คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 2 จำเลยรัก [2]
“พูดเหมือนเรนชอบทำตัวแย่ๆอย่างนั้นแหละ”
เธอว่าปากยื่น
“ไม่แย่หรอก
แต่ชอบดื้อจนแด๊ดปวดหัว” เสี่ยอลันเอ่ยกลั้วหัวเราะ
จึงได้รับค้อนวงใหญ่จากลูกสาวหัวแก้วหัวแหวน
“เราเลิกพูดเรื่องนี้กันเถอะค่ะ
แล้วแด๊ดดี้จะได้ออกจากโรงพยาบาลวันไหนค่ะ” เฌอเมวีร์เปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็คงไม่ต้องไปเกาะบ้านั่นวันนี้พรุ่งนี้หรอก
“คงอีกวันสองวัน
แต่แด๊ดจะขอหมอกลับไปพักที่บ้านก่อน ไม่อยากนอนโรงพยาบาลนานๆ เบื่อ” คนเจ็บเอ่ยด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่ายอย่างที่พูด
“ไม่ได้นะคะ
อยู่โรงพยาบาลให้หมอดูอาการนั่นแหละดีแล้ว ที่นี่เครื่องไม้เครื่องมือเขาก็มีครบ...แด๊ดดี้ชอบว่าแต่เรนดื้อ
ตัวเองก็ดื้อเหมือนกันนั่นแหละ” เธอดุเสียงเข้มพลางย่นจมูกใส่คนที่นอนอยู่บนเตียง
ทำให้ผู้เป็นพ่อหัวเราะออกมาเบาๆอย่างยอมรับไปในตัว
พ่อเป็นอย่างไรลูกก็เป็นอย่างนั้น
“ครับ ไม่กลับก็ไม่กลับ” เสี่ยอลันบอกเสียงอ่อย ไม่ได้กลัวลูกสาวหรอกแค่อยากให้เธอสบายใจเท่านั้น ก่อนจะต่อรองกับอีกฝ่าย
“แต่เรนต้องเดินทางไปอยู่ที่เกาะพรุ่งนี้เลยนะ”
เป็นเหตุให้ร่างบางถึงกับชะงัก มองหน้าบิดาอย่างไม่อยากจะเชื่อหู
รอยยิ้มพึงใจเมื่อครู่พลันหายไปอย่างรวดเร็วเมื่อได้ยินคำสั่ง ทุกอย่างดูปุ๊ปปั๊ปและกะทันหันไปหมด
เพิ่งจะบอกวันนี้พรุ่งนี้กลับบอกให้เดินทางเสียแล้ว เฌอเมวีร์จึงถามออกไปเสียงดังอย่างลืมตัว
“อะไรนะ ทำไมมันรวดเร็วแบบนี้ล่ะ
แด๊ดดี้จะไม่รอให้เรนได้เตรียมใจก่อนหรือไงคะ”
“ยิ่งเราก้าวเร็วกว่ามันเท่าไหร่
ยิ่งดีมากเท่านั้นไม่ใช่หรือลูก แด๊ดไม่รู้ว่ามันจะมีแผนการอะไรมาเล่นงานเราอีก...ทางที่ดีเราต้องตัดจุดอ่อนออกไปก่อน”
เสี่ยอลันถือโอกาสสั่งสอนไปในตัว
เขาเคยประมาทมาแล้วครั้งหนึ่งและเขาจะไม่ยอมเป็นฝ่ายเสียเปรียบอีกครั้ง
เฌอเมวีร์นิ่งฟังด้วยใบหน้าหงิกแบบบอกบุญไม่รับ
กำลังสองจิตสองใจระหว่างดื้อแพ่งให้ถึงที่สุดกับยอมไปแต่โดยดีเพื่อความสบายใจของแด๊ดดี้
แต่ดูเหมือนอย่างหลังจะมีอิทธิพลต่อความรู้สึกเธอมากกว่า เธอรักและเป็นห่วงท่านแต่เสี่ยอลันนั้นเป็นห่วงเธอมากกว่าร้อยเท่าพันเท่านัก
เธอจึงไม่อยากเป็นลูกอกตัญญู
“ก็ได้ค่ะ” เธอถอนหายใจออกมาอย่างยอมแพ้และตอบออกไปเสียงเบาราวกระซิบ
“ให้มันได้อย่างนี้สิลูกรัก”
เสี่ยอลันยื่นแขนข้างที่ไม่เจ็บเข้ามาโอบกอดเฌอเมวีร์ไว้อย่างรักใคร่
