คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : ตอนที่ 4 ต้อนเหยื่อให้จนมุม [2]
เมื่อก้าวขาขึ้นเครื่องได้สำเร็จ
อัลนัลโด้ไม่ได้ปล่อยให้คนตัวเล็กนั่งลงตรงเบาะแต่โดยดี
กลับให้หญิงสาวนั่งลงบนตักของเขาแทน แม้ว่าเฌอเมวีร์จะดิ้นรนขัดขืนมากแค่ไหน
ก็ไม่สามารถหนีจากวงแขนแข็งแกร่งของเขาไปได้เลย หนำซ้ำเขายังกระซิบขู่หากเธอดิ้นอีกจะจูบลงโทษต่อหน้ามาร์คัสและคนขับเฮลิคอปเตอร์เสียให้เข็ด
“ออกเดินทางได้แล้ว
เราต้องไปถึงนี่นั้นก่อนเที่ยง” เสียงเข้มเอ่ยสั่งนั่งบิน
ซึ่งเขาก็พยักหน้ารับทราบแล้วนำเครื่องขึ้นสู่น่านฟ้าในเวลาต่อมา
“เจ้านายครับ
ไปเกาะมุกตาภาแค่นี้เอง ไม่น่าจะใช่เวลานานขนาดนั้นนะครับ” มาร์คัสหัวคิ้วขมวดเข้าหากันแน่น
ดูเหมือนอัลนัลโด้จะเปลี่ยนแผนกับนักบินอย่างกะทันหันโดยที่เขาไม่รับรู้ด้วย
แต่ก็ไม่ได้นึกแปลกใจเท่าใดนักเพราะคนอย่างเจ้าพ่อเกาะมีเรื่องให้ต้องประหลาดใจอยู่เสมอ
“ใครบอกล่ะว่าฉันจะไปเกาะมุกตาภา
ตอนนี้นายเบลซมันคงกำลังพาสาวไปเริงร่าอยู่บนนั้นสบายใจไปแล้ว ฉันไม่อยากไปเจอมันตอนนี้
ขอเวลาอยู่กับหวานใจสองต่อสองก่อน” เขาตอบได้อย่างหน้าตาเฉยไม่สนใจสายตาขุ่นเขียวของคนบนตักที่ส่งมาให้เขาเลยสักนิด
“แล้วเจ้านายจะ...” มาร์คัสเตรียมจะเอ่ยถามถึงจุดหมายปลายทางที่จะไป
แต่ก็ถูกอัลนัลโด้ขัดขึ้นเสียก่อน
“นายติดต่อลีโอมือขวาของนายเบลซทีนะ
บอกว่าฉันจะไปเข้าพักที่นั่นอย่างลับๆ ให้เตรียมห้องพักที่ดีที่สุดไว้ให้ด้วย...เข้าใจใช่ไหมว่าฉันหมายความว่าอย่างไร”
สายตาที่มองลูกน้องคนสนิทดูมีเลศนัยอะไรบางอย่าง มาร์คัสที่ติดตามกันมานานจึงรู้ใจเจ้านายเป็นอย่างดี
“รับทราบครับเจ้านาย” คำว่าลับๆในความหมายของอัลนัลโด้คือ
ห้ามไม่ให้ใครในกลุ่มเพื่อนสนิทรู้เรื่องนี้เป็นอันขาด
ปกติเจ้านายของเขาไม่มีเรื่องต้องปิดบังเพื่อนสนิททั้งสามคนอยู่แล้ว แต่คราวนี้คงรอให้เฌอเมวีร์ลดความพยศลงก่อนที่จะเปิดตัวกระมัง
อย่างว่าแหละเรื่องเสียหน้าอัลนัลโด้ไม่มีทางยอมเด็ดขาด
มาร์คัสเขยิบขึ้นไปนั่งข้างนักบินที่ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างขะมักเขม้น
ปล่อยให้เจ้านายอยู่กับว่าที่นายหญิงสองต่อสอง เพราะดูท่าแล้วคงมีเรื่องให้ต้องสะสางกันยาวทีเดียว
ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาติดต่อไปที่ลีโอตามที่เจ้านายสั่ง
โรงแรมอินพาราไดซ์สุดหรูที่เนืองแน่นไปด้วยบุคคลใหญ่โตเข้าพัก
แต่สำหรับบุคคลพิเศษอย่าง พอล อัลนัลโด้ คลีเมนต์ ต่อให้เนืองแน่นแค่ไหนห้องพักสุดพิเศษก็พร้อมต้อนรับเขาอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
เมื่ออยู่กันตามลำพัง
สิ่งที่มาร์คัสคิดก็เป็นจริง....
