คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทนำ แรกพบสบสายตา (หื่น)
*** ก่อนอื่นต้องขอโทษอีกครั้งที่ผู้เขียนต้องลงเนื้อหาเรื่องนี้ใหม่อีกรอบ
จริงๆก็แจ้งไปแล้วที่แฟนเพจของมะนะปริยาแต่คิดว่าคงยังไม่ทั่วถึง
เรื่องเจ้าพ่อลวงเสน่หามีการปรับแก้เนื้อหาช่วงแรกค่อนข้างเยอะค่ะแล้วมันก็ส่งผลไปถึงบทต่อๆไปด้วย
เพื่อความไหลลื่นของเนื้อหาและความสมเหตุสมผลจึงต้องลบและขอลงใหม่อีกครั้ง
และสัญญาว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วค่ะ ขอโทษจริงๆสำหรับท่านใดที่อ่านแล้วนะคะ
เข้าใจว่าหลายท่านอาจจะรำคาญที่ต้องอ่านซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนี้
แต่มะนะปริยาก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่าคำว่าขอโทษค่ะ
ผู้เขียนขอยอมรับผิดทุกอย่าง แต่หลังจากนี้จะพยายามมาอัพอย่างต่อเนื่องแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะที่ยังรอและติดตามกันอยู่เสมอ ขอบคุณมากๆค่ะ ^^
มะนะปริยา
บทนำ
แรกพบสบสายตา(หื่น)
เท้าเรียวเล็กที่เปลือยเปล่าย่ำเดินไปตามชายหาด
เป็นช่วงเวลาที่ความมืดในยามราตรีได้เข้ามาครอบครองเต็มผืนฟ้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
จึงมีเพียงแสงไฟจากจากถนนใหญ่เท่านั้นที่ส่องแสงมาแต่พอรางๆ
ให้เธอเดินได้อย่างไม่ลำบากสายตา
ใบหน้าเรียวสวยแหงนหน้าขึ้นมองหมู่ดาวที่กระจ่างเต็มท้องฟ้า
พลางก็สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วก็ถอนหายใจออกมายาวๆอย่างปลอดโปร่ง
เวลานี้หญิงสาวมีความรู้สึกว่าเจ้าตัวได้รับอิสรภาพอย่างแท้จริง หลังจากต้องทนให้เหล่าบอดี้การ์ดของแด๊ดดี้เดินตามหลังตลอดเวลาไม่ยอมปล่อยให้เธอได้กระดิกตัวไปไหนได้
ไม่ว่าจะเดินไปทางซ้ายหรือทางขวาก็ต้องมีคนคอยเดินขนาบข้างตลอด
นี่คือสิ่งที่เธอเบื่อหน่ายที่สุดในชีวิต
แต่เหนือฟ้าก็ยังมีฟ้า
มีหรือที่คนอย่างเฌอเมวีร์จะหาทางเอาตัวรอดไม่ได้ มีปัญญาตามก็ตามไปสิ
แต่อย่าให้เธอสบโอกาสบ้างก็แล้วกัน เมื่อเวลานั้นมาถึง ก็อย่าหมายว่าจะหาตัวเธอพบ
เฌอเมวีร์ยกยิ้มร้ายที่มุมปากเมื่อนึกถึงความแก่นเซี้ยวของตัวเอง อย่างเช่นตอนนี้
เธอหนีเอาตัวรอดจากกลุ่มผู้ชายตัวใหญ่ยักษ์และหน้าเข้มดุออกมาได้สำเร็จ
ขณะที่กำลังเดินทอดน่องอย่างสบายใจ หญิงสาวก็อดหัวเราะออกมาเบาๆไม่ได้
ป่านนี้พวกนั้นคงถูกแด๊ดดี้เล่นงานกันไปอย่างถ้วนหน้า
แต่คงไม่ถึงกับเลือดตกอย่างออกเพราะแด๊ดดี้ของเธอไม่ใช่คนโมโหร้ายและอารมณ์รุนแรงขนาดนั้น
เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นจริงเธอก็คงไม่กล้าที่จะทำให้พวกเขาเดือดร้อนอีกเป็นแน่
แต่จะว่าไปโดนด่าแค่นั้นยังถือว่าน้อยไปด้วยซ้ำ เมื่อเทียบกับอิสรภาพของเธอที่ถูกลิดรอนไป
หญิงสาวคิดให้ตัวเองสบายใจเสร็จริมฝีปากอิ่มก็ยิ้มพรายออกมาอย่างเจ้าเล่ห์
นิ้วเรียวสวยเกี่ยวสายรองเท้าส้นสูงราคาแพงสีสดไว้ในมือ พลางก็สาวเท้าเดินต่อไปข้างหน้าอย่างไม่มีจุดหมาย
เสียงเพลงที่ดังออกมาจากสถานรื่นเริงชื่อดังยังคงดังอึกทึกไปทั่วบริเวณ
แต่เมื่อเธอเดินห่างออกไปเรื่อยๆ ทุกสิ่งรอบตัวพลันเงียบสงบลง
และนี่คือสิ่งที่เธอต้องการ
การออกมาเดินในที่เปลี่ยวๆไม่ใช่สิ่งที่เธอเคยนึกกลัว
ในสายตาของคนภายนอกอาจจะมองว่าเธอเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็ก รูปร่างบอบบาง
น่าทะนุถนอม แต่ใครจะรู้ว่าเธอได้เลือดมาเฟียจากแด๊ดดี้มาเต็มๆ ศิลปะการป้องกันตัวอย่างเช่นเทควันโดและยิงปืนเธอได้ร่ำเรียนและฝึกฝนมาเป็นอย่างดี
แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังต้องมีเหล่าบอดี้การ์ดไว้ปกป้องดูแลอยู่ดี
แด๊ดดี้ไม่เคยทำสิ่งผิดกฎหมายก็จริง
แต่ธุรกิจปล่อยเงินกู้รายใหญ่ที่สุดในจังหวัด มีลูกหนี้กว่าพันรายชื่อ
ก็ทำให้มีคนจ้องจะเล่นงานกันอยู่เรื่อยๆเช่นกัน
ท่านจึงต้องเตรียมการป้องกันไว้ก่อน
กันไว้ดีกว่าแก้ทีหลัง...แต่เธอก็ชอบทำให้ท่านเหนื่อยใจข้อนี้เธอรู้ตัวดี แต่จะให้ทำอย่างไรได้คนที่ไม่ชอบอยู่ในกรอบอย่างเธอ
ก็ต้องโหยหาเวลาอันเป็นส่วนตัวบ้าง ขอเวลาแค่สิบนาทีต่อวันก็ยังดี
หากในความเงียบสงบกลับไม่สงบอีกต่อไป
เมื่อเฌอเมวีร์สัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่างที่มีอานุภาพรุนแรงอย่างมากกำลังแผ่ซ่านเข้าหาตัวเธออยู่ทางด้านหลัง
พลันขนอ่อนที่ต้นคอของเธอก็พร้อมใจกันลุกขึ้นยืนราวกับยืนตรงเคารพธงชาติ
แต่ความรู้สึกส่วนลึกของเธอบอกว่า
สิ่งที่เธอกำลังสัมผัสได้อยู่ในขณะนี้ไม่ใช่ผีอย่างแน่นอน แต่มันคืออะไรเล่า?
ฝ่าเท้าเรียวเล็กหยุดชะงักทันที
หัวใจดวงน้อยของเธอเต้นเร็วจนผิดจังหวะ หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ
และค่อยๆหันหน้ากลับไปมองอย่างช้าๆ
ภาวนาขอให้สิ่งที่กำลังจะเผชิญในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้าเป็นคนธรรมดาเดินดิน
เพราะอย่างน้อยเธอก็ยังมีศิลปะป้องกันตัวไว้คอยต่อกรกับพวกมันได้...คนอย่างเฌอเมวีร์ไม่เคยกลัว!
