คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : ตอนที่ 4 ต้อนเหยื่อให้จนมุม [1]
ตอนที่ 4
ต้อนเหยื่อให้จนมุม
ในห้องพักคนไข้พิเศษหลังจากเสียงโวยวายของบุตรสาวเงียบหายไปเสี่ยอลันยังคงนั่งจับจ้องไปที่ประตูนิ่ง
พลางก็คิดสิ่งที่เขาทำอาจทำให้เฌอเมวีร์รู้สึกเคืองโกรธคนเป็นพ่ออย่างเขาอยู่บ้าง
แต่เพื่อความปลอดภัยของเธอเขาจำเป็นต้องขัดใจเธอสักครั้ง เฮดิสที่ยืนมองอย่างครุ่นคิดนานแล้วเขาขยับตัวอย่างลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนจะตัดสินใจถามออกไป
“เอ่อ เสี่ยไม่เชื่อที่คุณหนูบอกบ้างเหรอครับ...คือ
บอกตรงๆนะครับ ผมว่าคุณหนูไม่น่าจะสร้างเรื่องขึ้นมา...” บอดี้การ์ดหนุ่มเอ่ยถามเสียงไม่มั่นคงนัก
เขาไม่ได้อวดฉลาดกว่าเจ้านายเพียงแต่รู้สึกแคลงใจเท่านั้น
“เรื่องนั้นฉันไม่สนใจหรอกนะ
ฉันรู้แค่ว่าอัลนัลโด้เอาเฌอเมวีร์อยู่
ฉันไม่เคยเห็นใครปราบยายเด็กแสบของฉันได้สักคน...คนแบบนี้แหละที่ฉันต้องการให้มาดูแลลูกสาวของฉัน”
“แต่ถ้าเขาเป็นเสือผู้หญิงจริง
คุณหนูของเราจะไม่ชอกช้ำหรือครับ” ร่างหนาเอ่ยถามเสียงหวาดหวั่นระคนวิตก
“นายคิดว่าฉันโง่ขนาดนั้นเลยเหรอเฮดิส...จริงๆฉันก็ไม่ได้ปักใจเชื่อเต็มร้อยนักหรอก
แต่ถ้าอัลนัลโด้กล้าทำให้ลูกสาวสุดที่รักของฉันเสียใจ ฉันก็ไม่เอาไว้เหมือนกัน...ชีวิตต้องแลกด้วยชีวิต”
สีหน้าและแววตาของเสี่ยอลันนิ่งสงบและเยือกเย็น
ใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้มของนักบุญอยู่เป็นนิจแต่เมื่อมีสิ่งมาทำให้เลือดมาเฟียในกายของเขาปะทุขึ้นมา
เขาก็พร้อมจะทำลายล้างทุกอย่างได้อย่างไม่ลังเล
“ผมเข้าใจแล้วครับเสี่ย” เฮดิสพยักหน้ารับรู้
“เลิกสนใจเรื่องของลูกสาวฉันไปก่อน
อย่างไรอัลนัลโด้ก็รับปากฉันแล้วว่าจะดูแลเฌอเมวีร์เป็นอย่างดี...สิ่งที่นายต้องสนใจตอนนี้ก็คือ
เร่งคนของเราให้หาหลักฐานมาเล่นงานพวกมันให้ได้เร็วที่สุดจะดีกว่า ตอนนี้มันรู้ว่าฉันต้องระวังตัวมากขึ้นกว่าเดิม
คงยังไม่ส่งใครมาเก็บฉันในเวลานี้แน่” น้ำเสียงของคนเจ็บดูเครียดเขม็งขึ้นมาทันที
แค้นนี้ต้องมีการเอาคืนซะบ้าง
“ครับเสี่ย” เฮดิสรับคำ
“แต่ถ้ามันกล้าบุกมาอีกครั้ง
คราวนี้ฉันจะไม่ยอมเสียเลือดแม้แต่หยดเดียว...เตรียมคนของเราให้พร้อมตลอดเวลา...ถ้ามันคิดว่าฉันไม่สู้คนละก็
ฉันจะทำให้มันรู้ ว่าพวกมันกำลังคิดผิด” น้ำเสียงห้าวเหี้ยมเอ่ยขึ้นอย่างไม่กลัวเกรงต่อศัตรู
“ผมเตรียมพร้อมไว้เรียบร้อยแล้วครับเสี่ย
พร้อมกับกำชับทุกคนให้ระวังตัวด้วย” เฮดิสตอบรับด้วยใบหน้าถมึงทึง