“นายจะพาฉันไปที่ไหน” หลังจากเงียบฟังอยู่นานหญิงสาวก็ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงตระหนก คงไม่ต้องเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานกันอีกต่อไป
ในเมื่อรู้ทันเธอหมดทุกเรื่องขนาดนี้แล้ว พูดหวานไปก็ไม่มีประโยชน์
“ก็พาไปรังรักของเราสองคนไงครับ”
เสียงทุ้มหวานเอ่ยตอบ
ก่อนจะกดริมฝีปากหยักลงบนหน้าผากมนเต็มรักโดยที่เฌอเมวีร์ไม่ทันได้ตั้งตัว ครั้นจะดันหน้าของเขาออกห่างก็ไม่ทันเสียแล้ว
เสียเปรียบเขาไปแล้วหลายฟอดใหญ่
“รังรักบ้านนายน่ะสิ ไหนบอกจะพาฉันไปอยู่ที่เกาะไง
นายมันคนไม่รักษาคำพูด เชื่อถือไม่ได้ คอยดูนะฉันจะฟ้องแด๊ดดี้” เฌอเมวีร์เอ่ยเสียงสะบัด แทบอยากจะกระโดดงับหน้าเจ้าพ่อเกาะอยู่ตงิดๆ
พลางก็พยายามดิ้นลงจากตักของเขาอย่างยากลำบาก
“จะอยู่ที่ไหนก็ปลอดภัยทั้งนั้นแหละ
ถ้าได้อยู่ในอ้อมกอดของฉันนะ ฉันรับรองได้เลยยุงสักตัวก็ไม่กล้ากัด” เขาแย้มยิ้มอย่างยียวน พร้อมกับกระชับร่างเล็กในแน่นเข้าไปอีก
“แต่สำหรับฉัน อยู่ที่ไหนก็ได้
ที่ไม่มีนาย ได้ยินไหม...กรี๊ดดดด!” คนตัวเล็กตะโกนใส่หูของอัลนัลโด้
ก่อนจะกรีดร้องเสียงดังติดๆกัน หวังอยากจะให้แก้วหูของเจ้าพ่อเกาะแตกกันไปข้างให้พิการไปเลยยิ่งดี
“ฉันไม่อยากไปกับนาย
ได้ยินชัดไหม”
“วันนี้ทำตัวไม่น่ารักเลยนะ
คงต้องทำโทษกันเสียบ้าง จะได้ไม่ติดเป็นนิสัย...” เขาเอ่ยอย่างเข่นเขี้ยวพร้อมกับกัดฟันกรอด
เสียงของเธอทำให้หูของเขาอื้อจนฟังอะไรไม่รู้เรื่องแล้ว อัลนัลโด้จับพลิกคนตัวเล็กในลงไปนอนบนเบาะแล้วเขาเอาตัวขึ้นทับไว้
“จะทำอะไรน่ะ ลุกออกไปเดี๋ยวนี้นะ
คนหน้าไม่อาย” ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างขึ้นมาทันที
คาดเดาไม่ถูกว่าคนบ้าบิ่นอย่างเขาจะทำอะไรประเจิดประเจ้ออีกหรือเปล่า
“ตอนนี้ยังไม่ทำอะไรหรอก
แต่ลองกรี๊ดอีกทีดูสิ จะจูบให้ปากแตกเลยคอยดู” เขาขู่เสียงเข้ม
แววตาจริงจังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทำให้เฌอเมวีร์ต้องอ้าปากที่จะร้องตึงค้างไว้กลางอากาศ
“ฉันไม่ร้องแล้วก็ได้
ลุกออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ ฉันหนัก” ร่างบางออกคำสั่งเสียงขุ่นพลางใช้มือดันอกแกร่งออกไปให้ห่าง
เพราะรู้สึกว่ายิ่งใกล้ชิดกันมากเท่าไหร่กลิ่นกายของบุรุษเพศที่อยู่เหนือร่างของเธอตอนนี้
ทำให้หัวใจของเธอเต้นเร็วอย่างผิดปกติ เธอต้องรีบปกป้องหัวใจของตัวเองก่อนที่ผู้ชายคนนี้จะเข้ามารุกล้ำเขตหวงห้ามมากไปกว่านี้
“กลัวหวั่นไหวเหรอ
ที่ต้องใกล้ชิดกับฉันแบบนี้” ดวงตาสีฟ้าเข้มมีประกายวาววับ
สัมผัสได้ถึงอาการสั่นนิดๆของคนใต้ร่าง ทั้งยังไม่กล้าสบตาเขาอีก
“หลงตัวเองได้ไม่เคยเปลี่ยนจริงๆเลยนะ
ตัวนายหนักอย่างกับหมี ตับไตไส้พุงฉันจะแตกหมดแล้ว”
“คนปากแข็ง”
เสียงเข้มสวนขึ้นทันควัน
“ไม่ได้ปากแข็ง” เธอเถียงเสียงดังลั่น
“คงต้องลองพิสูจน์แล้วมั้ง”
เจ้าพ่อเกาะเอ่ยด้วยสีหน้ากรุ้มกริ่ม แต่คนตัวเล็กดันรู้ทันเสียก่อน
“หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ
ฉันรู้นะว่าสมองหื่นๆของนายคิดอะไรอยู่” มือเล็กฟาดไปที่ต้นแขนของอัลนัลโด้เต็มแรง
ข้อหาหื่นได้ทุกเวลาไม่เว้นสถานที่
“ดีใจจัง
เธอรู้ใจฉันด้วย” คนโดนตีไม่ได้สำนึกสักนิด
กลับตอบรับด้วยสีหน้าระรื่น
“หื่นโจ่งแจ้งอย่างนาย
แค่มองเผินๆก็รู้แล้วย่ะ...ไม่ต้องไปรู้จงรู้ใจอะไรหรอก” เธอเบ้ปากอย่างนึกหมั่นไส้
“แล้วนี่จะลุกออกไปจากตัวฉันได้หรือยัง หนักน่ะ ได้ยินไหม” เป็นอีกครั้งที่เฌอเมวีร์ร้องใส่หูของอัลนัลโด้
แต่คราวนี้เขาไม่ได้จูบปากเธออย่างที่เคยขู่เอาไว้ แต่กลับมองหน้าสวยหวานด้วยสายตาจริงจังระคนเหนื่อยใจ
“เธอจะทำตัวน่ารักกับฉันสักสิบนาทีไม่ได้เลยหรือเฌอเมวีร์
กรีดร้องโวยวายตลอดเวลาแบบนี้ ไม่เหนื่อยบ้างหรือไง” อัลนัลโด้เอ่ยเสียงอ่อน
พลางถอนหายใจออกมาแผ่วเบา
“นายจะให้ฉันอยู่เฉยๆแล้วปล่อยให้นายปู้ยี่ปู้ยำได้ตามสบายอย่างนั้นเหรอ
ดูสิปากกับแก้มของฉันช้ำหมดแล้ว” ร่างบางต่อว่าด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ
เจ้าพ่อเกาะต้องกลั้นหัวเราะไว้จนสุดความสามารถ นึกขันกับคำกล่าวโทษของหญิงสาว
ก็ใครมันจะไปทนไหว ริมฝีปากแสนหวาน แก้มนุ่มหอมหอนออกอย่างนี้
“หึหึ
เอาอย่างนี้ดีกว่า ถ้าเธอยอมนั่งไปดีๆ
