มนต์ตราอาริษ์ธิเวศน์ - นิยาย มนต์ตราอาริษ์ธิเวศน์ : Dek-D.com - Writer
×

    มนต์ตราอาริษ์ธิเวศน์

    เธอลืมตาตื่น ท่ามกลางผู้คนรายล้อม นิ้วเรียวสัมผัสดวงหน้าที่สะท้อนในกระจก แต่เหตุไฉน ถึงขานเรียกเธอ หม่อมเจ้าหญิงรชนิชล

    ผู้เข้าชมรวม

    7,636

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    17

    ผู้เข้าชมรวม


    7.63K

    ความคิดเห็น


    35

    คนติดตาม


    177
    จำนวนตอน :  27 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  23 ม.ค. 65 / 20:32 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ


    .

    .

    .

    "นี่นะหรืออาริษ์ธิเวศน์ นี่นะหรือเกียรติแห่งเจ้า

    เจ้าคือเกียรติแห่งอาริษ์ธิกุล

    อาริษ์ธิเวศน์และอาริษ์ธิกุลคือหนึ่งเดียว

    ไม่ว่าจะเป็นเช่นไร เกียรติทั้งสองมิอาจลบเลือนได้..."

    .

    .

    .

    กาลครั้งหนึ่งนานแสนนาน...นานจนจำความได้!! แน่นอนว่าฉันจำได้ จำได้ว่าฉันไม่อยู่ที่นี่แน่ๆ!! 

    นี่มันอะไรกัน...หรือฉันกำลังฝันไป?!! หรือกำลังจิตตก?!! หรือฉันตายแล้ว?!!

    ท่านหญิงรชนิชล อาริษ์ธิกุล ใครกัน?!!...ทำไมทุกคนต่างเรียกฉันแบบนั้น นบนอบฉันราวเจ้าหญิง เจ้าหญิง!! ท่านหญิง!!...รึว่าฉันเป็น ไม่จริง เป็นไปไม่ได้ ชื่อนี้!! รชนิชล...บ้าน่า


         "ท่านหญิงเพคะ...ท่านหญิงเพคะ..."


    เสียงร้องของร่างท้วมผู้ซึ่งเดินเข้ามาภายในห้องบรรทม ที่ตกแต่งตามสไตล์ยุโรปโดยสถาปนิกชาวอิตาลี หลังได้ยินเสียงพึมพำตามมาด้วยเสียงคนละเมอจากเจ้าของห้อง มือบางกระชับผ้าห่มแน่น เปลือกดวงตาคู่สวยเปิดปิดสลับอยู่หลายครั้ง ในใจบอกกับตัวเองให้ตื่นขึ้น ทว่าร่างของหญิงเจ้าของเสียงกลับเด่นชัดขึ้น จนมือคู่นั้นสัมพัสผิวกายเนียน

     

         ...เฮ้ย!! โกหกน่า จริงหรอวะเนี้ย...


         "ระ...เรียกฉันหรอ?!"


         "นวลได้ยินเสียงท่านหญิงละเมอ เลยเข้ามาดูเพคะ ท่านหญิงทรงฝันร้ายหรือเพคะ"


    หญิงร่างท้วมไว้ผมทรงดอกกระทุ่ม นุ่งโจงห่มผ้าแถบแบบปล่อยชายเล็กน้อยสีสบายตา ร่างนั้นเแทนตัวเองว่านวล ดูจากหน้าตาอายุคงราวยี่สิบต้นๆ ท่าทางดูจะเป็นห่วงคนที่เธอเรียก 'ท่านหญิง' เป็นอันมาก ทั้งสีหน้าและแววตา รวีกานต์เดาว่านวลคงเป็นนางต้นห้องคนสนิท


         "คงงั้นมั้ง...ฉันคงฝันร้าย(ร้ายมากๆ)"


         "ตรัสว่ากระไรหรือเพคะ"


         "เปล่า...ไม่ได้ว่าอะไร"

     

