มินโฮถามคนที่ลงไปนั่งกอดเข่าอยู่หน้าห้องน้ำ “ ให้ช่วยแบกไปที่เตียงมั้ย ” ถามพลางฉุดต้นแขนเรียวขึ้นมา
“ ไม่ต้อง นายก็เข้าดิ เดี๋ยวฉันจะใช้ต่ออีก ” แทฮยอนซุกหน้าลงซบลงกับเข่าของตัวเองอย่างหมดเรี่ยวหมดแรง
มินโฮลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ที่แทฮยอนพูดแบบนั้นแปลว่าเป็นเพราะเขาเจ้าตัวถึงได้ยอมออกมาก่อนจะเสร็จธุระ เพราะความฟอร์มจัดของเขาทำให้อีกฝ่ายจำต้องฝืนร่างกาย ทั้งที่ความจริงเขาไม่ได้อยากจะใช้ห้องน้ำอย่างที่พูดเลยสักนิด
รู้สึกผิดชะมัด
แต่เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขาแค่แกล้งพูดกวนไปอย่างนั้น มินโฮจึงต้องทำเป็นเดินเข้าไปในห้องน้ำทั้งที่ไม่ได้รู้สึกอยากจะเข้าจริงๆ เขาแค่เดินวนไปมาในนั้นอยู่สองสามรอบ ก่อนจะกดชักโครกเพื่อให้ดูสมจริง แล้วเปิดประตูไปเรียกอีกคนกลับเข้ามา
ภาพที่เห็นตอนนี้คือ แทฮยอนกำลังนั่งเงยหน้าเอามือปิดปากไว้แน่น คิ้วตกๆขมวดมุ่นเข้าหากันเหมือนกำลังทรมานจากอาการที่เป็นอยู่ บนใบหน้าซีดเซียวมีเม็ดเหงื่อเกาะอยู่เต็มไปหมด ลูกกะเดือกเล็กๆภายใต้ลำคอขาวเคลื่อนไหวขึ้นลงตลอดเวลาคล้ายกับกำลังพยายามกลืนอะไรสักอย่างอยู่ ลักษณะรวมๆดูเหมือนคนกำลังกลั้นอาเจียน
ณ เวลานี้ ซงมินโฮกำลังรู้สึกผิดที่สุดในโลก
ประตูห้องน้ำเปิดออกกว้าง เป็นแทฮยอนที่วิ่งสวนกลับเข้ามา และก้มลงอาเจียนใส่ชักโครกโครมใหญ่ในทันที ไม่แม้แต่จะรอให้เขาปิดประตูก่อนด้วยซ้ำ
“ เป็นไงบ้าง ” รู้สึกผิดจนอดไม่ได้ที่จะต้องเดินเข้าไปช่วยพยุง ก่อนจะลูบหลังแถมให้อย่างใจดี
“ ออก...แค่กๆๆ ออก...ไปก่อน ” ยืนซวนเซจวนจะล้มแหล่ไม่ล้มแหล่ แต่แทฮยอนก็ดูไม่ยินดีรับน้ำใจของมินโฮไว้สักเท่าไหร่
แขนเรียวที่เกาะผนังห้องน้ำนั่นสั่นอย่างเห็นได้ชัด มินโฮเห็นแล้วตัดสินใจได้ยากขึ้นว่าจะออกไปตามที่อีกฝ่ายบอกดีหรือไม่
“ อย่าอวดเก่งเลยน่า แค่ยืนก็จะไม่ไหวแล้วไม่ใช่? ” มินโฮว่าพลางกอดเอวบางเอาไว้หลวมๆ
“ ……………… ” แทฮยอนไม่ได้เถียงอะไรกลับมาอีก ยอมอยู่นิ่งๆในอ้อมกอดของมินโฮที่ยืนซ้อนอยู่ทางด้านหลังของเขาแต่โดยดี
“ นายท้องจริงๆด้วยแหละ แทฮยอน ” ร่างสูงชวนคุยเมื่อเห็นท่าทางนิ่งเงียบผิดปกติของร่างบาง
“ ...................... ”
