พลิกแฟ้มคดีดังที่ชวนสยอง - นิยาย พลิกแฟ้มคดีดังที่ชวนสยอง : Dek-D.com - Writer
×

    พลิกแฟ้มคดีดังที่ชวนสยอง

    เปนเรื่องจริงที่เกิดขึ้น เกี่ยวกับความวปริตชองฆาตกรจนขึ้นทำเนียบคดีดัง อ้า้งอิงจากหนังสือแปลของคุณสรจักร ศิริบริรักษ์ เพื่อนำมาให้ผู้ที่ยังไม่เคยอ่าน ได้สัมผัสกับความสยอง!!!..มาซิคะ่...

    ผู้เข้าชมรวม

    3,662

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    3.66K

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    1
    หมวด :  สืบสวน
    จำนวนตอน :  6 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  6 มี.ค. 50 / 18:39 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

                                คริสตี้  เด็กหญิง  วัยแปดขวบ  ถูกยิงที่ราวนมทะัลุปอด
                         เชอร์ริล  วัยเจ็ดขวบ  ถูกยิงที่ไหล่ซ้าย-ไหล่ขวา
                         สตีเฟ่น   วัยสามขวบ  ถูกยิงในระยะเผาขนเข้าสไขสันหลัง
                  เด็กทั้งสามเปนลูกของ ไดแอนดาวน์ส  หญิงผู้หย่าร้างกับสามีนายแบบ รูปหล่อ โดยไดแอน เปนผู้ดูแล
    เด็ก 
                ใคร...?ที่มีโหดเหี้ยมถึงขนาดนี้
    .....
                  19 พฤษภาคม 1983
                           สปริงฟิลด์  สหรัฐอเมริกา  เวลาสี่ทุ่มเศษ  ที่ร.พแม็กเคนซี่วิลลาเมตต์ ที่ตึกเล็กๆของร.พด้านหน้าติกกับถนน โมฮอว์ก  มันถูกออกแบบมาเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการรับกับสถานการณ์ฉุกเฉินโดยเฉพาะ  ด้านซ้ายของตึกเปนห้องผ่าตัด ตรงกลางเปนห้องปฐมพยาบาล และรับผู้่ป่วย  ส่วนด้านขวาเปนห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน แม้อาคารจะดูทรุดโทรมเพราะผ่านการใช้งานมากว่า40ปี  คุณภาพในการรักษายังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
                           โดยทั้วไปเวลาสี่ทุ่มถึงห้าทุ่ม  จะเปนช่วงที่มีสถิติอุบัติเหตุ และฆาตกรรมฟุ่งขึ้นสูงสุดในรอบวัน  โดยเฉพาะวันศุกร์  วันสุดท้ายการทำงาน 
                             แต่สำหรับร.พเล็กๆอย่างแม็กเคนซี่-วิลลา  มันไม่มีอะไรมากไปกว่าการทำแผลมอเตอร์ไซค์ล้มหรือมีดบาด
    นิ้ว
                     เว้นแต่วันนี้
    ....!!!!
                             จูดี้..แพตเตอร์สันนั่งหาวนอน ขณะที่รถนิสสันสีเหลืองขับมาช้าๆมาจอดที่ลานจอดรถหน้าห้องอุบัติเหตุโดยที่ไม่มีใครลงจากรถ  แสงจากตัวอาคารไม่่สว่างพอที่มองเห็นสภาพภายในรถได้  
                             จูดี้ค่อยๆลุกขึ้น  สังหรณ์ใจว่าต้องมีอะไรที่ไม่ดีเกิดขึ้น  เทอบอกให้
    บุรุษพยาบาลออกไปสังเกตุการณ์ที่ลานจอดรถ
                              เมื่อเค้าไปถึงเค้าก้อตะโกนให้คนในตึกมาช่วยกับเอารถเข็นมาด้วย
    ทุกคนหันไปมองด้วยความแปลกใจ.....เกิดอะไรขึ้น???
                              ความโกลาหลเกิดขึ้นทันทีที่ประตูรถเปิดออก  ร่างของหกญิงสาวนางหนึ่งเอียงแล้วหล่นลงจากรถ  เพราะเทอนั่งพิงประตูด้านคนขับ  เหนได้ว่าเทออยู่ในอาการช็อค  ที่แขนมีผ้าชุ่มเลือดพันอยู่  บุรุษพยาบาลช่วยอุ้มเทอขึ้นรถเข็น
                               "เกิดเหตุฉุกเฉิน...เตรียมพร้อมเร็ว....โรซี่ มาตินตระโกนบอกเพื่อน
    "มีผู้หญิงโดนฟันที่แขน "
                              แต่แล้วบุรุษพยาลบาลขอรถเข็นเพิ่นอีกคัน   เชลบีและโรซี่ตัดสินใจวิ่งไปดูพร้อมรถเข็น  และเมื่อไปถึงเค้าก้อเปิดประตูด้านหลัง