    รวีกานต์พยายามนึกหาเหตุผลว่าทำไม ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ ความทรงจำสุดท้ายคือหญิงสาววิ่งหนีกลุ่มคนร้าย ที่กำลังขนของบางอย่างลงเรือที่ท่าน้ำ ก่อนวิ่งสุดฝีเท้าแล้วพลัดตกลงไปในสระ ซึ่งเป็นบ่อบัวอยู่ในวังอาริษ์ธิเวศน์ ...เดี๋ยวนะ บ่อบัววังอาริษ์ธิเวศน์? ตาคู่สวยเบิกกว้างเมื่อสำรวจร่างกาย เธออยู่ในชุดซึ่งไม่ต่างจากนวล เพียงแต่เนื้อผ้าดูละเอียดกว่าของนวลและสีหวานกว่ามาก ...บ้าน่า จำได้ว่าไม่ได้ใส่ชุดแบบนี้นิ ระ...หรือว่า...

     

         "นวล...นวล..."


    รวีกานต์เรียกร่างท้วมซึ่งสาระวนเก็บอะไรบางอย่างที่ตู้ไม้หลังใหญ่


         "เพคะ...เพคะท่านหญิง"

     

    นวลรีบถลามานั่งพับเพียบข้างแท่นบรรทม


         "ตอบฉันมา ฉันมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไง"


    หญิงสาวลอบสังเกตว่าสีหน้านวลมีแววหดหู่เล็กน้อย เธอสายหน้าไปพลางทอดถอนใจ ก่อนเงยหน้าสบนัยน์ตาคู่สวย ซึ่งจ้องมองอย่างต้องการคำตอบ


         "ท่านหญิงทรงจำกระไรไม่ได้เลยหรือเพคะ"


    คนถูกถามส่ายหน้าเบาๆ พลางทอดถอนใจประหนึ่งคนที่จำความไม่ได้จริงๆ


         "ฉันถึงถามอยู่นี่ไง บอกฉันทีเกิดอะไรขึ้น "


    นวลเริ่มเล่าถึงสาเหตุว่าร่างบางมาอยู่ในห้องบบรทมได้อย่างไร ร่างซึ่งนั่งอยู่บนแท่นบรรทมก็ฟังอย่างใจจดใจจ่อ แม้ตาคู่สวยจะมองไปรอบๆ แต่หูและสมองของเจ้าตัว ยังรับทราบข้อมูลที่นวลเล่าเป็นอย่างดี ภายในห้องซึ่งประเมินจากสายตาอดีตนักเรียนสถาปัตย์ รวมทั้งพวกของตกแต่งภายในซึ่งคงนำเข้ามาจากต่างประเทศแทบทุกชิ้น ไหนจะการตกแต่งแบบตะวันตก 


         ...โห คงเป็นตระกูลเจ้านายที่ร่ำรวยน่าดูเลยนะเนี้ย สงสัยบรรพบุรุษคงมีบารมีมาก...


         "เรื่องทั้งหมดก็เป็นอย่างที่นวลเล่าถวายเพคะ"


         "คุณพระ!!..."


    ร่างระหงเผลออุทานอย่างตกใจเมื่อนวลเล่าทุกอย่างจนจบ สิ่งที่เธอคาดไว้มันคือเรื่องจริง ที่นี่คือวังอาริษ์ธิเวศน์ วังแห่งราชสกุลอาริษ์ธิกุล สถานที่ซึ่งในยุคของเธอเป็นเพรยงอาคารเก่าน่ากลัว


         "จริงซิ...ปีนี้ปีอะไร"


         "ปีนี้พุทธศักราช ๒๔๖๙ เพคะท่านหญิง ทรงลืมแล้วหรือเพคะ"


         ...Oh My God! พ.ศ.๒๔๖๙ สมัยในหลวงรัชกาลอะไรเนี้ย ๒๔๖๙...เอ๊าะในหลวง ร.๗ นี่ใช่แล้ว เอ๊ะหรือฉันคนนี้จำผิด ไม่หรอกๆ ถูกแล้วแหละ มั้ง...