“ฉันจะจัดการถอนรากถอนโคนพวกมันให้สินซากเสียที
พวกมันล้ำเส้นฉันมากเกินไปแล้ว...แผ่นดินนี้จะได้สูงขึ้นเสียที” ดูเหมือนยิ่งพูดอารมณ์ของเสี่ยอลันก็ยิ่งเพิ่มสูงขึ้นไปด้วย
“ครั้งนี้โชคน่าจะเข้าข้างเราแล้วนะครับ
เรามีคนช่วยอีกแรงแล้วครับเสี่ย มาร์คัสคนสนิทของคุณพอลบอกผมว่าจะช่วยพวกเราจัดการพวกมันด้วย
เขาบอกว่าสามารถหาหลักฐานการทุจริตและข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจมืดของพวกมันได้ อาจจะล้วงลึกกว่าที่เรามีเสียอีก”
รอยยิ้มยินดีผุดขึ้นที่มุมปากของเฮดิส เป็นอย่างที่เขาคิดเอาไว้ไม่มีผิดว่าอัลนัลโด้ต้องไม่ใช่แค่เศรษฐีที่รวยติดอันดับโลกคนหนึ่งเท่านั้นแต่มีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ในตัวของผู้ชายคนนี้มากกว่าที่เห็น
“เป็นอย่างนี้ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ พอลช่วยเราไว้เยอะเหลือเกิน”
เสี่ยอลันพยักหน้าพึงใจ แววตาเต็มไปด้วยความชื่นชม
“ครับ โชคดีมากที่เราพบเขาวันนั้น”
“นั่นน่ะสิ...ฉันออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่
เราคงต้องคุยเรื่องนี้กันอย่างละเอียดอีกที ตอนนี้ฉันก็หมดห่วงไปเรื่องหนึ่งแล้ว แต่สำหรับเรายังต้องเหนื่อยด้วยกันอีกนะ
ไอ้น้องชาย” เสี่ยอลันสบตากับเฮดิสอย่างแน่วแน่
ซึ่งชายหนุ่มเองก็ยิ้มรับด้วยความเต็มใจ
ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่เจ้านายที่เป็นเสมือนครอบครัวคนหนึ่งแบบนี้
เขายอมถวายชีวิตเลยทีเดียว
ติ๊ง!
เสียงลิฟต์ที่ดังขึ้นบอกให้รู้ว่าถึงชั้นที่พวกเขาต้องการแล้ว
อัลนัลโด้ถอนหายใจออกมาแผ่วเบาอาจจะรวดเร็วเกินไปที่จะทำให้หญิงสาวเชื่อและเขาไม่ควรเร่งรัดเธอเกินไป
ไม่เห็นเป็นไรเพราะเขามีเวลาทั้งชีวิตเพื่อรักเธออยู่แล้ว ขณะที่สองคนกำลังจ้องตาวัดใจกันอยู่นั้นมาร์คัสได้ถอดหูฟังออกและก้าวขาออกไปยืนหน้าลิฟต์รอให้เจ้านายและว่าที่นายหญิงเดินออกมา
“อย่างไรเธอก็หนีฉันไปไหนไม่รอดหรอกเฌอเมวีร์
ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้หญิงของ พอล อัลนัลโด้ คลีเมนต์แล้ว
ไม่ว่าผู้ชายหน้าไหนก็ไม่กล้าเข้าใกล้เธอเกินห้าสิบเมตร หรือแค่เดินเฉียดกายยังกลัวจนฉี่ราด”
เขาเอ่ยเสียงเข้มอยู่ข้างใบหูเล็กนุ่ม
ก่อนที่จะเน้นเสียงให้เข้มขึ้นจนดูน่ากลัว
“ฉันจะไม่ยอมให้เธอเป็นของใคร
เธอต้องเป็นของฉันคนเดียว” จากนั้นเจ้าพ่อเกาะก็รั้งต้นแขนของหญิงสาวให้เดินออกจากลิฟต์ไปด้วยกัน
แต่มีหรือที่สาวพยศจะยอมเดินตามง่ายๆ
“ฉันไม่ใช่สิ่งของนะ