                              "คุณพระช่วย" โรซี่อุทานกับภาพตรงหน้า    ที่เบาะสักหลาดด้านหลังที่ชุ่มไปด้วยเลือด กลิ่นคาวคลุ้งทะลักออกมาจากร่างเล็กๆ   สองร่างที่นอนขด
    อยู่บนเบาะ  โรซี่ เ้ปนคนเเรกที่อุ้มร่างเล็กๆออกจากรถอย่างแผ่วเบา เทอเหนเลือดทะลักออกจากราวนมเปนฟอง
                               "เอาไปห้องฉุกเฉินด่วนที่สุด" เทอส่งร่างหนูน้อยให้บุรุษพยาบาล
    จากนั้นเทอก้อเข้าไปอุ้มอีกร่างทีนอนอยู่ด้านใน  เทอสั่นเทิ้มด้วยความโกรธเมื่อพบว่า เด็กที่เทออุ้มนั้นไม่ได้บาดเจ็บเพราะอุบัติเหตุ  แต่น่าเกิดจากกระสุนปืน
                                ใคร...มนุษย์ใจสัตว์คนไหน..ทีทำร้ายเด็กเพียงสามขวบได้ลงคอ
    รถเข็นยังไม่มา  โรซี่รอไม่ไหวเทออุ้มเด็กอีกคนวิ่งไปที่ห้องฉุกเฉินด้วยตัวเอง
    ทุกคนไปกันหมดแล้ว  คงเหลือเชลบีที่ยืนงงอยู่ข้างรถ  เทอไม่อยากกลับไปเผชิญความจริงในห้องฉุกเฉิน เทอยังทำใจไม่ได้
                                 ทันใดนั้นเทอเหลือบไปเหนถุงผ้าใบเล็กๆกองอยู่ แต่เส้นผมสีทองที่โผล่ออกทำเทอเย็นวาบไปทั้งตัว
                                 "พระเจ้าช่วย"...คำพูดกลืนหายไปในลำคอ   ยังมีเด็กอีกคนที่ยังนอนไม่ไหวติง  เชลบีวิ่งอ้อมไปอีกด้านหนึ่งของรถเปิดประตูด้านตรงข้าม  ซ้อนร่างน้อยขึ้นมาวิ่งตรงไปที่ห้องฉุกเฉินด้วยกำลังทั้งหมดที่เทอมีอยู่ทั้งๆที่เทอทอ้งใกล้คลอด
                                  "ช่วยด้วย...ช่วยเทอด้วย...เทอกำลังจะตาย"
     ที่ห้องฉุกเฉิน  นายแพทย์ แม็กเคย์  แพทย์เวรถูกตามตัวมาถึง เค้าให้น้ำเกลือแก่เด็กทั้งสอง ส่วนหญิงสาวอีกคนถูกแยกไว้อีกห้องหนึ่งโดยมีพยาบาลดูแล  เชลบีอุ้มร่างขาวซีดไร้สีเลือดตรงไปที่หมอแม็กเคย์
                                    "คุณหมอชว่ยเทอด้วย...เทอกำลังจะตาย"
    พยาบาลในห้องช่วยกันอุ้มหนูน้อยชึ้นเตียง  ตัดเสื้อผ้าเปื้อนเลือดออกเผยให้เห็นแผลขนาดใหญ่สองแผลอันเกิดจากกระสุนปืน  ที่ไหล่ทั้งสองข้างเปนการจงใจยิง
                                  กราฟแสดงคลื่นไฟฟ้าหัวใจแทบจะเปนเส้นตรง  นั่นแสดงว่าหัวใจกำลังทำงาน  เชลบีรีบฉีกอะดรีนาลินเข้าเพื่อกระตุ้นหัวใจโดยไม่รอให้หมอสั่ง
    เส้นกราฟเริ่มเคลื่อนเปนจังหวะ เทอใจจดจ่อกับเส้นกราฟนั้น
                                  แต่แล้วเส้นกราฟกลับแบนราบลงอีกครั้ง  และกลายเปนเส้นตรงในที่สุด  นั่นแปลว่าหนูน้อยตายแล้ว
                                  เชลบีร้องไห้โฮ! ประหนึ่งเทอได้สูญเสียลูกของเทอเอง
    หมอแม็กมองด้วยความเหนใจเค้าปั้มหัวใจและช่วยการหายใจทันที
                                  ไม่มีการตอบสนอง เชลบียืนมองจอมอนิเตอร์ที่มีกราฟเส้นตรงด้วยสายตาเลื่อนลอย
                                   "เชลบี"หมอแม็กเรียกเบาๆ  "เราทำดีที่สุดแล้ว
                                   เชลบีรู้สึกโกรธตัวเอง  ไม่อยากยอมรับว่าเด็กที่เทออุ้มมาได้ตายไปแล้ว  เทอโทษตัวเองที่วิ่งมาช้าเกินไปเพราะความอุ้ยอ้ายของเทอหน
    ุน้อยผมนิ้มราวกับเส้นไหมนอนสงบนิ่งบนผ้าคลุมเตียงสีขาวสอาด  เหมือนนางฟ้าตัวน้อยกำลังหลับไหล  บัดนี้ผิวหนังเทอเริ่มซีดขาวเหมือนทำด้วยขี้ผึ้ง อายุคงไม่เกินหกปี เซลบีค่อยๆม้่วนเสื้อผ้าที่หนูน้อยสวมใส่ บรรจงหย่อนลงในถังขยะโดยไม่รุ้ว่าทำไมจึงทำเช่นนี้

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น