นี่อาจจะเป็นคำปลอบใจ ในยามที่หัวใจกำลังสั่นสะท้าน!!
ดวงตาสีฟ้าเข้มดุจน้ำทะเลลึกจับจ้องไปที่ร่างเล็กบอบบางของหญิงสาวอย่างไม่วางตา
นับตั้งแต่เธอเดินผ่านเข้ามาอยู่ในรัศมีของสายตา ดวงตาคู่คมสำรวจทุกสัดส่วนในเวลาเพียงเสี้ยววินาที
ใบหน้าสวยหวานชวนหลงใหล ริมฝีปากอิ่มแต่งแต้มด้วยลิปสติกสีแดงสดน่าเอาปากเข้าไปบดขยี้
รูปร่างอ้อนแอ้นบอบบางหากแต่มีส่วนเว้าส่วนโค้งชัดเจน โดยเฉพาะหน้าอกหน้าใจของหญิงสาว
ทุกสัดส่วนพอเหมาะพอเจาะและงดงาม น่าจับมานอนฟ้อนเฟ้นด้วยสองมือของเขา
แววตาดุจพญาเหยี่ยววาววับขึ้นมาทันทีทันใดราวกับเจอเหยื่ออันแสนโอชะ
เพียงแค่หญิงสาวปรายหางตามาทางเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ แค่นี้ก็ทำให้เลือดลมในกายของเขาสูบฉีดแล่นพล่านอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
และคำแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวของเขาตอนนี้ก็คือ ‘อยากจะกลืนกินเธอทั้งตัว
ไม่อยากเหลือไว้แม้แต่ให้ใครได้กลิ่น’
ชายหนุ่มยังคงจับตาดูการเคลื่อนไหวของเธอทุกฝีก้าวอย่างไม่ให้คลาดสายตาและสังเกตเห็นท่าทางของหญิงสาวเหมือนกำลังต้องการจะหลบหนีใครอยู่
เธอเหลียวซ้ายแลขวาอย่างระวังตัวก่อนที่จะสาวเท้าออกไปจากสถานท่องเที่ยวยามราตรีแห่งนี้
โดยที่ไม่เสียเวลาคิดเจ้าของร่างสูงสมส่วนก็ผุดลุกขึ้นยืนทันที ก่อนที่จะสาวเท้าตามหญิงสาวออกไปอย่างรวดเร็ว
เพราะกลัวว่าหากเขาช้ากว่านี้อีกวินาทีเดียวแม่นางฟ้าตัวน้อยของเขาอาจจะโบยบินหนีเขาไปไกลแสนไกล
การกระทำที่รวดเร็วตามจิตสำนึกของเขา
ทำให้ลูกน้องคนสนิทที่ติดตามมาด้วยเกิดอาการมึนงงและสงสัยขึ้นมาทันที
เจ้านายของเขาเพิ่งจะเดินเข้ามาในผับแห่งนี้ได้ไม่ถึงห้านาที
หย่อนก้นนั่งลงที่โซฟายังไม่ทันจะอุ่นเสียด้วยซ้ำ
จู่ๆก็ผุดลุกขึ้นยืนอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
จนเขาต้องรีบสาวเท้าตามให้ทันและเอ่ยถามอย่างร้อนรน
“เจ้านายครับ เจ้านายกำลังจะไปไหนครับ
หรือว่าร้านที่ผมพามายังไม่ถูกใจ”
“ถูกใจสิ ถูกใจฉันมากทีเดียว
ไม่เคยถูกใจอะไรเท่านี้มาก่อน” ชายหนุ่มตอบคำถามโดยที่ไม่หันมามอง
น้ำเสียงที่เอ่ยออกมาคล้ายคนกำลังหลงละเมอ
สายตายังคงจับจ้องไปข้างหน้าอย่างไม่วางตาราวกับกลัวว่าสิ่งที่กำลังตามอยู่นั้นจะหลุดลอยหายไปแค่เพียงชั่วกระพริบตา
“ถ้าอย่างนั้นทำไมถึงเดินออกมาแบบนี้ละครับ
เราเพิ่งจะมาถึงเองนะครับเจ้านาย” ผู้ติดตามถามอย่างไม่รู้ความหมาย
พยายามมองตามสายตาของเจ้านาย ก็ยังไม่ทราบอยู่ดีว่าเขากำลังติดตามสิ่งใดอยู่