เป็นครั้งแรกที่ลูกสาวของเขาทำตัวว่านอนสอนง่ายอย่างนี้ ดวงตาคมกริบเหลือบขึ้นไปสบตากับเฮดิสอย่างรู้สึกโล่งใจ
เฌอเมวีร์ก้าวเข้ามาในร้านอาหารไทยที่อยู่ใกล้กับโรงพยาบาลที่พ่อของเธอรักษาตัวอยู่
เธอต้องหาอะไรทานก่อนที่จะกลับไปนอนเฝ้าผู้เป็นพ่อต่อในคืนนี้
ไหนๆท่านก็บอกให้เดินทางเสียพรุ่งนี้แล้ว เธอก็อยากใช้เวลาอยู่กับท่านให้มากที่สุด
ด้านหลังที่กำลังเดินตามเข้ามาติดๆคือบอดี้การ์ดร่างใหญ่สองคน
ขณะที่กำลังมองหาที่นั่งพนักงานสาวก็เข้ามาถามด้วยวาจาอ่อนหวาน
ก่อนจะผายมือให้ไปนั่งที่โต๊ะริมสุดและเป็นส่วนตัวที่สุด
เฌอเมวีร์ไม่รังเกียจที่จะให้บอดี้การ์ดของเธอนั่งร่วมโต๊ะรับประทานอาหารด้วยแม้ว่าพวกเขาจะปฏิเสธแต่เมื่อเธอบอกว่าต้องนั่ง
พวกเขาก็ต้องนั่งลงแต่โดยดี
และระหว่างรออาหารอยู่นั่นเองเฌอเมวีร์ก็รู้สึกเหมือนกับว่าเธอกำลังถูกจ้องมองจากทางด้านหลัง
แต่พอหันกลับไปมองกลับไม่มีอะไรอย่างที่คิด ทุกคนต่างนั่งรับประทานอาหารกันตามปกติ
หญิงสาวส่ายหน้าเบาๆรู้สึกว่าเธอจะคิดมากเกินไป ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเล่นเพื่อฆ่าเวลา
“นั่งรอกันไปก่อนนะ
เดี๋ยวเรนไปเข้าห้องน้ำก่อน” เธอบอกบอดี้การ์ดพร้อมกับลุกขึ้นยืน
แต่พวกเขาทำท่าจะลุกตามเธอไปด้วยเพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของหญิงสาวบวกกับกลัวว่าเฌอเมวีร์จะแอบหนีไปเหมือนอย่างที่เคยทำ
“ไม่ต้องตามไปหรอก
วันนี้สัญญาว่าจะไม่หนีไปไหน ห้องน้ำอยู่แค่นี้เองเรนดูแลตัวเองได้” เมื่อหญิงสาวสัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะ พวกเขาจึงยอมนั่งลงตามเดิม
แต่ก็คอยมองตามหลังร่างบางไปจนสุดสายตา
ขณะเดียวกันลูกค้าที่นั่งอยู่อีกมุมหนึ่งของร้านก็ลุกขึ้นและเดินตรงไปยังส่วนที่เป็นห้องน้ำเช่นเดียวกัน
เพียงแค่แวบแรกที่เห็นหญิงสาวก้าวเข้ามาในร้านอาหาร
อัลนัลโด้ก็หยุดชะงักทุกสิ่งทุกอย่างลงในบัดดล ช้อนที่กำลังจะตักอาหารเข้าปากถูกวางลงบนจานสวยหรูอย่างเดิม
เขาไม่สนใจต่อสิ่งต่างๆรอบกายอีกต่อไปสายตาคมวาวจับจ้องไปที่เฌอเมวีร์เพียงอย่างเดียวคนอื่นกลายเป็นธาตุอากาศไปหมดสำหรับเขา
ไม่คิดว่าจะบังเอิญขนาดนี้เขากำลังนั่งคิดถึงเธออยู่พอดี...แม่นางฟ้าตัวน้อยก็บินลงมาหาอย่างที่ใจคิด
พลันที่เห็นเธอลุกออกไปจากโต๊ะอัลนัลโด้ก็ลุกขึ้นราวกับถูกต้องมนต์สะกด
ฝีเท้าที่ก้าวเดินออกไปแต่ละก้าวนั้นดูเหมือนคนที่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเพราะมันล่องลอยไปอยู่กับหญิงสาวจนหมดสิ้นแล้ว...เขาคิดถึงเธอเหลือเกิน