ไม่โวยวายใช้กำลังกับฉันอีก...ฉันจะไม่แกล้งเธอแล้วก็ได้ ตกลงตามนี้ไหม” เขายอมที่จะหักห้ามใจ เพื่อให้เธอทำตัวน่ารักกับเขาบ้าง สักนิดก็ยังดี
เฌอเมวีร์กลอกตาขึ้นอย่างนึกเอือม
เขาใช้คำว่า ‘แกล้ง’ ได้อย่างไรกัน
การกระทำของเขามันเข้าข่ายล่วงละเมิดทางเพศชัดๆ แต่จะว่าไปก็ดีเหมือนกันเธอรู้สึกเหนื่อยและเจ็บคอเต็มทนแล้ว
ถือเสียว่าเป็นการเก็บแรงไว้ต่อสู้กับเขาในยกต่อไปก็แล้วกัน
“ก็ได้ จะยอมนั่งนิ่งๆ
ไม่โวยวายแล้วก็ได้” เธอตอบรับข้อตกลงแบบขอไปที
ซึ่งแค่นี้ก็ทำให้มุมปากของอัลนัลโด้ปรากฏรอยยิ้มยินดีขึ้นมาได้แล้ว
ร่างสูงยอมผละออกห่างพร้อมกับดึงร่างบางให้ลุกขึ้นตาม ลุกขึ้นนั่งได้เฌอเมวีร์ก็จัดเสื้อผ้าของตัวเองให้เรียบร้อยก่อนจะส่งค้อนให้กับคนตัวโต
และกระเถิบตัวไปนั่งชิดประตูหน้าต่างทันที ขออยู่ให้ห่างจากเขาให้มากที่สุด
อัลนัลโด้ปรายตามองเสี้ยวหน้าด้านข้างของเฌอเมวีร์แล้วนั่งอมยิ้มอยู่คนเดียว
เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันทำไมถึงเป็นเอามากถึงเพียงนี้ ผู้หญิงมากมายที่ยินยอมมอบกายให้เขาเชยชมโดยที่ไม่ต้องลงทุนลงแรงอะไรขนาดนี้เลยด้วยซ้ำ
เขากลับไม่คิดจะแลตามอง
ตั้งแต่วันนั้นที่ได้สบตากับเธอและได้ปล้นจูบแรกของเธอมา
สาวสวยเหล่านั้นก็ไม่เคยอยู่ในสายตาอีกต่อไป ทุกวันมันเฝ้าฝันถึงแต่ใบหน้าสวยหวาน
เจ้าของหุ่นยั่วยวนขยี้หัวใจเจ้าพ่อเกาะคนนี้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
แล้วยิ่งได้รู้ว่าเธอคือบุตรสาวคนเดียวของเสี่ยอลัน
ผู้เปรียบเสมือนญาติผู้ใหญ่ที่เคารพรักคนหนึ่ง
ยิ่งทำให้เขามั่นใจว่าโชคชะตานำพาให้เธอมาเป็นผู้หญิงของอัลนัลโด้โดยแท้จริง
เขาเป็นคนที่เชื่อความรู้สึกของตัวเอง ชอบก็คือชอบ
รักก็คือรัก เพราะต่อให้หาเหตุผลต่างๆนานามากมายมาบรรยาย สุดท้ายแล้วมันก็คือรักอยู่วันยังค่ำ
ร่างสูงเขยิบเข้าไปชิดร่างบางทีละนิด...ทีละนิดจนต้นแขนเบียดกันจนเกิดความอึดอัดให้กับอีกคน
เฌอเมวีร์ตวัดสายตาขุ่นเขียวให้กับคนข้างๆที่กระแซะเข้ามาเบียดเธออยู่ตอนนี้
“จะเอายังไงอีก จะผิดคำพูดหรือไง”
หมัดเล็กๆชูขึ้นมาตรงหน้า พร้อมที่จะซัดใส่หน้าหล่อเหลาได้ทุกเมื่อ
ความคิดเห็น