Love Police รักเกินห้ามใจ [Yuri]
ความรักจะเริ่มต้นหรือจบลงอย่างไร ความรักก็ยังคงเป็นสิ่งสวยงามเสมอ การรักคนมีเจ้าของอาจไม่ใช่เรื่องผิด แต่ผิดหากเข้าไปทำหน้าที่ซ้ำซ้อนของอีกคน แล้วถ้าหากเราสามารถความคุมความรู้สึกไม่ให้รักคนมีเจ้าของได
ผู้เข้าชมรวม
44,395
ผู้เข้าชมเดือนนี้
36
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ข้าวฟ่าง...
ในร้านกาแฟหรูใจกลางกรุงเทพมหานคร เป็นแหล่งพบปะสนทนาของเหล่าบรรดาไฮโซลูกคุณหนู หรือแม้กระทั่งนักธุรกิจระดับใหญ่โตต่างแวะเวียนเข้ามาปราศรัยกันในร้าน ข้าวฟ่างเป็นหนึ่งในคุณครูโรงเรียนอนุบาลที่นัดเจอกับดนัยแฟนหนุ่มของมะเหมี่ยวเพื่อนสนิทของเธอที่ร้านนี้อยู่บ่อยครั้งถึงแม้เธอจะไม่ได้เจอกับมะเหมี่ยวเลยตั้งแต่เรียนจบและแยกย้ายไปทำงาน มีเพียงดนัยที่ทำงานอยู่ใกล้กับโรงเรียนที่เธอสอนอยู่แวะเวียนมาหาอยู่บ่อยๆ
“ข้าว จะว่าอะไรมั้ยถ้าผมจะ...” ดนัยเอ่ยขึ้นเสียงเรียบพลางเลื่อนมือไปจับมือของข้าวฟ่างอย่างถือวิสาสะ ซึ่งเธอก็ไม่ได้เลื่อนถอยหนีแต่อย่างใด
“มีเรื่องอะไรให้ข้าวช่วยก็บอกมาเถอะ” ข้าวฟ่างยิ้มรับแล้วตอบเสียงหวาน
“ข้าว... ผมชอบข้าว... ถ้าผมจะขอข้าวเป็นแฟน ข้าวจะตกลงมั้ย” ดนัยตัดสินใจพูดออกมาอย่างมั่นใจว่าข้าวฟ่างต้องตอบตกลงเขาแน่ๆ
“พูดเป็นเล่นไป นัยก็มีมะเหมี่ยวอยู่แล้วนี่” ข้าวฟ่างเลื่อนมืออีกข้างวางทับมือของดนัยอย่างขบขัน
“ไม่ ข้าว คือผมไม่ได้รักมะเหมี่ยวแล้ว ผมชอบข้าวมาตลอด” ดนัยกำมือข้าวฟ่างไว้แน่นแล้วบอกย้ำอีกครั้งอย่างมั่นใจพร้อมส่งแววตาจริงจังออกมาให้ข้าวฟ่างเห็น ซึ่งเธอก็เริ่มเข้าใจแล้วว่าที่ดนัยพูดมานั้นมีความจริงอยู่ไม่น้อย
“หึ นัย... ข้าวก็มีความจริงจะบอกนัยเหมือนกัน” ข้าวฟ่างยังไม่ชักมือกลับแต่กลับบอกดนัยด้วยเสียงเย็นชาไม่ต่างจากแววตาแข็งกระด้าง
“ข้าวชอบมะเหมี่ยวตั้งแต่ข้าวย้ายมาอยู่หอกับมะเหมี่ยวตอนปี 2...” ข้าวฟ่างค่อยๆ เล่าความเท็จที่เธอแต่งสดๆ ให้ดนัยฟังช้าๆ และชัดที่สุดเท่าที่จะทำได้
“ข้าวว่าอะไรนะ...” ดนัยออกอาการงงครู่หนึ่งก่อนจะถามข้าวฟ่างด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก
“ข้าวชอบมะเหมี่ยวก่อนที่มะเหมี่ยวจะเป็นแฟนนัยอีก แต่เพราะมะเหมี่ยวบอกว่านัยทำให้เธอมีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ๆ ข้าวก็เลยตัดใจจากมะเหมี่ยว เพราะอยากให้มะเหมี่ยวมีความสุข... แล้วมาถึงตอนนี้ นัยยังกล้านอกใจมะเหมี่ยวอีกงั้นหรอ” ข้าวฟ่างเล่าให้นัยฟังต่อแล้วถามกลับด้วยน้ำเสียงดุดัน
“ไม่... ผมไม่เคยรู้มาก่อน ผมไม่รู้ว่าข้าวจะเป็น...” ดนัยเอ่ยออกมาอย่างตะกุกตะกัก
“แล้วข้าวจะบอกนัยทำไม ถ้าข้าวไม่อยากให้นัยกับมะเหมี่ยวมีความสุข ลาก่อนนะ เราอย่ามาเจอกันอีกเลย” พูดจบข้าวฟ่างก็สลัดมือของตัวเองออกจากมือดนัยอย่างรุนแรงก่อนจะรวบกระเป๋าแล้วลุกจากเก้าอี้อย่างรวดเร็ว
“ข้าว นัยขอโทษ...” ดนัยลุกขึ้นยืนบ้างแล้วคว้ามือของข้าวฟ่างไว้อย่างรวดเร็ว
“เก็บไว้บอกกับมะเหมี่ยวเถอะ!”