คืนนั้นที่เขาได้ปล้นจูบแรกของเธอมาครอบครอง ความรู้สึกมันยังตราตรึงอยู่ในหัวใจของเขาอย่างแน่นหนายากนักที่จะลบเลือนออกไปจากใจ
นึกแล้วก็น่าขันที่เจ้าพ่อนักรักอย่างเขาเกิดติดใจรสจูบของหญิงสาวที่พบกันเพียงแค่ครั้งเดียว
แล้วยังลุ่มหลงอย่างหัวปักหัวปำเสียด้วย
มาร์คัสเลือกที่จะเดินตามหลังผู้เป็นนายมาอย่างเงียบๆ
อาการของอัลนัลโด้เหมือนเด็กหนุ่มที่เพิ่งจะมีความรัก และเขาสัมผัสได้ว่ามันไม่ใช่เพียงความใคร่ความหลงเพียงชั่วครั้งชั่งคราวอย่างที่ผ่านๆมา
หรือว่าผู้หญิงคนนี้จะเปลี่ยนเสือร้ายให้กลายเป็นแมวเชื่องๆได้ด้วยจูบเดียว!
อาการที่เหม่อลอยทำให้อัลนัลโด้ลืมใส่ใจที่จะรับโทรศัพท์ที่ตั้งระบบสั่นเอาไว้
หมายเลขนี้จะมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้นอกจากคนในครอบครัวและเพื่อนที่สนิทสนมกลมเกลียวกันจริงๆ
และตอนนี้มันกำลังสั่นไหวอยู่ที่หน้าอกของเขาจนสะเทือนเข้าไปถึงหัวใจแล้ว...ถ้าไม่รับสักทีอกเขาคงจะบอบช้ำเป็นแน่
“ฮัลโหล...” อัลนัลโด้กรอกเสียงลงไปอย่างไม่ค่อยจะใส่ใจนัก
แต่ก็พยายามตั้งใจฟังสิ่งที่อีกฝ่ายจะพูดทุกคำ ขณะที่ฝ่าเท้าก็ยังคงเดินไปหาเป้าหมายไม่ได้หยุด
ก่อนจะได้ยินเสียงทุ้มห้าวที่คุ้นหูกรอกเสียงมาตามสายเร็วระรัวอย่างเร่งรีบพิกล
“พอล นี่ฉันเบลซเองนะ พอดีว่าพรุ่งนี้ฉันจะไปที่เกาะของนาย
พอจะมีว่างบ้างไหม” รวบรัดตัดความและตรงประเด็นสุดๆ
อย่างที่เขาต้องการที่สุดในตอนนี้เพราะไม่มีเวลามาคุยเสียยืดยาวเหมือนครั้งก่อนๆ
อัลนัลโด้จึงตอบไปเสียงเร็วระรัวไม่ต่างกัน
“อ้อ...ว่างเสมอสำหรับเพื่อนรักของฉัน
แต่รายละเอียดนั้นติดต่อไปที่มาร์คัสได้เลย ฉันมีเรื่องต้องจัดการก่อน แค่นี้นะ” เขาโยนหน้าที่ทั้งหมดให้กับมาร์คัสรับผิดชอบต่อทันที
จากนั้นก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงกดวางสายอย่างไม่ใส่ใจอีก โดยไม่รู้ว่าได้สร้างความประหลาดใจให้กับพศุตม์เพียงใด
เพราะเจ้าพ่อหนุ่มนั้นไม่เคยทำแบบนี้กับเพื่อนรักมากก่อน
สำหรับเพื่อนรักของ อัลนัลโด้ คลีเมนต์ ไม่มีคำว่าไม่ได้อยู่แล้ว
หากจะพูดถึงแก๊งเจ้าพ่อที่มีอิทธิพลที่สุดในตอนนี้เห็นจะเป็นแก๊งเจ้าพ่อนักรักทั้งสี่คนซึ่งนอกจากความรวยที่ไม่เผื่อแผ่ให้กับผู้ใดแล้ว
ยังมีดีทั้งรูปร่างหน้าตาและความสามารถ
วัดได้จากการบริหารธุรกิจที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วทั้งที่อายุยังไม่ถึงสามสิบเลยด้วยซ้ำ
โดยแต่ละคนได้แยกย้ายไปตามสายธุรกิจที่ตัวเองถนัด...