ไม่ได้เป็นของๆใคร และก็ไม่ใช่ผู้หญิงของนายด้วย” เฌอเมวีร์แย้งเสียงแข็ง
ก่อนจะใช้แขนข้างที่เป็นอิสระฟาดไปที่ตัวของอัลนัลโด้เต็มแรง
พร้อมกับบิดแขนแกร่งหมายจะทุ่มลงพื้น แต่ด้วยรูปร่างที่แตกต่างกันราวช้างกับแมว
เจ้าพ่อเกาะบิดแขนเรียวกลับแล้วจับรวบเอวบางไว้จากนั้นก็พาดขึ้นบ่าได้อย่างง่ายดายราวกับตัวเธอไร้น้ำหนัก
และสาวเท้าเดินออกจากลิฟต์อย่างสบายใจ
คราวนี้เฌอเมวีร์ถึงกับจุกและเจ็บใจด้วยในเวลาเดียวกัน
เธอจะเรียนศิลปะป้องกันตัวมาเพื่ออะไรกันในเมื่อใช้ป้องกันตัวเองไม่เคยได้เลย! คนอื่นอาจจะใช้ได้ผลแต่กลับผู้ชายบ้ากามคนนี้เธอต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ตลอด
คิดแล้วก็อยากจะร้องไห้ อัลนัลโด้ยกยิ้มด้วยความพึงใจ ยิ่งเธอดิ้นมากเท่าไหร่อะไรๆก็ยิ่งบดเบียดแนบกับตัวเขามากยิ่งขึ้น...กำไรเหนาะๆ
“ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ ช่วยด้วย
ใครก็ได้ช่วยฉันด้วย” เธอร้องขอความช่วยเหลือดังลั่น หัวที่ห้อยลงมาจนใบหน้าแดงก่ำไม่รู้ว่าเพราะความโกรธหรือเลือดไหลลงมากองที่หัวกันแน่
มือเล็กก็ทุบแผ่นหลังของเขาเต็มแรงแต่ร่างหนาก็หาได้สะทกสะท้านแต่อย่างใด
ตรงกันข้ามเขากลับก้าวขาเดินไปข้างหน้าอย่างสบายอกสบายใจ
“ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอว่าไม่มีใครช่วยเธอได้
ขนาดพ่อของเธอเองยังไม่ยอมช่วยเลย” อัลนัลโด้เอ่ยกลั้วหัวเราะ
พลางก็ใช้มือหนาตบไปที่บั้นท้ายงามงอนของหญิงสาวอย่างมันเขี้ยว เฌอเมวีร์กัดฟันอย่างโกรธกรุ่นแต่ทำอะไรไม่ได้
พลางในหัวก็คิดหาวิธี เมื่อใช้กำลังแล้วเป็นฝ่ายแพ้ตลอด
ต่อไปก็ของัดมารยาร้อยเล่มเกวียนของผู้หญิงมาใช้บ้าง
ดังนั้นเสียงหวานจึงเอื้อนเอ่ยออกไป
“พี่พอลขา ปล่อยเรนลงเถอะนะคะ
เรนจุกจะแย่แล้ว” เสียงออดอ้อนที่ลอยมาเข้าหูทำให้ฝ่าเท้าที่เคยมั่นคงและแข็งแกร่งพลันหยุดชะงักลงในบัดดล
แต่สิ่งที่ไม่หยุดไปด้วยคือหัวใจของเจ้าพ่อเกาะมุกตาภา มันกำลังเต้นแรงราวกับจะกระเด็นออกมานอกอก
จังหวะการเต้นแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในชีวิต
เขาวางร่างบางลงอย่างเบามือที่สุดเพื่อที่จะได้มองหน้าเฌอเมวีร์ให้ชัดๆ
ก่อนจะเอ่ยถามอีกครั้ง
“เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไรนะ” น้ำเสียงของเจ้าพ่อเกาะดูตื่นเต้นระคนดีอกดีใจ แต่ถึงอย่างไรสัญชาตญาณเสือร้ายที่อยู่ในตัวของอัลนัลโด้ก็ยังนึกเฉลียวใจอยู่ดี
การเปลี่ยนแปลงไปอย่างกะทันหันของเฌอเมวีร์แผนตื้นๆแบบนี้ทำไมเขาจะรู้ไม่เท่าทัน...แค่อยากรู้ว่าหญิงสาวจะทำอย่างไรต่อไป