เผี๊ยะ!!! จบประโยคฝ่ามือบางก็ตวัดตบลงใบหน้าหยาบๆ จนเต็มแรง รู้สึกได้ถึงเลือดแดงสดที่ไหลออกมาติดบนฝ่ามือ ข้าวฟ่างคว้ากระดาษทิชชูมาเช็ดก่อนจะโยนใส่หน้าของดนัยอย่างโมโหดุเดือด
“...” ดนัยทำได้เพียงมองกระดาษทิชชูเปื้อนเลือดตกลงที่พื้นก่อนจะมองร่างบางที่เดินออกไปจากร้านกาแฟอย่างรวดเร็ว เพียงครู่เดียวร่างบางก็หายลับตาไปอย่างไร้ร่องรอย
ถ้าจะลองนับดูดนัยก็ไม่ใช่คนแรกที่คิดจะให้เธอเป็นมือที่สามหรือไม่ก็เลี้ยงเธอให้เป็นเมียน้อย มีผู้ปกครองของเด็กนักเรียนอีกไม่รู้กี่คนที่จ้องจะจีบเธอจนน่ารำคาญ หากเธอไม่แต่งเรื่องเพื่อหาข้ออ้างตัดความสัมพันธ์ขึ้นมา เธอก็คงหนีไม่พ้นวงจรอุบาทนี้ไปได้แน่ๆ สามสี่ปีมานี่เธอต้องตบหน้าผู้ชายจนเลือดชั่วติดมือมาไม่รู้เท่าไหร่แล้ว แล้วเธอจะต้องหนีไปอีกนานแค่ไหนกัน
ใยไหม...
ในหมู่บ้านกลางหุบเขาที่ไกลจากความเจริญอยู่นิดหน่อย แม้แต่ในตัวอำเภอยังไม่มีเซเว่นอีเลฟเว่น มีเพียงร้านค้าเล็กๆ กระจัดกระจาย หรือร้านอาหารที่อย่างมากก็เป็นร้านอาหารพื้นเมืองธรรมดาๆ ถ้ามีคนเมืองกรุงหรือนักท่องเที่ยวได้หลงเข้ามาก็คงจะหาของกินได้ไม่ถูกปากสักเท่าไหร่ นั่นก็เป็นที่มาของการเปิดร้านอาหารอันหรูหราระดับเมืองกรุงของใยไหม ที่เพิ่งกลับมาอยู่บ้านเกิดเมืองนอนได้ไม่กี่เดือน
“จะติดแอร์จริงหรอ” เบียร์นายอำเภอหนุ่มพ่อม่ายเมียตายมาได้ปีเศษเอ่ยถามเพื่อนรุ่นน้องอย่างไม่เห็นด้วย ที่ร้านอาหารนั้นจะต้องติดเครื่องปรับอากาศ เพราะอากาศกลางป่าเขาแบบนี้ก็เรียกได้ว่าเย็นสบายอยู่แล้ว
“เอ้า... เห็นไหมเป็นคนพูดเล่นงั้นหรอ” ใยไหมเอ่ยถามอย่างท้าทาย แต่เหตุผลหลักก็คือ เธอต้องการใช้เรียกลูกค้าชาวป่าชาวเขาที่ไม่เคยมีเครื่องปรับอากาศใช้เสียมากกว่า จะเรียกว่าเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดก็ว่าได้
“แล้วไหมแน่ใจนะ ว่าทำกับข้าวอร่อยจริงๆ คนแถวนี้เขาไม่เคยกินกับข้าวกรุงเทพ อาจจะขายไม่ดีก็ได้นะ” เบียร์ยังคงคัดค้านอยู่เหมือนเดิม
“แล้วไงละ... ก็ดีกว่านั่งๆ นอนๆ ไม่ทำอะไร ไม่ใช่หรือไง” ใยไหมก็ยังคงค้านหัวชนฝากับแผนการเปิดร้านอาหารของเธอ
“ไม่ใช่... เบียร์ก็แค่อยากให้ไหมมาช่วยส่งข่าวให้ ถ้าเกิดไหมเปิดตัวประเจิดประเจ้อแบบนี้แผนก็พังพอดี” เบียร์กระซิบบอกเสียงเบาอย่างลับๆ ล่อๆ
“โอ้ย... เบียร์ก็คิดมาก เปิดร้านอาหารก็ดีแล้ว จะได้รู้จักคนมากๆ ช่วยเป็นหูเป็นตาได้อีกแรง เอาน่ะ เชื่อใจไหมเถอะ...” ใยไหมก็พูดหว่านล้อมเบียร์จนสำเร็จ อันที่จริงเขาไม่รู้จะหาข้ออ้างอะไรมาห้ามเธอได้อีกแล้วมากกว่า เป็นอันว่าใยไหมจะเปิดร้านอาหารอันหรูหราในอำเภอกลางป่ากลางเขาให้ได้ และเป็นสายคอยส่งข่าวให้อีกแรง