เพราะผู้คนพลุกพล่านเยอะเหลือเกิน
“หุบปากของนายไปก่อนมาร์คัส อย่าเพิ่งถามอะไรมาก
ฉันกำลังติดตามนางฟ้าของฉันอยู่” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นอย่างขัดใจเพราะตอนนี้เขามีเรื่องที่น่าสนใจมากกว่ารออยู่เบื้องหน้า
แม่เนื้อนางนวลแสนหวานรออยู่ตรงหน้าเขานี่เอง
‘มาร์คัส’ ลูกน้องคู่ใจรีบหุบปากลงทันทีเพราะเขาพอจะเข้าใจอะไรๆขึ้นมาบ้างแล้ว
เขาจึงเลิกถามและเดินตามหลังผู้เป็นนายออกจากผับแห่งนี้ไปอย่างเงียบๆ
และเป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่เขาเห็นผู้เป็นนายลุกลี้ลุกลนราวกับโดนยาสั่งแบบนี้
ผู้หญิงคนนั้นคงถูกตาต้องใจเจ้านายของเขามากและคงไม่แคล้ว อยากได้เธอมาครอบครอง...ไม่รู้ว่าเป็นความโชคดีหรือโชคร้ายของหญิงสาวคนนั้นที่ความสวยของเธอมาโดนหัวใจคนอย่าง
‘พอล อัลนัลโด้ คลีเมนต์’
เจ้าของเกาะมุกตาภาผู้ยิ่งใหญ่เข้าเสียเต็มประตู
เพราะผู้ชายคนนี้ขึ้นชื่อว่าอยากได้อะไรแล้วก็ต้องได้! และต่อให้เขาไม่ได้ขึ้นมาจริงๆ
คนอื่นก็อย่าหมายว่าจะได้เช่นเดียวกัน!!
ในที่สุดอัลนัลโด้และมาร์คัสก็เดินตามหญิงสาวทัน
เมื่อเดินไกลออกมาจนถึงชายหาดที่มีแสงสว่างส่องมาแค่พอรำไรเท่านั้น
เห็นดังนั้นแล้วชายหนุ่มก็ค่อยๆผ่อนฝีเท้าลงและเดินตามหลังหญิงสาวที่ถูกตาต้องใจเขาอยู่ห่างๆ
คอยระวังไม่ให้เหยื่อรู้ตัว สองมือแกร่งล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง
ริมฝีปากหยักภายใต้หนวดเคราสีเข้มแสยะยิ้มออกมาอย่างมาดหมาย
จับจ้องแผ่นหลังบอบบางด้วยสายตาพราวระยับ
นอกจากนี้ยังฉวยโอกาสโลมเลียเรือนร่างของหญิงสาวที่กำลังเดินโยกย้ายส่ายสะโพกอยู่ตรงหน้าด้วยความพึงใจ
พลางก็นึกหากเขามีคาถาเวทย์มนต์สักข้อก็คงจะง่ายดาย เขาจะได้เสกให้เธอเปลือยกายล่อนจ้อนเสียให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
คงจะดีกว่าที่เขากำลังนึกจินตนาการอยู่เป็นไหนๆ
เธอชื่อเสียงเรียงนามว่าอะไรและเป็นใครมาจากไหนเขาก็ลืมที่จะใส่ใจจนหมดสิ้น
และเพราะเหตุใดจึงทำให้เขาหลงใหลและปรารถนาในตัวเธอได้มากถึงเพียงนี้หรือว่าผู้หญิงคนนี้กำลังร่ายมนต์เสน่ห์ใส่เขาอยู่
อัลนัลโด้ครุ่นคิดพร้อมกับสาวเท้าไปข้างหน้าอย่างไม่รู้เบื่อ
แม้ในความมืดสลัวยังมองเห็นผิวกายที่ขาวสะอาดกระจ่างดวงตาขนาดนี้
ไม่อยากจะนึกเลยว่าเวลาที่เขาเอาจมูกโด่งเข้าไปสัมผัสดอมดมและใช้ริมฝีปากขบเม้มเบาๆ
มันจะหอมหวานสักแค่ไหนหนอ
ยิ่งคิดก็ยิ่งคึก! อาวุธลับเตรียมพร้อมที่จะออกศึกอย่างคึกคักซะแล้ว!!