“ ทำไมเงียบไปล่ะ ” รู้สึกหลอนแปลกๆเวลาที่เห็นแทฮยอนไม่พูดไม่จา เพราะมันจะทำให้มินโฮไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าคนๆนี้จะมาไม้ไหนกับเขากันแน่
“ นายเกลียดฉันรึเปล่า ” จู่ๆคนที่เอาแต่เงียบก็เปิดประเด็นใหม่ขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย
“ หืม...ก็เปล่านี่ ” มินโฮตอบกลับทั้งที่ยังไม่เข้าใจความคิดของอีกฝ่ายดีนัก แต่ก็เลือกที่จะตอบตามความจริงออกไปก่อน
ไม่ได้เกลียด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ารักนี่นา
“ ฉันเองก็ไม่ได้เกลียดนาย ” แทฮยอนหันมาสบตาหวานเยิ้มกับร่างสูงแล้วบอกด้วยน้ำเสียงแหบพร่าที่เกิดจากความอ่อนล้าทางร่างกายล้วนๆ ไม่ได้มาจากแรงพิศวาสหรือเสน่หาใดๆทั้งสิ้น
ดูเหมือนจะเป็นประโยคในเชิงบวก แต่ไม่รู้ทำไมมินโฮฟังแล้วถึงได้รู้สึกไม่ค่อยดีใจเท่าไหร่ ก็มันทะแม่งๆมั้ยล่ะ จู่ๆคนที่เอาแต่ทำท่าทางรังเกียจและตั้งแง่ใส่กันมาตลอดกลับมาพูดจาแบบนี้ด้วย
“ อ...อืม ล...แล้วไง ” มินโฮลอบมองท่าทางนิ่มๆของแทฮยอนไปเหงื่อตกไปพลาง
“ นายต้องรับผิดชอบฉันนะ ”
งานเข้าซงมินโฮแล้วครับพี่น้อง อีกฝ่ายเล่นพูดมาแบบนี้ ถ้าเขาตอบปฏิเสธไปอะไรจะเกิดขึ้น แล้วถ้าตอบตกลงล่ะ นั่นไม่ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่หรือไง ผู้ชายที่รักสนุกไปวันๆอย่างเขา แน่นอนว่าต้องยังไม่มีความคิดที่จะลงหลักปักฐานสร้างครอบครัวที่ไหนกับใครทั้งนั้น เรียนก็ยังไม่จบ งานก็ยังไม่มา เงินก็ยังไม่มี แล้วเขาจะเอาปัญญาที่ไหนไปเลี้ยงดูไอ้คนที่เอาแต่ช็อปปิ้งทุกวันเว้นวันอย่างนัมแทฮยอนได้กันเล่า
แล้วไหนจะไอ้ตัวที่อยู่ในท้องนั่นอีก!!!!
ยิ่งคิดยิ่งเหงื่อตกไปกันใหญ่ จนเหมือนว่าร่างกายจะสูญเสียน้ำไปมากจนมินโฮชักรู้สึกหน้ามืดขึ้นมาตงิดๆ อยากจะเป็นลมแทนคนท้องซะให้รู้แล้วรู้รอด
“ ว่าไงล่ะ ” แทฮยอนเร่งเร้า เขาไม่ได้กลัวลูกไม่มีพ่อหรืออะไรเทือกนั้นหรอก แค่รู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมเลยที่มีแต่เขาคนเดียวที่ต้องมาลำบากแพ้ท้องหนักขนาดนี้ ในขณะที่คนอื่นๆยังนั่งจ้อกันอย่างสุขสบาย อย่างน้อยมันก็ต้องมีใครสักคนในกลุ่มล่ะที่ยอมมาเป็นเบี้ยล่างให้เขา ไม่งั้นความเสมอภาคจะไม่เบ่งบานในหมู่มวลมนุษยชาติ(?)