“แง้ๆ แง้ๆ ... ไม่เอาใบหม่อนไม่ไป ใบหม่อนจะอยู่บ้าน ฮือๆๆ...” พอจบบทสนทนาได้ไม่นานก็มีเสียงร้องไห้ของเด็กสาวกระจองอแงดังขึ้นมาจนเบียร์กับใยไหมต้องหันไปมองอย่างสนใจ
“ใบหม่อนร้องไห้ทำไมครับ ใครแกล้งใบหม่อนบอกพ่อสิ” เบียร์รีบลุกจากเก้าอี้ไปโอ๋ลูกสาวอย่างเป็นห่วง
“ฮือๆๆ ใบหม่อน ไม่อยากไปโรงเรียน เมื่อวานครูชาติตีใบหม่อน ใบหม่อนไม่รักครูชาติแล้ว...” ใบหม่อนอ้าปากร้องพลางฟ้องเบียร์อย่างออดอ้อน ซึ่งเบียร์ก็พลอยสงสารลูกสาวตัวน้อยของตัวเองอย่างจับใจ แต่จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อฝากให้ครูดูแลแล้ว ก็ต้องมีบ้างที่ครูต้องอบรมสั่งสอนในเมื่อเด็กนักเรียนดื้อ
“อื้ม... ครูชาตินี่เป็นใครหรอเบียร์” ใยไหมเดินหยุดอยู่ด้านหลังของเบียร์แล้วถามอย่างสงสัย
“ครูชั้นป.1 ครูปประชำชั้นของใบหม่อนเองแหละ” เบียร์หันมาตอบพลางกอดลูกสาวอย่างปลอบประโลม
“งั้นหรอ...” ใยไหมเลิกคิ้วแล้วสะกิดให้เบียร์ผละจากใบหม่อน แล้วเธอก็ย่อตัวลงไปคุยกับเด็กสาวตัวน้อยแทน
“ไม่ร้องนะคะเด็กดี บอกแม่ไหมสิคะว่าใครตี เดี๋ยวแม่ไหมจะไปตีคืนให้” ใยไหมดึงใบหม่อนเข้ามากอดแล้วแทนตัวเองว่าแม่อย่างมั่นใจ
“ฮือๆ ครูชาติ” ใบหม่อนค่อยๆ ลดเสียงสะอื้นลงแล้วมองหน้าใยไหมอย่างสงสัย พี่สาวคนนี้เป็นใคร ทำไมเรียกตัวเองว่าแม่ หรือพี่สาวคนนี้จะเป็นแม่ใหม่ของเธออย่างงั้นหรอ
“งั้นแม่ไหมจะไปส่งใยหม่อนที่โรงเรียนนะคะ แล้วถ้าใบหม่อนโดนใครแกล้งอีกให้มาฟ้องแม่ไหมได้เลยเดี่ยวแม่ไหมจะไปจัดการให้” ใยไหมบอกกับใบหม่อนเสียงใสจนใบหม่อนเองรู้สึกดีมากขึ้นที่ตอนนี้เธอมีคนคอยปกป้องแล้ว
“จริงๆ นะ” ใบหม่อนเช็ดน้ำตาของตัวเองอย่างลวกๆ แล้วถามย้ำเพื่อความแน่ใจ
“จริงสิ ต่อไปนี้ใบหม่อนเรียกแม่ว่าแม่ไหมนะคะ” ใยไหมบอกเสียงใสอีกครั้งพร้อมยกมือขึ้นลูบหัวของใบหม่อนอย่างเอ็นดู
“ค่ะ แม่ไหม... ใบหม่อนรักแม่ไหมที่สุดเลย” ใบหม่อนเอ่ยออกมาอย่างดีใจแล้วโผเข้ากอดใยไหมแน่น ทั้งรู้สึกรักและรู้สึกปลอดภัยมากขึ้นเมื่ออยู่กับแม่คนใหม่ของเธอ
“ใบหม่อนเรียกไหมว่าแม่แบบนี้ คนเขาก็เข้าใจผิดคิดว่าไหมเป็นเมียใหม่เบียร์พอดี” เบียร์ยืนมองเหตุการณ์อยู่ข้างๆ ก็อดเปรยออกมาไม่ได้
|
ผลงานอื่นๆ ของ สิบตำลึง ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ สิบตำลึง
ความคิดเห็น