อัลนัลโด้หายใจเข้าออกแรงๆพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเองให้กลับเข้าที่เข้าทางให้เร็วที่สุด
ก่อนที่จินตนาการของเขาจะนำพาให้ตนเองขึ้นไปแตะขอบสวรรค์ก่อนที่จะได้ลงเล่นในสนามแข่งจริง
และถ้าเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นมาจริงๆมีหวังได้อับอายขายขี้หน้าไปตลอดชีวิตแน่
จังหวะนั้นเองที่เป้าหมายตรงหน้าชะงักฝีเท้าที่กำลังเดินทอดน่องอยู่ราวกับรู้ว่ามีคนกำลังเดินตาม
อัลนัลโด้จ้องมองอย่างใจเย็น
เมื่อเหยื่อเริ่มจะรู้ตัวเขาเองก็พร้อมที่จะแสดงตัวเช่นเดียวกัน
ขณะที่มาร์คัสก็มีสีหน้าเรียบเฉยรอดูความเป็นไปอยู่เบื้องหลังผู้เป็นนาย
เฌอเมวีร์กลั้นใจหันหน้ากลับมามองอย่างช้าๆ
และดวงตากลมโตก็สบเข้ากับดวงตาคมเข้มล้ำลึกของใครบางคนที่มันสื่อความรู้สึกและอารมณ์หื่นกระหายกามออกมาอย่างเปิดเผย
แต่หญิงสาวไม่ได้แสดงอาการตื่นตระหนกอย่างที่ควรจะเป็นตรงกันข้ามเธอกลับลอบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก...อย่างน้อยก็เป็นคนไม่ใช่ผีหรือสัตว์ประหลาด!
สาวแก่นเซี้ยวอย่างเธอไม่เคยถูกสอนให้กลัวเกรงต่อสายตาหื่นกามของผู้ชาย
ก็ลองให้มันเข้ามาแตะต้องตัวเธอสิ
แม่จะเล่นงานให้มันนอนหยอดน้ำข้าวต้มไปสามวันเจ็ดวันเลยคอยดู...แต่ก็ใช่ว่าหัวใจของเธอจะหยุดเต้นแรงระส่ำ
ไหนจะอาการขนลุกเกรียวกราวนั่นอีก แววตาของผู้ชายคนนี้ช่างมีพลังอำนาจร้ายกาจ
และมันอาจจะเป็นสัญญาณอันตรายที่บ่งบอกให้เธอรู้ว่าไม่ควรประมาท
ยิ่งยืนอยู่นานยิ่งรู้สึกว่าตัวเธอกำลังถูกเปลื้องเสื้อผ้าทางสายตาอยู่
เฌอเมวีร์จึงคิดหาทางเบี่ยงเบนความสนใจ พร้อมกับบังคับเสียงไม่ให้สั่นไหว เดี๋ยวชายแปลกหน้าจะรู้ว่าเธอกำลังประหม่า
หญิงสาวจึงเชิดหน้าและเอ่ยออกไปเสียงแข็ง