เบลซ พศุตม์ เซเยอร์
เป็นทายาทเพียงหนึ่งเดียวของอินพาราไดซ์
ซึ่งเป็นโรงแรมกึ่งกาสิโนชื่อดังแห่งดินแดนกระทิงดุ
ไม่เพียงเท่านั้นยังขยายสาขาออกไปอีกทั่วโลกและหนึ่งในนั้นคือประเทศไทยที่มีเชื้อสายคนไทยอยู่ในตัวพศุตม์อยู่แล้วครึ่งหนึ่ง
เจ้าพ่อคนต่อไปในประเทศไทยไม่มีใครไม่รู้จัก
ฟรานซ์ กัมปนาท แอสตัน เจ้าพ่ออาบอบนวดขนาดใหญ่ที่สุดของเมืองไทย
แน่นอนว่าธุรกิจของกัมปนาทเติบโตรวดเร็วอย่างก้าวกระโดดจนหาใครมาทัดเทียมได้ยาก
คนต่อไปยิ่งไม่ต้องพูดถึงหากจะสู้รบกันบนบกเขาอาจจะเป็นรอง
แต่ถ้าเป็นท้องทะเลอันดามันที่กว้างใหญ่เขาคือที่หนึ่งเสมอ...
ราฟาเอล ราเมศ บาร์ซีนี
เจ้าพ่อธุรกิจเรือสำราญขนาดใหญ่แห่งท้องทะเลอันดามัน
ดังนั้นพวกเขาจึงเป็นสี่เจ้าพ่อแห่งวงการธุรกิจที่น่ากลัวและน่าจับตามองในคราเดียวกัน...
หลังวางสายจากพศุตม์ไปได้ไม่นาน เจ้าของร่างสูงก็มาวนเวียนอยู่แถวหน้าห้องน้ำหญิง
โชคดีเหลือเกินที่จังหวะนี้ไม่มีลูกค้าท่านอื่นเดินผ่านมา ไม่อย่างนั้นเขาคงถูกมองว่าเป็นไอ้โรคจิตไปแล้วแน่ๆ...ซึ่งอาการของเขาตอนนี้ก็ไม่ต่างไปจากคำว่าโรคจิตเลยสักนิด
เฌอเมวีร์เดินออกจากห้องน้ำด้วยท่าทางไม่ได้เร่งรีบ
ขณะที่กำลังจะเดินกลับไปที่โต๊ะอาหารนั่นเองแขนเรียวก็ถูกฉุดด้วยมือหนาของใครบางคนจนร่างบางเซถลาไปตามแรง
และโดยสัญชาตญาณของคนที่เรียนวิชาป้องกันตัวมาเป็นอย่างดี หญิงสาวจึงใช้มืออีกข้างจับแขนอีกฝ่ายไว้แล้วบิดไปไพล่หลัง
แต่อัลนัลโด้ใช้ความเชี่ยวชาญกว่าแก้ไขสถานการณ์ได้
เขาขยับตัวแค่เพียงนิดก็โอบรัดร่างบางให้เข้ามาอยู่ในอ้อมแขนได้แล้ว
เฌอเมวีร์ยังพยายามสะบัดตัวให้หลุดออกไปจากอ้อมแขนแข็งแรง
พลางก็เม้มริมฝีปากแน่นอย่างนึกเจ็บใจเธอพลาดท่าเสียทีได้อย่างไรกัน
ก่อนที่จะหันหน้าขึ้นมองคนที่กำลังสวมกอดเธอจากด้านหลังอยู่ตอนนี้
แน่นอนว่าเธอเตรียมคำด่าไว้ในใจอยู่มากมายเช่นเดียวกัน
ความคิดเห็น