    ตาคู่สวยมองใบหน้านวลส่งยิ้มหวานมาให้ น้ำค้างแทบอยากจะกรีดร้องออกมาดังๆ เธอย้อนอดีตกลับมาในช่วงยุคก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ.๒๔๗๕ สมองของเธอคิดเรื่องต่างๆ นานา กระทั่งนึกย้อนถึงคำถามทิ้งท้ายของนวลเมื่อครู่


         "ที่บอกว่าลืมเนี้ย ลืมอะไรหรอนวล"


           "ทรงตรัสล้อเล่นอีกแล้วนะเพคะ"

     

    นวลอมยิ้มพร้อมส่ายหน้าเบาๆ กับความขี้หลงขี้ลืมของผู้เป็นนาย "ก็ช่วงต้นปีก่อน ท่านหญิงทรงเป็นตัวแทนราชสกุลอาริษ์ธิกุล เข้าร่วมในงานพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ ๖ อย่างไรเล่าเพคะ"


         ...What?!...นี่ฉันได้ร่วมงานหลวงระดับแผ่นดินกับเขาด้วยหรอเนี้ย...

     

         "อย่างงั้นหรอ ฉันลืมไปเลย"


    แม้จะเหลือเชื่อ แต่ด้วยฐานะของร่างซึ่งเธออยู่ตอนนี้ ณ เวลานี้ มีศักดิ์เป็นถึงหม่อมเจ้า และด้วยฐานันดรระดับนี้ การได้เข้าเป็นส่วนหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่ติดตรงที่ว่านี่หาใช่ร่างของหญิงสาวจากอนาคตไม่
      
         "เมื่อทรงตื่นบรรมทมแล้ว นวลจะลงไปรอที่ห้องสรงน้ำนะเพคะท่านหญิง"

         "ได้..."

    ร่างท้วมก้มกราบร่างบนแท่นบรรทมหนึ่งครั้ง ก่อนยันตัวถอยหลังออกจากห้อง น้ำค้างมองตามนวลกระทั่งประตูบานใหญ่ปิดลง ร่างบางในชุดนอนก็ลุกพรวดลงจากเตียง ก่อนวิ่งไปดูที่ประตูจนแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่หน้าห้อง เสียงทอดถอนใจดังเป็นระยะๆ ขณะร่างบางเดินวนไปมาอย่างใช้ความคิดตริตรองเรื่องราว

         ...อะไรกัน นี่ฉันย้อนเวลามาในยุคของท่านเทียด ยุคก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครงหรอเนี้ย และที่สำคัญมาในฐานะ หม่อมเจ้า ด้วย นี่เธอไม่ได้ฝันไปใช่ไหม?!... 


    _______________________________________________________________________________


    ...เรื่องราวทั้งหมดในนิยายเกิดจากการมโน และจินตนาการของไรท์เอง โดยมียุคสมัยช่วง ร.7 มาเป็นฉากหลังในการเดินเรื่อง เหตุการณ์ต่างๆ ในประวัติศาสตร์ที่ตัวละครเข้าไปเกี่ยวข้อง ไรท์จะพยายามรักษาความถูกต้องต่างๆ ไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตัวละครส่วนใหญ่ (จะว่าทั้งเรื่องก็ไม่ผิดอ่ะนะ) ถูกสมมุติและเสกสรรค์ขึ้นมา เพื่ออรรถรสในการอ่านเท่านั้น มิได้มีความเกี่ยวข้องกับ บุคคลกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งทั้งสิ้น (อย่าพยามโยงนั่นนี่นาจร๊ะ อิอิ)

    ...เนื่องจากตัวละครบางตัวมีฐานันดร จึงจำเป็นต้องใช้ราชาศัพท์เพื่อให้สมจริง ซึ่งไรท์เองก็อาจใช้ผิดพลาดบ้าง ฉนั้นจะเป็นการดีอย่างยิ่งถ้าผู้อ่านท่านใดพบและช่วยแนะนำในเรื่องนี้ ไรท์จะขอขอบคุณยิ่ง

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น