“มองหาพระแสงอะไรไม่ทราบ ไม่เคยเห็นคนสวยหรือไง”
ปฏิกิริยาของเธอทำให้อัลนัลโด้ประหลาดใจไม่น้อย
สาวแน่งน้อยไม่ได้หวาดกลัวเขาอย่างที่คิด
ก่อนที่ความคิดบางอย่างจะแวบเข้ามาในหัวของเขาและทำให้ชายหนุ่มย่างสามขุมเข้ามาใกล้ตัวหญิงสาวมากขึ้นอย่างย่ามใจ
เขาส่ายหน้าเบาๆพร้อมกับหัวเราะในลำคอ บางทีเขาอาจจะตีค่าหญิงสาวคนนี้สูงเกินไป เผลอๆเธออาจจะเป็นผู้หญิงอย่างว่าที่ชอบเรียกร้องความสนใจและโก่งค่าตัวก็เป็นได้
แต่เรื่องแบบนี้เขาไม่ถือสาหรอก เมื่อเธอทั้งโดนตาและต้องใจขนาดนี้จะเรียกร้องค่าตัวเท่าไหร่เขาก็ยินดีจ่ายให้ไม่อั้น
ขอแค่สนองความต้องการให้เขาอย่างถึงอกถึงใจก็พอแล้ว
“เธอจะคิดราคาเท่าไหร่
แลกกับการที่อยู่กับฉันตลอดคืนนี้” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างใจป้ำ
แววตาจับจ้องที่ริมฝีปากอวบอิ่มของหญิงสาวอย่างรอคอยคำตอบ
ถ้อยคำที่หลุดออกมาจากปากหยักได้รูปสะท้อนเข้ามาในหูของเฌอเมวีร์
พลันอารมณ์ที่หลากหลายเมื่อครู่ก็มลายหายไปจนหมดสิ้น
เหลือไว้แค่ความโกรธอย่างสุดขีด! ใบหน้าหวานร้อนผ่าวราวกับถูกฝ่ามือนับร้อยรุมตบจนชาไปทั้งหน้า ริมฝีปากบางขบเม้มเข้าหากันจนห่อเลือด
นิ้วเรียวปล่อยสายรองเท้าที่เกี่ยวไว้ให้หล่นลงพื้นทรายอย่างไม่ใส่ใจอีกต่อไป
ก่อนที่จะมือบางจะกำเข้าหากันแน่นจนเล็บจิกลงบนฝ่ามือ
“นายพูดว่าอะไรนะ” เฌอเมวีร์กัดฟันถามเสียงเย็นยะเยือก
“ฉันคิดว่าฉันพูดชัดเจนดีแล้วนะ รูปร่างหน้าตาอย่างเธอ
ฉันยอมจ่ายไม่อั้น” คงมีแค่มาร์คัสเท่านั้นที่เหมือนจะรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของหญิงสาวตรงหน้า
ใบหน้าที่แดงก่ำและอาการยืนตัวสั่นคงไม่ได้หมายถึงอาการของคนกำลังพึงพอใจแน่ๆ
แต่อัลนัลโด้กลับมองผ่านเลยไป ยังคงไม่รับรู้ถึงความหายนะที่กำลังจะตามมาในไม่ช้า!