ที่เหลือถือว่าเป็นโบนัสก็แล้วกัน
เฌอเมวีร์สาวเท้าเข้ามาแนบชิดกับร่างหนาแขนเรียวยกขึ้นไปคล้องลำคอแกร่งไว้
ริมฝีปากยกยิ้มบางอย่างทรงเสน่ห์ ก่อนที่เธอจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้ใบหูของเจ้าพ่อเกาะและกระซิบเสียงเบา
“เรนบอกว่า ให้พี่พอลปล่อยเรน อย่าใช้ความรุนแรงกับเรนเลยนะ”
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ประดับอยู่บนใบหน้าคมคาย
สองมือหนาโอบรอบเอวคอดไว้พร้อมกับรั้งร่างบางให้เข้ามาแนบจนไม่เหลือช่องว่างระหว่างกัน
มาร์คัสมองดูทั้งสองคนด้วยความงุงงง
เมื่อครู่ยังจะฆ่าจะแกงกันอยู่เลยมาตอนนี้กอดกันซะแน่นเชียว
แต่เมื่อเห็นสายตาเจ้าเล่ห์ของอัลนัลโด้แล้ว
มาร์คัสก็ไม่นึกแปลกใจอีก...ร้ายด้วยกันทั้งคู่
เสียงใบพัดตัดกับอากาศของเฮลิคอปเตอร์ดังขึ้นอยู่ใกล้ๆ
ลมแรงจากใบพัดทำให้ผมและเสื้อผ้าของทุกคนปลิวสะบัดตามแรง
แต่เขาก็ยังกระซิบตอบอยู่ข้างหูของหญิงสาว
“ยอมไปกับพี่ดีๆสิครับ
พี่พอลก็ไม่อยากทำรุนแรงกับน้องเรนเหมือนกัน” เอ่ยจบยังกดจมูกโด่งไปที่เรือนผมนุ่มหอมอีกด้วย
พลันขนแขนของเฌอเมวีร์ก็ลุกชัน เธอคิดผิดแล้วที่ใช้วิธีนี้กับคนบ้ากามอย่างเขา!
สถานการณ์แบบนี้เธอคิดตัวเธอไม่น่ารอดแน่แล้ว
เฌอเมวีร์กลอกตาใช้ความคิดอย่างรวดเร็ว
เวลานี้เขาคงยังไม่ทันระวังตัวกระมัง เธอสูดลมหายใจเข้าปอดเพื่อเรียกกำลังใจ
ก่อนจะกระทุ้งเข่าไปที่จุดกึ่งกลางลำตัวของอัลนัลโด้หวังไว้ในใจว่านัดเดียวต้องจอดสนิท...แต่ร่างหนากลับเบี่ยงต้นขาขึ้นมาป้องกันได้อย่างทันท่วงที
ทำให้แผนของเธอล้มเหลวไม่เป็นท่า
อีกแล้วนะ!! เจ็บใจนัก...เฌอเมวีร์กัดฟันกรอด
“พี่คิดว่าน้องเรนดื้อเกินไปแล้วนะครับ
นั่นมันของรักของหวงของพี่ รองลงมาจากน้องเรนคนสวยเชียวนะ” เขากระซิบเสียงแหบพร่าข้างใบหู
พร้อมกับหัวเราะร้ายในลำคอ ก่อนจะอุ้มคนตัวเล็กขึ้นพาดบ่าอีกครั้ง
“ถ้าไม่อยากถูกใบพัดตัวหัวขาด
ก็จงอยู่นิ่งๆซะ...พี่พอลขอเตือนนะครับคนสวย” เสียงเข้มเอ่ยเตือนเสียงดังแข่งกับเสียงเฮลิคอปเตอร์
ทำให้ร่างบางยอมอยู่นิ่งๆแม้จะเคืองแค้นแค่ไหนเธอก็รักชีวิตของตัวเอง
เมื่อก้าวขาขึ้นเครื่องได้สำเร็จ
อัลนัลโด้ไม่ได้ปล่อยให้คนตัวเล็กนั่งลงตรงเบาะแต่โดยดี
กลับให้หญิงสาวนั่งลงบนตักของเขาแทน แม้ว่าเฌอเมวีร์จะดิ้นรนขัดขืนมากแค่ไหน
ก็ไม่สามารถหนีจากวงแขนแข็งแกร่งของเขาไปได้เลย หนำซ้ำเขายังกระซิบขู่หากเธอดิ้นอีกจะจูบลงโทษต่อหน้ามาร์คัสและคนขับเฮลิคอปเตอร์เสียให้เข็ด
ความคิดเห็น