“ ค...คือ... ฉันว่า... ” มินโฮได้แต่ตะกุกตะกัก ไปไม่เป็นในชั่วขณะ
“ ฮึก...นายจะไม่รับผิดชอบใช่มั้ย ” ร่างบางส่งเสียงสะอื้นฮักอย่างน่าสงสารพลางทรุดตัวลงนั่งคุกเข่ากับพื้นห้องน้ำ “ พ่อมันไม่ยอมรับ แล้วแกจะอยู่ไปทำไม นี่แน่ะๆ ” แทฮยอนเริ่มฟูมฟายเสียงดัง ก่อนจะใช้กำปั้นระดมทุบหน้าท้องตัวเองอย่างบ้าคลั่ง ใส่ดราม่าเข้าไป พร้อมใช้ทักษะทางด้านการแสดงที่มีอยู่เต็มเปี่ยมในตัวอย่างสนุกสนาน(?)
“ แทฮยอน อย่าทำแบบนั้น!! ฉันไม่ได้บอกว่าจะไม่รับผิดชอบซักหน่อยนี่ ” มินโฮรีบปราม ก่อนทรุดตัวลงนั่งตามมา แล้วโน้มตัวลงกอดร่างบางเอาไว้แน่น หลงเชื่อดราม่าชุดใหญ่ของแทฮยอนเข้าไปเต็มๆเพราะความตกใจล้วนๆ
“ แล้วจะเอายังไงเหรอ ” แทฮยอนช้อนสายตาตัดพ้อขึ้นถามด้วยท่าทีสงบลงกว่าเดิม
“ โอเคๆ ฉันจะรับผิดชอบนายทุกอย่าง ” มินโฮตอบตกลงอย่างจนใจ วินาทีนี้ถ้าอีกฝ่ายจะถึงขั้นจัดงานแต่งขึ้นมา เขาก็คงขัดใจไม่ได้แล้ว ไม่งั้นผลงานของกลุ่มพวกเราในท้องของแทฮยอนต้องไม่ปลอดภัยแน่นอน ...ก็ตัวแม่มันอารมณ์ขึ้นๆลงๆอย่างกับผีเข้าแบบนี้นี่นะ
“ สัญญานะ ”
“ อืม สัญญา ” ว่าไงก็คงต้องว่าตามกันนั่นแหละ
แทฮยอนค่อยๆดันตัวเองให้ออกห่างจากอกล่ำๆของอีกฝ่ายที่เขาเคยใช้พักพิงมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนแต่ก็ไม่ยักกะรู้สึกสนิทใจเสียที ก่อนจะยกฝ่ามือนุ่มขึ้นไล้ไปตามสันคางของอีกฝ่ายเนิบช้า เต็มไปด้วยความนุ่มนวล พลางโน้มริมฝีปากเข้าไปใกล้ใบหูของอีกฝ่าย แล้วกระซิบแผ่วเบา
“ งั้นต่อไปนี้ ก็รับผิดชอบด้วยการเป็นทาสรับใช้ให้ฉันแล้วกันนะ มินโฮ ”
พอพูดจบแทฮยอนก็เบี่ยงตัวเดินออกจากห้องน้ำไป ทิ้งร่างสูงสง่าของคาสโนว่าตัวพ่อนั่งนิ่ง อ้าปากค้างอยู่หน้าโถชักโครกด้วยความอึ้งที่เสียรู้อีกฝ่ายเข้าจนได้
จินอูคิดผิดหรือคิดถูกที่เลือกให้แทฮยอนเป็นคนท้อง แล้วเขาล่ะคิดผิดหรือคิดถูกที่เสนอหน้าเลือกตัวเองมาเป็นคนทำให้แทฮยอนท้อง
ใครจะเป็นยังไงไม่รู้ รู้แต่ว่าชาตินี้ทั้งชาติมินโฮจะไม่ไปทำให้ใครท้องอีกแล้ว เขาขอสาบาน!!
TBC
ขอบคุณคอมเมนท์ของทุกท่านมากเลยค่ะ อ่านแล้วรู้สึกดี มีกำลังใจ 555
ตอนนี้โครงการก็คืบหน้าแล้วเนอะ ส่วนความสัมพันธ์นัมซงก็เริ่มคืบหน้าบ้างแล้วนิดๆ
ตอนต่อไปมีดราม่าเล็กๆมาสะกิดไตแม่ยกคู่นี้ด้วยนะเออ
#นัมแทท้อง << ชวนไปเล่นแท็กกันเยอะๆน้า
◊ SQWEEZ
ความคิดเห็น