รวดเร็วดุจสายฟ้าฟาด ใบหน้าคมสันสะบัดไปตามแรงตบ
อัลนัลโด้รับรู้แค่ว่าซีกหน้าด้านซ้ายของเขามันชาวาบ
ขณะที่เขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาพูดอะไรผิดไปอย่างนั้นหรือ ทั้งที่เขายินยอมให้เธอเสนอราคาได้ตามใจชอบขนาดนั้น
เธอยังไม่พึงพอใจอีก และเขาก็ได้รับคำตอบในอีกไม่กี่วินาทีต่อมา เมื่อเฌอเมวีร์ตะโกนใส่หูเขาเต็มแรงเกิด
“ฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่นายจะมาเสนอราคาซื้อขายได้เหมือนสินค้าตามท้องตลาดนะยะ
จำใส่หัวกลวงๆของนายไว้ด้วย ไอ้ฝรั่งขี้นก...อ้อ...แล้วฉันจะบอกอะไรให้นะ ขยะเปียกที่ริมฟุตบาทยังน่าขยะแขยงน้อยกว่านายเสียอีก...ไปตายซะไอ้บ้ากาม”
ร่างบางยกมือขึ้นมาเท้าสะเอวแล้วตะโกนพ่นคำด่าใส่หูของอัลนัลโด้ไม่ยั้ง
นัยน์ตาของหญิงสาวมีแววสะใจอยู่มากที่ได้ตอกหน้าไอ้ผู้ชายน่ารังเกียจคนนี้ให้รู้สำนึก
ว่าอย่าได้ริอาจมาดูถูกผู้หญิงไทยเป็นอันขาด
ม่านตาของมาร์คัสขยายใหญ่ขึ้นเมื่อเห็นผู้เป็นนายโดนตบจนหน้าหัน
เขาขยับตัวเล็กน้อยแต่ไม่กล้าเข้าไปขัดจังหวะ รอจนกว่าจะได้รับคำสั่งจากอัลนัลโด้เสียก่อน
คำต่อว่าที่ร้ายแรงหมายจะทำให้อีกฝ่ายได้รู้สำนึกนั้น
กลับเป็นเพียงแค่แรงลมที่ลอดออกจากริมฝีปากอิ่มเท่านั้น เพราะคนอย่างอัลนัลโด้ไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านต่อคำเหล่านั้นเลยสักนิด
ตรงกันข้ามเขากลับรู้สึกโล่งใจจนเกินจะบรรยายที่ผู้หญิงตรงหน้าไม่ได้ทำอาชีพอย่างที่เขาคิดไว้ตั้งแต่แรก
ความรู้สึกที่ต้องการอยากจะครอบครองตัวหญิงสาวจึงยิ่งเพิ่มสูงขึ้นไปด้วย
“พล่ามพอหรือยัง
ฉันจะได้จูบเสียที” เขาถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
ไม่มีอารมณ์กรุ่นโกรธแสดงออกมาให้เห็นเลยสักนิด แรงตบของเธอไม่เบาเลยทีเดียวและอาจทำให้หน้าหล่อๆของเขาเป็นรอยได้
เพราะฉะนั้นเขาจึงต้องเรียกค่าเสียหายจากเธอให้คุ้มค่า
“วะ ว่าไงนะ” เธอถามอย่างไม่เข้าใจ
เมื่อสิ่งที่เกิดขึ้นไม่เป็นไปอย่างที่คิด
“จากที่เคยเห็นในละครไทยน่ะนะ เวลาพระเอกโดนตบ
ฉากต่อไปก็คือ...นางเอกต้องโดนพระเอกจูบไม่ใช่เหรอ” อัลนัลโด้ตีมึนวางสีหน้าได้อย่างแนบเนียน
เขาจดจำฉากดังกล่าวมาจากละครไทยที่มารดาของเขาชอบดู อย่างไรวันนี้เขาจะต้องไม่ถูกตบฟรีๆแน่
เร็วเท่าความคิดขณะที่หญิงสาวกำลังอ้าปากเหวอเพราะยังคิดหาคำมาด่าผู้ชายหน้าด้านคนนี้อยู่
แขนแกร่งก็รวบเอวบางของหญิงสาวให้เข้ามาแนบชิดลำตัวแกร่งกำยำของเขามากขึ้น จากนั้นริมฝีปากที่ร้อนผ่าวก็ทาบลงไปหาเรียวปากอิ่มปิดกั้นคำพูดให้กลืนคงไปในลำคอระหงทันที
เขาใช้มือหนารองท้ายทอยของเฌอเมวีร์ไว้เพื่อให้เขาได้จูบเธออย่างถนัดถี่
ดวงตาของหญิงสาวเบิกกว้าง หัวใจดวงน้อยของเธอเต้นแรงแบบไม่ทันตั้งตัว
เธอเสียจูบแรกให้ผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้! เฌอเมวีร์ใช้สติที่เหลืออยู่ผลักร่างหนาราวกำแพงออกไป
แต่ก็ไม่เป็นผลเขายังปล้นจูบเธออย่างเอาแต่ใจ และเพิ่มความร้อนแรงมากยิ่งขึ้นจนเธอหายใจแทบไม่ทัน
จนเมื่อเขาพอใจในผลงานอัลนัลโด้จึงยอมผละริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่ง แววตายามทอดมองใบหน้าเนียนใสดูหวานเชื่อมขึ้นเป็นพิเศษ
“ฉันชื่อ อัลนัลโด้ คลีเมนต์ แต่สำหรับเธอ ฉันอนุญาตให้เรียกแค่
พอล เฉยๆก็ได้” เขาเอ่ยชิดริมฝีปากที่บวมเจ่อของเธอ พร้อมกับปล่อยลมหายใจอุ่นร้อนรินรดดวงหน้าสวย
เมื่อได้สัมผัสใกล้ชิดและได้ลิ้มรสความหอมหวานจากปากเล็กจิ้มลิ้มนี้ ความรู้สึกหวงแหนได้ก่อตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
จนไม่อยากให้ผู้ชายหน้าไหนได้ลิ้มลองเช่นเดียวกัน
“ฉันไม่อยากรู้จักนาย ไอ้ผู้ชายเฮงซวย หน้าด้าน เอาจูบแรกของฉันคืนมานะ”
เมื่อเธอสะบัดตัวให้หลุดออกจากอ้อมแขนของเขาได้
เฌอเมวีร์ก็ตะโกนใส่หน้าเขาเสียงดังอีกครั้งและครั้งนี้ก็ไปพร้อมๆกับฝ่ามือ หมัด
ศอก และปิดท้ายด้วยเข่าที่กระทุ้งเข้าเป้ากางเกงของอัลนัลโด้อย่างเต็มรัก ก่อนที่หญิงสาวจะวิ่งหนีออกไปอย่างรวดเร็วและไม่หันกลับมามองอีก
ชายหนุ่มมีสีหน้าเหยเกแทบทรุดตัวลงไปนอนกับพื้น
มาร์คัสที่ยืนอยู่ไม่ไกลจึงรีบวิ่งเข้ามาช่วยประคองเจ้านายไว้ได้ทันเวลา
“ทำไมเจ้านายถึงยอมปล่อยให้ผู้หญิงคนนั้นทำแบบนี้ด้วยครับ
ผมไม่เข้าใจเลย” มาร์คัสอดสงสัยไม่ได้เมื่อเห็นผู้เป็นนายยืนนิ่งให้เฌอเมวีร์เล่นงานอยู่ฝ่ายเดียว
ทั้งที่เขาสามารถหลบได้หรือทำให้ผู้หญิงคนนั้นสาบสูญไปเลยก็ยังได้
“ถือเสียว่า ฉันซื้อจูบแรกมาจากเธอก็แล้วกัน” แม้จะยังจุกที่กลางลำตัวแต่อัลนัลโด้ก็ยังมีแก่ใจยกยิ้มที่มุมปาก แววตาเพลิดเพลินอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
“ฉันอยากรู้จักเธอ พรุ่งนี้ก่อนแปดโมงเช้า
ประวัติทุกอย่างเกี่ยวกับตัวผู้หญิงคนนั้นต้องอยู่ที่โต๊ะทำงานของฉัน...เข้าใจไหมมาร์คัส”
เสียงเข้มออกคำสั่งอย่างเอาแต่ใจ พลางมองไปยังเส้นทางที่เฌอเมวีร์วิ่งออกไปเมื่อครู่
ก่อนที่เขาจะหันกลับมามองรองเท้าส้นสูงของเธอที่ทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า
คอยดูเถอะแม่ซินเดอเรลล่าตัวแสบ อย่าให้เป็นวันของฉันบ้างก็แล้วกัน
ฉันจะลากเธอขึ้นเตียง และจะทำให้เธอร้องครวญครางอยู่ใต้ร่างของฉันให้ได้
ความคิดเห็น